วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

3 ขวบ 9 เดือน



๓ ขวบ + ๒๗๔ วัน...อังคาร ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนอุตส่าห์สัญญากันแล้วว่าถ้าจะเล่นกับปะป๊า วันนี้ตอนเช้าต้องตื่นมายิ้ม ห้ามงอแง ไม่เห็นเป็นไปตามสัญญาเลย วันนี้ปะป๊าเลยเพิ่มกฎข้อที่ 10 เราต้องรักษาสัญญา นอกจากจะไม่ตื่นมาแต่โดยดีแล้ว ยังงอแงตลอด ทั้งตอนแต่งตัว ทำผม มีปัญหากับที่คาดผมมาก จะเอาอันเมื่อวาน แต่เราบอกว่ามันไม่เข้ากับชุดก็ไม่ยอมเชื่อ พอเดินไปหน้าห้องเจอนิตา นิตาอุตส่าห์มารอรับ จะจูงมือเด็กจิ๋วเข้าห้อง แต่เด็กจิ๋วสะบัดแล้วทำแห่ใส่ด้วย เดี๋ยวตอนเย็นมีชำระความกัน
...วันนี้ไปถามครูอ๊อดเรื่อง Teacher มาแล้ว เด็กจิ๋วไม่ได้มั่ว Teacher J จะกลับประเทศไปแล้ว ต่อไป Teacher Mike จะมาสอนแทน
...ตอนเย็นไปเรียนศิลปะกับนิตา อั่งอั๊ง ครั้งนี้เหมือนๆครั้งที่แล้ว เด็กจิ๋วทำงานเร็วมาก วาดเสร็จ ระบายเสร็จ ในขณะที่คนอื่นยังเริ่มร่างอยู่เลย แต่ผลงานที่ออกมาก็แย่สุดเหมือนกัน คือเน้นทำเร็วแต่ไม่ค่อยตั้งใจ จะทำยังไงดีนะ พยายามบอกว่าให้ตั้งใจก็พยักหน้า แล้วก็ทำแบบนี้แหล่ะ คือไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าตั้งใจคืออะไร อั่งอั๊งยังคงทำได้ดีที่สุดเหมือนทุกครั้ง ดูตั้งใจทำงานมาก ค่อยๆตัดเส้นลงรายละเอียดได้ดีมากๆ เด็กๆระบายสีเสร็จก็เล่นกันเสียงดังลั่นอีกตามเคย วันนี้เล่นรีรีข้าวสารด้วย สนุกสนานมาก ต้องลากกันออกมาเล่นข้างนอกเพราะเกรงใจนักเรียนคนอื่น วันนี้มีเด็กมาเรียนเยอะด้วย สิบกว่าคนได้ เพราะเป็นช่วงปิดเทอม

๓ ขวบ + ๒๗๕ วัน...พุธ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๖
...อย่างที่เคยบอกว่าคุณแม่ไม่น่าไปเริ่มเกาหลังให้เด็กจิ๋วเลย ความซวยไม่ได้อยู่ที่คุณแม่แล้ว มาตกอยู่กับปะป๊านี่แหล่ะ เพราะปะป๊าต้องพาเด็กจิ๋วเข้านอนทุกวัน เมื่อคืนก็เอาอีกแล้ว ให้ปะป๊าเกาหลังให้หน่อย เกาจนหลับไปเลย ปะป๊าเกามือซ้าย เปลี่ยนมือขวา กลับมาซ้าย เปลี่ยนไปขวา ห้ามหยุด เพราะหยุดแล้วไม่ต่อเนื่อง ต้องทำทุกวิถีทางให้หลับเร็วที่สุด เมื่อยมากๆก็กระโดดข้ามตัวจิ๋วไปอีกฝั่งบ้าง เปลี่ยนท่าใหม่เอาแขนตั้งขึ้นมาค้ำมืออีกข้างให้ห้อยๆ นั่งเกานอนเกา ตั้งนานนนนกว่าจะหลับ เด็กจิ๋วก็เพลินเลยนะ 
...ทุกวันนี้ตอนไปส่งเด็กจิ๋วที่หน้าห้องเรียน เด็กจิ๋วยังไม่ยอมเข้าห้องแต่โดยดีอยู่เลย จะต้องมาเกาะปะป๊ากับคุณแม่ กอดกัน ซบกันนัวเนีย ต้องงัดแขนขากันทุกวัน ส่วนใหญ่ครูจะงัดไป วันนี้โชคดี ระหว่างที่กำลังงัดๆกันอยู่ มีเพื่อนเด็กจิ๋วคนใหม่ ชื่ออะไรยังไม่รู้ อยู่ดีๆก็อ้วกพุ่งออกมากลางห้องเรียน ทุกคนตื่นตะหนกกันใหญ่ เด็กจิ๋วเลยยอมเดินเข้าห้องเรียนไปเองด้วยความงงๆ
...วันนี้เพิ่มกฎเด็กดีข้อที่ 10 ให้เด็กจิ๋ว เราต้องรักษาสัญญา อันนี้ปะป๊าเพิ่มเพื่อเอาไว้หลอกเด็กจิ๋วเท่านั้นแหล่ะ อย่างตอนกลางคืนก็บอกว่า สัญญากันว่าอ่านนิทาน 3 เล่มเสร็จแล้วต้องนอน เพราะเรารู้ว่าอ่านจบ 3 เล่ม เด็กจิ๋วก็เล่นอย่างอื่นอีก แต่พองัดเอาสัญญามาใช้ เด็กจิ๋วดันเชื่อแต่โดยดี ที่จริงก็โดนหลอกนั่นแหล่ะ แต่เราเองก็ต้องรักษาสัญญากับเด็กจิ๋วด้วย อย่างวันนี้สัญญากันว่าให้ปะป๊าเลือกชุดให้ พรุ่งนี้จะให้เด็กจิ๋วเลือกเอง เราก็ต้องทำตามสัญญาให้ได้ ไม่งั้นเด็กจิ๋วจะไม่เชื่อ 

๓ ขวบ + ๒๗๖ วัน...พฤหัส ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ตามสัญญาที่ให้กันไว้เมื่อวาน วันนี้เด็กจิ๋วได้เลือกชุดเอง ซึ่งเด็กจิ๋วก็เลือกอยู่อย่างเดียวนั้นแหล่ะคือชุดกระโปรง ชอบมาก โชคดีที่มีให้เลือก 4-5 ตัว ไม่งั้นจะเหมือนน้องอุ้ม เพื่อนเด็กจิ๋ว คนนั้นใส่อยู่ชุดเดียวทุกวันคือชุดซินเดอเรลล่า ใส่ชุดเดียวทุกวันจริงๆ เคยคุยกับพ่อน้องอุ้มบอกว่าต้องซื้อมาให้ 2 ชุด ผลัดกันใส่คนละวัน ไม่งั้นจะไม่ได้ซักชุดเลย
...ทุกๆวันจะมีปัญหากับเด็กจิ๋วเรื่องการทำผม เด็กจิ๋วเรื่องมากอ่ะ จะเอาทรงนั้นทรงนี้ ติดที่คาดผมอันนั้นไม่เอา เอาอันนี้ กิ๊ฟไม่เอาลายนี้ เอาใหญ่ๆ มั่วซั่วไปหมด แล้วชอบมากเลยคืออยากจะปล่อยผมไปโรงเรียน คุณแม่ไม่ยอมบอกว่าไม่ได้เด็ดขาด แต่ปะป๊าว่ายอมๆไปบ้างก็ไม่เป็นไรนี่หน่า คุณแม่บอกว่าไปโรงเรียนมีกิจกรรมเยอะแยะ ปล่อยผมแล้วผมเละเทะเข้าหน้าเข้าตาไม่เรียบร้อย
...ตอนเย็นเด็กจิ๋วยังคงวุ่นวายอยู่กับเรื่องผมตัวเอง วันนี้ปะป๊าไปรับคนเดียวอีกแล้ว ระหว่างอุ้มเดินออกมาจากห้องเรียน เด็กจิ๋วก็รีบฟ้องทันทีว่า “น้องพริมบอกครูขวัญให้มัดจุกตรงกลางรวม แต่ครูขวัญไม่ยอม ทักเปียให้”...ให้ปะป๊าทำผมให้ใหม่หน่อย ปะป๊าก็เจรจาบอกว่ากลับบ้านก่อนได้ไม๊ คุณแม่ไม่มา ปะป๊าทำไม่เป็น เด็กจิ๋วไม่ยอม ในที่สุดปะป๊าต้องไปซ่อมผมให้เด็กจิ๋วที่รถ ฝนก็ตก ต้องยืนตากฝนเอื้อมมือเข้าไปทำผมให้เด็กจิ๋ว เอาเปีย 2 ข้างมารวมกันด้านหลังแล้วมัดจุกรวม กว่าจะเสร็จ ปะป๊าเป็นหวัดนี่เพราะเด็กจิ๋วเลยนะ

๓ ขวบ + ๒๗๗ วัน...ศุกร์ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๖
...เมื่อวานนัดกับแม่ๆเพื่อนเด็กจิ๋วแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้นัดกันไป Kidzoona ที่ชัวร์ๆก็มีนิตา อั่งอั๊ง นีโอ ส่วนเมมิก็น่าจะไปแต่รอคอนเฟิร์มก่อน เด็กๆรวมตัวกันอีกแล้วจะเกิดอะไรขึ้น นึกถึงตอนที่ไปถล่มเซนลาดมาคราวที่แล้ว แต่ครั้งนี้อยู่ในสวนสนุก ถ้ากรี๊ดกร๊าดมาก คนคงไม่ว่าอะไร
...ตอนบ่ายปะป๊ากับคุณแม่ไปช้อปปิ้งกันก่อนจะไปรับเด็กจิ๋ว กว่าจะไปถึงโรงเรียนก็ 3 โมงแล้ว รู้สึกว่าเย็นมากๆ ไปถึงก็เจอเด็จกิ๋ว นิตากับอั่งอั๊ง แค่ 3 คนเอง คนอื่นกลับกันหมดแล้ว วันก่อนๆเราจะไปรับเด็กจิ๋ว 2 โมงนิดๆ รู้สึกว่านิตากับอั่งอั๊งจะกลับเย็นทุกวัน มีน้องครับอีกคน อย่างเมื่อวานก็เหลือครับ นิตา อั่งอั๊ง 3 คนสุดท้าย
...ตอนไปเรียนเปียโน ปะป๊าแอบดูพฤติกรรมเด็กจิ๋วผ่านช่องกระจก เห็นเด็กจิ๋วเกรียนคุณครูมากๆ คือเริ่มสนิทก็เริ่มเกรียน เล่นกับครู ครูถามว่า C คือตัวอะไร เด็กจิ๋วก็แกล้งตอบมั่ว คือโด เร มี ฟา ซอล ครูบอกให้กดก็ไม่กด เล่นที่วางโน๊ต ยกขึ้นยกลง ดูแล้วน่าโมโหมากๆ อยากจะเคาะประตูแล้วเดินเข้าไปบอกว่าให้ตั้งใจเรียนหน่อย แต่คิดว่าครูคงเจอเด็กแบบนี้มาเยอะ น่าจะมีวิธีจัดการ แต่เห็นตอนท้ายๆก็กลับมาตั้งใจเรียนหน่อย พอเลิกออกมา ปะป๊าก็ดุเลยบอกว่าต้องตั้งใจเรียน ห้ามไปเกรียนคุณครู อย่างอั่งอั๊งเนี่ยะ เพิ่งคุยกับแม่เค้ามา เค้าบอกว่าจะให้เลิกเรียนแล้ว เพราะเรียนก็ไม่ตั้งใจ ครูบอกให้ทำอะไรก็ไม่ทำ อันนี้เข้าใจเลย เพราะอั๊งจะเป็นแนวแบบชิวมาก เราบอกอะไรก็จะ ignore พ่อของอั๋งเห็นว่าไม่รุ่งก็เลยสั่งเลิกเรียน โชคดีที่เด็กจิ๋วยังชอบเรียนอยู่ ปะป๊าถามครูหวานแล้วว่าโดยรวมเป็นไง ครูหวานบอกว่าน้องพริมก็ดูชอบเรียนดีนะ

๓ ขวบ + ๒๗๘ วัน...เสาร์ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้นัดเพื่อนๆห้องแปดไปถล่ม kidzoona กัน นัดกัน 10-11 โมง เราไปถึง 11 โมงปรากฎว่าคนอื่นๆยังไม่มากันเลย มีแต่นิตาคนเดียว ไปถึงพร้อมๆกัน ตอนแรกเด็กจิ๋วทำท่าผิดปกติตอนเจอนิตา ถอยกรูดมาอยู่หลังปะป๊า เกาะขาแน่น เอ๊ะ เป็นอะไร และแล้วคุณแม่ก็บอกว่า สงสัยกลับพ่อนิค เพราะเราชอบเอาพ่อนิคมาขู่เด็กจิ๋ว บอกว่าพ่อนิคดุ ถ้าดื้อเดี๋ยวให้พ่อนิคมาจัดการ อะไรประมาณนี้ ต้องกราบขอโทษพ่อนิคมา ณ โอกาสนี้ด้วย แต่อยู่กันไปเรื่อยๆก็เริ่มคุ้นชิน ไม่นานก็หายกลัว
...เข้าไปถึงเด็กจิ๋วก็ตื่นเต้นวิ่งไปเล่นของเล่นตรงโน้นตรงนี้ทันที เราต้องวิ่งตามจับกลับมาแล้วบอกว่า กฎข้อที่ 3 คืออะไร ...เวลาเล่นต้องชวนเพื่อนๆมาเล่นด้วยกัน ให้ไปชวนนิตาไปเล่นด้วยกันดิ่ มาเที่ยวด้วยกันดันมาทิ้งเพื่อนซะงั้น ว่าแล้วก็ชวนกันไปขายหนมเค้ก ทั้ง 2 คนจริงจังกันมาก ตั้งหน้าตั้งตาทำหนมเค้กขายใหญ่ สักพักคนอื่นๆก็ตามกันมา มีเมมิ อั่งอั๊ง นีโอ ปาร์ตี้ อาธิป เบ๊พ แต่เด็กแต่ละคนมีความคิดเป็นของตนเอง แต่ละคนอยากเล่นของไม่พร้อมกัน ฉะนั้นเลยไม่ค่อยได้เล่นกันซะเท่าไหร่ วิ่งไปวิ่งมา เจอกันบ้าง แยกกันบ้าง ผู้ใหญ่ได้แต่ไล่ตาม ตอนแรกเราก็พยายามบังคับ ให้ยิ้ม ให้มายืนตรงนี้ ยืนข้างกันดิ่ ยิ้มด้วย ใส่ชุดหน่อย ถือจานหนมด้วย มาเล่นกับเพื่อนคนนั้นคนนี้ สั่งโน่นสั่งนี่ ตอนหลังๆคิดขึ้นมาได้ เราพาเด็กมาเล่นนี่หน่า เด็กมันคงเบื่อถ้ามัวแต่โดนสั่งให้ทำตาม ตอนหลังคิดได้เลยปล่อยตามใจชอบ อยากเล่นอะไรอยากเล่นกับใครก็ตามใจเลย
...ตอนเที่ยงๆพากันออกมากินข้าวกลางวันกันหน่อยที่ฟู้ดคอร์ด กินเสร็จก็รีบกลับเข้าไปเล่นกันต่อ ช่วงบ่ายปะป๊าขอเก็บกล้อง ไม่ถ่ายรูปอะไรทั้งสิ้น ขอเล่นกับเด็กจิ๋วให้มันส์ไปเลย ว่าแล้วก็ตลุยสไลเดอร์ยักษ์กัน เมื่อคราวที่แล้วเด็กจิ๋วไม่กล้าไหลคนเดียว แต่คราวนี้ลองดู พอทำได้ครั้งหนึ่งก็ติดใจแล้วคราวนี้ เล่นไม่เลิก วิ่งขึ้นลื่นลงได้อย่างรวดเร็ว สนุกสนานมากๆ พอๆกับเมมิเลย เมมิเก่งมาก วิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วไหลลงแบบไม่มีรีรอ รู้สึกว่าปาร์ตี้จะไม่กล้าเลย นีโอต้องนั่งตักแม่ น้องเบ๊พไม่แน่ใจ นิตากับอั่งอั๊งก็พอๆกัน กล้าเล่นแต่ไม่ฮาร์ดคอร์เท่าเมมิกับเด็กจิ๋ว
...คราวนี้รู้สึกว่าบ่อบอลไม่ค่อยหนุกเหมือนคราวที่แล้ว บอลน้อยลงมาก ไม่ได้ดำผุดดำว่ายกันเลย หรือว่าที่บ้านเรามีบ่อบอลเองแล้ว มีกิจกรรมระบายสีด้วยซึ่งคราวที่แล้วไม่เห็น เค้าให้ระบายสีตุ๊กตาแล้วเอาไปเคลือบพลาสติกเสียบไม้ให้ถือ พอได้เวลาเริ่มจะเย็นแล้ว 3-4 โมงได้ ก็ชวนกันออกมาเล่นม้าหมุน โดยแม่ๆรวมตัวกันบอกว่าเล่นม้าหมุนเสร็จให้มั่วนิ่มพากลับบ้านเลย ไม่งั้นไม่เลิก คราวที่แล้วเด็กจิ๋วก็มาเล่นม้าหมุน แต่ไม่เห็นมีชุดเจ้าหญิงให้ใส่แบบนี้เลย วันนี้มีชุดเจ้าหญิงพอดีให้เด็กจิ๋ว เมมิ อั่งอั๊ง นิตา 4 คนใส่พอดีเลย ที่จริงมีน้องเบ๊พอีกคนแต่ไม่มีชุดเจ้าชายให้ใส่ เด็กๆใส่ชุดเจ้าหญิงกันน่ารักมาก คนละ 40 บาท ปะป๊าว่าคุ้มตรงได้ใส่ชุดนี่แหล่ะ ม้าหมุนหลอกเด็กมากๆ แต่ขนาดนี้นิตายังกลัวเลย บอกให้ป้ากวางไปนั่งด้วยไม่กล้านั่งคนเดียว
...ออกจากม้าหมุนได้ก็ใช่ว่าจะกลับได้ง่ายๆ ยังมีด่านของเล่นหยอดเหรียญอีก ซึ่งก็เล่นกันอยู่อีกสักพักเลย สนุกดี เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ทุกครั้งที่แยกย้ายกัน นิตา กับอั่งอั๊งมักจะร้องไห้หรืองอแง ครั้งนี้ก็เป็น แต่เด็กจิ๋วไม่เคยเลย เก่งมากๆ ยอมแยกย้ายจากเพื่อนๆแต่โดยดี หรือเด็กจิ๋วจะรู้ว่าแยกกันแล้วก็ยังมีสิ่งดีๆรออยู่อีก ว่าแล้วเราก็พาไปกินร้านอาหารสุดโปรด คือพวกเสียบไม้ย่าง แล้วยังต่อด้วยไอติมอีก กลับมาบ้านแช่จากุซซี่ นอนฟังนิทาน ดูดนม กอดหมีหมี ให้ปะป๊ากับคุณแม่เกาหลัง หลับไปอย่างมีความสุข รู้สึกช่างเป็นวันที่แสนสดชื่นของเด็กจิ๋วจริงๆ

๓ ขวบ + ๒๗๙ วัน...อาทิตย์ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ตามสัญญาที่ให้กันไว้เมื่อคืน เด็กจิ๋วตื่นมาก็รีบตามปะป๊ามาห้องโฮมด้วยอารมณ์ลั้นลา ขอดูมาริโพซ่า บาร์บี้ตอนใหม่ที่เพิ่งโหลดมาให้ดู เสร็จแล้วก็ไปเซนลาดกัน ทีแรกบอกเด็กจิ๋วว่าจะพาไปซื้อชุดเจ้าหญิงที่ตลาดหลังการบินไทย แต่เช็คดูแล้ววันนี้เค้าปิด เลยเปลี่ยนแผนไปซื้อที่เซนลาด แพงหน่อย แต่ว่าเป็นแบบชุดที่ใส่จริงจัง อย่างชุดที่การบินไทยจะเป็นชุดแบบฮาโลวีน คือสวยงามเหมือนชุดเจ้าหญิงจริงๆ แต่มันไม่เหมาะจะใส่ประจำวันแบบเสื้อผ้าปกติ ด้วยเนื้อผ้า การตัดเย็บแล้วก็ความอลังการ ชุดแบบนี้จะเหมือนที่อั่งอั๊งกับเมมิชอบใส่ แต่ชุดที่ห้างจะเป็นแบบที่น้องอุ้มใส่มาโรงเรียนทุกวัน คือเป็นชุดเด็กปกติแต่ทำกระโปรงสุ่มๆหน่อย แล้วก็มีลายเจ้าหญิง พอไปถึงที่ร้านก็เลือกตัวนั้นตัวนี้มาให้เด็กจิ๋วลอง การลองแต่ละชุดเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเด็กจิ๋วเล่นตัวมาก จะเอาตัวนั้นตัวนี้ ซึ่งบางทีก็เป็นของเด็กไม่มี size บางตัวก็ไม่ถูกใจเรา ก็บังคับกันอยู่นานได้มาชุดหนึ่งเป็น arial คือเป็นเสื้อยึดราย Arial ธรรมดานี้แหล่ะ แล้วก็กระโปรงบานๆสีเชียว เราว่าแบบนี้ไม่ต้องเป็นชุดอลังมากแต่ใส่ได้ทุกๆวัน ทั้งเสื้อและกระโปรงชุดละพันกว่าบาท ตอนแรกก็ว่าแพงนะ แต่พอซื้อแล้วก็ว่าไม่แพง ถ้าเทียบกับเสื้อผ้าคุณแม่กับปะป๊า แล้วเทียบกับคุณภาพ หลังจากนั้นก็ไปดูร้านโปรด Pum ซึ่งที่จริงแล้วมีชุดสวยมากๆเยอะแยะเลย แต่ปกติไม่กล้าซื้อเพราะมันแพง รอตอนมันเซล ซึ่งตัวสวยๆก็ไม่ยอมมาเซล แล้ววันนี้ ลองมาเทียบราคากับของร้านเสื้อเจ้าหญิง มันก็เท่ากันเลย ก็เลยได้เสื้อผ้าของ pum มาอีก 3-4 ชิ้น เสื้อผ้าจิ๋วหมดไป 3 พันกว่าบาท  แต่ก็สวยถูกใจมากๆ ของที่ซื้อตอนเซลก็หลายพันเหมือนกัน เฉลี่ยแต่ละตัวราคาถูกจริง แต่จะมีอยู่หลายตัวที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใส่เพราะตอนซื้อก็งกๆซื้อมาก่อน แต่พอจะเอามาใส่ก็ไม่ค่อยถูกใจ
...นอกจากชุดจากร้าน pum แล้ว วันนี้ยังได้หมีหมีเวอร์ชั่นใหม่มาด้วย เป็นหมอนเด็กเบบี๋ใบเล็กนิดเดียว เป็นหัวหมีเหมือนหมีหมีสุดรัก อันนี้ผ้าเป็นขนๆน่ารักมาก แล้วมีที่ปิดตาใส่มาด้วย เด็กจิ๋วเห็นแล้วปิ้งเลย หยิบมากอดตั้งแต่นาทีนั้น จนกลับถึงบ้าน บอกว่ารักมาก รักเท่ากับหมีหมีเลยทีเดียว อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะตอน markII ตัวบวมก็บอกว่ารักเหมือนกัน แต่ผ่านไปแค่ 2-3 วันก็มาบอกปะป๊าว่า “ทำไมน้องพริมไม่รัก mark II แล้วล่ะ”...จะไปรู้เหรอ คงเป็นเรื่องความผูกพันมั้ง
...วันนี้ก็ยังเป็นวันที่แสนสดชื่นของเด็กจิ๋ว รับรู้ได้ด้วยเสียงหัวเราะทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ วันนี้เป็นเด็กดีน่ารัก ตอนที่ห้างมีงอแงไม่ยอมใส่ชุดบ้าง แต่ก็ยกอภัยให้นะเด็กจิ๋ว


๓ ขวบ + ๒๘๐ วัน...จันทร์ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ช่วงซัมเมอร์ ทุกวันตอนเช้าครูจะพาเด็กๆมารวมตัวกันที่ห้อง 9 เพื่อเล่นกิจกรรม วันนี้เราไปแอบดูกล้อง เห็นครูพาเด็กๆเล่นงูกินหาง คือห้องเล็ก แต่เด็กเยอะเพราะรวมเด็ก 3 ห้อง น่าจะ 40 คนได้ เห็นมีงูอยู่ 3 ตัว ไม่รู้กินกันยังไง ชุลมุนน่าดู เด็กจิ๋วเช้าๆยังคงเมาขี้ตาอยู่ เกาะเพื่อนวิ่งไปวิ่งมาก็หลุดหลงทางออกไปด้วยสภาพมึนๆ ครูไปตามจับกลับมา เสร็จแล้วก็มาร้องเพลงรวมกันให้เด็กเต้น เห็นมีออกมาเต้นอยู่ไม่ถึง 10 คน ที่เห็นๆก็มีอิ๊กกี้ตัวเต้น กับอั่งอั๊ง คนนี้เข้าห้องมาปั๊บก็เครื่องติดทันที เห็นน้าปอยบอกว่าวอร์มเต้นมาตั้งแต่ก่อนเข้าห้องแล้ว นอกนั้นรวมทั้งเด็กจิ๋วด้วย ได้แต่ยืนมึนๆอยู่รอบนอก เห็นครูขวัญพยายามมาบิ้ว จับแขนเด็กจิ๋วเหวี่ยงไปมา ครูก็ทุ่มสุดตัว ในที่สุดเด็กจิ๋วก็ฟื้นคืนชีพ ยอมกระโดดโลดเต้นตามครูขวัญ แต่ไม่ถึงนาทีก็เลิก แยกย้ายกันกลับห้อง คิดว่าหลังจากเต้นเสร็จ เด็กจิ๋วคงจะตื่นจริงๆแล้วล่ะ เพราะตอนเดินกลับห้องกัน น้องเบียร์เล่าว่าได้ยินเสียงแจ้วๆ เด็กจิ๋วถามครูเรื่องพรุ่งนี้ที่จะไปทัศนศึกษา
...ตอนสายๆปะป๊ากับคุณแม่แอบไปตลาดหลังการบินไทย ตั้งใจจะไปซื้อชุดเจ้าหญิงให้เด็กจิ๋ว เอาแบบชุดเจ้าหญิงจริงๆไม่ใช่ชุดลายเจ้าหญิงเหมือนเมื่อวาน พอไปร้านแรกเจอชุดราพันเซลเข้าก็ปิ๊งเลย สวยมากๆ ถูกใจสุดๆ ราคา 1400 บาท ลองเดินดูร้านอื่นๆดูก่อน ก็มีหลายแบบอยู่เหมือนกัน มีถูกสุดคือ 800 คล้ายๆกับของอั่งอั๊ง แล้วก็มี 1000 แต่สวยสู้ตัวแรกไม่ได้ ในที่สุดก็กลับมาซื้อของร้านแรก ต่อราคาเหลือ 1200 บาท สวยสุดๆ นอกจากนั้นยังได้ ชุดบัลเล่ต์ใหม่สีชมพู ได้ที่คาดผมอีก 2 อัน วันนี้ได้แต่ของเด็ดๆ เด็กจิ๋วต้องถูกใจแน่ๆ
...ตอนนี้คุณแม่สั่งซื้อแบบฝึกหัดสำหรับ สอบสาธิตมาชุดหนึ่ง ลองให้เด็กจิ๋วทำ ดูแล้วยากเหมือนกัน เด็กจิ๋วยังทำไม่ค่อยได้ บางหน้าเจ๊น่ายังทำไม่ได้ซะด้วยซ้ำไป ส่วนใหญ่เป็น Sequence ภาพเงา จับผิดภาพ การเพิ่มจำนวน ลดจำนวน เราลองเอามาให้เด็กจิ๋วทำดู พอทำไปได้หน่อยก็ท้อ นอนลงไปแล้วบอกว่าทำไม่ได้ เคยได้ยินเค้าบอกว่าถ้าเด็กไม่รับก็อย่ายัดเยียด ไม่งั้นจะกลายเป็นลบ แต่ว่ามันคันไม้คันมือปะป๊ายังไงไม่รู้ ขอสอนดูหน่อย คือใจร้อนแหล่ะ ว่าแล้วก็ลองสอนดู ซึ่งไม่แน่ใจว่าวิธีการสอนที่ถูกต้องเป็นยังไงซะด้วยซ้ำ สอนไปบ้านๆแบบที่เราเข้าใจ ถ้าสอนแล้วถามนำ เด็กจิ๋วก็จะตอบถูก แต่ถ้าให้ดูแล้วตอบเองก็ยังงงอยู่ พอเด็กจิ๋วทำเสร็จหนึ่งหน้าปะป๊าเลยให้รางวัล ชุดราพันเซล ใส่แล้วสวยงามเหมือนเจ้าหญิงมากๆ ดีใจมากที่ตัดสินใจซื้อมา ตอนแรกลังเลอยู่นานเพราะไม่แน่ใจว่าซื้อมาแล้วจะเอามาใส่ตอนไหน ใส่ไปโรงเรียนก็อลังการเกินไป ใส่อยู่บ้านก็จะไม่คุ้ม แต่ตอนนี้รู้สึกว่าใส่อยู่บ้านนั่นแหล่ะ แค่เด็กจิ๋ว happy มีความสุขก็พอแล้ว

๓ ขวบ + ๒๘๑ วัน...อังคาร ๘ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เด็กจิ๋วไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์มด ม.เกษตร ครั้งแรกๆที่เด็กๆปทัศนศึกษาดูพ่อแม่จะตื่นเต้นกันมาก แอบตามสะกดรอยตาม ตั้งแต่ครั้งที่ไปพาราก้อน และที่เขาดิน แต่ครั้งนี้เหมือนเลิกเห่อกันแล้ว ไม่เห็นมีพ่อแม่ใครตามเด็กไปดูเลย แล้วก็ดูไม่มีใครตื่นเต้นกันเลยว่าลูกไปยังไง ไปกี่โมง ร้อนไม๊ เป็นยังไงกันบ้าง ตอนไปรับเด็กจิ๋วที่โรงเรียนก็พยายามถามว่าเป็นยังไงได้ดูอะไรบ้าง เด็กจิ๋วตอบแบบเซงๆว่า “ดูมดนอนหลับ”...เอ่อ ดูไม่น่าตื่นเต้น ไม่สนุก สงสัยจะน่าเบื่อจริงๆ เห็นรูปจากครูเชอรี่ห้อง 9 ดูเป็นเหมือนนิทรรศการเล็กๆ มีมดสต๊าฟชนิดต่างๆอยู่ในกล่องให้ดู แล้วก็มีรูปปั้นมดตัวใหญ่ๆให้ถ่ายรูป
...ตอนเย็นเด็กจิ๋วไปเรียนระบายสีกับอั่งอั๊ง นิตาไม่ได้ไปด้วย วันนี้ไม่รู้เด็กจิ๋วเป็นอะไร พอวิ่งไปถึงห้องเรียนก็ไม่ยอมเข้า บอกว่าไม่อยากเรียน นี่ขนาดมีเพื่อนมาเรียนด้วยนะ ในที่สุดปะป๊าต้องเข้าไปนั่งเรียนด้วยพักหนึ่งแล้วถึงค่อยหนีออกมาได้ วันนี้ปะป๊าบอกให้เด็กจิ๋วทำรูปเดียวกับอั่งอั๊งเลย แล้วมาแข่งกันว่าของใครสวยกว่ากัน ผลออกมาก็เละๆพอกันทั้งคู่
...ชุดราพันเซลที่ซื้อเมื่อวาน พี่สาจัดการซักรีดให้เรียบร้อยแล้ว กลับมาถึงบ้านเด็กจิ๋วรีบถามหา เลยเอามาให้เด็กจิ๋วใส่ ชอบมากๆๆ เด็กจิ๋วก็ชอบ ปะป๊าก็ชอบ ขนาดว่าวางแผนจะไปซื้อมาให้เพิ่ม ติดใจชุดทิงเกอร์เบลกับชุดเบลที่ร้านมาก เดี๋ยวต้องไปซื้อมาอีกแน่ คือตอนนี้ก็ให้เอาใส่เล่นในบ้านนี่แหล่ะ ไม่กล้าให้ใส่ออกนอกบ้าน ใส่เล่นเหมือนที่พี่โฮไอชอบเอาชุดแบทแมน สไปเดอร์แมนมาใส่เล่นตอนเย็นๆ วันนี้ราพันเซลได้เจอกับแบทแมนด้วย มีปากเสียงกัน ราพันเซลกระทืบเท้าแบทแมนร้องไห้กลับบ้านไปเลย แสบมากๆ ชุดเจ้าหญิงนี่ถ้าคิดว่ามันเป็นเสื้อผ้าก็จะรู้สึกว่าแพงมาก ชุดละ 1200 บาท แต่คิดไปคิดมา เรามองมันเป็นของเล่นดีกว่า จะรู้สึกว่าถูกขึ้นมาทันทีเมื่อเทียบกับของเล่นอื่นๆของเด็กจิ๋ว แล้วอันนี้น่าจะเป็นของเล่นที่คุ้มที่สุด เพราะจะต้องร้องใส่ทุกวันแน่ๆ
...ตอนเย็นราพันเซลเล่นกับพี่ๆที่ดาดฟ้า พอปะป๊าขึ้นไปรับมาอาบน้ำ เห็นหน้าเด็กทุกคนมีกากเพ็ชรติดหน้า ตามพื้นก็มีกากเพ็ชรหล่นอยู่ ติดกางเกงติดหน้าปะป๊ามาด้วย มันคือกากเพ็ชรจากชุดราพันเซลนั่นแหล่ะ แบบนี้กากเพ็ขรที่ชุดจะอยู่ได้อีกกี่วันนี่ ตัดสินใจไม่ซักทุกวันหรอก เอาให้เด็กจิ๋วใส่เล่นๆแล้วถอดเก็บ เอาแบบนานๆค่อยซักที

๓ ขวบ + ๒๘๒ วัน...พุธ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้ใส่ชุด Mermaid ไปโรงเรียน เจอน้องอุ้มตรงทางเข้า น้องอุ้มบอกว่าชุดน้องพริมสวยจังเลย เสียดายที่ใส่ไปได้ไม่นานก็ฉี่ราดกระโปรงสวยซะงั้น ปวดฉี่ก็บอกครูแล้ว แต่เหมือนจะช้าเกินไป เพราะไปฉี่ราดที่ห้องน้ำ
...ปกติที่ Outlet ของชาลอมจะมี Big Sale ปีละ 2 ครั้งได้มั้ง เราก็ไปกันทุกครั้งไม่เคยพลาด เพราะเวลามีงานก็จะมีโฆษณาลง facebook แต่วันนี้เพิ่งรู้ว่าชาลอมมีเซลอีกแล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 เดือนที่แล้ว เราพลาดไปได้ไง ลองไปตรวจสอบดูใน facebook ปรากฎว่ามันไม่ยอมขึ้นข่าวของชาลอมซะงั้น โชคดีที่งานยังไม่หมดเลยรีบไปกัน ได้มาประมาณ 5 ชิ้น คาดว่าของหมดไปหลายอย่างเพราะมาวันหลังๆแล้ว ตัวสวยๆคงจะหมดไปแล้วบ้าง วันนี้เพิ่งรู้ว่าเสื้อยี่ห้อ Laugh ก็เป็นของชาลอมเหมือนกัน เป็นยี่ห้อที่เป็นชุดซินเดอเรลล่าของน้องอุ้ม แล้วก็ชุด Mermaid ที่เด็กจิ๋วเพิ่งใส่วันนี้เอง แต่พวกเสื้อเจ้าหญิงไม่มีเซลเลย
...ตั้งแต่ตอนเช้าที่จับแต่งตัวไปโรงเรียน เด็กจิ๋วก็ร้องจะใส่ชุดราพันเซล แต่ว่าเราไม่ยอม พอตอนเย็นตั้งแต่ไปรับกลับที่โรงเรียนก็ร้องจะใส่อีก ปะป๊าเลยตั้งข้อแลกเปลี่ยนเอาไว้ว่าถ้าจะใส่ชุดราพันเซลต้องตั้งใจทำการบ้านก่อน พอกลับมาก็รีบทำการบ้านจริงๆ การบ้านที่โรงเรียนไม่มีปัญหาสำหรับเด็กจิ๋วอยู่แล้ว แต่แบบฝึกหัดที่ซื้อมาใหม่ที่ว่ายากสุดๆ ลองเอามาให้เด็กจิ๋วทำอีก ทำแล้วก็ท้อ ไม่ตั้งใจ คือรู้ว่ามันยากเกินไป แต่คิดๆดูแล้วว่าถ้าจะสอบเข้าสาธิตเกษตร มันก็ต้องยากแหล่ะ จะเรียนไปเรื่อยๆเหมือนเด็กคนอื่นมันก็จะสอบไม่ติดอ่ะดิ่ มันต้องทำอะไรที่เหนือคนอื่น

๓ ขวบ + ๒๘๓ วัน...พฤหัส ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เด็กจิ๋วใส่ชุดไฮโซ เป็นชุดของ Pum เสื้อตัวละ 700กว่าบาท กระโปรงตัวละ 1000 บาท อันนี้มีลดเพิ่มอีกเกือบ 30% แต่ก็ถือว่าแพงที่สุดตั้งแต่เคยซื้อมาให้เด็กจิ๋วเลย ปกติจะซื้อแบบลด 50% หรือตัวละ 2-300 แค่นั้น เด็กจิ๋วใส่แล้วรู้สึกสวยสง่าไฮโซมากๆ น้าเบียเห็นก็ชม ตอนนี้กำลังสนุกสนานกับการเลือกเสื้อผ้าให้เด็กจิ๋วไปโรงเรียนเพราะช่วงซัมเมอร์ให้ใส่ชุดธรรมดา ถึงแม้ว่าเด็กจิ๋วจะสวนกระแส ตอนเช้าไม่ยอมใส่ชุดที่จัดให้ บอกว่าอยากใส่ชุดนักเรียน ไม่รู้ว่ามามุกไหน ปกติตอนเปิดเทอมจะไม่ยอมใส่ชุดนักเรียน อยากใส่ชุดธรรมดา แบบนี้มันขอให้ได้เกรียนเท่านั้นนี่หน่า
...วันนี้เปลี่ยนแผนหลอกให้เด็กจิ๋วทำแบบฝึกหัดขั้นเทพ โดยไม่ให้ใช้ดินสอทำแบบทำการบ้านแล้ว ให้มาเล่นเกมส์แข่งกันทายกับพี่โฮไอแทน แผนนี้ใช้การได้ดี เด็กจิ๋วร่วมเล่นด้วย บางข้อยากมากจริงๆ ขนาดเฮียโรยังทำไม่ได้ แล้วบางข้อเอง ปะป๊ากับคุณแม่ก็ทำไม่ได้ซะด้วยซ้ำไป อย่างเช่นให้ดูรูปสัตว์แล้วบอกว่าสัตว์ตัวไหนไม่เข้าพวก พอดูเฉลยถึงรู้ว่าตัวไม่เข้าพวกคือสัตว์กินเนื้อ ส่วนตัวอื่นๆเป็นสัตว์กินพืช
...ครูบอกว่าช่วงซัมเมอร์นี่เด็กจิ๋วหลับเป็นคนแรกเลย หลับได้ทุกวัน ตลก ไม่มีความพอดี ทีตอนเปิดเทอมก็ไม่ยอมนอน ตอนกลางคืนปะป๊าก็กล่อมง่ายเหลือเกิน ช่วงนี้เกาหลังให้หน่อยก็หลับไปอย่างง่ายดาย ทั้งพ่อทั้งลูก คือต้องมาถามคุณแม่ทุกเช้าว่าเมื่อคืนใครหลับก่อน คือหลับกันมือคาหลังอ่ะ ขนาดแค่นี้เด็กจิ๋วยังไม่พอใจเลยนะ ชอบสั่งให้ปะป๊าเกาหลังจนถึงเช้าเลย ห้ามปะป๊าหลับตาด้วยเวลาเกา

๓ ขวบ + ๒๘๔ วัน...ศุกร์ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้นิตาไปฟังประกาศผลที่โรงเรียนหอวัง ติดแล้ว เดี๋ยวขึ้น อ.2 ก็จากไปแล้ว น่าใจหายเหมือนกัน เด็กๆไม่น่าจะอะไรมากเพราะปรับตัวเร็ว แต่ปะป๊ากับคุณแม่รู้สึกเสียดาย เพื่อนแก๊งค์นางฟ้าจะหายไปหนึ่งแล้ว
...อั่งอั๊งป่วยไม่ได้มาโรงเรียน 2 วันแล้ว ซัมเมอร์มีเด็กไปน้อย แล้วยิ่งอั๊งไม่มายิ่งรู้สึกเงียบเหงายังไงไม่รู้ เวลาไปรับไปส่ง ที่ลานจอดรถก็โล่งมาก ในโรงเรียนก็เงียบมาก คือครูบอกว่าห้องเรามี 18 คนที่เรียนซัมเมอร์ แต่ดูๆแล้วไม่น่าจะถึง น่าจะแค่ 10 ต้นๆเอง สงสัยป่วยบ้าง ไปเที่ยวบ้าง อย่างวันจันทร์หน้า เด็กจิ๋วก็จะโดดเรียนหนีไปเที่ยวพัทยา
...เด็กจิ๋วเล่าว่าตอนอยู่ที่โรงเรียน เวลาครูแหววดุ ก็จะดุว่า “เด็กจิ๋ว!”...จริงเหรอ ไม่แน่ใจ ไม่กล้าถามครูด้วย คือครูบุ๋มอ่ะจะรู้ว่าน้องพริมชื่อเด็กจิ๋ว เพราะเห็นใน facebook ทุกวันนี้ก็เรียน หนูจิ๋ว หนูจิ๋ว แต่ครูแหววไม่แน่ใจว่ารู้จักชื่อเด็กจิ๋วหรือเปล่า
...ช่วงนี้เราไปเซนลาดกันบ่อยมาก เฉลี่ยแล้วอาทิตย์ละ 2 ครั้ง คือทุกศุกร์ต้องไปเรียนเปียโนอยู่แล้ว และวันอื่นๆก็มีไปธุระไปซื้อของบ้าง อีกหน่อยก็ต้องมีเรียน Helen ทุกวันจันทร์ด้วย ทุกครั้งที่ไปเซนลาด ปะป๊ากับเด็กจิ๋วจะพาไปซื้อโกโก้ไข่มุกร้านมิสเตอร์เชค อร่อยมาก แย่งกันกินทุกครั้ง คือซื้อมาแก้วเดียวแล้วมาแย่งกันกินสนุกดี แย่งจริงๆ เพราะเด็กจิ๋วโปรดมาก เรากินเยอะก็โดนว่า ส่วนใหญ่เด็กจิ๋วจะกินมากกว่าปะป๊า หลังๆเริ่มเดินไปร้านเองถูกแล้ว จาก top เดินมุ่งหน้าไปอีกฝากตรงดิ่งถึงร้านเลย แล้วก็ให้อุ้มไปสั่งพี่เค้า ยังสั่งไม่ค่อยเป็นแต่ใจอยากสั่ง เรื่องสั่งของหรือให้พูดกับพนักงาน เด็กจิ๋วจะกล้ากับบางคน ไม่แน่ใจว่าดูที่ตรงไหน บางคนก็จะกลัวไม่ยอม แต่สวนใหญ่ก็โอเค อย่างวันนี้ตอนเลิกเรียนเปียโน กำลังตกกันว่าจะไปกินข้าวร้านไหนดี คุณแม่อยากกินแหลมเจริญ คุณลูกอยากกินกุ้งทอด ระหว่างตกลงกันไปมา เด็กจิ๋วก็วิ่งพุ่งตัวไปที่ร้านฟูจิ แล้วตะโกนบอกพี่พนักงานหน้าร้านว่า “3 คนค่ะ”...น่ารักมาก กล้าหาญมาก แล้วก็ตะกละมากด้วย วันนี้กินเข้าไปเยอะ กินข้าวหมดถ้วย กุ้งทอดเทมปูระคนเดียวเกือบหมดจาน แล้วยังมาแย่งราเมนคุณแม่กินอีก ออกจากร้านมาปะป๊าอุ้มเด็กจิ๋วแล้วตกใจ พุงแข็งมากๆ แข็งแบบแข็งมาก เสียรูปทรงไปหมด แข็งขึ้นมาเกือบถึงอก เข้าใจคำว่าจุกอกเลย ยังไม่พอ ยังไปต่อโกโก้มุกอีกนะเนี่ยะ เรื่องกินหายห่วง โชคดีตัวไม่อ้วน คงเพราะเผาพลาญวอดวายหมด เป็นเด็ก alert แล้วก็ over acting ตลอดเวลา

๓ ขวบ + ๒๘๕ วัน...เสาร์ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ตอนเช้าตื่นแต่เช้ามาจุ๊บแก้มปะป๊าเลย ให้พาไปดูการ์ตูน พอปะป๊าโดนจุ๊บปุ๊บก็เด้งตัวมาปั๊บแม้ว่าจะง่วงเพียงไรก็ตาม เมื่อคืนนอนตี 4 แต่เด็กจิ๋วล่ะ วันธรรมดาปะป๊าไปจุ๊บให้ตื่นไปโรงเรียนก็ไม่ยอมตื่น แบบนี้ไม่ยุติธรรมอ่ะเด็กจิ๋ว
...หลังอาหารกลางวันฝีมือปะป๊า เด็กจิ๋วหลับเป็นตายเลย 3 ชั่วโมง อาจจะเพราะกินยาไปด้วยแหล่ะ ยังไม่หายป่วยเลย พรุ่งนี้จะไปเล่นน้ำที่เซนทาร่าแล้วนะ ต้องเล่นน้ำทั้งวันซะด้วย คือยังไงก็ต้องไป ไปแล้วยังไงก็ต้องเล่นน้ำ จะป่วยจะเปื่อยค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้กลัวแต่ว่ากลับมาจะป่วยหนักแบบคราวก่อนที่ป่วยแล้วไปเล่นน้ำทั้งวันที่วิลล่ามาร็อก กลับมาป่วยยาว ต้องหยุดเรียนแบบ 2 อาทิตย์เลย จำได้ว่าตอนนั้นป่วยต่อเนื่องยาวนานมากที่สุด
...ระหว่างเด็กจิ๋วหลับก็เป็นโอกาสทองของปะป๊าได้ดูหนัง วันนี้ดู Pacific Rim หุ่นยนต์ต่อสู้กับเอเลี่ยน ยังดูไม่ทันจบ เด็กจิ๋วก็ตื่นขึ้นมาตามหาปะป๊า พอเห็นปะป๊าดูหนังอยู่ก็ขอดูด้วย นั่งดูกันพ่อลูก หุ่นยนต์สู้กับเอเลี่ยนยิงกันระเบิดวอดวาย เด็กจิ๋วชอบมาก ดูแบบตั้งใจด้วย ดูไปถามไปตลอด ดูจบขอดูต่ออีกเรื่อง บอกว่าเอาแบบสู้ๆกันอีก
...พัฒนาการด้านเปียโน ตอนนี้เริ่มดูโน๊ตไปด้วยเล่นไปด้วยได้แล้ว ทั้งมือซ้ายมือขวา แต่เล่นทีละมือ แล้วยังไม่คล่อง ดูโน๊ตแล้วก็ก้มดูนิ้ว พอเงยหน้า โน๊ตก็หลงไปแล้ว ถ้ามีคนชี้โน๊ตให้จะแม่นมาก แต่รู้สึกว่าการเล่นแบบนี้ไม่สนุกเหมือนตอนเรียนยามาฮ่าเลย อันนั้นเล่นเป็นเพลงหนุกหนาน อันนี้เล่นตามโน๊ตไม่เป็นเพลง เด็กจิ๋วเล่นไปหน่อยก็เบื่อ รู้สึกว่ายากมากกับการหลอกล่อให้มาซ้อมเปียโน วันนี้บอกว่าให้เล่นแล้วถ้าตั้งใจจะให้ใส่ชุดราพันเซล เด็กจิ๋วก็มาเล่น แต่เล่นไปได้หน่อยก็อิดอ่อด ในที่สุดก็อดชุดราพันเซล

๓ ขวบ + ๒๘๖-๒๘๗ วัน...อาทิตย์ ๑๓ – จันทร์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ไปเที่ยว Centara Grand Pattaya àN’Prim@Centara Grand Pattaya
 
N’Prim@Centara Grand Pattaya
...ทริปนี้ตอนแรกนัดกับพี่โนพี่โน่ แต่มีเหตุนั่นนี่ทำให้พี่โนพี่โน่เบี้ยว ต่อมาน้าเบียร์มาชวนไปด้วยกัน ก็ตั้งท่าจะได้ไปเล่นน้ำกับนิตา แต่แล้วนิตาก็เบี้ยวไปอีก ในที่สุดก็เหลือเด็กจิ๋วคนเดียวนี่แหล่ะ เราบิ้วท์เด็กจิ๋วมาหลายวันแล้ว ตั้งความหวังกันไว้มาก มีแต่คนบอกว่าสระว่ายน้ำที่นี่สุดยอด วันก่อนมายังเปิดคลิปรีวิวของที่นี่ให้ดู เมื่อคืนตอนอาบน้ำก็บอกว่าแช่อ่างได้แป๊บเดียวต้องรีบขึ้นเดี๋ยวไม่สบาย เด็กจิ๋วรีบกระโดดขึ้นทันที เป่าผมแต่งตัวเสร็จ เราหลอกต่อว่าต้องรีบนอน ก็รีบนอนจริงอ่ะ หลอกง่ายมาก
...วันนี้ออกแบบชิวๆ 9 โมง ไปถึงร้านปรีชาซีฟู้ด 11 โมงกว่า ร้านนี้เคยมา 2 ครั้ง ประทับใจอาหารอร่อย ล่าสุดมากับเพื่อนๆก็ยังอร่อย แต่คราวนี้ทำไมมันเปลี่ยนไปอย่างนี้ คิดว่ารสชาดเหมือนเดิมแหล่ะ แต่เราเบื่อแล้ว หรือไม่หลังๆกินอร่อยกว่านี้ (ฝีมือปะป๊าเอง) คราวนี้ไม่ประทับใจเลย รู้สึกเสียดายเวลาต้องขับเลยที่พักมาสิบกว่าโล
...ไปถึงเซ็นทาร่าประมาณเที่ยงกว่า คนเยอะมาก ปะป๊าปล่อยสัมภาระลงแล้วไปจอดรถ กลับมาหาเด็กจิ๋วกับคุณแม่ไม่เจอ เพราะคนเยอะมาก ปรากฎว่าที่นี่เค้าจะให้แขกที่จะเช็คอินเข้าไปนั่งรอในเล้าจน์ เอาน้ำเอาหนมมาหลอกให้ตายใจ ที่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่าคิวเช็คอินนานมาก คือมีเค้าท์เตอร์เดียว แล้วแต่ละคนใช้เวลากันนานมาก คุณแม่บอกว่าเมื่อก่อนไม่มีให้นั่งรอในเล้าจน์แบบนี้ ต้องยืนต่อคิวเช็ค ซึ่งมีคนด่าเยอะมาก แต่ตอนนี้ก็ยังมีคนด่าอยู่ดี ระหว่างนั่งรอก็ได้ยินคนบ่นกัน ช้า นาน เบื่อ เราก็งงจริง ทำไมไม่เพิ่มเค้าท์เตอร์ให้มันเร็วๆ หรือเป็นกุศโลบายในการถ่วงเวลาทำความสะอาดห้อง เพราะโรงแรมใหญ่มาก คนเช็คเอ้าท์ออกพร้อมๆกันนี่ ต้องใช้คนทำความสะอาดห้องเป็น100 คนแน่ๆ
...เรารอกันน่าจะเกือบชั่วโมงหนึ่งได้ ในที่สุดก็ได้ห้อง อยู่ปีกขวา ชั้น 17 ห้อง 1711 ห้องนี้ดี อยู่ใกล้ลิฟท์ สะดวก ที่จริงตอนแรกจะจองแบบห้อง deluxe ราคา 4200 บาท แต่ว่าเต็ม เราเลยต้อง upgrade เป็น Premium deluxe ราคา 5000 บาท ได้อ่างอาบน้ำเพิ่ม ซึ่งก็คุ้มสำหรับเด็กจิ๋ว แล้วก็ได้วิวสูง รู้สึกว่าตึกนี้จะมีประมาณ 20 ชั้น ชั้นบนจะเป็นพวกไฮโซ แบบ Pool Suite อะไรประมาณนั้น จากระเบียงห้องมองเห็นวิวสูงแล้วรู้สึกดีจริงๆด้วย มิน่าถึงคิดเงินเพิ่มแพง เพราะไม่เคยพักโรงแรมชั้นสูงๆแบบนี้ มองลงไปเห็นทะเลไกลๆจะได้ไม่เห็นว่าทะเลมันสกปรก รู้สึกระเบียงน่านั่ง อากาศปลอดโปร่งดี
...ในห้องก็เรียบๆโอเค แต่มีปัญหาตรงที่พื้นกระเบื้องในห้อง รู้สึกว่าไม่สะอาด เหนียวเท้า เป็นไอทะเลเข้ามาก็เข้าใจได้ แต่ที่อื่นก็ไม่เป็น หรือทำความสะอาดไม่ดีจริง อีกอย่างคือห้องน้ำเล็กมาก ห้องส้วมแยกจากห้องอาบน้ำ ห้องส้วมใช้ชักโครกแบบแขวน ซึ่งปะป๊านั่งแล้วมันไม่สบายใจเลย อึ๊ไปต้องมาพะวงไปว่ามันจะหักลงมาไม๊ แล้วถ้ามันหักลงมาระหว่างกำลังอึ๊อยู่นี่หนักเลย ห้องอาบน้ำเล็กสุดๆ ตัวอ่างก็แคบ แต่พื้นที่รอบอ่างยิ่งแคบใหญ่ แต่แคบแค่ไหนเด็กจิ๋วก็แช่สนุกอยู่ดี แช่ไปกินหนมไปคือสวรรค์ของเด็กจิ๋ว ส่วนห้องอาบน้ำจะมีผ้าม่านกั้นกับห้องนอน
...เราให้เด็กจิ๋วแนะนำห้อง เด็กจิ๋วแน่ะนำได้ฮามาก สนใจอยู่แต่เรื่องโทรศัพท์ บอกว่าในห้องน้ำก็มีเครื่องหนึ่ง มาห้องนอนก็มีอีกเครื่องหนึ่ง ในห้องน้ำเอาไว้เวลาที่ชักโครกเสีย จะได้โทรตามช่างได้ อันนี้คิดได้ไงเนี่ยะ แล้วก็ข้างๆเตียงจะมีโซหาเบดอยู่ตัวหนึ่ง เป็นแบบดีไซน์แอ่นหลังโค้งๆ เด็กจิ๋วแนะนำว่า “นี่เตียงน้องพริม แต่นอนแล้วจะหักหลัง”...หา นอนแล้วหักหลังเลยเหรอ หักหลังหรือหลังหัก ยังไม่ทันได้คำตอบ เด็กจิ๋วก็เปลี่ยนไปเรื่องอื่นซะแล้ว
...ไม่รอช้า รีบใส่ชุดว่ายน้ำเตรียมลงสระทันที มีทะเลาะกันเรื่องทาครีมกันแดดอยู่พักหนึ่ง ที่มาครั้งนี้กะว่าจะไม่รีวิว เพราะจะเน้นเล่นน้ำกับเด็กจิ๋วทั้งวัน แต่วันนี้แดดแรงซะงั้น เหมาะจะถ่ายรูปมากๆ ไม่เหมาะจะเล่นน้ำทั้งวันเลยนะเพราะตัวจะดำ ลงลิฟท์ไปชั้น B ต้องหาล็อกเกอร์ฝากของวุ่นวายมาก คิดถึง Pool access อย่างที่เชอราตันมากๆ คือที่นี่คนเยอะ สระว่ายน้ำเป็นแบบสวนน้ำต้องเปลี่ยนที่เล่นล่องไปเรื่อยๆ เอาของวางทิ้วไว้ไม่ได้ต้องหาล็อกเกอร์ใส่ซึ่งอยู่ในฟิตเนสไกลมาก เห็นบ้านอื่นใช้วิธีโบราณกัน คือใช้อากงอาม่านั่งเฝ้าของ อันนี้ก็เวิร์คมากอ่ะจะหยิบใช้ก็แค่ตะโกนเรียก ฉะนั้นตอนนี้เรามีกันแต่ตัวเล่นน้ำกันเต็มที่ จะถ่ายรูปก็ไม่ได้ ขนาดไอโฟนยังติดตัวไม่ได้เลย
...เริ่มแรกต้องใช้บัตรมาแลกผ้าเช็ดตัวก่อน แล้วหาเตียงผ้าใบวางผ้ากับรองเท้า วันนี้มีคนมาบิดลูกโป่งแจกด้วย เด็กจิ๋วได้หมามาตัวหนึ่ง จุดแรกที่ให้เด็กจิ๋วลงคือหาดทราย ทำเป็นทรายให้เด็กเล่นได้ ดูสะอาดดี แล้วก็ต่อลงไปเป็นสระว่ายน้ำเลย ทรายก็เลอะลงไปในน้ำ ไม่รู้ทำความสะอาดยังไง แต่ในสระก็ดูสะอาดดี ตรงนี้เล็กๆไม่ค่อยมีอะไร ต่อด้วยสระน้ำวน ต้องไปหาห่วงยางก่อน มีแบบวงกลมวงเดียว กับแบบวงคู่ ตอนแรกวิ่งไปเจอห่วงยางเปล่าด้วย แต่มีคนแย่งไปก่อน เสียดายมาก แบบนี้ต้องรออีกนานแน่ๆ แต่ไม่นานเลย แป๊บเดียวก็มีคนเอามาปล่อย เราก็เลยได้ล่องห่วงยางแบบคู่ วุ่นวายกับการจับเด็กจิ๋วนั่งห่วงยางมาก ท่านั้นก็ไม่เอา ท่านี้ก็เจ็บ เรื่องมาก ในที่สุดก็ลอยน้ำว่ายตามห่วงยางไปเอง น้ำจะพัดวนไปเรื่อยๆ สองข้างทางก็ทำเป็นหินเทียม ให้เข้ากับบรรยากาศ Lost World ซึ่งเป็น concept ของที่นี่ ไอ้หินเทียมนี่ทำเราเจ็บไปหลายทีเหมือนกันนะ เพราะบางทีเดินไปเหยียบพลาด แขนขาไปครูดถลอก แต่ก็ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก ได้แค่ถลอกๆมา ระหว่างทางที่ล่องไปในน้ำวน ก็จะมีต้นไม้ครึ้มๆหน่อย มีน้ำตกเป็นจุดๆ เด็กจิ๋วกรี๊ดลั่นเลย พอพ้นน้ำตกมาได้ ก็ตะโกนว่า “เราลอดตายแล้ว” น้ำพัดวนมาครบรอบ ซึ่งตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าทำไมห่วงยางถึงหาได้ไม่ยาก เพราะเล่นรอบเดียวก็เจ็บไปหมดเลย อย่างปะป๊าเองก็โดนขอบห่วงยางบาดที่รอบก้น แดงเป็นแนวไปสองวันเลย คือไม่ใช่ว่านอนเล่นชิวๆล่องไปเรื่อยๆอ่ะ มันเป็นภาระอันใหญ่และหนักที่ต้องลากไปด้วยตลอดทางมากกว่า
...จุดต่อมาคือสไลเดอร์ ครั้งแรกเด็กจิ๋วก็ทำกลัวๆอย่างเคย แต่รอบแรกได้แล้วก็ยาว เพลินเลย วิ่งขึ้นลื่นลงหนุกหนาน เสร็จแล้วก็ย้ายไปอีกโซนหนึ่งจะทำเป็นเหมือนน้ำตกเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นก็ไหลสไลเดอร์ลงมา อันนี้ก็สนุก ค่อยๆไหลกันลงมา จากด้านบนลงมาด้านล่างจะผ่านสไลเดอร์ประมาณ 4 อัน บางอันก็โหดหน่อย เด็กจิ๋วลงเองไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบเด็กๆ ที่นี่เน้นเด็กจริงๆ เห็นเกือบทุกบ้านเลยจะต้องพาเด็กๆมาเล่น หรือว่าเป็นช่วงปิดเทอมก็ไม่รู้
...ตอนนี้ประมาณสี่โมงเย็นได้ เล่นน้ำมา 3 ชั่วโมงแล้ว คุณแม่บอกว่าอยากขึ้นแล้ว เราไม่คิดว่าเด็กจิ๋วที่กำลังเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำอยู่ จะยอมทำตามนะ ลองถามดูก็ได้ เด็กจิ๋วขึ้นกันนะไปอาบน้ำกินหนมกัน เด็กจิ๋วตอบว่า “เออ ก็ได้”...อันนี้ช็อควงการนะ ทำไมยอมขึ้นง่ายดายขนาดนี้ พาขึ้นไปแช่อ่างอาบน้ำในห้องต่ออีกแป๊บ ระหว่างแช่ก็ต้องมีหนมมาบริการ เวลามาเที่ยวจะให้กินหนมผงชูรสได้ไม่อั้น เด็กจิ๋วซัดข้าวเกรียบกุ้งกับคอนเน่ไปอย่างละครึ่งถุง ตามด้วยนมอีก 2 กล่อง หิวจัดนั่นเอง เสร็จแล้วก็เป่าผมแต่งตัว เปิดการ์ตูนให้ดู ไม่กี่นาที หลับไปซะงั้น ที่ยอมขึ้นจากสระโดยดีเพราะหิวกับง่วงนอนนี่เอง ดีนะที่เริ่มรู้ตัวไม่งอแงอาละวาดแบบทุกที เด็กจิ๋วหลับตั้งแต่สี่โมงกว่า ไปยันเช้าเลย ตอนดึกเที่ยงคืน มีตื่นขึ้นมาขอกินนม 2 กล่องแล้วก็หลับต่อ
...เช้าวันที่สองปะป๊าไม่ต้องตื่นมาถ่ายรูปเหมือนทุกที วันนี้เลยตื่นสายกว่าเด็กจิ๋วอีก ลงไปกินข้าวเช้าตอนแปดโมงกว่า คนเยอะมาก อาหารเช้าที่นี่ใครบอกดีเราว่าไม่เห็นดีเลย สไตล์โรงแรมใหญ่ ของก็มีตามมาตรฐานแต่ต้องแย่งกันกิน ปิ้งหนมปังไว้ก็มีคนขโมยไป สั่งไข่ไว้ พ่อครัวก็ลืมทำ จะกินน้ำ แก้วก็หมด คือมันวุ่นวายไปหมด อาหารก็มีตามมาตรฐาน มีปาท่องโก๋ที่ดูเหมือนจะดีหน่อยแค่นั้น กินข้าวเสร็จแล้วก็พาเด็กจิ๋วลงเล่นน้ำต่อ วันนี้ล่องน้ำวนหนึ่งรอบคล้ายๆเดิม แล้วก็ไปต่อสไลเดอร์ เมื่อวานไม่เห็นสไลเดอร์อันนี้เลย มันเป็นแบบวนๆมีอุโมงค์ด้วย เจ๋งมาก วันนี้เด็กจิ๋วเล่นสไลเดอร์อันนี้อยู่นานเป็นชั่วโมง สนุกมาก เล่นไปสิบกว่ารอบ ระหว่างเดินขึ้นบรรไดไปก็หันไปมองสไลเดอร์ที่เล่นเมื่อวานแล้วบอกปะป๊าว่า “อันนั้นมันของเบบี๋”...แหม่ ทำเก่งทีแรกที่มีเล่นอันนี้ก็ไม่กล้าลงนะ คุณแม่ต้องเข็นๆลงมา แต่พอลงมาได้ก็ติดใจเล่นไม่เลิกอีก
...เด็กจิ๋วบอกว่าสนุกมาก วันหลังให้ชวนคนอื่นมาเล่นอีก ตอนกลับยังไม่อยากกลับเลย บอกว่าทำไมคนอื่นยังเล่นอยู่ เราก็บอกว่าคนอื่นเค้าเพิ่งมาวันนี้ จะกลับพรุ่งนี้ เรามาเมื่อวานก็ต้องกลับวันนี้ไง รีบอาบน้ำเก็บของกันเสร็จก็กลับกันเลย มาถึงบ้านแค่สามโมงกว่าเอง คราวนี้เด็กจิ๋วเล่นน้ำเต็มคราบเลย ก่อนไปป่วยๆอยู่ด้วยนะ ที่กังวลกันว่าเล่นน้ำนานแล้วจะป่วยหนัก ไม่มีเลย เล่นนานแค่ไหนก็ไม่ป่วย แกร่งมากๆ 

๓ ขวบ + ๒๘๘ วัน...อังคาร ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖
...เมื่อวานกลับมาถึงบ้านตอนบ่าย 3 เอาเด็กจิ๋วมาปล่อยเพื่อที่ปะป๊ากับคุณแม่จะไปทำธุระกันต่อ ตอนแรกเด็กจิ๋วเกาะคุณแม่แน่นไม่ยอมปล่อย อี๊ป้อมฉลาดมาก บอกว่า เอ ชุดราพันเซลแห้งยังนะ ไปดูดีกว่า เด็กจิ๋วได้ยินก็ทิ้งคุณแม่วิ่งแจ้นไปหาชุดราพันเซลทันที ไม่รู้เป็นไงเด็กจิ๋วกับโฮไอเป็นคู่อริกันตลอดเวลา มีกระทบกระทั่งกันประจำ กับคนอื่นก็ไม่เป็น วันก่อนก็กระทืบเท้าโฮไอไปทีหนึ่ง วันนี้เห็นอี๊ป้อมเล่าว่าเด็กจิ๋วโดนพี่โฮไอชกท้องบ้าง หายกัน
...เมื่อคืนไฟดับตอนเที่ยงคืน เด็กจิ๋วหลับไปแล้วตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะแอร์ตัด สนุกล่ะทีนี้ เล่นไฟฉาย เล่นดาว เล่นเทียนปลอม ปะป๊าก็ร่วมเล่นกับเด็กจิ๋วด้วยแหล่ะ เอาเทียนปลอมมาเป่าให้ดับกัน สักพักเริ่มเลยเทิด จะออกไปข้างนอก ไปบ่อปลา ไปห้องอี๊ป้อม เด็กจิ๋วไปเล่นห้องอี๊ป้อมได้แป๊บเดียวไฟก็มา ดับไปประมาณครึ่งชั่วโมง แอร์เย็นแล้วนอนต่อได้ แต่เด็กจิ๋วไม่นอนแล้วทีนี้ ร้องไห้อาละวาดจะไปเล่นที่ห้องอี๊ป้อมต่อ เราก็ไม่ยอม อาละวาดจนหลับไปเอง ที่งอแงก็เพราะง่วงนั่นแหล่ะ
...พอเมื่อคืนนอนไม่เต็มอิ่ม เช้านี้ก็งอแงอีกตามเคย ปะป๊าแกล้งโกรธ ให้คุณแม่ลองถามดิ๊ว่าจะให้ลงโทษยังไง ระหว่างไม่ให้ปะป๊ากอดนอนกับไม่ให้ใส่ชุดราพันเซล เด็กจิ๋วเลือกให้ปะป๊าไม่กอดนอนหนึ่งคืน มันน่าเสียใจไม๊ ลูกรักชุดราพันเซลมากกว่าปะป๊าอีก
...ตอนบ่ายมีนัดกับอั่งอั๊ง และนิตาไปเรียนศิลปะ วันนี้ไปถึงก็ไม่ยอมเรียนอีกแล้ว ปะป๊าบอกว่าถ้ายอมเรียนแต่โดยดีจะงดโทษที่ตกลงกันไว้เมื่อเช้า ที่บอกว่าจะไม่กอดนอน เด็กจิ๋วทำหน้างง ถามว่า “ปะป๊าโกรธน้องพริมเหรอ”...คือจำไม่ได้ซะแล้ว แต่ยังไงก็งงๆยอมนั่งเรียนแต่โดยดี ผลงานวันนี้ก็เหมือนทุกๆวัน รู้สึกว่าไม่มีพัฒนาการใดๆเพิ่มขึ้นเลย ระบายสีเหมือนๆเดิม คิดไปคิดมา เด็กจิ๋วเบื่อก็ไม่แปลกนะ เราก็ยังเบื่อเลย วันนี้ทำรูปเบล ทำออกมาแล้วก็บอกว่ารูปนี้เคยทำแล้วนี่ ปรากฎว่าเอากลับบ้านมาเทียบกับรูปเก่าๆ ก็คือไม่เหมือนแหล่ะ แต่มีเบล 3 เวอร์ชั่น บิดซ้ายบิดขวาไปมา คล้ายๆกันมาก ผลงานครั้งแรกๆจะดูดีกว่าตอนหลังๆอีก เพราะเหมือนตอนแรกๆจะเห่อ ตั้งใจเรียน

๓ ขวบ + ๒๘๙ วัน...พุธ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้อี๊ป้อมเปลี่ยนกระเป๋าใหม่ ปกติจะใช้ใบ cliplink สีฟ้าๆ วันนี้ใช้กระเป่าผ้าแบบลดโลกร้อน เด็กจิ๋วเห็นแล้วก็ถามอี๊ป้อมว่า “ทำไมไม่ใช้ cliplink แล้วล่ะ”...ทุกคนก็งง ทำไมรู้จัก cliplink ไม่เคยมีใครสอนนะ ฟังๆเค้าพูดกันเหรอ แล้วรู้ได้ไงว่าดูยังไงเป็น cliplink
...ฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้ก็ยังคงตกต่อเนื่องทั้งวัน มีพายุนารีเข้าประเทศไทย ตอนเช้าไปส่งเด็กจิ๋วก็ลำบากเล็กน้อย วันฝนตกแบบนี้ ต้องวนรถไปส่งเด็กจิ๋วที่หน้าประตูโรงเรียนซึ่งจะมีหลังคา ให้เด็กจิ๋วกับคุณแม่ลงไปก่อน แล้วปะป๊าต้องไปจอดรถที่ลานแล้วเดินตามมาอีกที บอกให้คุณแม่ไปส่งเด็กจิ๋วที่ห้องคนเดียวก็ไม่ยอม ตลกดีเหมือนกัน เด็กจิ๋วกับคุณแม่ต้องยืนรอปะป๊าที่หน้าประตูรอจนปะป๊ามาถึงค่อยเดินกันไปที่ห้องอีกที ฝนตกหนักมากรถติด ครูนิวก็บ่นว่าต้องตื่นตี 4 นั่งรถตู้ไปรับเด็กตามบ้านมาเป็นแบบนี้ทุกวัน แต่วันนี้ฝนตกหนัก รถติด ครูก็ตัวเปียกปอนไปหมด วันนี้อั่งอั๊งก็ไม่มา คาดว่าจะหลบฝนอยู่บ้านเหมือนกัน
...ตอนไปรับเด็กจิ๋ว เจอครูแหววเดินทำหน้าซีเรียสเข้ามา คุณแม่ใจหายเลย นึกว่าเด็กจิ๋วก่อเรื่องอีกแล้ว แต่ครูแหววบอกว่า เห็นน้องพริมเขียน free hand ได้ เลยจะส่งเข้าประกวดคัดตัวหนังสือ ให้คัดแค่ตัว ก ถ บ ป พ ฟ ฟังแล้วก็ดีใจนะ เด็กจิ๋วเหมือนจะเริ่มต้นได้สวย ถึงขั้นเป็นตัวแทนลงแข่ง ตอนปะป๊ากับคุณแม่เป็นนักเรียน จะเป็นเด็ก low profile ไม่เคยแข่งอะไรกับเค้าเลย เดี๋ยวต้องกลับบ้านมาฝึกโหดเด็กจิ๋วดีกว่า แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจว่าเค้าแข่งกันรูปแบบไหน ต้องคัดตัวโตแค่ไหน ใช้ font ไหน เพราะอย่าง ก. เองก็มีแบบหัวหยักหรือไม่หยัก หลังแหลมหรือไม่แหลม

๓ ขวบ + ๒๙๐ วัน...พฤหัส ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้ฝนยังคงตกหนักเหมือนเมื่อวาน ตอนเช้าลังเลว่าจะให้เด็กจิ๋วไปโรงเรียนดีไม๊ เพราะอากาศไม่ดีจะป่วยง่าย เพื่อนก็น้อยมาก เมื่อวานไปกัน 12 คน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไป ระหว่างทางไปเจอน้ำท่วมเป็นระยะๆแถวหน้าตลาดประชาชื่นท่วมเยอะหน่อย สูงเลยฟุตบาทมานิดหนึ่ง บริเวณโรงเรียนก็ท่วมขังเป็นจุดๆแบบเดินแล้วเท้าจม กำลังคิดว่าทางโรงเรียนน่าจะเอาอิฐหรือไม้มาปูอำนวยความสะดวกให้หน่อย วันนี้วนรถไปส่งเด็กจิ๋วที่หน้าประตูเหมือนเดิม แต่คุณแม่บอกว่าปะป๊าไม่ต้องเดินตามมาหรอก เพราะน้ำท่วมฝนตก คือจอดรถแล้วเดินตามมา กางร่มยังไงก็โดนฝนอยู่ดี น้ำท่วมด้วย ว่าแล้วก็อุ้มเด็กจิ๋วลงจากรถไปด้วยสถาพร้องไห้โฮจะให้ปะป๊ามาด้วย ในที่สุดปะป๊าก็ต้องเดินตามมาอีกจนได้
...วันนี้พาราพันเซลไปโลตัส เราพยายามต่อรองว่าถอดชุดออกก่อนได้ไม๊ ใส่ชุดราพันเซลไปมันจะอลังการไปหน่อย แต่ไม่สำเร็จ พอไปถึงโลตัส เด็กจิ๋วหันมาถามคุณแม่ว่า “คุณแม่ เรามาโลตัสกัน เหมือนราพันเซลไปตลาดไม๊อ่ะ”...ตามท้องเรื่องมีตอนที่ราพันเซลไปเที่ยวตลาด คุณแม่บอกว่าเหมือนค่ะ ได้ยินดังนั้น ราพันเซลก็สะบัดมือทิ้งจากแม่ที่แท้จริง แล้วก็วิ่งกึ่งกระโดดลั้นลา กรีดกรายมือสะบัดกระโปรงพริ้ว ราวกับว่าตัวเองเป็นราพันเซลจริงๆ ยังไม่พอ กิริยาต่างๆทั้งการชี้นิ้ว การทำหน้าทำตาก็เป็นราพันเซลจริงๆ
...ช่วงนี้ปะป๊าชอบลงโทษเด็กจิ๋ว เวลาเด็กจิ๋วดื้อหรืองอแงก็ทำโกรธ แล้วต่อรองกันว่าถ้าเด็กจิ๋วยอมซ้อมเปียโนดีๆแล้วจะหายโกรธ ใช้ได้ผลมาหลายวัน วันนี้ปะป๊าลักไก่ บอกเด็กจิ๋วว่า “เด็กจิ๋ว ถ้าหนูยอมซ้อมเปียโนแล้วปะป๊าจะหายโกรธ”...ทำหน้าบึ้งๆแอบเนียนไป แกล้งโกรธทั้งๆที่เด็กจิ๋วอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เด็กจิ๋วจับได้นะ ทำหน้างงแล้วหันมาถามปะป๊าว่า “ปะป๊าโกรธน้องพริมเรื่องอะไรเหรอ”...ว่าแล้วก็เลยเปลี่ยนแผนใหม่ เรานั่งกันอยู่ในห้องครัว แต่หลอกเด็กจิ๋วให้ไปเล่นเปียโนที่ห้องนั่งเล่นให้เราฟังหน่อย เด็กจิ๋วตื่นเต้นด้วยความสนุกสนาน ถามว่าจะเอาเพลงอะไร พอเราบอกไปก็วิ่งไปเล่น เล่นเสร็จก็วิ่งกลับมาถามว่าจะเอาเพลงอะไรอีก วิ่งไปวิ่งมาจนได้เล่นทุกเพลง

๓ ขวบ + ๒๙๑ วัน...ศุกร์ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ตอนแรกตั้งใจว่าวันเสาร์นี้จะชวนเพื่อนๆเด็กจิ๋วมาเล่นกันที่บ้าน แต่ถามดูแล้ว เพื่อนๆไม่ว่างกัน ก็เลยอด
...ตอนเย็นคุณแม่นัดหมอทำฟัน เพราะที่อุดฟันหลุด ปะป๊าเลยไปรับเด็กจิ๋วคนเดียว พาไปเรียนเปียโนคนเดียว วันนี้ไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ เห็นเล่นกับครูหวานตลอดเลย เล่นอะไรกันไม่รู้ มีจับหัวครูหวานด้วย เรียนเสร็จก็พากันไปซื้อช็อคโกมุก ไปถึงก็ไปสั่งเองเลย “ช็อคโกมุกแก้วหนึ่งค่ะ”...คนขายขำกันใหญ่ บอกว่าเก่งมากสั่งเองได้ด้วย ปะป๊ากับเด็กจิ๋วเดินจูงมือกันแบ่งกันกินช็อคโกมุกกันลั้นลามีความสุข เวลาคุณแม่ไม่มาด้วย เด็กจิ๋วจะเป็นเด็กดีแบบนี้แหล่ะ ตอนไปซื้อของไปซุปเปอร์ก็ยอมนั่งในรถ ซื้อสาหร่ายให้กิน นั่งกินแต่โดยดี 
...ปกติเวลามาช้อปปิ้งที่ท็อปกันทีไร เด็กจิ๋วต้องปวดอึ้ทุกครั้งเลย คุณแม่บ่นเหนื่อยมากเพราะต้องแบกเด็กจิ๋ววิ่งไปห้องน้ำอยู่ไกลมาก วันนี้คุณแม่ไม่อยู่ ว่าแล้วระหว่างเดินช้อปปิ้งกันอยู่ เด็กจิ๋วก็ก่อเรื่องจนได้ “ปะป๊า น้องพริมปวดอึ๊”...หา! มาปวดอะไรตอนนี้อ่ะ คุณแม่ก็ไม่อยู่ ปะป๊าต้องเอาของไปฝากเค้าท์เตอร์แล้วอุ้มเด็กจิ๋วไปห้องน้ำ ตัดสินใจขึ้นไปชั้น 10 เพราะเป็นชั้นสำหรับเด็ก จะมีห้องน้ำแม่และลูกอยู่ สะดวกดี ห้องน้ำข้างล่างน่าจะลำบาก เด็กจิ๋วยิ่งเรื่องมากอยู่ด้วย ถ้าเข้าไปแล้วมีกลิ่นเหม็นนิดหน่อย หรือสกปรก ก็จะไม่ยอมอึ๊ ครั้งนี้เป็นอีก 1 ในไม่เกิน 10 ครั้ง ที่ปะป๊าต้องเช็ดก้นให้หนู ตอนเบ่งอึ๊ก็ต้องกอดกันช่วยกันเบ่งด้วย จัดการเสร็จเรียบร้อย เด็กจิ๋วบอกว่า “ทำไมปะป๊าใจดีจัง คุณแม่ใจร้าย”...คือ ทุกครั้งที่คุณแม่พาเด็กจิ๋วเข้าห้องน้ำจะต้องมีทะเลาะวิวาทกันประจำ สงสัยโดนคุณแม่ดุบ่อย
...ตอนดึกปะป๊าชวนเจ๊น่ากับเฮียโรมานอนเล่นที่ห้องโฮมกัน เด็กๆสนุกกันมาก ดูการ์ตูนเสร็จก็เล่นกันต่อ กว่าจะได้นอนกันก็เที่ยงคืน ตอนแรกเด็กจิ๋วไม่ยอมมานอนกับปะป๊าคุณแม่ที่ห้องนอน บอกว่าจะนอนกับพี่ๆ นอนเองได้ เราก็กลับมาแอบฟังกันอยู่ในห้องนอน ตอนแรกเสียงดังเล่นกันสนั่น สักพักเสียงก็เงียบ หรือว่าเด็กจิ๋วจะหลับแล้วจริงๆ แอบย่องไปดูที่ห้องโฮม เจอเด็กจิ๋วกำลังนั่งอยู่คนเดียวทำหน้าแปลกๆ เหมือนงงๆอะไรบางอย่าง ส่วนพี่ๆนอนกันไปแล้ว พอเจอหน้าปะป๊าคุณแม่ก็วิ่งตามมา บอกว่า “เราไปนอนกันที่ห้องนอนดีกว่าเนอะ”...แหม่ ทำเป็นเก่ง นอนเองแล้วใครจะเกาหลังให้ล่ะ

๓ ขวบ + ๒๙๒ วัน...เสาร์ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ช่วงนี้ปะป๊าฮิตทำอาหารอลังการ จะไปจ่ายตลาดที่อตก.ตั้งแต่วันศุกร์ พวกกุ้งยักษ์ หอยเชล เนื้อปู ปลาหมึก แล้วเช้าวันจันทร์ก็มาทำอาหารกินกัน วันนี้กินอาหารอลังการเสร็จก็รีบพากันไปตลาดหลังการบินไทย จะไปซื้อชุดเจ้าหญิงเบลให้เด็กจิ๋ว ตอนแรกสัญญากับเด็กจิ๋วไว้ว่าถ้าเด็กจิ๋วแข่งคัดลายมือชนะ จะชื้อชุดเบลให้เป็นรางวัล แต่ไปถามคุณครูมาแล้ว เค้าบอกว่าแข่งกันเดือนมกราคมแน่ะ ปะป๊ารอไม่ไหว ใจร้อน ตัวเองอยากได้เนี่ยะแหล่ะ กลัวหมดด้วย เลยรีบไปซื้อก่อน อาจจะซื้อชุดทิงเกอร์ กับซินเดอเรลล่าซะด้วยซ้ำไป แต่ไปถึงแล้วร้านปิด เสียดายมาก ปิดอยู่ร้านนี้ร้านเดียวเลย ร้านอื่นที่มีชุดเหมืนอันก็ราคารแพงมาก อีกร้านถูกกว่าแต่ไม่สวย สรุปเด็กจิ๋วก็เลยอด
...โชคดีที่ตอนแวะตลาดหลังการบินไทยกันเด็กจิ๋วหลับพอดี ไม่งั้นวุ่นวายแน่ เสร็จแล้วก็ไปบรัดารมย์ นัดพี่ๆไปว่ายน้ำกัน ไปถึงบรัดารมย์ตอน 4 โมงเย็น เจ๊น่ากับเฮียโรยังไม่กลับมาจากเรียนพิเศษเลย ระหว่างรอพี่ๆก็ไปชวนเอ้คุย เล่นเปียโนให้เอ้ฟัง พอพี่ๆมาก็พากันไปว่ายน้ำ คราวนี้ลองท่าใหม่ ไม่ให้ใส่ปลอกแขน ให้เกาะแผ่นโฟมว่ายเอง ลงน้ำลึกเลย ปะป๊าไม่จับด้วย เด็กจิ๋วก็ว่ายได้เองเลยอ่ะ อาโกวบอกว่าเก่งกว่าพี่ๆนะเนี่ยะ เด็กจิ๋วดำผุดดำว่ายลั้นลามาก ตอนหลังๆมีเล่นงูกินหางกับเฮียโรด้วย หนุกมาก แต่อันตรายไปนิด วิ่งไล่จับกันในน้ำ เล่นไปเล่นมา เด็กจิ๋วหัวมาชนกับปะป๊า งงไปเลย ตอนจับขึ้นอาบน้ำกรี๊ดลั่นเลย ไม่ยอมขึ้น จะเล่นต่อ ยิ่งตอนจะกลับบ้านยิ่งกรี๊ดหนัก จะไปกินข้าวกับเจ๊น่าข้างนอก แต่เราดูอาการแล้ว ไปสภาพแบบนี้มีหวังร้านเละแน่ๆ เพราะเด็กจิ๋วง่วงมากแล้ว กลับบ้านโดยด่วนดีกว่า ระหว่างที่กำลังร้องไห้งอแงอยู่ในรถ ปะป๊าก็ต่อรองด้วยการจะหาไอติมให้กิน เด็กจิ๋วถึงยอมสงบได้ พากันกลับมานั่งกินไอติมที่ KFC โลตัสหน้าบ้านตอนดึก ได้ไอติมก็มีพลังกลับฟื้นคืนชีพอีก กว่าจะหลับก็อีกยาวเลย

๓ ขวบ + ๒๙๓ วัน...อาทิตย์ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนปะป๊าโกรธเด็กจิ๋วเพราะไม่ตั้งใจเล่นเปียโน พอเข้าห้องนอนยังไม่ทันหายโกรธกันเลย เด็กจิ๋วก็นอนหลับไปก่อนเพราะง่วงนอนมาก ตอนเช้าถึงตามมาง้อปะป๊าที่ห้องครัว ปะป๊าถามว่าเมื่อคืนทำไมไม่ตั้งใจเล่นเปียโน เด็กจิ๋วตอบว่า “น้องพริมอยากจะรีบไปนอนเร็วๆ น้องพริมง่วงนอน”...งั้นตอนนี้ตอนเช้าไม่ง่วงนะ ไปเล่นซิ ว่าแล้วเด็กจิ๋วก็ตั้งใจเล่นอย่างเต็มที่ ปะป๊าเลยคืนดีกัน ไปช่วยกันทำคุ้กกี้ ให้เด็กจิ๋วเป็นคนเทส่วนผสมต่างๆเองเลย ใส่ได้มั่วมาก ใส่เครื่องเยอะสุดๆ ทั้งแมคคาดีเมีย วอลนัท ช็อกชิพ เบอรรี่ เครื่องเยอะจนมองไม่เห็นแป้ง ในที่สุดต้องผสมแป้งเพิ่มอีกหนึ่งสูตรมาผสมกับเครื่องของเด็กจิ๋ว ตอนเด็กจิ๋วตักช็อคชิพลงโถ มีแอบชิมด้วย ชิมทีทั้งช้อนคำใหญ่มาก คำหนึ่งมีช็อคชิพอยู่สิบกว่าเม็ด เคี้ยวเต็มปากอยู่นานถึงจะหมด ชิมแรงไปไม๊เด็กจิ๋ว ผลที่ได้ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจนะ ตั้งชื่อว่าคุ้กกี้เด็กจิ๋ว
...ตอนบ่ายๆ พี่โอมาออฟฟิต ขึ้นมาเล่นกับเด็กจิ๋วที่ดาดฟ้าด้วย เด็กจิ๋วเล่นฮามาก ต่อ puzzle จะต่อชิ้นหนึ่งก็หยิบชิ้น puzzle วิ่งไปส่องแดดทีหนึ่ง บอกว่าต้องส่องลายดูสว่างๆ คือที่จริงไม่ต้องแดดก็สว่างทั้งห้องอยู่แล้ว ส่องจริงจังมาก ตอนหลังปะป๊าปิดผ้าม่านก็โกรธอีกโวยวายว่าปะป๊าใหญ่


๓ ขวบ + ๒๙๔ วัน...จันทร์ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ตอนเย็นพาเด็กจิ๋วไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษที่ Helen Dolon เคยมาทดลองเรียนเมื่อเกือบ 2 เดือนที่แล้ว ทางโรงเรียนเพิ่งเปิดคอร์ส คือช่วงที่ผ่านมาทางโรงเรียนเค้าหาเด็กมาเรียนด้วยกัน อยากให้มีเด็กหลายๆคน เค้าอ้างว่าจะได้สนุก แต่เราคิดว่าถ้าเด็กน้อยจะไม่คุ้มซะมากกว่า ในที่สุดหาไม่ได้ก็เลยเปิดให้ มีเรียนแค่ 2 คน เด็กจิ๋วกับอั่งอั๊ง เราเลือกช่วงเวลาประหลาดเองแหล่ะ 4 โมงเย็นวันจันทร์ คนส่วนใหญ่จะเรียนกันวันเสาร์ อาทิตย์ เรียนครั้งละ 1 ชั่วโมงกับ Teacher Issabella วันนี้ปะป๊ากับคุณแม่นั่งแอบดูอยู่หน้าห้องผ่านประตูกระจกบานใหญ่ รู้สึกเสียสมาธิเด็กเหมือนกัน เรียนๆอยู่ก็วิ่งมาหาปะป๊า วันหลังต้องหลบไปนั่งไกลๆ วันนี้วันแรกขอสังเกตุการณ์ดูหน่อยว่าเรียนเป็นไงบ้าง โดยรวมก็ดีนะ teacher ดูใจดีร่าเริง เล่นกับเด็กๆได้ดี ทั้งเด็กจิ๋วและอั่งอั๊งก็ชอบ teacher คือแค่ขอให้ชอบครูก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ที่เหลือก็ค่อยๆเรียนกันไป วันแรกเด็กจิ๋วยังไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษเลย ครูถามอะไรก็ตอบภาษาไทย สงสัยจังเวลาเรียนกับ teacher ที่โรงเรียนเป็นยังไง แต่อันนั้นมีครูไทยอยู่ในห้องด้วยหลายคน อาจจะไม่ซีเรียสว่าต้องพูดภาษาอังกฤษหรือเปล่า นี่แหล่ะเป็นสาเหตุให้พามาเรียนที่นี่ อยากให้ฝึกพูดเยอะๆ teacher บอกว่าวันแรกๆก็อย่างนี้แหล่ะ ต้องค่อยๆปรับกันไป สักพักเด็กจะพยายามปรับตัวพยายามพูดภาษาอังกฤษเองเพราะเห็นว่าสื่อสารกับครูไม่รู้เรื่อง
...เรียนพิเศษเสร็จก็พากันไปกินข้าวที่ร้านแหลมเจริญซีฟู้ด ตอนแรกเด็กจิ๋วไม่ยอม ปะป๊าเจรจาต่อรองจนชนะในที่สุด จำไม่ได้แล้วว่าต่อรองเรื่องอะไร คงจะเรื่องชุดเจ้าหญิงนั่นแหล่ะ ตอนนี้อยากได้อะไรจากเด็กจิ๋วก็แค่บอกว่า เดี๋ยวจะซื้อชุดเบลให้เป็นรางวัล หรือไม่ก็บอกว่ากลับบ้านแล้วจะให้ใส่ชุดราพันเซล แค่นี้เป็นอันจบ
...เรื่องกินนี่อั่งอั๊งสู้เด็กจิ๋วไม่ได้เลย น้าปอยต้องพยายามป้อน ป้อนเข้าไปแล้วก็อมไว้ไม่ยอมกลืน กว่าจะคะยั้นคะยอให้กลืนแต่ละคำ กินจานแรกไปได้หน่อย เด็กจิ๋วก็แซงหน้าไปจานที่ 3 แล้ว กินเสร็จก็ไปต่อกันที่ร้านโปรด โกโก้ไข่มุข อั่งอั๊งกินสตรอเบอรีไข่มุข แปลกดี แต่สั่งมาแล้วไม่ยอมกิน อยากจะกินโกโก้กับเด็กจิ๋ว งอแงอยู่นานเลย มาบอกปะป๊าว่าขอกินนิดเดียวแล้วคืน เราก็บอกว่าไม่ได้ เดี๋ยวติดหวัดกัน ไม่รู้จะเข้าใจไม๊เนี่ยะ เดี๋ยวหาว่าเราหวงกินหรือเปล่า

๓ ขวบ + ๒๙๕ วัน...อังคาร ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนกว่าจะกลับบ้านกันมาก็เกือบ 2 ทุ่ม ให้รีบทำการบ้าน แล้วให้คัด ก. ต่อ คือเด็กจิ๋วเขียน ก.ได้คล่องแล้ว แต่ font ยังไม่สวย เรียกว่าไม่สวยก็ไม่ได้ เรียกว่ายังไม่เข้าตากรรมการดีกว่า เพราะไปแอบดูผลงานของเด็กที่แข่งคัดลายมือชนะเลิศปีที่แล้ว รูปแบบ font มันไม่เหมือนที่เด็กจิ๋วเขียนเลย ของเด็กจิ๋วหลังคาก.ก็จะโค้งๆธรรมดา ซึ่งเราว่าก็สวยดีแล้วนะ แต่ของแชมป์เค้าเขียน ก. แบบหลังคาสามเหลี่ยม เป็น font ที่เชยมาก และในสมุดการบ้านเด็กจิ๋วก็เห็นตัวก.ไก่ เป็นแบบหลังคาสามเหลี่ยมหมดเลย วันนี้เด็กจิ๋วคัดเท่าไหร่ก็ไม่ได้ซะที จับมือทำ พอให้เขียนเองก็เละ เหมือนแกล้ง ปะป๊ากับคุณแม่เลยโมโห ไล่ให้ขึ้นไปอาบน้ำกับอี๊ป้อม สักพักปะป๊ากับคุณแม่สำนึกผิด คือเราไปคาดคั้นลูกมากเกินไป กลับมาดึกเหนื่อยแล้ว ยังต้องมานั่งคัดลายมือ font น่าเกลียดนี่อีก ว่าแล้วก็ขึ้นไปง้อเด็กจิ๋ว แต่จะง้อธรรมดาก็คงจะงง เลยให้คัด ก.ไก่อีกรอบ พูดดีๆ จับมือ แล้วให้ตั้งใจเขียนเอง พอตั้งใจแป๊บเดียวก็ทำได้ ทำได้แล้วปะป๊าก็หายโกรธ นอนกอดกันเหมือนเดิม
...ปะป๊าเคยชี้จานแดง UBC ให้เด็กจิ๋วดูระหว่างทางขับรถไปตามท้องถนน จะเห็นติดตามบ้านอยู่เต็ม สอนเด็กจิ๋วว่าเป็นจานดาวเทียม ทำให้เราสามารถดูการ์ตูนได้ วันก่อนนั่งรถกันอยู่ เด็กจิ๋วก็ชี้จาน UBC ให้ปะป๊ากับคุณแม่ดูแล้วบอกว่า “จานกระเทียม”...ฮา อ่ะ เอา “จานดาวเทียม” ไปสับสนกับ “จานกระเทียม”...แต่ก็เข้าใจได้นะ เพราะมันมีคำว่า “จาน” ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับอาหาร “กระเทียม” แต่อันนี้ยังไม่ฮาเท่าเมื่อวานล่าสุด ชี้จาน UBC ให้ดูอีกครั้งหนึ่ง แล้วบอกอย่างมั่นใจเสียงดังฟังชัดว่า “นั่น จานกระเทียมดอง”...เฮ้ย กระเทียมเฉยๆไม่พอ เอากระเทียมดองเลยเหรอ ฮาเกินแล้ว พอเราตกใจ เด็กจิ๋วก็ขำใหญ่ เลยไม่รู้ว่าผิดจริงหรือแกล้งพูดผิดกันแน่ ถ้าแกล้งก็เรียกว่าเทพมาก คิดมุขนี้ได้ไง

๓ ขวบ + ๒๙๖ วัน...พุธ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันหยุดปิยะฯ แต่เด็กจิ๋วตื่นสายหน่อย สงสัยไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันหยุด ปกติวันเสาร์อาทิตย์จะตื่นมาดูการ์ตูนตั้งแต่ 7 โมง ก่อนเวลาปลุกไปโรงเรียนซะอีก อย่าว่าแต่เด็กจิ๋วเลย คุณแม่เองก็ลืมว่าวันนี้เป็นวันหยุด ตื่นมาแต่เช้ามาปลุกปะป๊าตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง พอรู้ว่าวันหยุดก็ดีใจใหญ่ ไปนอนอมยิ้มต่อ วันนี้กว่าเด็กจิ๋วจะตื่นก็เกือบ 10 โมงเลย ตามหาปะป๊ามาที่ห้องโฮม ปะป๊ากำลังดูหนังปลาฉลามอยู่ ใกล้จะจบแล้ว กำลังหนุก ไม่ยอมเสียสละให้ลูกดูการ์ตูน ว่าแล้วก็ชวนเด็กจิ๋วดูปลาฉลามด้วยกันเลย ต้องเตรียมหมอนมาปิดตาเวลามีฉากฉลามกินคน เด็กจิ๋วตั้งใจดูกว่าดูการ์ตูนอีก ดูไปถามโน่นนี่ตลอดเวลา มีอะจึ๊ยอะจ๊ายด้วยเสียงดังด้วย แบบนี้ถ้าเข้าโรงหนังมีหวังโดนเขวี้ยงของใส่ ว่าแต่พาลูกดูหนังฉลามกินคนมันจะโหดไปไม๊เนี่ยะ
...วันเสาร์ที่แล้วไปตลาดหลังการบินไทยแล้วร้านชุดเจ้าหญิงปิด ไปถึงก็พุ่งตัวไปใหม่ ร้านประจำที่เคยซื้อชุดราพันเซลคราวที่แล้ว ปรากฎว่าชุดหมดไปเยอะมาก ชุดราพันเซลเหลือชุดเดียว ชุดซินเดอเรลล่าหมดแล้ว วันนี้เด็กจิ๋วมาด้วย เลยให้ลองใส่ทุกชุดเลย ชุดแรกเป็นแอเรียล เด็กจิ๋วชอบตัวแอเรียลอยู่แล้ว พอใส่แล้วก็บอกว่าชอบ แต่ปะป๊ากับคุณแม่ไม่โอนะ มันไม่ใช่เจ้าหญิงอ่ะ เป็นชุดแบบเกาะอกมีคลีบด้วย ประหลาดจะตาย แล้วลองชุดทิงเกอร์เบลที่คราวที่แล้วปะป๊าติดใจว่าน่ารักดี แต่ใส่แล้วมันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ไม่อลังการด้วย สุดท้ายเลยได้ชุดเบล เพราะใส่แล้วอลังการงานสร้างมาก ชอบกันหมดทุกคน เด็กจิ๋วลองแล้วปิ้งเลย บอกว่าจะเอาชุดนี้ ปะป๊ากับคุณแม่ก็ชอบ ชุดนี้คุ้มสุดเพราะทุกชุดราคา 1200 บาทเท่ากันหมด ชุดเบลได้ผ้าเยอะดี คนขายขอถ่ายรูปเด็กจิ๋วชุดเบลไว้ด้วย สงสัยเด็กจิ๋วจะได้เป็น presenter ของร้าน เจ้าหญิงหมวยตาตี่มาก แต่ใส่แล้วก็น่ารักจริงแหล่ะ เพียงแต่ว่าเดินลำบากไปนิด แล้วจะใส่วิ่งเล่นกระโดดบ่อบอล เล่นสไลเดอร์แบบที่เคยใส่ชุดราพันเซลทำไม่ได้แล้ว อันนี้มันอลังมากๆ ต้องเดินนิ่งๆเป็นเจ้าหญิงจริงๆ
...ออกจากร้านนี้มา เจออีกร้านหนึ่งเพิ่งเอาของมาลง มีชุดเจ้าหญิงเต็มเลย ชุดสวยเหมือนกัน น่าตาแตกต่างกันอันนี้เป็นชุดกระโปรงสั้น ใส่ได้ง่ายกว่า แต่ไม่อลังเท่าของร้านนั้น แต่ตั้งราคาแพงกว่ามาก ต่อราคาอยู่ตั้งนาน ให้เด็กจิ๋วไปช่วยต่อด้วย เลยได้มาชุดละ 1300 บาท เป็นชุดราพันเซลคล้ายๆเดิมมาก แต่เป็นกระโปรงสั้น ดูแล้วน่ารักกว่าชุดเดิม แต่ชุดเดิมจะเหมือนเจ้าหญิงมากกว่า ที่เอาราพันเซลอีกแล้วเพราะเด็กจิ๋วชอบ ตอนแรกปะป๊ากับคุณแม่พยายามต่อรองจะให้ซื้อชุดซินเดอเรลล่าให้ได้เลย เป็นชุดกระโปรงสั้นคล้ายๆราพันเซลนี่แหล่ะ สีฟ้าสวย เปลี่ยนคาแร็กเตอร์หลายๆตัวบ้าง แต่เด็กจิ๋วบอกไม่เอา ต่อรองกันอยู่นาน ในที่สุดก็ต้องตามใจคนใส่ ว่าแล้วเราก็อะไรกันนักหนาเนอะ ซื้อชุดให้ลูก จะไปบังคับเค้าทำไม อยากใส่ชุดไหนก็น่าจะตามใจเค้าสิ ก่อนออกจากร้าน เด็กจิ๋วหันไปเห็นคทา มงกุฎ รองเท้า มีครบเซ็ททุกตัวละครเลย เด็กจิ๋วทำท่าอยากได้ใหญ่ แต่ราคาแพงมาก ต้องรีบพาหนีออกมาก่อนจะหมดตัว นอกจากชุดแล้ววันนี้ยังได้กิ๊ฟกับที่คาดผมมาอีกหลายอัน ซื้อไปเกือบพันบาทเลย หมดเงินไปกับการแต่งตัวเจ้าหญิงน้อยมากมาย
...กลับมาถึงบ้าน เด็กจิ๋วรีบขอใส่ชุดเบลก่อนเลย ตามประสาเด็กบ้าเห่อ ยังไม่ซักด้วยอ่ะ ใส่ดูการ์ตูนไป สักพักบอกว่าอยากกอดหมีหมี เราก็แกล้งบอกว่า ถ้าจะกอดให้เปลี่ยนชุดก่อน เพราะเดี๋ยวหมีหมีติดกากเพ็ชร คือพูดไปงั้นแหล่ะ รู้อยู่แล้วว่าเด็กจิ๋วไม่ยอมถอดหรอก แต่ผิดคาด เด็กจิ๋วบอก “ก็ได้”...แล้วก็วิ่งไปเปลี่ยนชุดมากอดหมีหมีทันที แบบนี้รู้เลยว่าไม่ชอบชุดนี้แล้ว อย่างราพันเซลใส่แล้วต้องกราบอ้อนวอนถึงจะยอมถอด และก็เป็นจริงตามนั้น ตอนเย็นๆเด็กจิ๋วบอกคุณแม่ว่า “น้องพริมไม่ชอบชุดเบลอ่ะ แค่อยากใส่เฉยๆ”...คุณแม่ก็โวยวายดิ่ โห แพงนะ ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อดิ่ รู้ไม๊ปะป๊ากับคุณแม่ต้องประชุมหาเงินมาซื้อ... ตอนหลังเด็กจิ๋วบอกว่าชอบก็ได้ คือสรุปแล้วก็ไม่ชอบนั่นแหล่ะ คิดว่าคงเป็นเพราะใส่แล้วรำคาญ เพราะชุดมันอลังการมาก น่ารำคาญจริงๆอ่ะ
...วันนี้เด็กจิ๋วดูการ์ตูน 2 เรื่อง เป็นเรื่องบาร์บี้ตอนม้าโพนี่ ทั้ง 2 เรื่อง คือดูจบแล้วขอดูอีกรอบหนึ่ง เรื่องเดิม เราก็ตามใจ ทั้งๆที่ในใจก็งง เด็กมันสนุกเหรอ ดูเรื่องเดิมซ้ำติดต่อกันเลย 2 รอบแบบนี้อ่ะ พอดูจบก็ขอปะป๊าว่าอยากจะไปทำคุ้กกี้แบบวันนั้นอีก ปะป๊าก็เลยจัดให้ ไปช่วยกันทำอีก หนุกหนานมาก ให้เด็กจิ๋วตวงส่วนผสมต่างๆ วันนี้คุณแม่ไปนั่งทำงานอยู่ในห้องนอนด้วย ปะป๊าเลยให้เด็กจิ๋วจัดเต็มเลย ตอนร่อนแป้งสนุกมาก เด็กจิ๋วเอามือ 2 มือ ละเลงแป็งซะเละไปหมด
...ทำคุ้กกี้เสร็จ ปะป๊าก็นั่งเด็ดชะอมไป เด็กจิ๋วก็นั่งข้างๆเล่นอนาฟิชไป สักพักเปลี่ยนมาเล่นซักทิชชู ปะป๊าปล่อยให้เล่นตามใจชอบ พื้นห้องครัวเปียกเละหมด แต่ดูแล้วเด็กจิ๋วมีความสุขมาก เล่นไปร้องเพลงไป เสร็จแล้วก็กินข้าว ไปเล่นต่อกันในอ่าง เล่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอน แล้วก็จบด้วยนอนเกาหลังจนหลับ รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เด็กจิ๋วมีความสุขมากอีกวัน ดูหน้าเค้าก็รู้ แล้วตอนอยู่ในห้องครัว เล่นอยู่ดีๆ เด็กจิ๋วก็บอกว่า “ปะป๊า น้องพริมรักปะป๊านะ”...ตลอดทั้งวันมีเรื่องดีๆเยอะแยะ ไม่มีเรื่องหงุดหงิดให้ต้องอาละวาด ได้ชุดสวย ได้ที่คาดผม ได้เล่นโน่นนี่หลายอย่าง ช่างเป็นเด็กที่มีความสุขจริงๆ

๓ ขวบ + ๒๙๗ วัน...พฤหัส ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้ไปรับเด็กจิ๋วที่ห้อง เห็นกำลังยุ่งอยู่กับการชงกาแฟ พอเห็นหน้าปะป๊าก็รีบวิ่งเอากาแฟมาให้กินด้วย แปลกดี ปกติไม่เคยเห็นเล่นแบบนี้ ทุกวันจะอยู่กับครูดูเพื่อนทำแบบฝึกหัด และวันนี้อารมณ์ดีมาก ไปรับจากห้องก็เดินออกมาเอง ร้องเพลงมาตลอดทาง ไปเรียนปั้นดินก็เป็นเด็กดี เชื่อฟังปะป๊า ยอมนั่ง car seat เอง
...กลับมาถึงบ้าน อี๊ป้อมเตรียมชุดเบลเอาลงมาให้ใส่ เด็กจิ๋วไม่ยอมใส่ ขอใส่ชุดราพันเซลกระโปรงสั้น เสียดายมาก ชุดเบลพันสอง ตกลงเด็กจิ๋วไม่ยอมใส่เลยอ่ะ ทำไงดี ในที่สุดก็ยอมตามใจให้ใส่ชุดราพันเซลสั้น ใส่แล้วน่ารักมาก สวยกว่าตัวเดิมอีก
...ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เราพยายามฝึกเด็กจิ๋วคัดลายมือ เพราะจะลงแข่ง เด็กจิ๋วท้อมาก คัดไปงอแงไป ตัวอ่อนปวกเปียก บางทีก็ลงไปนอนฟลุ๊บกับโต๊ะ และแล้วเมื่อวานนี้ปะป๊าก็คิดค้นวิธีการฝึกแบบใหม่ได้สำเร็จ ให้โฮไอมาแข่งคัดลายมือกับเด็กจิ๋ว แข่งกันตัวต่อตัวเลย ได้ผลดีเกินคาด เด็ก 2 คน แข่งกันอย่างหนุกหนาน วันนี้ก็แข่งกันต่อ เห็นผลทันตา บางตัวเริ่มชนะพี่โฮไอได้แล้วด้วย ตัวก.หลังคาแหลมก็มาแล้ว ตัวอื่นๆก็ได้ถูกต้องไม่มีปัญหา แต่รู้สึกว่าจะมีปัญหาเรื่องการ balance คือหางไม่เสมอหัว อย่างตัวถ. หางตัวถ.บางทีก็สั้นไปบางทีก็ยาวไป แล้วตัวอักษรบางทีก็เตี้ยไป บางทีก็อ้วนไป คือมันยังไม่ค่อยสมส่วน แต่ไม่เป็นไร มีเวลาฝึกอีกเยอะ กว่าจะแข่งก็มกราคมแน่ะ
...ที่ผ่านมาเคยสอนเด็กจิ๋วบวกเลย ตอนแรกให้ชูนิ้ว 2 ข้างแล้วนับต่อกัน ต่อมาเริ่ม advance ให้เอาเลขแรกไว้ในใจ ชูนิ้วขึ้นมาตามเลขที่สอง แล้วนับต่อกัน พอได้แล้วก็เริ่มยากขึ้นไปอีก สอนให้เอาเลยตัวมากไว้ในใจแล้วนับนิ้วต่อ เด็กจิ๋วก็ทำได้เก่งมาก รู้ว่าเลขไหนควรเอาไว้ในใจ นับต่อกันก็นับได้อย่างถูกต้อง แต่เราไม่ได้ซ้อมไม่ได้ฝึกกันมาเป็นเดือนแล้ว พอมาวันนี้ให้บวก ดันบวกไม่ถูก ตอนแรกปะป๊าคิดว่าแกล้ง คืองอแงไม่ยอมบวก แต่คุณแม่บอกว่าอาจจะลืมจริงๆ แต่พอทบทวนให้ใหม่ก็ทำได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนเดิม ว่าแต่เราก็งงว่ามันมีลืมกันได้จริงไม๊เนี่ยะ แบบนี้ต้องคอยทบทวนอยู่เรื่อยๆอ่ะดิ
...ช่วงนี้เกาหลังตอนนอนทุกคืน สองวันที่ผ่านมามีตุ่มยุงกัดที่กลางหลัง ยิ่งคันหนักให้เกาแรงๆ ปะป๊าเลยใช้วิธีที่ปะป๊าคิดค้นเอง คือใช้เล็บจิกลงไปที่กลางตุ่ม มันจะลดอาการคันลง ลองเอามาทำกับเด็กจิ๋วบ้าง ปรากฎว่าติดใจ ให้จิกมาทุกวันเลย พอวันนี้ตุ่มหายแล้วก็ยังให้จิกอีก ตอแรกจิกนิ้วเดียว ตอนนี้ให้จิกทั้งมือเลย มันซาดิสหรือเปล่าเนี่ยะ ตอนหลังปะป๊าเลยไม่ยอมจิกแล้ว บอกว่าถ้ามีตุ่มถึงค่อยจิก แบบนี้จะอันตรายเป็นแผล

๓ ขวบ + ๒๙๘ วัน...ศุกร์ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ตอนเช้าปะป๊ากับคุณแม่หลังจากส่งเด็กจิ๋วเสร็จแล้วก็แอบหนีไปเดินตลาดนัดกรมประมง ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนุกมาก ซื้อหนมมาฝากเด็กจิ๋วเต็มเลย มีปูอัดกล่องหนึ่ง คุณแม่ชิมแล้วอร่อยมาก ไม่เหมือนปูอัดที่เป็น Stick ทั่วไป อันนี้ดูจะฟูๆเบาๆกว่า คนขายเรียกก้ามปูอลาสก้า กล่องละ 75 บาท มีสิบกว่าชิ้น ตอนไปรับเด็กจิ๋วปะป๊าก็เอาให้กินในรถ แป๊บเดียวเอง กินจนเหลือ 2 ชิ้น บอกว่าจะเก็บให้อั่งอั๊งกิน เพราะหลายอาทิตย์ก่อน เคยนั่งรถอั่งอั๊งแล้วไปแย่งปูอัดเค้ากินกัน คงจะจำได้ ปะป๊าก็บอกว่ากินไปเลย กว่าจะเจออั่งอั๊งมันก็เสียไปแล้ว ว่าแต่เด็กจิ๋วมีน้ำใจนะเนี่ยะ คิดถึงเพื่อน กินจนหมดกล่องแล้ว เด็กจิ๋วก็ถามปะป๊าอยู่หลายรอบว่าซื้อมาจากไหน ปะป๊าก็ตอบว่าตลาดนัดกรมประมง เด็กจิ๋วฟังแล้วก็ “หะ ตลาดอะไรนะ”...คือเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหู ก็พยายามถามพยายามท่องอยู่หลายรอบ สั่งปะป๊าว่าวันหลังให้ซื้อมาให้ใหม่ แล้วพาน้องพริมไปซื้อเองด้วย
...วันนี้ปะป๊าไปรับเด็กจิ๋วคนเดียวอีกแล้ว ช่วงนี้คุณแม่งานเข้า เนื่องจากมีโครงการใหญ่ของกองบัญชาการกองทัพไทย ต้องทำเอกสารเยอะ วันนี้ต้องไปเรียนเปียโนด้วย แต่เวลาไปกับปะป๊า 2 คนแบบนี้เด็กจิ๋วจะเป็นเด็กดี ไม่งอแง ตอนนั่งรถไปเซนทรัลก็นั่งกินปูอัดเพลินอยู่เบาหลังคนเดียว ตอนนี้สามารถรัด seat bell เองได้ รู้สึกสะดวกมากๆ ปกติเวลารถติดก็จะร้องขอออกจาก car seat แล้วกว่าเราจะไปจับใส่ได้ก็ยากลำบาก อันนี้รถติดก็ถอดออก พอรถวิ่งปุ๊บ รีบปีนไปนั่งที่แล้วรัดเข็มขัดเองเรียบร้อย คือเป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของเค้า
...วันนี้ไปถึงก่อนเวลาพอสมควร ระหว่างวิ่งวนรอครูหวานอยู่หน้า KPN เด็กจิ๋วก็บอกว่าปวดอึ๊ เอาอีกแล้วไง มาห้างนี้ทีไร ปวดอึ๊ทุกที โชคดีที่ชั้น 10 มีห้องน้ำพ่อแม่ลูก เพราะเป็นชั้นสำหรับโรงเรียนเด็ก สะดวกสะบายกว้างขวาง ตอนนี้ปะป๊าเริ่มคล่องกับการเช็ดก้นเด็กจิ๋วแล้ว แต่วันนี้เด็กจิ๋วบอกว่า “ปะป๊าเช็ดแรงกว่าคุณแม่ เช็ดจนเจ็บก้นไปหมดเลย”...เออ ว่าแต่มันเช็ดเหมือนก้นผู้ใหญ่ไม๊อ่ะ ปะป๊าก็จัดเต็มเลย กะให้สะอาดๆ หลังจากอึ๊เสร็จเรียบร้อยก็มาวิ่งเล่นต่ออีก ไม่กี่นาทีต่อมาก็ขออึ๊อีกรอบ นี่ติดใจการเช็ดก้นของปะป๊าหรือไง ทำไมไม่อึ๊ให้เสร็จตั้งแต่ทีแรก คราวนี้ไม่เชื่อเด็กจิ๋วแล้ว เด็กจิ๋วบอกเสร็จเราก็บอกว่าอย่างเพิ่ง ให้นั่งต่อไปก่อน รอให้แน่ใจถึงค่อยจัดการทีเดียว
...ครั้งนี้เด็กจิ๋วเรียนเปียโนครบ 10 ครั้งแล้ว ต้องต่ออายุอีก 4500 บาท เล่มที่ 2 ที่เรียนอยู่ก็ใกล้จะจบแล้วด้วย เฉลี่ยก็ประมาณเล่มละ 10 ครั้ง คือมีครั้งหนึ่งที่เด็กจิ๋วลืมเอาหนังสือไปโรงเรียน ครูหวานก็ใช้หนังสือที่โรงเรียนชั่วคราว แต่พอครั้งถัดไป ปะป๊าเห็นครูสอนซ้ำก่อน คือคงลืมไปเพราะครูคงไม่ได้จำ คงจะดูจากหนังสือ ปกติเรียนถึงหน้าไหนก็เห็นจากหนังสือเพราะจะมีการเขียนโน่นนี่ วาดตัวการ์ตูน ติดสติ๊กเกอร์ ถ้าไม่เรียนซ้ำฟรีไปหนึ่งครั้งคิดว่าวันนี้น่าจะจบเล่มแล้ว

๓ ขวบ + ๒๙๙-๓๐๐ วัน...เสาร์ ๒๖ – อาทิตย์ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ไปเที่ยวสวนผึ้ง à N’Prim@La Toscana, สวนผึ้ง
 
N’Prim@La Toscana, สวนผึ้ง
...ที่ La Toscana สวนผึ้งนี่ เด็กจิ๋วเคยไปมาแล้วทีหนึ่ง สามปีที่แล้ว เป็นวันที่เด็กจิ๋วคว่ำเองได้เป็นครั้งแรก ตอนนั้นปะป๊ากับคุณแม่ไป Survay ที่เที่ยวของบริษัทกัน อากงอาม่าก็ไปกันด้วย คือถือโอกาสไปเที่ยวกันด้วย ช่วงนั้นสวนผึ้งกำลังเริ่มฮิต ไปหลายรีสอร์ทเลย แต่เข้าไปดูๆไม่ได้นอนค้าง ตั้งแต่ครั้งนั้นคุณแม่ก็ชอบที่รีสอร์ทนี้มาก แต่ราคาค่อนข้างสูงเลยยังไม่ได้ไปซะที พอมาหลังๆนี่รู้สึกว่าไม่ค่อยแพงแล้ว ไม่ใช่เพราะราคาถูกลงนะ แต่เพราะว่าหลังๆมานี่เริ่มเที่ยวแพงขึ้นแพงขึ้น จนเป็นการ upgrade ตัวเองโดยงไม่รู้ตัว
...ตอนเช้าเราต้องพากันไปเซนลาดก่อน คุณแม่มีนัดรับโทรศัพท์เครื่องใหม่ iPhone 5S ดีใจใหญ่เลย ต้องไปวันนี้เวลานี้ ระหว่างคุณแม่ทำธุรกรรมอยู่ ปะป๊าก็พาไปกิน Auntie Anne เด็กจิ๋วชอบ ชีสสี่ชิ้กเก้นซอสเสซ ปะป๊ารู้ว่าชอบเพราะผงชูรสนั่นแหล่ะ เป็นผงปาปริก้าโรยหน้า เป็นพริกปลอม ไม่เผ็ดมีแต่ผงชูรส ปะป๊าก็ชอบ กัดคำหนึ่งจิ้มผงชูรสทีหนึ่ง เสร็จแล้วต่อด้วยช็อกโกแล็ตไข่มุขของโปรด แย่งกันกินเอร็ดอร่อย แล้วยังไม่พอ ต่อด้วยไอติม อีกโคนหนึ่ง กินสร็จวิ่งเข้าห้องน้ำอีก ธุระคุณแม่ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ของเด็กจิ๋วนี่เรื่องเยอะเหลือเกิน กว่าจะออกจากห้าง 11 โมงกว่า ไปถึงครัวม่อนไข่เกือบบ่าย 3
...อาหารที่ร้านนี้อร่อยมาก เคยรู้จักร้านนี้มานานแล้วแต่ยังไม่เคยลองกิน เมื่อก่อนร้านเล็กๆ ตอนนี้ขยายร้านซะใหญ่มาก คนแน่นเอียดขนาดตอนบ่าย 3 แต่รสชาติอาหารอร่อยมากๆ เด็กจิ๋วกินไก่ทอดกับแกงจืด กินน้ำสัปะรด แล้วได้หมี่กรอบหิ้วติดมือไปอีก อาหารอื่นๆก็เป็นพวกต้มยำปลาคัง ยำผักกูด ปลาเนื้ออ่อนทอด อร่อยหมดทุกอย่างจริงๆ
...ที่ La Toscana เปิดโซนใหม่ชื่อ Palazzo เป็นตึกใหม่หนึ่งตึก 2 ชั้น มีประมาณ 10 ห้อง คืออยู่ในบริเวณเดิมของ La Toscana นั่นแหล่ะ จะมาเรียกชื่อใหม่ให้งงทำไมไม่รู้ คุณแม่จองห้องชื่อ Juliet อยู่ชั้น 2 ริมสุดของตึกใหม่ที่ว่านี้ ดูรีวิวมาเค้าว่าห้องนี้วิวดีสุด ราคา 5400 บาท พอรถกอล์ฟมาส่งที่หน้าตึก เราก็แกล้งถามเด็กจิ๋วว่า เด็กจิ๋วดูดิ่ ตึกเก่าหรือใหม่อ่ะ คือสภาพตึกแนว Tascany จะเป็นอิฐดิบๆ ปลูกต้นไม้ในกระถางประดับเยอะแยะ ตึกจะดูชุ่มๆมีตะใคร่เยอะๆ เด็กจิ๋วต้องคิดว่าตึกเก่าแน่ๆ ทั้งๆที่ตึกนี้เพิ่งสร้างใหม่ไม่ถึงปี แต่คำถามที่เด็กจิ๋วตอบเรามา ทำเราหงายเก๋งเลย “ตึกใหม่เอี่ยมเลย แต่เค้าเอาตะไคร่มาแปะๆไว้ให้ดูเก่า”...เห้ย รู้ได้ไงอ่ะ คิดเองเหรอ เราไม่ได้สอนนะ เด็กอัจฉริยะชัดๆ คือรู้ได้ยังไงว่าตึกใหม่ เพราะมันสภาพมันเก่าทันทีตั้งแต่สร้างเสร็จ แล้วคิดยังไงถึงตอบว่าเอาตะไคร่มาแปะๆให้ดูเก่า
...ประตูใหญ่ของห้องเป็นลูกกรงเหล็ก แบบสนิมหน่อยๆให้เข้ากับแนว เปิดเข้าไปจะเจอกับระเบียงใหญ่มาก มีทั้งอ่างอาบน้ำแบบกลม นอนแช่ชอมวิว มีโซฟาเบดตัวใหญ่ แล้วที่สำคัญจากระเบียงนี้ มองเห็นวิวสวยสุดยอยของรีสอร์ท เจ๋งมากอ่ะ ขนานกับระเบียงขนาดใหญ่ที่ว่าก็จะเป็นห้องนอน ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายธรรมชาติ กว้างๆมึดๆโล่งๆ มีเตียงไม้เก่าๆตังอยู่ ทุกครั้งที่ขึ้นเตียงจะมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดของไม้ที่ทำให้เราขาดความมั่นใจมากๆว่าจะทำเตียงเค้าหักหรือไม่ เราไม่ได้กระโดดขึ้นเตียงนะ แค่นั่งลงเบาๆก็เอี๊ยดแล้ว นอนพลิกตัวแรงๆก็เอี๊ยด เอี๊ยดกันทั้งคืน ตอนเช้าปะป๊าชวนเด็กจิ๋วมากระโดดบนเตียงเล่น คุณแม่รีบโวยวายทันที บอกว่ากลัวต้องเสียตังค่าเตียง ข้างๆเตียงมีโต๊ะไม้สูงๆโล่งๆวางดอกไม้น้ำหอม ซึ่งคุณแม่ชอบใจซื้อกลับมาบ้านด้วย เป็นเหมือนดอกไม้เทียนแช่อยู่ในขวดน้ำหอม ถัดไปอีกข้างของเตียงเป็นโซฟาหนังมันแบบยุโรปมากๆ เราไม่ชอบโซฟาแนวนี้อย่างแรง แต่นั่งดูแล้วมันก็สบายดีเหมือนกันนะ เด็กจิ๋วโปรดมากเลยแหล่ะ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในห้องบนโซฟาตัวนี้แหล่ะ ทั้งเล่น ipad กินหนม ซ่อนแอบ นอนเล่น ที่ฝั่งตรงข้ามกับเตียงมีทีวี LCD ให้ และที่เด็ดสุดก็คือนอนบนเตียงก็เห็นวิวเดียวกับที่ระเบียงเลย วิวสวยมาก แต่เราไม่ค่อยเปิดม่านที่ห้องนอนนะ เพราะที่สวนด้านล่างหน้าห้อง มีคนเดินถ่ายรูปกันเยอะมาก มองเข้ามาเห็นข้างในห้องชัดเจนเลย
...ถัดจากห้องนอนก็เป็นห้องน้ำขนาดใหญ่มาก เช่นเดียวกัน โล่งๆ มึดๆ น่ากลัวๆ เวลาปะป๊าอาบน้ำก็ต้องเปิดประตูทิ้งไว้ ไม่กล้าใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในห้องน้ำนี้ อ่างอาบน้ำเป็นแบบขาเหล็กสนิมๆ ก๊อกต่างๆก็สนิมๆ สบู่อาบน้ำกลิ่นขนมชั้น แปลกมาก คุณแม่ชอบ เอากลับมาบ้านด้วย ผ้าเช็ดตัวแย่มากอ่ะที่นี่ เป็นแบบบางๆสีน้ำตาลเพื่อกลบเกลื่อนคราบสิ่งสกปรก ปกติผ้าเช็ดตัวสีน้ำตาลเค้าจะใช้กันที่สระว่ายน้ำเท่านั้น แล้วที่สำคัญ ผ้าเหม็นอับอ่ะ เช็ดตัวไปแล้วตัวเหม็นเลย อันนี้รุนแรงมาก ต้องปรับปรุงด่วน จะมาอ้างว่าช่วงนี้ฝนตกตากไม่แห้งก็ไม่ได้นะ เพราะฝนไม่ได้ตกมาหลายวันแล้ว
...ที่นี่เค้าฮิตมาถ่ายรูป pre wedding กันมาก 2 วันที่เราอยู่นี่ เจอไป 3 กอง เจอ Six Floor คนดังจากพันทิพที่เป็นช่างถ่ายภาพด้วย ไม่รู้จ้างมาแบบนี้คิดเงินเท่าไหร่นะ แต่ถ่ายรูปชุดแต่งงานกันนี่ธรรมดามาก เมื่อมาเจอกับชุดเจ้าหญิงราพันเซลของเด็กจิ๋ว พอเข้าห้องปุ๊บ เด็กจิ๋วก็ขอใส่ชุดราพันเซลทันที ลงมาเดินถ่ายรูปกัน รู้สึกคนไม่ค่อยแตกตื่นอย่างที่คิดนะ หรือเพราะชุดนี้เป็นกระโปรงสั้น ไม่อลังการเท่าไหร่ หรือว่าตอนนี้ใกล้ฮาโลวีน หรือว่าคนส่วนใหญ่ไปสนใจกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันหมด ชุดเจ้าหญิงนี่ได้ผลดีระดับหนึ่ง เพราะใช่ต่อรองให้เด็กจิ๋วยอมยืนโพสท่าถ่ายรูปได้บ้าง ปกติถ้าไม่มีชุดนี่บังคับกันจนโมโห โกรธลูกอีกไม่ยอมทำตาม แต่วันนี้แค่อ้างว่าถ้าไม่ยิ้มจะไม่ให้ใส่ชุดแล้วนะ แค่นี้ก็ได้ผล แต่ถ่ายกันได้แป๊บเดียวเอง พอดีเดินมาเจอสระว่ายน้ำ เด็กจิ๋วก็ร้องจะลงทันที เลยไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำพาลงให้สมใจ
...น้ำเย็นด้วย ตอนนี้อากาศที่สวนผึ้งเริ่มเย็นๆแล้วด้วย ปะป๊ายังลงไม่ไหวเลย ปล่อยให้เด็กจิ๋วลงคนเดียว แหวกว่ายไปมาอยู่คนเดียวในสระ ดำน้ำกินน้ำไปหลายอึก สักพักไม่หนำใจ บอกว่าขอถอดปลอกแขนออก จะดำน้ำลงไปดูปลาที่พื้นเลย ตลกแล้วเด็กจิ๋ว มีปลาที่ไหน แล้วจะถอดปลอกแขนเนี่ยะนะ เด็กจิ๋วขออยู่นาน ในที่สุดปะป๊าก็ใจอ่อน ยอมให้ถอดปลอกแขน แต่ปะป๊าต้องลงไปหนาวกับเด็กจิ๋วในสระด้วยนี่สิ เด็กจิ๋วใจกล้ามากเลย ถอดแล้วดำๆว่ายๆใหญ่ ปะป๊าก็คอยจับแบบเบาๆ ปล่อยมือบ้างบางจังหวะ ดูแล้วอนาคตเรื่องว่ายน้ำน่าจะรุ่ง เดี๋ยวอาทิตย์หน้าว่าจะพาไปเรียนที่เกษตรแล้ว
...เด็กจิ๋วขึ้นจากสระแล้วมาแช่อ่างกลมที่ระเบียงห้องต่ออีกแป๊บแล้วถึงอาบน้ำ เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว ท้องฟ้ามึดเร็วมาก อาบน้ำเสร็จพระอาทิตย์ตกไปแล้ว รีบพาเด็กจิ๋วเข้านอนโดยเร็ว กะว่าหลับแล้วปะป๊ากับคุณแม่จะสั่งอาหารมากินกันที่ห้อง แต่กล่อมอยู่นานก็ไม่หลับ ขอเล่นเกมส์ เล่นแต่เกมส์แต่งหน้า เรารอจนห้องอหารจะปิดแล้วเลยต้องรีบสั่งอาหารมา พออาหารมาส่ง เด็กจิ๋วก็ยังไม่หลับอยู่ดี รู้เลยว่าถ้าเป็นยังงี้ เด็กจิ๋วมาขอเรากินต่ออีกแน่ ว่าแล้วก็วางแผน หลอกให้เด็กจิ๋วเล่นเกมส์แต่งหน้าบนเตียงนอนไป ปะป๊าไปสั่งว่าให้เล่นได้ไม่อั้น เล่นจนกว่าปะป๊าจะบอกว่าพอ เด็กจิ๋วทำหน้างง ปกติมีแต่สั่งว่าเล่นเกมส์เดียวแล้วพอ แต่ก็ไม่สน ก้มหน้าก้มตาเล่นอย่างจริงจัง ปะป๊ากับคุณแม่ก็จัดการกินอาหารกันที่ระเบียง ประจันหน้ากับเด็กจิ๋วบนเตียงนั่นแหล่ะ แต่ผ่านประตูกระจกบานใหญ่ เด็กจิ๋วก็ไม่สนใจที่เรากินกันนะ มัวแต่เล่นเกมส์ เราสั่งพิซซ่ากับซีซาร์สลัดมากิน อาหารที่นี่ราคาถูกมาก อย่างพิซซ่าถาดใหญ่ 200 กว่าบาท ซีซาร์ก็แค่ 120 พิซซ่าอร่อยมาก แต่สลัดไม่อร่อยอย่างแรง พอกินไปใกล้จนหมดแล้ว เด็กจิ๋วเริ่มเบื่อเกมส์แล้ว เริ่มหันมาสนใจปะป๊ากับคุณแม่ ว่าแล้วก็เป็นไปตามคาด “กินอะไรกันอ่ะ”...เด็กจิ๋วถามเสียงใส ในที่สุดก็จบด้วยการมานั่งกินพิซซ่ากัน 3 พ่อแม่ลูกตอนสี่ทุ่ม
...ตอนกลางคืนอากาศดีมาก ไม่หนาว แต่ว่าเย็นๆ ออกมานั่งชิวๆที่ระเบียงสบายเลย
...ตอนเช้าไม่มีหมอกอย่างที่หวังไว้ เคยเห็นรูปที่นี่จะมีหมอกลงที่หน้าห้องเลย สวยมากๆ พนักงานบอกว่าฝนเพิ่งหมดไป ไม่กี่วันก่อนหน้านี้หมอกยังลงจัดอยู่เลย เสียดายอ่ะ ปะป๊าปลุกคุณแม่กับเด็กจิ๋วตื่นมาใช้บรรยากาศตอนเช้าหน่อย ตอนแรกจะเปิดหน้าต่างรับอากาศสดชื่น แต่เปิดไปแล้วต้องรีบปิด เจอแต่คนมาเดินถ่ายรูปกันที่สวนหน้าห้องเยอะมาก คือมองขึ้นมาเห็นเราชัดเจนเลยอ่ะ จับเด็กจิ๋วแต่งชุดใหม่ ถึงแม้จะร้องขอใส่ราพันเซลอีกแต่เราต้องต่อรองบอกว่ากินข้าวเสร็จแล้วค่อยให้ใส่ เด็กจิ๋วก็ยอม เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆก็ถึงห้องอาหาร อาหารเช้าที่นี่ก็ธรรมดาทั่วๆไป แต่ห้องอาหารอยู่ชั้นบนของ lobby วิวสวยมากๆ
...ทางรีสอร์ทออกตัวเขียนชี้แจงไว้ก่อนว่าพนักงานที่นี่เป็นชาวบ้าน กระจายรายได้ให้คนท้องถิ่น ขอความเห็นใจแขกช่วยเข้าใจหน่อย คือเขียนไว้แบบนี้ดีแล้วล่ะ เพราะพนักงานไม่โปรอย่างแรง เราเห็นรถกอล์ฟก็เรียกให้ไปส่ง lobby กลับบอกว่า โห อีกนานเลยเพราะต้องไปโน่นนี่ก่อน แทนที่จะพูดดีกว่านี้หน่อย หรือวอร์เรียกคันอื่นให้ แล้วเดินๆอยู่เจอพนักงานกวาดพื้น ก็กวาดๆใส่เราแบบไม่สนใจ พนักงานทั้งรีสอร์ทเดินผ่านไม่ยิ้ม ไม่ไหว้ แต่เราดูๆแล้วพนักงานที่นี่มันไม่เหมือนคนท้องถิ่นนะ มันเหมือนชาวต่างชาติซะมากกว่า
...หลังอาหารเช้า เด็กจิ๋วขอราพันเซลอีกชุดหนึ่ง ปะป๊าก็จัดให้ เดินถ่ายรูปกัน เด็กจิ๋วให้ความร่วมมือดีมาก แบบนี้ขอเอาชุดเจ้าหญิงไปทุกทริปเลยนะ แต่รอบนี้ถ่ายได้ไม่นานอีกแล้ว เพราะแดดจัดมาก
...ห้องที่นี่เช็คอินบ่าย 3 เช็คเอ้าท์บ่ายโมง พอได้เวลาบ่ายตรงเราก็ออกจากห้อง ไปกินครัวม่อนไข่อีกรอบ คราวนี้รอนานมาก คนเยอะ รออาหารเกือบชั่วโมงอ่ะ เสร็จแล้วก็ขับไปราชบุรีแวะหาอากงอาม่าแป๊บหนึ่ง แล้วค่อยกลับบ้านกัน


๓ ขวบ + ๓๐๑ วัน...จันทร์ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันสุดท้ายของซัมเมอร์ รู้สึกว่าเร็วมาก พรุ่งนี้ก็จะเปิดเทอมใหญ่ต่อเนื่องกันไปเลย อดใส่ชุดสวยแล้วดิ่ ต้องกลับไปใส่ชุด Robocar Poli ทุกวัน
...วันนี้ผลัดกันบ้าง ปะป๊าติดประชุม ให้คุณแม่ไปรับเด็กจิ๋วคนเดียว รับเสร็จก็พากันไปเซนลาดไปเรียนภาษาอังกฤษ เวลานั่งรถกันไปเซนลาดหรือบองมาเช่ก็ตาม เด็กๆจะขอมานั่งรวมตัวกันที่รถปะป๊า วันนี้ก็เหมือนกัน คุณแม่คนเดียวทั้งจัดการเด็ก 2 คน เด็กจิ๋วกับอั่งอั๊งนั่งเบาหลังกัน เด็กจิ๋วขึ้นไปนั่งแล้วก็คาดเข็มขัดเรียบร้อย ส่วนอั่งอั๊งกำลังพยายามคาดอยู่แต่คาดว่ามันติด ดึงสายออกมาไม่ได้ เด็กจิ๋วเห็นแล้วก็พูดว่า “อั่งอั๊ง น้องพริมเป็นห่วงอั่งอั๊ง อั่งอั๊งรัด car seat ไม่ได้เหรอ เดี๋ยวอั่งอั๊งพุ่งออกไปนอกรถนะ งั้น คุณแม่รีบขับเร็วๆเลย จะได้ถึงเร็วๆ น้องพริมรัด car seat แล้ว อั่งอั๊งจับแน่นๆนะ”...ขำมาก สั่งให้ขับเร็วๆแล้วให้อั่งอั๊งจับแน่นๆ
...เด็กจิ๋วบอกว่าชอบเรียนภาษาอังกฤษที่นี่มาก ก็เป็นยังงั้นจริงๆแหล่ะ ไปถึงก็ลั้นลาเข้าไปเรียนด้วยความสนุกสนานกับอั่งอั๊ง ระหว่างเรียนก็ได้ยินเสียงเล่นกิจกรรมกับครูสนุกสนานดี ตอนนี้มีปัญหากับศิลปะครูแก้วมากๆ บอกว่าไม่อยากเรียน หลังๆนี่ไปทีไรก็งอแงไม่ยอมเรียน กว่าจะต้อนเข้าห้องเรียนได้ ต้องเจรจาต่อรองนาน
...เรียนเสร็จ ก็ชวนอั่งอั๊งกับน้าปอยไปกินข้าวกันที่ Sukishi ต่อด้วยช็อกโกแล็ตไข่มุข แล้วก็ได้รองเท้าให้เด็กจิ๋วใหม่คู่หนึ่ง สีชมพูเป็นหนังแบบแข็งๆ คราวที่แล้วมาเล่งๆไว้ทีหนึ่ง ให้เด็กจิ๋วลองใส่ เด็กจิ๋วบอกว่าไม่เอา ใส่แล้วเจ็บ แต่พอวันนี้ให้ลอง ดันบอกว่าไม่เห็นเจ็บเลยนี่ แล้วก็ชอบมาก ขอใส่เดินออกจากร้านมาเลย

๓ ขวบ + ๓๐๒ วัน...อังคาร ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เปิดเทอมวันแรกรถติดมาก เราคาดการณ์ไว้อยู่แล้วเลยออกจากบ้านกันแต่เช้าหน่อย 7 โมงตรง เจ๊น่า เฮียโร พี่โฮไอก็ไปด้วย แป๊บเดียวก็ถึงโรงเรียน แต่วันนี้เปลี่ยนแผนใหม่ ลองไปนั่งทำผมที่โรงเรียนดู บรรยากาศใหม่ๆอาจจะช่วยให้การทำผมของคุณแม่ราบรื่นก็ได้ ปกติทำในรถต้องมีศึกสงครามแม่ลูกกันทุกวัน เลือกม้าหินตรงใกล้ๆตู้ไอติมนั่งทำผมกัน ก็มีอาละวาดงอแงเหมือนทุกครั้งแหล่ะ แล้วยังว่อกแว่กด้วยอีกต่างหาก เดี๋ยวก็เจอเมมิ เดี๋ยวก็เจอฟ้าใส
...วันนี้ต้องไปเรียนศิลปะกัน แต่อั่งอั๊งเลือดกำเดาไหล น้าเบียร์ก็มาช้า เลยยกเลิกไปก่อน อั่งอั๊งเลือดกำเดาไหลมา 2 วันแล้ว วันนี้ครูบอกว่าไหลเยอะซะด้วย ที่จริงตอนแรกน้าปอยโทรมาบอกว่าให้เราไปรับอั่งอั๊งแทนหน่อยแล้วจะไปเจอที่บองมาเช่ แต่ครูบอกว่าอย่าเลย เห็นอั่งอั๊งเลือดกำเดาไหลเยอะ อยากให้แม่มารับเองดีกว่า ระหว่างกำลังเดินออกมาจากโรงเรียนกัน อั่งอั๊งก็เริ่มรู้ตัวว่าน้าปอยจะพาไปโรงพยาบาล ก็อาละวาดร้องไห้กอดเสาอยู่ตรงทางเดิน ไม่ยอมไป ร้องไปร้องมา เลือดกำเดาไหลอีกแล้ว
...ยกเลิกศิลปะก็เข้าทางเด็กจิ๋วเลย ไม่อยากเรียนศิลปะอยู่แล้วด้วย วันนี้เลยไปเรียนปั้นดินแทน ทุกครั้งระหว่างที่เด็กจิ๋วนั่งเรียนปั้นดิน ปะป๊าจะนั่งมองหน้าเด็กจิ๋วไปด้วย ดูเด็กจิ๋วเพลินมาก เล่นกับครู ปั้นไปคุยไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หัวเราะคิกคักตลอดเวลา มิน่าถึงได้ชอบเรียนกับครูเมย์มาก
...วันนี้ได้สมุดพกเด็กจิ๋วมาด้วย พร้อมกับใบคะแนน ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าได้ร้อยเต็มทุกวิชาเลยไม่ค่อยตื่นเต้น ส่วนสมุดพก ครูก็ให้เต็มทุกๆด้านเลย มีเยอะเป็นสิบๆข้อ เช่นการปฏิบัติตามคำสั่ง การเข้าแถว การโน่นนี่ แต่อันนี้คิดว่าเด็กคนอื่นๆถ้าไม่แย่จริงๆก็น่าจะได้เต็มเหมือนกันแหล่ะ อันนี้เป็นสมุดพกเล่มแรกของเด็กจิ๋ว เรารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย มีส่วนที่ผู้ปกครองต้องกรอกกลับไปด้วยว่าพฤติกรรมเป็นยังไง ปะป๊ากับคุณแม่พยายามนึกกันใหญ่ว่าตอนเราเด็กๆแม่เราเขียนว่ายังไงกันบ้าง สรุปแล้วก็เขียนไปกว้างๆ เป็นเด็กร่าเริง ช่างคุย อะไรประมาณนี้
...วันนี้แข่งกันคัดตัวหนังสือกับพี่โฮไออีกแล้ว แต่ละวันจะเห็นพัฒนาการเด็กจิ๋วดีขึ้นมาเรื่อยๆ แบบนี้ถ้าแข่งต่อไปจนถึงวันประกวดจริงเดือนมกราคม ต้องเขียนสวยขั้นเทพแน่ๆ
...แบบฝึกหัดสอบเข้าสาธิตที่เคยพยายามให้เด็กจิ๋วทำอยู่ช่วงหนึ่ง มันยากมากจริงๆขนาดปะป๊ายังทำบางข้อไม่ได้เลย พอทำไม่ได้ก็ขาดความมั่นใจ ทุกข้อจะต้องดูเฉลยว่าถูกต้องไม๊ อันนี้หมายถึงปะป๊านะ แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่าเด็กจิ๋วก็คงจะรู้สึกเหมือนกัน คือทำแล้วมันยาก ทำแล้วเราบอกผิด ก็เลยขาดความมั่นใจ ก็เลยไม่อยากทำ จนต้องเอ่ยปากบอกว่า “น้องพริมไม่ทำเล่มเขียว” เราก็ให้หยุดทำเล่มเขียวที่ว่ามาพักหนึ่ง แต่วันนี้ปะป๊าคันไม้คันมือเอามาให้ลองใหม่ แต่ปรับเปลี่ยนเป็นถามคำถามแล้วให้ตอบ จะได้ไม่เหมือนการทำแบบฝึกหัด ปรากฎว่าที่เคยทำไปครั้งก่อน เด็กจิ๋วจำได้ เวลาถามก็ตอบได้ทันทีว่าข้อไหน แต่ถ้าถามต่อว่าเพราะอะไรก็ตอบไม่ได้ อย่างข้อหนึ่งถามว่าสัตว์ตัวไหนต่างจากพวก มันต้องรู้ว่าตัวไหนเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ตัวไหนครึ่งบกครึ่งน้ำถึงจะตอบถูก แต่เด็กจิ๋วไม่รู้เลย จำได้แต่ว่าข้อนี้ตอบว่ากบ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้เหมือนเมมิเลย เคยคุยกับน้ามุกก็บอกว่าเมมิเป็นแบบนี้เหมือนกัน ใช้จำเอา

๓ ขวบ + ๓๐๓ วัน...พุธ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖
...ตอนเช้าวันนี้เด็กจิ๋วร่าเริงผิดปกติ ยอมแต่งตัว ยอมให้ทำผมตั้งแต่อยู่บนห้อง ออกจากบ้านเร็วไปถึงโรงเรียนก็เร็ว เดี๋ยวนี้ไม่แวะ 7-11 แล้ว เริ่มตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ ที่เราออกจากบ้าน 7.30 น. ตอนแรกๆเด็กจิ๋วก็ร้องจะแวะแต่เราบอกว่าสายแล้ว แวะไม่ได้ ขออยู่ 2-3 วัน หลังจากนั้นก็ลืม พอลืมก็ไม่เคยขออีกเลยว่าต้องแวะ 7-11 ตลกมาก เมื่อก่อนต้องแวะทุกวัน ถ้าไม่แวะมีอาละวาดรถแตกแน่ๆ ดีแล้วไม่แวะก็จะได้ไปโรงเรียนเร็วขึ้น ไม่ต่ำกว่า 15 นาที วันนี้เฮียโรก็พยายามเซ้าซี้ว่าทำไมไม่แวะ เราต้องรีบบอกให้เงียบเลย เดี๋ยวเด็กจิ๋วนึกได้
...บ้านเราเริ่มสั่งให้สาวยาคู้มาส่งยาคู้ทุกวัน วันะละ 2 ขวด ทำมานานหลายเดือนมากแล้ว เริ่มต้นจะให้เด็กจิ๋วกินนั่นแหล่ะ แต่เด็กจิ๋วไม่ค่อยชอบ บางทีก็ขอกินแต่ดูดไปคำหนึ่งก็ไม่กินต่อ ปะป๊าเลยเอามากินแทน วันละ 2 ขวด ติดแล้วตอนนี้ ถ้าไม่กินจะถ่ายไม่ออก กินแล้วถ่ายคล่องมาก วันนี้ปะป๊าเล่าเรื่องที่มาของยาคู้ให้เด็กจิ๋วฟังว่ามาจากคำว่า ยาคู่ คือต้องกินกันเป็นคู่ๆ ปะป๊าสั่งมา 2 ขวด ให้เด็กจิ๋วกินคู่กับปะป๊า เล่าไปมั่วๆงั้นแหล่ะ พอตอนเช้าปะป๊าก็เอายาคู้ 2 ขวดมากินเหมือนเคย เด็กจิ๋วเห็นปะป๊ากินหมดก็โมโห บอกว่าไหนต้องกินเป็นคู่ไง น้องพริมยังไม่ได้กินเลย เอ้า ก็เลยต้องแวะซื้อที่ร้านป้าให้กินแทน
...ตอนเย็น รับเด็กจิ๋วที่ห้องเสร็จแล้ว เด็กจิ๋วบอกว่าอยากไปเล่นที่สนามกับอิงดาว เราก็พาไปเจออิงดาวเล่นชิงชาอยู่ ไปถึงเด็กจิ๋วก็ปีนขึ้นไปนั่ง แล้วให้ปะป๊าแกว่งแรงๆ เราก็ผลักซะแรงเลย กลัวก็กลัวนะ คือถ้าเด็กจิ๋วกระโดดลง หรือปล่อยมือ ตัวลอยละลิ่วปลิวลงไปหัวแตกแน่ๆ แกว่งไปแกว่งมา เด็กจิ๋วบอกให้แกว่งให้อิงดาวด้วย เราก็ทำตาม แกว่งให้อิงดาวบ้าง แต่แกว่งไปได้หน่อย อิงดาวก็ร้องบอกว่าหยุดแกว่งๆ กลัว เล่นกับอิงดาวพักหนึ่ง อั่งอั๊งก็ตามมา เล่นขับรถ เติมน้ำมัน เอาใบไม้มาเติมน้ำมัน เติมไปเติมมาก็แย่งใบไม้กัน เด็กจิ๋วแย่งจากมืออั่งอั๊งจนอั๊งร้องไห้เลย ปะป๊าต้องรีบเข้าไปหลอกล่อถึงจะหาย หลังจากนั้นก็เอาใบไม้ไปตีอั๊งด้วย เกเรมากอ่ะ วันนี้ปะป๊าเลยลงโทษ สั่งห้ามใส่ชุดราพันเซลหนึ่งวัน แต่ไม่ได้โกรธนะ เด็กจิ๋วก็เชื่อฟัง ยอมรับโทษแต่โดยดี
ตอนเย็นปะป๊าประชุมเลิก 3 ทุ่ม ขึ้นห้องไปเห็นเด็กจิ๋วแช่อ่างอยู่ หน้าตาแบบมีพิรุธชัดเจนมาก มองปะป๊าด้วยสายตาแปลกๆ แบบนี้รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ปะป๊ารีบถามทันที เด็กจิ๋วหนูใส่ชุดราพันเซลหรือเปล่า เด็กจิ๋วมองหน้าอี๊ป้อมแล้วยังคงทำสายตาส่อพิรุธหนักกว่าเดิมอีก ปะป๊าเลยต้องลงโทษเพิ่ม โดยพรุ่งนี้ไม่ให้ใส่ชุดราพันเซลเป็นการชดเชยวันนี้ แล้วเพิ่มโทษที่ขัดคำสั่งโดยไม่กอดนอนคืนนี้หนึ่งคืน เด็กจิ๋วทำหน้าจ๋อยเลย ตอนนอนก็ทำครางอึ๋งๆจะให้ปะป๊ากอด แต่ปะป๊าก็ใจแข็งต้องลงโทษ สั่งให้ไปนอน เด็กจิ๋วก็ยอมนอน แป๊บเดียวก็หลับไปเลย

๓ ขวบ + ๓๐๔ วัน...พฤหัส ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวัน Haloveen แต่ไม่มีอะไรพิเศษสำหรับเด็กจิ๋ว เสียดายที่วันนี้เป็นวันพฤหัส ต้องใส่ชุดพละไปโรงเรียน ถ้าเป็นวันศุกร์หรือยังซัมเมอร์อยู่ จะจัดชุดเจ้าหญิงอลังการให้ซะหน่อย
...ตอนไปรับเด็กจิ๋วที่ห้อง วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรงอแงมาก อุ้มก็ไม่เอา ปล่อยลงเดินก็ไม่เอา จะเอาอะไรก็ไม่บอก ครูขวัญออกมาเห็นเลยอุ้มกลับเข้าห้องไป พูดๆอะไรกับเด็กจิ๋วไม่รู้ แต่พอเด็กจิ๋วออกมาอีกทีก็ลั้นลาได้ แต่พอขึ้นรถก็เริ่มงอแงอีก อาการเหมือนง่วงนอนนั่นแหล่ะ ครูบอกว่าวันนี้นอนไปได้แค่นิดเดียว
...ช่วงที่เด็กจิ๋วงอแงอยู่ ครูนิวเดินผ่านมาเห็นก็เดินมาเม้าท์ว่า งอแงแบบเนี่ยะอั่งอั๊งเป็นบ่อย งอแงทั้งวันเลย พอครูดุก็ไม่พอใจ ทำฟึ้ดฟัดใส่ครู สงสัยทะเลาะกับแม่ทุกวันเลยคิดมาทะเลาะกับครูด้วย ฟังแล้วก็ต้องรีบถามครูว่าแล้วน้องพริมเป็นหรือเปล่า ครูบอกว่าก็เป็นบ้างแต่ไม่เท่าอั่งอั๊ง เวลาครูดุก็มีงอนบ้างนิดหน่อยแต่ไม่โมโหหรือต่อต้าน
...กลับมาบ้านรีบทำการบ้านตามปกติ แล้วให้คัดลายมือ วันนี้คัดได้สวยงามมากๆ ปะป๊าเลยให้รางวัลเป็นการยกเลิกโทษห้ามใส่ชุดราพันเซล เด็กจิ๋วดีใจมาก รีบสั่งให้อี๊ป้อมหยิบชุดราพันเซลกระโปรงสั้นมาให้ใส่ จนถึงวันนี้เราพยายามเชียร์ให้ใส่ชุดเบลบ้าง แต่เด็กจิ๋วก็ยังไม่ยอมอยู่ดี
...ช่วงนี้เด็กจิ๋วฮิตเล่นเกมส์พวกแต่งหน้าแต่งเล็บมาก บอกให้เล่นเกมส์ฉลาดๆก็ไม่ยอมเล่นแล้ว เล่นแต่เกมส์เสริมสวยพวกนี้ วันนี้พยายามมาสอนปะป๊าเล่นเกมส์แต่งเล็บ จับมือปะป๊า สั่งให้เอานิ้วชี้ออกมา แล้วจับนิ้วปะป๊าไปจิ้มๆ ถูๆ ในใจคิดว่ามันสนุกตรงไหนเนี่ยะ แต่ก็กลัวลูกได้ยินจะเสียใจ เลยบอกว่า โห สนุกจังเลย แล้วก็แกล้งทำหนุกหนานถูๆจิ้มๆเอง เด็กจิ๋วเห็นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “แหม่ ป๊าเล่นใหญ่เลยน้า”