วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

3 ขวบ 3 เดือน

๓ ขวบ + ๙๓ วัน...จันทร์ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ 
...เมื่อคืนเด็กจิ๋วนอนดึก 4 ทุ่มได้ แล้วมิหนำซ้ำตอนกลางวันยังนอนไปนิดเดียวอีก ส่ง ผลถึงตอนเช้าอย่างเห็นได้ชัด ตื่นนอนมาก็งอแง “หนูไม่อยากไปโรงเรียน หนูไม่อยาก ไปโรงเรียน”...พูดแต่ประโยคนี้ไม่น้อยกว่า 50 รอบ วิ่งไล่จับกันอยู่บนเตียงนาน หลาย นาที จน 7 โมงกว่าแล้ว ปะป๊าต้องไปอุ้มขึ้นมา เด็กจิ๋วก็ไม่ยอม ดิ้นแถกๆร้องโวยวาย ระหว่างอุ้มลงบันไดก็ดิ้นไปดิ้นมา เกือบจะตกบันไดอยู่แล้ว พอจับขึ้นรถได้ ก็ไม่ยอม ปล่อยตัวปะป๊า กอดปะป๊าไว้แน่น เลยต้องให้คุณแม่ไปขับรถแทน ระหว่างนั่งรถเราก็ เปิดบาร์นีให้ดู เด็กจิ๋วก็นั่งนิ่งๆซึมๆกอดปะป๊าไว้ตลอด นึกขึ้นมาได้ก็จะพูดว่า “หนูไม่ อยากไปโรงเรียน” พอไปถึงโรงเรียนให้กินโอวันติลสมาร์ทแล้วป้อนยากว่าเสร็จ พอถึง ตอนจับแต่งตัวนี่แหล่ะ อาละวาดหนัก ทำยังไงก็ไม่ยอมใส่ชุดนักเรียน วันนี้มีวิชาพละ ต้องใส่ชุดพละ เราก็หลอกว่านี่ไม่ใช่ชุดนักเรียน เด็กจิ๋วดันฉลาด รู้อีกว่าเราโกหก สุด ท้ายก็เลยยอมให้ใส่ชุดธรรมดาไป พอตอนจับใส่ถุงเท้า เราก็เอาถุงเท้านักเรียนใส่ให้ เด็กจิ๋วดันรู้อีก บอกว่าที่ถุงเท้านักเรียน ไม่ใส่ ถุงเท้านักเรียนสีขาวไม่มีลาย ที่จริงมันก็ ไม่ได้แตกต่างจากถุงเท้าธรรมดาเท่าไหร่นะ ยังเรื่องมากอีก สุดท้ายเด็กจิ๋วก็ชนะ เรา ยอมทุกอย่าง แล้วปะป๊าก็อุ้มลงจากรถพาเดินเข้าไปโรงเรียน เราใช้เวลาอยู่ในรถนาน เกือบครึ่งชั่วโมงได้ ในการหลอกล่อ บังคับขู่เข็น ใช้ทั้งไม้แข็งไม้อ่อนสารพัด ...สงสัยมากเลย ตอนที่ปะป๊าอุ้มเด็กจิ๋วลงจากรถแล้วพาเดินเข้าโรงเรียน เด็กจิ๋วก็อยู่ นิ่งๆ กอดปะป๊าแน่น แต่ไม่โวยวายไม่งอแง คือรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วเหรอ หรือว่าที่ งอแงเมื่อเช้าก็คือแค่เป็นอาการง่วงนอน วันนี้เราไปส่งถึงหน้าห้องเรียนได้เลย คุณครู ขวัญมาอุ้มตัวไป ตอนครูอุ้มก็ร้องโวยวายบอกว่า “หนูจะให้ปะป๊าอุ้มตลอดชีวิต” แต่ ไม่จิกผมไม่ขัดขืนมาก ยอมให้ครูอุ้มไปแต่โดยดี วันนี้เห็นครูอุ้มพาไปที่สนามเด็กเล่น ข้างหลังเลย สงสัยได้เล่นกับเพื่อนๆแล้วก็น่าจะหยุดร้องได้ ...วันนี้ไปรับเด็กจิ๋วตอบ 2.30 น. อาทิตย์ที่สองครูจะฝึกให้นอนกลางวัน ก่อนไปรับตัว กลับบ้าน คุณแม่กลายเป็นโรคจิตไปแล้ว มองดูโทรศัทพ์ทั้งวัน กลัวว่าครูจะโทรเรียก ตัวให้ไปรับเด็กจิ๋วโดยด่วน แต่ที่ไหนได้ ตอนเข้าไปที่ห้องเรียน เด็กจิ๋วหันมาเห็นเราก็ ลั้นลา วิ่งกระโดดๆมาหา ร่าเริงเกินเหตุ ช่างแตกต่างจากตอนเช้าเหลือเกิน ครูบุ๋มบอก ว่าเมื่อเช้าร้องไห้นิดเดียวเอง กินข้าวได้ดี นอนกลางวันด้วย แต่นอนได้นิดเดียวเพราะ ไม่ยอมหลับซะที ครูบอกว่าต้องปล่อยให้เล่นของเล่นจนเพลินหลับไป วันนี้ได้ผมทรง ใหม่อีกแล้ว ดูผิวเผินจะธรรมดา แต่ถ้าดูดีๆจะพบว่ายากมากๆ เอาผมส่วนหน้าไคว้ ไปรวมกับด้านหลังแล้วมัดเป็นปล่องๆ คุณแม่บอกว่าต้องรวมตึงรุนแรงมาก ...วันนี้พี่โฮไอเอาโรอิมาโชว์ปะป๊ากับคุณแม่ โรอิ เป็นเพื่อนของ robocar poli ถามพี่ โฮไอว่าซื้อมาจากไหน โฮไอบอกว่าเมื่อวานไปซื้อที่เซนทรัล เราก็เฮ้ย เมืองไทยมีขาย ตั้งแต่เมื่อไหร่ ปรากฎว่าเซนทรัลเพิ่งนำเข้ามา แล้วที่สำคัญ ถูกกว่าที่ซื้อจากเกาหลีที่ ฝากอี๊ตุ้ยซื้อซะอีก อันนั้นตัวละ 700 กว่าบาท ที่นี่ตัวละ 590 ลดอีก 20% ว่าแล้วปะป๊า กับคุณแม่ก็รีบพุ่งตัวไปเซนลาด ไปกว้านซื้อ Ambro Heli Roi แล้วก็พวกตัวเล็กๆที่เป็น ตัวประกอบอีก 6 คัน ซื้อมาเต็มที่เพราะมีลด 20% แล้ว ontop อีก 13% กะว่าจะให้จิ๋ว วันละตัว เอาเป็นค่าจ้างไปโรงเรียน แต่คิดไปคิดมาก็ว่ามันจะดีเหลือ เอาของมาแลกยัง งี้ เดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ปะป๊ากับคุณแม่ช่วยกันห่อของขวัญตัวละห่อ ได้ทั้งหมด 9 ชิ้น ...ตอนกลางคืนเล่นเกมอะไรเอ๋ยกัน ผลัดกันถามปัญหา เช่นตัวอะไรสีเขียวที่เป็นเพื่อน กับราพันเซล เด็กจิ๋วตอบว่า “ยูจิน”...ปะป๊าจะถามปัญหาง่ายๆ แต่เด็กจิ๋วถามแต่ละคำ ถามกลับมานี่เราอึ้งเลย อึ้งว่าคิดคำถามเหล่านี้ขึ้นมาได้ไง เช่น ...ตัวอะไรที่ชอบวิ่งบนสายไฟ  กระรอก เราเคยชี้ให้เค้าดูทีหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ...อะไรเอ๋ยที่ทำให้เรามีความสุข  การดูการ์ตูน นี่จะบอกอะไรเป็นนัยหรือเปล่า ...อะไรเอ๋ยที่ทำให้เราสบาย  แอร์ ทำให้สบายจริง ตอนนี้อากาศร้อนสุดขีด ...อะไรเอ๋ยเป็นผงขาวๆเอามาทาตัว  แป้ง เหล่านี้เป็นต้น ทำไมถึงคิดแต่คำถามที่ ยากๆ แล้วเกมส์ผลัดกันพูดเหมือนกัน เดี๋ยวนี้จะเล่นไม่ค่อยสำเร็จ เพราะเด็กจิ๋วชอบ ออกนอกลู่นอกทางเสมอ อย่างให้พูดสี ก็จะไม่ยอมพูดสีแบบธรรมดา จะต้องแต่งเติม อะไรเข้าไป อย่างเช่น สีชมพูบานเย็น สีฟ้าสดชื่น สีแดงสดใส อะไรประมาณนี้ ...ตอนกลางคืนเด็กจิ๋วเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ปะป๊าฟัง สรุปใจความได้อยู่ 4 เรื่อง 1. มีเพื่อนชื่อน้องคูณ มีน้องคูณ 2 คน ชอบมาดึงผมน้องพริม ดึงคนละข้าง ครูนิวมา ช่วยไว้ บอกให้น้องพริมมาอยู่ใกล้ๆครูนิว 2. เพื่อนๆชอบดูเชิดหุ่นกันมาก แต่น้องพริมร้องไห้ แล้วมีครูแนน เอาลูกโป่งมาให้ (มี ครูชื่อแนนด้วยเหรอ) 3. ครูขวัญชอบทำผมให้หนู ครูบุ๋มแปรงฟันให้ ครูแหววชอบเล่านิทาน ส่วนครูแนนดุ มาก ชอบดุเด็ก 4. น้องพริมบอกว่าเพื่อนบางคนกินนมกล่อง บางคนกินนมใส่แก้ว พยายามถามว่า ตกลงหนูกินนมอะไรก็ไม่ได้คำตอบ ...ปะป๊าเขียนเรื่องที่เด็กจิ๋วเล่าให้ฟังทั้ง 4 เรื่องนี้ลงไปในสมุดสื่อสาร อยากถามครูๆ ว่าที่เด็กจิ๋วเล่าเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน

๓ ขวบ + ๙๔ วัน...อังคาร ๒ เมษายน ๒๕๕๖
...เมื่อคืนเด็กจิ๋วนอนเร็ว หลับไปประมาณ 3 ทุ่ม เช้านี้ตอนใกล้ๆ 7 โมง ปะป๊าไปอุ้มขึ้น มาจากเตียง เด็กจิ๋วก็ถามว่า “นี่เราจะไปไหน”...ปะป๊าก็ไม่ตอบ อุ้มแบบหลับๆตื่นๆลง มาขึ้นรถ พอขึ้นรถก็งอแงจะกอดปะป๊า ให้คุณแม่ขับรถอีกแล้ว เรารีบเอาของขวัญให้ เด็กจิ๋ว แต่บอกว่ายังแกะไม่ได้นะ ให้กินอาหารเช้า กินยา ใส่เสื้อผ้าก่อนแล้วถึงจะแกะ ได้ เด็กจิ๋วก็เชื่อ ยอมกินโยเกิร์ต เสร็จแล้วตอนกินยา เกิดงอแงไม่ยอม เราเลยบอกว่า ให้แกะกระดาษห่อของขวัญ ไปด้วยกินยาผสมโอวัลตินสมาร์ทไปด้วย ก็โอเคเลย แต่ พอถึงตอนแต่งตัวก็อาละวาดไม่ใส่ชุดนักเรียนอีกแล้ว เราเลยยอมแพ้ ใส่ชุดธรราดา ก็ได้ ตอนปะป๊าอุ้มเดินเข้าโรงเรียนก็ร้องไห้ตลอดทาง บอกว่า “หนูไม่อยากให้ปะป๊า ไปประชุม หนูไม่อยากให้ปะป๊าไปประชุม” จนถึงส่งมือคุณครูก็ยังร้องเหมือนเดิม เรา ถามคุณครูว่าน้องพริมไม่ยอมใส่ชุดนักเรียนทำไง คุณครูบอกว่าไม่เป็นไร ใส่ชุดแบบ นี้มาก็ได้ แล้วคุณครูจะช่วยเปลี่ยนให้เอง ก็ค่อยยังชั่วหน่อย เดี๋ยวพอไม่ต้องกินยา ไม่ ต้องใส่ชุดนักเรียน ก็จะมีเรื่องให้บังคับน้อยลง อาการน่าจะดีขึ้น ตอนนี้เหมือนโดนถูก บังคับไปหมดทุกอย่างเลย สรุปแล้วของขวัญ Ambo ที่เตรียมไว้ก็ช่วยได้นิดหน่อย พอ แกะออกมาแล้วเด็กจิ๋วก็ดีใจแล้ว แต่ไม่สามารถหยุดอาการร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน ได้เลย ...ตอนไปรับเด็กจิ๋วเวลา 2.30 น. เหมือนเราจะไปสายหรือไง เห็นมีเด็กเหลืออยู่ในห้อง แค่ 4 คนเอง มีเด็กผู้ชาย 2 คน เด็กผู้หญิงอีก 2 คือเด็กจิ๋วกับน้องอั่งอั๊ง พอเจอหน้าครู แหวว ครูก็รีบบอกเรื่องครูแนน ว่าไม่มีครูแนนนะคะคุณพ่อ แสดงว่าเด็กจิ๋วมั่วแล้วไง สงสัยว่าจะไปสับสนกับเจ๊นิวเจ๊แนนแน่ๆเลย ปะป๊าเห็นคุณแม่ของน้องอั่งอั๊งนั่งอยู่ใน ห้องเรียน ก็เลยถามคุณครูว่าผู้ปกครองเข้าไปได้เหรอ ครูแหววบอกว่าถ้ามีเด็กน้อยๆ ก็เข้าไปได้ เราเลยเข้าไปนั่งดูเด็กจิ๋วกินหนมกับอั่งอั๊ง เด็กจิ๋วนั่งกินแครกเกอร์ แล้วแม่ ของอั่งอั๊งก็แบ่งยาคูลท์ให้กินด้วย วันนี้อั่งอั๊งมีเรียนเต้นบัลเล่ด้วย เราก็กะว่าจะให้จิ๋ว เรียนเหมือนกัน แต่รอตอนเปิดเทอมใหญ่ก่อน ก่อนเด็กจิ๋วจะกลับได้ให้สัญญากับครู ขวัญว่าพรุ่งนี้จะใส่ชุดนักเรียนมาโรงเรียน เดี๋ยวจะคอยดูว่าทำได้จริงหรือไม่ ...คุณครูแหววเขียนตอบสมุดสื่อสารมาเรื่องที่ปะป๊าถามไป มีใจความว่า 1. เรียนคุณพ่อ ในห้องมีน้องคูณคนเดียวค่ะ และน้องคูณเป็นเด็กเรียบร้อย ครูแหวว ได้สอบถามครูนิว ครูนิวบอกว่าไม่มีใครมาดึงผมของน้องเลยค่ะ 2. ใช่ค่ะ เพื่อนๆชอบดูเชิดหุ่น รวมถึงน้องพริมด้วยค่ะ เมื่อวานน้องร้องไห้แค่ช่วงเช้า พอเข้าห้องก็หยุดร้อยค่ะ ส่วนครูแนนในห้องไม่มีค่ะ ครูนิวเป็นคนแจกลูกโป่งให้เด็ก ๆค่ะ 3. ใช่ค่ะครูขวัญชอบทำผมและแปรงฟันให้น้อง ครูแหววจะสอนหน้าห้องและเล่านิ ทานให้เด็กค่ะ ส่วนครูแนนไม่มีค่ะ ส่วนในห้องไม่มีครูท่านใดดุนร. ส่วนใหญ่จะใช้คำ ชม และการพูดคุยกับนร.ค่ะ 4. น้องพริมดื่นนมรร. และสามารถดื่มได้หมดแก้วค่ะ ...ตอนเย็นอาบน้ำให้เด็กจิ๋ว ตอนแปรงฟันเด็กจิ๋วอาละวาดหนักมาก ทำไมช่วงนี้กลับ มาอาละวาดหนักก็ไม่รู้ คิดว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยา แต่หยุดยาดื้อมาวันหนึ่งแล้ว ฤทธิ์ยา ยังสะสมอยู่หรือเปล่านะ เมื่อวานก็อาละวาดหนักตอนอาบน้ำเหมือนกัน ปะป๊าโกรธ จริง ระเบิดอารมณ์ใส่เด็กจิ๋ว ทำโหดมาก เด็กจิ๋วกลัวร้องไห้ใหญ่เลย แต่ปั๊บเดียวก็โอ๋ นอนกอดกัน พอมาวันนี้ปะป๊าไม่โมโหแล้ว ปล่อยให้อาละวาดปั๊บเดียวแล้วกอด ปั๊บ เดียวก็หาย ...ตอนกลางคืนเด็กจิ๋วเล่าว่าที่โรงเรียนชอบตีมือกับฝรั่งมากเลย แล้วก็มาตีกับปะป๊า ไม่ได้ยกมือตีกันด้วยนะ เป็นแบบ 2 มือตีขึ้นตีลง แล้วก็บอกว่าครูแหววเล่าเรื่องหนู น้อยหมวกแดง แต่ไม่มีเจ้าหมาป่า ไม่รู้เป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือไง แล้วก็ถามเรื่องเพื่อน ว่ามีชื่ออะไรบ้าง ได้ความว่ามีน้องนีโอกับน้องเมจิที่ชอบร้องไห้ ส่วนคนอื่นก็มีแพรวา นิตา อั่งอั๊ง คูณ แล้วก็น้องลูกอม

๓ ขวบ + ๙๕ วัน...พุธ ๓ เมษายน ๒๕๕๖
...เด็กจิ๋วตื่นขึ้นมาเองตอนใกล้ๆ 7 โมง แล้วก็บ่นๆว่าไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ถึงกับโวย วาย ปะป๊าทำเบี่ยงเบนโดยร้องเพลง เด็กดีต้องมีรางวัล แล้วก็อุ้มเด็กจิ๋วลงไปข้างล่าง เด็กจิ๋วงงๆก็ยอมแบบมึนๆลงไป พอลงไปที่ออฟฟิต ปะป๊าก็เริ่มแผนการณ์ที่คิดไว้เมื่อ คืนทันที บอกเด็กจิ๋วว่า ปะป๊าไม่อยากให้เด็กจิ๋วใส่ชุดนักเรียนเลย เพราะสีมันเหมือน โรโบคาร์โพลิ อยากให้ใส่ชุดนอนสีชมพู สีมันเหมือนแอมโบ้ เด็กจิ๋วได้ยินก็งอแงทันที “น้องพริมอยากใส่ชุดนักเรียน”...หลงกลเราแล้วไง เสร็จแล้วก็ยอมให้คุณแม่ใส่ชุดนัก เรียนก่อนออกจากบ้านแต่โดยดี วันนี้เฮียโรไปส่งเด็กจิ๋วด้วย เด็กจิ๋วยอมขึ้นรถแต่โดย ดี ไปแวะ 7-11 ซื้อหนมกับเจ๊น่าเฮียโรมานั่งกินในรถ ลั้นลา ตอนกินยาก็มีงอแงเล็กๆ แต่ก็ยอมกินในที่สุด ตอนอุ้มลงจากรถ มีเล่นตัวนิดหน่อย บอกว่า “น้องพริมไม่อยาก ไปโรงเรียน”...ปะป๊าเลยใช้แผนเบี่ยงเบนอีก บอกว่า งั้นวันนี้ปะป๊าจะไปประชุมนะ พอ ได้ยินอย่างนั้น เด็กจิ๋วก็เปลี่ยนเรื่องงอแงทันที “ไม่อยากให้ปะป๊าไปประชุม ไม่อยาก ให้ปะป๊าไปประชุม” แล้วยอมให้คุณแม่อุ้มแต่โดยดี ตอนเข้าไปที่ตึกส่งให้ครูปุ๋มอุ้มไป ก็ไม่ร้องไห้เลยซะแอ่ะ วันนี้ปะป๊าเจอน้องเมจิแล้ว เด็กจิ๋วบอกว่า เมจิชอบร้องไห้ ก็จริง ด้วยแหล่ะ กำลังยืนร้องไห้อยู่เลย ...วันนี้ปะป๊าไม่ได้ไปรับเด็กจิ๋วตอนบ่าย ให้อี๊ตุ๋มพาคุณแม่ไปรับ คุณครูบอกว่า วันนี้ฉี่ ราดอีกแล้ว เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่จริงครูเรียกไปฉี่แต่เด็กจิ๋วบอกว่าไม่ไป แล้วก็ฉี่ราดใน ห้อง แล้วครูแหววก็เขียนสมุดสื่อสารกลับมาตอบเรื่องเพื่อนๆของเด็กจิ๋ว ตกลงน้องที่ ชื่อลูกอมไม่มีนะ เด็กจิ๋วมั่วแล้ว แล้วครูปุ๋มแนบรูปถ่ายเด็กจิ๋วในห้องเรียนมาให้รูปหนึ่ง ด้วย ...ตอนกลับมาบ้าน เด็กจิ๋วก็รีบทำการบ้านเหมือนเดิม ตอนนี้ยังสนุกสนานกับการทำ การบ้านอยู่ ทำอย่างรวดเร็วมาก นับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ดูแววแล้วน่าจะไปได้ แต่ จะเร็วเฉพาะการบ้านพวกจับคู่นะ มาถึงก็ลากฉึกฉึก เร็วมาก ปะป๊าแค่ออกไปฉี่ กลับ เข้ามาเด็กจิ๋วก็ทำเสร็จแล้ว แต่การบ้านระบายสีจะเชื่องช้าหน่อย ส่อแววว่าจะไม่ชอบ ศิลป เหมือนปะป๊าเลย ...เนื่องจากว่าวันนี้เด็กจิ๋วเป็นเด็กดีมากๆ ตอนเช้าก็ไม่ร้องไห้ ยอมใส่ชุดนักเรียน วันนี้ เราเลยเอาของขวัญให้อีกชิ้น เป็นรถเก็บขยะคันเล็ก ชื่อ Cleany ดูเด็กจิ๋วไม่ค่อยชอบ เท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไร เราสัญญากันว่าถ้าพรุ่งนี้เป็นเด็กดีอีกก็อาจจะได้ตัวที่ชอบ นั่นก็ คือ รูอิ กับเฮลิ ...วันนี้ที่โรงเรียนไม่ได้นอน ตอนทุ่มหนึ่งจึงง่วงมาก รีบอาบน้ำกินข้าวกินยาเรียบร้อย เด็กจิ๋วสัญญากับปะป๊าว่าขอกินเฟอเรโร่แล้วจะยอมแปรงฟัน แต่แล้วก็ผิดสัญญา ไม่ ยอมแปรง ก็อาละวาดกันยกใหญ่อีกแล้ว ตอนหลังบอกว่าที่ไม่ยอมแปรงเพราะว่าเจ็บ ฟัน แล้วชี้ไปที่ฟันบนหน้าขวา ซึ่งตรงกับที่เมื่อวานเจ็บเพราะเด็กจิ๋วแย่งแปรงกับปะป๊า แล้วแปรงไปกระแทก แสดงว่าอาจจะเจ็บจริงๆ เพราะปกติก็ไม่งอแงเรื่องแปรงฟันมาก ขนาดนี้ ปะป๊าโกรธแล้วสอนว่าแบบนี้เรียกว่าโกหกเพราะผิดสัญญากัน ต่อไปห้ามทำ อีกนะ แล้วก็กอดกันหลับไปในเวลาแป๊บเดียว วันนี้ยังไม่ได้เล่าเรื่องโรงเรียนให้ปะป๊า ฟังเลย

๓ ขวบ + ๙๖ วัน...พฤหัส ๔ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้โดยรวมเหมือนเมื่อวาน ไม่งอแง ยอมใส่ชุดนักเรียน ตอนอุ้มไปส่งคุณครูก็ไม่ ร้องไห้ มีงอแงนิดเดียวตอนกินยาในรถ ทำเป็นเล่นตัวสักพักเหมือนทุกครั้ง แต่คราว นี้กอดหมีหมีอยู่ด้วย แล้วดิ้นสะบัดมือมาชนแก้วยาที่ผสมโอวัลตินสมาร์ท โอวัลติน กระเด็นใส่หมีหมี ซวยเลย คุณแม่ด่าปะป๊าใหญ่ ต้องเอาไปซักอีกแล้ว ...ส่งเด็กจิ๋วแล้ว เราขอไปดูกล้องวงจรปิดหน่อย สรุปแล้วปะป๊าเพิ่งเคยเห็นกล้องที่ ถ่ายห้อง 1/8 จริงๆก็ครั้งนี้แหล่ะ ครั้งก่อนๆเปิดช่องผิดให้ คราวนี้รู้แล้วว่าต้องให้ครู คนหนึ่งเป็นเด็กๆใจดีผมสั้นๆ คนนี้จะเปิดให้ถูกต้อง ดูในทีวีเห็นเด็กจิ๋วนั่งนิ่งๆ ไม่ ยอมกินข้าว สงสัยอิ่มมาจากโยเกิร์ตตอนเช้าแล้ว แต่ก็ดูนิ่งๆซึมๆผิดปกติ ไม่เหมือน ตอนอยู่บ้าน นั่งอยู่สักพักก็เดินมาหาครูขวัญ ดูที่ครูขวัญเปิดสมุดนิทานเล่าให้คน อื่นฟังอยู่ เสร็จแล้วครูก็ตามออกไปข้างนอก คงไปสนามเด็กเล่น ได้ดูแค่ประมาณ สิบนาทีเท่านั้น ...วันนี้เจอคุณพ่อของน้องวัดด้วย มานั่งดูกล้องวงจรปิดด้วยกัน คุณพ่อบอกว่าน้อง วัดงอแงทุกเช้าเหมือนกัน ไม่ยอมใส่ชุดนักเรียนต้องให้ครูมาเปลี่ยนที่โรงเรียนทุกวัน ...วันนี้เจอคุณพ่อกับคุณแม่ของเพื่อนเด็กจิ๋วคนหนึ่ง ยังไม่รู้ชื่อ ตอนแรกจะพยายาม ผูกมิตรสร้างกลุ่มกันไว้ แต่พ่อแม่น้องคนนี้ดูเชิดๆเดินผ่านไปไม่ทักทาย เราจะเจอแม่ ของน้องนิตา กับน้องอั่งอั๊งบ่อยมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เจอแม่ๆคนอื่นบ้าง อยากจะ เจอเยอะๆ จะชวนมาเรียนพิเศษด้วยกัน สงสัยว่าน้องส่วนใหญ่จะกลับรถโรงเรียนกัน เพราะตอนที่เรามารับเด็กจิ๋ว 2.30 น. เห็นมีเด็กอยู่ในห้องแค่ 4-5 คน เพื่อนๆคงกลับ รถตู้กันไปตั้งแต่ 2 โมง ...ตอนบ่ายขนโขยงกันไปรับเด็กจิ๋ว มีเฮียโรกับโฮไอไปด้วย วันนี้ตั้งใจจะไปก่อนเวลา ขอไปดูกล้องวงจรปิดหน่อย จากในกล้อง นับเด็กได้แค่ 14 คน แต่คุณครูเคยบอกว่า ซัมเมอร์นี้มีเรียน 22 คน ก็เลยยังงงอยู่ จะว่ากลับไปกับรถตู้ก่อนก็ไม่น่าจะใช่ เพราะ เราไปถึงตั้งแต่ยังไม่ 2 โมงเลย หรือว่าไปเรียนพิเศษกัน ได้คุยกับแม่ของนีโอ เค้าบอก ว่าปกติเค้ามารับกันบ่าย 2 นะ ไม่ใช่ 2.30 มิน่าล่ะ เรามารับทีไรเหลือเด็กนิดเดียว วัน เห็นแม่ของนีโอกับแม่ของนิตา แล้วก็แม่ของน้องอะไรยังไม่รู้ชื่อ มารับตัวลูกกลับตอน เวลา 2 โมงตรง ...ปะป๊ากับคุณแม่ได้เจอกับคุณครูแสงโสม พูดคุยกันนิดหน่อย เพราะไม่แน่ใจว่าใช่ ครูแสงโสมไม๊ ตอนมาสมัครเรียนก็เจอ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าจะแก่กว่านี้ ลองถามไจโรว่า ใช่คุณครูแสงโสมไม๊ ไจโรบอกว่าใช่ ...ตอนไปรับเด็กจิ๋ว ครูแหววเจอไจโร ก็ทัก อ้าว ไจโร ปรากฎว่าครูแหววเคยสอนไจโร ตอนอนุบาล 1/5 แต่ไจโรจำครูแหววไม่ได้ ถามอาโกวดูแล้ว ครูแหววตอนนั้นคงเป็น ครูผู้ช่วย อาโกวก็ไม่รู้จักเหมือนกัน ...รับเด็กจิ๋วเสร็จแล้วก็ไปหาหมอที่วิภาวดีกัน คุณหมอนัดติดตามผล วันนี้เด็กจิ๋วไม่ กลัวไม่ร้องไม่โวยวายเพราะรู้ว่าตัวเองหายแล้ว พอไปถึงคุณหมอก็พูดก่อนเลยว่า “คุณหมอคะ หนูหายแล้ว ไม่ต้องฉีดยานะคะ”...แล้วก็ยอมให้คุณหมอตรวจฟังปอด ดูจมูก ดูหู ดูปาก เรียบร้อย อาการหายสนิท ไม่ต้องกินยาแล้ว แต่วันนี้เด็กจิ๋วผิดหวัง มากเพราะไม่ได้วิตามินมิ้นซีกับสติกเกอร์ คุณหมอบอกว่าวันนี้มีฝรั่งมาตรวจโรงบาล เค้าห้ามแจกของพวกนี้ ไม่รู้ว่าทำไม แต่โดนเก็บเรียบหมดเลย ...ตอนเย็นปะป๊ากับคุณแม่ไปตีเทนนิส กลับถึงบ้านเด็กจิ๋วก็หลับแล้ว เพราะกลางวัน ไม่ได้นอน อี๊ป้อมพาเข้านอน เล่าว่าก่อนนอนเล่นโทรศัพท์ โทรหาครูขวัญ อั่งอั๊ง เมจิ แพรวา รู้สึกว่ามีมากกว่านี้ แต่อี๊ป้อมจำชื่อมาได้แค่นี้ ...เมื่อวานคุณแม่เขียนไปในสมุดสื่อสารว่าอยากรู้ชื่อเพื่อนๆทุกคนทำไงดี วันนี้คุณครู แหววอุตสาห์จดมาให้ มีรายชื่อดังต่อไปนี้ 1. นิตา 2. อั่งอั๊ง 3. เมจิ 4. นีโอ 5. มิกิ 6. แพรวา 7. อิ๊ก 8. ปาล์ม 9. ฟ้าใส 10. ก้อง 11. ปุญ 12. แม๊พ 13. ครับ 14. วิน 15. ปูรณ์ 16. คีโน่ 17. ณวัฒน์ 18. ปาร์ตี้ 19. คูณ 20. ปาร์ค 21. เบพ

๓ ขวบ + ๙๗ วัน...ศุกร์ ๕ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้ยังคงเป็นเด็กดีต่อเนื่อง อุ้มขึ้นรถไม่งอแง ยอมใส่ชุดนักเรียนแต่โดยดี วันนี้ไม่ต้องกินยาแล้วด้วย เลยไม่ต้องมีเรื่องมากวนใจไปอีกอย่าง ตอนนั่งอยู่ในรถ เด็กจิ๋วกอดปะป๊าไว้แน่น แล้วก็พูดว่า “เดี๋ยวเราต้องจากกันแป๊บหนึ่ง”...เป็นเด็กดีมาก เข้าใจแล้วว่าไปโรงเรียนต้องจากกันแล้วเดี๋ยวก็เจอกัน แสดงว่าคิดได้จริงๆแล้วถึงไม่ร้องไห้ ตอนส่งให้คุณครูก็ยอมแต่โดยดี บ๊ายบายปะป๊ากับคุณแม่ พร้อมกับส่งจุ๊บกัน ที่จริงแล้วทุกๆวันศุกร์จะต้องใส่ชุดปกติไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน แต่ 2 อาทิตย์แรกยังให้ใส่ชุดนักเรียนอยู่ คงเพราะว่าเสื้อนักเรียนมีปักชื่ออยู่ ครูอาจจะยังจำเด็กไม่ได้ทุกคน แต่วันนี้ไม่เห็นมีใครใส่ชุดนักเรียนมาเลย มีเด็กจิ๋วอยู่คนเดียว ...ปะป๊ากับคุณแม่ไปแอบดูกล้องวงจรปิดอีกแล้ว เวลา 7.45 มีเพื่อนๆอยู่ในห้อง 4-5 คน เด็กจิ๋วนั่งกินข้าวเอง ส่วนเพื่อนอีก 2 คนต้องให้คุณครูป้อนให้ แล้วมีอีก 2 คนกำลังร้องไห้อยู่ จากในกล้อง เห็นเด็กจิ๋วนั่งดูเพื่อนร้องไห้ ไม่รู้ว่าพูดอะไรไม๊ พอกินข้าวเสร็จ คุณครูก็ให้ไปหยิบแก้วเองจากล็อกเกอร์ประจำ ซึ่งคุณครูบอกว่าเด็กจิ๋วจำล็อกเกอร์ตัวเองได้ตั้งแต่ 2 วันแรกแล้ว ความจำดีมาก คุณครูพาไปกดน้ำแล้วกลับมานั่งโต๊ะ จ้องอยู่ตั้งนานเด็กจิ๋วก็ไม่ยอมกินน้ำ นี่เป็นอีกเรื่องที่ต้องให้คุณครูช่วยเน้นหน่อย คือไม่ชอบกินน้ำ สักพักครูปุ๋มก็มาป้อนน้ำให้คำหนึ่ง ...ตอนกลางวันปะป๊ากับคุณแม่พาโฮไอไปติดม่านม้วนกับอุปกรณ์ต่างๆที่คอนโดที่โฮไอ ต้องใช้เวลาในการติดตั้งนานกว่าที่คิดเลยไม่สามารถกลับมารับเด็กจิ๋วได้ พอดีวันนี้อากงอามามากรุงเทพฯตั้งใจจะไปรับหลานที่โรงเรียนอยู่แล้ว เลยให้อากงอาม่าไปกับอี๊ตุ๋ม ถามว่าเด็กจิ๋วร้องหาปะป๊ากับคุณแม่ไม๊ อี๊ตุ๋มบอกว่าไม่เลย ลั้นลามีความสุข อาม่าได้คุยกับครูขวัญ ครูขวัญเล่าว่า น้องพริมเก่งมาก หลงเลย พูดเก่งมาก คุยเหมือนผู้ใหญ่ (พูดเหมือนที่เคยพูดกับปะป๊าคุณแม่เลย นี่จริงหรือสคริปท์เนี่ยะ) วันนี้เห็นเพื่อนร้องไห้ก็พูดว่า “จะร้องไห้ทำไม ก็รีบกินนมไวๆ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ก็มารับแล้ว”...พูดแบบเหวี่ยงหรือปลอบเพื่อนก็ไม่รู้นะ แล้ววันนี้ก็ไม่ได้นอนกลางวันอีกแล้ว ...ตอนนั่งรถกลับมาบ้านกัน เด็กจิ๋วบอกอากงอาม่าว่า “เดี๋ยวอี๊ตุ๋มต้องรีบขับรถอย่างเร็วเลยนะ เพราะปะป๊ากับคุณแม่ไม่อยู่ น้องพริมต้องรีบทำการบ้านคนเดียว น้องพริมเป็นเด็กดี”...พอกลับถึงบ้าน เจออี๊ไก่ อี๊ไก่เลยสอนให้ทำการบ้าน อี๊ไก่บอกว่า ยังอ่านโจทย์ไม่เสร็จ เด็กจิ๋วก็ทำเสร็จแล้ว เร็วมากๆ นี่เป็นเรื่องจริง ปะป๊าเองยังไม่ค่อยเคยเห็นเด็กจิ๋วทำการบ้านเลย เพราะทำเร็วมาก วันหนึ่งไปห้องน้ำกลับมาก็เสร็จแล้ว อีกวันตั้งท่าจะดู แต่มีสายเข้ามา รับสายปั๊บเดียว เด็กจิ๋วก็ทำเสร็จแล้ว ทำเสร็จแล้วยังโม้กับอี๊ไก่ด้วยนะ ว่าน้องพริมเป็นเด็กอัจฉริยะ ...เจ๊น่ากลับมาบ้านเล่าว่าวันนี้ครูที่นั่งรถตู้มาส่งเจ๊น่าที่บ้านคือครูนิว เจ๊น่าเห็นว่าครูนิวอยู่อนุบาลก็เลยถามว่าใช่ 1/8 ไม๊ ครูบอกว่าใช่ มีน้องเรียนอยู่เหรอ เจ๊น่าบอกว่า พริม ครูนิวบอกว่า อ๋อ ใช่เลย หน้าเหมือนกันเลย แล้วก็พูดเก่งมากเหมือนกันด้วย เด็กจิ๋วอ่ะคอนเฟิร์มแล้วจากครูหลายคนว่าพูดเก่งมาก แต่เจ๊น่าไม่น่าจะพูดเก่งนะ

๓ ขวบ + ๙๘ วัน...เสาร์ ๖ เมษายน ๒๕๕๖
...เด็กจิ๋วตื่นมา 7 โมงตรง พอรู้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดก็ดีใจสุดขีด รีบปลุกปะป๊าให้พาไปดูการ์ตูน วิธีเลือกการ์ตูนของเด็กจิ๋วมันแปลกมาก คือไม่เอาเรื่องที่มีตัวโกง ใช้วิธีดูรูปแล้วก็เลือกตามใจชอบ ซึ่งเราดูแล้วบางเรื่องน่าสนุกกว่าอีก แล้วเรื่องไหนดูไปแล้วจะจำได้แม่นกว่าเรา อย่างเรื่องบาร์บี้มีสิบกว่าตอน มันก็คล้ายๆกันแต่เด็กจิ๋วจะจำได้แม่น เรื่องนี้ดูค้างไว้ไม่จบ เรื่องนี้ดูบนเครื่องบิน อะไรประมาณนี้ ...วันนี้อยู่บ้านทั้งวัน ทำกิจกรรมเหมือนๆเดิม ทำกับข้าว นอนกลิ้งดูหนังในห้องโฮม กินหนม รู้สึกว่าเด็กจิ๋วจะรักปะป๊ามากเป็นพิเศษ กอดฟัดกันทั้งวัน ชอบกอดแรงๆเหมือนใครนะ กอดแรงไม่พอ ชอบเอาหัวมาดันหน้าเราเชิดขึ้นแรงๆ รู้สึกว่าพอถึงวันที่ต้องไปโรงเรียนคงจะต้องเศร้าแน่ๆ ต้องงอแงแน่ๆเลย

๓ ขวบ + ๙๙ วัน...อาทิตย์ ๗ เมษายน ๒๕๕๖
...ทำไมเด็กจิ๋วตื่นมา 7 โมงตรงเป้งทุกวันเลย ตื่นมาแล้วก็รีบถามคุณแม่ทันทีว่าวันนี้เป็นวันอะไร พอรู้ว่าวันหยุดก็ดีใจมาปลุกปะป๊าให้พาไปดูการ์ตูนเหมือนเดิม ...ดูเสร็จก็ไปเซนลาดกัน ไปเดินเล่น ซ่อมโทรศัพท์ปะป๊า ซื้อรองเท้านักเรียน เราไปดูของบาจาแล้วเป็นรุ่น Angry Bird ยอดนิยม รู้สึกว่าหนักมาก เลยไปเดินดูในห้าง มีของน่ารักๆเบาๆเยอะแยะ ได้มาคู่หนึ่ง 700 บาท เป็นลายเจ้าหญิง Belle อยู่ข้างในพื้นรองเท้า เอาไว้ข้างนอกไม่ได้เดี๋ยวผิดระเบียบ ส่วนข้างนอกมีตรงแป๊กๆมีรูปดอกไม้สีชมพู ...ระหว่างเดินในห้าง เด็กจิ๋วร้องจะกินไอติมตลอดเวลา เราก็บอกว่าอย่าเลยเพราะยังไอมีเสมหะอยู่ แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนพาไปกินร้านสเวนเซ่น พอเข้าไปนั่ง เด็กจิ๋วบอกว่า อยากกินกรวย คือไม่ได้อยากกินไอติมเลย อยากกินกรวยเฉยๆ ...ตอนบ่ายๆไปบ้านลัดดารมย์กัน ตั้งใจจะพาเด็กจิ๋วไปว่ายน้ำ หลังๆมานี่ไปทีไรไม่ได้ว่ายทุกที สระปิดบ้าง ใส่คลอรีนบ้าง วันนี้โทรไปถามเอ้ก่อนไปเรียบร้อยแล้วว่าโอเค แต่พอไปถึงก็เหมือนเดิมอีกแล้ว สระปิดเพราะเครื่องกรองเสีย ในที่สุดก็ต้องกลับมาเล่นสระเล็กหลังบ้านเจ๊น่าเหมือนเดิม วันนี้มีเจ๊น่า เฮียโร โฮไอ แล้วก็เด็กจิ๋ว พี่โฮไออุตส่าเตรียมรถแม็คควีนลอยน้ำมาเล่นด้วย แต่เจ๊น่ามาเฟียไม่ยอมให้เล่น เล่นกันอยู่สักพักก็วงแตก เพราะเด็กจิ๋วบ้วนน้ำลายลงสระ ทุกคนเลยแตกฮือขึ้นกันหมด ซึ่งก็ดีแล้วไม่งั้นจะเล่นนานเกิด เดี๋ยวก็ป่วยอีกอ่ะ ...เด็กจิ๋วจะเรียนบ้านลัดดารมย์ว่า บลัดดารมย์ มาทีไรต้องเจอเจ๊น่างอน หรือโกรธอะไรสักอย่างทุกครั้ง คราวนี้ก็เป็น หอบข้าวของขึ้นไปนั่งงอนอยู่บนบันได ตั้งท่ารอให้คนมาง้อ เพราะถ้าไม่อยากให้มาง้อ คงขึ้นไปชั้น 2 ไม่ให้คนเห็นจะดีกว่า ปะป๊าเลยบอกให้เด็กจิ๋วไปง้อพี่หน่อย ครั้งแรกไม่สำเร็จ ครั้งที่ 2 ปะป๊าบอกว่าให้ไปร้องเพลงให้เจ๊น่าฟัง แล้วเจ๊น่าจะอารมณ์ดี เด็กจิ๋วเป็นเด็กดีมาก ไปนั่งอยู่ตีนบันไดแล้วร้องเพลง “A B C D E F G...”...ฮาแล้ว ร้องเพลงปลอบด้วย ABC เลยเหรอ แต่ก็ได้ผล ปั๊บเดียวเจ๊น่าก็หายงอน

๓ ขวบ + ๑๐๐ วัน...จันทร์ ๘ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันจันทร์แต่เป็นวันหยุดชดเชย เด็กจิ๋วยังคงตื่นมา 7 โมงตรง พอรู้ว่าวันนี้หยุดก็กระโดดโลดเต้นเหมือนเดิม ให้ปะป๊าพาไปดูการ์ตูนเหมือนเดิม ...ตอนกลางวันไปกินชิมิกัน ครั้งที่แล้วเด็กจิ๋วไปกับเจ๊น่าเฮียโร คราวนี้มีพี่โฮไอไปด้วย เด็ก 2 คนฟรี โชคดีมาก เพราะโฮไอไม่ค่อยได้กินอะไรอยู่แล้ว ...ตั้งแต่ไปหาคุณหมอคราวที่แล้ว พอกลับมาเด็กจิ๋วก็มีเสมหะ ไอ นิดหน่อย แล้วก็เป็นมาตลอด วันนี้เหมือนจะหนักขึ้น มีน้ำมูกด้วย เลยพาไปหาหมอกัน เพิ่งรู้ว่าหมอจะยุ่งช่วงเช้า เมื่อก่อนไปตอนเช้าต้องรอคิวเป็นชั่วโมง ครั้งหลังๆไปตอนบ่ายเพราะต้องรอเลิกเรียน ปรากฎว่าไม่มีคิวเลย วันนี้กินชิมิเสร็จก็พากันไปโรงพยาบาล ปรากฎว่าคิวยาวเหยียด เฮ้ย คงเป็นเพราะวันหยุด ต้องนั่งรอกันที่โรงพยาบาลเป็นชั่วโมงเลย เด็กจิ๋วก็ไม่อยู่สุข เล่นกับพี่โฮไอก็ชอบไปแกล้งเค้า ทั้งเล่นเกมส์ เต้นรำกับปะป๊า วิ่งไล่จับ ดูการ์ตูน ทำทุกอย่างหมดแล้ว ก็ยังไม่ถึงคิว เด็กจิ๋วเริ่มอาละวาดงอแงแล้วด้วยเพราะกินยาเข้าไปเมื่อเช้า ตอนนี้น่าจะง่วงนอนมาก ...ตอนเข้าไปตรวจกับคุณหมด เด็กจิ๋วเห็นหน้าคุณหมอก็รีบพูดทันที “คุณหมอคะ วันนี้มีสติกเกอร์กับวิตามินมิ้นซีไม๊คะ”...รู้งานดีมาก แล้วก็ยอมให้คุณหมอตรวจนั่นนี่เรียบร้อย เป็นเด็กดีมาก ปะป๊าบอกให้ยิ้ม ก็นั่งยิ้มไปยิ้มมาเหมือนคนบ้าเลย สรุปแล้วคุณหมอบอกว่าน่าจะได้รับเชื้อใหม่มา อาจจะจากโรงเรียนก็ได้ ตอนนี้อยากให้หยุดไปโรงเรียนก่อน ไม่ได้กลัวจะไปปล่อยเชื้อให้เพื่อนๆนะ แต่ว่ากลัวจะไปรับเชื้อใหม่มาอีก เพราะยังไม่หายดี ร่างกายอ่อนแอ ไปรับเชื้อใหม่ได้ง่ายๆ คุณแม่บอกว่าเห็นเพื่อนเด็กจิ๋วป่วยต้องเอายาไปกินที่โรงเรียนอย่างน้อย 2 คน ฉะนั้น อาทิตย์นี้จะให้หยุดดีกว่า ซึ่งจะกลายเป็นหยุดยาว ไปเรียนอีกทีก็หลังสงกรานต์เลย ...ตอนกลับมาบ้าน พี่โฮไอขึ้นมาเล่นกับเด็กจิ๋ว เล่นไปได้หน่อยก็อาละวาดหนัก ต้องเปิดการ์ตูนให้ดู อยากจะดูเรื่องอารดาอีกแล้ว ดูไม่เบื่อหรือไง ดูไปได้หน่อยก็บอกให้เปิดไฟ พอเปิดไฟก็อาละวาดว่ามองไม่เห็นจอหนัง คืองอแงไม่รู้เรื่อง พอปะป๊าอุ้มขึ้นมาก็หลับไปเลยตั้งแต่ตอน 5 โมง แล้วก็หลับยาวไปถึงเช้าเลย

๓ ขวบ + ๑๐๑ วัน...อังคาร ๙ เมษายน ๒๕๕๖
...เด็กจิ๋วตื่นมาตอนตี 5 ซวยแล้วไง เมื่อวานเล่นนอนตั้งแต่ 5 โมง ที่ตื่นก็คงเพราะหิวนม เพราะรีบมาปลุกปะป๊าให้พาไปเอานมหน่อย ระหว่างดูดนม ก็บอกให้ปะป๊าเล่านิทานให้หน่อย ปะป๊าก็เล่าแบบหลับๆ เล่าเรื่องอะไรไปก็ไม่รู้ จบแล้วก็พยายามนอนกันอยู่ปั๊บหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ เพราะเด็กจิ๋วปวดอึ๊ พออึ๊เสร็จก็ตื่นเลย คุณแม่ต้องพาไปห้องครัว กินโน้นนี่ ดูโรโบ้คาร์โพลิไปหลายตอน ...วันนี้เราบอกว่าเด็กจิ๋วว่าเป็นวันธรรมดาไม่ใช่วันหยุด แต่เด็กจิ๋วไม่ต้องไปโรงเรียนเพราะยังป่วยอยู่ เด็กจิ๋วดีใจใหญ่เลย บอกว่า “ไม่ต้องไปโรงเรียนตลอดชีวิตเลยเหรอ”...โห เกินไป แค่สองสามวันนี่แหล่ะ เสียดายด้วย วันนี้ตามโปรแกรมต้องมีทำอาหารกันด้วย เป็นผักทอด อยากจะรู้ว่าสอนเด็กอนุบาลทำอาหารได้ยังไง ...ตอนกลางวันพาไปกินข้าวกันที่วิลล่าพหล วันนี้เป็นเด็กดี กลับมาบ้านก็ยอมกินยาแต่โดยดี บอกเองเลยว่า “น้องพริมกินยาเองได้ น้องพริมต้องกินยาเพราะจะได้หายป่วย”...ยาฆ่าเชื้อที่เมื่อก่อนเป็นตัวขาวข้นกินยากหน่อย คราวนี้เราขอเปลี่ยนเป็นตัวที่อร่อยๆ คุณหมอก็จัดให้ คราวนี้ยาอร่อยทุกตัว เด็กจิ๋วคอนเฟิร์ม ...ลังเลอยู่ว่าจะให้กินยาลดน้ำมูกไม๊ มันมีตัวยาที่ทำให้เด็กดื้อ ตัดสินใจกันแล้ว ไม่ได้ไปโรงเรียนนี่ กินก็ได้ เลยให้กินไปตอนกลางวัน แล้วก็หลับยาวไปถึง 4 โมงเย็น พอตื่นมาเท่านั้นแหล่ะ ตัวยาออกฤทธิ์ทันที อาละวาดหนักมาก งอแงแบบไม่มีสติ ไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เจ๊น่ามาหาก็ไล่เค้าไป พอเค้าไปก็อาละวาดจะให้เค้ากลับมา แต่อยู่ดีๆก็เกิดหายอาละวาด ลั้นลาเล่นกับพี่ๆอย่างดีมาก ดูเฮียโรกับโฮไอรักเด็กจิ๋วมาก มากกอดกันใหญ่เลย ที่จริงเจ๊น่าก็รักนะ แต่คนนี้อารมณ์แปรปรวนไปหน่อย เล่นด้วยแป๊บเดียวก็ต้องมีงอนไปแล้ว

๓ ขวบ + ๑๐๒ วัน...พุธ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๖
...ตอนเช้าเด็กจิ๋วตื่น 6 โมงกว่า ก็รีบมาถามคุณแม่เหมือนเดิม พอรู้ว่าไม่ต้องไปโรงเรียนก็ดีใจเหมือนเดิม ...เฮียโรขึ้นมาเล่นกับเด็กจิ๋วตั้งแต่ 7 โมง ให้น้องขี่หลังตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ติดใจเล่นอีก เฮียโรใจดีมาก ตามใจเด็กจิ๋วทุกอย่าง ตอนนี้เด็กจิ๋วยกให้เฮียโรเป็น heli แล้วปะป๊าจะเป็นตัวอะไรละทีนี้ ...ปะป๊าจะไปล้างรถ บอกให้เด็กจิ๋วอยู่บ้านเล่นกับเฮียโรไป ทีแรกก็อยากจะพาไป แต่คุณแม่มาขู่ว่าเด็กจิ๋วกำลังปวดอึ๊ ถ้าพาไปด้วยอาจจะไปอึ๊ที่นั่น แต่สุดท้ายเด็กจิ๋วจะขอตามปะป๊าได้ด้วย ปะป๊าก็ว่าไปแป๊บเดียวไม่เป็นไร พอไปที่ร้านเล่นขี่วัวได้แป๊บเดียวก็เอาแล้วไง อึ๊ออกมาจนได้ ตอนแรกปะป๊าตกใจรีบโทรตามคุณแม่ ให้พี่โอขับรถพามาที่นี่ด่วน มาล้างก้นให้ลูก แต่คิดไปคิดมา เราทำเองก็ได้ ปะป๊าเลยจัดการให้กลางร้านนั่นแหล่ะ ใช้กระดาษเปียก ขี้เกียจพาไปล้างที่ห้องน้ำ ...ตอนกลางวันพาไปกินร้านนิตยากัน เด็กจิ๋วไม่ค่อยเจริญอาหารเลย ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว สั่งสปาร์เก็ตตี้แต่พอเอามาก็ไม่กิน วันนี้สั่งข้าวผัดให้ก็กินไปนิดเดียว แต่พวกหนมต่างๆก็ยังกินเยอะอยู่นะ เบื่ออาหารคาวเฉยๆ น้ำหนักก็ลดลงไปด้วย มีหลายคนทัก ก่อนหน้านี้ประมาณ 14 แต่ล่าสุดชั่งที่โรงพยาบาล ได้ 13.x นอกจากเรื่องเบื่ออาหาร ยังมีเรื่องอาละวาด อะไรขัดใจนิดหน่อยก็อาละวาดโวยวาย บางทีก็คิดว่าติดมาจากเจ๊น่า บางที่ก็คิดว่าเป็นเพราะยาดื้อ บางทีคิดว่าเป็นเพราะไม่สบายตัว มีน้ำมูก แต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะเด็กจิ๋วนั่นแหล่ะ รู้สึกว่าจะมีอาการแบบนี้เป็นช่วงๆ เดี๋ยวก็คงจะหายไปเอง

๓ ขวบ + ๑๐๓ วัน...พฤหัส ๑๑ เมษายน ๒๕๕๖
...เมื่อคืนนี้ปะป๊าเล่นบทโหดกับเด็กจิ๋ว สัญญากันว่าให้กินหนมแล้วจะยอมอาบน้ำแปรงฟัน ถึงตอนแปรงฟันก็งอแงไม่ยอม ปะป๊าเลยต้องสอนด้วยการแกล้งโกรธ บอกว่า ไม่ชอบเด็กขี้โกหก สัญญากันแล้วผิดสัญญาไม่ได้ ปะป๊าจะหน้าบึ้งไปตลอดชีวิต เด็กจิ๋วก็มาง้องอนตามเคย ปะป๊าก็เก็กหน้าบึ้งไป ว่าแล้วเด็กจิ๋วก็ใช้มุขทำหน้าน่ารัก มายื่นหน้าใส่ปะป๊าพร้อมกับแอ็บน่ารัก ลอยหน้าไปมา ปะป๊าเลยหลุดเก็กขำแหลกเลย แล้วยิ่งกลั้นขำมันก็ยิ่งขำหนักขึ้นไปอีก ขำจนหน้าตาไหลพรากๆ คุณแม่เลยบอกว่าเนี่ยะปะป๊าร้องไห้แล้วที่เด็กจิ๋วดื้อ จนในที่สุดคืนดีกันแล้ว เด็กจิ๋วคงจะยังงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำหน้างงๆ แล้วถามปะป๊าว่า “เมื่อกี้ปะป๊าร้องไห้เหมือนหัวเราะเลย”...ปะป๊าเลยบอกว่ามันเป็นการร้องไห้แบบเสียใจสุดขีด มันจะเหมือนกับหัวเราะแบบนี้แหล่ะ ...เด็กจิ๋วเล่นกับพี่ๆที่ออฟฟิต ให้ตัวเองเป็น robocar poli ตอนนี้พี่ๆรู้จักตัวเอกทั้ง 4 ตัวในเรี่องแล้ว เด็กจิ๋วพูดๆไม่หยุด แล้วก็พูดว่า “robocar poli ต้องเชื่อหลวย”...หลังจากทุกคนอึ้งกันอยู่สักพัก เด็กจิ๋วก็อึ้งด้วย แล้วตั้งสติ พูดใหม่ “robocar poli ต้องช่วยเหลือคนอื่น”...ปะป๊าเป็นคนสอนเองว่าถ้าจะเป็น robocar poli ต้องช่วยเหลือคนอื่น ส่วนการผวนคำช่วยเหลือ เป็น เชื่อหลวย อันนี้คิดเองทำเอง ...ปะป๊าแต่งเพลงให้เด็กจิ๋ว “เด็กดีต้องมีรางวัล เด็กดีต้องมีรางวัล เราเป็นเด็กดี เราจะได้รางวัล”...แต่งขึ้นมาสดๆเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่เกลี่ยวกล่อมเด็กจิ๋วให้ไปโรงเรียน เด็กจิ๋วชอบมาก วันนี้ก็มาร้องให้พี่ๆฟัง เฮียโร โอไอก็ชอบ ร้องกันใหญ่เลย ...เวลามีคนมาถามเด็กจิ๋วว่าหายป่วยยัง เด็กจิ๋วจำทำหายใจฟื้ดฟื้ด ทำให้ดูว่ายังมีน้ำมูกอยู่ ...ตอนเย็นพาเด็กจิ๋วไปโลตัส ได้ปืนฉีดน้ำใหม่มา 2 กระบอก จำได้ว่าของปีก่อนให้อี๊ป้อมเก็บไว้ แต่ไม่แน่ใจสภาพว่ามันเจ๊งแล้วยัง แล้วของแบบนี้ถ้าไม่ได้เล่นมาปีหนึ่งแล้วมันชอบเสีย วันนี้เด็กจิ๋วให้อุ้มตลอดเวลาที่อยู่ในห้าง ไม่ยอมเดินเองเลย ตอนไปซื้อไอติมกันที่เสวนเซ่นก็งอแงอาละวาดนิดหน่อย ช่วงนี้ยังคงหงุดหงิดอาละวาดอยู่เรื่อยๆ

๓ ขวบ + ๑๐๔ วัน...ศุกร์ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๖
...ช่วงนี้เด็กจิ๋วจะรักปะป๊ามากเป็นพิเศษจนคุณแม่หมั่นไส้ ชอบกอดปะป๊าแน่นๆแล้วบอกว่า “น้องพริมอยากให้ปะป๊าอุ้มหนูตลอดชีวิต”...แล้วเวลาจะออกไปข้างนอกกันก็ชอบนั่งกอดปะป๊าแล้วให้คุณแม่ขับ ...ตอนกลางวันไปกินร้านลองดูกัน เด็กจิ๋วไม่ยอมกิน วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เล่นน้ำละเลงโต๊ะเละเทะ จนคนอื่นเค้าอิ่มกันหมดแล้วถึงค่อยเริ่มอยากจะกิน พอจะกิน อาหารก็หมดไปซะแล้ว ...ตอนบ่ายๆช่างตู่พาน้องน้ำผึ้งมาหา น้ำผึ้งก็ร้องทุกเช้าตอนไปโรงเรียนเหมือนกัน แต่ช่างตู่บอกว่าร้องนิดหน่อย พอตอนจะส่งให้คุณครูก็ยอมเดินไปกับครูแต่โดยดี เด็กจิ๋วพาน้ำผึ้งมาเล่นในห้องทำงานปะป๊า แล้วอยู่ดีๆก็พูดว่า “น้ำผึ้งคุยกับพริมรู้เรื่องด้วยอ่ะ เก่งจัง”...ทำไมจะไม่รู้เรื่องเล่า อายุเท่าๆกันนี่ ...เด็กจิ๋วลั้นลาเล่นกับพี่ๆที่ออฟฟิต เล่นทำท่าดัดนิ้วให้คนอื่นเลียนแบบไม่ได้ พี่มิตรอึ้งไปเลย แล้วเล่นเดิมตามเส้นร่องกระเบื้องยางในออฟฟิต มีตั้งชื่อเกมส์ด้วยนะ ตั้งว่า เกมส์ “แอฟริก้า”...แล้วก็เกมส์อีกอันที่คิดวิธีเล่นแบบพิศดารมาก ให้แต่ละคนบอกชื่อตัวเองมา เด็กจิ๋วไล่ถามทุกคนในออฟฟิต จนครบทุกคนแล้วก็บอกว่า “เย้ น้องพริมชนะ”...อะไรอ่ะ เกมส์เล่นไงยังไม่รู้ กติกาคืออะไรก็ไม่บอก ให้พี่ๆบอกชื่อตัวเองแล้วไงอ่ะ เกมส์นี้เด็กจิ๋วตั้งชื่อว่า “เกมส์นีโน่” ...มีความรู้สึกว่าถ้าเด็กจิ๋วได้คุยกับพี่ๆทุกวันจะต้องฉลาดมากแน่ๆเลย เพราะแต่ละคนก็ซัดมุกต่างๆนาๆเข้าใส่เด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วก็ไม่เคยลดละ พยายามตอบโต้พี่ๆอย่างเฮฮาทุกครั้ง ...เด็กจิ๋ววิ่งไปตะโกนถามพี่ๆว่า “ใครอยากเล่นกมส์กับน้องพริมบ้าง”...แต่พี่ๆไม่มีใครสนใจเลย เด็กจิ๋วตั้งใจจะไปเล่นเกมส์ฮำทำนองเพลงแล้วให้ทายว่าเป็นเพลงอะไร ...เด็กจิ๋วใช้ช้อนตักกินพริงเกิ้ลอยู่ พี่โอเข้ามาแกล้งบอกว่า ขอกินด้วยคนได้ไม๊ เด็กจิ๋วตอบว่า “มันเลอะน้ำลายไปแล้ว”...รู้จักใช้มุกนี้ตั้งแต่เด็กเลยนะ

๓ ขวบ + ๑๐๕ วัน...เสาร์ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันแรกของการหยุดยาวสงกรานต์ 4 วัน คนอื่นไปเที่ยวกันใหญ่เลย แต่เด็กจิ๋วอดนะ เพราะสงกรานต์คนเยอะ ไม่เหมาะจะไปเที่ยว อยู่เที่ยวในกรุงเทพดีกว่า ตอนเช้าหลังจากเด็กจิ๋วดูการ์ตูนจบ ก็มาคุยกันว่าจะไปไหนดี ถามผู้หญิงดูแล้ว รู้สึกว่าท้องฟ้าจำลองจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เลยให้เด็กจิ๋วโทรไปชวนพี่โฮไอ เด็กจิ๋วพูดกับพี่โฮไอว่า “พี่โฮไอ พี่โฮไอ ไปเที่ยวจำลองฟ้าใสกันไม๊”...เปลี่ยนชื่อเค้าซะเนี่ยะ แต่แล้วพอโทรไปเช็คดู เค้าบอกว่าปิด เพราะมันเป็นสถานที่ราชการ แล้วแบบนี้จะไปวันไหนเนี่ยะ น่าจะหยุดเพราะเป็นวันสงกราต์ วันเสาร์อื่นน่าจะเปิดนะ ไว้วันหลังไปใหม่แล้วกัน ...เปลี่ยนแผนไปเดินห้างชิวๆแล้วกัน Terminal 21 เพิ่งเคยไปกันครั้งแรก พอจอดรถเสร็จเดินเข้าห้าง เด็กจิ๋วก็เริ่มงอแงทันที จะให้คุณแม่อุ้ม แต่คุณแม่อุ้มไม่ไหว ปะป๊าก็ไม่อุ้ม เพราะโกรธเด็กจิ๋วอยู่ ยืนตกลงกันอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็ยอมเดินเอง ที่ห้างนี้จะตกแต่งแต่ละชั้นแตกต่างกัน ชั้นละประเทศ ปะป๊าพยายามจะถ่ายรูปเด็กจิ๋วแต่ไม่สำเร็จเลย เด็กจิ๋วไม่ให้ความร่วมมือ ...ปะป๊าถูกใจที่นี่เพราะมีร้านของเล่นโมเดลอยู่ร้านหนึ่ง ได้ของมา 2 อย่าง ส่วนเด็กจิ๋วก็ได้โทรศัพท์คิดตี้เครื่องใหม่ แต่พอกลับมาบ้าน หายไปไหนแล้วไม่รู้ คาดว่าจะลืมไว้วในรถเข็นช็อปปิ้ง ในร้านของเล่นเค้าเปิดเพลงไอซ์ ศรันยู เด็กจิ๋วได้ยินก็เต้นตามเพลงอย่างเมามันส์ ไปยืนเต้นอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในร้าน ...ออกจากห้างก็มุ่งหน้าไปบลัดดารมย์ นัดพี่ๆไปเล่นน้ำ วันนี้รู้อยู่แล้วว่าสระยังซ่อมไม่เสร็จ แต่ตั้งใจไปเล่นสงกรานต์ที่สระหลังบ้านกัน อุตส่าห์ซื้อปืนฉีดน้ำจากโลตัสไป 2 อัน พอเริ่มฉีดไปได้ 2 ทีก็เจ๊งแล้ว ของห่วยมากๆ ถ้าไม่เจ๊งก็เล่นไม่ได้อยู่ดี เพราะที่เกี่ยวนิ้วยิง เจ็บมือมาก ขนาดปะป๊ายังต้องกดแรงจนนิ้วแดงไปหมด ...พี่โฮไอตามมาทีหลัง พอลงไปในสระได้ไม่นาน ก็เกิดเรื่องเหมือนๆเดิม พี่โฮไอทะเลาะกับไจโร แล้วจาน่าก็โกรธ สั่งห้ามเด็กจิ๋วไปยุ่งกับโฮไอ เด็กจิ๋วไม่สนใจเล่นน้ำลั้นลากับพี่โฮไอต่อไป จนเจ๊น่าโกรธทุกคนเหมือนเคย เหมือนทุกครั้งที่มาบลัดดารมย์ ...ตอนเย็นไปกินข้าวกันที่ร้าน Maria รู้สึกว่าจะเป็นครั้งแรกของเด็กจิ๋ว วันนี้เป็นวันสงกรานต์ คนเยอะมากๆ แต่อาหารอร่อยทุกอย่าง เด็กจิ๋วง่วงนอนมากแล้ว ปะป๊าอุ้มพากล่อมหน้าร้านอยู่สักพักแต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดก็กลับเข้ามาเล่นกับเจ๊น่าต่อ ตอนนี้เจ๊น่าหายโกรธเด็กจิ๋วแล้ว เล่นกันลั้นลามาก ขอให้แค่ตามใจเจ๊น่าทุกอย่าง เจ๊น่าก็จะไม่โกรธ เจ๊น่าบอกว่าเด็กจิ๋วน่ารักมาก เล่นจนติดใจขอกลับไปบ้านเตาปูนด้วย แต่อาโกวไม่ยอม พอเด็กจิ๋วขึ้นรถก็หมดแรงสลบไปโดยเร็ว

๓ ขวบ + ๑๐๖ วัน...อาทิตย์ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้ไปราชบุรีกัน เลือกไปกลางๆช่วงวันหยุดเพราะจะได้รถไม่ติด นัดอากงอาม่ากับอี๊ไก่ไว้ที่ร้านเจ๊แดง รถเยอะมาก แต่ก็ไม่ถึงกับติด พอไปถึงที่ลานจอดรถเจ๊แดง อากงก็มายืนรออยู่แล้ว ถามเด็กจิ๋วว่าคนนี้ใคร ทำไมมาเจอที่นี่ เด็กจิ๋วบอกว่า “อากงไง” เราก็แกล้งเด็กจิ๋ว บอกว่าไม่ใช่หรอก อากงจะมาโผล่ที่นี่ได้ไง พอเจอกัน อากงทักเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วบอกว่า “นี่ไง เสียงเหมือนอากงเลย”...หลังๆมานี่รู้สึกว่าเด็กจิ๋วจะชอบกินปลาหมึก วันนี้ก็ชี้ที่ปลาหมึกก่อนเลย แต่ค่อนข้างเหนียวกินแล้วคายออกมา กุ้งก็เหนียวกินไม่ได้เหมือนกัน ปลาทูก็เผ็ด เด็กจิ๋วได้กินแต่ข้าวผัดกุ้ง ...ไปบ้านอากงอาม่า เริ่มพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ปีที่แล้วก็ได้เล่น ได้เล่นน้ำแบบนี้เด็กจิ๋วชอบอยู่แล้ว หลังจากรดอากง อาม่า ปะป๊า คุณแม่ อี๊ป้อมเรียบร้อยไปแล้ว แต่ละคนที่รด เด็กจิ๋วก็จะพูดเหมือนกันหมดตามที่เราสอน “ขอให้...สุขภาพแข็งแรง รวยๆ...”... แต่พอถึงตาอี๊ไก่ เด็กจิ๋วรดน้ำแล้วก็พูดว่า “ขอให้เป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่งอแง”...ฮากันมากเลยอ่ะ เด็กจิ๋วทำไมผิดคิวยังงั้นอ่ะ ทำไมไม่บอกว่าขอให้สุขภาพแข็งแรงเหมือนคนอื่นอ่ะ แบบนี้อี๊ไก่ก็เสียใจดิ่ มาหาว่าอี๊ไก่ดื้อ งอแง ...อยู่ที่บ้านอากงอาม่าหลายชั่วโมงเหมือนกัน เด็กจิ๋วคึกจัดไม่หยุดนิ่ง เล่นโน้นนี่ กระโดดๆ ร้องเพลง ทุกคนสงสัยว่าไม่เหนื่อยหรือไง เข้าห้องนอนไปหยิบหมอนทุกใบออกมาเรียงไว้ที่เบาะหน้าห้อง มีสิบกว่าใบได้ คุณแม่ก็ถามว่า แล้วใครจะเก็บละเนี่ยะ เด็กจิ๋วตอบว่า “อี๊ไก่ไง”...แล้วก็เอาหมอนมาทับตัวอี๊ไก่จนมิด สั่งอี๊ไก่ว่า “อี๊ไก่ อย่าทะลึ่งนะ”...คงหมายถึงว่าอย่าทลายหมอนลงมานะ

๓ ขวบ + ๑๐๗ วัน...จันทร์ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๖
...อี๊ตุ๋มโทรมาปลุกตั้งแต่ 6 โมง ให้ไปรับที่สนามบิน กลับมาจากรัสเซีย ที่จริงนัดกัน 7 โมงแต่ว่ามาถึงก่อนเวลา เราก็เร่งรีบแต่งตัวพากันออกมา เด็กจิ๋วก็ให้ความร่วมมือดี ไม่งอแง พอเจอหน้าอี๊ตุ๋มอี๊นกก็ดีใจ คุยจ้อไม่หยุดตั้งแต่สนามบินถึงบ้านอี๊ตุ๋ม อี๊ตุ๋มก็คุยโน้นนี่กับหลานไปเรื่อย ถามเด็กจิ๋วว่าเดี๋ยววันนี้จะไปเจอกับพี่โนพี่โน่เหรอ เด็กจิ๋วได้ยินก็ทำหน้างง แล้วถามตอบว่า “อี๊ตุ๋มรู้จักพี่โนพี่โน่ด้วยเหรอ”...อันนี้เรางงมาก เด็กไม่น่าจะคิดอะไรแบบนี้ จะไปสงสัยทำไมกับการที่อี๊ตุ๋มรู้จักพี่โนพี่โน่ได้ยังไง หรือว่า เค้าจะเป็น...เด็กอัจชิยะ ...พอขับรถมาถึงหน้าบ้านอี๊ตุ๋ม เด็กจิ๋วมองไปที่ลานจอดรถ เห็นรถอี๊กบอยู่ ก็สงสัย แล้วถามขึ้นมาทันทีว่า “เอ้า อี๊นุ้ยกับอี๊กบอยู่บ้านเดียวกับอี๊ตุ๋มเหรอ”...ฉลาดมากๆอ่ะ จำรถได้ รู้จักคิดว่าทำไมมาอยู่ที่บ้านเดียวกัน ...อี๊ตุ๋มเอาใจหลาน เปิดการ์ตูนเรื่องทิงเกอร์เบลให้เด็กจิ๋วดู พอเปิดมาปั๊บเราก็บอกว่าดูแล้ว เด็กจิ๋วบอกว่ายังไม่ดู อะไร ทำไมถึงจำไม่ได้นะ พอดูๆไปได้หน่อย เราก็เอ่อ...ยังไม่ดูจริงด้วย ตอนใหม่นี่หน่า ยังไม่ได้โหลดมาเลย ไม่น่าไปเถียงกับเด็กจิ๋วเรื่องนี้เลย เด็กจิ๋วจำได้แม่นยำอยู่แล้วว่าเรื่องไหนดูไม่ดู ดูที่ไหน ดูค้างไว้ยังไม่จบ จำได้ละเอียด ...เด็กจิ๋วดูการ์ตูนอย่างนิ่งเงียบ ตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนี้สนุกด้วย ดูจบก็พากันสำรวจบ้านอี๊ตุ๋ม เจอรูปหมาตัวต่างๆที่บ้านนี้เคยเลี้ยงไว้ เมื่อก่อนมีหลายตัวมาก แต่ตอนนี้ตายไปหมดแล้ว เราถามเด็กจิ๋วว่า ตัวไหนชื่อปีเตอร์ เด็กจิ๋วดันชี้ถูกอีก เคยมาเจอปีเตอร์ตั้งแต่ตอนเล็กๆ ไม่น่าจะจำได้ อันนี้ไม่แน่ใจว่ามั่วหรือจำได้จริง ถ้าจำได้จริงๆก็อัจชิยะเกินไปหน่อยแล้ว ...ออกจากบ้านอี๊ตุ๋มก็ไปเซนลาดกัน นัดน้าหญิงกับน้าเอ๋มากินข้าว เราไปตั้งแต่ห้างเปิดก่อนเวลานัด พาเด็กจิ๋วไปเล่นของเล่นที่แผนกเด็กเล่น ที่จริงมาเล่นแบบนี้ก็สนุกสุดๆแล้ว ได้เล่นของเล่นโน้นนี่เยอะแยะโดยไม่ต้องซื้อ เราแอบซื้อโรโบ้คาร์โพลิให้เด็กจิ๋วเพิ่มด้วย แต่แอบซื้อแอบห่อของขวัญ เอาไว้ทยอยให้วันหลัง ระหว่างเด็กจิ๋วเล่นอยู่ในแผนกนั้น ก็มีใครไม่รู้ ย่องเข้ามาจากด้านหลัง แล้วอุ้มตัวเด็กจิ๋ววิ่งหนีไป เด็กจิ๋วนิ่งมาก ไม่สงเสียงอะไรซะแอ่ะ ทำหน้าตาเฉย คาดว่าคงจะตกใจ คนที่ลักพาตัวไปก็คือน้าเอ๋นั่นเอง ถ้าเป็นตัวร้ายมาอุ้มไปจริงๆ เด็กจิ๋วคงหายสาบสูญแล้วล่ะ อุตส่าห์เคยสอนไว้ว่าถ้ามีคนแปลกหน้ามาอุ้มไปให้กรี๊ดลั่นห้างเลย ทำไมเจอเข้าจริงดันเฉยอ่ะ ...พอพี่โนพี่โน่มา เด็กจิ๋วก็เข้าไปจูงมือพี่โนแล้วเดินลั้นลากันไปทันที วันนี้เรากินกันที่ร้านซูกิชิ เด็กจิ๋วกินไข่ตุ๋นกับข้าวผัดกระเทียม ระหว่างที่เด็กจิ๋วกินอย่างเมามันส์ ส่งเสียงเล่นเฮฮาเป็นระยะๆ รู้สึกว่าพี่โนจะเริ่มเบื่อเด็กจิ๋วแล้ว เพราะนี่น้อง 2 คนนิ่งเงียบ เป็นเด็กเรียบร้อยมากๆ ...กินข้าวเสร็จ น้าเอ๋ก็ชิ่งหนีหายไป รู้ตัวทันจริงๆ หลังจากนั้นเด็กๆก็ไปก่อเหตุใน B2S เล่นกันเสียงดังมาก เด็กจิ๋วก็จะเต้นบัลเล่อยู่นั่นแหล่ะ ให้ปะป๊าจับเหวี่ยงเต้นไปมา ...พากันมาเล่นต่อที่บ้านเด็กจิ๋ว เปิดการ์ตูนเรื่อง Hotel Transilvania มันเป็นการ์ตูนผู้ใหญ่ ที่เลือกเรื่องนี้เพราะเรื่องอื่นๆพี่โนพี่โน่เคยดูหมดแล้ว เราว่าดูแล้วเด็กจิ๋วต้องไม่เข้าใจแน่ๆ เพราะมันค่อนข้างยาก แต่เห็นเด็กจิ๋วก็นอนดูนิ่ง ตั้งแต่ต้นจนจบ พอทดสอบโดยการถามให้เล่าเรื่องก็เล่ามั่วซั่ว เลยไม่รู้ว่าแกล้งเราหรือไม่รู้เรื่องจริงๆ

๓ ขวบ + ๑๐๘ วัน...อังคาร ๑๖ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันหยุดยาววันสุดท้ายแล้ว เผลอแป๊บเดียวเอง ปะป๊ากับคุณแม่ตั้งใจจะทำโน่นนี่เยอะแยะแต่ไม่ได้ทำซะอย่าง เวลาผ่านไปเร็วมาก ว่าจะจัดการรูปเด็กจิ๋วที่ดองไว้เป็นปี ก็ไม่ได้แตะเลย คุณแม่ก็ต้องทำบล็อกเด็กจิ๋วก็ไม่ได้ทำ คือบันทึกเด็กจิ๋วตอนนี้อยู่ใน Word ไม่ได้ online มาเกือบปีแล้วเพราะ Site เก่ามันเจ๊งไป ตอนนี้เพิ่งหาที่ใหม่ และเพิ่งเริ่มลงไปได้แค่ 9 week เอง หนทางยังอีกไกลมากๆ เกือบ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาตั้งแต่หยุดเรียนเพราะป่วยจนถึงหยุดยาวสงกรานต์ เด็กจิ๋วมีความสุกมาก ได้อยู่กับปะป๊ากับคุณแม่ทั้งวัน อยู่บ้านเราก็กอดกันทั้งวัน ที่จริงก็อยู่ด้วยกันทั้งวันตั้งแต่เกิดแหล่ะ แต่เหมือนไม่รู้จักคุณค่า เพราะไม่เคยจากกัน พอต้องมาจากกันเพราะต้องไปโรงเรียน คงจะสำนึกแล้วสินะ ว่าการได้อยู่กับปะป๊ากับคุณแม่มีความสุขแค่ไหน ตอนนี้เด็กจิ๋วจะชอบเล่นรวมร่าง มี 2 โหมดให้เลือก แบบแรง หรือแบบเบา ถ้าแบบแรงก็แรงจริง รวมร่างด้วยการกอดกันแบบกระดูกแทบจะหัก แบบนี้วันพรุ่งนี้ที่ต้องไปโรงเรียนต้องมีน้ำตาแน่ๆเลย ...ทุกวันเด็กจิ๋วจะตื่นขึ้นมาด้วยความลั้นลา มาถามคุณแม่ว่าวันนี้วันอะไร พอรู้ว่าได้ดูการ์ตูนก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ทั้งที่ปะป๊าก็รู้ว่าบางวันเด็กจิ๋วก็ไม่พร้อม ไปดูการ์ตูนก็ดูๆแบบยังง่วงนอนอยู่ บางวันก็งอแงอาละวาดนิดหน่อยด้วย ...เด็กจิ๋วเล่นเอาหน้ากากอุลตร้าแมนมาใส่ แล้วทำท่าประหลาด 1 ท่า คือยกมือขึ้นมาแปะที่หัว เหมือนก่ายหน้าผาก ท่านี้ใช้ทั้งตอนต่อสู้และตอนทักทาย เราไม่แน่ใจว่าจำมาจากท่ามือตั้งฉากของอุลตร้าแมนที่พี่โฮไอเคยสอนไว้หรือเปล่า แต่มันก็ไม่ใกล้เคยงเลย มันไปเหมือนกับท่าตะเบะของ รปภ. มากกว่า เด็กจิ๋วนอกจากจะสวมหน้ากากให้ตัวเองแล้ว ยังใจดีใส่หน้ากากให้หมีหมีด้วย ...ระหว่างอาบน้ำกันในอ่าง เด็กจิ๋วก็ชูแขนขึ้นมาหมุนๆ แล้วร้องเพลงประกอบ เนื้อเพลงมันงงๆมึนๆ แต่จับใจความได้ว่า เป็นเพลง ชูมือขึ้นแล้วหมุนหมุน ชูมือขึ้นโบกไปมา ประมาณนี้ ไม่แน่ใจ เดี๋ยวเขียนไปถามครูดีกว่า ...2 คืนมานี่รู้สึกว่าเด็กจิ๋วกรนดังมาก ดังไม่เท่าปะป๊าหรอก แต่เด็กตัวเล็ก ไม่อ้วน ทำไมกรนได้ ไม่ได้ป่วยด้วย เราพยายามแก้ปัญหาเรื่องที่ตอนกลางดึก เด็กจิ๋วชอบปีนมานอนปลายเตียงคุณแม่ มันตากแอร์จะป่วยเอา แล้วก็กลัวตกเตียงด้วย เป็นเกือบทุกคนแหล่ะ คุณแม่ต้องตื่นมาอุ้มกลับที่นอนตัวเองทุกคืน อุ้มกลับไปก็ปีนกลับมาอีก บางคืนก็หลายรอบ เมื่อคืนก็เป็น พออุ้มจะอุ้มกลับก็รู้สึกตัว เลยงอแงอาละวาดเล็กน้อย วันนี้ลองลดอุณหภูมิแอร์เป็น 25 แต่ก็ไม่ได้ผล เด็กจิ๋วยังคงปีนมาอยู่ดี

๓ ขวบ + ๑๐๙ วัน...พุธ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๖
...เช้านี้ตื่นมาก็รีบถามก่อนเลย “แม่ วันนี้วันอะไรอ่ะ”...คุณแม่บอกว่าวันธรรมดา ต้องไปโรงเรียน เด็กจิ๋วได้ยินก็ร้องไห้งอแง “หนูไม่อยากไปโรงเรียน หนูไม่อยากไปโรงเรียน”...เราเตรียมใจไว้อยู่แล้วล่ะ เพราะหยุดยาว ตั้งแต่ป่วยแล้วต่อเนื่องมาสงกรานต์ เท่ากับเกือบ 2 อาทิตย์เลย ต้องเริ่มต้นกันใหม่แน่ๆ แต่เด็กจิ๋วก็ร้องอย่างเดียว ไม่อาละวาด ยอมให้คุณแม่อุ้มแต่โดยดี พอพาลงมาถึงข้างล่าง ก็หยุดร้อง คุยโน่นนี่กับอี๊ป้อม หลังจากนั้นก็ไม่ร้องอีกเลย ตอนนั่งในรถก็บอกปะป๊ากับคุณแม่ว่า “เดี๋ยวเราต้องจากกันปั๊บหนึ่งนะ ปะป๊าอย่าไปประชุมนะ”...แล้วก็ยอมแต่งตัวในรถ ตอนไปส่งที่ห้องเรียนก็ยอมแต่โดยดี ไม่มีอิ๊อ๊ะใดๆทั้งสิ้น ...เรื่องไปโรงเรียนของเด็กจิ๋วสรุปว่า วันแรกไม่ร้อง เพราะงงๆเหตุการณ์ชุลมุนมาก หลังจากนั้นก็ร้องทุกวันตลอดสัปดาห์แรก พอสัปดาห์ที่สองจะร้องแค่วันจันทร์ และวันอังคาร พอวันพุธ พฤหัส ศุกร์ ก็ไม่ร้องเลย หลังจากนั้นก็หยุดยาวเพราะป่วยและต่อเนื่องไปสงกรานต์ เปิดกลับมาหลังสงกรานต์ก็ร้องตอนตื่นนอนแล้วผิดหวังที่ไม่ใช่วันหยุด อดดูการ์ตูน แต่ก็ยอมแต่งตัวไปโรงเรียนดี แสดงให้เห็นว่าคิดเป็นแล้ว เข้าใจแล้วว่าจากกันปั๊บเดียว เดี๋ยวก็เจอกัน ...วันนี้รถไม่ติดเลย ไปส่งเด็กจิ๋วตั้งแต่ 7.30 หลังจากส่งเด็กจิ๋วเสร็จ ก็ไปนั่งดูกล้องวงจรปิดกันเกือบครึ่งชั่วโมง นั่งจ้องพฤติกรรมของเด็กจิ๋ว ตั้งแต่เราไปส่งเด็กจิ๋วแล้วเดินมาตึกฝั่งตรงข้าม ช่วงเวลาอึดใจเดียว เด็กจิ๋วกินข้าวเสร็จแล้ว เห็นเด็กจิ๋วนั่งกินเองเรียบร้อย เพื่อนๆต้องให้ครูป้อนอยู่เลย พอกินเสร็จครูก็ปรบมือให้ เด็กจิ๋วเดินเอาจานไปหยิบแก้วน้ำมายืนๆ ครูชี้ให้ไปกดน้ำเองที่ตู้ เด็กจิ๋วก็เดินไปกดกินแล้วเอาแก้วไปเก็บที่เรียบร้อย เสร็จแล้วก็มาเล่นของเล่นที่โต๊ะ ดูแล้วยังไม่ค่อยไปหาเพื่อนๆเลย แล้วพอ 8 โมง คุณครูก็เก็บโต๊ะ ให้เล่นเก้าอี้ดนตรีกัน เริ่มแรกเด็กจิ๋วนั่งอยู่เก้าอี้สีชมพู พอคุณครูให้ลุกเดินเป็นวงกลมรอบเก้าอี้ตามเพลง แล้วหยุดให้เด็กๆนั่ง เด็กจิ๋วฮามาก ต้องวิ่งอ้อมกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิมที่เคยนั่งทีแรก ไม่รู้ว่าจะนั่งตัวสีชมพู หรือไม่รู้กติกาว่านั่งตัวไหนก็ได้ รอบที่ 2 ก็ยังไปนั่งตัวเดิมอยู่ พอรอบที่ 3 ตัวเดิมไม่ว่าง ถึงยอมไปนั่งตัวอื่น เด็กจิ๋วได้นั่งทุกรอบ มีความรวดเร็วใช้ได้ แต่เห็นจากกล้องมีช่วงชุลมุนแล้วมีเด็กคนหนึ่งล้มลงไปด้วย ดูไม่ออกว่าเด็กจิ๋วไปผลักเค้าหรือเป่า แต่ถ้าผลักก็ไม่น่าจะด้วยความตั้งใจ แล้วระหว่างที่เดินๆอยู่ เราเห็นมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาชกหลังเด็กจิ๋ว 2-3 ทีด้วย แต่อารมณ์เหมือนชกเล่นๆไม่น่าจะเจ็บ ใช่น้องคูณที่เด็กจิ๋วบอกว่าชอบมาดึงผมเด็กจิ๋วหรือเปล่า ...ตอนไปรับกลับจากโรงเรียน ปะป๊ากับคุณแม่ยังแอบไปดูกล้องวงจรปิดอีกรอบ เห็นเด็กจิ๋วพยายามจะไปขอกระดาษระบายสีของอั่งอั๊ง แต่อั่งอั๊งไม่ยอม เด็กจิ๋วพยายามทำมือกวักๆไปมาข้างหน้าอั่งอั๊งแต่ไม่สำเร็จ ดูแล้วยังไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างไร แล้วก็เห็นจากกล้องวงจรปิดว่าพอบ่าย 2 ตรง ได้ยินเสียงอ่อดดัง เริ่มมีผู้ปกครองมารับเพื่อนกลับบ้านคนแรก หลังจากนั้น เด็กจิ๋วก็ตั้งหน้าตั้งตามองหาปะป๊ากับคุณแม่ใหญ่ ชอบเดินไปที่ประตูเฝ้าดูว่าเมื่อไหร่จะมารับ ดูแล้วอาการหนักกว่าเพื่อนๆทั้งหมด สงสัยจะรักพ่อรักแม่มาก พอได้เจอกับครูบุ๋ม ครูบุ๋มบอกว่าวันนี้น้องพริมเป็นเด็กดีมาก กินข้าวได้เอง ไม่งอแงไม่ร้องไห้ แต่ไม่ยอมนอนกลางวัน เราเลยถามว่าน้องพริมเคยแกล้งเพื่อนหรือเป่า เพราะน้องพริมเล่าว่ามีเพื่อนชื่อ ฟ้าใส ไม่ยอมเล่นกับพริม ชอบวิ่งหนี คุณครูบุ๋มเลยบอกว่า อ๋อ น้องฟ้าใสเค้าพูดภาษาไทยไม่ได้ ที่บ้านพูดกันแต่ภาษาจีน เราก็อ๋อ มิน่าล่ะ เด็กจิ๋วถึงได้เล่าแบบนั้น ...ตอนรับเด็กจิ๋วออกมาเจอคุณแม่ของน้องคีโน่มารับพร้อมกัน เราก็ทักทายกันเล็กน้อย แกล้งถามเด็กจิ๋วว่ารู้จักเพื่อนคนนี้ไม๊ ชื่อคีโน่ เด็กจิ๋วบอกว่าไม่รู้จัก แกล้งอีกแล้ว วันก่อนเป็นคนบอกเราเองว่ามีเพื่อนชื่อคีโน่ เราลองถามคีโน่บ้างว่าเคยเล่นกับน้องพริมไม๊ คีโน่ก็บอกว่าเคย …ตอนขึ้นรถกันมา เราก็ให้ของขวัญกับเด็กจิ๋วเพราะว่าวันนี้เป็นเด็กดีมาก เด็กจิ๋วเห็นกล่องก็รู้เลยว่าเป็น Heli เพราะตอนนี้ได้ครบทุกตัวแล้ว ขาดแค่ Heli ตัวเดียว เราเคยหลอกไว้ว่าต้องเป็นเด็กดีมากๆถึงจะได้ ทั้งๆที่ซื้อไว้ให้ตั้งนานแล้ว เด็กจิ๋วรีบแกะของขวัญด้วยอาการดีใจ ตาลุกวาวมาก แต่พอได้ Heli สมใจแล้วไม่เห็นจะเล่นเค้าสักเท่าไหร่เลย ปะป๊าเพิ่งบอกคุณแม่เองว่าช่วงนี้เหมือนจะเลิกฮิตไปแล้ว ให้รีบเอาของขวัญออกมาให้หมด ...ตอนเย็นๆเจ๊น่าเฮียโรมาหา หลังจากไม่ได้เจอกันหลายวันช่วงหยุดสงกรานต์ พี่ๆรักเด็กจิ๋วกันมาก วิ่งเข้ามากอดแล้วเอาของเล่นมาให้ยืม เจ๊น่าบอกว่าเด็กจิ๋วตัวสูงขึ้นด้วย อะไรมันจะสูงเร็วปานนั้นแค่ไม่กี่วันเอง ...เด็กจิ๋วบอกว่า “น้องพริมรักทุกคน ยกเว้นคนทำผิดกฎหมาย”...รู้จักคำว่าผิดกฎหมายด้วยเหรอ

๓ ขวบ + ๑๑๐ วัน...พฤหัส ๑๘ เมษายน ๒๕๕๖
...ช่วงนี้ตอนกลางคืนจะให้ robocar poli เป็นคนป้อนนมเด็กจิ๋วทุกคืนเลย บางคืนก็เปลี่ยนเป็น Ambo Roi Heli เด็กจิ๋วชอบมากๆ พอป้อนนมป้อนน้ำเสร็จก็จะเล่านิทาน 2 เรื่อง แล้วสัญญากันว่าพอนิทานจบต้องรีบนอนทันที เด็กจิ๋วก็เชื่อฟังดี หลับง่ายมากๆ ยิ่ง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้นอนกลางวันเลย ทำให้หลับเร็ว แค่ 2-3 ทุ่มก็หลับไปแล้ว ปะป๊ากับคุณแม่เลยมีเวลาทำโน่นนี่เยอะหน่อย ...วันนี้ยังคงเป็นเด็กดีต่อเนื่อง มีร้องไห้งอแงเล็กน้อยตอนตื่นขึ้นมาแล้วถามคุณแม่ว่าวันนี้เป็นวันอะไร พอได้คำตอบที่ผิดหวังก็ร้องไห้แต่ไม่อาละวาด ตอนอุ้มขึ้นรถ แต่งตัว จนพาไปส่งที่ห้องเรียนก็เป็นเด็กดีมากๆ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรีบส่งแล้วรีบวิ่งหนีแล้ว ส่งแบบชิวๆบ๊ายบาย กอดๆจุ๊บๆให้พอใจถึงค่อยจากกันมา ...ส่งเด็กจิ๋วเสร็จแล้วก็มานั่งดูกล้องวงจรปิดอีก วันนี้ไม่ค่อยสนุก เด็กจิ๋วนั่งกินข้าวเรียบร้อย แต่เห็นว่ากินเสร็จแล้วไม่เห็นไปตักน้ำเลย ครูก็ไม่บอก สรุปไม่ได้กินน้ำหลังกินข้าว เดี๋ยวต้องเขียนไปบอกครูว่าให้กวดขันเรื่องกินน้ำหน่อย เรื่องที่ว่าอยู่นิ่งๆก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะเราดูผ่านจอเล็กๆ อย่างเมื่อวานตอนก่อนไปรับ ก็เห็นเด็กจิ๋วกระวนกระวาย คอยมองหาเราว่าเมื่อไหร่จะมารับ แต่พอเราแอบไปดูกับตาตัวเองที่ห้อง เห็นเด็กจิ๋วกำลังร้องเพลงแมงมุนลายตัวนั้นอย่างลั้นลา ...ตอนบ่ายชวนเจ๊น่ากับเฮียโรไปรับเด็กจิ๋วที่โรงเรียน วันนี้เราไปถึงห้องเรียนตั้งแต่ยังไม่ 2 โมง เพราะสัญญากับเด็กจิ๋วเอาไว้ว่าจะไปรับเป็นคนแรก ปรากฎว่าไปถึงห้องเรียน เจอครูแหววบอกว่ายังไม่เสร็จค่ะ เด็กๆกำลังกินนมกันอยู่ ให้เราไปแอบก่อน เดี๋ยวเด็กเห็นแล้วงอแง เราเลยต้องมาแอบกันอยู่พักหนึ่ง เจอแม่ของนิตา เค้าถามว่าอาทิตย์ที่แล้วหายไปไหน เราเลยบอกว่าไม่สบาย แล้วเค้าบอกว่ามี facebook ของแสงโสมปีนี้ด้วย มีมาคุยกันเรื่องที่จะไปทัศนศึกษาพรุ่งนี้ด้วย คุยกันว่าไปรับลูกที่พาราก้อนเลยก็ได้ ไม่ต้องให้กลับรถตู้ เพราะช่วงนี้กำลังมีข่าวรถตู้ส่งนักเรียน ทำนักเรียนตาย เพราะลืมทิ้งไว้ในรถนาน 5 ชั่วโมง รถจอดตากแดด เลือดเป็นกรด เด็กชื่อน้องเอย แต่เราคุยกับคุณครูแหววแล้ว เหมือนครูแหววบอกว่าถ้าจะไปรับเองก็ได้ แต่ตอนไป อยากให้ไปกับรถโรงเรียนมากกว่า เพราะกลัวชุลมุน คือเด็กบางคนก็จะร้องไห้หาพ่อแม่กันจ้าละหวั่น

๓ ขวบ + ๑๑๑ วัน...ศุกร์ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๖ 
 ...เมื่อวานได้คุยกับคุณแม่ของนิตา เค้าบอกว่ามี group ใน facebook เป็นอนุบาลแสงโสม 2556 คือเป็นกลุ่มของอนุบาลแสงโสมที่เข้าปีนี้ แต่คนส่วนใหญ่จะเป็นแม่ของน้องๆห้อง 1/9 เพราะคนที่เป็น admin ของกลุ่มชื่ออ้อ มีลูกอยู่ห้อง 1/9 ลูกของครูอู๊ดที่รู้จักกับเจ๊น่า เฮียโรก็อยู่ห้องนี้ คุณแม่เลยสมัครเข้ากลุ่มไปเรียบร้อย เจอคุณแม่ของห้อง 1/8 แค่ 2 คน คือแม่ของนิตา และแม่ของเมมิ เป็นเด็กใหม่เพิ่งเข้าเรียนอาทิตย์ที่แล้วเอง ...วันนี้เด็กจิ๋วไปทัศนศึกษาครั้งแรกในชีวิต ตอนเช้าตื่นมาก็ไม่งอแงอะไร บอกว่าคุณครูจะพาไปดูปลาที่สนามโอเชี่ยนเวิลด์ เด็กจิ๋วก็ลั้นลาดี ได้ข่าวจากแม่ๆใน facebook ว่าจะมีหลายคนไปรับลูกที่พาราก้อนเลย ตอนแรกเราก็ลังเลอยู่ แต่พอเห็นว่ามีแม่หลายคนจะไปรับ เราก็ต้องไปด้วย มี 2 เหตุผล คือเหตุผลของคุณแม่ที่ว่ากลัวครูจะงงเพราะมีบางคนผู้ปกครองมารับ บางคนกลับโรงเรียน อาจจะหลงลืมทิ้งลูกของเราไว้ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งของปะป๊าก็คือกลัวเด็กจิ๋วเห็นเพื่อนๆมีพ่อแม่มารับ แล้วตัวเองไม่เห็นใคร คงจะต้องเสียใจแน่ๆเลย ...เจ๊น่ากับเฮียโรไปรับเด็กจิ๋วด้วย เราไปถึงที่สยามโอเชี่ยนเวิลด์ประมาณ 11.30 ระหว่างรอลูกรักออกมาก็ได้เจอกับแม่นิตา มาสังเกตุการณเฉยๆแต่ให้ลูกกลับไปโรงเรียน แล้วก็แม่ของน้องครับ กับแม่ของน้องเบ๊บ 2 คนนี้เพิ่งเคยเจอครั้งแรก แม่ของนิตาแนะนำให้รู้จัก แล้วก็แม่ๆของน้องห้อง 1/9 ...เรารอเด็กจิ๋วประมาณสิบกว่านาที เด็กจิ๋วก็เดินออกมา ครูคนหนึ่งจะจับเด็กประมาณ 4 คน เดินออกมาเป็นพวงๆ พอเด็กจิ๋วเห็นเราแล้วก็ทำหน้าเฉยๆ เราคิดว่าคงมึนๆไม่ได้คาดคิดว่าปะป๊ากับคุณแม่จะมารับ แต่พอตั้งสติได้ก็ดีใจ จะวิ่งเข้ามาหา แต่ครูยังไม่อนุญาต ต้องไปรวมตัวกันแล้วนับยอดให้ครบก่อน วันนี้เราเลยได้เจอเพื่อนๆเด็กจิ๋วหลายคน แต่ไม่ครบทุกคนเพราะบางคนไม่ได้มา เห็นน้องนิตามองหาคุณแม่เหมือนกัน แล้วก็ทำหน้าเสียน้ำตาคลอ น่าสงสารจริง คุณแม่ก็แอบดูอยู่

๓ ขวบ + ๑๑๒ วัน...เสาร์ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้ชวนพี่โนพี่โน่ไป Kidzoona กัน เป็นสวนสนุกเด็กเล็กขนาดย่อม มาจากญี่ปุ่น เห็นแม่เพื่อนเด็กจิ๋วบอกใน facebook ว่าจะพาลูกไปที่นี่ คุณแม่ก็เลยลองไปหาข้อมูลดู ปรากฎว่าน่าสนใจมาก มี 2 ที่ คือที่เอกมัยกับที่บางนา เราไปถึงห้าง Gateway เอกมัยตั้งแต่ห้างเปิด ห้างนี้เพิ่งเปิดปลายปีที่แล้วเอง เป็นห้างแบบญี่ปุ่น ร้านอาหารก็เป็นร้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่ พอไปถึง เด็กจิ๋วก็วิ่งลั้นลามาก ไปยืนโพสท่าให้ถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นต่างๆ ผ่านร้าน Maidreaming ที่พี่ๆที่ออฟฟิตชอบกันด้วย เดินถ่ายรูปกันสักพักพี่โนพี่โน่ก็ตามมา เราไปกินข้าวกลางวันกันตั้งแต่เช้าเลย เพราะคิดว่าจะเข้าไปเล่นข้างในสวนสนุกแล้วไม่ได้ออกมาอีกยาว เราเลือกร้านที่ดูแปลกๆหน่อย ดูญี่ปุ่นออริจินอลทั้งการตกแต่ง และเมนูอาหาร การสั่งก็ยากหน่อย ไม่เหมือนร้านเมืองไทย ชื่อร้าน Nagiya ปรากฎว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง อร่อยมากแบบว่าจะมากินอีกแน่ๆ ...ตอนอยู่ในร้านอาหาร เด็กจิ๋วอาละวาดยกหนึ่ง เพราะเอาจานอาหารไปเล่นแล้วคุณแม่ไม่ยอม แต่อาละวาดไม่นานมากเพราะปะป๊าเบี่ยงเบนได้สำเร็จ งัด ipad ออกมาให้เล่น เด็กจิ๋วกินไก่ทอด กุ้งทอด พอกินเสร็จก็เริ่มเล่นต่อ เทน้ำลงจากข้าวตัวเอง น้ำก็จะเละเพราะมีเศษอาหารลอยมันๆอยู่ เสร็จแล้วก็ค่อยๆยกจานเทน้ำเข้าปากตัวเอง พี่โนเห็นแล้วทำตาค้าง ตะลึง น้าหญิงบอกว่าพี่โนเป็นเด็กที่อยู่ในกรอบมากๆ เล่นพิเรนแบบนี้จะไม่เอาเด็ดขาด ผิดกับเด็กจิ๋วเลย ...ถึงเวลาเข้า Kidzoona แล้ว เด็กจิ๋วกับพี่โน่ เสีย 220 พี่โนแพงหน่อย 360 ส่วนผู้ใหญ่แค่ 90 บาท รวมๆกันแล้วราคาแพงเหมือนกัน แต่เข้าไปเล่นแล้วถึงรู้ว่าสมราคามาก จ่ายตังเสร็จเข้าไปถอดรองเท้าเก็บใส่ล็อกเกอร์ แล้วใส่ถุงเท้าทุกคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พอปล่อยเด็กจิ๋วเท่านั้นแหล่ะ เด็กจิ๋วไม่สนใจพี่โนพี่โน่เลย พุ่งตัวเข้าใส่ของเล่นทันที รู้เลยว่ากำลังตื่นตาตื่นใจกับของเล่นต่างๆมาก อุตส่าห์ชวนพี่โนพี่โน่มาด้วย กะว่าให้เล่นด้วยกันจะได้สนุก แต่นี่กลับวิ่งหายไปทิ้งพี่ๆไม่สนใจอีกเลย เริ่มต้นไปเล่นสไลเดอร์ก่อน เด็กจิ๋วพุ่งตัวปีนขึ้นบ้านลมอันมหึมา ปีนด้วยความเร็วสูง ปะป๊ารีบปีนตามขึ้นไป มันเป็นสไลเดอร์บ้านลมที่สูงมาก ขนาดปะป๊ายังกลัวเลย ว่าแล้วก็อุ้มเด็กจิ๋วลื่นลงมา 2 พ่อลูกพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง พอลงมาถึงพื้น มีความรู้สึกว่ามันจะระเบิดไม๊นะ แต่ก็รอดมาได้ หลังจากนั้นเด็กจิ๋วบังคับให้ปะป๊าพาเล่นอีกหลายรอบ เราก็บ่ายเบี่ยงเพราะมันน่ากลัวจริงๆ แต่ก็ยอมเด็กจิ๋วไปเกือบสิบที หลังๆเด็กจิ๋วกอดตัวเราแน่นมากตอนไหลลงมา คงกลัวเหมือนกันแต่ด้วยความสนุก แล้วก็มาเล่นสไลเดอร์อีกอันหนึ่งจะเล็กกว่า อันนี้เด็กจิ๋วปีนเองลื่นลงมาได้เอง ครั้งแรกก็ไม่กล้าเหมือนกันเพราะกลัวมาจากอันใหญ่แล้ว ต้องให้พี่โนจับมือกันลงมา พอเครื่องเริ่มติดก็เพลินเลยคราวนี้ วิ่งขึ้นลื่นลงอยู่เป็นสิบรอบเหมือนกัน สนุกมาก ...แล้วก็มาเล่นบทบาทจำลอง เริ่มด้วยร้านพิซซ่า ใส่ชุดคนทำพิซซ่า น่ารักมาก เล่นขายพิซซ่าอยู่พักหนึ่ง ก็เปลี่ยนมาขายไอติม ตอนนี้ไม่ยอมใส่ชุดแล้ว เล่นดับเพลิงก็ไม่ยอมใส่ชุด เราบังคับให้ใส่อยู่ตั้งนาน พอใส่ปั๊บ ยังไม่ทันยกกล้องมาถ่ายก็ถอดออกแล้ว แล้วก็มีออฟฟิตไปรษณีย์ ร้านซุปเปอร์ เล่นกันอยู่ไม่นานก็เลิก เปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่น แต่พอตอนหลัง เด็กจิ๋วมาบอกว่า อยากเล่นขายของอีก แต่ขอไม่ใส่ชุดได้ไม๊ เราก็เลย อ๋อ ที่จริงชอบเล่น แต่ไม่ชอบใส่ชุด พ่อแม่ก็บังคับลูกให้ใส่อยู่ได้ เพราะอยากจะถ่ายรูป ตอนหลังเลยไปเล่นไปรษณีย์ต่ออีกนานเลย เก็บ postcard จากตู้ไปรษณีย์แล้วมาแยกประเภทหย่อนลงกล่อง ...โซนที่เล่นนานสุดคือบ่อบอล เป็นบ่อบอลที่ใหญ่มากๆ ลูกบอลเยอะมากๆ แล้วคุณภาพบอลดีมาก ดีกว่าที่บ้านเราอีก นุ่ม แข็งแรง ไม่มีลอยต่อ สะอาดด้วย เห็นมีเครื่องทำความสะอาดอัตโนมัติอยู่ด้วย เด็กจิ๋วเล่นกับพี่โนพี่โน่ในบ่อบอลอยู่นาน ปะป๊ากับน้าหญิงก็ลงไปเล่นด้วย สนุกมาก มีความคิดว่าซื้อบ่อบอลมาไว้ที่บ้านบ้างดีกว่า มีเล่นว่ายน้ำในบ่อบอล เล่นซ่อนแอบ ผลัดกันฝั่งตัว เล่นฐานทัพ มีสไลเดอร์แบบวนๆ เด็กจิ๋วเล่นแล้วบอกว่า “สไลเดอร์อันนี้ ลื่นลงมาแล้วก้นกระดิกเลย” ...นอกจากนี้ก็มีบ้านเด้งดึ๋งขนาดมหึมา เด็กๆขึ้นไปวิ่งๆ กระโดดๆกันได้ แล้วก็ลูกบอลยักษ์แบบเข้าไปอยู่ข้างในแล้วกลิ้งไปมา สรุปแล้วที่บอกว่าคุ้มราคาเพราะของเล่นเค้าดีมาก สะอาด และดูปลอดภัย อย่างพวกของเล่นร้านขายของต่างๆ ใช้วัสดุที่เป็นกระดาษแข็ง เดาว่าคงเล่นสักพักแล้วเปลี่ยนบ่อยๆแน่ แล้วเด็กๆทุกคนก็ดูมีความสุขมาก เด็กจิ๋วก็ร่าเริงมาก เป็นสวรรค์ของเด็กจริงๆ ...เนื่องจากห้างนี้เป็นห้างญี่ปุ่น แล้วไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันพิเศษหรือทุกวันจะเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ คือมีคนแต่ง cossplay มาเดินเล่นเต็มห้าง บางคนก็เตรียมช่างภาพมาถ่ายภาพกันเป็นเรื่องเป็นราว เหมือนมีตั้งเป็นกลุ่มๆมาแลกเปลี่ยนความเท่กัน ตอนเราลงบันไดเลื่อนมาก็เจอไอ้มดแดงตัวหนึ่งยืนอยู่ข้างหลัง คุณแม่เลยขอไปถ่ายรูปคู่ด้วย เด็กจิ๋วงงๆถามว่า “เค้าใส่ชุดแบบนี้เหรอ มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ”...แล้วก็หัวเราะ

๓ ขวบ + ๑๑๓ วัน...อาทิตย์ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้อยู่บ้านทั้งวัน กิจกรรมเหมือนเดิมๆ ทำอาหารกินกัน แล้วก็มาเกลือกกลิ้งในห้องโฮม เราเริ่มสงสัยว่าคนอื่นที่ไม่มีห้องโฮมเค้าใช้ชีวิตกันยังไงนะ ตอนเช้าดูบาร์บี้ ตอนสายดูเรื่อง Friends เป็นการตูนญี่ปุ่น ดีมาก แล้วก็เปิดเรื่อง Life od pie ให้ดู พอในหนังเค้าพูดว่า My name is pie เด็กจิ๋วได้ยินก็บอกว่า “อุ้ย พูดเหมือนครูฝรั่งเลย”...เด็กจิ๋วตั้งใจดูเรื่องนี้มาก เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนกับเสือ แล้วปะป๊าเปิดเรื่อง Snow white ที่เป็นหนังให้ดู คิดว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่เด็กจิ๋วน่าจะดูได้ พอเริ่มฉากแรกมา เด็กจิ๋วก็ถามว่า “เรื่อง Snow white เหรอ”...ปะป๊าก็งง เพิ่มเริ่มเปิดไป 2 วินาทีเอง ยังไม่มีพูดอะไรเลย ทำไมถึงรู้ หนูเคยดูแล้วเหรอ จะดูได้ไงเพราะปะป๊าก็ยังไม่เคยดู เด็กจิ๋วบอกว่า “ปะป๊าเคยเปิดให้ดูแล้ว แต่ค้างไว้ เพราะมีฉากน่ากลัว”...ไปลากคุณแม่มาถามความจริงดิ๊ คุณแม่บอกว่า จริงๆ เคยเปิดแล้วหยุดไปเพราะมีฉากสงคราม คุณแม่ก็จำได้ ทำไมปะป๊าจำไม่ได้อยู่คนเดียว แต่เด็กจิ๋วจำได้นี่ก็เก่งเกินไปหน่อยแล้วมั้ง ...เราพยายามถามเด็กจิ๋วว่าที่ไปทัศนศึกษาเห็นปลาอะไรบ้าง เด็กจิ๋วบอกว่ามีปลาแซลม่อน ปลาสัปรด ปลาบลูเบอร์รี่ เราก็งงดิ่ อะไร มีแต่ปลาแปลกๆ เห็นแม่เพื่อนๆใน facebook บอกว่าลูกๆจะมาเล่าว่าเห็นฉลามส่วนใหญ่ ทำไมเด็กจิ๋วประหลาดอย่างนั้นแล้วมันจะมีจริงไม๊ล่ะ ว่าแล้วลอง search ดูหน่อย ปลาแซลม่อนกับปลาสัปรดมีจริงๆที่สยามโอเชี่ยนเวิลด์ แต่ปลาบลูเบอร์รี่ไม่มีนะ ยังสงสัยไม่หาย เพราะไม่เคยพูดถึงบลูเบอร์รี่ให้เค้าฟังด้วย คงไปได้คำนี้มาจากที่โรงเรียน แล้วมาแกล้งเรามั้ง คือมีปลาสัปรดแล้วก็เลยให้มีปลาบลูเบอร์รี่บ้าง เด็กจิ๋วชอบแกล้งแบบเนี่ยะแล้วแกล้งแล้วแกล้งเลยด้วย ไม่เฉลย ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือเปล่า ...รู้สึกว่าช่วงอาทิตย์นี้อาการงอแงอาละวาดเริ่มลดลง ยังเป็นอยู่บ้าง อย่างเมื่อวานก็ไปอาละวาดที่ร้านอาหารทีหนึ่ง อย่างวันนี้ก็อาละวาดตอนอาบน้ำด้วยกันทีหนึ่ง แต่พอเบี่ยงเบนไปหน่อยก็ลั้นลาทันที คงเป็นเพราะหายป่วยแล้ว และได้นอนเต็มอิ่ม อาทิตย์ที่ผ่านมาถึงแม้ไม่ได้นอนกลางวัน แต่ตอนเย็นก็ให้นอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม หลับง่ายมาก อย่างคืนนี้ก็กินนมเสร็จ เปิดดาว แค่ 2-3 นาทีก็หลับเลย ยังไม่ทันได้เล่านิทานให้ฟังด้วย ...คุณแม่คุยกับเด็กจิ๋วเรื่องที่ว่าเด็กจิ๋วชอบบอกว่าปะป๊าผอม คุณแม่ถามว่าจริงๆผอมหรืออ้วน เด็กจิ๋วตอบว่า “อ้วน แต่กลัวปะป๊าเสียใจ ปะป๊าชอบบอกว่าตัวเองผอม”...โห ลูบรัก

๓ ขวบ + ๑๑๔ วัน...จันทร์ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๖
...เมื่อคืนเด็กจิ๋วถามว่าพรุ่งนี้เป็นวันอะไร เราก็บอกความจริงไปว่าเป็นวันธรรมดา ต้องไปโรงเรียน เด็กจิ๋วก็ไม่งอแงอะไร เช้าวันนี้ ตื่นขึ้นมา 6 โมงนิดๆเหมือนเคย ตื่นปั๊บก็ปีนมาหาปะป๊า อ้าปากถามว่า “ปะป๊า วันนี้วันอะ...”...ยังถามไม่จบประโยคก็หยุดไป คงเพราะจำได้แล้วว่าวันนี้เป็นวันธรรมดา แล้วก็ไม่ร้องจะดูหนังเลย บอกแค่ว่าอยากไปกินหนมในห้องครัว แล้วก็ยอมแต่งตัวโดยดี ยอมไปโรงเรียนโดยดี ไม่มีอิดออดใดๆทั้งสิ้น แต่ตอนจากกันทำหน้านิ่งๆ ไม่เศร้าไม่ยิ้ม ดูซึมๆ พอเรามาดูจากกล้องวงจรปิด ก็เห็นว่านิ่งๆอยู่ ไม่รู้ว่าง่วงนอนหรือคิดถึงปะป๊ากับคุณแม่ วันนี้กินข้าวเสร็จแล้วไม่ยอมกินน้ำอีกเหมือนเคย ไม่เห็นคุณครูบอกด้วย สงสัยเย็นนี้ต้องไปเน้นย้ำอีกที พอเวลา 8 โมงกว่าๆ ได้เวลาเริ่มเรียน วันนี้เล่นลิงชิงบอล เด็กจิ๋วเล่นอยู่แป๊บเดียวก็ออกจากวงมานั่งเก้าอี้นิ่งๆ เป็นอะไรก็ไม่รู้อ่ะ ...วันนี้ได้คุยกับแม่น้องนิตานานหน่อย มานั่งดูกล้องวงจรปิดด้วยกัน ปะป๊าพยายามชักชวนให้นิตาเรียนแสงโสมต่อ เพราะนิตาจะอยู่แค่ปีเดียวแล้วย้ายไปราชินีแล้ว แล้วก็คุยกับพ่อของณวัฒน์ ซึ่งทุกวันนี้ยังคงร้องไห้อยู่เลย เวลาเพื่อนๆเล่นกิจกรรมกันก็นั่งนิ่งอยู่ ยังไม่ยอมเข้ากลุ่ม ดูคุณพ่อเป็นห่วงน่าดู ...วันนี้ไปรับเด็กจิ๋วเร็วหน่อย ไปแอบดูกล้องวงจรปิดตอนเด็กจิ๋วตื่น ได้เจอแม่ของน้องเบ๊บ คุยกันอยู่นานเหมือนกัน น้องบีแม่ของน้องเบ๊บดูเป็นเด็กดีมาก ส่วนน้องเบ๊บดูน่าตาก็รู้ว่าเป็นเด็กดีเรียบร้อย คุณแม่บอกว่าเวลาไปห้างไม่วิ่งเลย ...ตอนไปรับเด็กจิ๋วที่ห้อง เด็กจิ๋ววิ่งออกมาพร้อมกับสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ปีศาจข้าวโพดอ่อน ในมือของนิตากับเบ๊บก็มีเหมือนกัน คือซัมเมอร์นี้เค้ามีธีมเรื่องผัก ก็จะมีกิจกรรมหรืองานศิลปะที่เกี่ยวกับผัก อย่างวันก่อนก็มีทำอาหารผักทอดแต่เด็กจิ๋วไม่ได้ไปเลยอด นอกจากสิ่งประดิษฐ์ใหม่แล้ว เด็กจิ๋วยังกลับมาพร้อมกับเพลงใหม่ “คุณหมอจึงสั่งห้าม ไม่ให้ลิงกระโดดบนเตียง”...เพลงอะไรก็ไม่รู้ ...เด็กจิ๋วอยากกินช็อกโกแล็ตปั่น ปะป๊าสัญญาว่าจะทำให้กินตอนเย็น แต่ต้องไปฝากพี่โอซื้อนมมาจากโลตัสก่อน เด็กจิ๋วก็ไปสั่งพี่โอเรียบร้อย สั่งเองเลย พอพี่โอกลับจากโลตัส ดันลืมซื้อนมของเด็กจิ๋วซะงั้น เด็กจิ๋วเดินไปทวง พี่โอก็บอกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อให้นะ นะนะ เด็กจิ๋วก็โอเค เดินหันหลังออกมา แต่เดินได้ 3 ก้าว ก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ รีบวิ่งกลับไปหาพี่โอแล้วพูดว่า “พี่โอ จะบอกอะไรให้นะ ตอนนี้มันเช้าแล้วนะ”...ฮาเลยพี่โอ ...เด็กจิ๋วกินข้าวที่โรงเรียนไม่อิ่มแน่ๆ ดูจากกล้องวงจรปิดก็เห็นว่าในจานมีอาหารอยู่นิดเดียว แล้วกินปั๊บเดียวก็หมด วันนี้กลับมาบ้านด้วยอาการหิวโหย กินบะหมี่น้ำลูกชิ้นชามใหญ่คนเดียวหมดเลย ตอนดึกยังมากินไก่ย่างข้าวเหนียวกับปะป๊าต่ออีก ก่อนจะกินนมมื้อดึกแล้วหลับไป ตอนกลางคืนมีโวยวายว่า “อึดอัด อึดอัด”...สงสัยว่าจะอิ่มแล้วอึดอัดตัวแน่ๆ

๓ ขวบ + ๑๑๕ วัน...อังคาร ๒๓ เมษายน ๒๕๕๖
...คิดว่าหายงอแงแล้วซะอีก เช้านี้ตื่นมาแล้วพอรู้ว่าต้องไปโรงเรียนก็ร้องโวยวายอาละวาดเล็กๆ ให้ปะป๊าอุ้มกอดในรถแล้วให้คุณแม่ไปขับแทน ตอนไปถึงโรงเรียน ปะป๊าจับถอดเสื้อจะแต่งตัวให้ ก็ร้องโวยวายอาละวาดอย่างหนัก ลงไปนอนกับพื้นรถ “น้องพริมจะถอดเสื้อเอง จะถอดเสื้อเอง”...โวยวายแบบไม่มีเหตุผลเลย ...ตอนบ่ายปะป๊ากับคุณแม่แอบไปกินเนื้อย่างกันก่อนไปโรงเรียน ทำให้ไปรับเด็กจิ๋วช้าหน่อย ที่จริงสัญญากับเด็กจิ๋วทุกเช้าว่าจะไปเกาะรั้วโรงเรียนก่อนเวลาเลิก พออ่อดดังปะป๊าจะวิ่งทลายรั้วเข้าไปรับเด็กจิ๋วคนแรก วันนี้ผิดสัญญานะ ...วันนี้เด็กจิ๋วรมถึงเพื่อนๆทุกคนจะใส่หัวมดกลับบ้านกันทุกคน เป็นงานประดิษฐ์วิชาภาษอังกฤษ เรื่อง A Ant มด ใช้กระดาษแข็งทำเป็นวงกลมส่วมหัว ด้านหน้าตัดเป็นรูปตัวหมด ให้เด็กๆระบายสีเอง ...อยู่ดีๆเด็กจิ๋วก็มาบอกว่า “น้องพริมจะบอกอะไรให้นะ น้องพริมรู้จักครูเชอรี่ด้วยล่ะ”...ครูเชอรี่มีจริงๆด้วย เป็นครูห้อง 9 แม่ๆใน fb จะรู้จักกันดีเพราะครูเชอรี่เล่น fb แล้วถ่ายรูปกิจกรรมต่างๆมาลงใน fb ด้วย พยายามถามตั้งหลายรอบว่าเด็กจิ๋วไปรู้จักครูเชอรี่ได้ไง ก็ไม่ได้คำตอบ รู้แต่ว่าครูเชอรี่มาเล่นด้วย ว่าแล้วก็ทดสอบหน่อยว่ามั่วหรือเปล่า คุณแม่ลองเปิดรูปใน facebook ให้ดู ปรากฎว่าเด็กจิ๋วชี้ได้ถูกต้อง ครูเชอรี่จริงๆ นอกจากจะไม่มั่วแล้ว ยังมีความสามารถพิเศษที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาจากคุณแม่ด้วย คือสมองส่วนจดจำและแยกแยะใบหน้าคนดีเลิศ รูปครูเชอรี่แต่ละรูปก็ไม่ค่อยจะเหมือนกัน เพราะมีแบบแต่งหน้า แต่งตัวหลากหลาย ปะป๊าเองยังจำไม่ได้เลย แต่เด็กจิ๋วชี้ได้ยังถูกต้องแม่นยำ นอกจากนั้นยังไม่พอ ในรูปที่ให้ดูกันมีรูปเพื่อนๆเด็กจิ๋วห้อง 9 อยู่ด้วย เด็กจิ๋วเห็นปั๊บก็ชี้ทันที “คนนี้มาริ คนนี้มานะ คนนี้พัทเตอร์”...ปะป๊ากับคุณแม่สงสัยมากๆ ไปรู้จักน้องอานะลูกครูอู๊ด น้องมาริ น้องพัทเตอร์ได้ยังไง อยู่คนละห้อง พยายามถามเด็กจิ๋วก็ทำเล่นตัวไม่ยอมบอก งงมากๆ อยากรู้มากๆ ตอนนี้เดาว่าไปเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน

๓ ขวบ + ๑๑๖ วัน...พุธ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๖
...เมื่อวานเช้ามีอาการบ้าคลั่งเดาว่านอนไม่พอ ตอนเย็นเลยรีบอาบน้ำแล้วให้หลับไปตั้งแต่ทุ่มครึ่ง เช้านี้ตื่นมาสดใสอย่างเห็นได้ชัด “ปะป๊า น้องพริมอยากไปห้องครัว ไปกินหนมกินอะไรก่อนไปโรงเรียน”...คือรู้ตัวว่าวันนี้ต้องไปโรงเรียนก็ไม่งอแงเลย ปะป๊าเลยพาไปกินหนมกินนม แล้วปั่นช็อกโกแล็ต แถมการ์ตูน robocar poli ให้ 2 ตอนด้วย สำหรับเด็กดี นอกจากไม่งอแงแล้วยังยอมให้คุณแม่ทำผม และใส่ชุดนักเรียนตั้งแต่ในห้องครัวก่อนลงไปข้างล่างซะอีก ...ตอนที่เด็กจิ๋วไปถึงหน้าห้อง เจอครูขวัญยืนอยู่ เด็กจิ๋วรีบไปบอกครูขวัญว่า “ครูขวัญ วันนี้ไม่ต้องทำผมให้น้องพริมนะ เพราะคุณแม่ทำมาให้แล้ว”...พูดแบบฉะฉานมากๆ ครูขวัญเลยเล่าต่อว่า เมื่อวานนี้ ครูขวัญจะทำผมให้เด็กๆ เด็กจิ๋วก็กระโดดมายืนต่อแถว ครูขวัญถามว่าทำอะไร เด็กจิ๋วก็บอกว่า “ต่อคิว”...ครูขวัญบอกว่ารู้จักต่อคิวได้ไงเก่งจัง คุณแม่บอกว่าเด็กจิ๋วเคยต่อคิวเป็นชั่วโมงๆมาแล้วไง ตอนไปดิสนีย์แลนด์กับยูนิเวอร์แซล ...ตอนส่งเด็กจิ๋วเสร็จแล้วก็ไปแอบดูกล้อง เห็นเด็กจิ๋วกินข้าวเร็วมาก กินคนสุดท้ายในโต๊ะ แต่เสร็จก่อนเพื่อน คุณครูปรบมือให้เลย แล้วก็เดินไปหยิบแก้วน้ำมากดน้ำกินเองเรียบร้อย ...วันนี้ได้เจอคุณพ่อกับคุณแม่ของน้องปาล์มแล้ว อายุน้อยกว่าจิ๋วเกือบเดือนแต่ตัวสูงกว่ามากๆ ตัวสูงที่สุดในห้อง แล้วก็เดินสวนกับคุณพ่อกับคุณแม่ของน้องฟ้าใสเป็นครั้งแรกด้วย แต่ยังไม่ทันได้ทักทายกัน ตอนที่อุ้มเด็กจิ๋วเข้าไปโรงเรียน เจอพ่อของน้องณวัฒน์ยืนอยู่ เราแกล้งถามเด็กจิ๋วว่าคนนี้พ่อของใครเอ่ย เด็กจิ๋วตอบว่า “ณวัฒน์”...เฮ้ย อะไรจะเทพขนาดนั้น รู้ได้ไง สงสัยเห็นตอนมารับ แต่ลองชี้คุณแม่ของอั่งอั๊งให้ทาย ดันทายผิด ทายว่าเป็นแม่ของเมจิ ...วันนี้เราลองไปแอบดูกล้องวงจรปิดตอน 10 โมงบ้าง ตั้งใจขับรถไปเลย ตอนใกล้ๆ 10 โมง เด็กจิ๋วกับเพื่อนๆอีกประมาณ 10 คน จะไปเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่มีกล้องให้ดู พอได้เวลา 10 โมง ก็เดินกลับมาห้องเรียนกัน กินหนมกับนมเทใส่แก้ว เห็นเด็กจิ๋วกินนมได้หมดเรียบร้อย เสร็จแล้วคุณครูก็จัดเก้าอี้เป็นวงกลม แล้วมีพิธีเชิญเทียน คือจุดเทียนใส่พานแล้วส่งให้เด็กทุกคนส่งต่อกัน คงจะเพื่อความสงบและความตื่นเต้น เพราะมีไฟจริงๆ เสร็จแล้วก็เห็นเหมือนมีการสวดมนต์ ไหว้ นั่งสมาธิต่ออีก 5 วินาที เป็นภาพที่มหัศจรรย์มาก เด็ก 22 คน อยู่ในความสงบอย่างนี้ได้ไง ไม่มีใครวิ่งออกนอกวงเลย เสร็จแล้วก็สอนปั้นดินน้ำมัน ครูแหววจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน แล้วก็ให้เด็กๆแยกย้ายกันไปทำตาม ถึงตอนนี้เราก็กลับออกมาก่อน ...คุณแม่ว่าปะป๊ากวนประสาท ปะป๊าลองถามเด็กจิ๋วว่า “เด็กจิ๋ว ปะป๊ากวนประสาทจริงเหรอ” เด็กจิ๋วตอบว่า “ใช่ ปะป๊ากลัวปีศาจ ... ปีศาจมันน่ากลัว ....” แล้วก็พูดต่ออีกยาว กลายเป็นเรื่องปีศาจไปซะงั้น เออ เด็กจิ๋วจะรู้จักคำว่ากวนประสาทได้ไง ...วันนี้ได้คุยกับครูนิวนานหน่อย พยายามถามโน้นนี่เกี่ยวกับเด็กจิ๋ว ถามว่าในห้องเรียนสนิทกับใครมากที่สุด ครูนิวบอกว่าไม่มี ก็เล่นกับเพื่อนๆเฉลี่ยกันไป แต่ก็จะสนิทกับเพื่อนที่ไปเรียนภาษาอังกฤษด้วยกันมากหน่อย วันนี้ปะป๊าเห็นเพื่อนผู้หญิงที่ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษด้วยก็มีน้องอิ๊ก น้องฟ้าใส่ น้องนีโอ นอกนั้นเห็นเรียนกันหมด แต่เด็กจิ๋วก็พูดถึงนีโอบ่อยๆนะ แต่น้องอิ๊กอ่ะไม่ค่อยพูดถึงจริงๆ ครูนิวบอกว่าวันนี้ตอนให้นอนไม่ยอมหลับเพราะนอนคุยกับอั่งอั๊งอยู่ ครูเลยต้องให้หันหลังชนกันจะได้เลิกคุย หลังจากนั้นเด็กจิ๋วก็นอนหลับไปจริงๆ หลับได้ชั่วโมงกว่าเลย ปะป๊าพยายามถามเด็กจิ๋วว่าคุยอะไรกัน เด็กจิ๋วเล่าว่า “อั่งอั๊งพูดว่า ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง”...คงจะคุยไร้สาระกันนั่นเอง ...เด็กจิ๋วกลับมาบ้านพร้อมกับงานประดิษฐ์ดินปั้น มี 2 ถุง ถุงแรกบอกว่าเป็นงานตามครูสั่ง เป็นรูปมะเขือเทศกับถั่วฝักยาว เราก็ถามว่าหนูปั้นส่วนไหนบ้าง เด็กจิ๋วบอกว่า “ตรงกลมๆนี้ครูปั้นเพราะหนูทำไม่เป็น ส่วนตรงเขียวๆนี้ครูก็ปั้นให้”...อ้าว แล้วหนูทำอะไรล่ะ ครูทำให้หมดเลยเหรอ เด็กจิ๋วตอบว่า “หนูก็เป็นคนเอาใส่ถึงไง”...งานศิลปะจริงๆ ส่วนอีกถุงหนึ่งเป็นการปั้นตามใจชอบ มันออกมาเละๆแหล่ะ ถามว่าปั้นอะไร เด็กจิ๋วบอกว่า “งูใจร้าย”...โจทย์คือปั้นผักไม่ใช่เหรอ ทำไมเป็นงูได้ล่ะ แล้วงูใจร้ายด้วยนะ ใจร้ายมากจนหน้าตาออกมาเละมาก ...วันนี้เด็กจิ๋วได้ดาวมา 2 ดวง ที่หลังนิ้วชี้นิ้วละดวง เด็กจิ๋วบอกว่าได้คนเดียวเลยนะ เพื่อนๆไม่ได้ อันนี้ไม่รู้จริงไม๊ ส่วนที่ได้มานั้นก็เพราะว่าวันนี้ทำความดี ช่วยคุณครูแหววหยิบกระดาษ ได้ใจความแค่นี้ ช่วยจริงๆไม๊ ช่วยอะไรก็ไม่กล้าเชื่อคำพูดเด็กจิ๋วเลย ...เด็กจิ๋ววิ่งไปไปบอกพี่โอว่า “พี่โอ จิ๋วเน็ทมันหาย”...เพราะว่าเมื่อคืนคุณแม่บ่นๆว่าจิ๋วเน็ทข้างบนมันใช้ไม่ได้ เด็กจิ๋วคงจำมาพูด ระหว่างพี่โอกำลังงงๆอยู่ เด็กจิ๋วก็วิ่งมาถามคุณแม่ว่า “จิ๋วเน็ทยังหายอยู่ไม๊คุณแม่”...คุณแม่บอกว่าใช้ได้แล้ว เด็กจิ๋วก็ตะโกนบอกพี่โอว่า “โอเค ไม่ต้องซ่อมแล้วพี่โอ” ...ยังไม่พอ เด็กจิ๋ววิ่งไปบอกพี่โอที่ใส่เสื้อ Praxis มาว่า “พี่โอ ใส่เสื้อแพรกซิส น่าร้ากกอ่ะ”...แล้วก็หันไปเห็นพี่เอ็มกับพี่พีทก็ใส่เหมือนกัน เลยพูดว่า “พี่เอ็มก็น่ารัก พี่พีทก็น่ารัก”...ปะป๊าถามเด็กจิ๋วว่า หนูรู้จักเสื้อแพรกซิสด้วยเหรอ เด็กจิ๋วตอบว่า “รู้จัก เมื่อตอนเด็กๆหนูก็มีตัวหนึ่ง แต่ตอนนี้หายสาบสูญไปแล้ว”...ไม่หายหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้นัดกันใส่พร้อมกันพ่อแม่ลูกนะ เด็กจิ๋วคึกจัดมาก เป็นเพราะนอนกลางวันมา พลังงานเต็มเปี่ยม คุยเล่นแหย่กับพี่ๆไม่หยุดเลย ...เวลาคุณแม่คุยกับเจ๊น่าแล้วเรียกเจ๊น่าว่าลูก เด็กจิ๋วได้ยินแล้วจะไม่ยอมเด็ดขาด โวยวายบอกว่า “นี่ไม่ใช่ลูก ลูกอยู่นี่ คนนี้เป็นพี่ของลูก” ...คุณแม่ป้อนข้าวตังเทพนิมิตให้เด็กจิ๋วกิน เด็กจิ๋วสั่งว่าเวลาป้อนให้เอาด้านที่มีเครื่องปรุงอยู่ด้านล่าง คุณแม่ก็เชื่อฟังยอมทำตามเด็กจิ๋ว แต่เผลอๆก็อยากจะทดสอบอะไรหน่อย เลยแกล้งกลับด้านเอาที่มีเครื่องปรุงขึ้น เด็กจิ๋วรู้ทันทีโวยวายคุณแม่ใหญ่ พฤติกรรมอย่างนี้ก็เป็นอีกอย่างที่เหลือเชื่อว่าจะถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ มันคือพฤติกรรมของปะป๊าเลย เวลากินอะไรก็ตามที่เป็นแผ่นๆอย่างพวกมันฝรั่ง ต้องหันด้านที่มีผงชูรสลง เพราะมันจะสัมผัสกับลิ้นโดยตรง ได้รสชาติของผงชูรสเต็มๆ เวลาขับรถไปเที่ยวกันบ่อยๆก็ให้คุณแม่คอยป้อน เวลาคุณแม่ป้อนไม่ได้ดั่งใจก็จะต้องถูกโวย ตอนนี้มาถูกลูกโวยต่ออีก

๓ ขวบ + ๑๑๗ วัน...พฤหัส ๒๕ เมษายน ๒๕๕๖
...เมื่อวานเด็กจิ๋วได้นอนกลางวันที่โรงเรียนมา แต่พอตอนหัวค่ำก็ยังมีอาการง่วงนอนอยู่ดี พาอาบน้ำแล้วหลับไป 2 ทุ่มครึ่ง ตอนแรกคิดว่าวันนี้ต้องตื่นแต่เช้ามาลั้นลาขอไปห้องครัว กินหนม ดู poli เหมือนเมื่อวานแน่ๆ แต่เปล่าเลย เช้านี้ไม่ยอมตื่น พอไปปลุกก็ทำอิดอ่อด แต่ก็ไม่งอแง ตอนนั่งรถก็จะนั่งกับปะป๊าให้คุณแม่ไปขับ แล้วไม่ยอมแต่งชุดที่บ้าน ขอไปแต่งในรถที่โรงเรียน แต่ตอนระหว่างนั่งในรถเดินทางไปโรงเรียนก็ลั้นลาดี เล่นผลัดกันพูดสีภาษาอังกฤษ เพิ่งรู้ว่าเด็กจิ๋วรู้จักสี black กับ white แล้ว ...วันนี้ได้เจอแม่น้องวิน ปะป๊าชมกับแม่น้องวินว่า น้องพริมบอกว่าน้องวินเรียบร้อยที่สุดในห้อง คุณแม่น้องวินบอกประมาณว่า จริงเหรอ ไม่เห็นเหมือนตอนอยู่บ้าน ...ตอนกลางวันปะป๊ากับคุณแม่แอบไปร้านขายของเล่นไม้ ชื่อร้านแม่น้องเคน ร้านนี้เคยไปมา 2 ครั้ง แต่ละครั้งเสียไปประมาณหมื่นบาท เป็นพวกของเล่นไม้เสริมพัฒนาการต่างๆ วันนี้หมดไปแค่ 3 พันกว่า ได้พวกตัวต่อรูปแบบต่างๆมา 5 กล่อง ปะป๊ากับคุณแม่มัวแต่เลือกของเล่นให้เด็กจิ๋วเลยทำให้ไปรับเด็กจิ๋วที่โรงเรียนช้า ปกติเด็กจิ๋วสั่งให้ไปรอที่รั้ว พอ 2 โมงให้ทลายรั้วเข้าไปรับทันที วันนี้กว่าจะไปถึงก็ประมาณ 3 โมง แต่ตอนที่เราไปรับก็ยังเห็นเพื่อนๆในห้องอยู่ 7-8 คน นิตา เมจิก็ยังไม่กลับ ...ตอนไปรับเด็กจิ๋วเมื่อวานนี้เด็กจิ๋วบอกว่าขอเดินเอง แล้วก็เดินมาด้วยกันกับน้องอิ๊ก ส่วนวันนี้ตอนออกจากห้องเราจะอุ้ม เด็กจิ๋วก็บอกว่าอยากเดินเอง อะ เป็นเด็กดีขึ้นมาเฉย แต่เดินมาแค่พ้นตึกก็บอกว่าเมื่อยแล้ว ให้คุณแม่อุ้มเหมือนเดิม เท่าที่ดูๆมาเพื่อนๆของเด็กจิ๋วเดินเองได้หมดเลยนะ แต่เรื่องนี้ไม่เป็นไร เพราะตัวปะป๊าเอง ตอนเป็นเด็กก็ให้อาม่าอุ้มจนโตเลย ยังจำได้อยู่เลยว่าเวลาเดินตลาดชอบโดนแม่ค้าแซว ว่าโตแล้วทำไมต้องให้แม่อุ้มอีก ...เด็กจิ๋วขึ้นไปเล่นของเล่นใหม่กับเจ๊น่าเฮียโรที่ดาดฟ้า แป๊บเดียวอี๊ป้อมก็อุ้มเด็กจิ๋วลงมาคนเดียว บอกว่าเด็กจิ๋วก่อเรื่อง พ่นน้ำลายใส่เฮียโร แล้วก็ไปแกล้งรื้อของเล่นที่เค้าต่ออยู่ ปะป๊าเลยลงโทษเด็กจิ๋วด้วยการบอกว่า ปะป๊าจะทำหน้าบึ้งตลอดทั้งวัน แค่นี้เอง ไม่ได้จะตีหรืออะไรเลยนะ เด็กจิ๋วก็ร้องไห้มาง้องอน ขอโทษ ไม่นานก็คืนดีกัน ...วันนี้เปิดสมุดสื่อสารเด็กจิ๋วออกมาดู มีใบเกรดอันแรกในชีวิตของเด็กจิ๋วติดมาให้ดูด้วย เป็นของวิชาภาษาอังกฤษ ได้ 3 เต็ม 4 teacher แบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้แก่ความรู้ การพัฒนา การพูดกับครู ได้ 3 หมดทุกหัวข้อเลย อยากรู้มากว่าเพื่อนๆได้เกรดอะไรกัน แต่ไม่กล้าถามเพราะเค้าห้ามเปรียบเทียบกัน แต่หลายคนน่าจะเก่งกว่าเด็กจิ๋ว อย่างเมมิก็เห็นบอกว่าเก่งเพราะเคยเรียนมาแล้วก่อนมาอยู่ที่นี่ เป็น Inter ด้วย หรืออย่างนิตาก็โดนคุณแม่สอนเข้มมาจากบ้านอยู่แล้ว

๓ ขวบ + ๑๑๘ วัน...ศุกร์ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันสุดท้ายของซัมเมอร์แล้ว พรุ่งนี้จะพาไปฉลองที่วิลล่ามาร็อก เย้! เด็กจิ๋วยังคงเป็นเด็กดี ตอนเช้าพาไปกินหนมห้องครัว ให้ดู robocar poli ด้วย ...วันนี้พาเฮียโรไปส่งเด็กจิ๋วด้วย เพราะว่าครูนิวบอกว่าเป็นแฟนเฮียโร คิดถึงเฮียโร ครูนิวบอกว่าเทอมที่แล้วเป็นครูรถตู้มาส่งเฮียโรที่บ้านทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละวัน เราก็ถามครูนิวว่าเคยเห็นเด็กจิ๋วไม๊ เพราะช่วงนั้น เด็กจิ๋วมายืนคอยพี่ๆที่หน้าบ้านอยู่บ่อยๆ พอคุณครูมาส่งพี่ๆที่บ้าน เด็กจิ๋วยังยกมือไหว้ครูเลย แต่ครูจะเวียนๆกันมาวันละคนมั้ง ครูนิวเลยจำไม่ได้ บอกว่าไม่แน่ใจ ...เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์ เด็กทุกคนใส่ชุดธรรมดามาได้ ไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน แต่ก็เห็นหลายคนยังใส่อยู่ คงจำไม่ได้มั้ง รวมถึงอานะลูกครูอู๊ดด้วย ยังใส่ชุดนักเรียนมาเลย ลองสอบถามดูก็ได้คำตอบว่า เหรอ ไม่รู้เหมือนกัน คิดว่าต้องใส่ชุดนักเรียนทุกวัน...เอ เริ่มไม่แน่ใจ ใครผิดใครถูกเนี่ยะ แล้วก็อั่งอั๊งเมื่อวานต้องใส่ชุดนักเรียน แต่เธอไม่ยอม เลือกชุดบัลเล่มาใส่ ส่วนวันนี้อลังการงานสร้างมาก ใส่ชุดราพันเซลสีม่วงมาเลย ...เด็กจิ๋วไม่ของขวัญทุกวันเลย เมื่อวานก็ได้ของเล่น 5 กล่อง วันอื่นๆที่ผ่านมาก็ได้ robocar poli วันละตัว ตอนนี้มี 15 ตัวแล้ว ตอนนี้จะเสียเด็กแล้วมั้ง ตอนเช้ามาทวงปะป๊าว่า “เดี๋ยวตอนปะป๊าไปรับ ต้องมีของขวัญให้ด้วยนะ”...เราเคยได้ยินมาเยอะว่าอย่าซื้อของให้ลูกเยอะ เพราะจะไม่เห็นคุณค่าของ ได้มาง่ายเกิน แต่เราจะปฏิวัติความคิดนี้ ได้ของเยอะก็รู้จักคุณค่าของได้ โดยการรักษาของ เก็บไว้อย่างดี ...วันนี้ไปรับเด็กจิ๋ววันสุดท้ายของเทอมซัมเมอร์ ถามเด็กจิ๋วว่าวันสุดท้ายเค้ามีปาร์ตี้อะไรไม๊ เด็กจิ๋วบอกว่าไม่เห็นมีเลย เมื่อวานได้ยินแว่วๆว่าจะมีปาร์ตี้นี่ และแล้วเด็กจิ๋วก็ได้ของขวัญวันปิดเทอม เป็นแผลที่แขน ครูนิวเล่าว่าน้องปาร์คเป็นคนทำ แต่ครูไม่เห็นเหตุการณ์ รู้แต่ว่าเด็กจิ๋วมีแผลที่แขนแล้วน้องปาร์คเป็นคนทำ แต่ไม่มีเรื่องทะเลาะกันแล้วเด็กจิ๋วก็ไม่ได้ตอบโต้ เราเลยมาถามความจากเด็กจิ๋วต่อว่าเรื่องราวเป็นยังไงกันแน่ เด็กจิ๋วเล่าว่า “น้องปาร์คมาหยิกแขน แล้วก็ตบหน้าน้องพริมด้วย...แต่น้องพริมไม่ทำอะไรเค้า น้องพริมไปบอกคุณครู”...เราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เด็กจิ๋วโดนทำร้ายขนาดนี้จะไม่ตอบโต้เหรอ เป็นไปได้เหรอ แล้วตบหน้าเลยเหรอ มันจะแรงไปหน่อยมั้งเด็กจิ๋ว เราถามเด็กจิ๋วว่าน้องปาร์คเค้าหมั่นเขี้ยวหรือหมั่นไส้ล่ะ ทำเล่นๆหรือทำแรงๆ เด็กจิ๋วตอบว่า “เค้าหมั่นไส้ หมั่นไส้แปลว่าไม่ชอบ หมั่นเขี้ยวแปลว่าชอบ เค้าไม่ชอบน้องพริม” ...ของเล่นไม้ล็อตนี้ดูดีทุกชิ้นเลย คิดว่าเล่นแล้วน่าจะมีประโยชน์ เด็กจิ๋วก็ชอบด้วย วันนี้กลับมาจากโรงเรียนก็ร้องขอเล่นอยู่หลายรอบ ชอบไขน็อตกับต่อ circle เป็นรูปร่างต่างๆ

๓ ขวบ + ๑๑๙-๑๒๐ วัน...เสาร์ ๒๗ – อาทิตย์ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๖ 
 ...ไปเที่ยววิลล่ามาร็อก, ปราณบุรี  N’Prim@Villa Maroc, Pranburi

๓ ขวบ + ๑๒๑ วัน...จันทร์ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๖
...เมื่อคืนอาการย่ำแย่มากๆ ตอนไปเที่ยวยังดีอยู่เลย มีแค่น้ำมูก แต่เมื่อคืนไอมาก นอนไอทั้งคืน มีตื่นขึ้นมาตี 3 ด้วย คาดว่าคงนอนไม่สบายตัว คิดว่าอาจจะเป็นเพราะกินไอติมเผือกของอากงมาแน่ๆเลย เป็นไอติมของเย็นห้ามกินอยู่แล้ว แล้วเผือกยังทำให้คันคอด้วย วันนี้เลยต้องพาไปหาหมอแต่เช้า ครั้งนี้เด็กจิ๋วอยากไปมาก ไม่มีอิดอ่อดใดๆทั้งสิ้น อยากไปเอาวิตามินมิ้นซีกับสติ๊กเกอร์ ...ไปถึงโรงพยาบาล 8 โมง ได้คิวแรกเลย พอเข้าไปถึง เด็กจิ๋วก็ยกมือไหว้เอง ยอมให้คุณหมอตรวจทุกอย่าง สักพักก็คว้า ambo ออกมาโชว์คุณหมอ บอกว่าเหมือนรถที่โรงพยาบาลนี้เลย คุณหมอก็งงๆเพราะไม่รู้จัก ตัวอะไรก็ไม่รู้ ได้แต่พูดว่า อ๋อ ค่ะๆ แล้วก็ตรวจเด็กจิ๋วไปเรื่อยๆ เด็กจิ๋วก็ยอมให้ตรวจทุกอย่าง แล้วก็เอา poli กับ Roi ออกมาโชว์ต่อ คุณหมอบอกว่า อ๋อ โธมัสเหรอ...คนละเรื่องแล้วหมอ ...ช่วงนี้ชอบเล่นซ่อนแอบกัน แต่เด็กจิ๋วเล่นแบบพิศดารมาก หมุดไปอยู่ใต้โต๊ะทำงานปะป๊า แล้วบอกปะป๊าว่า “ปะป๊าออกไปปิดตา น้องพริมจะแอบ”...ปะป๊าก็ออกไป แล้วก็นับ 1 ถึง 10 แล้วแกล้งหาๆตามลิ้นชัก ถังขยะ ทำให้มันดูยากๆหน่อย สุดท้ายก็มาจ๊ะเอ๋เจอที่ใต้โต๊ะ ระหว่างที่เด็กจิ๋วแอบอยู่ก็ทำตื่นเต้นลุกลี้ลุกรนเหมือนเคย ยิ่งเวลาเราเดินเข้าไปใกล้ๆยิ่งตื่นเต้นใหญ่ ถีบโต๊ะ ถีบถังขยะกระเด็น แอบยังไงเนี่ยะ พอเจอกันแล้ว เด็กจิ๋วก็บอกว่า “ตาน้องพริมบ้าง ปะป๊าแอบตรงนี้ เดี๋ยวน้องพริมจะออกไปปิดตา”...ว่าแล้วก็วิ่งออกไปปิดตานับ 1 ถึง 10 แล้วก็ค่อยๆย่องเข้ามาใต้โต๊ะด้วยอาการกระยิ่มยิ้มย่อง แบบว่าเก่งไม๊ หาเจอแล้วนะ จ๊ะเอ๋! ...วันนี้มีของเล่นชิ้นใหญ่มาส่ง คือสระเป่าลมวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร กะว่าจะเอามาใช้เป็นบ่อบอลด้วย เป็นสระว่ายน้ำด้วย เด็กจิ๋วตื่นเต้นมาก เราใช้เป็นข้อต่อรองต่างๆนาๆให้กินยาให้กินข้าวเพื่อที่ว่าตอนบ่ายจะไปแกะกล่องเล่นกันที่ดาดฟ้า ปรากฎว่าแกะมาแล้วต้องผิดหวังเพราะข้างในมันสกปรกมาก เหมือนกับเป็นของเก่าหรือเก็บไว้นานมากกกกๆ คุณแม่เลยโทรไปโวยกับร้าน เดี๋ยวทางร้านจะส่งมาให้ใหม่ ต้องรอไปก่อนนะเด็กจิ๋ว ...เห็นในกลุ่มอนุบาลแสงโสมมีคุยกันเรื่องพาลูกไปติวมีพูดถึงครูรส เราเลยลองไปค้นข้อมูลดูบ้าง คุณแม่อะไรจะบ้าเห่อขนาดนี้ เพิ่งเข้าอนุบาล 1 เอง อีกตั้ง 2 ปี ปรากฎว่าพอคุณแม่โทรไป ที่โรงเรียนบอกว่าเต็มแล้ว เอ้า...นึกว่าเราจองเร็วแล้วนะ ครูบอกว่าเด็กที่อยู่ในท้องแม่ ยังไม่เกิด ตอนนี้ก็มาจองล่วงหน้า 22 คนแล้ว โห นี่มันวงการอะไรเนี่ยะ จองล่วงหน้า 6 ปีเลยเหรอ เรายังเข้าไม่ถึงวงการจริงๆอ่ะ ตอนนี้ก็เข้าคิว waiting list เอาไว้เผื่อมีคนสละสิทธิ์ แต่ก็มีที่อื่นอีกนะ เห็นมีครูปัท แล้วอีกที่หนึ่งก็บ้านครอบครัวสาธิตที่พี่ซิดนีย์เคยเรียน

๓ ขวบ + ๑๒๒ วัน...อังคาร ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ 
...เด็กจิ๋วตื่น 6 โมงทุกวันเลย ไม่รู้หรือไงว่าปิดเทอม เช้านี้ก็มาปลุกเรา 6 โมง ให้พาไปห้องครัว ปะป๊ากับคุณแม่ก็พากันไปด้วยอาการหลับๆตื่นๆ ไปเปิดตู้เย็นเลือกหนมกินเอง กินนม กินยาเรียบร้อย ...วันนี้พาอากงไปหาหมอกัน เกี่ยวกับเรื่องความดัน ไต และต่อมลูกหมาก ไปตรวจหลายอย่าง หาหมอหลายคน ต้องป้วนเปี้ยนอยู่แถวโรงพยาบาลนาน 3 ชั่วโมง รอผลตรวจแล็ป รอคิวหมอตรวจ คุณแม่เลยถือโอกาสพาเด็กจิ๋วไปหาหมอฟันด้วย คุณแม่บอกว่าทำไมฟันเหลืองๆ เด็กจิ๋วเข้าไปถึงก็ถามหมอว่า “คุณหมอคะ ไม่แปรงฟันใส่ยาได้ไม๊คะ”...คุณหมอบอกว่าไม่ได้ เพราะเชื้อโรคจะไม่ตาย เด็กจิ๋วก็พยักหน้า แล้วก็เป็นเด็กดีมาก คุณหมอบอกให้นั่งบนเตียง ก็ยอมแต่โดยดี ให้นอน ให้อ้าปาก ทำความสะอาดฟันด้วยไหมขัดฟัน เคลือบฟลูออไรด์ ขนาดทำเสร็จแล้วเกือบอ้วก เพราะมีเศษสำรีติดปาก แต่เด็กจิ๋วก็ไม่โวยวายอะไรทั้งสิ้น คุณหมอบอกว่าฟันยังดีอยู่ ไม่ผุ ไม่เหลือง แต่ต้องแปรงฟันเช้า เย็น ต้องใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ด้วย ก่อนนอนต้องใช้ไหมขัดฟัน โห มันดูฮาร์ดคอร์มากๆอ่ะ มีเด็กที่ยอมทำแบบนี้ด้วยเหรอ ดูมันเป็นภาพฝันดูเกินจริงยังไงไม่รู้ ...วันนี้ลองเล่นให้เด็กจิ๋วจำโลโก้รถยี่ห้อต่างๆดูบ้าง เลียนแบบพี่โฮไอ พี่เค้าจำได้แม่นยำทุกยี่ห้อ ตอนแรกเด็กจิ๋วยังไม่รู้จักว่าโลโก้เป็นยังไง เราต้องอธิบายให้ฟังก่อน แล้วก็เริ่มชี้โลโก้รถบนท้องถนนให้จดจำ เอาแค่ยี่ห้อเด่นๆ ไม่กี่ยี่ห้อก่อน เด็กจิ๋วยังจำไม่ค่อยได้ในวันแรก แต่เล่นอยู่ดีๆก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวพอน้องพริมโตขึ้น น้องพริมจะไปซื้อรถมาหลายๆคันเลย เอามาขับแข่งกับปะป๊าเลยนะ”...โห หลายคันเลยเหรอ แล้วหนูจะซื้อรถยี่ห้ออะไรอ่ะ เด็กจิ๋วบอกว่า “น้องพริมจะซื้อรถเบนซ์”...โห ตาถึงแหะ ทำไมต้องเบนซ์ด้วยล่ะ “ก็ น้องพริมว่ามันสวยดี”...นี่พูดเล่นหรือว่าตาถึงจริงนะเด็กจิ๋ว ...ตอนกลับมาบ้านเจอฝนตกอยู่ เด็กจิ๋วบอกว่าเดี๋ยวต้องกางร่มไป เราเลยถามว่า มีคนในรถ 4 คน มีร่มแค่คันเดียวจะทำยังไง เด็กจิ๋วบอกว่า “ก็เดี๋ยวน้องพริมกางร่มไปส่งทีละคน”...ฉลาดมาก ...ตอนบ่ายบ่อบอลอันใหม่มาส่งให้ ปะป๊าเลยรีบเอาขึ้นไปเล่นกับเด็กจิ๋ว ใช้เครื่องเป่าลมเป่าอยู่เป็นชั่วโมงก็ไม่เต็มสักที รู้สึกแปลกๆ หรือมันรั่ว ดูไปดูมา ปรากฎว่าเราลืมปิดจุกที่ท่อปล่อยลม มิน่าสูบลมเท่าไหร่ก็ไม่เต็มสักที พอปิดจุกที่ว่านั้น แป๊บเดียวก็เต็ม เราสั่งลูกบอลมาใส่ 500 ลูก รวมของเก่าอีกประมาณ 200 ลูก ตอนนี้น่าจะมี 700 ลูก แต่ว่ายังไม่เพียงพอสำหรับบ่อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร ดูแล้วต้องมีอีกเท่าตัว เดี๋ยวต้องหาซื้อมาเพิ่ม แต่อัน 500 ลูกที่สั่งมานี่ รู้สึกว่าไม่ค่อยดี บอลแข็ง กระโดดลงไปแล้วปวดหลังเลย ไม่นุ่มเหมือนที่ Kidzoona แล้วที่ลูกก็มีลอยต่อมีเม็ดพลาสติกปูดออกมา อันนี้เป็นยี่ห้อ Apex แล้วนะ ...ตอนแช่จากุซซี่กัน ลองหลอกให้เด็กจิ๋วทำท่าจำของเพื่อนๆแต่ละคน เราต้องหลอกล่อด้วยการทำเลียนแบบอั่งอั๊งก่อน ติ้งต่อง ติ้งตอง อั่งอั๊งมาหาจะน้องพริม เพราะเรารู้มาว่าอั่งอั๊งชอบเล่นติ๊งต่อง ทีนี้ก็ลองพูดชื่อเพื่อนแต่ละคน เด็กจิ๋วสามารถทำท่าจำของเพื่อนๆได้ แล้วสามารถทำเลียนแบบได้ด้วย เก่งมาก  นีโอ – แบร่ๆ แบร่ๆ แลบลิ้น ตาถลน เมจิ – แงๆ แงๆ ร้องไห้ทุกเช้า ปาล์ม – แหวะ ทำท่าอ้วก...น้องเค้าอ้วกแค่วันเดียว จำมาเลย มิกิ – แงๆ มิกิไปร้องไห้กับเมจิ (มิกิ เด็กจิ๋วเรียกว่า มิกิโกะ เราถามครูแหววแล้วว่าเค้าชื่ออะไรกันแน่ คำตอบก็คือมิกิ ไม่มีมิกิโกะ) นิตา – ยิ้ม เอียงหัวไปมา...แสดงว่านิตาลั้นลาไม่เคยงอแงไม่ดื้อไม่ซน ครับ – วิ่งพล่านในอ่างจากุซซี่...คนนี้คอนเฟิร์มว่าซนจริงๆ วิน – นั่งกอดอกทำหน้าเรียบร้อย...เด็กจิ๋วชอบเล่าว่าน้องวินเรียบร้อยที่สุด ปาร์ค – ไม่เอาไม่อยากเป็นน้องปาร์ค เพราะน้องปาร์คแกล้งคน น้องพริมเป็นโรโบ้ช่วยคนต่างหาก ปาร์ตี้ – แอ่ะ แอ่ะ ...ไอ เพราะน้องปาร์ตี้เคยป่วยอยู่ช่วงหนึ่ง ณวัฒน์ – แง แง...ณวัฒน์ก็ชอบร้องไห้เหมือนกัน อานะ – ทำท่าถอดร้องเท้าแล้วก็อุ้ย ผิดห้อง ... ขนาดเพื่อนห้องอื่นยังไม่จำเค้ามาอีก ยังมีอีกหลายคนแต่ปะป๊าจำไม่ได้