วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เด็กจิ๋ว@เชียงราย 2012

...คุณแม่พยายามเกลี้ยกล่อมปะป๊าไม่ต่ำกว่า 30 ครั้งให้บินไปเชียงราย แต่ปะป๊าไม่ยอม
เพราะว่าขับรถไปสนุกกว่า เวลาที่ใช้ในการเดินทางจริงๆแล้วก็ไม่ต่างกันมาก เพราะถ้าบิน
ไปก็ต้องเสียเวลาเดินทางไปสนามบิน นั่งรอ ติดต่อธุรกรรมต่างๆ กว่าจะไปเอารถเช่า ลอง
คิดดูแล้ว ขับรถไปอาจใช้เวลามากกว่าบินไปแค่ 2 ชั่วโมง นี่ขนาดว่าไม่รวมเครื่องดีเลย์นะ
ที่คุณแม่กลัวการนั่งรถมากๆเลยคือกลัวผีเวลาเดินทางกลางคืน คราวนี้เราเลยออกกันตอน
ตี 4 เด็กจิ๋วตื่นมาพักหนึ่ง เปิดพี่เบิร์ดให้นั่งดูไปเรื่อยๆ ชั่วโมงกว่าถึงจะหลับไป ตื่นมาอีกทีก็
ตอนเช้าๆ แวะกินข้าวเช้าที่ 7-11 ไปถึงเมืองเชียงรายตอนเที่ยงๆ
...แวะกินข้าวเที่ยงที่ร้านหลู้หลำ เด็กจิ๋วเคยมากินร้านนี้กับน้าเอ๋ครั้งที่แล้ว วันนี้ไม่ยอมนั่งที่
โต๊ะเลย ลากปะป๊ากับคุณแม่ผลัดกันไปดูปลาที่หน้าร้าน ปะป๊าพาไปดูแล้วนับ 1 ถึง 20 ให้
กลับมากินข้าวที่โต๊ะ 1 คำ แล้วกลับไปดูต่อ กว่าจะอิ่มกันทุกคนก็ใช้เวลานานเลย
...จุดหมายแรกคือไร่ชาฉุยฟง จากเมืองเดินทางต่อไปอีกนานเลย ระยะทางประมาณ 60 โล
แต่ใช้เวลามากเพราะเป็นทางเขา ยิ่งตอนจะเข้าที่พักยิ่งเป็นทางแคบแบบสวนกันไม่ได้ กว่า
จะมาถึงที่พักก็ 4 โมงเย็น ตอนแรกงงๆกับที่พักนิดหนึ่ง เพราะขับรถมาถึงไร่ชาแล้ว เข้ามาที่
โรงงานผลิตใบชา แต่หาบ้านพักไม่เจอ ปรากฎว่าบ้านพักก็อยู่ชั้นล่างของตึกผลิตใบชานั่น
เอง ห้องพักแย่กว่าที่คิดนิดหน่อย เป็นห้องเล็กๆแต่ก็สะอาดใช้ได้ ไม่ได้เหม็นอับ พวกผ้าปูที่
นอนกับปลอกหมอนก็พอรับได้ พอเข้าห้องพักเสร็จก็พากันออกไปเดินเล่นถ่ายรูปกัน ปะป๊า
กำลังอุ้มเด็กจิ๋วเดินเที่ยวอย่างมีความสุข อากาศก็เย็นๆกำลังสบายเลย เด็กจิ๋วคงจะง่วงมั้ง
ขัดใจนิดหน่อยก็อาละวาด จุดแตกหักก็คืออาละวาดเอามือมาตบหน้าปะป๊าดังเพี้ยะ ปะป๊า
โกรธจริง งอน คุณแม่ให้มาง้อก็ไม่หาย
...ตอนพระอาทิตย์ตกแล้ว ได้เวลากินข้าวเย็น คนดูแลห้องพักที่นี่เค้าจะเตรียมอาหารเย็นให้
รวมอยู่ในราคาห้องพัก 700 บาทต่อคนแล้ว ดูแล้วคล้ายๆ home stay แหล่ะ อาหารจัดเต็ม
ดี ปลาตัวหนึ่ง ขาหมู ผัดผักต่างๆอีก 3 จาน แล้วก็แกงจืด แต่รสชาติไม่ค่อยอร่อย กินๆแบบ
เกรงใจ กลัวเหลือเยอะ ขาหมูที่น่าจะอร่อยก็ไม่อร่อย มีผัดเห็ดที่อร่อยที่สุด ตอนระหว่างกิน
ข้าวอยู่ เด็กจิ๋วก็มาง้อปะป๊า ใช้มุขตลกเข้าใส่ เดินมาหาแล้วทำหน้าตลก ถามว่า ปะป๊าหาย
โกรธแล้วยัง ปะป๊าก็เล่นตัวอีกสักพักถึงจะหาย กะว่าเอาให้เข็ด ทีหลังจะได้ไม่กล้าตีคนอีก
พอหายโกรธกันแล้ว เด็กจิ๋วก็เข้ามากอดปะป๊าแน่น จุ๊บแก้มใหญ่เลย แบบว่าดีใจมากที่หาย
โกรธซะที
...ตอนเช้าอาการหนาวเย็น เด็กจิ๋วยิ่งเป็นโรคไม่ยอมห่มผ้าห่มอยู่ด้วย ต้องใส่เสื้อกันหนาว
หนาๆให้ ปะป๊าออกไปถ่ายรูปแต่เช้ามืดตามเคย กลับมาห้องตอนประมาณ 8 โมง คุณแม่
บอกว่าเสียดายมาก อยากออกไปดูทะเลหมอกบ้าง ปะป๊าเอารูปให้ดูสวยมาก แต่ต้องเฝ้า
เด็กจิ๋วอยู่ จะล็อคห้องทิ้งไปก็ไม่ได้ ขนาดตอนนอนยังกลัวว่าใครจะแอบเปิดประตูมาอุ้มไป
เลย ก่อนนอนคุณแม่เอากระเป๋าเดินทางใหญ่ๆมาวางขวางประตูห้องไว้ กะว่าถ้ามีโจรแอบ
บุกเข้ามาตอนเราหลับ จะได้มีเสียงดัง คือตั้งแต่เด็กจิ๋วหลงในห้างวันนั้น ก็ประสาทเสียไป
เลย
...อาหารเช้าเป็นบะหมี่ หมูทอด แล้วก็ข้าวเกรียบอะไรสักอย่าง อร่อยมาก ไม่เหมือนตอน
มื้อเย็น กินกันเกือบเรียบ ขอเติมข้าวเกรียบด้วย กินข้าวเสร็จก็เก็บของ เดินทางต่อ
...ขับรถมาอีกประมาณชั่วโมงกว่า มาถึงไร่ชาฉุยฟงอีกที่หนึ่ง ที่เมื่อวานนี้เป็นแบบอยู่ในหุบ
เขา เข้าอยากๆ เป็นแบบธรรมชาติ ปลูกต้นชาบนเขาสูงชัน แต่ของวันนี้เป็นแบบขับรถเข้า
ถึงง่ายๆ ปลูกต้นชาเป็นเนินเขาเตี้ยๆ กว้างเป็นเนินเขาหลายลูก เป็นระเบียบเรียบร้อย สวย
ทั้งสองที่ สวยคนละแบบ แต่ที่นี่ไม่มีบ้านพัก มีแต่ร้านชา ให้นั่งกินชมวิว ขับรถถ่ายรูปตาม
จุดต่างๆประมาณชั่วโมงหนึ่งก็ขับรถต่อเข้าที่พัก
...คาทิริยา อยู่ใกล้กับไร่ชาฉุยฟงมาก ประมาณ 5 โลได้ จากเมื่อวานที่อยู่กันแบบรันทด มา
วันนี้หรูหราไฮโซ แบบห้าดาว ห้องพักที่นี่แพงมาก 5 พันบาท เป็นห้องแบบ signature วิวดี
ที่สุดของรีสอร์ท ห้องกว้างมาก ต่างกับเมื่อวานราวฟ้ากับดินจริงๆ มีสระว่ายน้ำ 3 สระ อัน
แรกเป็นสระสี่เหลี่ยมธรรมดา อันที่สองเป็นสระเด็ก อยู่ใกล้ๆกับ kid club อันที่สามเป็นสระ
น้ำอุ่นกับจากุซซี่  เราเก็บของเข้าห้องเสร็จก็พาเด็กจิ๋วมาลงสระน้ำอุ่นทันที สระอื่นลงไม่ได้
เพราะน้ำเย็นมาก สระน้ำอุ่นที่นี่อุ่นจริงๆ ไม่เหมือนที่เชียงใหม่ มีสระน้ำอุ่นแต่ไม่ยอมเปิด
เด็กจิ๋วเจอพี่ๆมาเล่นน้ำด้วย เดินไปจ้องมองเค้า เค้าถามชื่อก็ไม่ยอมบอกอีกแล้ว
...ตอนเย็นๆไปนั่งกินข้าวเย็นที่ห้องอาหารของรีสอร์ท บรรยากาศดีมากๆ ชมวิวพระอาทิตย์
ตก อากาศก็เย็นสบาย พิซซ่าที่นี่ขึ้นชื่อซึ่งกินแล้วอร่อยจริง ส่วนแฮมเบอเกอร์ไม่ค่อยอร่อย
...ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือห้องที่เราพัก สามารถนอนชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้เลย วิวสวยมาก มี
ทะเลหมอกด้วย วิวจากระเบียงห้องจะมองไปทางไร่ชาฉุยฟงพอดี ห้องที่เป็น signature ที่
เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นจะมีเพียงห้องนี้ห้องเดียว
...หลังอาหารเช้า เราตัดสินใจไปไร่ชาฉุยฟงอีกรอบ เพราะเมื่อวานไปตอนบ่ายแก่ๆ แสงไม่
สวย ลองไปตอนเช้าดูบ้าง ก็สวยกว่าเมื่อวานจริงๆ พาเด็กจิ๋วลงเดินไปถ่ายรูปในไร่ด้วย
...กลับมาห้องรีบเก็บของแล้วไปแม่สายต่อ ครั้งนี้เชี่ยวชาญแล้ว รู้ว่าต้องไปทำเอกสารตรง
ไหน ต้องไปซื้อของร้านไหน ก็พุ่งตัวไป แล้วไม่ต้องเสียเวลาหาซื้อนาฬิกา รองเท้า กระเป๋า
เหมือนคราวที่แล้วด้วย ไปแม่สายคราวนี้ต้องอุ้มเด็กจิ๋วตลอดเวลา ไม่กล้าปล่อยลงพื้นเลย
กลัวหายไปอีก ถ้าไปหายที่พม่านี่ สงสัยถูกจับไปตัดขาเป็นขอทานแน่ๆ ปะป๊าได้ CD เยอะ
เลย ได้ของเล่นมาฝากพี่ๆอีกหลายชิ้น ส่วนเด็กจิ๋วได้ของเล่นชิ้นใหญ่ เป็นชุดร้านขายของ
อันละ 800 บาท ถ้าเป็นของจริงน่าจะหลายพันอยู่ อันนี้วัสดุเป็นพลาสติกดูดี เล่นสนุก ที่
จริงตอนเช้าคุณแม่พยายามให้เด็กจิ๋วอึ๊ที่รีสอร์ทให้เรีบบร้อย เพราะกลัวจะมาอึ๊ที่แม่สาย
แล้วจะลำบาก ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เด็กจิ๋วเก็บอึ๊ไว้มาปล่อยที่แม่สายจริงๆ แต่พอดีอยู่ที่
ร้าน CD ก็พอจะมีห้องน้ำ รันทดนิดหน่อยแต่ก็โอเค
...กลับเข้าเมือง วันนี้ไปนอนกันที่มันตรินี่ ความจริงที่รีสอร์ทนี้จะให้เราไปพักฟรี แต่เรากลัว
ว่าเวลาเอามารีวิวจะเป็น SR แล้วมีคนด่า เลยขอจ่ายเงินเค้า ซึ่งเค้าก็คิดให้ครึ่งราคา แล้ว
ให้อาหารเย็นฟรีด้วย ไปถึงตอนประมาณ 5 โมง รีบกินข้าวกันก่อนเลย เพราะไม่ได้กินมื้อ
กลางวันกันมา อาหารที่นี่อร่อยดี เราสั่งน้ำพริกอ่อง ไก่ทอด คะน้าหมูกรอบ สปาร์เก็ตตี้
กินกันเสร็จเข้าห้องพัก เด็กจิ๋วก็รีบขอให้แกะของเล่นที่เพิ่งซื้อกันมาออกมาเล่นทันที ตอน
แรกร้องจะให้แกะตั้งแต่ตอนอยู่ในรถแล้ว เล่นได้สักพักก็จับอาบน้ำแล้วพาเข้านอน ตอน
นอนนี่ยังอารมณ์ค้างจากคอนพี่เบิร์ดซึ่งเปิดวนไปวนมาอย่างเดียวตลอดทั้งทริป เด็กจิ๋ว
นอนร้องเพลงพี่เบิร์ด แล้วก็พูดว่า “ถอดหมวกกับไส้ ถอดหมวกกับไส้”...พูดแล้วก็ขำชอบ
ใจ เป็นประโยคที่เค้าแซวตุ๊กกี้ว่าเต้นท่าเหมือนกับจะถอดหัวกับไส้ เด็กจิ๋วชอบพี่เบิร์ดจริง
จริง ตอนอยู่ในรถก็ร้องขอให้เปิดตลอดเวลา ดูไปหลายรอบ ร้องเพลงตามได้บ้างแล้ว ที่
ชอบมากที่สุดคือตอนที่มีเบิร์ดแลนด์ออกมา เป็นคนใส่หัวการ์ตูนใหญ่ๆออกมาเต้น เวลา
ถึงตอนเบิร์ดแลนด์มาที่ไรจะยิ้มตาปิด แบบว่าดีใจมาก มีเขินด้วยนะ เวลาจะมาก็ไปแอบ
ปิดตา ไม่รู้ว่าจะเขินอะไร
...ตอนคืนที่สองที่ไปพักที่คาทิลิยา เราถามเด็กจิ๋วว่าชอบรีสอร์ทที่ไหนมากกว่ากัน ที่เมื่อ
วานไร่ชา กับวันนี้ เด็กจิ๋วตอบอย่างไม่ต้องคิดว่าที่คาทิลิยา เพราะมันกว้างงมาก แต่พอ
คืนที่สามมาที่มันตรินี่ห้องเล็กกว่าคาทิลิยาตั้งเยอะ เราถามว่าชอบที่ไหนที่สุด เด็กจิ๋วดัน
ตอบว่าที่มันตรินี่ เพราะมีของเล่น
...เช้าวันสุดท้ายต้องงัดเด็กจิ๋วมาจากที่นอนตั้งแต่ 6.30 โมง มากินอาหารเช้ากันเร็วมาก
เพราะจะต้องรีบไปงานดอกไม้กัน พาเด็กจิ๋วมานอนบนโซฟาที่ห้องอาหาร แล้วปะป๊ากับ
คุณแม่ก็กินกันไป อาหารเช้าที่นี่พวกที่เป็นอาหารฝรั่งไม่ค่อยโอ เบคอนแข็งมาก แต่พวก
ที่เป็นอาหารไทย มีเยอะ อร่อยดี
...งานมหกรรมไม้ดอกอาเซี่ยน ปีนี้เค้าจัดใหญ่โตเลย นอกจากดอกไม้แล้วยังมีงานส่วน
อื่นๆอีก มีเพนกวิน นกฟามิงโก้ ซึ่งเราดูแล้วคิดว่ามันออกจะเสร่อไปหน่อย ที่จริงควรจัด
แต่ดอกไม้ให้ดีๆไปเลยซะมากกว่า แต่จะว่าไป เด็กจิ๋วก็ชอบดูเพนกวินมากกว่าดอกไม้
ไม่สนดอกไม้ จะดูแต่เพนกวิน พาอุ้มดูอยู่นานมาก เราตั้งใจมางานนี้เพื่อมาดูทิวลิปกัน
โดยเฉพาะเลย แต่พอเข้ามาถึงแล้ว เจอทิวลิปปลูกเต็มจริง แต่ยังไม่บาน เค้าตั้งใจว่าจะ
ให้บานช่วงปีใหม่ เราอุตส่าห์รีบไปเพราะกลัวมันจะเหี่ยว คุณแม่ผิดหวังมาก พอดีรู้มาว่า
เค้ามีอีกงานหนึ่ง เป็นงานดอกไม้เหมือนกัน แต่เล็กกว่ามาก จัดที่สวนตุง เมื่อผิดหวังจาก
งานนี้ก็เลยลองไปดูที่สวนตุงดู
...ตั้งแต่ทางเข้าก็ทางเป็นอุโมงค์ดอกไม้ยาวประมาณ 4-50 เมตร เด็กจิ๋วชอบมาก วิ่งเข้า
วิ่งออกอยู่หลายรอบ แล้วก็ตรงส่วนทิวลิปก็มีทิวลิปกำลังบานสวยพอดี พื้นที่ทิวลิปเล็กๆ
ไม่ใหญ่เหมือนที่เมื่อเช้า แต่ดอกบานเต็มก็สวยใช้ได้ แต่ที่ประทับใจที่สุดคือส่วนลิลลี่ มี
ปลูกไว้เต็มเลย ดอกใหญ่ๆสวยๆเต็มไปหมด นอกจากเด็กจิ๋วจะไม่สนใจดอกไม้แล้ว ยัง
มีความยากลำบากใจการบังคับให้ถ่ายรูปคู่กับดอกไม้มาก ต้องเอา m&m เข้าแลกตลอด
เวลาถึงจะยอมให้ถ่ายบ้าง เราดูดอกไม้กันเสร็จก็ขับรถกลับบ้านกันทันที ออกจากเมือง
เชียงรายตอนเที่ยง กลับมาถึงบ้านสามทุ่ม

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เด็กจิ๋ว@Nishaville Praxis

...ครั้งนี้พี่ๆไม่ได้นั่งรถบัสเหมือนครั้งก่อนๆ นั่งรถตู้กัน 3 คัน ส่วนเด็กจิ๋วก็นั่งรถปะป๊าเหมือน
เดิม ออกแต่เช้าไปแวะที่ Swiss Sheep Farm ประมาณ 10 โมง พาเด็กจิ๋วไปป้อนหญ้าแกะ
ก็ยังกลัวเหมือนเดิม ปีนตัวอี๊ป้อมขึ้นไปอยู่สูงๆ รอบสองปะป๊าอุ้มเข้าไปบ้าง ก็ปีนหนีเหมือน
เดิม แต่เริ่มกล้าจับหญ้าป้อนแกะได้เอง เสร็จแล้วก็พุ่งตัวไปนั่งรถหยอดเหรียญ แล้วตบท้าย
ด้วยขับรถคุณปู่
...ออกจากฟาร์มก็ไปร้านอาหาร เด็กจิ๋วต้องนั่งรอพี่ๆนานเป็นชั่วโมงเลย เพราะรถตู้ของพี่ๆ
ไปเติมแก๊สอยู่ รอคิวนานมาก ร้านอาหารรับลม อาหารไม่ค่อยถูกปาก เด็กจิ๋วกินไข่เจียวปู
...ไปถึงณิชาวิลสายมาก ประมาณบ่าย 3 อี๊ตุ๋มประชุมนิดหน่อย แล้วก็ปล่อยแยกย้ายกันไป
เด็กจิ๋วรีบเปลี่ยนชุดไปเล่นทราย คราวนี้ไม่ยอมเล่นทรายเลย เราช่วยกันก่อปราสาท เด็กจิ๋ว
ก็ทำลายทันที ไม่ได้ก่อเป็นรูปเป็นร่างเลย แต่ชอบไปวิ่งลงทะเลมากกว่า ทะลที่นี่น่ากลัวมาก
เหมือนจะชัน เวลาคลื่นดูดกลับลงทะเลน่ากลัวมาก คลื่นวันนี้ก็แรง ปะป๊าต้องคอยวิ่งตามวิ่ง
จับไม่ให้ลงน้ำ ให้เล่นแต่ปลายๆ เสร็จแล้วก็ลงสระว่ายน้ำกัน ปะป๊าไม่ได้ลง ให้เด็กจิ๋วลงกับ
อี๊ป้อมกับพี่ๆ พี่ๆฮากันใหญ่ เวลาจะให้เด็กจิ๋วมาตรงนี้ ก็บอกว่าเด็กจิ๋วอย่ามา เด็กจิ๋วจะรีบ
ตีขามาทันที เวลาจะให้หันไปมองกล้อง ก็บอกว่า อย่ามองกล้องอย่ามองกล้อง ก็หันมายิ้ม
ให้กล้องเลย
...ตอนอาหารเย็นเราพากันเดินริมทะเลไปโซนที่พักใหม่ เค้าจัดสถานที่สวยงามริมทะเลให้
เป็นบุฟเฟ่ จัดโต๊ะเหมือนกับงานแต่งงานเลย เด็กจิ๋วได้ดูดาวเต็มท้องฟ้า สนใจมาก ชี้ให้พี่ๆ
ดูกันด้วย อาหารที่จัดให้ก็อร่อยดี หนมหวานก็อร่อย เด็กจิ๋วได้กินโน้นนี่เต็มอิ่ม พลังไฟก็เต็ม
เปี่ยม เริ่มไปแกล้งพี่ๆแล้ว ไปกวนอี๊ตุ๋มอี๊นกอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ตามไปเล่นกับพี่โอ โชว์การใส่
นาฬิกา ดึงแขนเสื้อขึ้น แล้วฟาดนาฬิกาเข้าที่ข้อมือ ฉั่บ พี่ๆตบมือลั่น เล่นเสร็จก็เดินไปโชว์
ต่อที่โต๊ะอื่น เสร็จแล้วก็วิ่งเล่น ให้พี่เคนกับพี่โอวิ่งตามไปจับ คึกมาก
...กินข้าวเสร็จเราก็มาต่อกันที่บ้านรวม หลังใหญ่ริมทะเล เด็กจิ๋วคว้าไมโครโฟนมาพูดเล่น
พูดเสร็จก็ยิ้ม บิดตัวทำเขินอาย เหมือนกับอายเสียงตัวเอง เสร็จแล้วก็ปีนไปนั่งลงในตะกร้า
ผ้า ให้พี่ๆผลัดกันลากไปลากมา ยิ่งมีพี่ๆเล่นด้วยเยอะแยะยิ่งคึกจัดใหญ่
...ระหว่างที่พี่ๆดูคอนเสิร์ต the voice กันอยู่ เราพาเด็กจิ๋วออกมาเล่นไฟเย็น ตอนแรกก็ไม่
กล้าให้เด็กจิ๋วถือเอง ให้พี่ๆถือให้ แต่สักพักให้เด็กจิ๋วถือเองก็ไม่กลัวเลย บอกให้หมุนเป็นวง
จะถ่ายรูปก็ทำได้ วนเป็นวงกลมรอบตัว ถ่ายรูปออกมาสวยงามเลย
...ตอนกลางคืนเล่นกิจกรรมกัน เด็กจิ๋วก็วิ่งไปมากลางวงก่อกวนพี่ๆเหมือนเคย มีลงไปนอน
กลิ้งกับพื้น หันมาเจอหน้าแข้งพี่เอ็มก็บอกว่า “อิอิ ขาพี่เอ็มมีหนวดด้วยอ่ะ”...แล้วก็พาพี่โอ
ไปเล่นในห้องไม่ยอมปล่อยตัวพี่โอ ปีนขึ้นไปขี่หลังพี่โอ บอกว่า “น้องพริมรักพี่โอที่สุดในโลก”
ในที่สุดพี่โอต้องบอกว่ามาแข่งกันนอนหลับแล้วกัน

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

2 ขวบ 11 เดือน

๒ ขวบ + ๓๓๖ วัน...เสาร์ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๕...วันนี้ไปราชบุรีกันแต่เช้า ต้องไปทำเรื่องซื้อรถใหม่ให้อากง ไปถึงก็นัดกับอากงที่โรบินสัน
ราชบุรี เพราะว่าอีซูซุไปออกงานโชว์รถที่นั่น เด็กจิ๋วอ่ะชอบนั่งท้ายกระบะมาก ตั้งแต่ตอน
พาไปที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปรแล้ว วันนี้ได้นั่งหลายคันเลย ตกลงอากงจองสีขาวมุขสี่ประตู
น่าจะได้รถในอีก 2 อาทิตย์นี้แหล่ะ
...ระหว่างนั่งอยู่ในรถกำลังไปราชบุรี เด็กจิ๋วบ่นตลอดทางว่า “เมื่อไหร่จะถึงเนี่ยะ น้องพริม
คิดถึงอากงกับอาม่าแย่แล้ว”...แต่พอมาถึงบ้าน ดันไม่หาอากงอาม่าเลย วิ่งตามไปเล่นกับ
พี่เดียว พี่เดียววันนี้ก็แปลกมาก ไม่ยอมเล่นกับเด็กจิ๋ว เมื่อก่อนเป็นเด็กๆเล่นสนุกๆ มาครั้ง
นี้พี่เดียวเป็นผู้ใหญ่ นิ่งๆ สุขุม ไม่ยอมเล่นกับเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วก็จะเล่นกับพี่เค้าให้ได้ เดินตาม
แล้วชวนมาเล่น แต่พอพี่เดียวมาเล่นด้วยจริงๆ ก็ปัดไม้ปัดมือเค้าไม่ให้มาจับของเล่นด้วย
อะไรกันเนี่ยะ งงเลย


๒ ขวบ + ๓๓๗ วัน...อาทิตย์ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๕...คนที่เช่าโด LPN ของเราจะย้ายออก เช้าวันนี้เลยพากันไปรับกุญแจคืน แล้วก็พาพี่สากับ
อี๊ป้อมไปช่วยกันทำความสะอาดห้องด้วย จะมีคนใหม่มาขอดูต่อทันที เราพาเด็กจิ๋วไปเล่น
ของเล่นที่โด ครั้งนี้เด็กจิ๋วกล้ามาก วิ่งกระโดดขึ้น สไลด์ตัวลงมา ปีนป่ายอย่างคล่องแคล่ว
ไม่มีความหวาดกลัวใดๆทั้งสิ้น สไลเดอร์ก็สูงมาก ตอนแรกไม่นึกว่าเด็กจิ๋วจะกล้า เล่นอยู่
นานเลย ไม่ยอมเลิก
...กลับมาบ้าน ปะป๊าเปิดการ์ตูนเรื่องราพันเซลให้เด็กจิ๋วดู ดูอย่างตั้งใจมาก เรื่องนี้ปะป๊า
กับคุณแม่ก็เพิ่งเคยดูเป็นครั้งแรกเหมือนกัน ภาพสวย เนื้อเรื่องก็สนุกดี ดูจบ เราลองถาม
เด็กจิ๋วเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เด็กจิ๋วตอบถูกหมด และสามารถเล่าเป็นเรื่องเป็นราวได้ แสดงว่า
ดูรู้เรื่องจริงๆ เด็กจิ๋วชอบมาก สงสัยเล่นบทราพันเซลกันไปอีกหลายวัน
...หลังจากดูราพันเซลจบ ปะป๊าเปิดเรื่อง Avatar ให้เด็กจิ๋วดูด้วย อันนี้ปะป๊าอยากดูเองอ่ะ
แต่หลอกให้เด็กจิ๋วนั่งดูเป็นเพื่อน เด็กจิ๋วก็ดูไปได้กลางๆเรื่องแล้วก็ขอไปกินหนม กินเสร็จ
กลับมาดูต่ออีก 5 นาที ก็ขอออกไปกินหนมอีกแล้ว สงสัยไม่หนุก สุดท้ายก็เลยดูไม่จบ


๒ ขวบ + ๓๓๘ วัน...จันทร์ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕
...ตอนกลางวันพาเด็กจิ๋วไปกินบุฟเฟ่ที่ร่มไทร เพิ่งไปมาสองอาทิตย์ก่อน ติดใจลองไป
อีกครั้ง อี๊ตุ๋มอี๊นกก็ไปด้วย คราวที่แล้วเด็กจิ๋วหลับ ตื่นมากินนิดหน่อยตอนท้าย วันนี้ไม่
หลับ แต่ก็กินไม่เยอะ สงสัยเริ่มเบื่อบุฟเฟ่แล้ว ครั้งแรกๆที่ไปกินเดอะเวิลด์ กินโน้นนี่ไป
เยอะมาก วันนี้กินปูอัดไม่ถึง 3 แท่ง สปาร์เก็ตตี้นิดหน่อย กุ้งนิดหน่อย แล้วก็ไอติม กับ
ช็อกโกแล็ตต่างๆ
...ตอนเย็นพาเด็กจิ๋วไปเจอเพื่อนๆปะป๊ากับคุณแม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เจอน้าตี๋ น้าตุ้ม น้า
ปิ๊ก น้าเป็ด แล้วก็น้าหมี วันนี้เป็นเด็กดีมาก นั่งกินข้าวผัดกุ้งเงียบๆคนเดียว เสร็จแล้ว
ก็เล่นไอแพ็ดต่อ ไม่ก่อความวุ่นวายเลย สงสัยเป็นเพราะกลัวน้าตี๋อยู่หรือเป่า เสร็จแล้ว
ก็ไปกินไอติม swensens กัน เด็กจิ๋วค่อยคึกคักหน่อย เอาของประดับร้านที่เป็นรูปต้น
คริสมาตเล็กๆมาเล่น ร้องเพลง แต่ก็เล่นคนเดียวน่ารัก ไม่เสียงดังเลย


๒ ขวบ + ๓๓๙ วัน...อังคาร ๔ ธันวาคม ๒๕๕๕
...น้าเอ๋ซื้อตุ๊ตาหมีพูมาฝากเด็กจิ๋ว นุ่มแล้วก็น่ารักมาก ปะป๊ารีบเอาไปให้เด็กจิ๋ว เด็กจิ๋ว
กำลังกอดหมีๆอยู่ พอเห็นหมีพูก็บอกว่า “ไม่เป็นไร น้องพริมมีหมีหมีแล้ว” ว่าแล้วก็คว้า
หมีหมีเอามากอดไถหน้าไปมา แบบว่ารักมาก คุณแม่พยายามบอกว่า หนูก็รักหมีหมีไป
แต่ว่ามีหมีพูมาเป็นเพื่อนเพิ่มไง เด็กจิ๋วบอกมีอคติมากๆ จับหมีพูแล้วบอกว่า “โหดูดิ่ มัน
 แข็งเด๋งเลย...หมีหมีอ่ะนุ้มนุ่ม”...หมีพูอ่ะนุ่มจะตาย นุ่มกว่าหมีหมีอีก สุดท้ายบอกว่า
“เห็นไม๊ มันปั้นไม่เท่ากันเลย”...?
...ปะป๊าเอาของเล่นเสริมพัฒนาการออกมาให้เด็กจิ๋วกับโฮไอเล่น เด็กจิ๋วต่อๆไปแล้วบ่น
ว่า “โอ้ แม่เจ้า ทำไมมันต่อไม่ได้เนี่ยะ”
...วันนี้พาเด็กจิ๋วไปเล่นสนามเด็กเล่นที่โดอีกแล้ว ชอบมาก เล่นไม่เลิก ปีนขึ้นไปแล้วนอน
สไลด์ลงมาด้วยสีหน้าที่แบบว่า ลั้นลามีความสุขจังเลย


๒ ขวบ + ๓๔๐วัน...พุธ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕
...วันนี้เป็นวันหยุดวันพ่อ เราปลุกเด็กจิ๋วแต่เช้าพาไปบ้านลัดดารมย์กัน พอเด็กจิ๋วรู้ตัวก็
ถามทันทีว่า “วันนี้วันหยุดเหรอ”...ใช่แล้ว หนูเริ่มรู้จักวันหยุด เริ่มชอบวันหยุดมากกว่าวัน
ธรรมดาแล้วใช่ไม๊ล่ะ ปะป๊าบอกว่า วันนี้วันหยุด ปะป๊าจะเล่นกับหนูทั้งวัน ไม่ต้องลงไปที่
ออฟฟิต ไม่ต้องทิ้งหนูออกไปประชุม ชอบไม๊
...ไปลัดดารมย์แต่เช้าเพราะตอนเย็นๆเค้าจะมีงานวันพ่อจัดในหมูบ้านกัน แล้วเจ๊น่าเฮีย
โรต้องไปร่วมงานด้วย เดี๋ยวจะไม่สะดวก ไปถึงก็รีบไปชวนเจ๊น่ากับเฮียโรไปว่ายน้ำกัน พี่
พี่ก็ดีใจรีบเปลี่ยนชุด แต่ไปถึงสระแล้วเศร้า วันนี้เล่นไม่ได้ เจ้าหน้าที่ลงสารเคมีไว้ ไม่รู้ว่า
ทำไมมาลงวันนี้ เป็นวันหยุดน่าจะมีเด็กมาเล่นเยอะ เมื่อว่ายในสระไม่ได้ ก็ไปเล่นกะละมัง
หลังบ้านแบบคราวที่แล้วละกัน กลับไปบ้าน อาโกวเตรียมกะละมังไว้ 2 ใบ ถังสีอีกหนึ่งใบ
เด็กๆลงไปแช่น้ำกันคนละใบ เด็กจิ๋วได้ถังสี ลงไปนั่งเต็มตัวพอดี เอาปีนฉีดน้ำมาเล่นกันนิด
หน่อย แค่นี้ก็สนุกแล้ว ปะป๊าเลยคิดว่าจะซื้อสระว่ายน้ำขนาดเล็กมาเตรียมไว้บ้างดีกว่า ไว้
ให้เด็กๆเล่นกันวันเกิดจิ๋ว
...ที่สนามหญ้าในหมู่บ้านมีการจัดเครื่องเล่นมาลงใหม่ เด็กจิ๋วไปนั่งชิงชาอยู่สักพัก ชอบมาก
สามารถให้แกว่งแรงๆได้ไม่กลัว แต่เฮียโรดิ่ แกว่งไปแกว่งมาก็กระโดดลงจากชิงช้า บอกว่า
กลัว อากิ๋มแกว่งแรงเกิน กระโดดลงมากลางอากาศยิ่งน่ากลัวกว่าอีก


๒ ขวบ + ๓๔๑วัน...พฤหัส ๖ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เมื่อคืนนี้ตอนปะป๊าทำอาหารในห้องครัวก็เริ่มสังเกตว่าเหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นมาอาศัยอยู่
ร่วมกับเราแล้ว ตอนแรกคิดว่าแมลงสาบ แต่ดูไปดูมา เป็นมิกกี้เมาส์ชัดๆ คุณแม่ยิ่งเป็นโรค
กลัวมิกกี้เม้าส์ที่สุดในชีวิต พอรู้ข่าวก็แทบสลบ ชีวิตเปลี่ยนไปนับแต่วันนั้น อยู่ได้แต่ในห้อง
นอน กับห้องน้ำ ในห้องน้ำเองก็ยังกลัว ก่อนจะเข้าต้องให้ปะป๊าไปลาดตะเวนก่อน เด็กจิ๋วได้
ยินเราปรึกษาหารือกันก็ร้องจะไปห้องครัวให้ได้ อยากจะไปดู จับใจความได้ว่าเป็นตัวจิ้งจก
มั้ง มาบอกว่าขอไปดูจิ้งจกในห้องครัวหน่อย
...วันนี้เตรียมการกวาดล้าง แล้วจะต้องอพยพหนีไปนอนคอนโดแล้ว เพราะคุณแม่ทนอยู่ไม่
ไหว แต่ตอนเย็นพอจะเอาเข้าจริงก็ถอดใจ เพราะการไปนอนคอนโดไม่ได้ง่ายเหมือนไปเที่ยว
ต้องเตรียมข้าวของเยอะมาก เกี่ยวกับการนอน การอาบน้ำ การกิน การเล่น ในที่สุดก็ล้มเลิก
ทนอยู่ห้องต่อไป
...ตอนเย็นทนอยู่บ้านไม่ได้ ต้องพากันอพยพหนีไปเซนลาด ไปหาข้าวกินด้วยแหล่ะ คุณแม่
สั่งระงับการทำครัวของปะป๊าไปอย่างไม่มีกำหนด กินข้าวเสร็จก็เดินเล่นต่ออีกนิดหน่อย ไป
ผ่านร้าน Cold Stone คุณแม่เห็นตัวโคนวัฟเฟิลน่ากินเลยพาเด็กจิ๋วนั่งกิน โคนอร่อยดี ราคา
25 บาท ถูกมาก อันใหญ่ด้วย กินไปทั้งอันมีอิ่มได้ แต่ไอติมร้านนี้ไม่อร่อยเลย แพงด้วยไอติม
ราคา 100 กว่าบาท ที่จริงเด็กจิ๋วจะกินโคนอย่างเดียวนี่แหล่ะ แต่จะสั่งแต่โคนก็เกรงใจเค้า
...เมื่อวานเปิดการ์ตูนเรื่อง Beauty and the beast ให้ดู เด็กจิ๋วก็ตั้งใจดู ชอบมากเหมือนกัน
แต่คงสู้เรื่องราพันเซลไม่ได้เพราะเรื่อง Beauty มันเก่าแล้ว เป็นการ์ตูนแบบวาด แต่ราพันเซล
เป็น Animation ภาพสวยงามกว่ามาก


๒ ขวบ + ๓๔๒ วัน...ศุกร์ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๕
...เมื่อวานอี๊ป้อมวางกับดักมิกกี้เม้าส์ แต่เช้านี้มาดูแล้ว ไม่สำเร็จ ตอนนี้คุณแม่โทรไปเรียกมือ
โปรมากำจัดแล้ว เดี๋ยวตอนบ่ายๆจะมา เป็นบริษัทใช้วิธีไล่ด้วยสมุนไพร ปีละ 9,500 บาท ถึง
แพงแค่ไหนก็ต้องยอมแล้ว
...เด็กจิ๋วร้องอยากดูราพันเซล คุณแม่บอกว่าไม่ได้ ต้องรอดูตอนเย็นๆก่อน เด็กจิ๋วบอกว่า “ไม่
เอา น้องพริมจะดูตอนร้อนๆ”...มุกหรือจริงเนี่ยะ
…ตอนเย็นๆพาเด็กจิ๋วไปดูคอนโดใหม่ ยูดีไลท์รัตนาธิเบศก์ จองไปสองห้องเลย กะว่าจะเก็บไว้
ปล่อยเช่าห้องหนึ่ง แล้วอีกห้องหนึ่งจะขายต่อ เด็กจิ๋วจะมีคอนโดอันที่สามแล้วนะ เวลาผ่านโด
ตรงประชาชื่น เด็กจิ๋วจะชี้แล้วบอกว่า “นี่โดของเรา”...จำได้จริงๆนะ ปะป๊าเคยแกล้งชี้ตึกที่อยู่ถัด
ไป ถามว่าใช่โดของเราไม๊ เด็กจิ๋วก็บอกว่าไม่ใช่
...ระหว่างรอสำนักงานขายเปิด เราพากันข้ามฝากไปเอสพานาด เวลามาห้างทีไรเด็กจิ๋วจะร้อง
ขอกินไอติมทุกทีเลย ล่าสุดเข็ดกับไอติมแพงๆแล้ว สำหรับเด็กจิ๋ว เอาแม็คโดนัลหรือ KFC ก็พอ
ว่าแล้วก็จัดไอติมแม็คให้อันหนึ่ง อันละ 10 บาท สำหรับเด็กจิ๋วแล้วก็อร่อยเท่ากับอันละ 100 อ่ะ


๒ ขวบ + ๓๔๓ วัน...เสาร์ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๕
...ตอนเช้าพาเด็กจิ๋วไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ the world เด็กจิ๋วมาที่นี่ไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้งแล้ว คราวนี้กิน
อาหารได้น้อย แต่ช็อกโกแล็ตแผ่นนี่กินเข้าไปเยอะมาก เดินไปเลือกเองที่ไลน์บุฟเฟ่ต์เลย ไปถึง
ก็เอื้อมมือไปหยิบแผ่นๆที่เค้าประดับไว้ตามหน้าเค้กมากินทันที ปะป๊าต้องรีบห้าม แล้วหยิบให้
เด็กจิ๋วเอง เพราะส่วนใหญ่เป็นแบบประดับหน้าเค้กรวม ต้องไปขโมยแบบไม่ให้น่าเกลียด หยิบ
ผิดมาอันหนึ่งด้วย คิดว่าเป็นช็อกโกแล็ตแท่ง แต่ปรากฎว่าเป็นเปลือกไม้
...กินเสร็จก็พากันไปฟอร์จูน ไปซื้อของรางวัลแจกพี่ๆวันงานปีใหม่ ได้พวกของ IT ต่างๆ ที่นี่เค้า
เปิดทีวีหรือจอคอมโชว์กันเป็นร้อยๆเครื่อง เวลาเด็กจิ๋วเดินผ่านร้านไหนก็จะขอหยุดดู ปะป๊าเลย
บอกว่าให้ดูก็ได้ แต่ดูแค่นับ 1 ถึง 20 นะ เด็กจิ๋วก็เชื่อ ทุกวันนี้ยังงงกับคุณแม่อยู่เลยว่า ไอ้การที่
นับถึงกำหนดแล้วยอมหยุดแต่โดยดีนี่มาจากไหน ทำไมต้องเชื่อฟังทุกครั้ง ทั้งๆที่จะดื้อไม่ยอมก็
ทำได้ เวลาเด็กจิ๋วเดินผ่านแต่ละจอก็จะหยุดดู 1-20 แล้วก็เดินต่อ ไปเจอจอใหม่ก็ดูอีก 1-20 เป็น
แบบนี้ตลอดที่เดินไปเดินมาทั่วห้าง


๒ ขวบ + ๓๔๔ วัน...อาทิตย์ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๕
...วันนี้ยังคงต้องหนีออกจากบ้านอยู่ คิดไปคิดมา ไปราชบุรีแล้วกัน เพราะไปนานดี แบบออกแต่
เช้าเย็นค่อยกลับ เพิ่งไปราชบุรีมาแท้ๆ หลังๆไปราชบุรีทีไรรถติดนานมาก2 ชั่วโมงกว่า วันนี้ลอง
เปลี่ยนไปทางปากท่อดู แวะร้านเจ๊แดงกันด้วย รถไม่ติดเลย ชั่วโมงเดียวก็ถึงร้านเจ๊แดงแล้ว
...วันนี้อี๊ไก่อยู่บ้าน เด็กจิ๋วเลยมีเพื่อนเล่นด้วย แต่ดันไปแกล้งอี๊ไก่ ดูทีวีกันแล้วเห็นน้องสาวของกิ๊ก
ที่ตัวอ้วนๆ เด็กจิ๋วบอกว่า “อุ๊ย คนนี้เหมือนอี๊ไก่เลย แต่เสียงไม่เหมือนกัน”...ไม่เกรงใจกันเลย แต่
ก็คล้ายจริงๆแหล่ะ


๒ ขวบ + ๓๔๕ วัน...จันทร์ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๕
...วันนี้ยังคงต้องอพยพหนีออกจากบ้าน ตั้งแต่เช้าก็ไปเดินเล่นที่เซนลาดกัน เดินเล่นจริง
จริง เพราะไม่ได้จะไปซื้ออะไร แค่ไปเพราะไม่มีที่จะไป ไปถึงก็ไปกินข้าวร้าน ณ บางกอก
เป็นร้านอาหารไทย อาหารไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่เด็กจิ๋วชอบเพราะที่ร้านทำเป็นรถตุ๊กๆ
ให้เด็กๆเข้าไปปีนเล่นกัน กินข้าวเสร็จก็ไปซื้อของนิดหน่อยแล้วกลับ
...วันนี้มีเรื่องระทึกขวัญที่สุดในชีวิตเกิดขึ้น ระหว่างที่กำลังเลือกซื้อเสื้อให้คุณแม่กันอยู่ดีๆ
เด็กจิ๋วเกิดเข้าไปในห้องลองเสื้อ เข้าไปนิ่งๆอยู่นาน ปะป๊ารู้เลยแบบนี้เข้าไปอึ๊แน่ๆ เราก็
กลัวว่าคนอื่นจะมาใช้ห้องลองหรือเปล่า เลยบอกให้เด็กจิ๋วออกมา ไปแอบหลังเคาท์เตอร์
แทน เด็กจิ๋วก็เชื่อ อออกมานั่งแอบอยู่ แต่แล้วก็หันไปเห็นคน ก็โวยวายบอกว่า นี่ไงยังเห็น
คนอยู่เลย ว่าแล้วก็วิ่งหนี คุณแม่วิ่งตาม ตอนนี้เหมือนจะวิ่งหาที่หลบสำหรับทำสมาธิด้วย
แล้วก็เล่นวิ่งหนีคุณแม่ด้วย คุณแม่วิ่งตามติด แต่แค่เด็กจิ๋วเลี้ยวไประยะแค่ 2 เมตร คุณแม่
เกิดพลัดหลง อาจจะเลี้ยวผิดทาง หลังจากนั้นก็หาเด็กจิ๋วไม่เจออีกเลย ปะป๊าก็เริ่มออกหา
บ้างก็ไม่เจอเหมือนกัน คุณแม่เริ่มเครียด นึกว่าเด็กจิ๋วหายไปแล้ว เกิดภาพเลวร้ายตามมา
ในหัวสมองทันที จะมีคนมาจับไปไม๊ จะได้เจอกันอีกไม๊ ส่วนปะป๊าไม่ค่อยแน่ใจ แต่รู้สึกว่า
มึนๆงงๆ ลึกๆคงกลัวเด็กจิ๋วหายเหมือนกัน แต่มันบอกไม่ถูก มันเบลอๆยังไงไม่รู้ เดินวนหา
กันเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คุณแม่เริ่มกลายเป็นคนบ้าแล้ว น่าตาตกใจสุดขีด ตะโกนลั่นห้าง น้อง
พริม น้องพริม มีใครเห็นเด็กใส่เสื้อสีชมพูถักเปียสองข้างไม๊ค่ะ คนแถวนั้นเริ่มจับจ้องมอง
มาที่คุณแม่ ในที่สุดก็มีพนักงานตะโกนบอกต่อกันมาว่าเจอแล้ว เจอแล้ว ปรากฎว่าเด็กจิ๋ว
ไปมุดอยู่ใต้ราวเสื้อ ซึ่งอยู่บล็อกอื่น เราเดินวนหากันแต่บล็อกเดียว ไม่คิดว่าจะวิ่งเร็วขนาด
นั้น คุณแม่ไปเจอเด็กจิ๋วยืนนิ่งๆอยู่ พยายามถามว่าคิดอะไรยังไงทำแบบนี้ก็ไม่ค่อยได้คำ
ตอบแน่ชัด แล้วสภาพตอนที่ไปเจอนี่ก็กำลังยืนนิ่งๆทำหน้าแปลกๆ ไม่แน่ใจว่าทำสมาธิอยู่
หรือว่าตกใจ ถามว่าได้ยินคุณแม่ตะโกนเรียกไม๊ ก็บอกว่าไม่ได้ยิน เหตุการณ์จริงๆไม่น่า
จะเกิน 4-5 นาที แต่ตอนนั้นตกใจกันมาก เวลาเลยเดินช้ามาก ระหว่างที่หาเด็กจิ๋วอยู่ปะป๊า
คิดอยู่ในใจว่าเดี๋ยวเจอแล้วจะประเดิมตีเลย เกิดมายังไม่เคยโดนปะป๊าตี วันนี้ต้องโดนแน่ๆ
คุณแม่ก็คิดอยู่แบบนี้เหมือนกัน แต่พอเจอเด็กจิ๋วแล้วก็เข้าไปอุ้มกอดกัน แบบว่าดีใจมาก
ไอ้อารมณ์จะตีจะว่าก็ไม่เหลือแล้ว แต่ก็ได้แต่สอนดีๆบอกว่าคราวหลังห้ามทำแบบนี้แล้ว
นะ ซึ่งก็คงไม่มีผล คราวหลังก็ทำอีกแหล่ะ สงสัยเราต้องเข็ดไม่พามาเดินห้างอีกนานแน่ๆ
ที่ว่าจะซื้อเสื้อ เสร็จแล้วจะพาไปกินไอติม ก็ยกเลิกหมด ตกใจกันมาก พอได้ตัวเด็กจิ๋วแล้ว
ก็รีบกลับบ้านทันที ยังไม่ทันได้ขอบคุณพนักงานด้วย อุ้มเด็กจิ๋วเดินเบลอๆกันออกมาจากที่
เกิดเหตุ คือไม่สนใจอะไรเลย กอดเด็กจิ๋วอย่างเดียว
...กลับบ้านมารับอี๊ป้อม กับอากงอาม่าจะพาไปบ้านลัดดารมย์ นัดเจ๊น่ากับเฮียโรไปว่าย
น้ำกัน ระหว่างทางแวะ Homepro ซื้อถังขยะใหม่แบบปิดฝามิดชิดกันตัวประหลาด วันนี้
เล่นน้ำสนุกมาก ปะป๊าจับเด็กจิ๋วเหยียบแผ่นโฟมลอยตัวทำเป็นกระดานโต้คลื่น เหมือน
ลิโล่สตริ๊ทช์ แล้วก็จับโต้ไปบนผิวน้ำ เด็กจิ๋วสนุกมาก แต่ปะป๊าอะดิ่ ปวดแขนเลย


๒ ขวบ + ๓๔๖ วัน...อังคาร ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕
...เมื่อคืนกลับมาบ้าน ปะป๊าเจอขี้มิกกี้เม้าส์สดๆในห้องครัว สรุปแล้วตัวปัญหายังคงอยู่
ไอ้ที่จ้างบริษัทมา สงสัยโดนหลอก เสียไป 9,500 บาทฟรีๆ เมื่อคืนลองวางกรงใหม่ แต่ก็
ยังไม่สำเร็จอีก คุณแม่กลุ้มใจมากไม่รู้ทำไงแล้ว เวลาคุยกันเรื่องมิกกี้เม้าส์ เด็กจิ๋วจะชอบ
ถามว่า “มิกกี้เม้าส์ตัวจริงหรือตัวปลอม”...ปกติเราจะบอกว่าตัวจริง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้า
ใจไม๊ว่าตัวจริงมันน่ากลัว เมื่อวันก่อนที่ไปราชบุรี คุยกันเรื่องมิกกี้เม้าส์อีก เด็กจิ๋วก็ถามอา
ม่าเหมือนเดิมว่ามิกกี้เม้าส์ตัวจริงหรือตัวปลอม อาม่าตอบคำถามหลานได้ดีมาก บอกว่า
ตัวจริง แต่เป็นตัวของไทยนะ ไม่ใช่ของฝรั่ง...ตอบเสร็จ หลานยิ่งงงเข้าไปใหญ่
...วันนี้ตอนสายๆพาอี๊ตุ๋มไปยูรัตนาธิเบศก์ อี๊ตุ๋มซื้อตามอีกห้องหนึ่ง คราวที่แล้วเด็กจิ๋วไป
อึ๊ที่นี่สองรอบ วันนี้ไปก็อึ๊อีกแล้ว ไม่รู้ว่าเห็นสำนักงานขายที่นี่เป็นห้องส้วมหรือไง หรือว่า
มันมีหลืบมีซอกให้ไปแอบซุกตัวทำสมาธิเยอะ
...ของเล่นสุดโปรดของเด็กจิ๋ว ที่เป็นแท่งบิดๆ พังลงซะแล้ว เด็กจิ๋วบิดแรงเกิน เส้นเอ็นขาด
เลย คุณแม่บอกว่าจะซื้อให้ใหม่ แต่เด็กจิ๋วบอกว่า “อุ๊ย ไม่ได้หรอก มันเปลือง เดี๋ยวไม่มีตัง
ไปเที่ยว”...จะมาประหยัดอะไรตอนนี้
...ตอนออกไปข้างนอกกัน ปะป๊าบอกว่าจะกลับไปเอาของที่บ้าน เด็กจิ๋วบอกว่า “ไม่ได้ มัน
เสีย มายะราบ”...? จะพูดว่า มารยาท แต่พูดไม่เป็น แล้วก็ไม่เข้าใจความหมายด้วย ชอบ
พูดคำยากๆที่ตัวเองไม่เข้าใจความหมาย เห็นเค้าพูดก็พูดตามไปเรื่อย


๒ ขวบ + ๓๔๗ วัน...พุธ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕

...ตอนเช้าพาเด็กจิ๋วไปโดรัชโยธิน ไปทำสัญญามีคนมาเช่าใหม่ เด็กจิ๋วไปถึงโดก็ดีใจ จำได้
เลยว่าที่เคยมาเล่นสไลด์เดอร์ ว่าแล้วก็รีบวิ่งไปเล่นทันที วันนี้ปีนเขาด้วย ยากมาก ต้องให้
ปะป๊าช่วยดันก้น สามารถปีนขึ้นไปได้สำเร็จ ดีใจกระโดดโลดเต้นใหญ่ เล่นอยู่สักพักก็เลิก
เดินไปดูของเล่นอื่นๆบ้าง สงสัยว่าจะเบื่อสไลเดอร์ซะแล้ว แต่ของเล่นอื่นๆมัน hardcore
เกินไปเล่นไม่ได้ พาอุ้มไปโหนห่วง ปะป๊าลองปล่อยมือ ตอนแรกนึกว่าเด็กตัวเบาๆน่าจะ
ห้อยตัวได้ แต่พอปะป๊าปล่อยมือ เด็กจิ๋วก็ล่วงแผร่ะลงมาเลย
...ออกจากโด ไปแวะตลาดหลังการบินไทย ตั้งใจจะไปซื้อโมเดลดีสนีย์ต่างๆ กับตุ๊กตาเจ้า
หญิง ก็ได้ของครับตามตั้งใจ เด็กจิ๋วได้ตุ๊กตาบาร์บี้ราพันเซลมาตัวหนึ่งพร้อมชุด 3 ชุดแล้ว
มีหวีกับมงกุฎด้วย เพิ่งรู้ว่ามันจะมีของ Mattel ที่เป็นบาร์บี้แท้ กับของดีสนีย์ ตัวตุ๊กตาของ
Mattel ดูจะดีกว่า ราคาแพงกว่าเท่าตัว แต่ของดีสนีย์หน้าตาราพันเซลสวยกว่า เหมือนใน
การ์ตูนเลย ก็เลยเอาของถูกให้เด็กจิ๋วแล้วกัน ส่วนโมเดลดีสนีย์ วันนี้ได้มา 4 ชุดเลย ปะป๊า
เอามาตั้งโชว์ในตู้ แล้วก็เอามาเล่านิทานให้เด็กจิ๋วฟังด้วย ชอบทั้งพ่อทั้งลูกเลย
...ตอนที่เดินเข้าร้านต่างๆในตลาด มีอยู่ร้านหนึ่ง เข้าไปแล้วเด็กจิ๋วบอกว่า “ร้านนี้เราเคยมา
ทุกวันนี่”...แปลว่าร้านนี้เราเคยมา ไอ้คำว่าทุกวันเป็นคำสร้อย ไม่มีความหมาย เด็กจิ๋วจะพูด
แบบนี้ประจำ เด็กจิ๋วไม่ได้จำได้แค่ว่าเคยมานะ ยังจำได้ด้วยว่าพี่คนขายเคยให้สติ๊กเกอร์ด้วย
ที่ปะป๊าสงสัยก็คือจำได้ไงว่าเป็นร้านนี้ที่ให้สติกเกอร์ เพราะร้านแถวนี้มีหลายร้าน เราก็เข้าทุก
ร้าน แต่ละร้านก็หน้าตาเหมือนๆกัน ขายของเหมือนๆกัน
...ตอนแรกลังเลว่าเด็กจิ๋วจะชอบเล่นตุ๊กตาบาร์บี้แบบนี้ยัง คราวก่อนที่ไปตลาดหลังการบิน
ไทยก็ไปหยิบๆเอามาถามเด็กจิ๋วว่าจะเอาไม๊ เด็กจิ๋วก็ไม่สนใจ คิดว่ายังไม่ถึงวัย แต่ปะป๊ากับ
คุณแม่นั่นแหล่ะ เห็นว่ามันสวยมากอยากให้ลูกเล่น ไปดูตามห้างหลายรอบ เลยตัดสินใจซื้อ
ให้ ปรากฎว่าพอเอากลับมาบ้าน เล่นไม่เลิกเลย ชอบมากกอดทั้งวัน เอาไปโชว์อี๊ๆ จับเปลี่ยน
ชุดไปมา ถอดเองได้ แต่ใส่เองไม่ได้ เพราะยากมาก ผู้ใหญ่ยังทำยากเลย


๒ ขวบ + ๓๔๘ วัน...พฤหัส ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เมื่อคืนนี้กอดราพันเซลไว้ตลอดเวลา ตอนนอนก็หอบตุ๊กตากับชุดทั้งหมดมากอดแล้วนอน
ทับไว้ บอกว่าเดี๋ยวมีคนมาขโมย ใครจะมาขโมยของเล่นหนู ตื่นเช้ามาก็เอามาเล่นต่อ ตอนที่
จะลงมาออฟฟิตก็เก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยหอบหิ้วลงมา ทิ้งหมีหมีไว้บนห้อง ตอนนี้เหมือนจะ
รักราพันเซลมากกว่าหมีหมีอีก
...เห็นเด็กจิ๋วชอบตุ๊กตาบาร์บี้ราพันเซลเหลือเกิน ปะป๊าถามเด็กจิ๋วว่า หนูอยากได้เจ้าหญิง
ตัวอื่นหรือเปล่า มีซินเดอเรลล่า สโนว์ไวท์ เบล เยอะแยะเลยนะ เด็กจิ๋วตอบว่า “ไม่เป็นไร
น้องพริมเอาราพันเซลตัวเดียวก็ได้”...เป็นเด็กดี
...เด็กจิ๋วชอบจับราพันเซลแก้ผ้า เป็นตั้งแต่ตอนหมีจิ๋วแล้ว จับแก้ผ้าทั้งวัน แก้ผ้าแล้วเล่นเอา
ทิชชูแปะตัวหน้าหลัง เอามาให้ปะป๊าดู ปะป๊าก็บอกว่า โอ้โห เด็กจิ๋วตัดชุดสีขาวให้ราพันเซล
เหรอ สวยจังเลย เด็กจิ๋วทำหน้า เหว่อ กรอกตาไปมาช้าๆ แบบว่าอะไรของปะป๊าเนี่ยะ แล้ว
บอกว่า “เอ่อ มันคือทิชชู”
...ตอนเย็นๆพาเด็กจิ๋วไป Mega Bangna ระหว่างนั่งรถไปก็หมดแรงหลับไปซะก่อน ดีใจมาก
เลยเพราะต้องไป IKEA เลือกซื้อของแต่งห้องคอนโดกับของรางวัลพี่ๆที่ออฟฟิต เด็กจิ๋วหลับก็
เลือกกันได้สบายหน่อย ถึงแม้ต้องปวดแขนอุ้มเดินไปมาก็ยังดี พอเลือกซื้อของใกล้เสร็จ เด็ก
จิ๋วก็ฟื้นคืนชีพ ถามว่า “นี่เช้าแล้วเหรอ...เราไม่กินข้าวกันเหรอ น้องพริมหิวข้าว” เลยพาไปต่อ
ที่ตัวห้าง Mega Bangna เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเลยมั้ง แต่ละร้านอยู่ห่างกันมากอ่ะ
เราไป B2S ก่อน เลือกซื้อของรางวัลให้พี่ๆ เด็กจิ๋วไปเห็นเยลลี่ใส่กล่องลายสัตว์ก็ร้องขอจะกิน
มันเหมือนกับที่เพิ่งกินมาเมื่อเช้าจากอี๊กบเลย แล้วก็ซื้อช็อกโกแล็ตรวมเจ้าหญิงให้กล่องหนึ่ง
ระหว่างปะป๊าเลือกซื้อของในร้าน เด็กจิ๋วก็เดินหนีหายไปอีกแล้ว แต่โชคดีคราวนี้ไหวตัวทัน
ถ้าเริ่มหายจะต้องตะโกนเรียกให้กลับมาด่วน พยายามไม่ปล่อยให้เดินไปเลื่อยๆแล้ว และมี
อีกตอนหนึ่ง ระหว่างนั่งกิน Auntie Anne อยู่ เด็กจิ๋วก็วิ่งหนีปรู๊ดไปไกลมาก คุณแม่วิ่งตามไป
ไล่จับเหนื่อยเลย สรุปแล้วเด็กจิ๋วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงห้ามไม่ให้วิ่งหนี ทั้งขู่ทั้งหลอก
แล้ว บอกว่าจะมีตัวโกงจับไป จะไม่ได้เจอปะป๊ากับคุณแม่อีก ตอนเราบอกก็เหมือนเข้าใจแต่
เวลาจริงมันคงอดใจไม่อยู่


๒ ขวบ + ๓๔๙ วัน...ศุกร์ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๕

...คุณแม่ปวดเมื่อยตัวมาก บอกว่าปวดประจำเดือน เด็กจิ๋วบอกว่า “น้องพริมปวดประจำวัน”
...ตอนกลางวันอี๊ตุ๋มมาหลอกเด็กจิ๋วว่าจะพาไปกินกุ้งตัวใหญ่ คืออี๊ตุ๋มกำลังจะไปกินข้าวหน้า
กุ้งที่วิลล่าพหลฯอยู่แล้ว เลยแกล้งชวนเด็กจิ๋วเล่นๆ ชวนเสร็จก็เล่นโน้นเล่นนี่ต่อจนลืมไปแล้ว
นั่งรถออกไปกับอี๊ป้อม ไปซื้อข้าวกลางวันกัน แต่แล้วไปได้ครึ่งทาง อี๊ป้อมก็พากลับมาส่ง บอก
ว่าเด็กจิ๋วนึกขึ้นมาได้ว่าอี๊ตุ๋มจะพาไปกินกุ้ง เลยร้องจะกลับมา ปะป๊าบอกว่าไม่ได้ ปะป๊ากับ
คุณแม่ไม่ว่าง ไปไม่ได้ เด็กจิ๋วก็บีบน้ำตาทะลัก ร้องไห้เสียใจหนัก จนในที่สุดปะป๊ากับคุณแม่
ก็ต้องตามเด็กจิ๋วกับอี๊ตุ๋มไปกินข้าวหน้ากุ้งด้วยกัน
...วันนี้เด็กจิ๋วกินเยอะมาก กินข้าวหน้ากุ้ง ข้าวหน้าไก่ พอข้าวหน้าเนื้อของปะป๊ามา ปะป๊าตัก
ให้เหมือนทุกที ดันบอกว่าไม่เอา สะบัดมือแพล่บๆ แบบว่าปะป๊าเอากลับไปเลย กำลังเพลิด
เพลินกับข้าวหน้ากุ้ง ไข่กุ้งที่โรยอยู่ก็ชอบมาก พอตัวเองกินเสร็จก็กระโดดลงพื้นวิ่งจะออกไป
นอกร้านทันที ไม่รอกันบ้างเลยนะ
...ตอนมาลานจอดรถที่วิลล่า มีรถคล้ายๆอี๊ตุ่มจอดอยู่ใกล้ๆ สีขาวเหมือนกัน แต่เป็น series3
ลองถามเด็กจิ๋วว่ารถอี๊ตุ๋มคันไหน เด็กจิ๋วก็สามารถชี้ได้ถูกต้อง แกล้งถามว่าไม่ใช่คันนี้เหรอ
เด็กจิ๋วก็บอกว่าไม่ใช่ มันไม่เหมือนกัน เก่งมากอ่ะ


๒ ขวบ + ๓๕๐,๓๕๑ วัน...เสาร์ ๑๕ – อาทิตย์ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๕

...ไปเที่ยวทริปบริษัท --> N’Prim@Nishavill, Praxis Trip 55


๒ ขวบ + ๓๕๒ วัน...จันทร์ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เดี๋ยวนี้เด็กจิ๋วจะคอยถามทุกวันว่าวันนี้วันอะไร เพราะเรามีกติกาว่าถ้าเป็นวันหยุด จะ
เปิดการ์ตูนให้ดู ถ้าวันทำงานจะดูไม่ได้ เมื่อวานนี้เป็นวันอาทิตย์ ตอนกลางคืนที่กลับมา
จากที่เที่ยวแล้วเลยเปิดการ์ตูนเรื่อง Arial ให้ดู เด็กจิ๋วชอบมากอีกแล้ว บอกว่าชอบที่สุด
เลย วันนี้เลยกลายเป็นนางเงือก นอนกับพื้นเลื้อยไปเลื้อยมา ถ้าเสกให้มีขาแล้วก็จะพูด
ไม่ได้ เด็กจิ๋วเล่นบทบาทเหมือนทุกๆเรื่องที่ผ่านมา ให้ตัวเองเป็นนางเอก ปะป๊าได้เป็นพ่อ
ของนางเอก หรือไม่ก็พระเอก ส่วนคุณแม่รับบทตัวร้ายทุกครั้ง คราวนี้หนักหน่อย เป็นป้า
อ้วนปลาหมึกยักษ์
...ตอนบ่ายๆรีบพาเด็กจิ๋วไปราชบุรี จะไปออกรถให้อากง แวะกินก๋วยเตี๋ยวไข่ ปะป๊ากับ
คุณแม่หนีมากินร้านนี้บ่อยมาก แต่ปกติจะทิ้งเด็กจิ๋วไว้บ้าน คราวนี้ลองพามาดู กินข้าว
กับไข่พะโล้ แล้วก็ลอดช่อง เสร็จแล้วก็ไปออกรถให้อากงกัน เด็กจิ๋วไปดูเค้าติดฟิล์มให้รถ
อากง ตั้งใจดูอย่างจดจ่อมาก เพราะเป็นอะไรที่เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก
...เสร็จธุระกับอากงก็รีบขับรถไปหัวหิน ไปรับอี๊กบออกจากโรงพยาบาล พากลับบ้านที่
รังสิต ระหว่างทางที่นั่งรถ เด็กจิ๋วพูดเพ้อเจ้อมาก พูด พูด ไม่หยุด คุณแม่หลับไปก็ปลุก
ให้ขึ้นมาคุยด้วย บอกว่าน้องพริมจะไปรับอี๊กบ น้องพริมเป็นหวงอี๊กบ น้องพริมขอกอด
อี๊กบได้ไม๊ ตอนแรกนึกว่าจะไปกวนอี๊กบหรือเปล่า แต่พอเจออี๊กบก็เป็นเด็กดี จูงอี๊กบดีๆ
เสร็จแล้วก็พากลับบ้าน นั่งรถอีก 3 ชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านรังสิต


๒ ขวบ + ๓๕๓ วัน...อังคาร ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เดี๋ยวนี้เด็กจิ๋วชอบใช้มุขร้องไห้ อย่างเมื่อคืนตอนนั่งรถกลับมาบ้าน บอกว่าอยากกิน
นมขวดเมจิ เราบอกว่าไม่มี มีแต่นมกล่องแบบที่เคยกินทุกวัน เด็กจิ๋วก็ปล่อยโฮ ร้องไห้
บีบน้ำตากระเด็น จนเราใจอ่อนต้องขับรถไปซื้อให้ แล้วพอกลับมาบ้านมีไปแง่งๆสะบัด
ใส่อี๊ป้อม ปะป๊าเลยดุ พอดุไปเท่านั้นแหล่ะ ก็ปล่อยโฮอีกแล้ว ปะป๊าว่ามันจะเคยตัวนะ
เลยไม่งอแล้ว ปล่อยให้ร้องไป สักพักก็หยุดเอง...อย่างวันนี้ก็เอาอีก ตอนกลางวันอี๊ป้อม
พาขึ้นไปข้างบน ขึ้นไปได้ครึ่งทางก็บีบน้ำตาร้องไห้อออกมา บอกว่า “น้องพริมคิดถึงคุณ
แม่ คุณแม่เป็นลูกน้องพริม น้องพริมอยากกินข้าวพร้อมกับแม่”...อี๊ป้อมก็ใจอ่อนพาลง
มากินข้าวกับคุณแม่
...ตอนเย็นเด็กจิ๋วพาปะป๊าไปตัดผมที่เซนปิ่น ระหว่างปะป๊านั่งตัดผมอยู่ ก็กังวลมาก
ให้คุณแม่พาเด็กจิ๋วไปกินไอติม จะทำเด็กจิ๋วหายไม๊อ่ะ คิดแล้วก็ไม่น่าพาเด็กจิ๋วมาที่
ห้างอีกเลย แต่แล้วก็ไม่หาย คุณแม่บอกว่าไม่ปล่อยให้วิ่งเลย จับตัวไว้ตลอดเวลา เดิน
ไปมาในห้างก็ต้องจูงมือไว้ ไม่กล้าปล่อยเลย


๒ ขวบ + ๓๕๔ วัน...พุธ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เมื่อคืนเด็กจิ๋วเล่นเป็น ราเซยอง ชื่อนี้เด็กจิ๋วตั้งเอง มาจากไหนก็ไม่รู้ ให้เอาผ้ามาพันๆ
นุ่งเป็นผ้าถุง แล้วก็เอาผ้าห่อหมีหมีมัดสะพายหลังไว้ แล้วเวลาอยู่ในชุดนี้ก็ต้องทำเรียบ
ร้อย เดินช้าๆ พูดเบาๆ นอบน้อม
...เวลาเด็กจิ๋วกินซาลาเปา จะกินคนเดียว 2 ลูกเต็ม กินแล้วเผ็ดต้องกินน้ำตามเป็นระยะ
แต่ก็อร่อย ตอนหยิบซาลาเปามาเริ่มกิน จะงงๆเล็กน้อย เริ่มไม่ถูก เพราะมันกลมๆ ต้อง
ให้คุณแม่กัดให้ก่อนคำหนึ่ง แล้วก็ส่วนไข่แดงจะไม่กิน กินแต่ไข่ขาว
...มีช็อกโกแล็ตกล่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานปะป๊า น้าเอ๋ซื้อมาฝากจากสิงคโปร์ เด็กจิ๋ว
ต้องมาขอกินทุกวันเลย วันละ 2 ชิ้น วันนี้เดินผ่านก็ทำหน้าตามีพิรุท แล้วบอกว่า “อุ๊ย เดิน
ผ่านช็อกโกแล็ตปุ๊บ ก็อยากกินทันที ปะป๊า ขอกินช็อกโกแล็ตหน่อยได้ไม๊”


๒ ขวบ + ๓๕๕ – ๓๕๘ วัน...พฤหัส ๒๐ – อาทิตย์ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๕

...ไปเชียงรายครั้งที่สองในปี --> N’Prim@เชียงราย ไร่ชา 2012


๒ ขวบ + ๓๕๙ วัน...จันทร์ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๕...ตอนเช้าพากันไปโลตัส ซื้อช็อกโกแล็ตเจ้าหญิงให้เด็กจิ๋ว พอกลับมาบ้าน พี่โอแกล้งมา
ขอไปกล่องหนึ่ง เด็กจิ๋วก็ยอม เป็นเด็กใจดีไม่หวงของเลย พอพี่โอได้ก็บอกว่า ฝากไว้ก่อน
เดี๋ยวกลับมาตอนเย็นค่อยมากิน พอพี่โอกลับมาตอนเย็น เด็กจิ๋วจำได้ รีบหยิบไปให้พี่โอ
น่ารักมาก
...ตอนกลางวันหนีเด็กจิ๋วไปเซนลาดกัน ไม่พาเด็กจิ๋วไปเพราะว่ากลัวจะวิ่งหนีหายไปอีก
ที่ห้าง ปะป๊าเดินไปเจอตัวตลกทำลูกโป่ง เลยไปขอรูปมินนี้เม้าส์กลับมาให้เด็กจิ๋วอันหนึ่ง
พอเด็กจิ๋วเห็นแล้วบอกว่า “ไม่เอา หนูจะเอาสติกเกอร์”...ช่วงนี้ชอบเล่นสติกเกอร์มากๆ
...ตอนไปเที่ยว เด็กจิ๋วดูคอนพี่เบิร์ดเป็นสิบรอบ ในคอนนั้น พี่เบิร์ดชอบพูดว่า น่าร๊ากกก
น่าร๊ากกกอ่ะ ปะป๊ายังบ่นๆอยู่ว่าอะไรของพี่เบิร์ดเนี่ยะ แอ๊บมากๆ วันนี้เด็กจิ๋วติดมาพูด
เลย ตอนได้ตัวปั๊ม my melody ก็ถือเอาไปโชว์พี่ๆแล้วพูดว่า “โอ๊ย น่าร๊ากกอ่ะ น่าร๊ากก
อ่ะ”
...เมื่อเช้าคุณแม่ต้องชำแหล่ะหมีหมีเอาไปซัก ไม่ไหวแล้ว เด็กจิ๋วชอบอมหูหมี แล้วก็เอา
หมีหมีลากถูตามพื้น ตอนนี้สกปรกมากต้องซักโดยด่วน พอถอดไส้เสร็จก็ร้องไห้ใหญ่คิด
ถึงหมีหมี พอตอนบ่ายอี๊ป้อมพาขึ้นไป เด็กจิ๋วก็รีบมาบอกให้อี๊ป้อมยัดไส้ให้ เอามากอด
รักมาก
...เด็กจิ๋ววิ่งมาหาคุณแม่ “คุณแม่ คุณแม่ น้องพริมกินก๋วยจั๊บได้ไม๊”...ก๋วยจั๊บที่ไหน มัน
คือเกาลัดต่างหาก พูดผิด


๒ ขวบ + ๓๖๐ วัน...อังคาร ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕...พาเด็กจิ๋วไปบ้านอากง อากงจับตัวเด็กจิ๋วมากอด เด็กจิ๋วสะบัดวิ่งหนี แล้วบอกว่า
“น้องพริมอาบน้ำแล้วนะอากง”...ทำไมล่ะ อากงตัวเลอะเหรอ เด็กจิ๋วชี้ไปที่แขนอากง
แล้วบอกว่า “เนี่ยะ ดำ ดำ”...ที่จริงก็ไม่ดำนะ เป็นแขนคนแก่ มันเหี่ยวๆเป็นดวงๆมาก
กว่า
...เมื่อคืนเล่านิทานเรื่องกบเลือกนาย พอจบเรื่องก็ถามเด็กจิ๋วเหมือนเดิมว่านิทานเรื่อง
นี้สอนให้รู้ว่าอะไรค่ะ เด็กจิ๋วตอบ “สอนให้รู้ว่า เราไม่ควรกินกบ”...?
...ตั้งแต่มีมิกกี้เม้าส์มาบุกก็ไม่ได้เข้าห้องครัวกันมาสองสามอาทิตย์แล้ว แต่อี๊ป้อมราย
งานว่าไม่เจอหลักฐานมานานมากแล้ว ตั้งแต่ช่างทีมแรกมาฉีดยากับวางเหยื่อที่นอก
บ้านนั่นแหล่ะ ตอนแรกยังไม่แน่ใจว่ามันยังอยู่ในบ้านหรือเปล่า แต่จนป่านนี้ยังไม่เจอ
ขี้เพิ่มอีก ก็น่าจะไม่อยู่แล้วล่ะ ตอนกลางคืนเลยลองพากันเข้าไปนั่งกินหนมในห้องครัว
คุณแม่ปีนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะอาหาร เด็กจิ๋วงงใหญ่ว่าคุณแม่เป็นไรไป


๒ ขวบ + ๓๖๑ วัน...พุธ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เด็กจิ๋วเอาคำพูดฮาๆมาจากไหนไม่รู้ วันก่อนที่ไปเที่ยวกัน ลั้นลากัน 3 พ่อแม่ลูก ก็
กอดปะป๊ากับคุณแม่แล้วบอกว่า “น้องพริมสุขใจ”...แล้วก็ชอบพูดคำว่า “โอ๊ย กลุ้มหัว
ใจ”...แล้ววันนี้ลงไปหาอี๊ตุ๋มก็บอกว่า “อี๊ตุ๋มยิ้มแย้ม ไม่น่ากลัว”
...วันนี้ตัดสินใจจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ตอนเย็นปะป๊าทำครัวชุดใหญ่ นั่งกินข้าวกัน
ในห้องครัว เล่นทีวีใหม่ แต่คุณแม่ก็ยังระแวงอยู่ตลอดเวลา ยังไม่กล้าเข้าครัวคนเดียว
แล้วต้องนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวตลอดเวลา


๒ ขวบ + ๓๖๒ วัน...พฤหัส ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๕

...วันนี้อากงมา เด็กจิ๋วเจออากงก็เหมือนเดิมทุกครั้งเลย ตอนแรกทำเป็นไม่สนใจ เค้าจะ
กอดก็ไม่ให้ แต่พออากงบอกว่าซื้อองุ่นมาให้เท่านั้นแหล่ะ หันควับมาหาอากง เข้าไปกอด
ไปประจบ จนตอนอากงจะกลับ ก็ร้องจะกลับไปราชบุรีกับอากง อาม่าไม่ได้มาด้วยเพราะ
ช่วงนี้ยุ่งทำขนมขายที่บ้าน แต่โทรคุยกับเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วบอกอาม่าว่า “น้องพริมรักอาม่าที่
สุดเลย เพราะอาม่ามีองุ่น”...เด็กเห็นแก่กินมากๆอ่ะ
...วันนี้ปะป๊ากับคุณแม่ยุ่งกันถึงเย็นเลย ขึ้นไปข้างบน ก็เจอเด็กจิ๋วหลับแล้ว อี๊ป้อมให้กิน
ข้าว อาบน้ำ พาเข้านอนเรียบร้อย ไม่ได้เจอแบบนี้มานานมากแล้ว หลังๆมานี่ ไม่ว่าจะ
นอนกลางวันหรือไม่ก็ไปหลับตอนเกือบเที่ยงคืนทุกวันเลย


๒ ขวบ + ๓๖๓ วัน...ศุกร์ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๕

...ตอนเช้าปะป๊าอุ้มเด็กจิ๋วลงมาทิ้งไว้กับอี๊ป้อมที่ออฟฟิต แล้วต้องออกไปประชุมกับลูกค้า
ข้างนอก ตอนจะออกไปได้ยินเด็กจิ๋วร้องโวยวาย พอตอนบ่ายปะป๊ากลับมาบ้าน เด็กจิ๋ววิ่ง
เข้ามากอดแล้วบอกว่า “เมื่อเช้าน้องพริมร้องไห้เลย ที่ปะป๊าทิ้งน้องพริมไปประชุมอ่ะ”
...วันนี้พาเด็กจิ๋วตะลอนทั้งวันเลย ยุ่งกับเรื่องคอนโด วันนี้มีช่างวอลเปเปอร์มาติด แล้วพา
พี่สากับอี๊ป้อมไปทำความสะอาด แล้วยังมีธุรกรรมต้องไปธนาคารหลายที่ เด็กจิ๋วไปเต้นรำ
กับปะป๊ากลางธนาคารกรุงเทพเลย


๓ ขวบ...เสาร์ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๕

...วันนี้มีงานวันเกิดเด็กจิ๋ว ปกติจะต้องจัดที่บ้านนี้แหล่ะ แต่คุณแม่กลัวมิกกี้เม้าส์อยู่ เลยงด
การทำอาหารใหญ่ ไม่ให้คนมาบ้านเยอะด้วย เพราะอาจจะไปเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ หรือ
ไม่ก็ทิ้งเศษอาหารไว้ตามส่วนต่างๆของบ้าน เลยเปลี่ยนไปจัดที่บ้านลัดดารมย์ เราพาเด็กจิ๋ว
ไปเซนลาดกันแต่เช้าเพื่อไปซื้อเค้กวันเกิด เลือกร้าน something sweet เอาแบบชิ้นหลายๆ
แบบคละกัน ให้เรียงเป็นกลมๆแล้วผูกโบว์ ระหว่างรอเค้กอยู่ เด็กจิ๋วได้มาการองไปหลายชิ้น
กินซะปากสีฟ้าเลย
...เจอเจ๊นิววันนี้ รู้สึกว่าเจ๊นิวโตขึ้นมาก ตัวสูงกว่าคุณแม่แล้ว เป็นผู้ใหญ่ สุขุม ไม่มาเล่นไร้
สาระกับน้องๆแล้ว ส่วนเจ๊น่ายังง๊องแง๊งเหมือนเดิมทุกครั้งที่มีแขกมาบ้าน วันนี้เด็กๆไม่ไป
สระว่ายน้ำกัน เพราะเจ๊น่าซื้อสระในบ้านมา เข็ดจากครั้งก่อนมั้งที่ไปสระแล้วมันปิด เด็กๆ
เล่นน้ำในสระกันหนุกหนาน สนุกกว่าลงสระว่ายน้ำจริงอีก เล่นกันอยู่นานมาก พอเล่นกัน
เสร็จ ปะป๊าพาเด็กจิ๋วไปลงสระใหญ่ต่อ แต่เด็กคนอื่นๆไม่ไปด้วย ซึ่งก็ถูกของเค้า เพราะว่า
เล่นน้ำกันนานชั่วโมงกว่า ควรจะพอได้แล้ว ตอนที่เด็กจิ๋วมาลงสระใหญ่กับปะป๊า ก็หนาว
สั่น ลงไปแช่น้ำอยู่แป๊บเดียวก็ต้องขึ้น เพราะอากาศก็เย็น เหมือนคราวก่อนที่ไปลงสระที่รี
สอร์ทเลย เด็กจิ๋วลงไปก็กอดปะป๊าไว้แน่น กอดกันยืนเฉยๆในน้ำ เล่นไม่ไหว
...เล่นน้ำเสร็จก็แจกของขวัญปีใหม่กัน ปะป๊าเป็นคนเริ่มประเพณีแจกของขวัญปีใหม่ให้
เด็กๆทุกคน เริ่มตั้งแต่ปีที่เด็กจิ๋วเกิด หลังจากนั่นๆอาโกวอาแปะก็ทำตามกันมา วันนี้เลย
มีของขวัญสะพัดเต็มบ้านไปหมด เด็กจิ๋วได้กระจกวิเศษคิตตี้ หมาคุ้กกี้พร้อมกรง ซึ่งคุณ
แม่กลัวมาก ตอนแกะออกจากกล่องก็ผวาไปทีหนึ่ง นอกนั้นก็เป็นตุ๊กตา ที่คาดผม ปีกติด
หลัง กระเป๋าใส่ของ
...พอถึงตอนร้องเพลงเป่าเค้กกัน เด็กจิ๋วไม่ยอมเป่า เขินอาย จนในที่สุดต้องให้เจ๊นิวเป่าไป
คนเดียว


๓ ขวบ + ๑ วัน...อาทิตย์ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๕

...วันนี้พาเด็กจิ๋วไปเขาดิน ช่วงนี้บ่นหลายทีแล้วว่า “น้องพริมไม่เคยเห็นอันนี้ของจริงๆเลย”
ไอ้อันนี้ของเด็กจิ๋วก็มี list กันเอาไว้ ประกอบด้วย จรเข้ เสือ งู จิงโจ้ หมีโคล่า วันนี้เราโชคดี
มีไกด์ผู้เชี่ยวชาญเขาดินพาเที่ยวด้วย นั่นก็คือพี่โฮไอนั่นเอง พี่โฮไอไปบ่อยมาก อาจจะเกือบ
สิบครั้งแล้วมั้ง ไปถึงก็เดินผ่านพวกยีราฟ ม้าลาย พวกนี้แวะไม่นานเพราะเห็นบ่อยแล้ว ต่อ
มาก็ไปกรงสิงโต อันนี้เด็กจิ๋วเห็นก็เรียกว่า ซิมบ้า ทันที แต่ซิมบ้าตัวนี้ดูรันทดมาก แก่ ผอม
เหี่ยวๆ ไม่เหมือนราชสีห์เลย เด็กจิ๋วจะงงไม๊เนี่ยะว่าทำไมสิงโตเป็นแบบนี้ นี่แหล่ะ ที่ไม่เคย
พาเด็กจิ๋วมาเขาดิน เพราะคิดว่ามันคงแย่ ซึ่งก็แย่จริงๆ สัตว์ดูแลไม่ดี สถานที่ก็สกปรก กลิ่น
ขยะลอยมาเหม็นเป็นระยะๆ ถัดจากกรงสิงโตก็เป็นเสือ อันนี้โอเคหน่อย ดูเสือเสร็จก็ไปนั่ง
กินหนมกันที่ 7-11 ก่อน เพราะเด็กๆยังไม่ได้กินข้าวเช้า อากงไปเดินหาห้องน้ำ แต่หายไป
นานมาก เกือบชั่วโมง โชคดีที่มีโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย โทรไปตาม ปรากฎหว่าหาทางกลับ
มาไม่เจอ เลยบอกให้อากงหาจุดสังเกตมาแล้วนั่งรอเฉยๆให้ปะป๊าเดินไปรับ
...ถัดมาเป็นบริเวณพวกสัตว์เลื้อยคลาน เด็กจิ๋วอยากจะดูงู ตรงนี้มีงูเยอะมาก หลายชนิด
แล้วก็จรเข้ด้วย เด็กจิ๋วเห็นจรเข้แล้วถามว่าอันนี้ของจริงหรือของปลอม มันเป็นของจริงนั่น
แหล่ะ แต่จรเข้มันชอบอยู่นิ่งๆ พอเดินออกมาด้านนอก มีเจ้าหน้าที่พางูออกมาให้นักท่อง
เที่ยวจับตัวได้ เด็กจิ๋วอยากจับมาก แต่เหมือนเดิม พออุ้มเข้าไปใกล้ๆก็ปีนปาย กลัวไม่กล้า
...เสร็จแล้วก็นั่งรถพ่วงไปลานช้าง เด็กจิ๋วบอกว่าอยากดูช้างเด็กตัวเล็กๆ ไม่เอาตัวใหญ่ ก็
พาไปหาเจอลูกช้างตัวเล็ก อยากให้อาหารช้าง เราก็ซื้อถั่วฝักยาวให้อี๊ป้อมพาไปป้อน เด็กจิ๋ว
หยิบถั่วฝักยาวไปเส้นหนึ่ง กำลังจดๆจ้องๆ กลัวๆกล้าๆ อยู่ดีๆ ช้างเด็กที่ว่า ก็หันมาหาอี๊ป้อม
ซึ่งถือตะกร้าถั่วฝักยาวอยู่ แล้วก็ใช้งวงตวัดทั้งตะกร้าไป เด็กจิ๋วเห็นก็ร้องไห้โฮ ตอนแรกเราก็
นึกว่าเด็กจิ๋วตกใจกลัว แต่ถามไปถามมา เด็กจิ๋วบอกว่า “น้องพริมเสียใจ น้องพริมยังไม่ทัน
ได้ป้อนเลย”...คือเสียใจที่โดนช้างแกล้ง ร้องไห้อยู่นานไม่หยุด
...ถัดจากกรงช้าง เดินมาอีกหน่อย ก็ถึงจุดหมายปลายทางของเด็กจิ๋ว จิ้งโจ้ หรือ ลู ในเรื่อง
หมีพูนั่นเอง ในเรื่องนี้เด็กจิ๋วชอบลูที่สุดแล้ว แต่พอมาเห็นลูของจริง เด็กจิ๋วถามว่า “ทำไมลู
เป็นแบบนี้อ่ะ ทำไมสีนี้อ่ะ”...เรารู้เลยว่าเด็กจิ๋วผิดหวังอย่างแรง ลู ในเรื่องหมีพูมันน่ารักมาก
แล้วมาเจอจิงโจ้ตัวจริง น่าเกลียดมาก แล้วยิ่งเป็นจิงโจ้เขาดินด้วย ยิ่งน่าเกลียดใหญ่ ตัวมัน
จะถลอกๆ สีเน่าๆ เหมือนไม่ค่อยสมบูรณ์ แล้วเด็กจิ๋วก็ยังร้องไห้จากที่ช้างแกล้งอยู่เลย ในที่
สุดก็เลยดูจิงโจ้แป๊บเดียวแล้วก็กลับ
...แวะกินข้าวกลางวันกันที่ร้านพูลสิน ร้านนี้เราเกลียดกันมาก แต่อาม่าชอบ ยิ่งมาวันพิเศษ
แบบนี้ทีไร คนยิ่งเยอะแล้วจะหงุดหงิด วันนี้ก็เป็นเหมือนเดิม หงุดหงิดเล็กน้อย

 
๓ ขวบ + ๒ วัน...จันทร์ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕

...วันนี้ไปราชบุรีกัน มีบ้านเรา อากงอาม่า อี๊ป้อม แล้วก็บ้านพี่โฮไอ ไปกันทั้งหมด 9 ชีวิต
อัดแน่นกันไปรถปะป๊าคันเดียว อัดแน่นจริงๆ อาแปะกับเด็กสองคนนั่งหลังสุด สนุกเลย
ล่ะ ได้นั่งหลังสมใจ อยากจะนั่งแบบนี้มานานแล้วแต่เราไม่อนุญาต วันนี้มีพี่โฮไอไปนั่ง
ด้วยกันอีก
...มื้อกลางวัน เราไปกินกันที่รื่นรส อากงเลี้ยง อาหารอร่อยมาก เด็กจิ๋วยังรู้เลย กินเป็ด
ยัดไส้แล้วบอกว่า “เป็ดวันนี้อร่อย เป็ดเมื่อวานไม่อร่อย”...เป็ดเมื่อวานหมายถึงเป็ดย่าง
พูลสิน กินข้าวเสร็จก็กลับมาเลือกผ้าม่านกับวอลเปเปอร์กัน ให้อี๊ป้อมพาเด็กจิ๋วกับพี่โฮ
ไอขึ้นไปเล่นข้างบน หายไปสองชั่วโมงเงียบกริป ลองขึ้นไปดู ปรากฎว่าเด็กจิ๋วกำลังเล่น
หนุกหนานกับพี่โฮไอ ช่วงนี้พี่โฮไอร่าเริงมาก ไม่เหมือนปีที่แล้ว ตอนนั้นจะดูเครียดๆเล่น
ไม่หนุก เหมือนจะไม่ยอมเล่นกับเด็กจิ๋วด้วยแหล่ะ ชอบเล่นอยู่คนเดียว แต่ช่วงนี้เปลี่ยน
ไปเยอะมาก เด็กจิ๋วก็เล่นกับพี่โฮไอเหมือนที่เล่นกับพี่โนพี่โน่เลย
...ตอนนั่งรถกลับบ้าน พี่โฮไอสลบไปแล้วอยู่หลังรถ ตอนแรกเด็กจิ๋วก็สลบด้วย แต่สักพัก
ก็ตื่นขึ้นมา ปีนมานั่งตรงกลางกับคุณแม่ ซึ่งอัดกันอยู่สี่คน มีเด็กจิ๋วมาอีก 1 ถ้ามานั่งตัก
ก็ยังพอว่า แต่ไม่ยอม จะนั่งเบาะเหมือนคนอื่นๆ ก็เลยต้องไล่อากงไปนั่งหลังกับอี๊ป้อม
จนกลับมาถึงบ้านแล้วแรงยังไม่หมดอีก ต้องเปิดการ์ตูนเรื่องอาลาดินให้ดูรอบหนึ่ง

วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เด็กจิ๋ว@ระวินทรา, พัทยา

...เด็กจิ๋วไปพัทยาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้ว ครั้งนี้เป็นทริปชิวๆไปกับเพื่อนๆ ปะป๊าไม่ถ่ายรูป
ด้วย เพราะต้องจอยกับเพื่อนๆแล้วกะว่าจะพาเด็กจิ๋วเล่นน้ำให้เต็มที่ เรานัดเพื่อนๆไปเจอ
กันที่ร้านปรีชาซีฟู้ดตอนเที่ยงๆ วันนี้เด็กจิ๋วได้เจอน้าเอ๋ น้าตี๋ น้าเป็ด น้าตุ้ม น้าปิ๊ก น้าหญิง
กับน้าคนอื่นๆก็โอเค แต่กับน้าตี๋นี่ไม่รู้เป็นอะไร กลัวมาก เวลาอยู่ใกล้ๆกทำนิ่งๆ ทำหน้ามี
พิรุธสุดขีด ส่วนน้าเอ๋นี่คิดถึงมาก ไปยืนรอหน้าร้านรอน้าเอ๋อยู่ตั้งนาน ไม่รู้ว่าอยากจะไปรอ
น้าเอ๋จริงๆ หรือว่าอยากจะหนีให้ไกลๆจากน้าตี๋ ระหว่างกินข้าวกันก็ไม่ยอมอยู่โต๊ะเลย วิ่ง
ไปดูปลา วิ่งไปดูทะเลตลอดเวลา
...กินข้าวเสร็จก็เข้าที่พักกัน คนอื่นๆไปเที่ยววัดกันก่อน แต่ว่าบ้านเราไม่ค่อยถนัดเรื่องวัด
เลยขอพาเด็กจิ๋วไปเล่นน้ำก่อนดีกว่า วันนี้คุณแม่ลืมเอาห่วงยางว่ายน้ำไป ซวยมาก ต้อง
ขับรถตะเวนหาอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็ไม่ได้ของ ต้องไปยืมของพี่โน่เล่นไปก่อน แล้วฝากให้
น้าหญิงซื้อมาให้ตอนกลับเข้ามาอีกที
...เด็กจิ๋วชอบเล่นน้ำแล้วกินหนมไปด้วย ครั้งนี้สั่งไว้ตั้งแต่อยู่บ้านแล้ว ว่าจะไปเล่นน้ำแล้ว
ให้คุณแม่ป้อนหนม สระว่ายน้ำที่นี่มี 3 สระ มีส่วนที่เป็นทางสโล๊บลงสระ อันนี้เด็กจิ๋วชอบ
วิ่งขึ้นวิ่งลงข้ามฝั่งสระนั้นสระนี้อยู่นาน ที่นี่เหมือนจะมีสระว่ายน้ำดีอย่างเดียว แต่อย่างอื่น
ค่อนข้างแย่ ตั้งแต่ตอนมา check-in แล้ว เรามากันเกือบบ่าย 3 แต่บอกว่าห้องยังไม่พรอ้ม
แล้วขอ check-out late ก็ไม่ให้ บริการของพนักงานที่นี่ไม่ดีเลย ตั้งแต่ front พนักงานบาร์
หรือพนักงานทั่วไปที่เดินผ่านไปมาในรีสอร์ท ปกติจะยิ้มแย้มทักทาย แต่อันนี้บึ้งตึงตลอด
เวลา ตัวห้องพักก็ธรรมดา วัสดุอุปกรณ์ไม่ค่อยดี น้ำไหลแรง แต่ฝักบัวไหลเอื่อย ไม่เชิงว่า
เอื่อยแต่ไหลออกมาเป็นเส้นเล็กมากๆ อาบน้ำด้วยความลำบาก แล้วตอนเข้าห้องไป คุณ
แม่เปิดน้ำแล้วน้ำเป็นโคลน เรียกพนักงานมาช่วยก็ได้แค่เปิดน้ำทิ้ง แล้วไม่ขอโทษต่อเหตุ
การณ์ใดๆ
...เด็กจิ๋วเล่นน้ำไปชั่วโมงหนึ่งพี่โนกับพี่โน่ก็ตามมา พร้อมกับได้ห่วงยางอันใหญ่มาอันหนึ่ง
เหมือนจะใหญ่เกินไป แต่ก็พอใช้ได้ ครั้งนี้เด็กจิ๋วเล่นกับพี่โน่หนุกหนานแล้ว มีแกล้งเค้าอยู่
บ้างแต่ก็น้อยกว่าครั้งก่อนๆ พี่โน่ก็ยอมเล่นด้วยไม่กลัวเด็กจิ๋วแล้ว พอตอนเย็นๆพระอาทิตย์
ใกล้ตก พี่ๆชวนไปเล่นทะเลกัน ทะเลที่นี่เลวร้ายมาก น้ำสกปรก มีขยะดำลอยไปมา ทรายก็
สกปรก สีน้ำตาล เป็นเหมือนทรายก่อสร้าง ขนาดปะป๊าเดินยังเจ็บเลย เหมือนมีเศษกรวด
เศษขยะปะปนอยู่ด้วย แช่น้ำทะเลแป๊บเดียวก็ต้องขึ้นไปล้างตัวในสระ
...ขึ้นจากสระ อาบน้ำเสร็จ ก็พากันออกไปกินข้าวข้างนอก ร้านข้าวต้มโต้รุ่งโชคอนันนต์ น้า
ปิ๊กเป็นเจ้าถิ่นแถวนี้ พาไปกิน เป็นร้านข้าวต้มชื่อดังแถวนี้ แต่รสชาติไม่ค่อยถูกปากบ้านเรา
สถานที่ก็ไม่เหมาะกับเด็กๆเลย
...กลับมารวมตัวเล่นกันที่ห้อง เด็กจิ๋วเอาอุโมงมุด กับเบ็ดตกปลาไปเล่นด้วย เด็กๆวิ่งเล่น
รุนแรงมาก เอาที่ขุดทรายมาตีฟาดกัน ปะป๊าเจอไปหลายดอกเจ็บจริง พี่โนกับพี่โน่เล่นแรง
มาก ทั้งเตะต่อยทุบตีกระโดดเหยียบ ปะป๊าโดนซะน่วม
...ตอนเช้าพาเด็กจิ๋วไปเล่นทรายที่ริมทะเล เด็กจิ๋วไม่ยอมเล่น ไม่ยอมลงเดิน บอกว่าทราย
มันอิจฉะปรก นั่งบนเตียงดูปะป๊าก่อปราสาททรายคนเดียว พี่โนพี่โน่ก็ตื่นสาย กว่าจะตาม
มา เด็กจิ๋วก็เลิกแล้ว อยากจะลงสระว่ายน้ำมากกว่า น้าตุ้มกับน้าตี๋รออยู่สระว่ายน้ำแล้ว
พอเด็กจิ๋วเห็นน้าตี๋ก็ทำท่ากลัวอีกแล้ว วิ่งหนีไปสระอีกฝั่ง ไม่ยอมเล่นสระเดียวกับน้าตี๋ แต่
พอน้าตี๋ขึ้นไปอาบน้ำ เด็กจิ๋วก็รีบวิ่งมาลงสระนี้มาเล่นกับน้าตุ้มใหญ่เลย ขนาดว่าน้าตี๋เอา
ช็อกโกแล็ตของโปรดมาให้ เด็กจิ๋วยังกลัวไม่กล้ากินเลย ปะป๊าหยิบช็อกโกแล็ตป้อนเด็กจิ๋ว
แล้วบอกให้น้าตี๋หันหลังไปก่อน แต่เด็กจิ๋วก็ไม่ยอมกิน ตาจดจ้องแต่กับน้าตี๋ สงสัยกลัวมียา
พิษ
...อาหารเช้าที่นี่ไม่อร่อย และที่เลวร้ายก็คือมีการซ่อนเบค่อนด้วย ตอนแรกหาไม่เจอ ปรากฎ
ว่าเอาไปซ่อนหลังเคาเตอร์ ต้องไปบอกให้น้องเค้าคีบให้
...ออกจากรีสอร์ท เราพากันไปเที่ยวเขาเขียวก่อนกลับบ้าน เพราะเด็กจิ๋วบ่นว่าอยากจะไปดู
สัตว์ บอกมาหลายวันแล้ว ที่เขาเขียวก็เคยมานะ แต่ผ่านมาปีหนึ่งแล้ว ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้
เรื่องเลยมั้ง ชวนพี่โนพี่โน่ไปด้วย พวกเพื่อนๆก็บอกว่าไปด้วยกันเพราะไม่ได้เที่ยวสวนสัตว์
มานานแล้ว เด็กจิ๋วไม่ค่อยลั้นลากับสวนสัตว์เท่าไหร่ สงสัยจะง่วงมาก อยากดูงูกับเสือ แต่
กรงงูปิดปรับปรุง เสือก็อยู่อีกโซนหนึ่ง มีหรือเป่าก็ไม่รู้ไม่ได้พาไป ที่เด็ดๆก็มียีราฟ ให้เด็กจิ๋ว
ถือถั่วฝักยาวให้ยีราฟ พอยีราฟเข้ามาใกล้หน่อยก็ปล่อยถั่วทิ้งแล้ว ขี้กลัวจะตาย จะไปป้อน
อาหารสัตว์ได้ไง แล้วก็ช้าง มีเอากล้วยให้ช้างกินกัน เราเที่ยวอยู่ในเขาเขียวแค่ชั่วโมงกว่าๆ
ก็กลับกันออกมาไปกินข้าวร้านไก่อบโอ่ง ตอนนี้เด็กจิ๋วง่วงสุดขีด นั่งตาลอย ไม่กิน ไม่พูดจา
แป๊บเดียวก็มาคว้าแขนป๊าให้อุ้มแล้วก็หลับไปโดยง่าย

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เด็กจิ๋ว@เกาะกูด

...ออกจากบ้านกันตั้งแต่ตีห้ากว่าเลย ไปถึงท่าเรือแหลมศอกประมาณสิบโมง ต้องรอ
เรืออีกชั่วโมงครึ่ง ออกเร็วเกินหรือปะป๊าขับเร็วเกินก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้เวลานั่งรถในเมือง จะ
ไม่ต้องนั่ง car seat แล้ว เพราะถ้าให้นั่ง เวลารถหยุดติดไฟแดง เด็กจิ๋วก็จะปีนออกมา
ทันที แล้วกว่าจะจับใส่ใหม่ได้ ยากมาก แต่เวลาเดินทางไกลแบบนี้ จะบอกเด็กจิ๋วว่า
ต้องนั่ง car seat เพราะรถวิ่งเร็ว เด็กจิ๋วก็เชื่อฟังแต่โดยดี ยอมนั่งมา 4 ชั่วโมง ไม่แกะ
ไม่ปีน น่ารักมาก แล้วพอมาถึงที่ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ก็มาเล่นด้วย ถามว่าชื่ออะไร เด็กจิ๋ว
ตอบว่า “ชื่อน้องพริม” เค้าถามอายุเท่าไหร่ก็ตอบว่า “สองขวบ” เมื่อก่อนเวลาเจอคน
แปลกหน้ามาคุยมาถาม เด็กจิ๋วจะนิ่งไม่ตอบ แต่ตั้งแต่ที่คุณแม่สอนไปวันนั้นว่า ถึงแม้
จะเป็นคนที่ไม่รู้จัก เวลาเค้าถามก็ตอบเค้าได้ หลังจากนั้นเวลาออกไปข้างนอกก็ยอม
พูดคุยยอมตอบพี่ที่มาถามตลอด อย่างวันนี้นอกจากจะยอมตอบแล้ว ยังกล้าเดินไป
ถามพี่เค้าว่าเรือจะออกยัง แล้วก็คุยเล่นกับเค้าได้
...เรื่อเร็วใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเรือใหญ่มาก น่าจะ 40-50 ที่นั่ง เบาะนั่งเป็น
แบบสองแถวเหมือนรถเมล์ด้วย ดีกว่าแบบหันหน้าชนกัน อันนั้นมันจะนั่งไม่ค่อยติด
ยิ่งอุ้มเด็กจิ๋วด้วยสะพายกระเป๋ากล้องด้วย อันนี้เด็กจิ๋วบอกว่าเหมือนเครื่องบินเลย
คงหมายถึงที่นั่งแบบนี้แล้วข้างๆก็เป็นกระจก เราเดินทางมาถึงที่พักเรา ปีเตอร์แพน
เรือจะอ้อมมาจอดด้านหลังซึ่งเป็นคลอง ไปถึงก็กินข้าวกลางวันกันก่อนเลย ที่นี่จะขึ้น
ชื่อเรื่องอาหาร ก็จริงดังนั้น ขนาดแค่อาหารกลางวัน ปะป๊าก็ว่าอร่อยไปหมด เด็กจิ๋วก็
กินข้าวกับแกงจืด ส่วนคุณแม่บอกว่าไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่
...กินข้าวเสร็จก็เข้าห้องพัก ห้องของเราเป็นแบบ Beach Front ติดหาดเลย มีแบบนี้
อยู่ 2 หลัง เป็นแบบแพงสุด หน้าบ้านมีระเบียงพร้อมกับอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ให้ แต่
ไม่รู้ว่าจากุซซี่ปลอมหรือมันเสีย แต่ปะป๊าลองดึงปุ่มปรับต่างๆออกมา มันไม่เห็นจะมี
กลไกอะไรอยู่ เราเอาไว้ใช้ล้างตัวเวลาขึ้นจากทะเลเท่านั้น ข้างในห้องมีเตียงใหญ่กับ
เตียงเล็ก ห้องจะดูเก่าๆหน่อย แอร์ปิดช่วง 9 โมง ถึง 5 โมงเย็น  ฉะนั้นตอนเรามาถึง
ห้องก็ไม่สามารถอยู่ในห้องได้ ต้องไปทำกิจกรรมข้างนอก ซึ่งถูกใจเด็กจิ๋วนัก เพราะ
ตั้งแต่มาถึงเกาะแล้ว เด็กจิ๋วก็ร้องจะเล่นทรายตลอดเวลา กว่าจะหลอกล่อให้กินข้าว
เสร็จได้
...คราวนี้เราเอาที่เล่นทรายชุดใหม่ที่เพิ่งได้มาจากตลาดหลังการบินไทยมาด้วย ใช้ได้
ดีมาก คุณแม่กับเด็กจิ๋วช่วยกันสร้างปราสาททรายได้สวยงาม ฝรั่งเดินผ่านมายังร้อง
Wow เลย แต่ก่อไว้ได้ไม่นาน ยักษ์จิ๋วก็บุกกระทืบซะไม่เหลือ เล่นทรายเสร็จก็พากันลง
ทะเล แช่น้ำทะเลอยู่นานมาก ไม่ยอมขึ้นจากน้ำเลย คนอื่นๆที่รีสอร์ทเค้าออกไปเที่ยว
น้ำตกกันแล้ว เหลือแต่เด็กจิ๋วนี้แหล่ะไม่ยอมไป เพราะจะเล่นทราย
...ขึ้นจากน้ำทะเลก็มาแช่น้ำในอ่างที่ระเบียงต่ออีกแป๊บหนึ่ง แล้วถึงอาบน้ำ พอเสร็จ
แล้วก็ไปกินอาหารว่างกัน เป็นส้มตำกับไก่ทอด หนมหวาน แล้วก็น้ำมะพร้าวแบบเกล็ด
น้ำแข็ง อันนี้ถูกใจเด็กจิ๋วมาก
...พอกินอาหารว่างเสร็จประมาณ 4 โมงกว่าๆ ฝนก็ตกลงมาซะงั้น ที่จริงตามพยากรณ์
บอกว่าก่อนหน้านี้มีพายุเข้าแถวนี้ แต่วันนี้น่าจะหมดแล้ว แต่ก็ยังมีฝนอีก ก็เลยไม่แน่ใจ
ว่าเป็นเพราะพายุลูกนั้น หรือเป็นปกติของเกาะอยู่แล้ว เพราะที่จริงตอนนี้ก็ยังเป็นหน้า
Low season อยู่ ต้องทำใจว่าฟ้าไม่ใส อาจเจอฝน แต่มาตอนนี้เพราะราคามันถูก
...ปะป๊าเตรียมบ็อกดูหนังไปด้วย ถึงฝนตก เราก็นอนดูหนังดูการ์ตูนกันในห้องได้ แต่ว่า
ต่อไปต่อมา อ้าว ลืมรีโมทซะงั้น สรุปก็เลยอด ได้แต่นอนรอฝนหยุดตก
...ตอนค่ำฝนเริ่มซาๆแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุด เราต้องกางร่มกันไปกินข้าวเย็น ซึ่งอลังการจริง
ตามคำร่ำรือ เติมได้ไม่อั้นทุกอย่าง ถูกใจปู เพราะมีบริการแกะให้ด้วย ซึ่งน้องไปแกะมา
ยังไงไม่รู้ สวยงามมาก ตักกินได้ทั้งตัว ไม่ต้องแทะเลย เด็กจิ๋วก็ชอบ กินไปไม่ใช่น้อย ใน
ระหว่างที่เริ่มอิ่มแล้ว แต่ปะป๊ากับคุณแม่ยังเพลิดเพลินอยู่ เด็กจิ๋วก็เริ่มไม่อยู่นิ่ง ยิ่งตอน
นี้ไม่กลัวคนแปลกหน้าแล้วด้วย วิ่งไปวิ่งมา ไปหยุดพูดเล่นกับน้องๆเจ้าหน้าที่ มีคนหนึ่ง
เป็นฝรั่งด้วย ไม่รู้คุยกันรู้เรื่องไม๊ พี่ฝรั่งพยายามให้เด็กจิ๋วจับหมา ตอนแรกเด็กจิ๋วก็จับไป
แต่พอปะป๊ามาเห็นก็บอกว่าไม่ให้จับ เพราะไม่รู้ว่าไปจับไม่ดีแล้วมันจะมากัดเราหรือเป่า
อย่างเด็กแพรข้างบ้านยังโดนไอ้เป้กัดซะเละเลย ขนาดเห็นหน้ากันทุกวันตั้งแต่เกิด หลัง
จากนั้นเด็กจิ๋วก็กลัวหมาตัวนี้ทันที อยากดูแต่จะอยู่ห่างๆ เวลามันขยับตัว เด็กจิ๋วก็สะดุง
วิ่งมาหลบหลังคน ไม่รู้ว่าปะป๊าสอนผิดหรือสอนถูกเนี่ยะ เราควรปลูกฝังให้เด็กรักสัตว์ไม๊
...วันรุ่งขึ้นปะป๊าปลุกเด็กจิ๋วไปเตะทรายตั้งแต่ 6 โมง ปลุกอยู่ตั้งนาน ตะโกนเรียกหลายที
ก็ไม่ตื่น ทั้งคุณแม่คุณลูกเลย พอเด็กจิ๋วตื่นขึ้นมางัวเงีย แล้วได้ยินปะป๊าบอกว่าจะพาไป
เตะทราย ก็รีบลุกขึ้นมาแต่งตัวด้วยความงัวเงีย คือใจอยากไปมาก แต่สภาพร่างกายไม่
ค่อยเอื้อเท่าไหร่ เช้านี้ปะป๊าพยายามก่อปราสาททรายใหม่ แต่ได้แค่กำแพง ยักษ์จิ๋วก็มา
ถล่มแล้ว สร้างใหม่ก็รีบมากระทืบอีกทันที สุดท้ายวันนี้เลยไม่ได้ปราสาท เปลี่ยนไปเล่น
น้ำแล้วก็พาไปนั่งชิงชา ใจกล้าแล้ว ไม่ค่อยกลัวเหมือนแต่ก่อน ปะป๊าแกว่งแรงมากก็ไม่
กลัว แต่ครั้งสุดท้าย แกว่งแรงแบบสุดขีด แล้วเหมือนเด็กจิ๋วไม่ทันตั้งตัว เลยหน้าซีดแล้ว
ไม่ยอมนั่งต่ออีกเลย
...อาหารเช้าที่นี่จะไม่ค่อยอลังการเท่าไหร่ เบค่อนก็แย่ กินได้พวกข้าวต้ม ข้าวผัด หลัง
อาหารเช้า เราพากันเดินไปรีสอร์ทข้างๆ ทิงเกอร์เบล เป็นเจ้าของเดียวกัน แต่แพงกว่า
ที่จริงคุณแม่อยากไปพักที่นี่เพราะไฮโซกว่า เปิดแอร์ได้ทั้งวัน แต่แพงกว่าแปดพันแน่ะ
ปะป๊าว่าไม่คุ้มเลยไม่อนุญาต คุณแม่มาดูแล้วได้แต่อิจฉา ห้องน่าอยู่กว่ามาก
...เที่ยวเล่นอยู่ที่ทิงเกอร์เบลประมาณชั่วโมงหนึ่งก็กลับมากินข้าวกลางวัน แล้วออกเรือ
ไปเที่ยวอีกรีสอร์ทหนึ่ง กัปตันฮุก เป็นเจ้าของเดียวกันเหมือนกัน แต่อยู่ห่างกัน ต้องนั่ง
เรือประมาณ 5-10 นาที ที่นี่ราคาเท่าๆกับปีเตอร์แพน ไม่มีหาดทราย แต่น้ำทะเลสีสวย
มาก แล้วก็มีสระว่ายน้ำ ถ้าอยากเล่นทราย ก็ให้พายเรือแคนนูข้ามฝากไปเล่นฝั่งตรงข้าม
ซึ่งอยู่ไม่ไกล จุดประสงค์ของปะป๊าก็จะมาถ่ายรูป แต่เด็กจิ๋วกับคุณแม่ก็จะมาเล่นสระว่าย
น้ำนี่แหล่ะ สระดี เล่นสนุกเลย มีส่วนตื้นส่วนลึก เด็กจิ๋วใส่ห่วงยางตีขาไปมาสนุกสนานสุด
ขีด คุณแม่ว่ายตามไม่ทันบอกว่าเหนื่อยมาก สุดท้ายต้องให้ปะป๊าเปลี่ยนลงมาเล่นกับเด็ก
จิ๋วแทน เรานั่งเรือมากับคณะดำน้ำ ซึ่งเรือมาปล่อยเราก่อนแล้วพาคนอื่นไปดำน้ำกัน พอสี่
โมงก็มารับเรากลับ เด็กจิ๋วก็เล่นน้ำเสร็จพอดี
...กลับมาที่ปีเตอร์แพนก็เจออาหารว่างอีก วันนี้ไม่มีน้ำมะพร้าว แต่เด็กจิ๋วบ่นอยากกิน พี่
เจ้าหน้าที่เลยไปหามาให้เด็กจิ๋วจนได้ เย็นนี้ฝนไม่ตกเหมือนเมื่อวาน ค่อยยังชั่วหน่อย แต่
เด็กจิ๋วไม่ได้เล่นทรายตอนเย็นอีกแล้วนะ เพราะกินอาหารว่างเสร็จก็หลับไปเพราะเหนื่อย
มาก ตื่นมาอีกทีก็พอดีมื้ออาหารค่ำเลย ซึ่งอาหารค่ำวันนี้อลังการกว่าเมื่อวานอีก เน้นซีฟู้ด
บาร์บีคิว กินข้าวเสร็จ มีโชว์ควงกระบองไฟอีก เด็กจิ๋วเคยดูเป็นรอบที่สองแล้ว มีการตบมือ
ให้พี่เค้าด้วย
...ตอนกลางคืนเด็กจิ๋วเพิ่งได้เจอจิ้งหรีดเป็นครั้งแรก จะว่าไปปะป๊าเองก็ไม่แน่ใจว่าเจอเป็น
ครั้งแรกเหมือนกันหรือเปล่า จิ้งหรีดตัวนี้บุกเข้ามาให้ห้อง มาเกาะที่มุ้ง ร้องเสียงดังลั่น เด็ก
จิ๋วกลัวมาก นอนจ้องไม่ยอมหลับ เราก็พยายามจะไปจับให้แต่ไม่สำเร็จ พอเข้าไปใกล้ มัน
ดีดตัวเองกระเด็นหายไปทันที พอเสียงจิ้งหรีดเงียบไป เด็กจิ๋วถึงจะค่อยๆเคลิ้มหลับ พอเริ่ม
หลับตาเท่านั้นแหล่ะ จิ้งหรีดร้องลั่นอีก เด็กจิ๋วสะดุ้งตื่นทันที เป็นแบบนี้หลายรอบกว่าจะได้
หลับไป

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

2 ขวบ 10 เดือน

๒ ขวบ + ๓๐๖ วัน...พฤหัส ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...วันนี้ช่างตู่มาล้างแอร์ที่บ้าน พาน้องน้ำผึ้งมาเล่นกับเด็กจิ๋วด้วย เล่นกับอยู่สักพักก่อน
จะจบด้วยโศกนาฎกรรม เด็กจิ๋วเอาไม้กอล์ฟไปตีหัวน้ำผึ้ง สาเหตุมาจากหวงอี๊ป้อม คือ
เห็นอี๊ป้อมเอาใจน้ำผึ้งแล้วหวง น่าเป็นห่วงจริงๆ สังเกตุว่าถ้าเล่นกับพี่ๆจะไม่มีปัญหา
แต่ถ้าเล่นกับรุ่นเดียวกันหรือน้องกว่า ชอบไปแกล้งเค้า อย่างดีโน่ก็เจอหยิกเจอผลักไป
ครั้งที่แล้ว วันนี้น้ำผึ้งอีก แล้วกับโฮไอก็ชอบไปแกล้งเค้าเหมือนกัน
...หลังๆมานี่เวลาฉี่จะบอกทันแล้วนี่หน่า แต่วันนี้เป็นอะไรไม่รู้ ฉี่ราดไป 3 รอบเลย ไปฉี่
ราดบ้านโน้นรอบหนึ่ง ไจโรโวยวายใหญ่ บอกว่าต้องมาเช็ดให้เด็กจิ๋ว
...ช่วงนี้พี่ๆชอบขึ้นมาเล่นข้างบนห้องกับเด็กจิ๋ว ทั้งเจ๊น่า เฮียโร โฮไอ สองสามวันที่ผ่าน
มา ปะป๊าเปิดการ์ตูนเรื่อง one piece ให้ดูวันละตอน นอนดูเรียงกัน 4 คน แต่มาวันนี้
คุณแม่บอกว่าอย่าเลย เพราะมันมีต่อสู้ด้วย ไม่ควรให้เด็กจิ๋วดู ก็เลยหยุดไป แต่พี่ๆก็ยัง
ขึ้นมาเล่นกันอยู่ดี เล่นเสียงดังโครมครามมาก โฮไอเล่นแต่ต่อสู้ตลอดเวลา เอาค้อนลม
มาตีเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วเองก็ใช่ย่อย ต่อสู้กับพี่ตีกันไปตีกันมา ท่าทางจะเจ็บจริงนะ แล้วเล่น
ละครกัน เป็นละครสด ปะป๊าเป็นคนเล่าเรื่อง แล้วให้เด็กๆเล่นตามบทที่บอก เด็กจิ๋วกับ
เฮียโรชอบใจกันมาก แต่โฮไอไม่สนใจ เล่นต่อสู้อยู่คนเดียว ปะป๊าถามพี่โฮไอว่าเวลาอยู่
ที่โรงเรียนเล่นอะไรกับเพื่อนๆ โฮไอบอกว่าไม่ชอบเล่นกับเพื่อน ชอบเล่นต่อสู้คนเดียว


๒ ขวบ + ๓๐๗ วัน...ศุกร์ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เมื่อคืนนอนดู the voice กันอยู่ในห้องโฮม เด็กจิ๋วนอนกลิ้งเล่นไปมาอยู่ ได้ยินทีวีเค้าพูด
ว่า รูปลักษณ์ภายนอก เด็กจิ๋วหูผึ่งเด้งตัวขึ้นมา คิดว่าเค้าเรียกตัวเอง เพราะว่าปะป๊ากับคุณ
แม่เรียกเด็กจิ๋วว่า ลูบรัก
...พี่ต๊อบมาแกล้งขอหนมเด็กจิ๋วกิน หลังจากเจรจาต่อรองกันอยู่สักพัก เด็กจิ๋วก็เปลี่ยนเรื่อง
พูดกระทันหัน เอาแขนไปแนบกับพี่ต๊อบ แล้วพูดว่า “โอ้โห ดูดิ่ แขนแทบกัน พี่ต๊อบดำกว่า
น้องตั้งเยอะ”...ทุกคนงง อะไรอ่ะ คุยกันเรื่องหนมอยู่ดีๆ เปลี่ยนเรื่องซะงั้น แล้วเปลี่ยนเป็น
เรื่องพี่ต๊อบตัวดำซะอีก


๒ ขวบ + ๓๐๘ วัน...เสาร์ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เมื่อคืนปะป๊าเปิดมิวสิควีดีโอประกอบเพลง เด็กจิ๋วชอบใจมาก ดูแล้วเต้นตามไม่หยุด หมุน
ตัวหลายรอบ หมุนเสร็จแล้วเดิน เซ ล้มอย่างแรง แล้วก็มีเพลงนกน้อย ปะป๊าอุ้มเด็กจิ๋วบินไป
บินมาจนจบเพลง ไม่น่าเลย ปะป๊าคิดอะไรพิเรนจริงๆ หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาวันหนึ่ง
เต็มๆแล้ว เด็กจิ๋วยังให้ปะป๊าอุ้มพาบินไม่เลิก ปวดแขนมาก ต้องบินแรงๆสูงๆด้วยนะ เมื่อเช้า
ก็อุ้มบินลงมาจากข้างบน ไปทัวร์โต๊ะพี่ๆที่ออฟฟิตทุกคน ปะป๊าต้องหลอกว่าเจ็บแผลที่ขา อุ้ม
บินต่อไปไม่ด้ ต้องพักก่อน เด็กจิ๋วก็ยอมนะ แต่ไม่นานก็จะขอเริ่มใหม่อีก
...วันนี้พากันลงมาทำงานที่ออฟฟิต ตอนกลางวันพาอาม่าไปกินข้าวกันที่ร้านบางอ้อทะเลเผา
อากงไม่อยู่ไปเที่ยวกับเพื่อน พอไปถึงร้าน เด็กจิ๋วก็บอกทันทีว่า “ร้านนี้หนูเคยมาแล้ว”...ใช่แล้ว
มาตั้งหลายที วันนี้เด็กจิ๋วกินปลาหมึกชุบแป้งทอดใหญ่เลย เก่งมากเพิ่งเคยกินอะไรแบบนี้ นึก
ว่าจะเหนียวกินไม่ได้ซะอีก พอตอนจะกลับบ้าน ถามว่าเดี๋ยวจะสั่งอาหารกลับไปให้กินมื้อเย็น
จะเอาข้าวผัดกุ้งหรือจะเอาปลาหมึกทอด เด็กจิ๋วตอบว่า ปลาหมึก


๒ ขวบ + ๓๐๙ วัน...อาทิตย์ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เช้านี้ปะป๊าตื่นสาย 9 โมง เด็กจิ๋วปีนมากระโดดใส่ตัวปะป๊า แล้วบอกว่า “ปะป๊า ปะป๊า ตื่นได้
แล้ว ก็มันเช้าแล้วไม่ใช่เหรอ”
...เด็กจิ๋วเล่นอยู่ในห้องโฮม อยู่แถวบันไดในห้อง สักพักได้ยินเสียงตึ้ง แล้วก็ร้องไห้ใหญ่ ปรากฎ
ว่าขาไปเตะมุมบันได ที่จริงมันไม่มีพื้นที่วิ่ง ไม่ได้วิ่งมาแล้วเตะ ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ ก้าวขึ้นก้าว
ลง ทำไมไปเตะดังขนาดนั้น พอเปิดกางเกงออกดู เป็นลูกกลมใหญ่เป่งออกมาเลย แปลกใจกัน
มาก รู้มาเหมือนกันว่าเด็กๆเวลาชนอะไรแล้วมันจะบวมเป่งเหมือนในการ์ตูน ผู้ใหญ่จะไม่เป็น
แต่นี่ก็แปลกใจเพราะบวมขึ้นมาเท่ากับครึ่งลูกปิงปองได้ คุณแม่เอาน้ำแข็งมาประคบสักพักก็
ยุบลงไปหน่อย
...ตอนเย็นพาเด็กจิ๋วไปว่ายน้ำที่ลัดดารมย์ บังเอิญเจ๊เองของปะป๊ามาหาอาม่าที่บ้าน เลยชวน
กันไปด้วยกัน เจ๊ของปะป๊าก็ต้องเป็นอาโกวของเด็กจิ๋ว บอกให้เด็กจิ๋วหวัดดี อาโกว เด็กจิ๋วก็นิ่ง
ไม่ยอม คุณแม่เคยคุยกับเด็กจิ๋วว่าทำไมเวลาไปเจอคนแปลกหน้าแล้วเค้าถามอะไรทำไมถึงไม่
ยอมตอบ ให้หวัดดีก็ไม่ยอม เด็กจิ๋วบอกว่า “ก็เวลาอยู่กับคุณแม่หนูยอมทำ แต่เวลาเจอคนอื่น
หนูไม่ทำเพราะหนูไม่รู้จักเค้า”...เรื่องคนแปลกหน้าก็เรื่องหนึ่ง แต่มีอีกอย่างที่ทำให้วันนี้เด็กจิ๋ว
ยิ่งนิ่งหนักไปใหญ่ ก็เพราะว่าคนนี้ก็อาโกว แม่เจ๊น่าก็อาโกว ทำไมมีคนชื่ออาโกว 2 คน ตอนที่
ไปถึงบ้านลัดดารมย์ เด็กจิ๋วตะโกนเรียกแม่ของเจ๊น่าว่า “อาโกว แม่ของเจ๊น่าเฮียโร”...ฮามาก
กลัวเค้าจะงงเลยต้องเรียกให้เต็มยศ
...วันนี้เด็กจิ๋วโชว์ตีขาไปกลับสระว่ายน้ำใหญ่ แล้วก็โชว์หมุนตัว เก่งมาๆ ปะป๊าถามอาโกวว่า
ปกติเด็กเวลาเราเอาห่วงยางให้ใส่แล้วเค้าจะตีขาได้เองเหรอ อาโกวก็บอกว่าไม่ได้นะ อย่างเจ๊
น่าเฮียโรก็ต้องสอนก่อน ทำไมเด็กจิ๋วเก่งจัง ใส่ปั๊บตีขาฉิวเลย



๒ ขวบ + ๓๑๐ วัน...จันทร์ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...วันนี้เด็กจิ๋วรู้ตัวว่าจะต้องไปหาหมอฟันตอนบ่าย ช่วงเช้าเกาะปะป๊าแน่น แล้วทำตัวแบบ
แปลกๆ คุณแม่บอกว่าเป็นพฤติกรรมของการกลัวการไปหาหมอ แต่ปากก็ไม่ได้พูดนะว่าตัว
เองกลัว แต่แปลกจริง ให้กินข้าวก็ไม่กิน แล้วก็ทำอะไรเหมือนประหม่าไปหมด
...พอตอนขับรถออกไปก็ลั้นลาดี จนพาเข้าไปหาคุณหมอก็ยังโอเคอยู่ คราวนี้คุณหมอไม่พูด
พร่ำทำเพลง ให้คุณแม่จับเด็กจิ๋วขึ้นเตียง แล้วจัดการทันที เด็กจิ๋วยังไม่ทันตั้งตัวเลย อย่างที่
ครั้งที่แล้วยังมาพูดมาคุย แจกลูกโป่ง ชวนดูการ์ตูน คราวนี้รวดเร็วมาก เด็กจิ๋วก็ร้องกรี๊ดดัง
มาก คุณหมอตรวจฟันแล้วก็เคลือบฟลูออไรด์ ทำเสร็จถึงตบหัวแล้วลูบหลัง ทำเป็นพูดเล่น
เป่าลูกโป่งให้ คุณหมอบอกว่ากรี๊ดๆแบบนี้ปกติ เดี๋ยวครั้งต่อไปจะดีขึ้น แต่พอกลับไปบ้าน
แล้วอย่าพูดถึงเรื่องมาแล้วกรี๊ด หรือเจ็บ ให้พูดว่ามาแล้วฟันขาวสะอาด คุณหมอบอกว่าฟัน
ของเด็กจิ๋วสมบูรณ์ดี แต่ถ้า 3 ขวบ ต้องมี 20 ซีก ของเด็กจิ๋วมีแค่ 18 แล้วบอกเรื่องการดูแล
เช่นไม่ให้กินพวกลูกอม อมยิ้ม ซูกัสห้ามเด็ดขาด อย่างช็อกโกแล็ตก็กินได้แต่ต้องกินน้ำตาม
เยอะๆ หรือต้องคอยดูว่ามีเศษคราบช็อกโกแล็ตติดฟันอยู่หรือเปล่า ต้องรีบเอาออก


๒ ขวบ + ๓๑๑ วัน...อังคาร ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เมื่อคืนเด็กจิ๋วเป็นเด็กดีมาก เล่นอยู่ในห้องโฮมกับปะป๊า ส่วนคุณแม่ลงไปทำงาน เล่นของ
เล่นเสริมพัฒนาการทุกอย่าง เล่นเก่งแล้วก็เล่นไม่เลิก อย่างตัว ABC มาวางลงบล็อก ปกติ
เล่นได้หน่อยก็เบื่อ แต่ครั้งนี้เล่นคนเดียวจนเสร็จ เล่นโดมิโน่ต่อกันจนหมด เล่นบล็อกต่อรูป
ภาพ 4 รูป เล่นวางบล็อกลงรูปในหนังสือไป 5-6 หน้า แต่ทุกหน้าต้องมีตัวลูกชิ้นนะ ไม่งั้นไม่
เล่น เสร็จแล้วปะป๊าก็ให้เด็กจิ๋วไปปิดไฟอ่านนิทานแล้วก็นอนไปโดยง่าย แต่มีบังคับให้ปะป๊า
ต้องไปนอนข้างบนโซฟากับเด็กจิ๋ว ตอนปะป๊าแกล้งหลับ เด็กจิ๋วแอบมาจุ๊บแก้มปะป๊าหลาย
ที สุดท้ายใครหลับก่อนใครก็ไม่รู้
...ตอนเช้าเด็กจิ๋วลงมาที่ออฟฟิต ยังใส่ชุดนอนอยู่ พี่ๆก็ทักว่าทำไมชุดสวยจัง เด็กจิ๋วตอบว่า
“นี่ชุดนอน ไม่ใช่ชุดตื่น”...พี่ๆฮากันใหญ่ ไม่รู้เหรอว่าเค้าเรียกชุดตื่น


๒ ขวบ + ๓๑๒ วัน...พุธ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...ตอนเย็นเฮียโรมาเล่นกับเด็กจิ๋วที่ออฟฟิต พยายามสอนเด็กจิ๋วบวกเลข ทั้งๆที่เด็กจิ๋วยังไม่
รู้จักตัวเลขครบเลย ช่วงนี้ปะป๊าพยายามสอนเด็กจิ๋วให้รู้จักตัวเลข ได้เลข 1 – 5 เลยจากเลข
5 ยังไม่ได้ แต่วันนี้เฮียโรมาสอนบวกเลขซะงั้น เฮียโรถามเด็กจิ๋วว่า 1 + 1 = เท่าไหร่ เด็กจิ๋ว
ตอบอย่างมั่นใจว่า “กระดูก”... แล้ว 2 + 2 = เท่าไหร่ เด็กจิ๋วตอบ “ขนม” ต่อด้วยแล้ว 1 + 2
ล่ะเท่ากับเท่าไหร่ “ใบไม้”...ได้เรื่องไม๊เนี่ยะเฮียโร
...เพิ่งคุยกันว่าช่วงนี้เด็กจิ๋วไม่ค่อยกรี๊ดแล้ว อยู่ๆก็หายไป กำลังสงสัยว่าเป็นเพราะมีปัจจัย
อะไรหรือเปล่า ว่าแล้วตอนดึกเด็กจิ๋วจัดให้ชุดหนึ่งทันที แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะวันนี้ไม่ได้นอน
กลางวัน แล้วตอนดึกปะป๊ากับคุณแม่ยังดู the voice กันจนเลยเที่ยงคืน กว่าจะได้นอน ก็
คงจะหงุดหงิดบ้างไม่ว่ากัน
...ที่ปะป๊าเป็นแผลที่เข่าอยู่ยังไม่หายเลย เด็กจิ๋วจะคอยถามตลอดเวลาว่า “ปะป๊าเป็นแผล
ข้างไหน”...ถามทุกวัน วันละหลายรอบ พอปะป๊าบอกว่าเป็นข้างซ้าย ก็จะถามต่อว่า “แล้ว
ข้างไหนไม่เป็นแผล”


๒ ขวบ + ๓๑๓ วัน...พฤหัส ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...ปะป๊ากับคุณแม่ไปตัดผมกัน กลับมาบ้านเด็กจิ๋วเห็นหน้าปะป๊าปั๊บก็บอกทันทีว่า “ปะป๊า
ไปตัดผมมาเหรอ”...เก่งมาก ปะป๊าตัดผมมาทีไร เด็กจิ๋วทักทุกที แล้วคุณแม่ก็หยิบกระเป๋า
เป้คิตตี้ใบใหม่ที่เพิ่งซื้อมาให้ เด็กจิ๋วเห็นแล้วตาโต บอกว่า “โห ให้น้องพริมเหรอ เพราะใบ
เก่ามันขาดใช่ไม๊”...ว่าแล้วก็รีบคว้าไปใส่แล้วก็ใส่ต่อไปตลอด ไม่ยอมถอดออก วิ่งไปโชว์พี่
พี่ด้วยนะ ต่อด้วยไปโชว์เจ๊น่ากับเฮียโรอีก สงสัยจะชอบมากจริงๆ
...เด็กจิ๋วเล่นเกมส์ cut the rope ใน ipad เก่งเกินคาด เล่นผ่านไปได้เกือบสิบด่าน ไม่ฟลุ๊ค
ด้วย ปะป๊ารู้สึกทึ่งมาก
…เด็กจิ๋วไปนอนเล่นบนโต๊ะทำงานอี๊ตุ๋ม เขียนหนังสือไปด้วย แล้วก็บอกอี๊ตุ๋มว่า “น้องพริม
กำลังเขียนชื่อคุณแม่”...คุณแม่ชื่ออะไร “ถนอมนวล พงษ์สะริปรีดา”...อี๊ตุ่มถามต่อ ปะป๊า
ชื่ออะไร “ธีระวัฒน์ พงษ์สะริปรีดา” แล้วน้องพริมล่ะ “พริมา พงษ์สะริปรีดา”...ตอบถูกหมด
แต่ผิดตรง สะริ มันต้อง ศิริ อ่ะ แล้วก็คุยกับอี๊ตุ๋มต่อว่า “น้องพริมไปโรงเรียน น้องพริมจะไป
เรียนวิชาเตะทราย วิชาถ่ายรูป วิชาเที่ยว วิชาร้องเพลง”...โห ที่พูดมามันมีเรียนซะที่ไหนอ่ะ
แล้วสนใจแต่กิจกรรมบันเทิงนะ ไม่สนใจวิชาการเลยนะ คุณแม่สงสัยมากว่าเด็กจิ๋วรู้จักคำ
ว่า วิชา ได้ไง?
...คุณแม่ถามเด็กจิ๋วว่ารักใคร เด็กจิ๋วก็ตอบว่า คุณแม่ ปะป๊า ป้อม พีช...งงมาก ทำไมมีพี่
พีชติดโผมาด้วยล่ะ หลายทีแล้วนะ ถามว่ารักใคร ก็จะตอบว่ารักพีช คือชอบเล่นกับพี่พีชก็
จริงนะ แต่ก็เล่นกับคนอื่นๆเหมือนกัน เหมือนจะเล่นกับพี่ต๊อบพี่โอมากกว่าพี่พีชด้วยซ้ำแต่
พี่พีชจะใจดีมาก เด็กจิ๋วจูงมือพาเข้ามาเล่นในห้องทำงานปะป๊าหลายที พี่พีชก็ยอมตามมา


๒ ขวบ + ๓๑๔ วัน...ศุกร์ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เมื่อคืนเล่นเกมต่อบล็อกบนรูปร่างกัน เด็กจิ๋วเก่งมาก ต่อได้หลายรูป ปะป๊ากับคุณแม่ชม
ว่าเก่งมาก เก่งมาก เด็กจิ๋วทำฮึดฮัด หน้างอน แล้วบอกว่า “เก่งอะไรกันเล่า ยังฉี่ราด อึ๊ราด
แล้วกอดหมีหมีอยู่เลย จะเก่งได้ยังไงกัน”...ฮามาก ทำหน้าตาจริงจังด้วย
...อี๊ป้อมเอาองุ่นให้เด็กจิ๋วกิน เดี๋ยวนี้ไม่ต้องปลอกเปลือกให้แล้วนะ สามารถกินทั้งลูกได้เลย
แล้วยังไม่เท่านั้น ยังรู้จักเลือกลูกดีลูกเน่าด้วย เด็กจิ๋วหยิบองุ่นมาบอกคุณแม่ว่า “คุณแม่ลูก
นี้มันเน่า น้องพริมทิ้งเลยนะ”...เน่าจริงๆ เก่งกว่าอี๊ป้อมอีก อี๊ป้อมมองไม่เห็นว่าเน่า
...วันนี้ติดปะป๊ามากเป็นพิเศษ ตอนบ่ายปกติจะสัญญากันว่าพาขึ้นไปส่งข้างบนแล้วปล่อย
ปะป๊าลงมาทำงานได้ วันนี้ขึ้นไปส่งถึงดาดฟ้า แต่แล้วกอดปะป๊าไว้แน่นไม่ยอมปล่อยปะป๊า
ลงมา ร้องไห้น้ำตาล่วงใหญ่เลย ปะป๊าเลยต้องใจอ่อนพาลงมาเล่นที่ออฟฟิต จะให้อยู่กับอี๊
ป้อมก็ไม่ยอมอีก ต้องมานัวเนียปะป๊าตลอดเวลา “น้องพริมรักปะป๊า” “ก็เราเป็นพ่อลูบกัน
ไม่ใช่เหรอ” พูดแต่ประโยคแบบเนี่ยะ


๒ ขวบ + ๓๑๕ วัน...เสาร์ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...วันนี้พาเด็กจิ๋วเที่ยวทั้งวัน ตั้งแต่เช้าไปเซนลาดกันก่อน มีงาน CMG ได้เสื้อปะป๊ากับอากง
มานิดหน่อย แล้วก็รีบไปคอนโดกัน วันนี้นัดทำธุรกรรมเรื่องโอน พอตอนบ่ายๆไปราชบุรีกัน
ต่ออีก คราวนี้เอาจักรยานไปด้วย เอาไปหลายทีแล้วแต่ไม่ได้ขี่เพราะฝนตก วันนี้โชคดีไม่เจอ
ฝน ไปถึงค่ายภานุรังษีประมาณ 5.30 น. ที่จริงจะมาตีเทนนิสกันแต่คุณแม่ขี้เกียจเลยเปลี่ยน
แผน พาเด็กจิ๋วไปดูค้างคาวแทน นัดเจออากงด้วย เพราะอากงตีกอล์ฟอยู่แถวนั้น อากงพา
ไปแถวสระน้ำ ใกล้ๆกับบ้านพักที่ตอนงานแต่งงานปะป๊ากับคุณแม่ให้แขกมาพักกัน เราเอา
จักรยานลงจากรถให้เด็กจิ๋วขี่ ตอนแรกเจอหมาตัวหนึ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ เด็กจิ๋วเลยปั่น
จักรยานเร็วจี๋หนีหมา แต่ปั่นมาได้ 5 เมตร ก็หยุด เปลี่ยนไปเล่นสนามเด็กเล่นแทน อุตส่าห์
ขนจักรยานมา ฝนก็ไม่มี แต่ก็ยังไม่ได้ขี่อยู่ดี
...สนามเด็กเล่นเป็นแบบของเล่นเหล็ก มีม้าหมุน ชิงช้า เด็กจิ๋วชอบมาก นั่งม้าหมุนแล้วให้
ปะป๊าปั่นให้ เล่นเสร็จก็เปลี่ยนม้าไปให้ครบทุกสี ตอนไปเล่นชิงชาก็กล้าเล่น เหวี่ยงซะแรง
เหวี่ยงๆอยู่กระโดดลงมาด้วย ไม่เห็นจะกลัวเหมือนตอนไปเล่นของเล่นที่โรงเรียนเลย
...พอได้เวลา 6 โมงตรง ค้างคาวจะบินออกจากถ้ำเป็นหลายล้านตัว บินกันเป็นสายยาวๆ
ที่ตรงนี้ไม่เห็นตรงปากถ้ำเพราะอากงบอกว่าจะเหม็นมาก อยู่ตรงนี้ดีกว่า เด็กจิ๋วดูแล้วก็นิ่ง
นิ่ง สักพักถามว่า “ทำไมค้างคาวมันไม่บินอ่ะ”...บินสิ แต่มันตัวเล็กแล้วอยู่ไกลๆหนูก็เลยไม่
เห็นว่ามันบินอยู่ ดูต่ออีกแป๊บก็บอกว่า “เมื่อไหร่จะหมดซะทีอ่ะ น้องพริมจะไปเล่นม้าหมุน
ต่อแล้ว”...สรุปแล้วค้างคาวร้อยล้านไม่น่าสนใจ เด็กจิ๋วชอบม้าหมุนมากกว่า
...กลับมาบ้านอาม่าจัดการอาบน้ำแล้วกินข้าวให้เรียบร้อย เพราะรู้ว่าเดี๋ยวจะต้องนอนหลับ
ในรถแน่ๆ ว่าแล้วก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ออกรถมาได้หน่อยก็หลับ จนถึงบ้าน ก็อุ้มขึ้นไป
นอนต่อบนห้อง 


๒ ขวบ + ๓๑๖ วัน...อาทิตย์ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เมื่อวานนี้ฝากเด็กจิ๋วไว้กับพี่สาแป๊บหนึ่ง ช่วงที่ปะป๊าไปปั่นช็อกโกแล็ต พี่สาพาเด็กจิ๋วไป
นั่งดูปลาดูเต่า ได้ยินคุยเล่นอะไรกันไม่รู้ ตอนปะป๊ามารับ เด็กจิ๋วบ๊ายบายพี่สาแล้วบอกว่า
“บ๊ายบายพี่สา เดี๋ยววันหลังมาเล่นกันใหม่นะ”
...ตอนเช้าวันนี้เรานอนกลิ้งดูหนังกันอยู่ในห้องโฮม พอตอนบ่ายๆก็ออกไปเที่ยวกันอีกแล้ว
ไปดูรถกระบะให้อากง แต่ไปถึงแล้วศูนย์ปิด เลยเปลี่ยนไปฟอร์ทูน ไปซื้อ Notebook ใหม่
ให้คุณแม่ ข้ามฝากไปเดินเซนทรัลพระราม 9 ด้วย ตอนออกจากบ้าน เด็กจิ๋วไปบอกอาม่า
ว่าปะป๊าจะพาไปเซนทรัล ปะป๊าบอกว่ามั่ว ไม่ได้ไปเซนทรัล ไปฟอร์ทูนต่างหาก แต่สุดท้าย
ก็มาเซนทรัลจริงๆ คุณแม่แวะดูรองเท้า Crocc พอเข้าไปในร้าน ปะป๊าก็ไปสะดุดรองเท้าสี
ชมพูของเด็กคู่หนึ่ง สวยถูกใจมาก เอามาให้เด็กจิ๋วลองใส่เดินในร้านดู ปรากฎว่าเด็กจิ๋วก็
ชอบเหมือนกัน ใส่ไม่ถอด สรุปแล้วคุณแม่ได้คู่หนึ่ง เด็กจิ๋วได้คู่หนึ่ง สีชมพูเหมือนกัน ราคา
ก็เท่ากัน แต่ของเด็กจิ๋วเล็กกว่าตั้งเยอะ
...ตอนอยู่ที่ห้าง เด็กจิ๋วตามหาคุณแม่ ตะโกนเรียก “คุณแม่ คุณแม่”...ดังลั่นห้างมาก ทุกคน
ในร้านหันมามองกันใหญ่ คึกจัดมาก แล้วก็ไปเปิดตู้เค้าทุกใบ เปิดตู้เย็นเล่น วิ่งๆ เราวิ่งตาม
จนเหนื่อยเลย
...ซื้อของกันเสร็จก็ไปกินบุฟเฟ่ต์ที่บันยันทรี เด็กจิ๋วหมดแรงสลบไปแล้ว ที่จริงง่วงมากตั้งแต่
ตอนอยู่ในห้างแล้ว ตาแดงกล่ำ หาวหวอดๆ เราถามเด็กจิ๋วว่าหนูง่วงแล้วใช่ไม๊ เด็กจิ๋วตอบ
ว่า “เปล่า ไม่ได้ง่วง แค่หาวเฉยๆ”...เด็กจิ๋วหลับไปในรถ ตอนไปกินบุฟเฟต์กันก็ยังไม่ตื่น จับ
วางนอนลงบนโซฟา หลับได้ยาวมาก จนปะป๊ากับคุณแม่กินกันเกือบเสร็จ เด็กจิ๋วถึงฟื้นคืน
ชีพขึ้นมา ซัดสปาร์เก็ตตี้ไปเยอะมาก ช็อกโกแล็ตแผ่นๆนิดหน่อย ปูอัดไม่ค่อยอร่อย ไอติมก็
เอามาแตะๆแล้วไม่กิน คราวนี้ถือว่ากินไม่ค่อยเยอะ เพราะเวลาน้อย มัวแต่หลับอยู่
...ตอนขับรถกลับมาบ้าน เหมือนเด็กจิ๋วจะเมาเหล้าหรือเปล่า หัวเราะไม่หยุด คาดว่าเค้าใส่
เหล้าลงไปในสปาร์เก็ตตี้หรือเปล่า


๒ ขวบ + ๓๑๗ วัน...จันทร์ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เด็กจิ๋วเล่นละครหมอจินทั้งวันเลย เล่นมาหลายวันแล้ว ให้ปะป๊าเป็นหมอจิน เด็กจิ๋วเป็น
นางเอก แล้วให้คุณแม่เป็นตัวโกง ช่างน่าสงสารคุณแม่มาก เวลาเรียกคุณแม่ก็ตะโกนเรียก
“ตัวโกงงง ตัวโกงงง” ทุกคนห้ามหลุดคาแร็คเตอร์นะ ไปเรียกชื่อจริง เด็กจิ๋วจะโวยวายทันที
...ช่วงนี้เด็กจิ๋วให้ความร่วมมือในการถ่ายรูปดีมากๆ เวลาหยิบกล้องมาถ่ายก็จะรีบโพสท่า
ให้ถ่ายรูป แต่ละท่าก็ไม่ธรรมดา ต้องมีเกาะโต๊ะ เกาะกำแพง ยกแข่งยกขา ตอนเย็นโพสท่า
ออกใหม่ล่าสุด ปีนขึ้นไปนอนบนพนักพิงโซฟาให้ถ่าย คงกะว่าจะเซ็กซี่สุดๆ
...เสื้อผ้าล็อตนี้ที่ซื้อมาถูกใจมากๆ ถือเป็นการปฏิวัติการแต่งตัวเด็กจิ๋วเลย ก่อนหน้านี้จะใส่
เสื้อโง่ๆกับกางเกงขาสั้นโง่ๆที่ซื้อตามเว็ป พอเปลี่ยนมาเป็นกางเกงเล็กกิ้งกับเสื้อสวยๆจาก
Pum ก็ดูดีขึ้นมาทันที มีแต่คนชมทุกวันเลย ตอนนี้เวลาไปห้างก็มองหาแต่เล็กกิ้ง รู้สึกว่าจะ
เยอะเกินไปแล้วเนี่ยะ
...เรื่องฝึกฉี่ฝึกอึ๊ช่วงนี้ทำได้ดีขึ้นมาก แต่ก็ยังมีพลาดอยู่ เวลาทำอะไรเพลินๆ อย่างนั่งเล่น
Ipad อยู่ ก็ฉี่ออกมาโดยลืมบอก
...ช่วงนี้เรื่องอาการกรี๊ดๆเหวี่ยงๆหายไปแล้ว เป็นเด็กน่ารักมาก สงสัยอยากจะเป็นนางเอก
จริงๆ เวลาทำอะไรดื้อๆเราก็จะนับ 1 2 3 เด็กจิ๋วก็จะรีบหยุดทันที อย่างปะป๊าก็นับเพื่อที่ว่า
ถ้าไม่หยุดจะโกรธแล้วนะ ส่วนคุณแม่ก็จะตีแล้วนะ เดี๋ยวนี้คุณแม่ต้องหาไม้บรรทัดมาขู่ด้วย
เพราะใช้มือตีแล้วไม่เชื่อคงไม่ค่อยเจ็บ ต้องใช้ไม้บรรทัดตีเปรี๊ยะๆเลย คุณแม่ตีจริงไม่มียั้ง


๒ ขวบ + ๓๑๘ วัน...อังคาร ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เมื่อคืนนอนตีหนึ่งกว่า ปะป๊ากับคุณแม่ดูเดอะวอยซ์กัน ไม่ห่วงใยบุตรหลานเลย เช้านี้เลย
ไม่ยอมตื่น อุ้มลงมาออฟฟิต วางไว้ที่โซฟาหลับต่ออีกยาว กว่าจะตื่นก็ 11 โมง
...พอตื่นขึ้นมาก็สดชื่นทันที เป็นเพราะได้นอนเต็มที่ บอกให้เปลี่ยนชุดก็จัดการถอดเสื้อเอง
ใส่ตัวใหม่เอง แล้วพากันไปมาบุญครอง ปะป๊าต้องไปซื้อเลนส์ใหม่ ไปถึงก็ไปนั่งกินข้าวกัน
ที่ฟู้ดคอร์ดก่อน พาไปร้านข้าวแกง เด็กจิ๋วเลือกไข่ต้มอย่างเดียวเลย อย่างอื่นไม่เอา เป็นคน
ที่ชอบกินไข่ต้มมาก ไข่ต้มเปล่าๆจืดๆ ปะป๊ากินไม่ได้เลย จะอ้วก แต่เด็กจิ๋วชอบ
...ช่วงนี้เวลาอาบน้ำเสร็จแล้ว ปะป๊าชอบพาเด็กจิ๋วมาเล่นของเล่นอัจฉริยะในห้องโฮม เล่น
จนครบหมดทุกชิ้นก็จะสั่งให้เด็กจิ๋วไปปิดไฟ เปิดไฟส้ม เด็กจิ๋วจะเชื่อฟังมาก รีบไปทำตาม
แล้วก็มานอนอ่านนิทานกัน บางวันก็อ่านเยอะหมดเล่ม แต่บางวันขี้เกียจ อ่านไปหน้าเดียว
ก็แกล้งหลับ เวลาแกล้งหลับหลอกเด็กเนี่ยะ ง่ายมาก ไม่ต้องทำแบบค่อยๆเฟสเลย อ่านอยู่
ดีๆก็ทิ้งหนังสือ แล้วหลับตา แกล้งทำเสียงกรนนิดหน่อย เด็กจิ๋วก็เชื่อสนิทใจ เด็กจิ๋วจะบอก
ว่า “อุ๊ย หลับไปซะและ อ่านได้แป๊บเดียวเอง เก็บดีกว่า”...แล้วก็เก็บหนังสือนิทานเข้าที่เรียบ
ร้อยแล้วก็ลงมานอนข้างปะป๊าหลับไปแต่โดยง่าย แต่เมื่อคืนไม่สำเร็จ ตอนที่แกล้งนอนหลับ
เด็กจิ๋วพูดอะไรฮาๆ เราเลยหลุดขำออกมา ไม่รู้ว่าจะจับได้หรือเปล่า ไม่น่าเลย


๒ ขวบ + ๓๑๙ วัน...พุธ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เด็กจิ๋วเล่นปลาฉลามกับคุณแม่ ปลาฉลามจิ๋วไล่งับขาคุณแม่ งับเป็นแผลแล้ว ก็พากัน
มาทำแผล แล้วก็ผลัดกันบ้างให้คุณแม่เป็นฉลามไล่กัดเด็กจิ๋ว
...เมื่อวานนี้เอาเกมส์ Wii ลงมาต่อที่ห้องนั่งเล่นให้เฮียโร เด็กจิ๋วมาเล่นกับพี่ด้วย เล่นแบบ
ฮามาก ขับเครื่องบินแบบไม่ต้องมองจอ บินไปบินมา เหมือนจะเต้นรำมากกว่า วันนี้ก็เล่น
กันต่ออีก เด็กจิ๋วเล่นชกมวยกับเฮียโร อันนี้ง่าย เด็กจิ๋วสามารถทำได้ แค่จับจอยซ้ายขวา
สะบัดไปมา ชกกันสูสีเลย แต่สักพัก เด็กจิ๋วก็ถอดสายรัดข้อมือออก แล้ววางจอยไว้ที่พื้น
เราถามว่าทำไมอ่ะ เด็กจิ๋วบอกว่า “เหนื่อย พักก่อน”...กำลังต่อยมวยกันอยู่ มีพักได้ด้วย
เหรอ พักไปแป๊บหนึ่งแล้วก็รีบมาหยิบจอยใส่สายรัดแล้วชกต่อ ตอนที่เด็กจิ๋ววางจอยหยุด
พัก พวกเราก็ช่วยกันตะโกนบอกเด็กจิ๋วว่า ไปหยิบจอยเร็ว ไปหยิบจอยเร็ว เด็กจิ๋วก็วิ่งไป
หยิบจอทีวี “จออันนี้อ่ะเหรอ”...จอย ไม่ใช่ จอ ไม่รู้ว่าเด็กจิ๋วแกล้งเราหรือว่าตัวเองงงจริง


๒ ขวบ + ๓๒๐ วัน...พฤหัส ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...วันนี้เด็กจิ๋วตื่นสายอีกแล้ว อุ้มลงมาที่ออฟฟิตนอนต่ออีกยาว กว่าจะตื่นก็ 11 โมง เมื่อ
คืนก็ไม่ดึกมากนี่ แค่ห้าทุ่มครึ่ง
...พอตื่นมาปั๊บก็แกล้งคุณแม่ บอกว่าน้องพริมฉี่ คุณแม่เลยถอดเป้อออกแต่ไม่เห็นมีฉี่ ว่า
แล้วเด็กจิ๋วก็แกล้งบอกว่า “จะฉี่ราดแล้วนะ” คุณแม่ก็รีบอุ้มพาไปห้องน้ำ ระหว่างที่คุณแม่
กำลังอุ้มเด็กจิ๋ววิ่งไปด้วยความรนรานกลัวเด็กจิ๋วจะฉี่ราดจริงๆ เด็กจิ๋วก็ร้องว่า “ชู่ ชู่ ชู่ ชู่”
...เด็กจิ๋วกำลังจะไปข้างนอก อี๊ตุ๋มบอกว่าขอไปด้วย เด็กจิ๋วไม่ให้ไป อีตุ๋มบอกว่าถ้างั้นอี๊ก็
ต้องร้องไห้แงๆ เด็กจิ๋วบอกว่า “ถ้าซื้อหนมมาฝากจะหายร้องไห้ไม๊”
...ตอนเย็นๆอากง อาม่า อี๊ไก่มาหาเด็กจิ๋ว ตอนแรกเด็กจิ๋วไม่ยอมให้เข้าห้อง ไล่ออกไป
แต่พออากงอุ้มมะละกอมาเท่านั้นแหล่ะ ก็รีบเปิดประตูต้อนรับอย่างดี
...เด็กจิ๋วกินมะละกออย่างเพลิดเพลิน พี่โอมาแกล้งขอกินมะละกอด้วย เด็กจิ๋วชี้บอกว่า
 “อยู่ในท้องน้องพริมนี่” พร้อมกับชี้ไปที่พุงตัวเอง พี่โอเลยแกล้งต่อบอกว่า โอ๊ย อยากกิน
มะละกอ เด็กจิ๋วตอบว่า “งั้นขอน้องพริมก่อน” พี่โอก็ขอเด็กจิ๋วอีกรอบ แต่คราวนี้เด็กจิ๋ว
ตอบว่า “ได้ เดี๋ยวน้องพริมไปขี้ออกมาก่อน ขี้ ขี้ ออกมาก่อน”
...ผ่านมา 2 อาทิตย์กว่าแล้วที่หัวเข่าปะป๊าเป็นแผล เด็กจิ๋วยังคงเฝ้าถามวันละเป็นสิบๆ
รอบว่า “ข้างไหนป๊าเป็นแผล ข้างไหนป๊าเป็นไม่แผล”...ช่างเป็นเด็กที่ห่วงใยปะป๊าจริงๆ
...เด็กจิ๋วเล่นเอาสติ๊กเกอร์มาแปะปากตัวเองแล้วมาหาคุณแม่ แล้วทำพูด งึมงำๆงึมงำๆ
แบบว่าแกล้งทำเป็นพูดแต่พูดไม่ได้ ตลกอ่ะ รู้จักเล่นแบบนี้มาจากไหน
...วันนี้อึ๊หลายรอบเหมือนจะท้องเสีย ตอนกลางคืนก็เป็นอีก คุณแม่พาไปนั่งชักโครก พอ
อึ๊ไหลออกมาเลวจ๊อกๆ เด็กจิ๋วทำหน้างง แล้วถามว่า “มันคืออะไรอ่ะแม่”...อึ๊นั่นแหล่ะแต่
หนูไม่เคยท้องเสียมาก่อนไง สรุปแล้วก็เหมือนจะท้องเสียแบบอ่อนๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะ
กินมะละกอเยอะเกินหรือเปล่า แต่อี๊ป้อมบอกว่าก่อนกินก็อึ๊ค่อนข้างเหลวอยู่แล้ว


๒ ขวบ + ๓๒๑ วัน...ศุกร์ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...วันนี้ตื่นสายกว่าเมื่อวานอีก เกือบเที่ยงแน่ะ
...เมื่อคืนบอกให้เด็กจิ๋วเล่านิทายอีสบให้คุณแม่ฟังบ้าง ตัวเองฟังปะป๊าเล่ามาหลายครั้ง
แล้ว เด็กจิ๋วก็เล่าพอจะได้อยู่ มีเรื่องหนึ่งเพิ่งเล่าไปครั้งเดียวก็ยังสามารถจำมาเล่าได้อีก
รู้สึกว่าทึ้ง ความจำดีมาก เวลาแต่ละเรื่องที่ปะป๊าเล่าจบ ปะป๊าก็จะถามว่า นิทานเรื่องนี้
สอนให้รู้ว่าอะไร เด็กจิ๋วจะตอบแบบฮาทุกครั้ง อย่างเรื่อง ชาวนากับงูเห่า ก็บอกว่า “งูที่
ดีไม่ควรกัดชาวนา” หรือเรื่องหมากับเนื้อก็บอกว่า “หมาไม่ควรกินหนมปัง”
...อยู่ดีๆเด็กจิ๋วก็เกิดชอบกินปลาทอดขึ้นมา ที่ผ่านมาไม่ยอมกินปลาเลย คาดว่าจะเหม็น
คาว เป็นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว ตอนคุณแม่ท้องจะไม่กินปลาเลย แพ้อย่างหนัก ยังกลัว
ว่าเด็กจิ๋วจะเกิดมาโง่ไม๊ ไม่นานมานี่อี๊ป้อมลองซื้อพวกปลาทอดในตลาดให้กิน ปรากธว่า
ชอบกินขึ้นมาเฉยเลย เป็นเพวกปลาจาระม็ดหรือปลาทั่วไปที่ทอดวางขายในตลาด


๒ ขวบ + ๓๒๒ วัน...เสาร์ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...วันนี้พาเด็กจิ๋วไปช็อปปิ้งที่ตลาดหลังการบินไทย ไปกันแต่เช้าเพราะกลัวไม่มีที่จอดรถ
ตั้งใจจะไปหากระติกน้ำแบบเก็บความเย็นได้ให้จิ๋ว เคยไปเห็นที่ห้าง 800 บาท รู้สึกว่าจะ
แพงเกิน มาที่นี่น่าจะถูกกว่า แต่พอมาดูแล้ว ราคาก็เท่าๆกันแหล่ะ ที่นี่มาด้วยความยาก
ลำบากกว่ามากด้วย ที่ตลาดนี้มีร้านขายของเล่นเด็กเยอะเลย ราคาก็ไม่ถูกนะ หาซื้อใน
เว็ปจะได้ถูกกว่าเยอะ แต่ก็เดินสนุกเพราะมีของเยอะมาก เด็กจิ๋วไปติดใจที่ตกปลาลาย
โทมัสอันหนึ่ง 600 บาท หยิบมาเลย จะเอาให้ได้ เราต้องหลอกว่า อย่าเพิ่งรีบซื้อ เพราะ
เดี๋ยวเดินไปเรื่อยๆเจออันสวยกว่าจะได้ซื้ออันนั้นแทน เด็กจิ๋วก็หลงเชื่อ สุดท้ายได้แบบ
อันโง่ๆ 2 อัน 250 บาท ถูกกว่ามาก ดีกว่าด้วยเพราะเป็นแบบเวลาเบ็ดติด จะมีไฟที่ตัว
ปลาติดด้วย สรุปแล้ววันนี้ได้กระติกน้ำลายคิตตี้ เบ็ดตกปลา ห่วงยางแบบกลม กับแบบ
ที่ใส่แขน แล้วก็ลูกบอลเป่าลมลายคิตตี้ แล้วก็มีอุปกรณ์ตักทราย อันใหญ่ยักษ์ เจอปุ๊บก็
ถูกใจรีบหยิบทันที เป็นบล็อกก่อปราสาททรายอันใหญ่สวยงาม ถังน้ำก็ใบใหญ่ ของเก่า
เล็กเกินไป ที่ขุดทรายอันยาวเป็นเมตรเลย ยังงงว่าจะขนไปเที่ยวยังไงเนี่ยะ สุดท้ายได้ท่อ
สำหรับมุดๆ แบบพับได้เหมือนเต๊นท์ กางออกมาเป็นบ้านพร้อมกับท่อให้มุด
...เด็กจิ๋วถูกใจท่อมุดที่สุด ร้องจะให้แกะเล่นตั้งแต่อยู่ในรถ พอกลับมาบ้านก็รีบแกะออก
มาเล่นกับอี๊ป้อม นอกจากจะมุดแล้ว ยังไอเดียบรรเจิด เอามาใส่เป็นชุดเดินไปมา จะพัง
ซะตั้งแต่วันแรกไม๊เนี่ยะ


๒ ขวบ + ๓๒๓-๓๒๕ วัน...อาทิตย์ ๑๘ – อังคาร ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...ไปเกาะกูด --> N’Prim@Koh Kood


๒ ขวบ + ๓๒๖ วัน...พุธ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เมื่อวานนี้ปะป๊ากับคุณแม่ซื้อหนมมาฝากจากเกาะกูด พี่ต๊อบมาแกล้งเด็กจิ๋ว บอกว่า
ทำไมซื้อมาน้อยจัง เด็กจิ๋วไม่ยอม บอกว่า “เยอะจะตาย ทำไมจะน้อยล่ะ เยอะเนี่ยะ กิน
ซิจ๊ะ”
...ช่วงนี้เฮียโรขึ้นมาเล่นกับเด็กจิ๋วบนห้องทุกวันเลย เพราะเอาเกมส์ wii มาต่อให้เล่นที่
ห้องนั่งเล่น เล่นเสร็จก็มานั่งกินข้าวมื้อดึกกันต่อ อย่างวันนี้กินจริงจังมาก กินหมดแล้ว
เติมอีก กินข้าวไข่เจียวกัน


๒ ขวบ + ๓๒๗ วัน...พฤหัส ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...เมื่อคืนปะป๊าเอาตุ๊กตาเรื่อง Beauty & the Beast มาเล่นละครให้เด็กจิ๋วดู เด็กจิ๋วตั้งใจ
ดูอย่างมาก พอจบเรื่องบอกว่าละครเรื่องนี้สอนให้รูว่า “ปีศาจน่ากลัวมาก” และแล้ว เด็ก
จิ๋วก็ตั้งตนเองเป็น Beauty แล้วให้ปะป๊าเป็นปีศาจ ห้ามหลุดคาแร็กเตอร์ เล่นมาข้ามวันก็
ยังไม่เลิก เมื่อวันก่อนที่เปิด Lilo&Stritch ปะป๊าต้องเป็น Stritch เล่นกับ Lilo เด็กจิ๋วมานาน
เป็นอาทิตย์ กว่าจะมาเปลี่ยนเป็น Beauty&the Beast นี่แหล่ะ และถ้าก่อนหน้านี้ก็จะเป็น
นางเอกกับหมอจิน ผ่าตัดมะเร็งเต้านมกัน
...ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว บอกว่าปวดอึ๊ พอพาไปนั่งชักโครกก็ไม่ยอมอึ๊ ไม่พยายามใดๆทั้งสิ้น
จับขึ้นไปนั่งปั๊บก็กระโดดลงมาทันที เมื่อคืนเล่นแบบนี้ไป 4 รอบ มาเช้านี้เล่นกับคุณแม่อีก
3 รอบ จนคุณแม่โมโหเลย คือรู้ว่าคงปวดอึ๊จริงๆแหล่ะ แต่ไม่พยายามเบ่งบนชักโครก


๒ ขวบ + ๓๒๘ วัน...ศุกร์ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...คุณแม่ซื้อช็อกโกแล็ตแผ่นกลมๆเสียบไม้ เป็นลายการ์ตูนไว้ให้เด็กจิ๋ว เอามาล่อตั้งหลาย
วันแล้ว บอกว่าถ้าสามารถอึ๊บนชักโครกได้จะให้กิน แต่ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้วยังไม่สำเร็จ
วันนี้เลยใจอ่อน บอกว่าถ้าเป็นเด็กดีแล้วจะให้กิน เด็กจิ๋วก็ทำเป็นเด็กดีทันที โดยยืนนิ่งๆยิ้ม
ไปยิ้มมา เด็กจิ๋วเข้าใจว่าการเป็นเด็กดีคืออะไรเนี่ยะ แกล้งทำแอ๊บแบ๊วหรือไง คุณแม่ก็เลย
ให้เก็บของเล่นที่เกลื่อนกลาด เด็กจิ๋วรีบเก็บใหญ่ สุดท้ายได้ช็อกโกแล็ตเป็นรางวัล เอาไป
ถือไว้ด้วยความดีใจ ดวงตาเป็นประกายปิ๊งๆปิ๊งๆ
...วันนี้เด็กจิ๋วเล่นเป็นนักเรียน ให้ปะป๊าเป็นคุณครู อันนี้เข้าทางปะป๊าเลย จัดการสอนตัว
ABC กับ ตัวเลขต่างๆไปเยอะ พออยู่ในบทบาทนักเรียนก็จะตั้งใจเรียน ตอนนี้เด็กจิ๋วรู้จัก
ตัวเลขถึงเลข 6 เลยกว่านั้นจะพอมั่วๆได้แต่ไม่เปะๆ พอตอนเย็นๆ เด็กจิ๋วเปลี่ยนบทบาท
ใหม่อีกแล้ว ให้ตัวเองเป็นไกด์ แจกสติ๊กเกอร์ให้กับลูกเรือ ปะป๊ากับคุณแม่เป็นลูกเรือ เล่น
เลียนแบบตอนนั่งเรือไปเที่ยวเกาะกัน รู้สึกว่าเด็กจิ๋วจะชอบเล่นบทบาทสมมุติมากๆเลย


๒ ขวบ + ๓๒๙, ๓๓๐ วัน...เสาร์ ๒๔ – อาทิตย์ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...ไปพัทยา -->  N’Prim@Ravindra, Pattaya


๒ ขวบ + ๓๓๑ วัน...จันทร์ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...ถามว่าทำไมเด็กจิ๋วกลัวน้าตี๋ เป็นเพราะน้าตี๋ไว้หนวดหรือเป่า ถามว่าหนูเคยเห็นคนไว้
หนวดที่ไหนหรือเป่า เด็กจิ๋วบอกว่า “ในหนังเกาหลีไง”...อ๋อ เราก็เลยสรุปว่าสงสัยเห็นน้า
ตี๋ไว้หนวดเคราเหมือนตัวโกงในหนังเกาหลีหรือเป่า เลยทำให้เด็กจิ๋วกลัว
...เมื่อวานมีของเล่นมาส่งอีกล็อตหนึ่ง ปะป๊าสั่งหน้ากากสไปเดอร์แมนกับแบทแมนมาให้
เด็กจิ๋วเล่น ตอนไปตลาดหลังการบินไทยเห็นเด็กจิ๋วไปคว้ามาเล่น เหมือนจะอยากได้มาก
แต่พอซื้อมาให้ก็ใส่เล่นแป๊บเดียว แล้วก็แกะสายรัดออกเอาไปมัดหมีๆเล่นซะ เด็กจิ๋วเรียก
สไปเดอร์แมนว่า ซูปเปอร์แมน
...อี๊ป้อมมาถามว่าเด็กจิ๋วกลางวันจะกินอะไร เด็กจิ๋วสั่งข้าวผัดกุ้ง พออี๊ป้อมซื้อมาให้ก็บอก
ว่า “ดีใจจังเลย อี๊ป้อมซื้อมาถูกด้วย” เดี๋ยวนี้รู้จักสั่งข้าวแล้วนะ


๒ ขวบ + ๓๓๒ วัน...อังคาร ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...โมเดลการ์ตูน Disney ที่ซื้อมาใช้การได้ดีมาก วันก่อนปะป๊าเอาเรื่อง beauty&the beast
มาเล่าให้เด็กจิ๋วฟัง เด็กจิ๋วอยากให้เล่าเรื่องราพันเซลบ้าง แต่ปะป๊าไม่รู้เรื่องมาก่อน เล่าไป
มั่วๆคร่าวๆว่ามีเจ้าชายปีนขึ้นไปช่วยเจ้าหญิงราพันเซล แต่วันนี้คุณแม่ไปอ่านเรื่องย่อแล้ว
ไม่ใช่เลย พระเอกเป็นโจร พาราพันเซลหนีออกไปดูโคมลอย มันเหมือนกับในเกมส์ที่เด็กจิ๋ว
ชอบเล่นเลย
...เค้าบอกว่าสมองแบ่งเป็นซีกขวากับซ้าย ซีกขวาเป็นด้าน EQ ซีกซ้ายเป็น IQ รู้สึกว่าเด็กจิ๋ว
จะ EQ ดีนะ เรื่องจินตนาการนี่เจิดจ้ามาก แต่ด้าน IQ เหมือนไม่ค่อยดี พวกวิชาการ สอนตัว
เลขก็ยังจำไม่ได้ถึง 10 เลย สอนพวก ก. ข. ก็ไม่ค่อยตั้งใจ ถ้าเป็นพวกเล่นตัวต่อต่างๆจะเก่ง
มาก ปะป๊าเลยไปหาซื้อของเล่นที่เสริม IQ ในเว็ป เลือกไปเลือกมาได้มาหลายชิ้นเหมือนกัน
แต่ทั้งหมดก็เป็นของเล่น EQ อยู่ดี เพราะของเล่น IQ มันจะเป็นตัวหนังสือ ตัวเลข มันไม่น่า
จะสนุก สรุปแล้วที่เด็กจิ๋ว IQ ไม่ดีก็อาจเป็นเพราะปะป๊าเนี่ยะแหล่ะ


๒ ขวบ + ๓๓๓ วัน...พุธ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...ตั้งแต่เมื่อวาน เด็กจิ๋วก็กลายเป็นราพันเซล ปะป๊าเป็นยูจิน แต่แอบเอาไปปนกับหมอจิน
กลายเป็นหมอยูจิน สามารถรักษาผ่าตัดราพันเซลได้ คุณแม่กลายเป็นแม่มดใจร้ายเหมือน
เดิม น่าสงสารคุณแม่จริง ได้เป็นตัวโกงตลอดเวลา
...วันนี้เป็นวันลอยกระทง 2 ปีที่ผ่านมาเรามาลอยกันที่บ่อปลา มีพี่ๆมาร่วมลอยด้วย เพราะ
เป็นวันหยุด แต่วันนี้เด็กจิ๋วลอยกับปะป๊าคุณแม่แล้วก็อี๊ป้อม ลอยกันที่บ่อปลาเหมือนเดิม
เราบอกเด็กจิ๋วว่าวันนี้จะมีการลอยโคมเหมือนในราพันเซลเลยนะ แต่ดูที่หน้าต่างก็ไม่เจอ
เลยไปเปิดคลิปในยูทูปให้ดู เค้าถ่ายมาจากธุดงธ์สถานที่เชียงใหม่ ปล่อยโคมลอยกันเยอะ
มาก เป็นพันๆหรือหมื่นก็ไม่รู้ เด็กจิ๋วได้ดูปล่อยโคมสมใจแล้ว


๒ ขวบ + ๓๓๔ วัน...พฤหัส ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...ปะป๊านั่งอยู่ที่พื้น เด็กจิ๋วอยู่ดีๆก็พุ่งตัวมากระโดดปีนขึ้นตัวปะป๊าอย่างคล่องแคล่ว แป๊บ
เดียวก็ขึ้นมาอยู่บนคอปะป๊าแล้ว ใช้มือสองข้างจิ๊กผมแล้วบังคับโยกซ้ายโยกขวา ไอ้แบบที่
ให้เด็กนั่งคอแล้วเดินไปเดินมาเนี่ยะ เคยเห็นคนอื่นทำกันบ่อยๆ แต่ปะป๊าไม่กล้า กลัวจะตก
ลงมา ได้แต่นั่งโยกไปมาเฉยๆ เด็กจิ๋วเล่นไม่เลิกจนปะป๊าปวดคอไปหมดเลย
...วันนี้เปิดคลิปเก่าๆให้เด็กจิ๋วดู ดูแล้วก็ชอบใจ ขำก๊ากๆ แล้วบอกว่า ”ตลกดีเนอะคนเนี่ยะ
เด็กจิ๋ว....เด็กจิ๋ว ตลกเนอะ...ทำไมเค้าหัวเราะอ่ะ...ทำไมเค้าไม่ใส่หมวกอ่ะ” ทำยังกับว่าตัว
เองไม่ใช่เด็กจิ๋วอ่ะ
...ตอนเย็นพาเด็กจิ๋วไปงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร เด็กจิ๋วเคยไปครั้งหนึ่งตอนเบบี๋ ตอนนั้นยังใส่
เป้อุ้มอยู่เลย นิ่งๆสบายมาก คราวนี้ปะป๊ากับคุณแม่เหนื่อยมาก เด็กจิ๋ววิ่งๆทั่วงาน วิ่งแบบ
เราวิ่งตามกันเหนื่อยมาก นี่ขนาดว่าผลัดกันแล้วนะปะป๊ากับคุณแม่ เด็กจิ๋วได้ลูกโป่งมาใบ
หนึ่ง เอาถือจิ้มลงพื้นแล้วเดินตามเส้นลายที่พื้น เหมือนจะเล่นถูพื้นประมาณนั้น แล้วก็ตอน
หนึ่งกระโดดขึ้นไปบนเวทีโชว์รถ เป็นรถมิตซู มิราจ แต่ขึ้นไปตะโกนดังลั่นว่า “นี่รถเบนซ์ใช่ไม๊
คุณแม่”...แล้วก็ปีนขึ้นไปนั่งเล่นบนรถหลายคันมาก เราไปดูคันไหนก็ขอปีนขึ้นไป ไม่ได้นั่งอยู่
นิ่งๆด้วย ปีนไปเบาะหลัง ข้ามมาเบาะหน้า เราก็กลัวว่าเบาะเค้าจะเลอะหมด ที่ชอบมากน่า
จะเป็นกระบะรถอีซูซุ คงเป็นอะไรแปลกใหม่ ปีนขึ้นไปนั่งอยู่นานมากๆ ที่เด็กจิ๋วติดใจอีกก็มี
วอลโว่ เพราะมีเบาะเด็ก แบบพับกระดกเบาะขึ้นมาเป็นที่นั่งสำหรับเด็กได้ เราไปเดินกันนาน
เหมือนกัน ตั้งแต่หกโมงกว่าๆจนสามทุ่มกว่า เด็กจิ๋ววิ่งจนเหนื่อยและหิว เริ่มหมดแรงบอกว่า
“น้องพริมหิวมาก จนท้องจะแตกตายอยู่แล้ว มีอะไรให้น้องพริมกินบ้าง”...เลยพากันไปกินที่
ร้านแม็คโดนัลก่อนจะกลับบ้าน


๒ ขวบ + ๓๓๕ วัน...ศุกร์ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
...สีไม้ของเด็กจิ๋วเริ่มหายสาบสูญไปหมดแล้ว วันนี้ได้ชุดใหม่มา คุณแม่เพิ่งสั่งจากเว็ปให้
เป็นแบบแท่งปกติ ผอมๆยาวๆเหมือนดินสอทั่วไป เมื่อก่อนจะเป็นอ้วนสั้นสำหรับเด็ก เดี๋ยว
มีสั่งแผ่นแบบเขียนให้ด้วย แต่ยังมาไม่ถึง กะว่าอาจจะทำให้เด็กจิ๋วรักการเขียนมากขึ้น
...คุณแม่ส่งหมีหมีกับนมให้อี๊ป้อม บอกว่าฝากไปแช่ตู้เย็นหน่อย เด็กจิ๋วขำก๊ากๆบอกว่า “จะ
เอาหมีหมีไปแช่ตู้เย็นเหรอ”
...ช่วงนี้ตอนกลางดึก เด็กจิ๋วยังคงปีนเหยียบหัวคุณแม่ข้ามมานอนกับปะป๊าทุกคืนเลย มา
แล้วไม่นอนนิ่งๆ ดิ้นไปดิ้นมา ถีบหน้าปะป๊า บางทีเข้าเบ้าตา ตาจะบอดไม๊เนี่ยะ

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

@ภูเก็ต ฟ้าใสๆ ปลายฤดูมรสุม ภาค 1

เด็กจิ๋ว Chill Out @ ภูเก็ต ฟ้าใสปลายมรสุม ภาค 1 ตะลุยหมู่เกาะไข่มุกอันดามัน
 
สวัสดีค่ะ เด็กจิ๋วมาชวนเที่ยวทะเลอีกแล้วค่ะ
คราวนี้เป็นทริปภูเก็ต ซึ่งจุดประสงค์หลักในตอนแรกที่เราตั้งใจจะไปภูเก็ตเพราะอยากไปศาลาภูเก็ต (ก็ตามรอยรีวิวใน BP นี่แหละค่ะ) แต่เมื่อไปไกลถึงภูเก็ตแล้ว จะเที่ยวแต่ที่รีสอร์ทก็กระไรอยู่ เลยต้องไปเที่ยวตามหาน้ำทะเลใสๆ ทรายขาวๆ ที่เกาะสวยๆ ใกล้ๆ ภูเก็ตที่เราจะสามารถไปกลับได้ในวันเดียว และนั่งเรือไม่ไกลค่ะ
หลังจากหาข้อมูลแล้ว เราก็ต้องแปลกใจว่ามันมีเกาะใกล้ๆ ภูเก็ตที่เราไม่เคยไป ไม่ค่อยรู้จัก แต่ก็สวยงามไม่แพ้ใครอยู่หลายเกาะเลยทีเดียว ไม่รอช้า แม่จัดการจองทัวร์ไปเกาะต่างๆ เหล่านั้นทันที
ขออนุญาตแบ่งรีวิวชุดนี้ออกเป็นสองตอนนะคะ  ตอนแรกนี้ไปเที่ยวเกาะกันก่อน
ตอนหน้าจะพาไปพักผ่อนสบายๆ ที่ Sala Phuket กันค่ะ
พร้อมแล้วไปลงทะเลกับเด็กจิ๋วเลยค่ะ




เราเดินทางกันด้วยสายการบิน Orient Thai ซึ่งเด็กจิ๋วชอบมาก เพราะมีแจกถั่ว
(ตอนหลังแม่พานั่ง TG เด็กจิ๋วไม่ชอบ เพราะพี่แอร์ไม่แจกถั่ว)
วันแรกเราไปถึงกันค่ำมืดแล้วก็เข้าโรงแรมนอนเลย เก็บแรงไว้ตะลุยเกาะพรุ่งนี้กัน
สองคืนแรกเรานอนที่ Blu Monkey โรงแรมน่ารักๆ ที่ราคาก็น่ารักๆด้วย (เป็นเหตุผลหลักที่เลือกที่นี่ หุหุ)

เข้าประตูมาก็จะเจอกับเคาท์เตอร์เช็คอิน ตกแต่งน่ารักๆ
 
มีของที่ระลึกเป็น series ลิงน้อยสีฟ้าจำหน่ายด้วย

ห้องที่เราพักอยู่ชั้นล่าง อันนี้แจ้งขอไว้ตั้งแต่ตอนจองเพราะคิดว่าน่าจะสะดวกกับการขนย้ายสัมภาระและเด็กจิ๋วมากกว่าชั้นบน
เพราะเนื่องจากที่นี่ไม่มีลิฟท์
 
ห้องพักตกแต่งเก๋ๆด้วยโทนสีขาวดำ มีวาดลวดลายสวยๆบนกำแพง ทำให้ดูดีมากโดยไม่ต้องพึ่ง wallpaper
 
ห้องน้ำขนาดกำลังพอดี ถึงจะไม่กว้างขวางแต่ก็สะอาด และสะดวกสบายดี

เนื่องจากได้หลับเอาแรงบนเครื่องบินมาแล้ว มาถึงโรงแรมเด็กจิ๋วเลยไม่ยอมหลับยอมนอน คึกคักมากเป็นพิเศษ

พาออกมาดูนอกห้องกันบ้างนะคะ
อันนี้เป็นบันไดขึ้นชั้นสอง
 
ตรงทางเข้าห้องพักมีตู้แช่อาหารแช่แข็งด้วย เราไปรับแจกมา 2 set เนื่องจากมีรวมอยู่ใน voucher ที่ซื้อมาจากงานท่องเที่ยว
อาหารก็จะเป็นพวกเกี้ยวน้ำ บะหมี่โน่นนี่ รับแล้วก็มีไมโครเวฟให้อุ่นเอาไปทานที่ห้องได้ค่ะ

แอบเดินขึ้นบันไดมาดูชั้นบนนิดนึง
 
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีสามชั้นนะคะ โรงแรมตกแต่งเรียบๆ สีขาว ดำ เทา ดูทันสมัยดีค่ะ

เช้าวันต่อมา รถจากบริษัททัวร์ก็มารับแต่เช้าตรู่ เพื่อไปเที่ยวทริปเกาะเฮ เกาะราชา (รายา) แบบเต็มวัน
นั่งรถไม่น่าจะไกล แต่นาน เพราะรถตู้ต้องวนรับแขกหลายโรงแรม (มารับเราเป็นเจ้าแรกซะด้วย)
รถตู้มาส่งเราที่สำนักงานของบริษัททัวร์ แถวอ่าวฉลอง ซึ่งเราตกใจเล็กน้อย เพราะคนเยอะมากๆ คนจีนเยอะมาก เกาหลีเยอะ ฝรั่งก็มี ไทยน้อยสุด
จากนั้นก็แจกสติ๊กเกอร์สีๆ แปะที่เสื้อเป็นการแบ่งว่าใครไปเรือลำไหนกับไกด์คนไหน
(ซึ่งอันนี้ไม่ดีเลย เพราะพบว่าพอตัวเปียก มันก็หลุดเป็นขยะลงทะเล เราไปเจอเศษขยะสติ๊กเกอร์สีๆที่เกาะเยอะเลยค่ะ ความจริงมันมีวิธีแบ่งสีแบบอื่นอีกตั้งเยอะนะ เช่นสายรัดข้อมือ ถ้ากลัวเปลือง เอาเป็นเชือกก็ได้ - -' )

เกาะเฮ (Coral Island) เป็นเกาะเล็กๆที่คึกคักมาก คนเยอะมากเมื่อเทียบกับขนาดของเกาะ เราว่ามันเยอะเกินไปด้วยซ้ำ
คือแทบจะไม่มีที่นั่งเล่นชิลๆ เลย เราปูเสื่อนั่งเล่นใต้ต้นไม้กับลูก จะมีคนเดินผ่านไปมา เหยียบทราย เตะทรายเข้ามาในเสื่อตลอดเวลา (ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน)
มันเลยทำให้ที่นี่สวยน้อยลงไปหน่อย ทั้งๆที่ถ้าพิจารณาเฉพาะสีน้ำทะเล หาดทราย (ขาวละเอียดมาก) ที่นี่ก็สวยมากๆ ไม่แพ้เกาะไกลๆในอันดามันเลย

นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเรือเดียวกับเราเล่นเรือลากล่ม (พาราเซลล์) ด้วย ทั้งๆที่ไกด์ให้เวลาที่นี่แว้บเดียวมากๆ สามารถจริงๆ
 
งานนี้เด็กจิ๋วเตรียมมาลงทะเลเต็มที่ ดำก็ไม่หวั่น

มีเรื่องบ่นไกด์อีกคือตอนจะกลับจากเกาะเฮ เรารอกันตรงจุดนัดหมาย แต่คนยังมาไม่ครบ ปะป๊าเลยขอวิ่งไปถ่ายรูปอีกนิด
พอคนมาครบ ปะป๊าดันยังไม่มา ตะโกนเรียกก็ไม่ได้ยิน ไกด์บอกให้เราไปตาม คือเราอุ้มลูก สะพายกระเป๋ากล้องใหญ่มาก ถือเสื่อ ถืออุปกรณ์เล่นทรายของลูก ยืนละล้าละลังอยู่ตรงข้างๆเรือ เราบอกไกด์ว่าฝากของไว้ก่อน เดี๋ยววิ่งไปตามปะป๊า แต่ไกด์เฉยๆ อ่ะ เอ่อ... ไม่ช่วยเหรอ งงเลย (ในใจคิดว่ามันไม่ไกล เพียงแต่เค้าไม่ได้ยินเราเรียก เค้าหันหลังอยู่ด้วย มองไม่เห็นเราว่าจะขึ้นเรือแล้ว ถ้าไกด์วิ่งไปซักสิบก้าว เรียกให้ ก็ไม่น่าจะเดือดร้อน เพราะสภาพเราวิ่งไปไม่ไหวจริงๆ ถ้าจะให้เราวิ่งไป ฝากของหน่อยได้มั้ย?) ระหว่างที่กำลังงงว่าจะเอาไงดี เรือจะทิ้งเราสามคนมั้ย ปะป๊าก็หันมาเห็น แล้ววิ่งมาขึ้นรือทันพอดี อันนี้เราก็รู้ว่าเราผิดเอง ที่ปะป๊าดันวิ่งไปถ่ายรูปตอนเค้าจะขึ้นเรือ แต่ไกด์น่าจะมีน้ำใจให้ซักนิด ช่วยถือของก็ยังดี อันนี้ทำให้ลดระดับความงามของเกาะไปอีกจิ๊ดนึง
 
มุมนี้แหละที่ปะป๊าวิ่งมาถ่ายรูปก่อนขึ้นเรือ

ออกจากเกาะเฮ นั่งเรือมาไม่นานก็มาถึงเกาะราชา ซึ่งไกด์จะเรียกว่ารายา
มีฝรั่งถามว่าทำไมมันมีสองชื่ออันไหนคือชื่อที่ถูกต้อง เดี๋ยวรายา เดี๋ยวราชา งง (เออ..เราก็อยากรู้เลยรอฟังคำตอบด้วย)
ไกด์ก็เฉไฉเรื่องอื่น ไม่ตอบซะงั้น ตอบไม่ได้หรือไม่อยากตอบ หรืออะไร ฝรั่งก็งงไป ไทยก็งงตาม

พอขึ้นฝั่งไกด์ก็นำพวกที่ไม่ไปดำน้ำไปกินข้าวกลางวันกัน ส่วนใครดำน้ำ ก็จะตามไปกินทีหลัง
ร้านที่กินเรียกได้ว่าอยู่กลางๆเกาะ ต้องเดินลึกเข้าไปพอสมควร แดดก็ร้อนมาก เราเลยว่ามันทรมานไปนิดนึง
อาหารจะจัดแบบบุฟเฟต์ คุณภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และไม่อร่อยสำหรับเราเลย
(555 ตั้งแต่เริ่มทริปมา มีบ่นโน่นนี่เยอะแยะเลย ทำไงได้คะ มันไม่ถูกใจจริงๆ สถานที่สวย วิวสวย แต่การบริการไม่ดีจริงๆ ไม่รู้ว่าทัวร์บริษัทอื่นเป็นแบบนี้รึเปล่า)

หลังทานข้าวเสร็จเรามานั่งเล่นกันที่หาดเป็นเวลานานมากๆ คงเป็นเพราะเราไม่ไปดำน้ำ ทำให้มีเวลาที่หาดนานขนาดนี้
 
ที่นี่แดดร้อนมาก เช่าร่ม เช่าเตียงผ้าใบก็เอาแทบไม่อยู่

ถึงแม้อากาศจะร้อนมากมาย แต่เด็กจิ๋วชอบมาก ทรายที่นี่เนียนละเอียดเหมือนแป้ง นุ่มมากๆ เล่นสนุกสุดๆ

ระหว่างที่แม่กับเด็กจิ๋วเล่นทรายบ้าง เล่นน้ำทะเลบ้าง ปะป๊าก็เดินทะลุเกาะไปถ่ายรูปอีกด้าน
ตรงนี้คนจะน้อยกว่าตรงหน้าเกาะที่เรามาลงเรือมากๆ

เกาะรายามีรีสอร์ทสวยๆหลายที่เลย ลองดูราคาใน web โอว..แพงมากเหมือนกันนะเนี่ย

เล่นน้ำ เล่นทรายเสร็จ ก็มาอาบน้ำ นั่งกินโรตี รอเวลาขึ้นเรือ
คราวนี้ปะป๊าไม่แว้บไปไหนแล้ว จ้องรอเวลาขึ้นเรือเลย เดี๋ยวแม่ลำบากอีก

พอกลับถึงโรงแรม อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เรียกแท็กซี่ไปร้านระย้า
(ค่าแท็กซี่ที่ภูเก็ตนี่โหดจริงค่ะ ใกล้จิ๊ดเดียว โดนไปสองร้อย)
เราสั่งแกงปู ปลาหมึกผัดไข่ ผัดใบเหลียง และผัดซีอิ๊วกุ้งให้เด็กจิ๋ว
ก็อร่อยนะคะ แต่เราคงคาดหวังไว้สูงไปมากๆ เลยไม่ฟินเท่าที่ควรค่ะ

เช้าวันต่อมา เรามีโปรแกรมไปเกาะไข่ แบบทัวร์ครึ่งวันกัน
ซึ่งวันนี้เรามีเพื่อนเด็กจิ๋วมาสบทบด้วย

รถตู้มารับเราแต่เช้าตรู่เหมือนเดิม
เรานั่งเรือแค่เพียง 20 นาทีก็มาถึงเกาะไข่ในแล้ว
ดูเหมือนว่าเรือเราจะเป็นลำแรกๆที่มาถึง เพราะที่เกาะยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ (ผิดกับเกาะเฮเมื่อวานนี้)
ที่เกาะไข่ใน น้ำใส สีสวย ทรายขาวละเอียดมาก
มีนักท่องเที่ยวเอาขนมปังไปเลี้ยงปลา (อีกแล้ว) เมื่อไหร่ทางทัวร์จะประชาสัมพันธ์รณรงค์ไม่ให้ทำอย่างนี้ก็ไม่รู้

เราเช่าเก้าอี้ นั่งเล่นกันอยู่แถวๆที่ลงจากเรือนั่นแหละค่ะ
ส่วนปะป๊าเดินไปสุดเกาะตรงที่มีแหลมยื่นออกไป เดินกลับมาเลือดโชกขาเลย
เนื่องจากว่าลื่นก้อนหิน แล้วมันมีเพรียง บาดซะลึกเลย

ตรงกลางๆของเกาะ จะมีเพิงที่ปลูกไว้คล้ายว่าเป็นร้านอาหาร

ถ่ายรูปกันเพลินๆ แป๊บๆ ไกด์ก็ตามขึ้นเรือไปจุดต่อไปแล้วค่ะ
นั่งเรือต่อไปแป๊บเดียวก็มาจอดให้คนลงดำน้ำที่เกาะไข่นุ้ย
ณ จุดนี้พวกเราก็ได้แต่นั่งรอบนเรือ เพราะมีเด็กๆไปด้วย ไม่สะดวกลงดำน้ำ
ไกด์คงเห็นว่าเด็กๆนั่งรอจะเบื่อ เลยไปดำน้ำเอานีโม่มาให้เด็กๆ ดู (เอ่อ...ไกด์คะ ทำไมทำแบบนี้วะคะ)
เราก็อึ้งไป ได้แต่บอกลูกและหลานๆว่านีโม่เค้าอยู่ในน้ำ ที่ดอกไม้ทะเลบ้านเค้า
แล้วเค้าโดนจับมาอย่างนี้น่าสงสาร เราไม่ดูนะคะ เราให้เค้าเอาไปปล่อยเร็วๆนะคะ
โชคดีที่เด็กจิ๋วเข้าใจ เพราะดูการ์ตูนเรื่องนีโม่แล้วเค้ารู้ว่าตอนคนจับนีโม่ไป น่าสงสาร
ไกด์ไม่น่าทำอย่างนี้เลยค่ะ

จุดสุดท้ายที่มาแวะคือ เกาะไข่นอก
พวกเราประทับใจวิวที่เกาะไข่นอกกันมากๆเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าจะสวยขนาดนี้
น้ำใสมาก ทรายขาวมาก (แล้วก็ร่มกับเก้าอี้ผ้าใบเยอะมากๆ)

บาร์ข้างๆ ดูดิบๆ เซอร์ๆ สวยไปอีกแบบ

ที่เกาะไข่นอกไกด์มีเสิร์ฟผลไม้เย็นชื่นใจและขนมปัง แซนด์วิชด้วย
นั่งหม่ำชิลๆ เล่นน้ำ เล่นทรายกันแป๊บนึง ก็ได้เวลากลับแล้ว