วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เด็กจิ๋ว@เกาะกูด

...ออกจากบ้านกันตั้งแต่ตีห้ากว่าเลย ไปถึงท่าเรือแหลมศอกประมาณสิบโมง ต้องรอ
เรืออีกชั่วโมงครึ่ง ออกเร็วเกินหรือปะป๊าขับเร็วเกินก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้เวลานั่งรถในเมือง จะ
ไม่ต้องนั่ง car seat แล้ว เพราะถ้าให้นั่ง เวลารถหยุดติดไฟแดง เด็กจิ๋วก็จะปีนออกมา
ทันที แล้วกว่าจะจับใส่ใหม่ได้ ยากมาก แต่เวลาเดินทางไกลแบบนี้ จะบอกเด็กจิ๋วว่า
ต้องนั่ง car seat เพราะรถวิ่งเร็ว เด็กจิ๋วก็เชื่อฟังแต่โดยดี ยอมนั่งมา 4 ชั่วโมง ไม่แกะ
ไม่ปีน น่ารักมาก แล้วพอมาถึงที่ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ก็มาเล่นด้วย ถามว่าชื่ออะไร เด็กจิ๋ว
ตอบว่า “ชื่อน้องพริม” เค้าถามอายุเท่าไหร่ก็ตอบว่า “สองขวบ” เมื่อก่อนเวลาเจอคน
แปลกหน้ามาคุยมาถาม เด็กจิ๋วจะนิ่งไม่ตอบ แต่ตั้งแต่ที่คุณแม่สอนไปวันนั้นว่า ถึงแม้
จะเป็นคนที่ไม่รู้จัก เวลาเค้าถามก็ตอบเค้าได้ หลังจากนั้นเวลาออกไปข้างนอกก็ยอม
พูดคุยยอมตอบพี่ที่มาถามตลอด อย่างวันนี้นอกจากจะยอมตอบแล้ว ยังกล้าเดินไป
ถามพี่เค้าว่าเรือจะออกยัง แล้วก็คุยเล่นกับเค้าได้
...เรื่อเร็วใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเรือใหญ่มาก น่าจะ 40-50 ที่นั่ง เบาะนั่งเป็น
แบบสองแถวเหมือนรถเมล์ด้วย ดีกว่าแบบหันหน้าชนกัน อันนั้นมันจะนั่งไม่ค่อยติด
ยิ่งอุ้มเด็กจิ๋วด้วยสะพายกระเป๋ากล้องด้วย อันนี้เด็กจิ๋วบอกว่าเหมือนเครื่องบินเลย
คงหมายถึงที่นั่งแบบนี้แล้วข้างๆก็เป็นกระจก เราเดินทางมาถึงที่พักเรา ปีเตอร์แพน
เรือจะอ้อมมาจอดด้านหลังซึ่งเป็นคลอง ไปถึงก็กินข้าวกลางวันกันก่อนเลย ที่นี่จะขึ้น
ชื่อเรื่องอาหาร ก็จริงดังนั้น ขนาดแค่อาหารกลางวัน ปะป๊าก็ว่าอร่อยไปหมด เด็กจิ๋วก็
กินข้าวกับแกงจืด ส่วนคุณแม่บอกว่าไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่
...กินข้าวเสร็จก็เข้าห้องพัก ห้องของเราเป็นแบบ Beach Front ติดหาดเลย มีแบบนี้
อยู่ 2 หลัง เป็นแบบแพงสุด หน้าบ้านมีระเบียงพร้อมกับอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ให้ แต่
ไม่รู้ว่าจากุซซี่ปลอมหรือมันเสีย แต่ปะป๊าลองดึงปุ่มปรับต่างๆออกมา มันไม่เห็นจะมี
กลไกอะไรอยู่ เราเอาไว้ใช้ล้างตัวเวลาขึ้นจากทะเลเท่านั้น ข้างในห้องมีเตียงใหญ่กับ
เตียงเล็ก ห้องจะดูเก่าๆหน่อย แอร์ปิดช่วง 9 โมง ถึง 5 โมงเย็น  ฉะนั้นตอนเรามาถึง
ห้องก็ไม่สามารถอยู่ในห้องได้ ต้องไปทำกิจกรรมข้างนอก ซึ่งถูกใจเด็กจิ๋วนัก เพราะ
ตั้งแต่มาถึงเกาะแล้ว เด็กจิ๋วก็ร้องจะเล่นทรายตลอดเวลา กว่าจะหลอกล่อให้กินข้าว
เสร็จได้
...คราวนี้เราเอาที่เล่นทรายชุดใหม่ที่เพิ่งได้มาจากตลาดหลังการบินไทยมาด้วย ใช้ได้
ดีมาก คุณแม่กับเด็กจิ๋วช่วยกันสร้างปราสาททรายได้สวยงาม ฝรั่งเดินผ่านมายังร้อง
Wow เลย แต่ก่อไว้ได้ไม่นาน ยักษ์จิ๋วก็บุกกระทืบซะไม่เหลือ เล่นทรายเสร็จก็พากันลง
ทะเล แช่น้ำทะเลอยู่นานมาก ไม่ยอมขึ้นจากน้ำเลย คนอื่นๆที่รีสอร์ทเค้าออกไปเที่ยว
น้ำตกกันแล้ว เหลือแต่เด็กจิ๋วนี้แหล่ะไม่ยอมไป เพราะจะเล่นทราย
...ขึ้นจากน้ำทะเลก็มาแช่น้ำในอ่างที่ระเบียงต่ออีกแป๊บหนึ่ง แล้วถึงอาบน้ำ พอเสร็จ
แล้วก็ไปกินอาหารว่างกัน เป็นส้มตำกับไก่ทอด หนมหวาน แล้วก็น้ำมะพร้าวแบบเกล็ด
น้ำแข็ง อันนี้ถูกใจเด็กจิ๋วมาก
...พอกินอาหารว่างเสร็จประมาณ 4 โมงกว่าๆ ฝนก็ตกลงมาซะงั้น ที่จริงตามพยากรณ์
บอกว่าก่อนหน้านี้มีพายุเข้าแถวนี้ แต่วันนี้น่าจะหมดแล้ว แต่ก็ยังมีฝนอีก ก็เลยไม่แน่ใจ
ว่าเป็นเพราะพายุลูกนั้น หรือเป็นปกติของเกาะอยู่แล้ว เพราะที่จริงตอนนี้ก็ยังเป็นหน้า
Low season อยู่ ต้องทำใจว่าฟ้าไม่ใส อาจเจอฝน แต่มาตอนนี้เพราะราคามันถูก
...ปะป๊าเตรียมบ็อกดูหนังไปด้วย ถึงฝนตก เราก็นอนดูหนังดูการ์ตูนกันในห้องได้ แต่ว่า
ต่อไปต่อมา อ้าว ลืมรีโมทซะงั้น สรุปก็เลยอด ได้แต่นอนรอฝนหยุดตก
...ตอนค่ำฝนเริ่มซาๆแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุด เราต้องกางร่มกันไปกินข้าวเย็น ซึ่งอลังการจริง
ตามคำร่ำรือ เติมได้ไม่อั้นทุกอย่าง ถูกใจปู เพราะมีบริการแกะให้ด้วย ซึ่งน้องไปแกะมา
ยังไงไม่รู้ สวยงามมาก ตักกินได้ทั้งตัว ไม่ต้องแทะเลย เด็กจิ๋วก็ชอบ กินไปไม่ใช่น้อย ใน
ระหว่างที่เริ่มอิ่มแล้ว แต่ปะป๊ากับคุณแม่ยังเพลิดเพลินอยู่ เด็กจิ๋วก็เริ่มไม่อยู่นิ่ง ยิ่งตอน
นี้ไม่กลัวคนแปลกหน้าแล้วด้วย วิ่งไปวิ่งมา ไปหยุดพูดเล่นกับน้องๆเจ้าหน้าที่ มีคนหนึ่ง
เป็นฝรั่งด้วย ไม่รู้คุยกันรู้เรื่องไม๊ พี่ฝรั่งพยายามให้เด็กจิ๋วจับหมา ตอนแรกเด็กจิ๋วก็จับไป
แต่พอปะป๊ามาเห็นก็บอกว่าไม่ให้จับ เพราะไม่รู้ว่าไปจับไม่ดีแล้วมันจะมากัดเราหรือเป่า
อย่างเด็กแพรข้างบ้านยังโดนไอ้เป้กัดซะเละเลย ขนาดเห็นหน้ากันทุกวันตั้งแต่เกิด หลัง
จากนั้นเด็กจิ๋วก็กลัวหมาตัวนี้ทันที อยากดูแต่จะอยู่ห่างๆ เวลามันขยับตัว เด็กจิ๋วก็สะดุง
วิ่งมาหลบหลังคน ไม่รู้ว่าปะป๊าสอนผิดหรือสอนถูกเนี่ยะ เราควรปลูกฝังให้เด็กรักสัตว์ไม๊
...วันรุ่งขึ้นปะป๊าปลุกเด็กจิ๋วไปเตะทรายตั้งแต่ 6 โมง ปลุกอยู่ตั้งนาน ตะโกนเรียกหลายที
ก็ไม่ตื่น ทั้งคุณแม่คุณลูกเลย พอเด็กจิ๋วตื่นขึ้นมางัวเงีย แล้วได้ยินปะป๊าบอกว่าจะพาไป
เตะทราย ก็รีบลุกขึ้นมาแต่งตัวด้วยความงัวเงีย คือใจอยากไปมาก แต่สภาพร่างกายไม่
ค่อยเอื้อเท่าไหร่ เช้านี้ปะป๊าพยายามก่อปราสาททรายใหม่ แต่ได้แค่กำแพง ยักษ์จิ๋วก็มา
ถล่มแล้ว สร้างใหม่ก็รีบมากระทืบอีกทันที สุดท้ายวันนี้เลยไม่ได้ปราสาท เปลี่ยนไปเล่น
น้ำแล้วก็พาไปนั่งชิงชา ใจกล้าแล้ว ไม่ค่อยกลัวเหมือนแต่ก่อน ปะป๊าแกว่งแรงมากก็ไม่
กลัว แต่ครั้งสุดท้าย แกว่งแรงแบบสุดขีด แล้วเหมือนเด็กจิ๋วไม่ทันตั้งตัว เลยหน้าซีดแล้ว
ไม่ยอมนั่งต่ออีกเลย
...อาหารเช้าที่นี่จะไม่ค่อยอลังการเท่าไหร่ เบค่อนก็แย่ กินได้พวกข้าวต้ม ข้าวผัด หลัง
อาหารเช้า เราพากันเดินไปรีสอร์ทข้างๆ ทิงเกอร์เบล เป็นเจ้าของเดียวกัน แต่แพงกว่า
ที่จริงคุณแม่อยากไปพักที่นี่เพราะไฮโซกว่า เปิดแอร์ได้ทั้งวัน แต่แพงกว่าแปดพันแน่ะ
ปะป๊าว่าไม่คุ้มเลยไม่อนุญาต คุณแม่มาดูแล้วได้แต่อิจฉา ห้องน่าอยู่กว่ามาก
...เที่ยวเล่นอยู่ที่ทิงเกอร์เบลประมาณชั่วโมงหนึ่งก็กลับมากินข้าวกลางวัน แล้วออกเรือ
ไปเที่ยวอีกรีสอร์ทหนึ่ง กัปตันฮุก เป็นเจ้าของเดียวกันเหมือนกัน แต่อยู่ห่างกัน ต้องนั่ง
เรือประมาณ 5-10 นาที ที่นี่ราคาเท่าๆกับปีเตอร์แพน ไม่มีหาดทราย แต่น้ำทะเลสีสวย
มาก แล้วก็มีสระว่ายน้ำ ถ้าอยากเล่นทราย ก็ให้พายเรือแคนนูข้ามฝากไปเล่นฝั่งตรงข้าม
ซึ่งอยู่ไม่ไกล จุดประสงค์ของปะป๊าก็จะมาถ่ายรูป แต่เด็กจิ๋วกับคุณแม่ก็จะมาเล่นสระว่าย
น้ำนี่แหล่ะ สระดี เล่นสนุกเลย มีส่วนตื้นส่วนลึก เด็กจิ๋วใส่ห่วงยางตีขาไปมาสนุกสนานสุด
ขีด คุณแม่ว่ายตามไม่ทันบอกว่าเหนื่อยมาก สุดท้ายต้องให้ปะป๊าเปลี่ยนลงมาเล่นกับเด็ก
จิ๋วแทน เรานั่งเรือมากับคณะดำน้ำ ซึ่งเรือมาปล่อยเราก่อนแล้วพาคนอื่นไปดำน้ำกัน พอสี่
โมงก็มารับเรากลับ เด็กจิ๋วก็เล่นน้ำเสร็จพอดี
...กลับมาที่ปีเตอร์แพนก็เจออาหารว่างอีก วันนี้ไม่มีน้ำมะพร้าว แต่เด็กจิ๋วบ่นอยากกิน พี่
เจ้าหน้าที่เลยไปหามาให้เด็กจิ๋วจนได้ เย็นนี้ฝนไม่ตกเหมือนเมื่อวาน ค่อยยังชั่วหน่อย แต่
เด็กจิ๋วไม่ได้เล่นทรายตอนเย็นอีกแล้วนะ เพราะกินอาหารว่างเสร็จก็หลับไปเพราะเหนื่อย
มาก ตื่นมาอีกทีก็พอดีมื้ออาหารค่ำเลย ซึ่งอาหารค่ำวันนี้อลังการกว่าเมื่อวานอีก เน้นซีฟู้ด
บาร์บีคิว กินข้าวเสร็จ มีโชว์ควงกระบองไฟอีก เด็กจิ๋วเคยดูเป็นรอบที่สองแล้ว มีการตบมือ
ให้พี่เค้าด้วย
...ตอนกลางคืนเด็กจิ๋วเพิ่งได้เจอจิ้งหรีดเป็นครั้งแรก จะว่าไปปะป๊าเองก็ไม่แน่ใจว่าเจอเป็น
ครั้งแรกเหมือนกันหรือเปล่า จิ้งหรีดตัวนี้บุกเข้ามาให้ห้อง มาเกาะที่มุ้ง ร้องเสียงดังลั่น เด็ก
จิ๋วกลัวมาก นอนจ้องไม่ยอมหลับ เราก็พยายามจะไปจับให้แต่ไม่สำเร็จ พอเข้าไปใกล้ มัน
ดีดตัวเองกระเด็นหายไปทันที พอเสียงจิ้งหรีดเงียบไป เด็กจิ๋วถึงจะค่อยๆเคลิ้มหลับ พอเริ่ม
หลับตาเท่านั้นแหล่ะ จิ้งหรีดร้องลั่นอีก เด็กจิ๋วสะดุ้งตื่นทันที เป็นแบบนี้หลายรอบกว่าจะได้
หลับไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น