วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

เด็กจิ๋ว@เกาะมันกลาง

...ทริปนี้คุณแม่งอแงมาก บ่นมาหลายวันก่อนเดินทางว่าไม่อยากไปไม่อยากไป เพราะ
ทรมาน อากาศร้อน รีสอร์ทไม่ไฮโซ ที่สำคัญคือแอร์เปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็ฯ ถึง 8 โมงเช้า
แต่ยังไงก็ต้องไปเพราะจองไป 5,000 บาทแล้ว ที่จริงราคาของที่นี่ไม่ค่อยแพงนะ คืนละ
3,800 บาท รวมเรือรับส่งและอาหาร 4 มื้อ แต่เด็กจิ๋วต้องเสียด้วย คิดตั้ง 2,200 บาท
รวมราคาแล้วเลยรู้สึกว่าแพงมาก ไม่ค่อยคุ้นกับการต้องเสียค่าใช้จ่ายให้เด็กจิ๋วอ่ะ
...ที่รีสอร์ทขู่ว่าวันนี้รถจะติดมากๆเพราะตรงกับเชงเม้ง เส้นทางที่เราขับรถไปต้องผ่าน
ย่านที่มีสุสานเยอะๆด้วย เลยออกกันตั้งแต่ 6.30 น. ไปถึงท่าเรือประมาณ 10 โมงกว่า
ไม่ได้แวะกินข้าวเพราะกินโน้นนี่กันมาในรถ บริเวณท่าเรือจะใช้ท่าเดียวกันกับตอนไป
เกาะมันนอกเมื่อปีที่แล้ว ตัวอออฟฟิตกับลานจอดรถก็อยู่ใกล้ๆกัน ระหว่างรอเรืออยู่ที่
ออฟฟิต เด็กจิ๋วเจอพี่คนหนึ่ง อายุ 6 ขวบ ชื่อพี่ซิดนีย์ เวลาเด็กจิ๋วเจอพี่แบบนี้ก็จะเข้า
หาทันที ไปเนียนตีซี้ชวนเค้าเล่น ตอนแรกๆพี่ซิดนีย์ก็เฉยๆ แต่พอไปอยู่กันบนเกาะแล้ว
สนิทกันเลย
...วันนี้เห็นมีแขกที่ร่วมเดินทางกับเราประมาณ 40 คน ลงเรือประมงดัดแปลงเหมือน
ของเกาะมันนอก แต่ของที่นี่ลำเล็กกว่ามากๆลงกันไปครบทุกคนนี่แทบจะไม่มีที่นั่งอ่ะ
ต้องนั่งอัดกันมาก โชคดีที่นั่งแค่ 45 นาที จากที่ฝั่งจะมองเห็นเกาะมันใน มันกลาง มัน
นอกเรียงรายกันอยู่ มันนอกจะอยู่ไกลออกไปที่สุด เรานั่งเรือมาแวะที่มันในก่อน ก็งงๆ
เพราะตามหมายกำหนดการต้องเข้าห้องพักที่มันกลางก่อนแล้วค่อยออกมาดูเต่ากัน
พอเรือจอดเสร็จก็มีคนเรือคนหนึ่งเดินนำขึ้นไปดูเต่า คนเรือคนนี้ตัวดำๆน่าเอ๋อๆหน่อย
แต่ยิ้มแฉ่งตลอดเวลา ถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบ เดินดูเต่าในบ่อๆอยู่พักหนึ่ง เด็กจิ๋วตื่น
ตาตื่นใจเหมือนกัน เพราะเพิ่งดูการ์ตูนเรื่องแซมมี่มา เป็นเรื่องราวของเต่าทะเลเหมือน
กัน เด็กจิ๋วก็ตื่นเต้นตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้ว จะได้ดูแซมมี่ตัวจริง ในบ่อเต่าจะมีหลายๆ
บ่อ แยกตามอายุเต่า บางบ่อตัวเล็ก บางบ่อตัวใหญ่ มีอยู่ประมาณ 10 บ่อ เด็กจิ๋วคง
ชอบ แต่ปะป๊ากับคุณแม่ร้อนมาก จากท่าเรือเดินมาบ่อเต่านี่ประมาณครึ่งกิโลได้ ต้อง
เดินกลางแดดเปี้ยงๆเดือนมีนา หมวกก็ไม่มีเพราะอยู่ในกระเป๋าเดินทาง แต่โชคดีที่มี
ของเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วก็ไม่ยอมเดินเองเลย ให้ปะป๊าอุ้มตลอดเวลา
...นั่งเรือต่อมาอีกนิดเดียวก็ถึงเกาะมันกลาง จะผ่านทะเลแวกของเกาะมันกลางก่อน
ซึ่งจะเดินมาเที่ยวอีกทีวันพรุ่งนี้ เรือแล่นไปจอดอยู่หน้ารีสอร์ท แต่เข้าไปที่หาดไม่ได้
ต้องนั่งเรือเล็กต่อเข้าไป ก็เหมือนกับที่มันนอก แต่อันนั้นเป็นเรือเหล็กแบบยืน ทีแรก
ก็นึกว่ามันรันทด แต่ต้องมาเจอที่นี่ก่อน รันทดหนักกว่าอีก เป็นเรือหน้าตาประหลาด
เค้าเรียกว่าเรือแตงโม เป็นเรือที่โคลงมาก ลงไปแล้วแทบจะอ้วก เพราะมันโยกซ้าย
โยกขวา หรือว่ามันกลมเหมือนแตงโม เลยกลิ้งไปกลิ้งมาในน้ำ
...ขึ้นฝั่งได้ก็เจอกับ welcome drink เป็นน้ำตะไคร้ บอกว่าเด็กจิ๋วกินไม่ได้มันเผ็ด แต่
เด็กจิ๋วดื้ออยากกิน เลยเอาให้ลองหน่อย ดันบอกว่าอร่อยอีก ไม่เห็นเผ็ดเลย จากหาด
เดินผ่านบ้านพักฝั่ง Sea View เข้าไปที่ห้องอาหาร เจอกับอาหารเป็นชุด จัดให้ตาม
โต๊ะซึ่งมีป้ายชื่อแขกแต่ละห้องวางอยู่ อาหารดี อร่อย มีกุ้งซอสมะขาม ต้มยำปลา ผัด
ผัก ไข่เจียว ที่สำคัญมีน้ำแข็งฝอย แล้วมีให้โต๊ะละกระติกเลย กินไม่อั้น อันนี้สุดยอด
...กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก ของเราอยู่ฝั่งหลังเกาะ เรียกว่าฝั่ง Beach
Front จะมีข้อดีคือลมเย็น แต่ทะเลตรงนั้นเล่นไม่ได้ มีหินเยอะแล้วก็สกปรก ส่วนอีก
ฝั่งคือด้านหน้าเรียกว่า Sea View วิวดี หาดเล่นได้ แต่ร้อนมาก ซึ่งร้อนจริงๆ ไม่มีลม
เข้าเลย แต่ละฝั่งมีข้อดีข้อเสีย ซึ่งถ้าจะให้ไปใหม่ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะอยู่
ฝั่งไหนดี แต่ที่แน่ๆ ปะป๊าเจอหนูวิ่งไปมาตอนกลางคืนที่ฝั่ง Sea View
...พอมาถึงห้องพัก ก็เจอกระเป๋าวางอยู่เรียบร้อย เปิดห้องเข้าไป รู้สึกดีมาก ห้องน้ำดี
น้ำไหลแรง (มารู้ทีหลังว่าน้ำที่ใช้บนเกาะนี่ซื้อใส่เรือมาจากฝั่ง มาถึงก็จะปั้มขึ้นไปบน
เขา แล้วปล่อยลงมาตามห้อง น้ำแรงเปิดได้ไม่อั้น ก็นับว่าใจถึงดี) สภาพห้องโอเค คือ
ว่าเพิ่งรีโนเวทใหม่ไม่นานมานี่เอง ถึงแม่ว่าตอนนี้จะยังไม่มีไฟไม่มีแอร์ แต่หน้าห้องเป็น
ระเบียงไม้ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง มีเก้าอี้นั่งเล่นได้ ลมเย็นจริงๆ  เราพากันมานั่งเล่นที่หน้า
ห้อง ให้เด็กจิ๋วเล่นเกมส์ดูการ์ตูนไป ส่วนปะป๊าก็ออกไปถ่ายรูป
...ก่อนมานี่พยายามหารีวิวหรือหารูปของที่นี่ดู แต่หายากมาก ไม่ค่อยมีคนมาหรือไง
แต่เวลาจองมาเค้าก็บอกว่าเต็มยาวนะ อย่างวันนี้ที่เรามาก็บอกว่าแขกเต็ม พอปะป๊า
ออกไปถ่ายรูปรอบๆเกาะก็รู้สึกว่าสวยมากเหมือนกัน ถ้าเทียบกันมันนอกก็ยังเป็นรอง
อยู่นิดหน่อย แต่เรื่องห้องพักกับอาหารแล้ว รวมคะแนนกันก็น่าจะสูสีกับที่มันนอก ได้
มีโอกาสคุยกับเจ้าของ เค้าบอกว่าเมื่อก่อนที่นี่เน้นกลุ่มลูกค้าโรงงาน เค้าใช้คำนี้แต่ก็
เดาว่าคงเน้นตลอดล่างนั่นแหล่ะ เมื่อก่อนชื่อระย้ารีสอร์ท แต่ตอนนี้กำลังปรับเปลี่ยน
โดยเอามันนอกเป็นต้นแบบ คือจะทำให้แข่งกับมันนอกได้ up ระดับตัวเองขึ้นมา ทำ
ห้องเพิ่ม ตกแต่งห้องเดิมใหม่หมด อย่างเรื่องน้ำ เค้าก็บอกว่าจะมาปล่อยน้ำเอื่อยๆนี่
ไม่ได้เลย จะทำให้ดีๆ
...ตอน 3 โมง เราพาเด็กจิ๋วลงเล่นน้ำกัน ที่จริงแดดยังร้อนอยู่มาก แต่ว่าบริเวณหน้า
เกาะมีร่มไม้ใหญ่มาก สามารถเล่นน้ำตอนบ่ายได้อย่างสบายเลย เด็กจิ๋วก็อยากจะ
มาเล่นจะแย่อยู่แล้ว เพราะเริ่มติดพี่ซิดนีย์แล้ว อยากจะเล่นกับพี่ ตอนแรกเด็กจิ๋วก็
กลัวปลา ไม่ยอมลงน้ำ เล่นแต่ทรายอยู่บนหาด แต่พอเห็นพี่ซิดนีย์ลงก็จะลงตามบ้าง
ที่จริงแล้วที่นี่ไม่มีปลาแบบเกาะนางยวนหรอก ทรายที่นี่ไม่ค่อยขาว ไม่นุ่ม น้ำไม่ค่อย
สะอาดไม่ใส แต่ก็พอเล่นได้ ตอนนี้เด็กจิ๋วเริ่มสนิทกับพี่ซิดนีย์แล้ว เล่นด้วยกัน เข้ากัน
ได้ดี พี่ก็นิสัยดี มากับพ่อแม่ ลุงป้า น้าอา อากงอาม่า เค้าบอกว่าเรียนอยู่สาธิตเกษตร
สอบเข้าได้เองเลย เก่งมากๆ เราเลยไปสอบถามมาหลายเรื่อง ได้ความว่าเค้าไปติว
ที่บ้านครอบครัวสาธิต เดี๋ยวเราพาจิ๋วไปบ้างดีกว่า
...ตอนเย็นพาเด็กจิ๋วไปอาบน้ำเสร็จ แอร์เปิด สวรรค์เลย แต่ตากแอร์ได้ปั๊บก็ต้องออก
ไปกินข้าวเย็นแล้ว อาหารเย็นก็ดี มีกุ้งเผา ปูเผา ปลาหมึกเผา ผัดผัก แกงส้มชะอมกุ้ง
รสชาดอร่อย พี่ซิดนีย์มานั่งเล่นไอแพ็ดกับเด็กจิ๋ว มีแย่งกันเล็กน้อย แต่โดยรวมก็เล่น
กันได้ดี เด็กจิ๋วก็ใจดี แบ่งให้พี่เล่น แบ่งหนมให้ คนอื่นๆที่ไปเที่ยวด้วยกันชมกันใหญ่
เลยว่าเด็กจิ๋วเป็นเด็กฉลาด พูดเก่ง อย่างคุณป้าเค้าแหย่เล่นเรื่องเด็กจิ๋วยังไม่โต ยัง
ใส่เป้อร์อยู่เลย เด็กจิ๋วตอบเค้าว่า “งั้นเดี๋ยวหนูไปถอดเป้อร์ออกก่อน”...ป้าเค้าชอบใจ
กันใหญ่
...ก่อนมื้ออาหารเย็น มีเจ้าหน้าที่มาตามให้ขึ้นเขาไปดูพระอาทิตย์ตก คือโปรแกรมที่
นี่มันมั่วซั่วไงไม่รู้ ไม่เห็นบอกมาก่อน อยู่ดีๆก็มาตาม ก็มีบ้านเรากับอีก 2 คน ตามกัน
ไป บางคนเค้าก็ไม่รู้ว่ามีพาไปเลยไม่ได้ไป เดินขึ้นเขาไม่โหดมาก แต่อุ้มเด็กจิ๋วเหนื่อย
เหมือนกัน วันนี้พระอาทิตย์ตกสวยมาก เห็นดวงกลมโตค่อยๆจมน้ำทะเลไปเลย เด็ก
จิ๋วไม่สนใจเล่นเกมส์ตลอดเวลา พอจะมาดูก็ไม่เห็นแล้ว พระอาทิตย์ตกไปแล้ว
...ที่เกาะนี่มีหมาเยอะมาก ประมาณ 13 ตัว เจอตลอดเวลา เพราะกระจายตัวไปตาม
จุดต่างๆของเกาะ แต่เวลากินข้าวจะมารวมตัวกัน เด็กจิ๋วก็กลัวมาก กระโดดขึ้นโต๊ะ
ไม่ยอมลง พี่ซิดนีย์ก็มาคอยไล่มาให้
...เด็กจิ๋วสนิทกับพี่ซิดนีย์มากรักกันมาก ตอนแรกๆพี่ซิดนีย์ก็วางตัว แต่พอคลุกคลีกัน
ทั้งวันก็ตามเด็กจิ๋วเหมือนกัน เวลากลับมาห้องพักก็มาเล่นที่ห้องเรา มาดูการ์ตูน เล่น
เกมส์กับเด็กจิ๋ว พอเด็กจิ๋วนอนหลับตื่นมาอีกวัน มาถามแม่ว่า “แม่ แม่ พี่... อะไรอ่ะ
ที่เล่นกับหนูเมื่อวานอ่ะ”...โห จำชื่อพี่เค้าไม่ได้ ไหนคุณครูบอกว่าความจำดีไง
...ตอนเช้าฟ้าปิด มีเมฆมาก กินอาหารเช้าตอน 8 โมงเป็นข้าวต้มปลาอย่างเดียว กับ
พวกกาแฟชงเองแล้วก็ขนมปังไส้สัปรด กินเสร็จก็เตรียมตัวขึ้นเขาอีกรอบ เมื่อวานขึ้น
ไปดูพระอาทิตย์ตก วันนี้ขึ้นไปจุดเดิมแต่ไปดูพระอาทิตย์ตอนยังไม่ตก วิวก็สวยดี คน
ละแบบกับเมื่อวาน เสร็จแล้วก็เดินต่อไปอีกไกลพอควร ไปถึงทะเลแวก จุดนี้แดดร้อน
สุดขีด คุณแม่ต้องพาเด็กจิ๋วไปนั่งแอบใต้ร่ม ที่จริงมีไปกัน 10 กว่าคน ไปแอบแดดกัน
สักครึ่ง เหลืออีกครึ่งไปเดินถ่ายรูปกัน จุดนี้สวยมากๆ เรียกว่าสวยที่สุดของเกาะมัน
กลางเลยก็ว่าได้ เสียดายที่รีสอร์ทบริหารจัดการไม่ดี น่าจะเอาจุดนี้มาเป็นจุดเด่น มี
หลายคนที่ไม่ได้เดินมากับเรา เพราะมันต้องขึ้นเขาเดินไกล เจ้าหน้าที่เตรียมอุปกรณ์
มาเจาะหอยนางรมสดๆให้พวกเรากินกันด้วย แต่บ้านเราไม่มีใครกิน
...กลับมาถึงรีสอร์ทก็รีบกลับห้องไปอาบน้ำแล้วเก็บกระเป๋า เด็กจิ๋วกับซิดนีย์ร้องจะ
เล่นน้ำอีก แต่ไม่ไหวจริงๆ อาบน้ำเสร็จก็มากินข้าวกลางวัน วันนี้ไม่ได้จัดเป็นชุดแบบ
เมื่อวาน เป็นบุฟเฟ่ต์ มีข้าวผัดปู ราดหน้าทะเล แกงจืด แล้วก็สละลอยแก้วอร่อยมาก
ปะป๊าเพิ่งเคยกินสละลอยแก้วเป็นครั้งแรก เด็กจิ๋วก็ชอบ แต่กินได้แต่น้ำ
...พอกินข้าวเสร็จ ต้องนั่งรอเรือประมาณเกือบชั่วโมง เด็กจิ๋วเริ่มอาละวาดหนัก รักษา
ภาพพจน์มาดีเยี่ยม มาเสียตอนนี้แหล่ะ สงสัยเพราะง่วงด้วย กินยากล่อมประสาทไป
ด้วย แล้วก็อากาศร้อนมาก ต้องดับร้อนด้วยการเอาน้ำแข็งให้กิน จะไม่หายก็เพราะ
ยังงี้ยแหล่ะ
...ตอนกลับบ้าน ลงเรือกันมาได้หน่อย เด็กจิ๋วก็หมดแรงหลับไปอย่างรวดเร็ว ซิดนีย์ก็
เหมือนกัน เด็กๆเลยไม่ได้บ๊ายบายกัน ได้แต่หวังว่าเด็กจิ๋วจะได้ไปเป็นรุ่นน้องพี่ซิดนีย์
ที่สาธิตเกษตร
...ตอนนั่งเรือกลับ คุณแม่ได้คุยกับน้อง 2 คน เข้าบอกว่าจะรอดูรีวิวในพันทิพนะ เรา
ก็อ้าว รู้จักเด็กจิ๋วเหรอ มิน่า ตอนอยู่บนเกาะก็แอบถ่ายรูปเด็กจิ๋วหลายที มีแอบดูแล้ว
เหมือนไปเม้าส์ๆกันด้วย แบบนี้ก็เห็นภาพอาละวาดของเด็กจิ๋วไปแล้วดิ่ จะเอาไปแฉ
ไม๊อ่ะ ต่อไปเด็กจิ๋วต้องแอ็บมากกว่านี้นะ เป็นคนของสังคมแล้วนะ

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

เด็กจิ๋ว@เกาะนางยวน

...คราวนี้นัดกันออกจากบ้านตี 5 แต่เอาเข้าจริงๆทั้งบ้านเราและบ้านพี่โนพี่โน่กว่าจะออก
กันก็ตี 5 ครึ่ง เพราะต้องจัดการเด็กๆ เด็กจิ๋วรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนจับนั่งรถ แต่ก็ไม่งอแงเลย
เพราะรู้ว่าจะได้ไปเที่ยว นั่งจ้องมองทางตลอดเวลา บอกว่า “น้องพริมคอยดูทางให้ปะป๊า
เพราะกลัวปะป๊าจะขับรถผิดทาง”...ปะป๊ามี Navigator ซะหน่อย
...นัดเจอน้าหญิงที่ปั๊มน้ำมันแถววังมะนาว แลกของกันตามธรรมเนียม คราวนี้เด็กจิ๋วมีของ
ฝากจากฮ่องกงมาให้พี่โนพี่โน่ ของพี่โนเป็นหุ่นยนต์แมลงสาบ ถูกใจมากๆเพราะเคยไปเล็งๆ
ไว้ตั้งนานแล้วที่ Toy R Us เมืองไทย ส่วนของพี่โน่เป็นรถไฟโทมัส ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า แต่
ตอนที่เอาชุดโทมัสของเด็กจิ๋วออกมาเล่นที่ห้องพัก พี่โน่มาเล่นไม่เลิกเลย
...ตามแผนการณ์จะต้องไปกินข้าวกลางวันที่ร้านลุยก่อนลงเรือไปเกาะ แต่ดูเวลาแล้วอาจ
จะไม่ทัน เลยยกเลิกร้านลุย รีบไปที่ท่าเรือก่อน แล้วไปหาอาหารแถวท่าเรือกิน กินพวกข้าว
ผัดกันนิดหน่อย เด็กจิ๋วเกาะติดพี่โนอีกแล้ว เวลานั่งกินข้าวก็ต้องนั่งข้างพี่โน แล้วเวลาเดิน
ไปไหนมาไหนก็ต้องให้พี่โนจูงมือ
...วันนี้เราต้องนั่งเรือเร็วลมพระยาไปเกาะนางยวน เด็กจิ๋วเพิ่งนั่งเรือที่นี่ไปเกาะเต่าเมื่อปี
ที่แล้วนี่เอง บริษัทนี้มีนโยบายการบริหารแบบมาเฟีย เพราะผูกขาดอยู่เจ้าเดียว คู่แข่งเคย
มีแต่โดนยิงตายไปหมดแล้ว พนักงานทุกคนจะบริการแบบหน้าหงิกตลอดเวลา ห้ามต่อ
รองหรือร้องขออะไรเด็ดขาด แต่ทางบริษัทสามารถยกเลิกเรือเราได้ทุกเมื่อตามอำเภอใจ
ซึ่งคราวนี้เราก็โดนจนได้ วันที่จะกลับจากเกาะ ปกติต้องกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วค่อยออก
แต่นี้ยกเลิกเรือเที่ยวบ่ายเฉย บอกว่าเรือเสีย บังคับให้เรากลับรอบเช้า เราจึงมีเวลาอยู่บน
เกาะน้อยลงไป 3 ชั่วโมง แล้วก็กอดข้าวมื้อกลางวันก่อนกลับ บริษัทเรือเร็วลมพระยาเป็น
เจ้าของเดียวกับรีสอร์ทบนเกาะนางยวน มีวิธีบริหารจัดการแบบมาเฟียเช่นเดียวกัน ก่อน
จะมาก็มีเรื่องทะเลาะกันไปทีแล้ว จองแล้วไม่ล็อคห้องไว้ให้ เอาห้องเราไปให้คนอื่น เลย
ต้องเปลี่ยนวันเดินทางกันมา
...จากท่าเรือต้องเดินลากกระเป๋าเองไปตามสะพาน ไกลมาก แดดก็ร้อนมาก กระเป๋าเรา
ก็ใหญ่มากเพราะนอกจากจะมีข้าวของเด็กซึ่งจะต้องเยอะกว่าผู้ใหญ่แล้ว คราวนี้เรายังขน
ของเล่นชุดใหญ่มาเล่นกับพี่โนพี่โน่อีก ปะป๊าลากกระเป๋าทั้งหมดเดินไปขึ้นเรือ ส่วนเด็กจิ๋ว
ตอนแรกก็ทำเก่งเดินจูงมือพี่โนเดินเอง แต่เดินไปได้หน่อยก็ชูแขนให้คุณแม่อุ้ม คุณแม่อุ้ม
จนหอบอ่ะ เดินประมาณกิโลหนึ่งได้ ระหว่างที่คุณแม่กำลังอุ้มเด็กหันหน้าที่ทางด้านหลัง
เดินมุ่งหน้าไปที่เรืออยู่ คุณแม่ก็ถามเด็กจิ๋วว่า เห็นน้าหญิงอยู่ข้างหลังคุณแม่เป่า เด็กจิ๋ว
ชะโงกตัวไปดูที่แผ่นหลังของคุณแม่ แล้วบอกว่า “น้าหญิงไม่ได้อยู่ที่หลังคุณแม่ แต่น้อง
พริมเห็นน้าหญิงเดินอยู่ตรงโน้น”...ตลกแล้ว
...ตอนลงเรือเลือกที่นั่งผิดไปหน่อย โดนฝั่งแดดส่อง ร้อนมากๆ นั่งเหงื่อแตกกันมาในเรือ
เวลามาเที่ยวกับพี่โนพี่โน่ก็ดีตรงที่เบาแรงเราหน่อย เด็กจิ๋วสามารถนั่งเล่นโน่นนี่กับพี่โนได้
ไม่ต้องมางอแงหรือบ่นเบื่อกับเรา ตอนนั่งในเรือ พี่โน่อยากนั่งกับพี่โน ส่วนเด็กจิ๋วก็อยาก
นั่งกับพี่โน ต้องแย่งกันหน่อย ในที่สุดพี่โนก็เลือกนั่งกับเด็กจิ๋วตามเคย ทิ้งดีโน่ไปเลย เป็น
พี่ที่ดีมากๆ
...มาถึงเกาะนางยวนตอนบ่ายสาม แดดร้อนมากๆ รีบเข้าห้องพักตากแอร์แป๊บหนึ่ง แล้ว
ออกไปกินข้าวกลางวัน ใช้สิทธิมื้อกลางวันของวันกลับที่หายไป เปลี่ยนมาเป็นอาหารสั่ง
ได้คนละจาน เราสั่งพวกข้าวผัดแล้วก็พิซซ่ามาแบ่งกันกิน รสชาติอร่อยดี หลังจากอาหาร
ทุกมื้อบนเกาะ ก็เพิ่งมาค้นพบว่ามื้อนี้เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดแล้ว มื้ออื่นๆแย่มากๆ ไม่แปลก
สำหรับรีสอร์ทนี้เพราะมีอยู่เจ้าเดียว ไม่ต้องง้อลูกค้า ไม่ต้องบริการดี
...กินข้าวเสร็จก็เริ่มลงเล่นน้ำกัน หาดทรายที่นี่ไม่ค่อยเวิร์ค ไม่มีส่วนที่เป็นทรายนุ่มๆ พื้น
ที่ส่วนใหญ่มีแต่ปะการัง ผู้ใหญ่เดินยังเจ็บเท้าเลย เด็กจิ๋วเดินไม่ได้ ลงน้ำก็ไม่ได้อีกเพราะ
มีปลาเยอะมาก เด็กจิ๋วกลัวปลา ยังไม่พอ บนเกาะยังมีหมาอยู่ตัวหนึ่ง ไม่ว่าเราจะอยู่ที่
ไหนก็จะเจอหมาตัวนี้ตลอดเวลา ตอนหลังๆเริ่มสงสัยว่ามันเป็นตัวเดียวกันหรือว่ามีแฝด
อยู่หลายตัว เจ้าหมาตัวนี้วิ่งพุ่งตัวมาที่ลูกบอลของเด็กจิ๋ว แล้วคาบวิ่งหนีไป ตอนแรกยัง
คิดว่ามันคงเล่นคาบของ วิ่งไปแล้วคงวิ่งมาคืน แต่ปรากฎว่ามันวิ่งไปตะครุบเล่นจนบอล
แตกไปเลย เด็กจิ๋วเสียใจมาก สรุปแล้วเล่นทรายเล่นน้ำที่นี่ไม่ค่อยสนุกสำหรับเด็กจิ๋ว แต่
พี่โนพี่โน่ก็โอเคนะ ลงน้ำดูปลากันสนุกสนาน
...เล่นน้ำเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัวกัน บ้านเรามีเด็กเยอะ เลยชักช้ามาก กว่าจะไปกินข้าวเย็น
ก็ทุ่มครึ่ง พอไปถึงห้องอาหาร เจอพี่น้อย GM ของที่นี่ พี่น้อยมาทักทายด้วยความยิ้มแย้ม
แต่เรารู้สึกเหมือนโดนด่าอยู่ พี่น้อยบอกว่า โห บ้านนี้จะเอาไงเนี่ยะ มากินข้าวกันตอนนี้
อ้าว ก็เราแจ้งไว้ตั้งแต่กลางวันแล้วไงว่าจะกินตอนนี้ นี่แหล่ะคือสไตล์การบริการของที่นี่
ไม่ได้เป็นเฉพาะพี่น้อยนะ พนักงานทุกคนก็ทุกฝึกมาให้บริการแบบนี้ อย่างเราถามว่าขอ
เมนู ขอแก้วน้ำ พนักงานจะทำหน้าบึ้งแล้วชี้มือไป บอกว่าอยู่ทางโน้น เราต้องเดินไปหา
เองว่ามันอยู่ไหน อาหารเย็นเป็นชุด มีกับข้าว 3 อย่าง ประกอบด้วยต้มจืดฝักตุ๋นมะนาว
ดอง ปลาทอด แล้วก็ผัดวุ้นเส้น ตบท้ายด้วยกล้วยหอมทอด อาหารรสชาติไม่อร่อย น้อย
ด้วย กินข้าวเสร็จเด็กๆก็มาเล่นต่อกันที่ห้องเด็กจิ๋วอีกสักพัก เล่นรถไฟโทมัสกัน
...วันที่สองตั้งใจจะตื่นเช้าพาเด็กๆเล่นทะเล แต่เมื่อคืนหลับกันดึกมาก เด็กจิ๋วก็เที่ยงคืน
พี่โนพี่โน่ก็พอกัน ตอนเช้าปะป๊าลองปลุกเด็กจิ๋วดู ถามว่าจะไปเตะทรายหรือว่าจะนอน
ต่อ เด็กจิ๋วงัวเงียตื่นมาบอกว่า “นอนต่อ” แล้วก็ล้มตัวลงนอนหลับต่อ
...อาหารเช้า ปะป๊าตัดสินใจไม่ไปกินด้วย ให้คุณแม่พาเด็กจิ๋วไปกินกับบ้านน้าหญิง คือ
คิดดูแล้วว่าอาหารคงไม่ดี กินไปก็เสียดายปาก เอาเวลาไปเดินถ่ายรูปดีกว่า เกิดมาเพิ่ง
ทำครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยเนี่ยะที่ไม่กินอาหารเช้าของรีสอร์ท คุณแม่เล่าว่าอาหารเลวจริง
ตามที่คาดไว้ น้ำส้มมีให้โหลนิดเดียว ต้องแทบจะกราบกรานขอเค้ากิน เวลามาเติมก็จะ
เติมทีละนิด
...หลังอาหารเช้า พี่โนพี่โน่ลงเล่นน้ำต่อ ตอนแรกเด็กจิ๋วก็ตามไปด้วย แต่ดูสภาพแดดแล้ว
คุณแม่คงไม่ไหว คือเด็กจิ๋วคงไหวแต่ตัวดำแน่ๆ เลยขอทิ้งพี่โนพี่โน่ หนีกลับไปผึ่งแอร์ที่ห้อง
แทน พี่โนพี่โน่ก็แกร่งมาก เล่นน้ำท่ามกลางแสงแดดต่อไป
...เด็กจิ๋วกลับมาดูการ์ตูนที่ห้อง ตากแอร์เย็นสบาย กินหนมไปด้วย พริงเกิ้ลเป็นขนมโปรด
มากๆ กินแล้วล่วงเกลื่อนพื้นห้อง พอตอนเย็นๆแดดล่มแล้ว ถึงจะพาเด็กจิ๋วออกไปเล่นน้ำ
บ้าง ซึ่งตอนนี้สวนทางกับพี่โนพี่โน่แล้ว เพราะพี่ๆเค้าเพิ่งเล่นเสร็จกลับห้อง พี่ๆเริ่มป่วยกัน
แล้วด้วย ต้องกินยาแล้วหลับไปตอนบ่าย ปะป๊าเลยเล่นกับเด็กจิ๋วตามลำพัง วันนี้เล่นฝังตัว
เด็กจิ๋วด้วย ฝังไปตั้งแต่เท้ามาถึงหน้าอก ส่วนปราสาททรายก่อไม่สำเร็จเพราะก่อปั๊บเด็กจิ๋ว
ก็เหยียบแบนทันทีเหมือนเคย วันนี้เด็กจิ๋วยังเข็ดกับหมาตัวเมื่อวาน ระหว่างเล่นทรายก็คอย
ระแวงว่ามันจะมาอีกไม๊ วันนี้ไม่ได้ลงน้ำเพราะรู้ว่าเด็กจิ๋วกลัวปลา แต่ว่าตอนจะกลับ บอก
ว่าขอพาลงไปล้างตัวในทะเลหน่อย ลงน้ำใกล้ๆไม่มีปลา ปะป๊าดูให้แล้ว ปรากฎว่าแค่จุ่มลง
ไปหน่อย ก็กรี๊ดลั่นหาด กลัวมาก เลยต้องรีบอุ้มขึ้น พอกลับห้องอาบน้ำเสร็จก็สลบไปเพราะ
หมดแรง ตอนไปกินมื้อค่ำก็อุ้มหลับไป มื้อนี้เด็กจิ๋วอดกิน ตอนแรกนึกว่าจะหลับถึงเช้า แต่
พออุ้มออกจากห้องอาหารก็ดันตื่นขึ้นมา สงสัยได้ยินเสียงพี่ๆ ร้องอยากจะเล่นกับพี่ๆ ก็เลย
ชวนพี่ๆไปเล่นต่อที่ห้องอีกสักพักถึงจะเข้านอนกัน
...ห้องพักที่นี่โทรมมาก ขนาดว่าเพิ่ง Renovate มาไม่นานนะ ห้องเก่า ชำรุดหลายอย่าง น้ำ
เอื่อยมาก เพราะน้ำแพง ต้องซื้อมาจากเกาะเต่า ประตูห้องเปิดปิดไม่ค่อยได้ เวลาจะเปิดปิด
ทีหนึ่งต้องช่วยกันผลัก คุณแม่บ่นใหญ่เลยว่ารันทด อยู่ไม่สบายเลย
...เช้าวันสุดท้าย ตื่นขึ้นมาก็ต้องรีบออกจากห้องพักกลับบ้านกันแล้ว เมื่อคืนพี่น้อยมาคุยทำ
เป็นชวนคุย แต่ข้อความที่ได้รับเหมือนมาขู่ว่าต้องรีบมารอเรือเร็วๆตั้งแต่ 8 โมง เรือจะมากี่
โมงก็ไม่บอก คือ GM คนนี้บริหารจัดการทุกอย่างโดยเอาความสะดวกตัวเองเป็นหลัก พวก
เราก็เลยต้องรีบไปนั่งรอที่ล็อบบี้ กว่าเรือจะออกก็ประมาณ 10 โมง

วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

เด็กจิ๋ว@Hongkong

...ทริปนี้จัดขึ้นเพื่อพาอากงอาม่าเตาปูนไปเยี่ยมญาตที่เมืองจีน คือเราพาอากงอาม่าไป
หาโซ้ยโกวที่ฮ่องกง แล้วโซ้ยโกวจะรับหน้าที่พาอากงอาม่าไปเมืองจีนเอง ช่วงที่อากงกับ
อาม่าไปเมืองจีน 2 วัน เราก็เป็นอิสระไปช้อปปิ้งกับไปดีสนีย์แลนด์ คือสรุปเรียกว่าพอคน
แก่ 2 คน ไปส่งแค่นั้นแหล่ะ
...เช้าวันเสาร์ อาแปะขับรถไปส่งที่สุวรรณภูมิตั้งแต่ตีสี่ ควักเด็กจิ๋วขึ้นมาจากที่นอนแล้วก็
อุ้มไปเลย พอไปถึงสนามบินก็เพิ่งรู้ว่าลืมเอารองเท้าเด็กจิ๋วมาด้วย คราวที่แล้วก็ลืมตอนที่
ไปเกาะสมุยทีหนึ่งแล้ว เพราะปกติรองเท้าจะอยู่ในรถปะป๊า เวลาไปไหนก็ต้องนั่งรถปะป๊า
อยู่แล้ว เลยเกิดความเคยชินที่ไม่ต้องใส่รองเท้าตอนออกจากบ้าน นี่โชคดีว่าเราไปฮ่องกง
กันนะ คิดว่าคงหาซื้อรองเท้าที่โน่นได้ไม่ยาก
...เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในการพาคนแก่ขึ้นเครื่องบิน การบินไทยจัดรถเข็นมารับอาม่า
พาผ่าน ตม. ซึ่งได้เข้าช่องพิเศษช่องเดียวกับเฟริสท์คลาส ไม่ต้องรอนาน แล้วก็ไปส่งที่เกท
เลย เราให้เงินคนเข็นไป 100 ไม่แน่ใจว่าต้องให้กันเท่าไหร่
...พอขึ้นเครื่อง เด็กจิ๋วก็ได้กล่องขนม เป็นกล่องเหล็กลายมิ้กกี้เม้าส์ เปิดมาเจอนม กับหนม
หลายอย่าง ส่วนอาหารก็มีต่างหากนะ เด็กจิ๋วนั่งเครื่องบินลั้นลามาก กินหนม เล่นเกมส์ ดู
การ์ตูน แค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงฮ่องกง
...เรานัดโซ้ยโกวมารับ แต่หาโซ้ยโกวไม่เจอ เสียเวลาอยู่ชั่วโมงหนึ่งกว่าจะเจอตัวกัน เพราะ
โซ้ยโกวไปผิด Terminal เด็กจิ๋วเคยเจอโซ้ยโกวในช่วงตอนเริ่มเดินได้ น่าจะขวบกว่าๆ ตอน
นั้นโซ้ยโกวไปอยู่ที่บ้านเป็นเดือน แต่พอวันนี้เจอกัน เด็กจิ๋วจำโซ้ยโกวไม่ได้ซะแล้ว ถามว่า
รู้จักคนนี้ไม๊ เด็กจิ๋วก็ตอบว่า “ไม่รู้จัก”
...เราพากันนั่งรถเมล์สาย A21 เข้าเมือง การเดินทางในฮ่องกงค่อนข้างช่ำชองเพราะมากัน
เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ปกติพัก Guest House แบบโง่ๆ แต่คราวนี้เลือกพักที่ King Der Nathan
เป็นโรงแรมขนาดเล็กๆ ค่าห้องคืนละ 4,000 บาท อยู่ใกล้สถานี Yua Ma Tai เดินจาก MTR
Station แค่ 200 เมตร ใกล้กับ Bus Stop สาย A21 ด้วย ระหว่างทางเดินไปโรงแรมก็เจอ
ร้านขายรองเท้า เด็กจิ๋วได้ rebox สีขาวมาคู่หนึ่ง เอาแบบถูกๆเรียบๆ สีขาว เพราะบางทีจะ
ให้ใส่ไปโรงเรียนได้ คู่ละ 600 บาท เป็นไปตามคาดว่าหารองเท้าที่นี่ได้ง่ายมากๆ
...ยู้ เป็นลูกชายของโซ้ยโกว มารอรับที่โรงแรม พอเก็บของเข้าห้องเสร็จก็พากันไปกินข้าว
แถวๆโรงแรม เป็นร้านบะหมี กับข้าวสตูว์เนื้อ อร่อยมาก เด็กจิ๋วกินบะหมีไปพอสมควร กิน
ข้าวเสร็จก็ไปเที่ยววัดหวังต้าเซี่ยนต่อ พาอากงอาม่าไปไหว้เจ้า เด็กจิ๋วสนิทกับโซ้ยโกวเร็ว
มาก เล่นกับเค้า แหย่เค้าด้วย เด็กจิ๋วไม่สามารถออกเสียงคำว่า โซ้ยโกว ได้ มันจะออกมา
เป็น ไส้โกว ซะมากกว่า
...ไหว้พระเสร็จ เราพ่อแม่ลูก ก็วางแผนทิ้งอากงอาม่าทันที ปล่อยให้โซ้ยโกวพาไปเที่ยวต่อ
เสร็จแล้วก็ให้ไปนั่งเล่นอยู่ที่บ้านโซ้ยโกว พวกเราจะไปช้อปปิ้งกันก่อน เสร็จแล้วจะตามไป
...เนื่องจากวันนี้เหลือเวลาน้อย เราเลือกไปช้อปจุดสำคัญที่สุดก่อนเลย คือตึก Shino ขาย
พวกของเล่น โมเดลต่างๆ ตอนนี้เด็กจิ๋วหลับไปแล้ว ซึ่งเป็นการดีมาก เพราะในตึกนี้เบียด
เสียดกันมาก ถ้าเด็กจิ๋วตื่นจะควบคุมได้ยากกว่านี้ ที่ตึกนี้ได้โมเดลมาเยอะพอควร ซื้อของ
เสร็จแล้วก็ไปเก็บที่ห้องแล้วไปบ้านโซ้ยโกวกัน โซ้ยโกวเลี้ยงอาหารจีนแบบอลังการ ราคา
ประมาณ 4,000 บาท แต่รสชาติไม่ค่อยถูกปากเลย เด็กจิ๋วตื่นมาได้เจอกับน้องหยัด เข้าไป
เล่นกับน้องใหญ่ มุดไปใต้โต๊ะไปเล่นจ๊ะเอ๋ แล้วพอน้องนั่งรถเข็นก็คอยจับรถเข็นตามน้องไป
ด้วยราวกับว่าคอยดูแลน้องให้ เป็นพี่ที่ดีมาก
...กลับมาที่โรงแรมแล้ว เด็กจิ๋วยังคึกคักอยู่สักพักกว่าจะหลับ ปะป๊าสลบไปก่อนเด็กจิ๋วอีก
โรงแรมที่นี่ถือว่าห้องใหญ่แล้ว ห้องน้ำก็กว้างขวางดี มีอ่างอาบน้ำด้วย ถ้าเทียบกับ Guest
House โง่ๆที่ปะป๊ากับคุณแม่เคยมาพัก อันนั้นขนาดห้องนอนประมาณ 1.2 x 2 เมตร ห้อง
น้ำขนาด 1 x 1 เมตร รวมถุกอย่างไว้ในนั้น เวลานั่งชักโครกจะปิดประตูห้องน้ำไม่ได้เพราะ
หัวเข่ายื่นเลยออกมา คราวที่แล้วที่หนีเด็กจิ๋วมากันสองคน ไม่ได้อาบน้ำเลย เพราะห้องมัน
แคบมากๆ
...วันนี้มีโปรแกรมช้อปปิ้งล้วนๆ เริ่มด้วยไปกินติ่มซำชื่อดังที่สถานี Central ก่อน ไปถึงตอน
ร้านเปิดพอดี ถ้าไปช้ากว่านี้หน่อยต้องรอนาน ร้านเล็กแต่มีชื่อเสียง (ไม่รู้เฉพาะในเมืองไทย
หรือเปล่า) Chief ได้ Michalin 3 ดาว แต่บ้านเรากินกันแล้วไม่ผ่าน หนมจีบกินไม่ได้เลยจะ
อ้วก เพราะมีมันเยอะ หะเก่าไม่อร่อย ข้าวห่อใบบัวพอใช้ มีซาลาเปาไส้หมูแดงอบที่อร่อย
หน่อย สรุปแล้วไม่คุ้มที่จะดั้นด้นมาเลย งงกันอยู่ว่าได้ Michalin ได้ไง ควรได้ Bridgestone
มากกว่า ตั้งแต่ออกจากโรงแรมจนกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว เด็กจิ๋วยังไม่ตื่นอืก มาตื่นอีกทีตอน
ออกจากร้านมาได้สักพัก ตื่นมาก็ร้องหานม ก็พากันไป 7-11 ไปเลือกนมกัน เด็กจิ๋วบอกว่า
จะเอานมวัว เราก็บอกว่านมทั้งหมดในตู้นี่เป็นนมวัวหมดแหล่ะ เอายี่ห้อที่คุ้นเคยหน่อย แต่
เด็กจิ๋วไม่เอา ชี้ไปที่นมยี่ห้อประหลาด มีรูปวัวตัวสีแดงอยู่ที่กล่อง เอาก็เอา ลูบรักเลือกเราก็
ตามใจ ปรากฎว่าดูดไปได้คำเดียว เด็กจิ๋วบอกว่า ไม่อร่อย รสชาติแปลกๆ  เห็นไม๊ล่ะ เลือก
นมอะไรมาก็ไม่รู้ คุณแม่เอามาลองดูดดูบ้าง ดูดเข้าไปคำเดียว บ้วนออกมาแทบไม่ทัน นม
มันเสียแล้ว เหม็นบูดเปรี้ยวเลย จะอร่อยได้ไง วันที่ข้างกล่องก็ยังไม่ถึงอายุนะ จะกลับไปว่า
ที่ร้านก็ไม่รู้จะว่ายังไง เลยเปลี่ยนไปซื้อร้านอื่นแทน
...จุดหมายต่อไปคือ City Gate Outlet นั่งรถไปไกลมากๆ ที่นี่มาทีไรไม่ค่อยได้ของเลย แต่
ก็ต้องมาทุกที คราวนี้ได้กระเป๋าเดินทางของ American Tourist กลับไปใบหนึ่ง 4500 บาท
โชคดีที่ได้กระเป๋ามาเพราะหลังจากนี้ช้อปปิ้งต่อกันอีกเยอะมาก ถ้าไม่มีกระเป๋าใบนี้ก็ไม่รู้
จะหิ้วกันยังไง ต้องอุ้มเด็กจิ๋วตลอดเวลาทั้งวันด้วย ไม่ยอมเดินเองเลย
...จุดหมายที่สองคือ Wanchai มีร้านของเล่นใหญ่ๆอยู่ 2 ร้าน ได้ของจากที่นี่เยอะมาก การ
เดินทางทุรักทุเรพอควร เพราะต้องลากกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับอุ้มเด็กจิ๋วเดินผ่านตลาด
...จุดหมายที่สามคือ Toy R Us จากสถานี Tim sa Tui ต้องเดินต่อไปอีกไกลมาก คุณแม่ได้
เจอน้ำมะม่วงปั่นที่ติดใจจากทริปที่แล้ว อร่อยมาก เด็กจิ๋วก็ชอบ ดูดเข้าไปอมไว้ในปาก
คำใหญ่ มันเป็นมะม่วงปั่นใส่เยลลี่ด้วย ที่ Toy R Us ได้ของเล่นมาอีก lot หนึ่ง ของเด็ก
จิ๋วเองก็เยอะ ของฝากพี่ๆก็เยอะ แล้วได้เสื้อแจ็คเก็ต 2 ตัว
...กลับไปเก็บของที่โรงแรมแล้วออกมาช้อปปิ้งต่ออีก คราวนี้จุดหมายที่ 4 คือ CTMA ที่
หน้าตึกจะมีร้านปลาหมึกชุบแป้งทดแสนอร่อยอยู่ มาฮ่องกงกี่ทีต้องมากินร้านนี้ ที่ร้าน
อื่นๆก็มีนะ แต่ไม่อร่อยเท่าร้านนี้ เด็กจิ๋วเองเห็นเรากินเข้าไป 3 ถุงก็คงนึกอยากลองบ้าง
เราไม่คิดว่าจะกินได้หรอกเพราะมันเหนียว เลยแกล้งให้ลองชิมดู ปรากฎหว่ากินได้แหะ
คราวนี้ขอกินไม่หยุด หนวดปลาหมึกเหนียวจะตาย เด็กจิ๋วกินไปได้ไงเนี่ยะ พวกเรายืน
กินปลาหมึกสลับกับน้ำมะม่วงปั่นหน้าตึก CTMA อยู่นาน ถึงจะเข้าไปช้อปต่อได้ ตอน
นี้ต้องเดินเบียดคนแน่ๆ เด็กจิ๋วก็ไม่หลับเหมือนเมื่อวาน ยิ่งยุ่งวุ่นวายใหญ่ อุ้มๆอยู่ บาง
ทีก็อาละวาด ดิ้นลงไปกองกับพื้น บางทีก็แกล้งเรา บอกให้เราอุ้ม แต่แกล้งทิ้งตัวหมด
แรง ไม่ยอมให้เราอุ้มง่ายๆ ที่ CTMA รู้สึกว่าร้านหายไปเยอะเลย แถบจะซื้ออะไรไม่ได้
เลย
...จุดหมายที่ 5 คือย่านหมั่นก๊ก ออกจาก CTMA ก็เดินไปเรื่อยๆ จะเป็นร้านช้อปปิ้งไป
ตลอดถนน พยายามหารองเท้า Nike เพราะเมื่อเช้าไปติดใจอยู่คู่หนึ่งที่ Ocean Terminal
แต่ไม่มี Size พอมาเดินหาที่นี่ ไม่เจอแบบนั้นเลย รู้สึกว่าจะ New Arrival แต่ได้อีกคู่มา
แทน สวยไม่แพ้กัน คุณแม่ซื้อตามเด็กจิ๋วอีกคู่หนึ่ง แบบและสีเหมือนกันเปะ เด็กจิ๋วมา
ฮ่องกงได้รองเท้ากลับไป 3 คู่เลย ได้วันแรกคู่หนึ่ง แล้วเมื่อเช้าเดินผ่านร้าน Croc ได้รอง
เท้าแตะมาคู่หนึ่ง แล้วได้ Nike อีกคู่หนึ่ง
...กลับโรงแรมด้วยอาการหมดสภาพกันทั้งปะป๊ากับคุณแม่ แต่เด็กจิ๋วยังลั้นลาอยู่เหมือน
เดิม สบายนี่ ไม่ต้องเดินเอง ให้ปะป๊าอุ้มตลอดเลย เด็กจิ๋วฉลาดมาก มาฮ่องกงนี่ไม่ยอม
เดินเองเลย จะเดินเฉพาะตรงทางลาด คือสนุกอ่ะ เดินๆกระโดดๆ พยายามบอกว่า อย่า
ทำแบบนั้นเลย มันเป็นการใช้พลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ ช่วยแบ่งเบาปะป๊าโดยการ
เดินเองไม่ต้องให้อุ้มดีกว่า แต่พูดไปเด็กจิ๋วก็ไม่เข้าใจหลอก ปะป๊ารู้สึกว่าครั้งนี้อุ้มเด็กจิ๋ว
เดินช้อปปิ้งทั้งวัน เหนื่อยมาก ปวดแขน ปวดขา แต่ก็รู้สึกสนุกมาก ได้กอดทั้งวัน จุ๊บแก้ม
ทั้งวัน เหนื่อยก็ไม่เป็นไร
...วันที่ 3 ของฮ่องกง เราตื่นแต่เช้านั่งรถไฟไปดีสนีย์แลนด์กัน นัดหยัดบีเอาไว้ ยู้กับลิเลียน
จัดการเรื่องตั๋วเข้าดีสนีย์แลนด์ให้ แล้วระหว่างที่อยู่ข้างในก็คอยเทคแคร์ ตัวเองไม่ได้เล่น
เลยเพราะต้องดูแลหยัดบี เหมือนกับพาเรามาเที่ยวอย่างเดียวเลย ตั้งแต่เริ่มเข้าไปก็ไปต่อ
แถวถ่ายรูปกับมิกกี้เม้าส์ก่อน ต่อแถวนานมาก ครึ่งชั่วโมงได้ เมื่อคราวที่แล้วปะป๊ากับคุณ
แม่มาดีสนีย์แลนด์ที่นี่ ยังพูดกันอยู่เลยว่า ดูดิ่ ต่อแถวถ่ายรูปกับใครก็ไม่รู้ แค่คนคนหนึ่งใส่
หัวมิ้กกี้เม้าส์หลอกเด็ก เด็กก็ยอมต่อแถวนานมากเพื่อถ่ายรูปกัน เอาเข้ากับตัวเองเพิ่งเข้า
ใจ เด็กจิ๋วตื่นเต้นมากกับการได้ถ่ายรูปคู่กับมิ้กกี้เม้าส์ ใจจดใจจ่อ ถามตลอดว่าถึงคิวแล้ว
ยัง ที่ต่อแถวนานก็เพราะว่ามิ้กกี้ใช้เวลานานมากกับเด็กแต่ละคน พยายามมาทักทาย จุ๊บ
แก้ม แล้วแต่ละครอบครัวก็ถ่ายกันนานมาก มีถ่ายเดี่ยว ถ่ายรวม บ้านเราก็เหมือนกัน ยัง
มีถ่ายรวม 2 ครอบครัวอีก ต่อจากมิ้กกี้เม้าส์ก็เจอด่านสโนวไวท์อีก ถามเด็กจิ๋วว่าอยากจะ
ถ่ายรูปคู่ไม๊ เด็กจิ๋วก็บอกว่าอยาก ซึ่งแปลกว่าอยากจริงๆ ถ้าไม่อยากเด็กจิ๋วก็จะบอกว่าไม่
อย่างเช่น วู้ดดี้ ถามว่าอยากไม๊ ก็บอกว่าไม่อยาก เด็กจิ๋วดีใจมาก โดนสโนว์ไวท์ตัวจริงกอด
เข้าไปหนึ่งที สงสัยคิดว่าเป็นสโนวไวท์จริงๆหรือเปล่าเนี่ยะ
...เสียเวลากับการเข้าคิวถ่ายรูปไร้สาระอยู่นานมาก กว่าจะเดินมาถึง Toy Story Town เพิ่ง
เปิดใหม่ปีที่แล้ว เด็กจิ๋วเล่นสลิงกี้ด้อก เป็นนั่งตัวหมาแล้ววิ่งขึ้นๆลงๆ คล้ายๆรถไฟเหาะอ่ะ
ไม่มีความเสียวใดๆทั้งสิ้น ต่อด้วยเครื่องเล่นโดดร่ม อันนี้คนที่กลัวเป็นคุณแม่ไม่ใช่เด็กจิ๋วนะ
มีคุณแม่คนเดียวที่กรี๊ดๆตลอดเวลา เด็กจิ๋วเองพอตอนที่เก้าอี้เริ่มลอยขึ้นไป ก็ตกใจ รีบมา
เกาะแขนปะป๊าไว้ หลังจากนั้น เก้าอี้ก็จะเลื่อนขึ้นๆลงๆ ที่จริงมันก็เสียวเล็กๆนะ ไม่แน่ใจว่า
เด็กจิ๋วรู้สึกยังไง พอถามว่าสนุกไม๊ เด็กจิ๋วบอกว่า “ชอบ แต่ไม่สนุก มันรู้สึกยังไงไม่รู้”...เรา
เลยบอกว่า เนี่ยะเค้าเรียกว่า เสียว ตื่นเต้น
...คราวนี้ไม่ได้เน้นเล่นเครื่องเล่นทุกชิ้นให้ครบอยู่แล้ว เพราะหลายอย่างเด็กจิ๋วก็เล่นไม่เป็น
ที่จริงในโซนนี้จะมีเรือไวกิ้งอีก แต่ไม่ได้เล่น ออกจากเมือง Toy Story ก็ไปกินข้าวกัน เลือก
ร้านอาหารจีน อาหารอร่อยดี ค่าอาหารประมาณ 1,800 บาท
...หลังมื้อกลางวันก็ไปเล่น 4D ตอนแรกเด็กจิ๋วไม่ยอมใส่แว่น ปะป๊าต้องเอามือจับแว่นไว้
ให้ เด็กจิ๋วตลกมาก พยายามเอามือเอื้อมไปคว้าโน้นนี่ แสดงว่าดูเป็น เหมือนของลอยออก
มาจริงๆ เสร็จแล้วก็เล่น Small World, หมีพู, ช้างดัมโบ้ ที่จริงเด็กจิ๋วอยากจะเล่นม้าหมุน
มาก แต่เราแกล้งเนียนหลบหลีกบอกว่าเดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อน เพราะมันเป็นแบบธรรมดาอ่ะ
เล่นที่ไหนก็ได้ พอตอนบ่ายสามก็ไปนั่งรอชมขบวนพาเหรดกัน เด็กจิ๋วตั้งหน้าตั้งตารอเจ้า
หญิงราพันเซลมาก ตั้งแต่เข้ามาแล้ว ถามว่าจะเจอไม๊ เราก็บอกว่าไม่แน่ ต้องตามหาก่อน
น่าจะอยู่ในดีสนีย์แลนด์เนี่ยะแหล่ะ พอตอนขบวนพาเหรดมาก็มีเจ้าหญิงหลายคน แต่ไม่
มีราพันเซลเลย เสียใจด้วยนะเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วชอบใจขบวนพาเหรดมาก พยายามเอื้อมมือ
ขอไปจับมือกับตัวต่างๆ แต่ไม่มีใครมองเห็นเลย 
...ตั้งแต่มาที่ฮ่องกง เด็กจิ๋วเจออากาศหนาวคงจะสงสัย ถามโน่นนี่ เราก็เลยบอกว่า ที่นี่
เป็นประเทศฮ่องกง อากาศไม่เหมือนที่เมืองไทย มันจะหนาวๆแบบนี้แหล่ะ แต่วันนี้แดด
แรงมาก ท้องฟ้าโปร่งเชียว เด็กจิ๋วถามว่า “นี่เรายังอยู่ฮ่องกงหรือเปล่า ทำไมมันร้อนแล้ว
อ่ะ”
...ตอนนี้เด็กจิ๋วหิวมาก ต้องพาไปหาวัฟเฟิ้ลหน้ามิ้กกี้เม้าส์ให้กิน กินเสร็จก็หมดแรงสลบ
ไปทันที ที่จริงอยากจะเล่น Buz Lighyear อีกอย่างเพราะจำได้ว่าสนุก แต่ไม่สามารถละ
เวลาก็หมดเร็วมาก ตอนนี้มึดแล้ว เลยพากันกลับเลย ไม่รอดูพลุด้วย
...ออกจากดีสนีย์แลนด์ เรายังไปช้อปต่อที่ City Gate อีกแป๊บหนึ่ง แล้วถึงตามไปเจอกับ
อากงอาม่าที่บ้านโซ้ยโกว ราคาคอนโดที่นี่แพงมาก ห้อง 60 ตารางเมตรราคาประมาณ 24
ล้านบาท ถ้าจะเช่าก็เดือนละ 70,000 บาท เราร่ำลากันอยู่สักพักก็นั่งแท็กซี่กลับโรงแรม
ต้องมาจัดกระเป๋า มีของเล่นเยอะมากต้องแพ็กกันจนตีหนึ่ง ส่วนเด็กจิ๋วต้องให้เล่น iPad
ไปเรื่อยๆ กว่าจะหลับก็ตีหนึ่งเหมือนกัน เล่นจนตาแฉะเลย เล่นไป 2 ชั่วโมงได้
...วันสุดท้ายเราแวะกินติ่มซำแถวๆโรงแรม ซึ่งอร่อยมาก อร่อยกว่าร้าน michalin อีก แล้ว
ก็นั่งรถเมล์ A21 ไปสนามบิน ตอนนี้เด็กจิ๋วบอกว่า “ทำไมกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ”...นั่นไง
ไม่สบายแล้วไง เมื่อวานตอนเดินช้อปปิ้งก็บอกว่าให้ใส่แจ็คเก็ดเพราะอากาศมันหนาว แต่
เด็กจิ๋วดื้อมากไม่ยอมใส่ คุณแม่บอกว่าเหมือนปะป๊าเลย เพราะปะป๊าก็ไม่ยอมใส่ คือเวลา
ใส่แล้วตอนเดินที่ถนนก็โอเค แต่พอเข้าไปในร้านก็ร้อน ต้องถอด เดินเข้าๆออกๆก็เลยไม่ใส่
มันเลย ไม่สบายจริงๆด้วยเด็กจิ๋ว ปะป๊าเองก็เป็นเหมือนกัน คุณแม่สมน้ำหน้าใหญ่ ตอนนั่ง
เครื่องบินกลับ ระหว่างเครื่องกำลังลดระดับเพดานบินลง เด็กจิ๋วบอกว่า “ทำไมเสียงหนูเบา”
ตลกมาก มันเรียกว่าหูอื้อ ว่าแล้วเด็กจิ๋วก็ร้องโวยวาย “เจ็บหู เจ็บหู”...บอกว่าให้กลืนน้ำลาย
ก็ไม่ยอม ให้งับอากาศก็ไม่เอา คือกำลังเจ็บแล้วงอแงอาละวาดไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น ในที่สุด
ปะป๊าต้องเอาทาโร่มาเล่นเกมส์กินแบบต่างๆกับเด็กจิ๋ว ถึงได้ยอมกินแล้วอาการก็ดีขึ้น ตอน
เดินทางมาถึงกรุงเทพฯแล้ว เด็กจิ๋วถามคุณแม่ว่า “คุณแม่ พรุ่งนี้เราจะไปฮ่องกงกันอีกไม๊”
ฮ่องกงนะ ไม่ใช่ไปกันง่ายๆนะ ตลกแล้ว

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

3 ขวบ 2 เดือน

๓ ขวบ + ๖๒ วัน...ศุกร์ ๑ มีนาคม ๒๕๕๖
...เด็กจิ๋วเล่นเลโก้อยู่ กำลังต่อโรโบ้คาร์โพริ ต่อไปต่อมาก็บอกว่า “ต้องใส่น้ำเชื่อมเยอะๆ”
งงว่าน้ำเชื่อมคืออะไร อ๋อ มันคือตัวเชื่อม ปะป๊าเคยสอนไว้


๓ ขวบ + ๖๓-๖๖ วัน...เสาร์ ๒ มีนาคม – อังคาร ๕ มีนาคม ๒๕๕๖

...ไปเที่ยวฮ่องกงกับอากงอาม่าเตาปูน --> N’Prim@HongKong


๓ ขวบ + ๖๗ วัน...พุธ ๖ มีนาคม ๒๕๕๖

...เมื่อวานเด็กจิ๋วเริ่มมีอาการป่วย พอเมื่อคืนรู้สึกจะหนักขึ้น มีน้ำมูกแต่ก็ยังไม่มีไข้ ส่วน
ปะป๊าก็ไม่แพ้กัน เหมือนอาการจะหนักกว่าเด็กจิ๋วด้วยซ้ำเพราะมีไข้หน่อยๆ เด็กจิ๋วร้อง
ขอกินยาตั้งแต่ตอนอยู่ที่สนามบินฮ่องกงเมื่อวานแล้ว แต่หาซื้อไม่ได้ วันนี้ได้มารีบขอมา
กินใหญ่ ตอนนี้เก่งมากๆ กินยาได้เอง ทั้งตัวคาราเมลที่ชื่นชอบและตัวที่อร่อยน้อยหน่อย
...ของเล่นเด็กจิ๋วที่ซื้อมาจากฮ่องกง วางเรียงรายเต็มเตียงหน้าห้องโฮม ปะป๊าบอกเด็กจิ๋ว
ว่า หนูเป็นเด็กที่มีของเล่นเยอะที่สุดในโลกเลยนะ เพราะปะป๊ารักหนูมาก ตอนเย็นเอารถ
ไฟโธมัสมาเล่น เด็กจิ๋วยังไม่รู้จัก Thomas เลยไปหาการ์ตูนใน Youtube เปิดให้ดู แต่หา
ยากมาก มีแต่เพลง แบบที่เป็นการ์ตูนตอนๆเหมือนสมัยจาน่าไจโรดู หาไม่เจอ สรุปแล้ว
ก็ยังไม่ได้ดูอย่างจริงจัง พอปะป๊าต่อรางรถไฟให้เสร็จก็ไม่สนใจ รื้อรางรถไฟเอาไปถือเล่น
ทำเป็นไมโครโฟนแล้วเต้นไปเต้นมา
...วันนี้เอาคุ้กกี้ ตุ๊กตาที่น้าหญิงซื้อให้ไปเติมกล่องเสียงที่เซนลาด มือซ้ายเป็นกล่องเสียง
แบบอัดได้ มือขวาเป็นเพลง Happy Birthday แนวแดนซ์ เด็กจิ๋วชอบ Happy Birthday
จังหวะแดนซ์นี้มาก กดเล่นต่อเนื่องเป็น 10 รอบ แล้วเต้นตามไปด้วย น่าจะสงเสริมเรื่อง
เต้นดีไม๊


๓ ขวบ + ๖๘ วัน...พฤหัส ๗ มีนาคม ๒๕๕๖

...คุณแม่บอกว่าเมื่อคืนนี้เด็กจิ๋วทรมานมาก นอนไม่ค่อยได้เพราะมีน้ำมูก เวลาจะหลับก็
ตื่นขึ้นมาฟื้ดฟาด กลางดึกเหมือนละเมอ พยายามปีนที่นอนจะขึ้นมาหาคุณแม่ แล้วโน้ม
หัวคุณแม่ไปกอดแทนหมีหมี
...เด็กจิ๋วตื่นแต่เช้า ปลุกคุณแม่บอกว่า “คุณแม่ คุณแม่ เช้าแล้ว...แต่นอนต่อก็ได้นะ” พูด
เสร็จก็ล้มลงไปนอนแล้วหลับต่อ ตกลงละเมอหรือเปล่าเนี่ยะ
...วันนี้กินยาเองอีกแล้ว ยาคาราเมลของโปรดไม่มีปัญหา แต่ยาแก้แพ้ที่ขมนิดหน่อย ตอน
แรกก็พยายามบ่ายเบี่ยง คุณแม่เลยหลอกว่าให้ไปโชว์กินยาให้พี่ๆดู เด็กจิ๋วบ้าจี้กินยาจาก
ไซลิงค์จนหมด เก่งมาก อี๊ป้อมบอกว่าเห็นแล้วน้ำตาจะไหล ช่างแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
ตอนนั้นจับยึดกัน 3 คน แล้วใช้ไซลิงค์ฉีดอัดเข้าไป แต่ไม่ค่อยได้ผลเพราะป้วนออกมาหมด


๓ ขวบ + ๖๙ วัน...ศุกร์ ๘ มีนาคม ๒๕๕๖

...เมื่อคืนปะป๊ากับเด็กจิ๋วช่วยกันรื้อโมเดลออกจากกล่อง เด็กจิ๋วพยายามช่วยทุกขั้นตอน
ช่วยแกะสก็อตเทป ช่วยจับ ช่วยแปะ ดูมีความตั้งใจจะช่วยจริง แต่ยิ่งช่วยก็ยิ่งยุ่งเข้าไป
ใหญ่ ตอนนี้มีปัญหาโมเดลร้นตู้ ไม่รู้จะเก็บยังไง
...ตอนอยู่ที่ร้านของเล่นในฮ่องกง เด็กจิ๋วพยายามจะให้ซื้อชุดอุปกรณ์คุณหมอให้ได้ เราดู
แล้วมันน่าตาโง่มาก อันละ 100 กว่าบาท ที่บ้านก็มีอยู่แล้ว ดีกว่าตั้งเยอะ แต่เด็กจิ๋วยืนยัน
จะเอาอันนี้ให้ได้ ในที่สุดก็ได้กลับมา วันนี้เอามาเล่นดู มันโง่จริงๆแหล่ะ แต่เด็กจิ๋วก็ชอบจัง
เลย วันนี้เล่นเป็นคุณหมอทั้งวัน
...เจ๊น่ามาบ่นๆว่าของที่ซื้อมาฝากจากฮ่องกง ซ้ำกับที่มีอยู่แล้ว เจ๊น่ายังงี้ทุกทีเลย เวลาได้
ของจากคนอื่นก็จะต้องบ่นทุกครั้ง ไม่เคยพอใจกับของที่ได้ คราวก่อนก็โวยวายใหญ่เพราะ
ได้ตะหลิวมิกกี้จากอากู๋ใหญ่ ส่วนไจโรชอบหุ่นยนต์แมลงสาบมาก แต่มาว่าเราใจร้ายอีกที่
ซื้อมาให้ตัวเดียว ทำไมไม่ซื้อมาเยอะๆ
...วันนี้เอาของเล่นทิงเกอร์เบลมาเล่น เด็กจิ๋วร้องเพลงทิงเกอร์เบลทันที “ทิงเกอเบล ทิงเกอ
เบล ทิงเก้อ ออลเดอะเวย์”


๓ ขวบ + ๗๐ วัน...เสาร์ ๙ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้อยู่บ้านทั้งวันตามเคย ตอนเช้าเปิดการ์ตูนเรื่อง เจ้าหญิงเทียน่าให้ดู เพิ่งดูไปสอง
อาทิตย์ก่อนเอง วันนี้บอกว่ายังไม่เคยดู พอตอนบ่ายดูหนังเรื่อง Imposible เป็นเรื่องเหตุ
การณ์สินามิที่ประเทศไทย เด็กจิ๋วก็ตั้งใจดูจนจบเลย


๓ ขวบ + ๗๑ วัน...อาทิตย์ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้ไปเช้งเม้งกัน ออกจากบ้าน 6 โมง ไปถึงประมาณ 8 โมง ถามเด็กจิ๋วว่าเคยมาที่นี่ไม๊
เด็กจิ๋วตอบว่า “ไม่เคย” ที่จริงแล้วเคยมาปีที่แล้ว แสดงว่าจำไม่ได้จริงๆ เจ๊น่ายังจำได้เลยอ่ะ
บอกว่าคราวที่แล้วเด็กจิ๋วพูดว่า “มีบ้านหลังเล็กๆเยอะ เต็มไปหมดเลย” แต่พอคุยกันเรื่อง
ไฟระเบิดกัน เด็กจิ๋วก็พูดว่า “ต้องกินข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยจุดไฟระเบิด”...แสดงว่าเริ่ม
จะจำได้บ้างแล้ว เพราะปกติต้องกินข้าวเสร็จแล้วถึงจุดประทัดจริงๆ
...ทุกครั้งเด็กๆจะรับผิดชอบในการปักธง ติดสายรุ้ง แล้วก็โรยกากเพ็ชร เด็กจิ๋วก็ไปช่วยพี่ๆ
ทำ ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ทำอะไรก็ไม่ได้ ได้แต่เดินไปเดินมาก็สนุกแล้ว
...ที่เช้งเม้ง ปะป๊าเป็นคนนำเด็กๆทั้ง 6 คนเล่นเกมส์กัน ตั้งแต่เกมส์พูดต่อคำ เกมส์ทำตรง
ข้าม พี่โฮไอไม่ยอมเล่นด้วยเลย สงสัยคิดว่าเล่นอะไรกัน ติงต๊อง มาถึงเกมส์ให้ทำท่าที่ฝ่าย
ตรงข้ามทำไม่ได้ เด็กจิ๋วไอเดียวบันเจิดมาก ปีนขึ้นไปบนสุสาน นอนคว่ำ แล้วเหยียดแขนขา
เฮียโรเป็นคนที่ต้องทำตาม ด้วยความอ้วนของเฮียโร เกือบจะแพ้เด็กจิ๋วซะแล้ว ต้องช่วยกัน
จับอยู่ตั้งนานกว่าจะทำเลียนแบบได้สำเร็จ
...กลับจากเช้งเม้งก็พากันไปดูคอนโดพี่โฮไอ ห้อง 60 ตารางเมตรแคบไปเลยสำหรับคน 15
คน เด็กๆดูคอนเสิร์ตพี่เบิร์ดกัน มีเด็กจิ๋วที่โชว์สเต็บเทพได้ใจทุกคนไป ทุกคนบอกเป็นเสียง
เดียวกันว่ามีแววเรื่องการเต้นมากๆ สงสัยต้องสงเสริมซะแล้ว ตอนนี้เวลาเด็กจิ๋วเต้น จะมี
ออกสเต็บก้าวขาไขว้สลับไปมา ไม่ได้กระโดดเหยงๆอย่างเดียวนะ
...เสร็จแล้วก็มาต่อกันที่ห้องเด็กจิ๋ว เล่นของเล่นกันแล้วก็เปิดการ์ตูนเรื่องเต่าทะเล จำชื่อ
เรื่องไม่ได้ แต่สนุกดี เด็กทุกคนตั้งใจดูกันใหญ่ มีแต่พี่โฮไอที่พอเริ่มเปิดก็ร้องไห้แล้วหนีไป


๓ ขวบ + ๗๒ วัน...จันทร์ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้เด็กจิ๋วได้ของเล่นโรโบ้คาร์โพลิแล้ว คุณแม่ฝากอี๊ตุ้ยซื้อมาจากเกาหลี ตัวหนึ่งแพง
มาก 750 บาท ที่อเมริกาตัวละ 500 เอง ทำไมซื้อที่เกาหลีบ้านเกิดแท้ๆถึงได้แพงจัง เด็ก
จิ๋วดีใจมากเอามาเล่นใหญ่เลย เอาไปโชว์พี่ๆทุกคนด้วย
...ตอนกลางวันพาเด็กจิ๋วไปกินบุฟเฟ่ที่ Takumi เด็กจิ๋วไปเป็นครั้งที่ 5 ได้แล้ว ทุกครั้งที่ไป
ก็จะกลัวว่าเค้าจะคิดเงินเด็กจิ๋วไม๊ วันนี้ก็รอดไปยังไม่คิด ได้กินปูอัดไปเยอะ ก๋วยเตี๋ยว ไข่
ตุ๋น แล้วก็สาหร่ายของปะป๊า กินซะฟันดำเลย ตบท้ายด้วยไอติมวนิลา เด็กจิ๋วอร่อยมาก
บอกว่า “ให้คุณแม่พามากินอีกนะ”
...อาการหวัดยังไม่หายอีก อาทิตย์หนึ่งแล้วนะ นอกจากเด็กจิ๋วกับปะป๊าจะเป็นหวัดแล้ว
เพิ่งรู้ว่าน้องหยัดก็เป็นหวัดด้วย


๓ ขวบ + ๗๓ วัน...อังคาร ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖

...ช่วงสองสามเดือนที่แล้ว เด็กจิ๋วไม่ยอมนอนกลางวันเลย แต่มาอาทิตย์ที่ผ่านมานี่นอน
กลางวันทุกวัน คาดว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยา แต่เมื่อวานไม่ยอมนอนอีก พอทุ่มหนึ่งก็ง่วงจัด
อาละวาดหนัก อาบน้ำเสร็จ ปะป๊าเอาผ้าขนหนูห่อตัวพาเข้าห้องนอน เด็กจิ๋วบอกหนาว
ปะป๊าก็จับอุ้มนั่งตักแล้วกอดไว้ หลังจากนั้นเด็กจิ๋วก็ไม่ยอมเปลี่ยนท่าอีกเลย จะใส่เป้อร์
ใส่เสื้อผ้าก็ไม่ยอม ให้กอดไว้ท่านิ่งๆจนหลับไปเลย
...เด็กจิ๋วชอบไปขอไวตามิน C ของเจ็น่ากิน วันนี้เจ๊น่าไม่อยู่ เด็กจิ๋วไปขออาม่ากินแทน
ทุกครั้งที่กิน เด็กจิ๋วจะใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่จะเคี้ยวได้สักที ปะป๊าสอนไว้ว่าต้องอมไว้
ก่อน พอเหลือเม็ดเล็กๆถึงจะเคี้ยวได้ เด็กจิ๋วพอเอาใส่เข้าปากปั๊บ ก็อ้าปากให้ปะป๊าดู
ว่าเคี้ยวได้ยัง เราบอกว่ายัง ก็อมต่ออีก 5 วินาที แล้วอ้าให้ดูใหม่ ใจร้อนอยากจะเคี้ยว
ให้ได้ เด็กจิ๋วเรียกไวตามิน C ว่า “ไวตามินมิ้นซี”


๓ ขวบ + ๗๔ วัน...พุธ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖

...เมื่อคืนนี่เป็นอะไรไม่รู้ ตอนจะนอน บอกให้ปะป๊ากอดแน่นๆ กอดไม่แน่นก็โวยวาย
พอกอดแน่นก็ร้อง “อึก อึก”...กลัวจะอ้วก ให้กอดจนหลับไปเลย
...เด็กจิ๋วยังคงแกล้งคุณแม่เรื่องหนูอยู่ทุกวัน พอเล่นเกมส์เจอหนูก็จะเรียกคุณแม่มา
ดู วันนี้อี๊ตุ๋มซื้อแผ่น ก ข ค แบบมีเสียงพูดให้ แล้วมันมีรูปหนูจริงๆอยู่ คุณแม่เอาโพส
อิทมาแปะบังเอาไว้ แต่เด็กจิ๋วแกล้ง พอคุณแม่เดินมาก็แกล้งแกะออก
...ตอนเย็นเจ๊น่ากับเฮียโรขึ้นมาเล่นด้วย เฮียโรต่อรางรถไฟ Thomas ให้ ดูเหมือนเด็ก
จิ๋วจะไม่ค่อยสนใจ หรือมันเป็นของเล่นผู้ชาย ที่จริงแล้วคนที่อยากเล่นก็คือปะป๊านี่เอง
แหล่ะ เด็กจิ๋วสนุกกับการเอาโมเดลเจ้าหญิงมายืนบนรางให้รถไฟชนเล่น 


๓ ขวบ + ๗๕ วัน...พฤหัส ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖

...เมื่อคืนนี้ยังอาการเดิม ให้ปะป๊านอนกอดแน่นๆ ปัญหาก็คือเด็กจิ๋วใช้เวลานานมาก
กว่าจะหลับได้ ปะป๊ากอดอยู่แล้วก็เผลอหลับไปก่อน ปล่อยมือออก พอปล่อยมือเท่านั้น
แหล่ะ เด็กจิ๋วก็โวยวายฟ้องคุณแม่ว่า ปะป๊าไม่ยอมกอด ปะป๊าก็ต้องสะดุ้งมากอดใหม่
เป็นแบบนี้หลายรอบ จนใครหลับไปก่อนก็ไม่รู้
...ซื้อพริงเกิ้ลรสชีสมากิน กะจะเอาไปกินที่เกาะนางยวน แต่เสร็จเด็กจิ๋วไปแล้วครึ่งป๋อง
ชอบกินมาก


๓ ขวบ + ๗๖ วัน...ศุกร์ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้ปะป๊ากับคุณแม่ไปงานรักลูกกัน ตั้งใจไป ซื้อโป๊ะโก๊ะ โดยเฉพาะ ซึ่งจริงๆแล้วคิด
ค่ารถไปกลับ ค่าที่จอด ค่าเสียเวลาก็ไม่ค่อยคุ้มหรอก ก็เลยต้องหาซื้อของอื่นๆมาด้วย
ได้แปรงสีฟันใหม่ ยาสีฟันรสผลไม้ หนังสือ 2 เล่ม แล้วก็ของเล่นอีกนิดหน่อย
...ตอนเย็นพาเจ๊น่าไปเรียนเปียโนที่โลตัส เด็กๆทุกคนเลยขอติดรถไปด้วย เด็กจิ๋วนั่งมอง
ทางตลอดเวลาอย่างตั้งอกตั้งใจ ถามว่าดูอะไร เด็กจิ๋วตอบว่า “คอยดูว่าปะป๊าขัยรถชน
หรือเปล่า จะได้เรียตำรวจมาจับปะป๊าไปติดคุก”...ลูกกตัญญูมากๆ


๓ ขวบ + ๗๗ – ๗๙ วัน...เสาร์ ๑๖ – จันทร์ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖

...ไปเกาะนางยวนกับพี่โนพี่โน่ --> N’Prim@ NangYuan Island


๓ ขวบ + ๘๐ วัน...อังคาร ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้ซ้อมตื่นเช้ากัน ถ้าเปิดเทอมแล้วต้องตื่น 6 โมง แต่วันนี้ซ้อมแค่ 7 โมงก่อน ตื่น
แล้วปะป๊าก็พาไปล้างรถกัน คิดว่าเด็กจิ๋วไม่มีปัญหาเรื่องตื่นเช้านะ อย่างวันนี้บอกว่า
ให้รีบตื่นจะพาไปล้างรถ เด็กจิ๋วก็ยอมลุกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่โดยดี ถึงแม้จะมีอาการ
งัวเงียเล็กน้อย ใส่เสื้อผ้าไปก็ล้มตัวลงนอนต่อเป็นระยะๆ
...อาทิตย์ที่แล้วเจ๊น่ากับเฮียโรมาเล่นด้วยเพราะปิดเทอม พอมาอาทิตย์นี้พี่โฮไอก็มา
เพิ่มอีกคน ปิดเทอม เด็กๆมาเล่นกันที่ออฟฟิตดังลั่นเลย รู้สึกว่าเด็กจิ๋วจะติดอาการ
อาละวาดมาจากเจ๊น่า ช่วงนี้อาละวาดหนักเหลือเกิน


๓ ขวบ + ๘๑ วัน...พุธ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้ซ้อมตื่นเช้า 7.30 โมง พาเด็กจิ๋วไปโลตัส ตั้งใจจะไปซื้ออุปกรณ์เปิดเทอม แต่
ของไม่ค่อยมี ได้ถุงเท้ามาคู่หนึ่ง กับปากกากันน้ำ สำหรับมาเขียนของใช้เด็กจิ๋วทั้ง
หมด มีคำขู่ว่าถ้าไม่เขียนไป คุณครูที่โรงเรียนจะเขียนให้ ซึ่งจะออกมาน่าเกลีดมาก
วันนี้เด็กจิ๋วไม่ยอมตื่นโดยดีเหมือนเมื่อวาน งัวเงีย งอแงเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นกรี๊ด
โวยวาย ดึงลุกขึ้นมาก็ทิ้งตัวลงไป เปลี่ยนชุดให้ก็ไม่สำเร็จ ต้องอุ้มแบบหลับๆไปขึ้น
รถ สงสัยตอนไปโรงเรียนก็ต้องไปแต่งตัวกันในรถแน่ๆเลย
...หลังจากกลับจากเที่ยว เด็กจิ๋วเหมือนจะป่วยอีกแล้ว มีน้ำมูก เลยต้องให้กินยาอีก
ปกติจะมียาอยู่ 2 ตัว เป็นยาแก้ไอ Fruiford รสคาราเมล เด็กจิ๋วชอบมาก อีกตัวเป็น
ยาแก้แพ้ Fartex รสน้ำเชื่อม ตัวนี้ไม่ค่อยชอบ แต่ก็พอกินได้ ตอนนี้กินได้เองทุกครั้ง
แต่ต้องหลอกล่อนิดหน่อย ให้โชว์คนโน้นคนนี้ วันนี้คุณแม่บอกว่ากินยาน้ำเชื่อมตัว
เดียวพอนะ เพราะไม่ได้ไอแล้ว เด็กจิ๋วบอกว่า “เมื่อกี้น้องพริมไอทีหนึ่ง”...คืออยากจะ
กินคาราเมลนั่นเอง
...ในที่สุดก็หาของเล่นแม็คโดแนลที่หายไปหลายเดือนเจอแล้ว ตอนนั้นปะป๊าอุตส่าห์
พยายามตามเก็บของเล่นชุดฮีโร่ของแม็คโดแนล ซื้อมาเล่นได้สักพักแล้วหายสาบสูญ
ไป ตอนนั้นก็โทษเด็กจิ๋วไว้ก่อน พอมาวันนี้เจอจนได้ อยู่ในกระเป๋านักเรียนของเด็กจิ๋ว
เด็กจิ๋วจริงๆด้วย เอาไปใส่ไว้ ตอนนี้กำลังเตรียมข้าวของไปโรงเรียนเลยโชคดีเจอจนได้


๓ ขวบ + ๘๒ วัน...พฤหัส ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้ซ้อมตื่นเช้าพาไปตลาดอตก. ซื้อข้าวกลางวันมากินกัน วันนี้งอแงมากกว่าเมื่อ
วาน สงสัยเมื่อวานนอนน้อย
...อี๊ป้อมซื้อองุ่นมาให้เด็กๆกิน มีเด็กจิ๋ว เฮียโร โฮไอ เด็กจิ๋วกินข้าวก่อน ส่วนพี่ๆให้กิน
องุ่นได้เพราะกินข้าวแล้ว เฮียโรนี่ถ้าชอบกินอะไรแล้วจะกินไม่ยั้ง ว่าแล้วก็คว้าองุ่นใส่
ปาก ปั๊บๆปั๊บๆ มีหยิบใส่มือซ่อนไว้ข้างหลังมือหนึ่ง ระหว่างที่อีกมือหนึ่งก็หยิบเข้าปาก
แป๊บเดียวเอง เหลือ 3 เม็ด เด็กจิ๋วกินข้าวยังไม่เสร็จ แต่รีบพุ่งตัวมาคว้าองุ่นที่เหลือ บอก
ว่า “อื้อออ น้องพริมไม่ให้แล้ว อันนี้ของน้องพริม”
...ตอนบ่ายเด็กจิ๋วโทรไปหาอาม่า บอกว่า “นี่น้องพริมเองจ๊า น้องพริมจะไปโรงเรียนแล้ว
จ๊า” ไปเอาพูดจ๊าจ๊ามาจากไหนไม่รู้


๓ ขวบ + ๘๓ วัน...ศุกร์ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖
...เด็กจิ๋วกินอาหารเช้ากับคุณแม่ มีพายไส้กรอก พายไก่ มาถึงทาร์ตไข่ เด็กจิ๋วถามว่า
“นี่พายเปล่าเหรอ” เพราะมันไม่มีไส้
...ปะป๊าท้าดวนเล่นเกมผลัดกันพูดคำกับเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วเล่นเก่งมาก หลังจากที่ไล่สีนั้น
สีนี้มาจนถึงตาปะป๊าซึ่งตัดสินใจเข้าสู่ level ยากขึ้น ปะป๊าพูด สีชมพูบานเย็น เด็กจิ๋ว
สวนกลับมาทันที “สีชมพูบานร้อน”...ปะป๊าต่อ สีแดงเลือดหมู เด็กจิ๋วตอบอีก “สีแดง
เลือดหมา”
...คุณแม่คุยกับพี่โฮไอ ...อย่างนั้งอย่างนี้สิลูก เด็กจิ๋วได้ยินก็ตะโกนออกมาว่า “นี่ ลูก
อยู่นี่” พร้อมกับชี้มือมาที่ตัวเอง คงงงว่าทำไมแม่เราไปเรียกพี่โฮไอว่าเป็นลูก


๓ ขวบ + ๘๔ วัน...เสาร์ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๖
...เด็กจิ๋วรู้ได้ไงว่าวันนี้เป็นวันหยุด ตื่นแต่เช้ามาถามคุณแม่ว่า “วันนี้วันอะไร” พอรู้ว่าวัน
หยุดก็ดีใจ เพราะได้ดูการ์ตูน รีบตามปะป๊าพาไปดูการ์ตูนจอใหญ่ วันนี้ดูเรื่อง Zamosia
เป็นนกเหยี่ยว สนุกดี
...ดูการ์ตูนเสร็จก็ไปกินข้าวแล้วกลับมาดูหนังไทยกัน เรื่องมนุษย์เงินเดือน เด็กจิ๋วดูบ้าง
เล่นบ้าง กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในห้องโฮม ช่วงนี้อากาศร้อนสุดๆ ควรนอนกลิ้งไปมาอยู่แต่ใน
ห้องโฮมอะดีที่สุด จะขึ้นไปเล่นดาดฟ้ายังไม่ไหวเลย
...ตอนเย็นๆพากันไปวิลล่ารัชโยธิน ไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร แล้วก็ซื้อของนิดหน่อย


๓ ขวบ + ๘๕ วัน...อาทิตย์ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้ที่รอคอย เด็กจิ๋วได้ไปดูดีสนีย์ออนไอซ์แล้ว ที่จริงตื่นเต้นมานานหลายเดือนก่อน
หน้านี่ พอถึงวันจะไปจริงๆ เริ่มเฉยๆแล้ว ตอนที่จองบัตร คุณแม่เปิด youtube บิ้วเด็กจิ๋ว
ไว้เยอะไง มีเจ้าหญิงนั่นนี่ เด็กจิ๋วก็อยากไปดูมาก พอมาหลังๆไม่ได้เปิดให้ดู เลยเงียบๆ
ไป ตอนเช้าปลุกขึ้นมาบอกว่าจะไปดูเจ้าหญิงกัน ก็เฉยๆ
...เราไปถึง Impact ประมาณ 10 โมงนิดๆ เจอเด็กแต่ละคน แต่งตัวมาอลังการมาก แต่ง
ชุดเจ้าหญิงกันมาหลายสิบคนเลย ส่วนใหญ่เป็นซินเดอร์เรลล่า กับราพันเซล เพิ่งรู้ว่าเด็ก
ชอบราพันเซลกันเยอะมาก บริเวณรอบๆงนมีขายของที่ระลึกเยอะเลย แต่ไม่ได้ซื้ออะไร
เพราะของไม่ค่อยสวย แล้วเด็กจิ๋วก็มีของโน่นนี่เยอะมากแล้วด้วย เข้าไปดูนิทรรศการชุด
เจ้าหญิงก็จัดได้แย่มาก ไม่มีอะไรเลย
...โชว์ใช้เวลาแสดง 2 ชั่วโมง มีพักครึ่ง 15 นาทีด้วย รู้สึกผิดหวัง เพราะไม่ค่อยสนุก ช่วง
ที่เจ้าหญิงแต่ละคนออกมาก็นิดเดียว มีพวกตัวประกอบออกมาเล่นเรื่องราวซะเยอะ เรา
เบื่อ เด็กจิ๋วก็เบื่อเหมือนกัน ถามว่าเมื่อไหร่ราพันเซลจะมา วันนี้มีเจ้าหญิง 8 คน บางคน
ก็มีเรื่องราวนานเลย อย่างอาละดินกับแอเรียล ส่วนราพันเซล มาเป็นคนสุดท้าย มิหนำซ้ำ
ไม่มีเรื่องราวอะไรทั้งสิ้น ออกมาเล่นสเก็ตหมุนไปมาตามเพลง แล้วก็จบเลย ทำร้ายจิตใจ
เด็กมากๆ เด็กจิ๋วก็ดูๆเบื่อๆ บางช่วงก็ตั้งใจดู ตบมือชอบใจ บางช่วงก็เบื่อ หันไปสนใจเด็ก
คนอื่น แกล้งคุณแม่ นอนหงายบนเก้าอี้ ตอนจบออกมาเด็กจิ๋วร้องขอกินน้ำแข็งไม่ใส เรา
ไม่ให้กินเพราะเด็กจิ๋วป่วยอยู่ แกล้งบอกว่าเดี๋ยวหาให้ แล้วก็เดินดุ่มๆกลับบ้านเลย แต่ว่า
เด็กจิ๋วรู้ทัน อาละวาดร้องโวยวาย หยิกหน้าปะป๊าด้วย สงสัยเป็นอาการง่วง ผสมกับหิว
...กลับมาถึงบ้านสักพัก อากง อาม่าราชบุรีก็มาหา อาม่าทำผ้าเช็ดมือสำหรับเตรียมไป
โรงเรียนมาให้ แล้วก็ทำผ้าเช็ดหน้าติดห่วงสำหรับคล้องกับกระดุมเสื้อหนังเรียนให้

 
๓ ขวบ + ๘๖ วัน...จันทร์ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้เด็กจิ๋วไปโรงเรียนวันแรก เปิดเทอมซัมเมอร์ นัดกับเจ๊น่าออกจากบ้านตอน 7 โมง
ปกติเจ๊น่าออกจากบ้าน 8 โมง ไปโรงเรียนไม่ค่อยทัน วันนี้ออกตั้งแต่ 7 โมง แค่ 20 นาที
ก็ไปถึงโรงเรียนแล้ว เรียกว่ามาเช้าเป็นประวัติการณ์ ส่วนเฮียโรอยู่บ้าน ไม่ยอมไปเรียน
ซัมเมอร์เพราะขี้เกียจ เราปลุกเด็กจิ๋วตั้งแต่ 6.30 ปลุกอยู่นานมาก ไม่กระดุกกระดิกตัว
เลย สุดท้าย ปะป๊าต้องไปงัดขึ้นมา แต่ก็ยังดีที่ไม่โวยวาย ได้แต่บอกว่า “น้องพริมรักหมี
หมีมาก หมีหมีเค้าเย็นมาก”...แล้วก็นอนกอดหมีหมีกลิ้งไปกลิ้งมา ประมาณว่าอยาก
พรากหนูไปจากหมีหมีเลย จะจับไปล้างหน้าแปรงฟันที่อ้างล้างหน้า แต่ไม่สำเร็จ ได้แค่
นอนแปรงนิดหน่อยในห้อง แล้วก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้า
...ตอนอยู่ในรถก็ลั้นลาดี มีเจ๊น่าไปเป็นเพื่อนด้วยแหล่ะ เลยสนุกสนาน ไปจอดรถที่ลาน
จอดของโรงเรียน นั่งกินนมไป 2 กล่อง กับคุ้กกี้เล็กน้อย คุณแม่จัดการเรื่องผมเสร็จเรียบ
ร้อยสวยงาม แล้วพากันเข้าไปส่งที่โรงเรียน เดินเข้าไปข้างในได้ถึงหน้าตึกอนุบาล มีการ
จัดซุ้มดอกไม้ต้อนรับเด็กเปิดเทอมด้วย คุณครูมาคอยรับเด็กที่หน้าซุ้ม ตอนจะจากกันก็
ชุลมุนเล็กน้อยเพราะมีเด็กทยอยเข้ามากันหลายคน ปะป๊าก็ไปจุ๊บแก้มบ๊ายบาย คุณแม่
ก็สั่งเสียเรื่องจะเข้าห้องน้ำให้บอกคุณครู ตอนบ๊ายบายกันเด็กจิ๋วก็ทำหน้างงๆ ชูมือจะให้
ปะป๊าอุ้ม พอดีคุณครูมาจูงมือเข้าไปบอกว่าเข้าไปเล่นของเล่นกัน เด็กจิ๋วก็เดินตามคุณครู
ไปแต่โดยดี ได้ยินเสียงแว่วๆ เด็กจิ๋วถามคุณครูว่า “มีของเล่นด้วยเหรอ”...สรุปแล้วเด็กจิ๋ว
ไม่ร้องไห้ คงเพราะชุลมุนงงๆอยู่
...ปะป๊ากับคุณแม่กลับบ้านมาตั้งหลักครึ่งชั่วโมง พอ 9 โมงก็ออกไปโรงเรียนใหม่ ที่จริงจะ
ไปรับเด็กจิ๋วกลับบ้านตอน 10 โมง แต่รีบไปก่อนเวลา เพราะจะไปดูกล้องวงจรปิดในห้อง
เรียนซะหน่อย นั่งดูอยู่ตั้งนาน หาลูกตัวเองไม่เจอ เพราะกล้องมัวซัวมาก ดูไม่ออกเลยว่า
ใครเป็นใคร นั่งดูอยู่ 20 นาที จนตอนท้ายถึงเพิ่งรู้ว่าคุณครูเปิดกล้องให้ดูผิดห้อง ที่เรานั่ง
ดูอยู่ตั้งนานมันของห้อง /9 เด็กจิ๋วอยู่ห้อง /8 เมื่อดูจากกล้องไม่สำเร็จก็เลยไปส่องดูเองดี
กว่า มีผู้ปกครองที่เป็นแบบเราอยู่หลายคน อยู่กันที่ตึกประถม แอบส่องดูลูกตัวเองที่ตึก
ตรงข้าม ตอนจะเลิกเรียน เห็นคุณครูพาเด็กออกมาเข้าห้องน้ำ ตอนนี้ถึงเพิ่งได้เห็นเด็กจิ๋ว
ดูจากระยะไกลแล้วก็เหมือนโอเค ไม่ดื้อ ไม่งอแง เดินตามที่คุณครูสั่งดี
...พอได้เวลา 10 โมง คุณครูก็เรียกผู้ปกครองเข้าไปรับที่ห้องเรียนได้ เจอครูนิว น่าจะเป็น
ครูประจำชั้นของเด็กจิ๋ว ครูนิวบอกว่าเด็กจิ๋วร้องนิดหน่อย แต่โดยรวมก็โอเค ยังไม่ได้คุย
อะไรกันมากเพราะผู้ปกครองกับเด็กกำลังชุลมุนกันอยู่หน้าห้องเรียน ถามเด็กจิ๋วว่าร้อง
ไห้ทำไม คิดถึงปะป๊ากับคุณแม่เหรอ เด็กจิ๋วก็ตอบว่า “ใช่“ แล้วนิตาร้องหรือเปล่า เด็กจิ๋ว
บอกว่า “นิต้าเค้าไม่ร้องเลยนิดเดียว เพราะนิตาเค้าไม่รักพ่อรักแม่เค้า”...ที่จริงแล้วนิตา
เค้าแกร่งต่างหาก
...วันนี้เจอผู้ปกครองของน้อง นีโอ ด้วย คุณแม่บอกว่าอยู่ห้องเดียวกัน แต่น้องอายุน้อย
กว่าจิ๋วเกือบหนึ่งปีเต็มเลย ปะป๊าพยายามถามเด็กจิ๋วว่ารู้จักน้องนีโอไม๊ เด็กจิ๋วก็บอกว่าไม่
รู้จัก รู้จักแต่นิตาคนเดียว
...ปะป๊าพยายามหลอกถามเรื่องราวที่โรงเรียน แต่ไม่ค่อยได้ความเลย ถามว่าคุณครูชื่อ ครู
นิวใช่ไม๊ เด็กจิ๋วตอบว่า “ใช่ มีครูนิวเยอะแยะเต็มไปหมดเลย”...แปลว่าอะไรอ่ะ แล้วก็ครูเค้า
สอนอะไรบ้างที่โรงเรียน เด็กจิ๋วก็เล่างงไปงงมา แต่สรุปได้ว่า ไปเรียนกับครูฝรั่ง ถามว่าครูพูด
ภาษาอังกฤษหรือเกาหลี เด็กจิ๋วก็ตอบถูกว่า “อังกฤษ” แล้วบอกอีกว่า “ครูสอน up & down”
พร้อมกับทำท่าประกอบด้วย ปะป๊าเดาว่าครูคงสอนเพลง the wheel on the bus go round
and round แน่ๆเลย


๓ ขวบ + ๘๗ วัน...อังคาร ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๖

...อี๊ป้อมเพิ่งมาเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานที่เด็กจิ๋วกลับจากโรงเรียนมากินข้าวใหญ่เลย หิวมาก อี๊
ป้อมถามว่าที่โรงเรียนไม่ได้กินเหรอ เด็กจิ๋วตอบว่า “คุณครูเอาหมูไหม้ไหม้ให้กิน จะกินเข้า
ไปได้ไง กินของไหม้แล้วอันตราย”...เมื่อวานคุณแม่ถามเด็กจิ๋วว่าพรุ่งนี้จะกินข้าวที่โรงเรียน
ไม๊ เด็กจิ๋วก็บอกว่า “เดี๋ยวน้องพริมต้องดูก่อนว่ามันน่ากินไม๊”...คุณแม่ว่าเรื่องมากเหมือน
ปะป๊าเลย
...เช้าวันนี้เด็กจิ๋วตื่นมาแล้วบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน อ้าว เอาแล้วไง แล้วก็จับแปรงฟัน
ไม่ค่อยสำเร็จ เราก็ยอมๆไป พอถึงตอนใส่ชุดนักเรียน คราวนี้อาละวาดใหญ่ เราจับยึดใส่
ให้เสร็จแล้ว ก็ดึงๆกัดๆดิ้นอาละวาดหนัก ครั้งนี้อาละวาดหนักมากจริงๆ วิ่งเข้ามาทุบๆตีๆ
ปะป๊าใหญ่เลย จับลากกันลงไปถึงหน้าบ้าน ในที่สุดก็ต้องยอมพบกันครึ่งทาง ถอดชุดนัก
เรียนกออกให้ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่เกี่ยวกับการอาละวาดเท่าไหร่ หลักๆก็คือง่วงนอนนั่นเอง เมื่อ
คืนนอนสี่ทุ่ม คิดว่าไม่เพียงพอ ตอนกลางวันตื่นมาสามโมงกว่า ต้องปรับเวลาใหม่ท่าจะดี
...ตอนนั่งในรถเราก็ช่วยกันเบี่ยงเบนไปได้ เด็กจิ๋วลั้นลา ตอนเดินเข้าโรงเรียนก็จูงมือเจ๊น่า
เจอครูก็สวัสดีทุกคน แต่พอถึงซุ้มประตู เด็กจิ๋วหันมากอดปะป๊า จุ๊บแก้มกันไปมา คราวนี้
เลยไม่ยอมเข้าไปแล้ว คุณครูบอกว่าขอเอาไปเลยนะคะ ว่าแล้วก็อุ้มเด็กจิ๋วเดินเข้าไป ได้
ยินแต่เสียงร้องไห้ออกมา
...ตอนสิบโมงกว่าปะป๊ากับคุณแม่รีบกลับไปที่โรงเรียนจะไปขอดูกล้องวงจรปิดในห้อง 8
หน่อย เมื่อวานนี้คุณครูเปิดของห้อง 8 ให้ดู ดูกันอยู่ตั้งนานเพิ่งรู้ว่าผิดห้อง วันนี้คุณครูให้
ดูกล้องตัวเดิม เราก็บอกว่านี่ไม่ใช่ของห้อง 8 รู้สึกว่าเป็นของห้อง 9 คุณครูก็ทำเบลอๆไป
เราก็ไม่อยากไปเรื่องมาก เค้าเคยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่อยากให้มาดูกล้องมาก ยิ่งดูยิ่ง
เครียด
...พอได้เวลาก็เข้าไปรับเด็กจิ๋ว วันนี้คุณครูทำผมให้ใหม่ สภาพเด็กจิ๋วตอนที่เราไปรับ ต่าง
จากตอนเช้ามาก ตอนนี้ดูโอเค ไม่งอแง ลั้นลาดี คุณครูบอกว่าร้องไห้ตอนเช้านิดเดียว พูด
เก่ง กินข้าวได้ดี มาถามเด็กจิ๋วตอนหลังว่าวันนี้กินอะไร เด็กจิ๋วบอกว่า “ข้าวหมู”...หมูทอด
เหรอ แข็งๆเหรอ เด็กจิ๋วบอกว่า “นิ่ม” เลยยังงงอยู่ว่ากินอะไรเข้าไป พอรับตัวเด็กจิ๋วเสร็จก็
พากันเดินกลับออกมา เด็กจิ๋วก็ร้องโวยวายว่า “อยากไปตกปลา อยากไปตกปลา”...แล้วจูง
เรากลับเข้าไปที่สนามเด็กเล่น ซึ่งต้องเดินเลยห้องเรียนไปอีก เราให้เด็กจิ๋วชวนนิตาไปเล่น
ด้วยกัน เด็กจิ๋วก็เดินไปชวน “นิตา นิตา ไปเล่นสนามเด็กเล่นด้วยกันเอาไม๊”...นิตาทำหน้า
มึนแล้วบอกว่า “อยากกกลับบ้าน”...เราเลยพาเด็กจิ๋วไปคนเดียว เด็กจิ๋วไปถึงสนามเด็กเล่น
ก็พุ่งตัวไปเล่นเครื่องเล่นปีนป่าย อันนี้คราวที่แล้วปีนขึ้นไปตามนิตา แล้วไปค้างอยู่ข้างบน
ไม่สามารถเดินไปซ้ายไปขวาได้เพราะกลัว มันเป็นสะพานเชือก กับทางเดินลาดชัน แต่วัน
นี้เด็กจิ๋วโตขึ้นเยอะแล้ว เดินได้โอเค แต่ก็ค่อยๆย่องช้าๆยังไม่คล่องเหมือนนิตา เสร็จแล้วก็
ไปเล่นตกปลา คุณครูเอาสระว่ายน้ำเด็กมาตั้งแล้วใส่ปลาพลาสติกติดคลิป แล้วทำเบ็ดตก
ปลาให้เล่น รู้สึกว่าเมื่อเช้าคุณครูพามาเล่นไปแล้วรอบหนึ่ง ที่บ่อตกปลา เด็กจิ๋วเจอกับน้อง
แพรวา และน้องอั่งอั๊ง อยู่ห้องเดียวกับเด็กจิ๋ว สรุปแล้วตอนนี้เด็กจิ๋วมีเพื่อนคือ 1.นิตา 2.นีโอ
3.อั่งอั๊ง 4.แพรวา
...เด็กจิ๋วเล่นกับอั่งอั๊งอยู่พักหนึ่ง เล่นตกปลาเสร็จก็ชวนกันไปเล่นม้าหมุนต่อ แล้วตามด้วย
ขับรถ เล่นเสร็จคุณแม่เพิ่งเห็นว่ากระโปรงเปียกโชก ฉี่ราดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่ได้เตรียม
ชุดมาเปลี่ยนด้วย เลยเดินเข้าห้อง 1/8 ไปหาคุณครู ขอชุดเด็กจิ๋วมาเปลี่ยนหน่อย โชคดีได้
เจอคุณครูประจำห้องกำลังเก็บข้าวของกันอยู่ มีครู 4 คน 1.ครูแว๋ว เป็นครูประจำชั้น 2.ครู
นิว 3.ครูขวัญ 4.ครูบุ๋ม ได้คุยกับครูแว๋วอยู่พักหนึ่ง ดูแล้วโอเคเลย ดูนิสัยโอเค แล้วดูคล่อง
แคล่วดี ครูแว๋วนี่แหล่ะที่บอกว่าเด็กจิ๋วพูดเก่ง ดูแล้วเด็กจิ๋วก็เชื่อฟังคุณครูดี เราถามเด็กจิ๋ว
ว่าครูคนไหนที่ทำผมให้หนู เด็กจิ๋วบอกว่า “ครูขวัญ หนูรักครูขวัญที่สุด เพราะครูขวัญจุ๊บ
แก้มหนู”


๓ ขวบ + ๘๘ วัน...พุธ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖

...วันนี้เปลี่ยนแผนใหม่ อุ้มเด็กจิ๋วจากที่นอนขึ้นรถเลย ไปแต่งตัวทำผมในรถ ตอนแรกกะ
ว่าจะแปรงฟันในรถด้วย แต่ไม่รู้จะป้วนปากยังไง เลยแวะแปรงที่ออฟฟิตก่อน ก็งอแงนาน
กว่าจะแปรงเสร็จ ขับรถออกไปแวะปั๊มปตท. เปิดบาร์นีให้ดูพร้อมกับแต่งตัวทำผม สำเร็จ
เรียบร้อย แผนนี้ใช้การได้ดี พอไปถึงก็ให้เจ๊น่าจูงมือเข้าโรงเรียนไปส่ง บอกเจ๊น่าว่าจูงมือ
น้องไปส่งที่คุณครูหน้าซุ้มเลยนะ แต่จาน่าเดินไปไม่ถึงก็ปล่อยมือน้องแล้ว เด็กจิ๋วยืนรอจะ
เข้าซุ้มอยู่ เจอเพื่อนข้างหน้ากำลังถูกพรากจากพ่อแม่ ร้องไห้ใหญ่โต เด็กจิ๋วจ้องเค้าใหญ่
ว่าแล้วก็เริ่มหน้าเสี หันมาหาคุณแม่แล้วโผกอด คราวนี้ก็กระโดดกอดปะป๊าต่อ เกิดเรื่อง
จนได้ ตอนนี้เด็กจิ๋วกอดคอปะป๊าแน่นแล้วไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด คุณครูต้องมางัดออกไป
เห็นเด็กจิ๋วผลักหัวคุณครูด้วย วันนี้เกือบไปได้สวยแล้วเชียว
...2 วันแรกไปรับกลับตอน 10 โมง แต่วันนี้ถึงวันศุกร์ไปรับตอน 11.30 คือเพิ่มเวลากินข้าว
กลางวันด้วย ตอนปะป๊ากับคุณแม่ไปถึงห้องเรียน 1/8 เห็นเด็กจิ๋วทำผมใหม่อีกแล้ว กำลัง
นั่งสอดส่ายสายตาหาปะป๊ากับคุณแม่มารับ พอเห็นคุณแม่ก็วิ่งเข้าใส่ น่าตาดีใจมาก ถาม
ครูขวัญว่าวันนี้เป็นไง ครูบอกว่าจะป้อนข้าวให้แต่เด็กจิ๋วบอกว่า ไม่ต้อง ป้อนเองได้ แล้วครู
ขวัญยังบอกอีกว่า พูดเก่ง คุยแบบเด็กโต ครูหลงเลยเนี่ยะ เรื่องพูดเก่งนี่สงสัยจะจริงเพราะ
เมื่อวานครูแว๋วก็บอกมาเหมือนกัน ส่วนเรื่องร้องไห้ถามแล้วไม่ค่อยได้ความ คาดว่าคงร้อง
แค่พักเดียวเหมือนเมื่อวาน วันนี้พอไปรับกลับ เด็กจิ๋วก็ไม่เห็นร้องขอจะไปเล่นสนามเด็กเล่น
อีกเลย สงสัยรู้ว่าเที่ยงแล้ว ถ้าไปตอนนี้ต้องละลายกันแน่ๆ ช่วงนี้อากาศร้อนสุดๆ อุณหภูมิ
38 องศา เพื่อนเด็กจิ๋วก็ไม่เห็นมีใครไปเล่นเหมือนกัน


๓ ขวบ + ๘๙ วัน...พฤหัส ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖

...เช้านี้เด็กจิ๋วตื่นมาแล้วบอกไม่อยากไปโรงเรียนอีกแล้ว แล้วพอเห็นปะป๊าใส่ชุดประชุมก็
ยิ่งโวยวายใหญ่ “ไม่อยากให้ป๊าไปประชุม”...วันนี้เริ่มต้นไม่ดีซะแล้ว เมื่อคืนก็อ้วกใหญ่โต
นอนหลับไปแล้วลุกขึ้นมาไอๆแล้วก็อ้วกพุ่ง รุนแรงมากเพราะตอนนั้นคุณแม่ไม่อยู่ ปะป๊า
ไม่รู้ทำไง รีบเอามือไปรองอ้วก แต่ไม่ได้ประโยชน์ มันล้นทะลักเลอะที่นอน เลอะหมอน
แล้วที่สำคัญเลอะหมีหมีด้วย คราวนี้เรื่องใหญ่เลย ต้องซักล้างกัน เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่
หมด กว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน ซึ่งหมีหมีก็ยังไม่แห้ง อบแล้วผึ่งเอาไว้ก่อน คุณแม่บอก
ว่าอบหมีหมีจนตัวหดเหลือนิดเดียวแล้ว
...วันนี้ตอนไปถึงโรงเรียนแล้วอาการหนักกว่าทุกวัน ไม่ยอมเดินเองเลย ให้ปะป๊าอุ้มเข้า
ไปส่ง เอาแล้วไง แล้วก็พูดตลอดทางว่า “ไม่อยากให้ป๊าไปประชุม”...พอตอนจะใกล้ๆถึง
ซุ้ม ปะป๊าเลยบอกว่า ถ้างั้นต้องให้เจ๊น่าจูงมือเดินเข้าไปแล้วปะป๊าจะโทรศัพท์เลื่อนการ
ประชุมให้ เด็กจิ๋วก็ยอม เดินจูงมือกับเจ๊น่าเข้าไป ส่วนปะป๊าก็รีบหนีไปแอบทันที พอเดิน
ไปถึงซุ้ม เด็กจิ๋วก็ถอยตัวกรูออกมา แล้วหาคุณแม่ กระโดดเกาะคุณแม่ไม่ปล่อย คุณครู
2-3 คนต้องมาช่วยกันดึงตัวเด็กจิ๋วออก ตัวออกไปได้แล้ว แต่มือยังจิกผมคุณแม่อยู่ คุณ
ครูต้องช่วยกันแกะมือออก แล้วอุ้มเด็กจิ๋วเข้าไป ได้ยินแต่เสียงโวยวายดังออกมาก
...แอบหวังดีใจเล็กๆว่าที่เด็กจิ๋วงอแงเรื่องไปโรงเรียนทุกเช้าอาจจะเป็นเพราะว่าไม่สบาย
อยู่ ทำให้หงุดหงิด ถ้าหายป่วยแล้วน่าจะดีขึ้น หลังจากที่อ้วกไปเมื่อคืน อาการวันนี้ก็ยัง
ไม่ดีขึ้นเลย กินยามาจะ 2 อาทิตย์แล้ว กะว่าบ่ายนี้จะพาไปหาหมอแล้วล่ะ
...วันนี้ปะป๊าไปรับเด็กจิ๋วไม่ได้เพราะไปหาลูกค้าข้างนอก คุณแม่เลยชวนเฮียโรไปรับเป็น
เพื่อน พอเดินเข้าโรงเรียนก็เจอคุณครูคนโน้นคนนี้ทักใหญ่เลย รู้สึกว่าเฮียโรเราจะป๊อบนะ
เนี่ยะ คุณแม่เจอครูอ๊อดซึ่งเป็นคนมาพรากเด็กจิ๋วไปตอนเช้า ถามว่าเมื่อเช้าเป็นไงบ้าง
ครูอ๊อดบอกว่าร้องแป๊บเดียว พอเข้าห้องเรียนมาสักพักก็หยุดร้อง คุณแม่เข้าไปรับเด็กจิ๋ว
เห็นเด็กจิ๋วกำลังนั่งเรียนอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม แถวหน้าขวาสุด วันนี้ครูขวัญทำผมให้อีกแล้ว
อลังการงานสร้างมาก เป็นเปียตะขาบแมงป่อง เห็นแล้วประหลาดใจว่าคนอย่างเด็กจิ๋ว
เนี่ยะนะ จะยอมอยู่นิ่งๆให้คนอื่นทำผมได้ นี่ต้องอยู่นิ่งมากๆเลยเพราะผมเปียสวยงาม
เรียบร้อย หรือว่าคุณครูขวัญจะเป็นช่างผมมืออาชีพ เด็กจิ๋วหันมาเห็นคุณแม่กับเฮียโร
ก็ยิ้มดีใจ แล้วก็ตะโกนลั่นว่า “เฮียโร มาได้ไง”...ตอนเดินออกมา เด็กจิ๋วยกมือไหว้คุณ
ครูทุกคนเลย เป็นเด็กดีมาก แล้วเดินมาเจอกับคุณแม่ของน้องอั่งอั๊ง ก็หันมาถามคุณ
แม่ว่า “คุณแม่ นี่แม่ของน้องหยัดบีเหรอ”...อะไรอ่ะ แม่หยัดบีอยู่ฮ่องกงนะ คุณแม่บอก
ว่าสงสัยหน้าคล้ายๆกันเพราะออกจีนๆเหมือนกัน
...ออกจากโรงเรียน คุณแม่ก็พาเด็กจิ๋วไปหาหมอต่อเลย พอเจอหมอก็รีบบอกว่า “คุณ
หมอคะ วันนี้ไม่ต้องตรวจหนูนะคะ ดูอย่างเดียวค่ะ”...คิดว่าหมอจะเชื่อเหรอ ว่าแล้ว
คุณหมอก็ตรวจโน่นนี่แล้วพอถึงตรวจหูกับให้กินไอติม เด็กจิ๋วก็ร้องโวยวายลั่นเหมือน
ทุกที เฮียโรแทนที่จะช่วย พอเห็นไม้ไอติมก็ร้องโวยวายเหมือนกัน บอกว่าแบบนี้เฮีย
โรก็ไม่ไหวเหมือนกัน แทนที่จะช่วยน้อง  ตอนที่เข้าไปหาคุณหมอ คุณหมอเห็นเด็กจิ๋ว
มากับเฮียโร ก็ร้องทักว่า อ้าว เป็นญาติกันเหรอ แสดงว่าคุณหมอจำได้จริงๆ
...วันนี้น้ำหนัก 14.2 ส่วนสูง 94.5 คุณหมอบอกว่าปล่อยให้เป็นหวัดนานเกิน เชื้อหวัด
มันลงคอ ไปถึงหูแล้ว แต่โชคดียังไม่ถึงกันจมูกเป็นหนอง กินยาแก้ไอกับแก้แพ้ไม่พอ
ต้องกินยาฆ่าเชื้อด้วย ตอนไปรอจ่ายเงินกันเด็กจิ๋วกำลังยืนเล่นเครื่องอ่านบาร์โค้ดอยู่
เล่นไปเล่นมาก็ฉี่ราดออกมากลางโรงพยาบาล แล้วหันมาบอกคุณแม่ว่า “น้องพริมฉี่
ราด เค้าต้องว่าเราแน่ๆเลย ทำไงดี”...เด็กจิ๋วกลัวจริงๆนะ ทำหน้าเครียดเลย คุณแม่
บอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว แล้วคุณแม่ก็เรียกเฮียโรจะให้มาช่วยหยิบของหน่อยแต่
เฮียโรวิ่งหนีไปแล้ว  ไม่ได้ประโยชน์จากการพาเฮียโรไปด้วยเหรอ มิหนำซ้ำยังต้องเสีย
ตังซื้อหนมให้ตั้งหลายอย่าง
...วันนี้เด็กจิ๋วเห็นคุณแม่ขับรถก็ทำหน้างงใหญ่ ถามว่า “คุณแม่ขับรถเหรอ คุณแม่นะ
เหรอ”...ทำเสียงแบบสงสัยสุดขีด แล้วก็นึกขึ้นมาได้ ถามว่า “แล้วปะป๊าขับรถอะไรไป
หาลูกค้าอ่ะ”...เก่งอ่ะ รู้จักถามด้วย คุณแม่เลยบอกว่าปะป๊าไปแท็กซี่เพราะที่ลูกค้าไม่
มีที่จอดรถ


๓ ขวบ + ๙๐ วัน...ศุกร์ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๖

...เมื่อวานที่ไปหาหมอ คุณหมอบอกว่าให้วันนี้งดเรียนไปหนึ่งวันดีกว่า เพราะกลัวไป
ติดเพื่อน เราก็ตัดสินใจตามนั้น บอกเจ๊น่าเรียบร้อยว่าวันนี้ให้ไปเอง พอเช้านี้ 6.30 น.
เด็กจิ๋วดันตื่นขึ้นมาสดชื่น ถามว่าวันนี้เป็นวันอะไร สงสัยคิดว่าเป็นวันหยุดจะให้ปะป๊า
เปิดการ์ตูนให้ดูอะดิ่ แต่พอบอกว่าวันธรรมดาต้องไปโรงเรียน ก็เริ่มงอแงทันที “หนูไม่
อยากไปโรงเรียน”...คือเราดูแล้วเหมือนเด็กจิ๋วจะหายแล้ว ตื่นมาสดชื่นไม่มีอาการไอ
แล้วเมื่อคืนก็ไม่ไอมีเสร็ดเหมือนคืนก่อน แล้วอีกอย่างไม่อยากปลูกฝังนิสัยว่าถ้างอแง
ขอไม่ไปโรงเรียนก็ได้ตามใจ ในที่สุดก็เลยตัดสินใจไปโรงเรียนดีกว่า
...วันนี้เฮียโรไปส่งเด็กจิ๋วด้วย นึกว่าบรรยากาศจะคลื้นเคลงไม่ร้องไห้ แต่ที่ไหนได้
เด็กจิ๋วร้องไห้ตั้งแต่อยู่ในรถเลย คือนั่งอยู่ในรถเวลาเพลินๆก็โอเค แต่เวลานึกขึ้นได้
ว่าต้องไปโรงเรียนก็ร้องไห้งอแง ปะป๊าอุ้มเดินเข้าไปส่งข้างในโรงเรียน เด็กจิ๋วกอด
คอปะป๊าแน่นเลย เดินผ่านครูอ๊อดที่ด้านหน้าโรงเรียน เด็กจิ๋วก็ถามแบบฉะฉานว่า
“คุณครูคะ ให้คุณแม่เข้าไปด้วยได้ไม๊ค่ะ”...คุณครูบอกว่าเข้าได้แค่ซุ้มประตูคะ ว่า
แล้วเด็กจิ๋วก็ร้องไห้ต่อไปจนส่งให้มือครูก็ยังคงร้องไม่หยุดแต่วันนี้ไม่จิกผมปะป๊า
ยอมให้ครูอุ้มไปแต่โดยดี
...ตอน 11.30 น. ปะป๊าติดประชุมอีกแล้ว อี๊ตุ๋มอาสาตัวไปรับเด็กจิ๋วกับคุณแม่ วัน
นี้เด็กจิ๋วดูซึมๆไม่ร่าเริงเหมือนทุกวัน คุณครูก็บอกว่าวันนี้เด็กจิ๋วงอแงมาก ร้องไห้
เยอะ ตอนแปรงฟันก็วิ่งหนีไม่ให้แปรง คุณแม่บอกว่าคงเป็นเพราะฤทธิ์ยา ยาตัวที่
คุณหมอให้มาครั้งนี้มีตัวหนึ่งจะออกฤทธ์ทำให้เด็กดื้อ ก็วันนี้ดูผิดปกติจริงๆตั้งแต่
เช้าแล้ว พอขึ้นรถอี๊ตุ๋มก็ซบคุณแม่แล้วบอกว่าง่วง พออี๊ตุ๋มขับรถมาถึงบ้าน เด็กจิ๋ว
ก็หลับไปพอดี ปกติตอนรับกลับบ้านจะต้องร่าเริงลั้นลามาตลอดทาง
...สงสัยเด็กจิ๋วจะพูดเก่งจริงๆ เมื่อเช้าก็ถามครูอ๊อดเรื่องให้คุณแม่เข้าไปด้วย พอจะ
กลับเจอครูอ๊อดอีก ก็ถามบอกครูอ๊อดว่า “หวัดดีคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน”...พรุ่งนี้มัน
วันเสาร์นะ ครูอ๊อดรีบบอกว่า ไม่เป็นไร ให้หยุดพัก 2 วันแล้วกลับมาเจอกันใหม่
...คุณแม่ไปคุยกับแม่ของนิตา เห็นบอกว่านิตาจะอยู่ที่นี่แค่ปีเดียว พอขึ้น อ.2 จะ
ย้ายไปอยู่ราชินี เพราะกะจะให้เรียนราชินียาวไปเลย พอถามว่าแผนเด็กจิ๋วเป็นไง
ก็ได้แต่บอกว่าอยากให้เข้าสาธิตเกษตรนั่นแหล่ะ แต่ก็ยากอยู่
...วันนี้ปะป๊ากับคุณแม่เจอรุ่นน้องที่มหาลัยด้วย น้องปาล์มมีลูก 2 คนแล้ว คนเล็ก
เพิ่งเข้า อ.1 ที่แสงโสมเหมือนกัน แต่อยู่ฝั่งประชาชื่น
...วันนี้ได้สมุดสื่อสารกลับมา เป็นสมุดที่ครูจะเขียนถึงผู้ปกครอง แล้วถ้าเรามีอะไร
ก็เขียนกลับไปได้ แต่ไม่ได้สื่อสารกันทุกวัน เอาไว้มีเรื่องเท่านั้น วันนี้ครูขวัญเขียน
เป็นครั้งแรก มีข้อความว่า...น้องพริมเป็นเด็กที่น่ารัก อารมณ์ดี ชางพูดช่างคุย มา
โรงเรียนยังมีร้องไห้บ้างเล็กน้อยในช่วงเช้าค่ะ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ดี น้อง
จดจำช่องล็อคเกอร์ของตนเองได้แล้วค่ะ มีความจำดีมากค่ะ ปรับตัวเข้ากับคุณ
ครูและเพื่อนๆได้ดี ให้ความสนใจในกิจกรรมที่คุณครูจัดขึ้น เช่น อ่างตกปลา น้อง
ชื่นชอบมากค่ะ ตื่นเต้นกับการฟังนิทานเชิดหุ่นเรื่อง “เจ้าหมูสามตัว” รับประทาน
อาหารกลางวันได้ดี สามารถทานผักและเนื้อสัตว์ได้ดี ดื่มนมและทานของว่างได้
ดีค่ะ”...อ่านดูแล้วก็ดีใจนะ โดยภาพรวมก็น่าจะดี แต่ก็เข้าใจว่าคุณครูต้องเขียน
ให้นักเรียนทุกคนดีๆอยู่แล้วล่ะ ใครจะเขียนในทางลบ


๓ ขวบ + ๙๑-๙๒ วัน...เสาร์ ๓๐ – อาทิตย์ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖...ไปเกาะมันกลาง --> N’Prim@MunKlang Island