วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เด็กจิ๋ว@เชียงราย 2012

...คุณแม่พยายามเกลี้ยกล่อมปะป๊าไม่ต่ำกว่า 30 ครั้งให้บินไปเชียงราย แต่ปะป๊าไม่ยอม
เพราะว่าขับรถไปสนุกกว่า เวลาที่ใช้ในการเดินทางจริงๆแล้วก็ไม่ต่างกันมาก เพราะถ้าบิน
ไปก็ต้องเสียเวลาเดินทางไปสนามบิน นั่งรอ ติดต่อธุรกรรมต่างๆ กว่าจะไปเอารถเช่า ลอง
คิดดูแล้ว ขับรถไปอาจใช้เวลามากกว่าบินไปแค่ 2 ชั่วโมง นี่ขนาดว่าไม่รวมเครื่องดีเลย์นะ
ที่คุณแม่กลัวการนั่งรถมากๆเลยคือกลัวผีเวลาเดินทางกลางคืน คราวนี้เราเลยออกกันตอน
ตี 4 เด็กจิ๋วตื่นมาพักหนึ่ง เปิดพี่เบิร์ดให้นั่งดูไปเรื่อยๆ ชั่วโมงกว่าถึงจะหลับไป ตื่นมาอีกทีก็
ตอนเช้าๆ แวะกินข้าวเช้าที่ 7-11 ไปถึงเมืองเชียงรายตอนเที่ยงๆ
...แวะกินข้าวเที่ยงที่ร้านหลู้หลำ เด็กจิ๋วเคยมากินร้านนี้กับน้าเอ๋ครั้งที่แล้ว วันนี้ไม่ยอมนั่งที่
โต๊ะเลย ลากปะป๊ากับคุณแม่ผลัดกันไปดูปลาที่หน้าร้าน ปะป๊าพาไปดูแล้วนับ 1 ถึง 20 ให้
กลับมากินข้าวที่โต๊ะ 1 คำ แล้วกลับไปดูต่อ กว่าจะอิ่มกันทุกคนก็ใช้เวลานานเลย
...จุดหมายแรกคือไร่ชาฉุยฟง จากเมืองเดินทางต่อไปอีกนานเลย ระยะทางประมาณ 60 โล
แต่ใช้เวลามากเพราะเป็นทางเขา ยิ่งตอนจะเข้าที่พักยิ่งเป็นทางแคบแบบสวนกันไม่ได้ กว่า
จะมาถึงที่พักก็ 4 โมงเย็น ตอนแรกงงๆกับที่พักนิดหนึ่ง เพราะขับรถมาถึงไร่ชาแล้ว เข้ามาที่
โรงงานผลิตใบชา แต่หาบ้านพักไม่เจอ ปรากฎว่าบ้านพักก็อยู่ชั้นล่างของตึกผลิตใบชานั่น
เอง ห้องพักแย่กว่าที่คิดนิดหน่อย เป็นห้องเล็กๆแต่ก็สะอาดใช้ได้ ไม่ได้เหม็นอับ พวกผ้าปูที่
นอนกับปลอกหมอนก็พอรับได้ พอเข้าห้องพักเสร็จก็พากันออกไปเดินเล่นถ่ายรูปกัน ปะป๊า
กำลังอุ้มเด็กจิ๋วเดินเที่ยวอย่างมีความสุข อากาศก็เย็นๆกำลังสบายเลย เด็กจิ๋วคงจะง่วงมั้ง
ขัดใจนิดหน่อยก็อาละวาด จุดแตกหักก็คืออาละวาดเอามือมาตบหน้าปะป๊าดังเพี้ยะ ปะป๊า
โกรธจริง งอน คุณแม่ให้มาง้อก็ไม่หาย
...ตอนพระอาทิตย์ตกแล้ว ได้เวลากินข้าวเย็น คนดูแลห้องพักที่นี่เค้าจะเตรียมอาหารเย็นให้
รวมอยู่ในราคาห้องพัก 700 บาทต่อคนแล้ว ดูแล้วคล้ายๆ home stay แหล่ะ อาหารจัดเต็ม
ดี ปลาตัวหนึ่ง ขาหมู ผัดผักต่างๆอีก 3 จาน แล้วก็แกงจืด แต่รสชาติไม่ค่อยอร่อย กินๆแบบ
เกรงใจ กลัวเหลือเยอะ ขาหมูที่น่าจะอร่อยก็ไม่อร่อย มีผัดเห็ดที่อร่อยที่สุด ตอนระหว่างกิน
ข้าวอยู่ เด็กจิ๋วก็มาง้อปะป๊า ใช้มุขตลกเข้าใส่ เดินมาหาแล้วทำหน้าตลก ถามว่า ปะป๊าหาย
โกรธแล้วยัง ปะป๊าก็เล่นตัวอีกสักพักถึงจะหาย กะว่าเอาให้เข็ด ทีหลังจะได้ไม่กล้าตีคนอีก
พอหายโกรธกันแล้ว เด็กจิ๋วก็เข้ามากอดปะป๊าแน่น จุ๊บแก้มใหญ่เลย แบบว่าดีใจมากที่หาย
โกรธซะที
...ตอนเช้าอาการหนาวเย็น เด็กจิ๋วยิ่งเป็นโรคไม่ยอมห่มผ้าห่มอยู่ด้วย ต้องใส่เสื้อกันหนาว
หนาๆให้ ปะป๊าออกไปถ่ายรูปแต่เช้ามืดตามเคย กลับมาห้องตอนประมาณ 8 โมง คุณแม่
บอกว่าเสียดายมาก อยากออกไปดูทะเลหมอกบ้าง ปะป๊าเอารูปให้ดูสวยมาก แต่ต้องเฝ้า
เด็กจิ๋วอยู่ จะล็อคห้องทิ้งไปก็ไม่ได้ ขนาดตอนนอนยังกลัวว่าใครจะแอบเปิดประตูมาอุ้มไป
เลย ก่อนนอนคุณแม่เอากระเป๋าเดินทางใหญ่ๆมาวางขวางประตูห้องไว้ กะว่าถ้ามีโจรแอบ
บุกเข้ามาตอนเราหลับ จะได้มีเสียงดัง คือตั้งแต่เด็กจิ๋วหลงในห้างวันนั้น ก็ประสาทเสียไป
เลย
...อาหารเช้าเป็นบะหมี่ หมูทอด แล้วก็ข้าวเกรียบอะไรสักอย่าง อร่อยมาก ไม่เหมือนตอน
มื้อเย็น กินกันเกือบเรียบ ขอเติมข้าวเกรียบด้วย กินข้าวเสร็จก็เก็บของ เดินทางต่อ
...ขับรถมาอีกประมาณชั่วโมงกว่า มาถึงไร่ชาฉุยฟงอีกที่หนึ่ง ที่เมื่อวานนี้เป็นแบบอยู่ในหุบ
เขา เข้าอยากๆ เป็นแบบธรรมชาติ ปลูกต้นชาบนเขาสูงชัน แต่ของวันนี้เป็นแบบขับรถเข้า
ถึงง่ายๆ ปลูกต้นชาเป็นเนินเขาเตี้ยๆ กว้างเป็นเนินเขาหลายลูก เป็นระเบียบเรียบร้อย สวย
ทั้งสองที่ สวยคนละแบบ แต่ที่นี่ไม่มีบ้านพัก มีแต่ร้านชา ให้นั่งกินชมวิว ขับรถถ่ายรูปตาม
จุดต่างๆประมาณชั่วโมงหนึ่งก็ขับรถต่อเข้าที่พัก
...คาทิริยา อยู่ใกล้กับไร่ชาฉุยฟงมาก ประมาณ 5 โลได้ จากเมื่อวานที่อยู่กันแบบรันทด มา
วันนี้หรูหราไฮโซ แบบห้าดาว ห้องพักที่นี่แพงมาก 5 พันบาท เป็นห้องแบบ signature วิวดี
ที่สุดของรีสอร์ท ห้องกว้างมาก ต่างกับเมื่อวานราวฟ้ากับดินจริงๆ มีสระว่ายน้ำ 3 สระ อัน
แรกเป็นสระสี่เหลี่ยมธรรมดา อันที่สองเป็นสระเด็ก อยู่ใกล้ๆกับ kid club อันที่สามเป็นสระ
น้ำอุ่นกับจากุซซี่  เราเก็บของเข้าห้องเสร็จก็พาเด็กจิ๋วมาลงสระน้ำอุ่นทันที สระอื่นลงไม่ได้
เพราะน้ำเย็นมาก สระน้ำอุ่นที่นี่อุ่นจริงๆ ไม่เหมือนที่เชียงใหม่ มีสระน้ำอุ่นแต่ไม่ยอมเปิด
เด็กจิ๋วเจอพี่ๆมาเล่นน้ำด้วย เดินไปจ้องมองเค้า เค้าถามชื่อก็ไม่ยอมบอกอีกแล้ว
...ตอนเย็นๆไปนั่งกินข้าวเย็นที่ห้องอาหารของรีสอร์ท บรรยากาศดีมากๆ ชมวิวพระอาทิตย์
ตก อากาศก็เย็นสบาย พิซซ่าที่นี่ขึ้นชื่อซึ่งกินแล้วอร่อยจริง ส่วนแฮมเบอเกอร์ไม่ค่อยอร่อย
...ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือห้องที่เราพัก สามารถนอนชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้เลย วิวสวยมาก มี
ทะเลหมอกด้วย วิวจากระเบียงห้องจะมองไปทางไร่ชาฉุยฟงพอดี ห้องที่เป็น signature ที่
เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นจะมีเพียงห้องนี้ห้องเดียว
...หลังอาหารเช้า เราตัดสินใจไปไร่ชาฉุยฟงอีกรอบ เพราะเมื่อวานไปตอนบ่ายแก่ๆ แสงไม่
สวย ลองไปตอนเช้าดูบ้าง ก็สวยกว่าเมื่อวานจริงๆ พาเด็กจิ๋วลงเดินไปถ่ายรูปในไร่ด้วย
...กลับมาห้องรีบเก็บของแล้วไปแม่สายต่อ ครั้งนี้เชี่ยวชาญแล้ว รู้ว่าต้องไปทำเอกสารตรง
ไหน ต้องไปซื้อของร้านไหน ก็พุ่งตัวไป แล้วไม่ต้องเสียเวลาหาซื้อนาฬิกา รองเท้า กระเป๋า
เหมือนคราวที่แล้วด้วย ไปแม่สายคราวนี้ต้องอุ้มเด็กจิ๋วตลอดเวลา ไม่กล้าปล่อยลงพื้นเลย
กลัวหายไปอีก ถ้าไปหายที่พม่านี่ สงสัยถูกจับไปตัดขาเป็นขอทานแน่ๆ ปะป๊าได้ CD เยอะ
เลย ได้ของเล่นมาฝากพี่ๆอีกหลายชิ้น ส่วนเด็กจิ๋วได้ของเล่นชิ้นใหญ่ เป็นชุดร้านขายของ
อันละ 800 บาท ถ้าเป็นของจริงน่าจะหลายพันอยู่ อันนี้วัสดุเป็นพลาสติกดูดี เล่นสนุก ที่
จริงตอนเช้าคุณแม่พยายามให้เด็กจิ๋วอึ๊ที่รีสอร์ทให้เรีบบร้อย เพราะกลัวจะมาอึ๊ที่แม่สาย
แล้วจะลำบาก ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เด็กจิ๋วเก็บอึ๊ไว้มาปล่อยที่แม่สายจริงๆ แต่พอดีอยู่ที่
ร้าน CD ก็พอจะมีห้องน้ำ รันทดนิดหน่อยแต่ก็โอเค
...กลับเข้าเมือง วันนี้ไปนอนกันที่มันตรินี่ ความจริงที่รีสอร์ทนี้จะให้เราไปพักฟรี แต่เรากลัว
ว่าเวลาเอามารีวิวจะเป็น SR แล้วมีคนด่า เลยขอจ่ายเงินเค้า ซึ่งเค้าก็คิดให้ครึ่งราคา แล้ว
ให้อาหารเย็นฟรีด้วย ไปถึงตอนประมาณ 5 โมง รีบกินข้าวกันก่อนเลย เพราะไม่ได้กินมื้อ
กลางวันกันมา อาหารที่นี่อร่อยดี เราสั่งน้ำพริกอ่อง ไก่ทอด คะน้าหมูกรอบ สปาร์เก็ตตี้
กินกันเสร็จเข้าห้องพัก เด็กจิ๋วก็รีบขอให้แกะของเล่นที่เพิ่งซื้อกันมาออกมาเล่นทันที ตอน
แรกร้องจะให้แกะตั้งแต่ตอนอยู่ในรถแล้ว เล่นได้สักพักก็จับอาบน้ำแล้วพาเข้านอน ตอน
นอนนี่ยังอารมณ์ค้างจากคอนพี่เบิร์ดซึ่งเปิดวนไปวนมาอย่างเดียวตลอดทั้งทริป เด็กจิ๋ว
นอนร้องเพลงพี่เบิร์ด แล้วก็พูดว่า “ถอดหมวกกับไส้ ถอดหมวกกับไส้”...พูดแล้วก็ขำชอบ
ใจ เป็นประโยคที่เค้าแซวตุ๊กกี้ว่าเต้นท่าเหมือนกับจะถอดหัวกับไส้ เด็กจิ๋วชอบพี่เบิร์ดจริง
จริง ตอนอยู่ในรถก็ร้องขอให้เปิดตลอดเวลา ดูไปหลายรอบ ร้องเพลงตามได้บ้างแล้ว ที่
ชอบมากที่สุดคือตอนที่มีเบิร์ดแลนด์ออกมา เป็นคนใส่หัวการ์ตูนใหญ่ๆออกมาเต้น เวลา
ถึงตอนเบิร์ดแลนด์มาที่ไรจะยิ้มตาปิด แบบว่าดีใจมาก มีเขินด้วยนะ เวลาจะมาก็ไปแอบ
ปิดตา ไม่รู้ว่าจะเขินอะไร
...ตอนคืนที่สองที่ไปพักที่คาทิลิยา เราถามเด็กจิ๋วว่าชอบรีสอร์ทที่ไหนมากกว่ากัน ที่เมื่อ
วานไร่ชา กับวันนี้ เด็กจิ๋วตอบอย่างไม่ต้องคิดว่าที่คาทิลิยา เพราะมันกว้างงมาก แต่พอ
คืนที่สามมาที่มันตรินี่ห้องเล็กกว่าคาทิลิยาตั้งเยอะ เราถามว่าชอบที่ไหนที่สุด เด็กจิ๋วดัน
ตอบว่าที่มันตรินี่ เพราะมีของเล่น
...เช้าวันสุดท้ายต้องงัดเด็กจิ๋วมาจากที่นอนตั้งแต่ 6.30 โมง มากินอาหารเช้ากันเร็วมาก
เพราะจะต้องรีบไปงานดอกไม้กัน พาเด็กจิ๋วมานอนบนโซฟาที่ห้องอาหาร แล้วปะป๊ากับ
คุณแม่ก็กินกันไป อาหารเช้าที่นี่พวกที่เป็นอาหารฝรั่งไม่ค่อยโอ เบคอนแข็งมาก แต่พวก
ที่เป็นอาหารไทย มีเยอะ อร่อยดี
...งานมหกรรมไม้ดอกอาเซี่ยน ปีนี้เค้าจัดใหญ่โตเลย นอกจากดอกไม้แล้วยังมีงานส่วน
อื่นๆอีก มีเพนกวิน นกฟามิงโก้ ซึ่งเราดูแล้วคิดว่ามันออกจะเสร่อไปหน่อย ที่จริงควรจัด
แต่ดอกไม้ให้ดีๆไปเลยซะมากกว่า แต่จะว่าไป เด็กจิ๋วก็ชอบดูเพนกวินมากกว่าดอกไม้
ไม่สนดอกไม้ จะดูแต่เพนกวิน พาอุ้มดูอยู่นานมาก เราตั้งใจมางานนี้เพื่อมาดูทิวลิปกัน
โดยเฉพาะเลย แต่พอเข้ามาถึงแล้ว เจอทิวลิปปลูกเต็มจริง แต่ยังไม่บาน เค้าตั้งใจว่าจะ
ให้บานช่วงปีใหม่ เราอุตส่าห์รีบไปเพราะกลัวมันจะเหี่ยว คุณแม่ผิดหวังมาก พอดีรู้มาว่า
เค้ามีอีกงานหนึ่ง เป็นงานดอกไม้เหมือนกัน แต่เล็กกว่ามาก จัดที่สวนตุง เมื่อผิดหวังจาก
งานนี้ก็เลยลองไปดูที่สวนตุงดู
...ตั้งแต่ทางเข้าก็ทางเป็นอุโมงค์ดอกไม้ยาวประมาณ 4-50 เมตร เด็กจิ๋วชอบมาก วิ่งเข้า
วิ่งออกอยู่หลายรอบ แล้วก็ตรงส่วนทิวลิปก็มีทิวลิปกำลังบานสวยพอดี พื้นที่ทิวลิปเล็กๆ
ไม่ใหญ่เหมือนที่เมื่อเช้า แต่ดอกบานเต็มก็สวยใช้ได้ แต่ที่ประทับใจที่สุดคือส่วนลิลลี่ มี
ปลูกไว้เต็มเลย ดอกใหญ่ๆสวยๆเต็มไปหมด นอกจากเด็กจิ๋วจะไม่สนใจดอกไม้แล้ว ยัง
มีความยากลำบากใจการบังคับให้ถ่ายรูปคู่กับดอกไม้มาก ต้องเอา m&m เข้าแลกตลอด
เวลาถึงจะยอมให้ถ่ายบ้าง เราดูดอกไม้กันเสร็จก็ขับรถกลับบ้านกันทันที ออกจากเมือง
เชียงรายตอนเที่ยง กลับมาถึงบ้านสามทุ่ม

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เด็กจิ๋ว@Nishaville Praxis

...ครั้งนี้พี่ๆไม่ได้นั่งรถบัสเหมือนครั้งก่อนๆ นั่งรถตู้กัน 3 คัน ส่วนเด็กจิ๋วก็นั่งรถปะป๊าเหมือน
เดิม ออกแต่เช้าไปแวะที่ Swiss Sheep Farm ประมาณ 10 โมง พาเด็กจิ๋วไปป้อนหญ้าแกะ
ก็ยังกลัวเหมือนเดิม ปีนตัวอี๊ป้อมขึ้นไปอยู่สูงๆ รอบสองปะป๊าอุ้มเข้าไปบ้าง ก็ปีนหนีเหมือน
เดิม แต่เริ่มกล้าจับหญ้าป้อนแกะได้เอง เสร็จแล้วก็พุ่งตัวไปนั่งรถหยอดเหรียญ แล้วตบท้าย
ด้วยขับรถคุณปู่
...ออกจากฟาร์มก็ไปร้านอาหาร เด็กจิ๋วต้องนั่งรอพี่ๆนานเป็นชั่วโมงเลย เพราะรถตู้ของพี่ๆ
ไปเติมแก๊สอยู่ รอคิวนานมาก ร้านอาหารรับลม อาหารไม่ค่อยถูกปาก เด็กจิ๋วกินไข่เจียวปู
...ไปถึงณิชาวิลสายมาก ประมาณบ่าย 3 อี๊ตุ๋มประชุมนิดหน่อย แล้วก็ปล่อยแยกย้ายกันไป
เด็กจิ๋วรีบเปลี่ยนชุดไปเล่นทราย คราวนี้ไม่ยอมเล่นทรายเลย เราช่วยกันก่อปราสาท เด็กจิ๋ว
ก็ทำลายทันที ไม่ได้ก่อเป็นรูปเป็นร่างเลย แต่ชอบไปวิ่งลงทะเลมากกว่า ทะลที่นี่น่ากลัวมาก
เหมือนจะชัน เวลาคลื่นดูดกลับลงทะเลน่ากลัวมาก คลื่นวันนี้ก็แรง ปะป๊าต้องคอยวิ่งตามวิ่ง
จับไม่ให้ลงน้ำ ให้เล่นแต่ปลายๆ เสร็จแล้วก็ลงสระว่ายน้ำกัน ปะป๊าไม่ได้ลง ให้เด็กจิ๋วลงกับ
อี๊ป้อมกับพี่ๆ พี่ๆฮากันใหญ่ เวลาจะให้เด็กจิ๋วมาตรงนี้ ก็บอกว่าเด็กจิ๋วอย่ามา เด็กจิ๋วจะรีบ
ตีขามาทันที เวลาจะให้หันไปมองกล้อง ก็บอกว่า อย่ามองกล้องอย่ามองกล้อง ก็หันมายิ้ม
ให้กล้องเลย
...ตอนอาหารเย็นเราพากันเดินริมทะเลไปโซนที่พักใหม่ เค้าจัดสถานที่สวยงามริมทะเลให้
เป็นบุฟเฟ่ จัดโต๊ะเหมือนกับงานแต่งงานเลย เด็กจิ๋วได้ดูดาวเต็มท้องฟ้า สนใจมาก ชี้ให้พี่ๆ
ดูกันด้วย อาหารที่จัดให้ก็อร่อยดี หนมหวานก็อร่อย เด็กจิ๋วได้กินโน้นนี่เต็มอิ่ม พลังไฟก็เต็ม
เปี่ยม เริ่มไปแกล้งพี่ๆแล้ว ไปกวนอี๊ตุ๋มอี๊นกอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ตามไปเล่นกับพี่โอ โชว์การใส่
นาฬิกา ดึงแขนเสื้อขึ้น แล้วฟาดนาฬิกาเข้าที่ข้อมือ ฉั่บ พี่ๆตบมือลั่น เล่นเสร็จก็เดินไปโชว์
ต่อที่โต๊ะอื่น เสร็จแล้วก็วิ่งเล่น ให้พี่เคนกับพี่โอวิ่งตามไปจับ คึกมาก
...กินข้าวเสร็จเราก็มาต่อกันที่บ้านรวม หลังใหญ่ริมทะเล เด็กจิ๋วคว้าไมโครโฟนมาพูดเล่น
พูดเสร็จก็ยิ้ม บิดตัวทำเขินอาย เหมือนกับอายเสียงตัวเอง เสร็จแล้วก็ปีนไปนั่งลงในตะกร้า
ผ้า ให้พี่ๆผลัดกันลากไปลากมา ยิ่งมีพี่ๆเล่นด้วยเยอะแยะยิ่งคึกจัดใหญ่
...ระหว่างที่พี่ๆดูคอนเสิร์ต the voice กันอยู่ เราพาเด็กจิ๋วออกมาเล่นไฟเย็น ตอนแรกก็ไม่
กล้าให้เด็กจิ๋วถือเอง ให้พี่ๆถือให้ แต่สักพักให้เด็กจิ๋วถือเองก็ไม่กลัวเลย บอกให้หมุนเป็นวง
จะถ่ายรูปก็ทำได้ วนเป็นวงกลมรอบตัว ถ่ายรูปออกมาสวยงามเลย
...ตอนกลางคืนเล่นกิจกรรมกัน เด็กจิ๋วก็วิ่งไปมากลางวงก่อกวนพี่ๆเหมือนเคย มีลงไปนอน
กลิ้งกับพื้น หันมาเจอหน้าแข้งพี่เอ็มก็บอกว่า “อิอิ ขาพี่เอ็มมีหนวดด้วยอ่ะ”...แล้วก็พาพี่โอ
ไปเล่นในห้องไม่ยอมปล่อยตัวพี่โอ ปีนขึ้นไปขี่หลังพี่โอ บอกว่า “น้องพริมรักพี่โอที่สุดในโลก”
ในที่สุดพี่โอต้องบอกว่ามาแข่งกันนอนหลับแล้วกัน

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

2 ขวบ 11 เดือน

๒ ขวบ + ๓๓๖ วัน...เสาร์ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๕...วันนี้ไปราชบุรีกันแต่เช้า ต้องไปทำเรื่องซื้อรถใหม่ให้อากง ไปถึงก็นัดกับอากงที่โรบินสัน
ราชบุรี เพราะว่าอีซูซุไปออกงานโชว์รถที่นั่น เด็กจิ๋วอ่ะชอบนั่งท้ายกระบะมาก ตั้งแต่ตอน
พาไปที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปรแล้ว วันนี้ได้นั่งหลายคันเลย ตกลงอากงจองสีขาวมุขสี่ประตู
น่าจะได้รถในอีก 2 อาทิตย์นี้แหล่ะ
...ระหว่างนั่งอยู่ในรถกำลังไปราชบุรี เด็กจิ๋วบ่นตลอดทางว่า “เมื่อไหร่จะถึงเนี่ยะ น้องพริม
คิดถึงอากงกับอาม่าแย่แล้ว”...แต่พอมาถึงบ้าน ดันไม่หาอากงอาม่าเลย วิ่งตามไปเล่นกับ
พี่เดียว พี่เดียววันนี้ก็แปลกมาก ไม่ยอมเล่นกับเด็กจิ๋ว เมื่อก่อนเป็นเด็กๆเล่นสนุกๆ มาครั้ง
นี้พี่เดียวเป็นผู้ใหญ่ นิ่งๆ สุขุม ไม่ยอมเล่นกับเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วก็จะเล่นกับพี่เค้าให้ได้ เดินตาม
แล้วชวนมาเล่น แต่พอพี่เดียวมาเล่นด้วยจริงๆ ก็ปัดไม้ปัดมือเค้าไม่ให้มาจับของเล่นด้วย
อะไรกันเนี่ยะ งงเลย


๒ ขวบ + ๓๓๗ วัน...อาทิตย์ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๕...คนที่เช่าโด LPN ของเราจะย้ายออก เช้าวันนี้เลยพากันไปรับกุญแจคืน แล้วก็พาพี่สากับ
อี๊ป้อมไปช่วยกันทำความสะอาดห้องด้วย จะมีคนใหม่มาขอดูต่อทันที เราพาเด็กจิ๋วไปเล่น
ของเล่นที่โด ครั้งนี้เด็กจิ๋วกล้ามาก วิ่งกระโดดขึ้น สไลด์ตัวลงมา ปีนป่ายอย่างคล่องแคล่ว
ไม่มีความหวาดกลัวใดๆทั้งสิ้น สไลเดอร์ก็สูงมาก ตอนแรกไม่นึกว่าเด็กจิ๋วจะกล้า เล่นอยู่
นานเลย ไม่ยอมเลิก
...กลับมาบ้าน ปะป๊าเปิดการ์ตูนเรื่องราพันเซลให้เด็กจิ๋วดู ดูอย่างตั้งใจมาก เรื่องนี้ปะป๊า
กับคุณแม่ก็เพิ่งเคยดูเป็นครั้งแรกเหมือนกัน ภาพสวย เนื้อเรื่องก็สนุกดี ดูจบ เราลองถาม
เด็กจิ๋วเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เด็กจิ๋วตอบถูกหมด และสามารถเล่าเป็นเรื่องเป็นราวได้ แสดงว่า
ดูรู้เรื่องจริงๆ เด็กจิ๋วชอบมาก สงสัยเล่นบทราพันเซลกันไปอีกหลายวัน
...หลังจากดูราพันเซลจบ ปะป๊าเปิดเรื่อง Avatar ให้เด็กจิ๋วดูด้วย อันนี้ปะป๊าอยากดูเองอ่ะ
แต่หลอกให้เด็กจิ๋วนั่งดูเป็นเพื่อน เด็กจิ๋วก็ดูไปได้กลางๆเรื่องแล้วก็ขอไปกินหนม กินเสร็จ
กลับมาดูต่ออีก 5 นาที ก็ขอออกไปกินหนมอีกแล้ว สงสัยไม่หนุก สุดท้ายก็เลยดูไม่จบ


๒ ขวบ + ๓๓๘ วัน...จันทร์ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕
...ตอนกลางวันพาเด็กจิ๋วไปกินบุฟเฟ่ที่ร่มไทร เพิ่งไปมาสองอาทิตย์ก่อน ติดใจลองไป
อีกครั้ง อี๊ตุ๋มอี๊นกก็ไปด้วย คราวที่แล้วเด็กจิ๋วหลับ ตื่นมากินนิดหน่อยตอนท้าย วันนี้ไม่
หลับ แต่ก็กินไม่เยอะ สงสัยเริ่มเบื่อบุฟเฟ่แล้ว ครั้งแรกๆที่ไปกินเดอะเวิลด์ กินโน้นนี่ไป
เยอะมาก วันนี้กินปูอัดไม่ถึง 3 แท่ง สปาร์เก็ตตี้นิดหน่อย กุ้งนิดหน่อย แล้วก็ไอติม กับ
ช็อกโกแล็ตต่างๆ
...ตอนเย็นพาเด็กจิ๋วไปเจอเพื่อนๆปะป๊ากับคุณแม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เจอน้าตี๋ น้าตุ้ม น้า
ปิ๊ก น้าเป็ด แล้วก็น้าหมี วันนี้เป็นเด็กดีมาก นั่งกินข้าวผัดกุ้งเงียบๆคนเดียว เสร็จแล้ว
ก็เล่นไอแพ็ดต่อ ไม่ก่อความวุ่นวายเลย สงสัยเป็นเพราะกลัวน้าตี๋อยู่หรือเป่า เสร็จแล้ว
ก็ไปกินไอติม swensens กัน เด็กจิ๋วค่อยคึกคักหน่อย เอาของประดับร้านที่เป็นรูปต้น
คริสมาตเล็กๆมาเล่น ร้องเพลง แต่ก็เล่นคนเดียวน่ารัก ไม่เสียงดังเลย


๒ ขวบ + ๓๓๙ วัน...อังคาร ๔ ธันวาคม ๒๕๕๕
...น้าเอ๋ซื้อตุ๊ตาหมีพูมาฝากเด็กจิ๋ว นุ่มแล้วก็น่ารักมาก ปะป๊ารีบเอาไปให้เด็กจิ๋ว เด็กจิ๋ว
กำลังกอดหมีๆอยู่ พอเห็นหมีพูก็บอกว่า “ไม่เป็นไร น้องพริมมีหมีหมีแล้ว” ว่าแล้วก็คว้า
หมีหมีเอามากอดไถหน้าไปมา แบบว่ารักมาก คุณแม่พยายามบอกว่า หนูก็รักหมีหมีไป
แต่ว่ามีหมีพูมาเป็นเพื่อนเพิ่มไง เด็กจิ๋วบอกมีอคติมากๆ จับหมีพูแล้วบอกว่า “โหดูดิ่ มัน
 แข็งเด๋งเลย...หมีหมีอ่ะนุ้มนุ่ม”...หมีพูอ่ะนุ่มจะตาย นุ่มกว่าหมีหมีอีก สุดท้ายบอกว่า
“เห็นไม๊ มันปั้นไม่เท่ากันเลย”...?
...ปะป๊าเอาของเล่นเสริมพัฒนาการออกมาให้เด็กจิ๋วกับโฮไอเล่น เด็กจิ๋วต่อๆไปแล้วบ่น
ว่า “โอ้ แม่เจ้า ทำไมมันต่อไม่ได้เนี่ยะ”
...วันนี้พาเด็กจิ๋วไปเล่นสนามเด็กเล่นที่โดอีกแล้ว ชอบมาก เล่นไม่เลิก ปีนขึ้นไปแล้วนอน
สไลด์ลงมาด้วยสีหน้าที่แบบว่า ลั้นลามีความสุขจังเลย


๒ ขวบ + ๓๔๐วัน...พุธ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕
...วันนี้เป็นวันหยุดวันพ่อ เราปลุกเด็กจิ๋วแต่เช้าพาไปบ้านลัดดารมย์กัน พอเด็กจิ๋วรู้ตัวก็
ถามทันทีว่า “วันนี้วันหยุดเหรอ”...ใช่แล้ว หนูเริ่มรู้จักวันหยุด เริ่มชอบวันหยุดมากกว่าวัน
ธรรมดาแล้วใช่ไม๊ล่ะ ปะป๊าบอกว่า วันนี้วันหยุด ปะป๊าจะเล่นกับหนูทั้งวัน ไม่ต้องลงไปที่
ออฟฟิต ไม่ต้องทิ้งหนูออกไปประชุม ชอบไม๊
...ไปลัดดารมย์แต่เช้าเพราะตอนเย็นๆเค้าจะมีงานวันพ่อจัดในหมูบ้านกัน แล้วเจ๊น่าเฮีย
โรต้องไปร่วมงานด้วย เดี๋ยวจะไม่สะดวก ไปถึงก็รีบไปชวนเจ๊น่ากับเฮียโรไปว่ายน้ำกัน พี่
พี่ก็ดีใจรีบเปลี่ยนชุด แต่ไปถึงสระแล้วเศร้า วันนี้เล่นไม่ได้ เจ้าหน้าที่ลงสารเคมีไว้ ไม่รู้ว่า
ทำไมมาลงวันนี้ เป็นวันหยุดน่าจะมีเด็กมาเล่นเยอะ เมื่อว่ายในสระไม่ได้ ก็ไปเล่นกะละมัง
หลังบ้านแบบคราวที่แล้วละกัน กลับไปบ้าน อาโกวเตรียมกะละมังไว้ 2 ใบ ถังสีอีกหนึ่งใบ
เด็กๆลงไปแช่น้ำกันคนละใบ เด็กจิ๋วได้ถังสี ลงไปนั่งเต็มตัวพอดี เอาปีนฉีดน้ำมาเล่นกันนิด
หน่อย แค่นี้ก็สนุกแล้ว ปะป๊าเลยคิดว่าจะซื้อสระว่ายน้ำขนาดเล็กมาเตรียมไว้บ้างดีกว่า ไว้
ให้เด็กๆเล่นกันวันเกิดจิ๋ว
...ที่สนามหญ้าในหมู่บ้านมีการจัดเครื่องเล่นมาลงใหม่ เด็กจิ๋วไปนั่งชิงชาอยู่สักพัก ชอบมาก
สามารถให้แกว่งแรงๆได้ไม่กลัว แต่เฮียโรดิ่ แกว่งไปแกว่งมาก็กระโดดลงจากชิงช้า บอกว่า
กลัว อากิ๋มแกว่งแรงเกิน กระโดดลงมากลางอากาศยิ่งน่ากลัวกว่าอีก


๒ ขวบ + ๓๔๑วัน...พฤหัส ๖ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เมื่อคืนนี้ตอนปะป๊าทำอาหารในห้องครัวก็เริ่มสังเกตว่าเหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นมาอาศัยอยู่
ร่วมกับเราแล้ว ตอนแรกคิดว่าแมลงสาบ แต่ดูไปดูมา เป็นมิกกี้เมาส์ชัดๆ คุณแม่ยิ่งเป็นโรค
กลัวมิกกี้เม้าส์ที่สุดในชีวิต พอรู้ข่าวก็แทบสลบ ชีวิตเปลี่ยนไปนับแต่วันนั้น อยู่ได้แต่ในห้อง
นอน กับห้องน้ำ ในห้องน้ำเองก็ยังกลัว ก่อนจะเข้าต้องให้ปะป๊าไปลาดตะเวนก่อน เด็กจิ๋วได้
ยินเราปรึกษาหารือกันก็ร้องจะไปห้องครัวให้ได้ อยากจะไปดู จับใจความได้ว่าเป็นตัวจิ้งจก
มั้ง มาบอกว่าขอไปดูจิ้งจกในห้องครัวหน่อย
...วันนี้เตรียมการกวาดล้าง แล้วจะต้องอพยพหนีไปนอนคอนโดแล้ว เพราะคุณแม่ทนอยู่ไม่
ไหว แต่ตอนเย็นพอจะเอาเข้าจริงก็ถอดใจ เพราะการไปนอนคอนโดไม่ได้ง่ายเหมือนไปเที่ยว
ต้องเตรียมข้าวของเยอะมาก เกี่ยวกับการนอน การอาบน้ำ การกิน การเล่น ในที่สุดก็ล้มเลิก
ทนอยู่ห้องต่อไป
...ตอนเย็นทนอยู่บ้านไม่ได้ ต้องพากันอพยพหนีไปเซนลาด ไปหาข้าวกินด้วยแหล่ะ คุณแม่
สั่งระงับการทำครัวของปะป๊าไปอย่างไม่มีกำหนด กินข้าวเสร็จก็เดินเล่นต่ออีกนิดหน่อย ไป
ผ่านร้าน Cold Stone คุณแม่เห็นตัวโคนวัฟเฟิลน่ากินเลยพาเด็กจิ๋วนั่งกิน โคนอร่อยดี ราคา
25 บาท ถูกมาก อันใหญ่ด้วย กินไปทั้งอันมีอิ่มได้ แต่ไอติมร้านนี้ไม่อร่อยเลย แพงด้วยไอติม
ราคา 100 กว่าบาท ที่จริงเด็กจิ๋วจะกินโคนอย่างเดียวนี่แหล่ะ แต่จะสั่งแต่โคนก็เกรงใจเค้า
...เมื่อวานเปิดการ์ตูนเรื่อง Beauty and the beast ให้ดู เด็กจิ๋วก็ตั้งใจดู ชอบมากเหมือนกัน
แต่คงสู้เรื่องราพันเซลไม่ได้เพราะเรื่อง Beauty มันเก่าแล้ว เป็นการ์ตูนแบบวาด แต่ราพันเซล
เป็น Animation ภาพสวยงามกว่ามาก


๒ ขวบ + ๓๔๒ วัน...ศุกร์ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๕
...เมื่อวานอี๊ป้อมวางกับดักมิกกี้เม้าส์ แต่เช้านี้มาดูแล้ว ไม่สำเร็จ ตอนนี้คุณแม่โทรไปเรียกมือ
โปรมากำจัดแล้ว เดี๋ยวตอนบ่ายๆจะมา เป็นบริษัทใช้วิธีไล่ด้วยสมุนไพร ปีละ 9,500 บาท ถึง
แพงแค่ไหนก็ต้องยอมแล้ว
...เด็กจิ๋วร้องอยากดูราพันเซล คุณแม่บอกว่าไม่ได้ ต้องรอดูตอนเย็นๆก่อน เด็กจิ๋วบอกว่า “ไม่
เอา น้องพริมจะดูตอนร้อนๆ”...มุกหรือจริงเนี่ยะ
…ตอนเย็นๆพาเด็กจิ๋วไปดูคอนโดใหม่ ยูดีไลท์รัตนาธิเบศก์ จองไปสองห้องเลย กะว่าจะเก็บไว้
ปล่อยเช่าห้องหนึ่ง แล้วอีกห้องหนึ่งจะขายต่อ เด็กจิ๋วจะมีคอนโดอันที่สามแล้วนะ เวลาผ่านโด
ตรงประชาชื่น เด็กจิ๋วจะชี้แล้วบอกว่า “นี่โดของเรา”...จำได้จริงๆนะ ปะป๊าเคยแกล้งชี้ตึกที่อยู่ถัด
ไป ถามว่าใช่โดของเราไม๊ เด็กจิ๋วก็บอกว่าไม่ใช่
...ระหว่างรอสำนักงานขายเปิด เราพากันข้ามฝากไปเอสพานาด เวลามาห้างทีไรเด็กจิ๋วจะร้อง
ขอกินไอติมทุกทีเลย ล่าสุดเข็ดกับไอติมแพงๆแล้ว สำหรับเด็กจิ๋ว เอาแม็คโดนัลหรือ KFC ก็พอ
ว่าแล้วก็จัดไอติมแม็คให้อันหนึ่ง อันละ 10 บาท สำหรับเด็กจิ๋วแล้วก็อร่อยเท่ากับอันละ 100 อ่ะ


๒ ขวบ + ๓๔๓ วัน...เสาร์ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๕
...ตอนเช้าพาเด็กจิ๋วไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ the world เด็กจิ๋วมาที่นี่ไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้งแล้ว คราวนี้กิน
อาหารได้น้อย แต่ช็อกโกแล็ตแผ่นนี่กินเข้าไปเยอะมาก เดินไปเลือกเองที่ไลน์บุฟเฟ่ต์เลย ไปถึง
ก็เอื้อมมือไปหยิบแผ่นๆที่เค้าประดับไว้ตามหน้าเค้กมากินทันที ปะป๊าต้องรีบห้าม แล้วหยิบให้
เด็กจิ๋วเอง เพราะส่วนใหญ่เป็นแบบประดับหน้าเค้กรวม ต้องไปขโมยแบบไม่ให้น่าเกลียด หยิบ
ผิดมาอันหนึ่งด้วย คิดว่าเป็นช็อกโกแล็ตแท่ง แต่ปรากฎว่าเป็นเปลือกไม้
...กินเสร็จก็พากันไปฟอร์จูน ไปซื้อของรางวัลแจกพี่ๆวันงานปีใหม่ ได้พวกของ IT ต่างๆ ที่นี่เค้า
เปิดทีวีหรือจอคอมโชว์กันเป็นร้อยๆเครื่อง เวลาเด็กจิ๋วเดินผ่านร้านไหนก็จะขอหยุดดู ปะป๊าเลย
บอกว่าให้ดูก็ได้ แต่ดูแค่นับ 1 ถึง 20 นะ เด็กจิ๋วก็เชื่อ ทุกวันนี้ยังงงกับคุณแม่อยู่เลยว่า ไอ้การที่
นับถึงกำหนดแล้วยอมหยุดแต่โดยดีนี่มาจากไหน ทำไมต้องเชื่อฟังทุกครั้ง ทั้งๆที่จะดื้อไม่ยอมก็
ทำได้ เวลาเด็กจิ๋วเดินผ่านแต่ละจอก็จะหยุดดู 1-20 แล้วก็เดินต่อ ไปเจอจอใหม่ก็ดูอีก 1-20 เป็น
แบบนี้ตลอดที่เดินไปเดินมาทั่วห้าง


๒ ขวบ + ๓๔๔ วัน...อาทิตย์ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๕
...วันนี้ยังคงต้องหนีออกจากบ้านอยู่ คิดไปคิดมา ไปราชบุรีแล้วกัน เพราะไปนานดี แบบออกแต่
เช้าเย็นค่อยกลับ เพิ่งไปราชบุรีมาแท้ๆ หลังๆไปราชบุรีทีไรรถติดนานมาก2 ชั่วโมงกว่า วันนี้ลอง
เปลี่ยนไปทางปากท่อดู แวะร้านเจ๊แดงกันด้วย รถไม่ติดเลย ชั่วโมงเดียวก็ถึงร้านเจ๊แดงแล้ว
...วันนี้อี๊ไก่อยู่บ้าน เด็กจิ๋วเลยมีเพื่อนเล่นด้วย แต่ดันไปแกล้งอี๊ไก่ ดูทีวีกันแล้วเห็นน้องสาวของกิ๊ก
ที่ตัวอ้วนๆ เด็กจิ๋วบอกว่า “อุ๊ย คนนี้เหมือนอี๊ไก่เลย แต่เสียงไม่เหมือนกัน”...ไม่เกรงใจกันเลย แต่
ก็คล้ายจริงๆแหล่ะ


๒ ขวบ + ๓๔๕ วัน...จันทร์ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๕
...วันนี้ยังคงต้องอพยพหนีออกจากบ้าน ตั้งแต่เช้าก็ไปเดินเล่นที่เซนลาดกัน เดินเล่นจริง
จริง เพราะไม่ได้จะไปซื้ออะไร แค่ไปเพราะไม่มีที่จะไป ไปถึงก็ไปกินข้าวร้าน ณ บางกอก
เป็นร้านอาหารไทย อาหารไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่เด็กจิ๋วชอบเพราะที่ร้านทำเป็นรถตุ๊กๆ
ให้เด็กๆเข้าไปปีนเล่นกัน กินข้าวเสร็จก็ไปซื้อของนิดหน่อยแล้วกลับ
...วันนี้มีเรื่องระทึกขวัญที่สุดในชีวิตเกิดขึ้น ระหว่างที่กำลังเลือกซื้อเสื้อให้คุณแม่กันอยู่ดีๆ
เด็กจิ๋วเกิดเข้าไปในห้องลองเสื้อ เข้าไปนิ่งๆอยู่นาน ปะป๊ารู้เลยแบบนี้เข้าไปอึ๊แน่ๆ เราก็
กลัวว่าคนอื่นจะมาใช้ห้องลองหรือเปล่า เลยบอกให้เด็กจิ๋วออกมา ไปแอบหลังเคาท์เตอร์
แทน เด็กจิ๋วก็เชื่อ อออกมานั่งแอบอยู่ แต่แล้วก็หันไปเห็นคน ก็โวยวายบอกว่า นี่ไงยังเห็น
คนอยู่เลย ว่าแล้วก็วิ่งหนี คุณแม่วิ่งตาม ตอนนี้เหมือนจะวิ่งหาที่หลบสำหรับทำสมาธิด้วย
แล้วก็เล่นวิ่งหนีคุณแม่ด้วย คุณแม่วิ่งตามติด แต่แค่เด็กจิ๋วเลี้ยวไประยะแค่ 2 เมตร คุณแม่
เกิดพลัดหลง อาจจะเลี้ยวผิดทาง หลังจากนั้นก็หาเด็กจิ๋วไม่เจออีกเลย ปะป๊าก็เริ่มออกหา
บ้างก็ไม่เจอเหมือนกัน คุณแม่เริ่มเครียด นึกว่าเด็กจิ๋วหายไปแล้ว เกิดภาพเลวร้ายตามมา
ในหัวสมองทันที จะมีคนมาจับไปไม๊ จะได้เจอกันอีกไม๊ ส่วนปะป๊าไม่ค่อยแน่ใจ แต่รู้สึกว่า
มึนๆงงๆ ลึกๆคงกลัวเด็กจิ๋วหายเหมือนกัน แต่มันบอกไม่ถูก มันเบลอๆยังไงไม่รู้ เดินวนหา
กันเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คุณแม่เริ่มกลายเป็นคนบ้าแล้ว น่าตาตกใจสุดขีด ตะโกนลั่นห้าง น้อง
พริม น้องพริม มีใครเห็นเด็กใส่เสื้อสีชมพูถักเปียสองข้างไม๊ค่ะ คนแถวนั้นเริ่มจับจ้องมอง
มาที่คุณแม่ ในที่สุดก็มีพนักงานตะโกนบอกต่อกันมาว่าเจอแล้ว เจอแล้ว ปรากฎว่าเด็กจิ๋ว
ไปมุดอยู่ใต้ราวเสื้อ ซึ่งอยู่บล็อกอื่น เราเดินวนหากันแต่บล็อกเดียว ไม่คิดว่าจะวิ่งเร็วขนาด
นั้น คุณแม่ไปเจอเด็กจิ๋วยืนนิ่งๆอยู่ พยายามถามว่าคิดอะไรยังไงทำแบบนี้ก็ไม่ค่อยได้คำ
ตอบแน่ชัด แล้วสภาพตอนที่ไปเจอนี่ก็กำลังยืนนิ่งๆทำหน้าแปลกๆ ไม่แน่ใจว่าทำสมาธิอยู่
หรือว่าตกใจ ถามว่าได้ยินคุณแม่ตะโกนเรียกไม๊ ก็บอกว่าไม่ได้ยิน เหตุการณ์จริงๆไม่น่า
จะเกิน 4-5 นาที แต่ตอนนั้นตกใจกันมาก เวลาเลยเดินช้ามาก ระหว่างที่หาเด็กจิ๋วอยู่ปะป๊า
คิดอยู่ในใจว่าเดี๋ยวเจอแล้วจะประเดิมตีเลย เกิดมายังไม่เคยโดนปะป๊าตี วันนี้ต้องโดนแน่ๆ
คุณแม่ก็คิดอยู่แบบนี้เหมือนกัน แต่พอเจอเด็กจิ๋วแล้วก็เข้าไปอุ้มกอดกัน แบบว่าดีใจมาก
ไอ้อารมณ์จะตีจะว่าก็ไม่เหลือแล้ว แต่ก็ได้แต่สอนดีๆบอกว่าคราวหลังห้ามทำแบบนี้แล้ว
นะ ซึ่งก็คงไม่มีผล คราวหลังก็ทำอีกแหล่ะ สงสัยเราต้องเข็ดไม่พามาเดินห้างอีกนานแน่ๆ
ที่ว่าจะซื้อเสื้อ เสร็จแล้วจะพาไปกินไอติม ก็ยกเลิกหมด ตกใจกันมาก พอได้ตัวเด็กจิ๋วแล้ว
ก็รีบกลับบ้านทันที ยังไม่ทันได้ขอบคุณพนักงานด้วย อุ้มเด็กจิ๋วเดินเบลอๆกันออกมาจากที่
เกิดเหตุ คือไม่สนใจอะไรเลย กอดเด็กจิ๋วอย่างเดียว
...กลับบ้านมารับอี๊ป้อม กับอากงอาม่าจะพาไปบ้านลัดดารมย์ นัดเจ๊น่ากับเฮียโรไปว่าย
น้ำกัน ระหว่างทางแวะ Homepro ซื้อถังขยะใหม่แบบปิดฝามิดชิดกันตัวประหลาด วันนี้
เล่นน้ำสนุกมาก ปะป๊าจับเด็กจิ๋วเหยียบแผ่นโฟมลอยตัวทำเป็นกระดานโต้คลื่น เหมือน
ลิโล่สตริ๊ทช์ แล้วก็จับโต้ไปบนผิวน้ำ เด็กจิ๋วสนุกมาก แต่ปะป๊าอะดิ่ ปวดแขนเลย


๒ ขวบ + ๓๔๖ วัน...อังคาร ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕
...เมื่อคืนกลับมาบ้าน ปะป๊าเจอขี้มิกกี้เม้าส์สดๆในห้องครัว สรุปแล้วตัวปัญหายังคงอยู่
ไอ้ที่จ้างบริษัทมา สงสัยโดนหลอก เสียไป 9,500 บาทฟรีๆ เมื่อคืนลองวางกรงใหม่ แต่ก็
ยังไม่สำเร็จอีก คุณแม่กลุ้มใจมากไม่รู้ทำไงแล้ว เวลาคุยกันเรื่องมิกกี้เม้าส์ เด็กจิ๋วจะชอบ
ถามว่า “มิกกี้เม้าส์ตัวจริงหรือตัวปลอม”...ปกติเราจะบอกว่าตัวจริง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้า
ใจไม๊ว่าตัวจริงมันน่ากลัว เมื่อวันก่อนที่ไปราชบุรี คุยกันเรื่องมิกกี้เม้าส์อีก เด็กจิ๋วก็ถามอา
ม่าเหมือนเดิมว่ามิกกี้เม้าส์ตัวจริงหรือตัวปลอม อาม่าตอบคำถามหลานได้ดีมาก บอกว่า
ตัวจริง แต่เป็นตัวของไทยนะ ไม่ใช่ของฝรั่ง...ตอบเสร็จ หลานยิ่งงงเข้าไปใหญ่
...วันนี้ตอนสายๆพาอี๊ตุ๋มไปยูรัตนาธิเบศก์ อี๊ตุ๋มซื้อตามอีกห้องหนึ่ง คราวที่แล้วเด็กจิ๋วไป
อึ๊ที่นี่สองรอบ วันนี้ไปก็อึ๊อีกแล้ว ไม่รู้ว่าเห็นสำนักงานขายที่นี่เป็นห้องส้วมหรือไง หรือว่า
มันมีหลืบมีซอกให้ไปแอบซุกตัวทำสมาธิเยอะ
...ของเล่นสุดโปรดของเด็กจิ๋ว ที่เป็นแท่งบิดๆ พังลงซะแล้ว เด็กจิ๋วบิดแรงเกิน เส้นเอ็นขาด
เลย คุณแม่บอกว่าจะซื้อให้ใหม่ แต่เด็กจิ๋วบอกว่า “อุ๊ย ไม่ได้หรอก มันเปลือง เดี๋ยวไม่มีตัง
ไปเที่ยว”...จะมาประหยัดอะไรตอนนี้
...ตอนออกไปข้างนอกกัน ปะป๊าบอกว่าจะกลับไปเอาของที่บ้าน เด็กจิ๋วบอกว่า “ไม่ได้ มัน
เสีย มายะราบ”...? จะพูดว่า มารยาท แต่พูดไม่เป็น แล้วก็ไม่เข้าใจความหมายด้วย ชอบ
พูดคำยากๆที่ตัวเองไม่เข้าใจความหมาย เห็นเค้าพูดก็พูดตามไปเรื่อย


๒ ขวบ + ๓๔๗ วัน...พุธ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕

...ตอนเช้าพาเด็กจิ๋วไปโดรัชโยธิน ไปทำสัญญามีคนมาเช่าใหม่ เด็กจิ๋วไปถึงโดก็ดีใจ จำได้
เลยว่าที่เคยมาเล่นสไลด์เดอร์ ว่าแล้วก็รีบวิ่งไปเล่นทันที วันนี้ปีนเขาด้วย ยากมาก ต้องให้
ปะป๊าช่วยดันก้น สามารถปีนขึ้นไปได้สำเร็จ ดีใจกระโดดโลดเต้นใหญ่ เล่นอยู่สักพักก็เลิก
เดินไปดูของเล่นอื่นๆบ้าง สงสัยว่าจะเบื่อสไลเดอร์ซะแล้ว แต่ของเล่นอื่นๆมัน hardcore
เกินไปเล่นไม่ได้ พาอุ้มไปโหนห่วง ปะป๊าลองปล่อยมือ ตอนแรกนึกว่าเด็กตัวเบาๆน่าจะ
ห้อยตัวได้ แต่พอปะป๊าปล่อยมือ เด็กจิ๋วก็ล่วงแผร่ะลงมาเลย
...ออกจากโด ไปแวะตลาดหลังการบินไทย ตั้งใจจะไปซื้อโมเดลดีสนีย์ต่างๆ กับตุ๊กตาเจ้า
หญิง ก็ได้ของครับตามตั้งใจ เด็กจิ๋วได้ตุ๊กตาบาร์บี้ราพันเซลมาตัวหนึ่งพร้อมชุด 3 ชุดแล้ว
มีหวีกับมงกุฎด้วย เพิ่งรู้ว่ามันจะมีของ Mattel ที่เป็นบาร์บี้แท้ กับของดีสนีย์ ตัวตุ๊กตาของ
Mattel ดูจะดีกว่า ราคาแพงกว่าเท่าตัว แต่ของดีสนีย์หน้าตาราพันเซลสวยกว่า เหมือนใน
การ์ตูนเลย ก็เลยเอาของถูกให้เด็กจิ๋วแล้วกัน ส่วนโมเดลดีสนีย์ วันนี้ได้มา 4 ชุดเลย ปะป๊า
เอามาตั้งโชว์ในตู้ แล้วก็เอามาเล่านิทานให้เด็กจิ๋วฟังด้วย ชอบทั้งพ่อทั้งลูกเลย
...ตอนที่เดินเข้าร้านต่างๆในตลาด มีอยู่ร้านหนึ่ง เข้าไปแล้วเด็กจิ๋วบอกว่า “ร้านนี้เราเคยมา
ทุกวันนี่”...แปลว่าร้านนี้เราเคยมา ไอ้คำว่าทุกวันเป็นคำสร้อย ไม่มีความหมาย เด็กจิ๋วจะพูด
แบบนี้ประจำ เด็กจิ๋วไม่ได้จำได้แค่ว่าเคยมานะ ยังจำได้ด้วยว่าพี่คนขายเคยให้สติ๊กเกอร์ด้วย
ที่ปะป๊าสงสัยก็คือจำได้ไงว่าเป็นร้านนี้ที่ให้สติกเกอร์ เพราะร้านแถวนี้มีหลายร้าน เราก็เข้าทุก
ร้าน แต่ละร้านก็หน้าตาเหมือนๆกัน ขายของเหมือนๆกัน
...ตอนแรกลังเลว่าเด็กจิ๋วจะชอบเล่นตุ๊กตาบาร์บี้แบบนี้ยัง คราวก่อนที่ไปตลาดหลังการบิน
ไทยก็ไปหยิบๆเอามาถามเด็กจิ๋วว่าจะเอาไม๊ เด็กจิ๋วก็ไม่สนใจ คิดว่ายังไม่ถึงวัย แต่ปะป๊ากับ
คุณแม่นั่นแหล่ะ เห็นว่ามันสวยมากอยากให้ลูกเล่น ไปดูตามห้างหลายรอบ เลยตัดสินใจซื้อ
ให้ ปรากฎว่าพอเอากลับมาบ้าน เล่นไม่เลิกเลย ชอบมากกอดทั้งวัน เอาไปโชว์อี๊ๆ จับเปลี่ยน
ชุดไปมา ถอดเองได้ แต่ใส่เองไม่ได้ เพราะยากมาก ผู้ใหญ่ยังทำยากเลย


๒ ขวบ + ๓๔๘ วัน...พฤหัส ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เมื่อคืนนี้กอดราพันเซลไว้ตลอดเวลา ตอนนอนก็หอบตุ๊กตากับชุดทั้งหมดมากอดแล้วนอน
ทับไว้ บอกว่าเดี๋ยวมีคนมาขโมย ใครจะมาขโมยของเล่นหนู ตื่นเช้ามาก็เอามาเล่นต่อ ตอนที่
จะลงมาออฟฟิตก็เก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยหอบหิ้วลงมา ทิ้งหมีหมีไว้บนห้อง ตอนนี้เหมือนจะ
รักราพันเซลมากกว่าหมีหมีอีก
...เห็นเด็กจิ๋วชอบตุ๊กตาบาร์บี้ราพันเซลเหลือเกิน ปะป๊าถามเด็กจิ๋วว่า หนูอยากได้เจ้าหญิง
ตัวอื่นหรือเปล่า มีซินเดอเรลล่า สโนว์ไวท์ เบล เยอะแยะเลยนะ เด็กจิ๋วตอบว่า “ไม่เป็นไร
น้องพริมเอาราพันเซลตัวเดียวก็ได้”...เป็นเด็กดี
...เด็กจิ๋วชอบจับราพันเซลแก้ผ้า เป็นตั้งแต่ตอนหมีจิ๋วแล้ว จับแก้ผ้าทั้งวัน แก้ผ้าแล้วเล่นเอา
ทิชชูแปะตัวหน้าหลัง เอามาให้ปะป๊าดู ปะป๊าก็บอกว่า โอ้โห เด็กจิ๋วตัดชุดสีขาวให้ราพันเซล
เหรอ สวยจังเลย เด็กจิ๋วทำหน้า เหว่อ กรอกตาไปมาช้าๆ แบบว่าอะไรของปะป๊าเนี่ยะ แล้ว
บอกว่า “เอ่อ มันคือทิชชู”
...ตอนเย็นๆพาเด็กจิ๋วไป Mega Bangna ระหว่างนั่งรถไปก็หมดแรงหลับไปซะก่อน ดีใจมาก
เลยเพราะต้องไป IKEA เลือกซื้อของแต่งห้องคอนโดกับของรางวัลพี่ๆที่ออฟฟิต เด็กจิ๋วหลับก็
เลือกกันได้สบายหน่อย ถึงแม้ต้องปวดแขนอุ้มเดินไปมาก็ยังดี พอเลือกซื้อของใกล้เสร็จ เด็ก
จิ๋วก็ฟื้นคืนชีพ ถามว่า “นี่เช้าแล้วเหรอ...เราไม่กินข้าวกันเหรอ น้องพริมหิวข้าว” เลยพาไปต่อ
ที่ตัวห้าง Mega Bangna เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเลยมั้ง แต่ละร้านอยู่ห่างกันมากอ่ะ
เราไป B2S ก่อน เลือกซื้อของรางวัลให้พี่ๆ เด็กจิ๋วไปเห็นเยลลี่ใส่กล่องลายสัตว์ก็ร้องขอจะกิน
มันเหมือนกับที่เพิ่งกินมาเมื่อเช้าจากอี๊กบเลย แล้วก็ซื้อช็อกโกแล็ตรวมเจ้าหญิงให้กล่องหนึ่ง
ระหว่างปะป๊าเลือกซื้อของในร้าน เด็กจิ๋วก็เดินหนีหายไปอีกแล้ว แต่โชคดีคราวนี้ไหวตัวทัน
ถ้าเริ่มหายจะต้องตะโกนเรียกให้กลับมาด่วน พยายามไม่ปล่อยให้เดินไปเลื่อยๆแล้ว และมี
อีกตอนหนึ่ง ระหว่างนั่งกิน Auntie Anne อยู่ เด็กจิ๋วก็วิ่งหนีปรู๊ดไปไกลมาก คุณแม่วิ่งตามไป
ไล่จับเหนื่อยเลย สรุปแล้วเด็กจิ๋วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงห้ามไม่ให้วิ่งหนี ทั้งขู่ทั้งหลอก
แล้ว บอกว่าจะมีตัวโกงจับไป จะไม่ได้เจอปะป๊ากับคุณแม่อีก ตอนเราบอกก็เหมือนเข้าใจแต่
เวลาจริงมันคงอดใจไม่อยู่


๒ ขวบ + ๓๔๙ วัน...ศุกร์ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๕

...คุณแม่ปวดเมื่อยตัวมาก บอกว่าปวดประจำเดือน เด็กจิ๋วบอกว่า “น้องพริมปวดประจำวัน”
...ตอนกลางวันอี๊ตุ๋มมาหลอกเด็กจิ๋วว่าจะพาไปกินกุ้งตัวใหญ่ คืออี๊ตุ๋มกำลังจะไปกินข้าวหน้า
กุ้งที่วิลล่าพหลฯอยู่แล้ว เลยแกล้งชวนเด็กจิ๋วเล่นๆ ชวนเสร็จก็เล่นโน้นเล่นนี่ต่อจนลืมไปแล้ว
นั่งรถออกไปกับอี๊ป้อม ไปซื้อข้าวกลางวันกัน แต่แล้วไปได้ครึ่งทาง อี๊ป้อมก็พากลับมาส่ง บอก
ว่าเด็กจิ๋วนึกขึ้นมาได้ว่าอี๊ตุ๋มจะพาไปกินกุ้ง เลยร้องจะกลับมา ปะป๊าบอกว่าไม่ได้ ปะป๊ากับ
คุณแม่ไม่ว่าง ไปไม่ได้ เด็กจิ๋วก็บีบน้ำตาทะลัก ร้องไห้เสียใจหนัก จนในที่สุดปะป๊ากับคุณแม่
ก็ต้องตามเด็กจิ๋วกับอี๊ตุ๋มไปกินข้าวหน้ากุ้งด้วยกัน
...วันนี้เด็กจิ๋วกินเยอะมาก กินข้าวหน้ากุ้ง ข้าวหน้าไก่ พอข้าวหน้าเนื้อของปะป๊ามา ปะป๊าตัก
ให้เหมือนทุกที ดันบอกว่าไม่เอา สะบัดมือแพล่บๆ แบบว่าปะป๊าเอากลับไปเลย กำลังเพลิด
เพลินกับข้าวหน้ากุ้ง ไข่กุ้งที่โรยอยู่ก็ชอบมาก พอตัวเองกินเสร็จก็กระโดดลงพื้นวิ่งจะออกไป
นอกร้านทันที ไม่รอกันบ้างเลยนะ
...ตอนมาลานจอดรถที่วิลล่า มีรถคล้ายๆอี๊ตุ่มจอดอยู่ใกล้ๆ สีขาวเหมือนกัน แต่เป็น series3
ลองถามเด็กจิ๋วว่ารถอี๊ตุ๋มคันไหน เด็กจิ๋วก็สามารถชี้ได้ถูกต้อง แกล้งถามว่าไม่ใช่คันนี้เหรอ
เด็กจิ๋วก็บอกว่าไม่ใช่ มันไม่เหมือนกัน เก่งมากอ่ะ


๒ ขวบ + ๓๕๐,๓๕๑ วัน...เสาร์ ๑๕ – อาทิตย์ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๕

...ไปเที่ยวทริปบริษัท --> N’Prim@Nishavill, Praxis Trip 55


๒ ขวบ + ๓๕๒ วัน...จันทร์ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เดี๋ยวนี้เด็กจิ๋วจะคอยถามทุกวันว่าวันนี้วันอะไร เพราะเรามีกติกาว่าถ้าเป็นวันหยุด จะ
เปิดการ์ตูนให้ดู ถ้าวันทำงานจะดูไม่ได้ เมื่อวานนี้เป็นวันอาทิตย์ ตอนกลางคืนที่กลับมา
จากที่เที่ยวแล้วเลยเปิดการ์ตูนเรื่อง Arial ให้ดู เด็กจิ๋วชอบมากอีกแล้ว บอกว่าชอบที่สุด
เลย วันนี้เลยกลายเป็นนางเงือก นอนกับพื้นเลื้อยไปเลื้อยมา ถ้าเสกให้มีขาแล้วก็จะพูด
ไม่ได้ เด็กจิ๋วเล่นบทบาทเหมือนทุกๆเรื่องที่ผ่านมา ให้ตัวเองเป็นนางเอก ปะป๊าได้เป็นพ่อ
ของนางเอก หรือไม่ก็พระเอก ส่วนคุณแม่รับบทตัวร้ายทุกครั้ง คราวนี้หนักหน่อย เป็นป้า
อ้วนปลาหมึกยักษ์
...ตอนบ่ายๆรีบพาเด็กจิ๋วไปราชบุรี จะไปออกรถให้อากง แวะกินก๋วยเตี๋ยวไข่ ปะป๊ากับ
คุณแม่หนีมากินร้านนี้บ่อยมาก แต่ปกติจะทิ้งเด็กจิ๋วไว้บ้าน คราวนี้ลองพามาดู กินข้าว
กับไข่พะโล้ แล้วก็ลอดช่อง เสร็จแล้วก็ไปออกรถให้อากงกัน เด็กจิ๋วไปดูเค้าติดฟิล์มให้รถ
อากง ตั้งใจดูอย่างจดจ่อมาก เพราะเป็นอะไรที่เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก
...เสร็จธุระกับอากงก็รีบขับรถไปหัวหิน ไปรับอี๊กบออกจากโรงพยาบาล พากลับบ้านที่
รังสิต ระหว่างทางที่นั่งรถ เด็กจิ๋วพูดเพ้อเจ้อมาก พูด พูด ไม่หยุด คุณแม่หลับไปก็ปลุก
ให้ขึ้นมาคุยด้วย บอกว่าน้องพริมจะไปรับอี๊กบ น้องพริมเป็นหวงอี๊กบ น้องพริมขอกอด
อี๊กบได้ไม๊ ตอนแรกนึกว่าจะไปกวนอี๊กบหรือเปล่า แต่พอเจออี๊กบก็เป็นเด็กดี จูงอี๊กบดีๆ
เสร็จแล้วก็พากลับบ้าน นั่งรถอีก 3 ชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านรังสิต


๒ ขวบ + ๓๕๓ วัน...อังคาร ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เดี๋ยวนี้เด็กจิ๋วชอบใช้มุขร้องไห้ อย่างเมื่อคืนตอนนั่งรถกลับมาบ้าน บอกว่าอยากกิน
นมขวดเมจิ เราบอกว่าไม่มี มีแต่นมกล่องแบบที่เคยกินทุกวัน เด็กจิ๋วก็ปล่อยโฮ ร้องไห้
บีบน้ำตากระเด็น จนเราใจอ่อนต้องขับรถไปซื้อให้ แล้วพอกลับมาบ้านมีไปแง่งๆสะบัด
ใส่อี๊ป้อม ปะป๊าเลยดุ พอดุไปเท่านั้นแหล่ะ ก็ปล่อยโฮอีกแล้ว ปะป๊าว่ามันจะเคยตัวนะ
เลยไม่งอแล้ว ปล่อยให้ร้องไป สักพักก็หยุดเอง...อย่างวันนี้ก็เอาอีก ตอนกลางวันอี๊ป้อม
พาขึ้นไปข้างบน ขึ้นไปได้ครึ่งทางก็บีบน้ำตาร้องไห้อออกมา บอกว่า “น้องพริมคิดถึงคุณ
แม่ คุณแม่เป็นลูกน้องพริม น้องพริมอยากกินข้าวพร้อมกับแม่”...อี๊ป้อมก็ใจอ่อนพาลง
มากินข้าวกับคุณแม่
...ตอนเย็นเด็กจิ๋วพาปะป๊าไปตัดผมที่เซนปิ่น ระหว่างปะป๊านั่งตัดผมอยู่ ก็กังวลมาก
ให้คุณแม่พาเด็กจิ๋วไปกินไอติม จะทำเด็กจิ๋วหายไม๊อ่ะ คิดแล้วก็ไม่น่าพาเด็กจิ๋วมาที่
ห้างอีกเลย แต่แล้วก็ไม่หาย คุณแม่บอกว่าไม่ปล่อยให้วิ่งเลย จับตัวไว้ตลอดเวลา เดิน
ไปมาในห้างก็ต้องจูงมือไว้ ไม่กล้าปล่อยเลย


๒ ขวบ + ๓๕๔ วัน...พุธ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เมื่อคืนเด็กจิ๋วเล่นเป็น ราเซยอง ชื่อนี้เด็กจิ๋วตั้งเอง มาจากไหนก็ไม่รู้ ให้เอาผ้ามาพันๆ
นุ่งเป็นผ้าถุง แล้วก็เอาผ้าห่อหมีหมีมัดสะพายหลังไว้ แล้วเวลาอยู่ในชุดนี้ก็ต้องทำเรียบ
ร้อย เดินช้าๆ พูดเบาๆ นอบน้อม
...เวลาเด็กจิ๋วกินซาลาเปา จะกินคนเดียว 2 ลูกเต็ม กินแล้วเผ็ดต้องกินน้ำตามเป็นระยะ
แต่ก็อร่อย ตอนหยิบซาลาเปามาเริ่มกิน จะงงๆเล็กน้อย เริ่มไม่ถูก เพราะมันกลมๆ ต้อง
ให้คุณแม่กัดให้ก่อนคำหนึ่ง แล้วก็ส่วนไข่แดงจะไม่กิน กินแต่ไข่ขาว
...มีช็อกโกแล็ตกล่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานปะป๊า น้าเอ๋ซื้อมาฝากจากสิงคโปร์ เด็กจิ๋ว
ต้องมาขอกินทุกวันเลย วันละ 2 ชิ้น วันนี้เดินผ่านก็ทำหน้าตามีพิรุท แล้วบอกว่า “อุ๊ย เดิน
ผ่านช็อกโกแล็ตปุ๊บ ก็อยากกินทันที ปะป๊า ขอกินช็อกโกแล็ตหน่อยได้ไม๊”


๒ ขวบ + ๓๕๕ – ๓๕๘ วัน...พฤหัส ๒๐ – อาทิตย์ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๕

...ไปเชียงรายครั้งที่สองในปี --> N’Prim@เชียงราย ไร่ชา 2012


๒ ขวบ + ๓๕๙ วัน...จันทร์ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๕...ตอนเช้าพากันไปโลตัส ซื้อช็อกโกแล็ตเจ้าหญิงให้เด็กจิ๋ว พอกลับมาบ้าน พี่โอแกล้งมา
ขอไปกล่องหนึ่ง เด็กจิ๋วก็ยอม เป็นเด็กใจดีไม่หวงของเลย พอพี่โอได้ก็บอกว่า ฝากไว้ก่อน
เดี๋ยวกลับมาตอนเย็นค่อยมากิน พอพี่โอกลับมาตอนเย็น เด็กจิ๋วจำได้ รีบหยิบไปให้พี่โอ
น่ารักมาก
...ตอนกลางวันหนีเด็กจิ๋วไปเซนลาดกัน ไม่พาเด็กจิ๋วไปเพราะว่ากลัวจะวิ่งหนีหายไปอีก
ที่ห้าง ปะป๊าเดินไปเจอตัวตลกทำลูกโป่ง เลยไปขอรูปมินนี้เม้าส์กลับมาให้เด็กจิ๋วอันหนึ่ง
พอเด็กจิ๋วเห็นแล้วบอกว่า “ไม่เอา หนูจะเอาสติกเกอร์”...ช่วงนี้ชอบเล่นสติกเกอร์มากๆ
...ตอนไปเที่ยว เด็กจิ๋วดูคอนพี่เบิร์ดเป็นสิบรอบ ในคอนนั้น พี่เบิร์ดชอบพูดว่า น่าร๊ากกก
น่าร๊ากกกอ่ะ ปะป๊ายังบ่นๆอยู่ว่าอะไรของพี่เบิร์ดเนี่ยะ แอ๊บมากๆ วันนี้เด็กจิ๋วติดมาพูด
เลย ตอนได้ตัวปั๊ม my melody ก็ถือเอาไปโชว์พี่ๆแล้วพูดว่า “โอ๊ย น่าร๊ากกอ่ะ น่าร๊ากก
อ่ะ”
...เมื่อเช้าคุณแม่ต้องชำแหล่ะหมีหมีเอาไปซัก ไม่ไหวแล้ว เด็กจิ๋วชอบอมหูหมี แล้วก็เอา
หมีหมีลากถูตามพื้น ตอนนี้สกปรกมากต้องซักโดยด่วน พอถอดไส้เสร็จก็ร้องไห้ใหญ่คิด
ถึงหมีหมี พอตอนบ่ายอี๊ป้อมพาขึ้นไป เด็กจิ๋วก็รีบมาบอกให้อี๊ป้อมยัดไส้ให้ เอามากอด
รักมาก
...เด็กจิ๋ววิ่งมาหาคุณแม่ “คุณแม่ คุณแม่ น้องพริมกินก๋วยจั๊บได้ไม๊”...ก๋วยจั๊บที่ไหน มัน
คือเกาลัดต่างหาก พูดผิด


๒ ขวบ + ๓๖๐ วัน...อังคาร ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕...พาเด็กจิ๋วไปบ้านอากง อากงจับตัวเด็กจิ๋วมากอด เด็กจิ๋วสะบัดวิ่งหนี แล้วบอกว่า
“น้องพริมอาบน้ำแล้วนะอากง”...ทำไมล่ะ อากงตัวเลอะเหรอ เด็กจิ๋วชี้ไปที่แขนอากง
แล้วบอกว่า “เนี่ยะ ดำ ดำ”...ที่จริงก็ไม่ดำนะ เป็นแขนคนแก่ มันเหี่ยวๆเป็นดวงๆมาก
กว่า
...เมื่อคืนเล่านิทานเรื่องกบเลือกนาย พอจบเรื่องก็ถามเด็กจิ๋วเหมือนเดิมว่านิทานเรื่อง
นี้สอนให้รู้ว่าอะไรค่ะ เด็กจิ๋วตอบ “สอนให้รู้ว่า เราไม่ควรกินกบ”...?
...ตั้งแต่มีมิกกี้เม้าส์มาบุกก็ไม่ได้เข้าห้องครัวกันมาสองสามอาทิตย์แล้ว แต่อี๊ป้อมราย
งานว่าไม่เจอหลักฐานมานานมากแล้ว ตั้งแต่ช่างทีมแรกมาฉีดยากับวางเหยื่อที่นอก
บ้านนั่นแหล่ะ ตอนแรกยังไม่แน่ใจว่ามันยังอยู่ในบ้านหรือเปล่า แต่จนป่านนี้ยังไม่เจอ
ขี้เพิ่มอีก ก็น่าจะไม่อยู่แล้วล่ะ ตอนกลางคืนเลยลองพากันเข้าไปนั่งกินหนมในห้องครัว
คุณแม่ปีนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะอาหาร เด็กจิ๋วงงใหญ่ว่าคุณแม่เป็นไรไป


๒ ขวบ + ๓๖๑ วัน...พุธ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๕

...เด็กจิ๋วเอาคำพูดฮาๆมาจากไหนไม่รู้ วันก่อนที่ไปเที่ยวกัน ลั้นลากัน 3 พ่อแม่ลูก ก็
กอดปะป๊ากับคุณแม่แล้วบอกว่า “น้องพริมสุขใจ”...แล้วก็ชอบพูดคำว่า “โอ๊ย กลุ้มหัว
ใจ”...แล้ววันนี้ลงไปหาอี๊ตุ๋มก็บอกว่า “อี๊ตุ๋มยิ้มแย้ม ไม่น่ากลัว”
...วันนี้ตัดสินใจจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ตอนเย็นปะป๊าทำครัวชุดใหญ่ นั่งกินข้าวกัน
ในห้องครัว เล่นทีวีใหม่ แต่คุณแม่ก็ยังระแวงอยู่ตลอดเวลา ยังไม่กล้าเข้าครัวคนเดียว
แล้วต้องนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวตลอดเวลา


๒ ขวบ + ๓๖๒ วัน...พฤหัส ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๕

...วันนี้อากงมา เด็กจิ๋วเจออากงก็เหมือนเดิมทุกครั้งเลย ตอนแรกทำเป็นไม่สนใจ เค้าจะ
กอดก็ไม่ให้ แต่พออากงบอกว่าซื้อองุ่นมาให้เท่านั้นแหล่ะ หันควับมาหาอากง เข้าไปกอด
ไปประจบ จนตอนอากงจะกลับ ก็ร้องจะกลับไปราชบุรีกับอากง อาม่าไม่ได้มาด้วยเพราะ
ช่วงนี้ยุ่งทำขนมขายที่บ้าน แต่โทรคุยกับเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วบอกอาม่าว่า “น้องพริมรักอาม่าที่
สุดเลย เพราะอาม่ามีองุ่น”...เด็กเห็นแก่กินมากๆอ่ะ
...วันนี้ปะป๊ากับคุณแม่ยุ่งกันถึงเย็นเลย ขึ้นไปข้างบน ก็เจอเด็กจิ๋วหลับแล้ว อี๊ป้อมให้กิน
ข้าว อาบน้ำ พาเข้านอนเรียบร้อย ไม่ได้เจอแบบนี้มานานมากแล้ว หลังๆมานี่ ไม่ว่าจะ
นอนกลางวันหรือไม่ก็ไปหลับตอนเกือบเที่ยงคืนทุกวันเลย


๒ ขวบ + ๓๖๓ วัน...ศุกร์ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๕

...ตอนเช้าปะป๊าอุ้มเด็กจิ๋วลงมาทิ้งไว้กับอี๊ป้อมที่ออฟฟิต แล้วต้องออกไปประชุมกับลูกค้า
ข้างนอก ตอนจะออกไปได้ยินเด็กจิ๋วร้องโวยวาย พอตอนบ่ายปะป๊ากลับมาบ้าน เด็กจิ๋ววิ่ง
เข้ามากอดแล้วบอกว่า “เมื่อเช้าน้องพริมร้องไห้เลย ที่ปะป๊าทิ้งน้องพริมไปประชุมอ่ะ”
...วันนี้พาเด็กจิ๋วตะลอนทั้งวันเลย ยุ่งกับเรื่องคอนโด วันนี้มีช่างวอลเปเปอร์มาติด แล้วพา
พี่สากับอี๊ป้อมไปทำความสะอาด แล้วยังมีธุรกรรมต้องไปธนาคารหลายที่ เด็กจิ๋วไปเต้นรำ
กับปะป๊ากลางธนาคารกรุงเทพเลย


๓ ขวบ...เสาร์ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๕

...วันนี้มีงานวันเกิดเด็กจิ๋ว ปกติจะต้องจัดที่บ้านนี้แหล่ะ แต่คุณแม่กลัวมิกกี้เม้าส์อยู่ เลยงด
การทำอาหารใหญ่ ไม่ให้คนมาบ้านเยอะด้วย เพราะอาจจะไปเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ หรือ
ไม่ก็ทิ้งเศษอาหารไว้ตามส่วนต่างๆของบ้าน เลยเปลี่ยนไปจัดที่บ้านลัดดารมย์ เราพาเด็กจิ๋ว
ไปเซนลาดกันแต่เช้าเพื่อไปซื้อเค้กวันเกิด เลือกร้าน something sweet เอาแบบชิ้นหลายๆ
แบบคละกัน ให้เรียงเป็นกลมๆแล้วผูกโบว์ ระหว่างรอเค้กอยู่ เด็กจิ๋วได้มาการองไปหลายชิ้น
กินซะปากสีฟ้าเลย
...เจอเจ๊นิววันนี้ รู้สึกว่าเจ๊นิวโตขึ้นมาก ตัวสูงกว่าคุณแม่แล้ว เป็นผู้ใหญ่ สุขุม ไม่มาเล่นไร้
สาระกับน้องๆแล้ว ส่วนเจ๊น่ายังง๊องแง๊งเหมือนเดิมทุกครั้งที่มีแขกมาบ้าน วันนี้เด็กๆไม่ไป
สระว่ายน้ำกัน เพราะเจ๊น่าซื้อสระในบ้านมา เข็ดจากครั้งก่อนมั้งที่ไปสระแล้วมันปิด เด็กๆ
เล่นน้ำในสระกันหนุกหนาน สนุกกว่าลงสระว่ายน้ำจริงอีก เล่นกันอยู่นานมาก พอเล่นกัน
เสร็จ ปะป๊าพาเด็กจิ๋วไปลงสระใหญ่ต่อ แต่เด็กคนอื่นๆไม่ไปด้วย ซึ่งก็ถูกของเค้า เพราะว่า
เล่นน้ำกันนานชั่วโมงกว่า ควรจะพอได้แล้ว ตอนที่เด็กจิ๋วมาลงสระใหญ่กับปะป๊า ก็หนาว
สั่น ลงไปแช่น้ำอยู่แป๊บเดียวก็ต้องขึ้น เพราะอากาศก็เย็น เหมือนคราวก่อนที่ไปลงสระที่รี
สอร์ทเลย เด็กจิ๋วลงไปก็กอดปะป๊าไว้แน่น กอดกันยืนเฉยๆในน้ำ เล่นไม่ไหว
...เล่นน้ำเสร็จก็แจกของขวัญปีใหม่กัน ปะป๊าเป็นคนเริ่มประเพณีแจกของขวัญปีใหม่ให้
เด็กๆทุกคน เริ่มตั้งแต่ปีที่เด็กจิ๋วเกิด หลังจากนั่นๆอาโกวอาแปะก็ทำตามกันมา วันนี้เลย
มีของขวัญสะพัดเต็มบ้านไปหมด เด็กจิ๋วได้กระจกวิเศษคิตตี้ หมาคุ้กกี้พร้อมกรง ซึ่งคุณ
แม่กลัวมาก ตอนแกะออกจากกล่องก็ผวาไปทีหนึ่ง นอกนั้นก็เป็นตุ๊กตา ที่คาดผม ปีกติด
หลัง กระเป๋าใส่ของ
...พอถึงตอนร้องเพลงเป่าเค้กกัน เด็กจิ๋วไม่ยอมเป่า เขินอาย จนในที่สุดต้องให้เจ๊นิวเป่าไป
คนเดียว


๓ ขวบ + ๑ วัน...อาทิตย์ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๕

...วันนี้พาเด็กจิ๋วไปเขาดิน ช่วงนี้บ่นหลายทีแล้วว่า “น้องพริมไม่เคยเห็นอันนี้ของจริงๆเลย”
ไอ้อันนี้ของเด็กจิ๋วก็มี list กันเอาไว้ ประกอบด้วย จรเข้ เสือ งู จิงโจ้ หมีโคล่า วันนี้เราโชคดี
มีไกด์ผู้เชี่ยวชาญเขาดินพาเที่ยวด้วย นั่นก็คือพี่โฮไอนั่นเอง พี่โฮไอไปบ่อยมาก อาจจะเกือบ
สิบครั้งแล้วมั้ง ไปถึงก็เดินผ่านพวกยีราฟ ม้าลาย พวกนี้แวะไม่นานเพราะเห็นบ่อยแล้ว ต่อ
มาก็ไปกรงสิงโต อันนี้เด็กจิ๋วเห็นก็เรียกว่า ซิมบ้า ทันที แต่ซิมบ้าตัวนี้ดูรันทดมาก แก่ ผอม
เหี่ยวๆ ไม่เหมือนราชสีห์เลย เด็กจิ๋วจะงงไม๊เนี่ยะว่าทำไมสิงโตเป็นแบบนี้ นี่แหล่ะ ที่ไม่เคย
พาเด็กจิ๋วมาเขาดิน เพราะคิดว่ามันคงแย่ ซึ่งก็แย่จริงๆ สัตว์ดูแลไม่ดี สถานที่ก็สกปรก กลิ่น
ขยะลอยมาเหม็นเป็นระยะๆ ถัดจากกรงสิงโตก็เป็นเสือ อันนี้โอเคหน่อย ดูเสือเสร็จก็ไปนั่ง
กินหนมกันที่ 7-11 ก่อน เพราะเด็กๆยังไม่ได้กินข้าวเช้า อากงไปเดินหาห้องน้ำ แต่หายไป
นานมาก เกือบชั่วโมง โชคดีที่มีโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย โทรไปตาม ปรากฎหว่าหาทางกลับ
มาไม่เจอ เลยบอกให้อากงหาจุดสังเกตมาแล้วนั่งรอเฉยๆให้ปะป๊าเดินไปรับ
...ถัดมาเป็นบริเวณพวกสัตว์เลื้อยคลาน เด็กจิ๋วอยากจะดูงู ตรงนี้มีงูเยอะมาก หลายชนิด
แล้วก็จรเข้ด้วย เด็กจิ๋วเห็นจรเข้แล้วถามว่าอันนี้ของจริงหรือของปลอม มันเป็นของจริงนั่น
แหล่ะ แต่จรเข้มันชอบอยู่นิ่งๆ พอเดินออกมาด้านนอก มีเจ้าหน้าที่พางูออกมาให้นักท่อง
เที่ยวจับตัวได้ เด็กจิ๋วอยากจับมาก แต่เหมือนเดิม พออุ้มเข้าไปใกล้ๆก็ปีนปาย กลัวไม่กล้า
...เสร็จแล้วก็นั่งรถพ่วงไปลานช้าง เด็กจิ๋วบอกว่าอยากดูช้างเด็กตัวเล็กๆ ไม่เอาตัวใหญ่ ก็
พาไปหาเจอลูกช้างตัวเล็ก อยากให้อาหารช้าง เราก็ซื้อถั่วฝักยาวให้อี๊ป้อมพาไปป้อน เด็กจิ๋ว
หยิบถั่วฝักยาวไปเส้นหนึ่ง กำลังจดๆจ้องๆ กลัวๆกล้าๆ อยู่ดีๆ ช้างเด็กที่ว่า ก็หันมาหาอี๊ป้อม
ซึ่งถือตะกร้าถั่วฝักยาวอยู่ แล้วก็ใช้งวงตวัดทั้งตะกร้าไป เด็กจิ๋วเห็นก็ร้องไห้โฮ ตอนแรกเราก็
นึกว่าเด็กจิ๋วตกใจกลัว แต่ถามไปถามมา เด็กจิ๋วบอกว่า “น้องพริมเสียใจ น้องพริมยังไม่ทัน
ได้ป้อนเลย”...คือเสียใจที่โดนช้างแกล้ง ร้องไห้อยู่นานไม่หยุด
...ถัดจากกรงช้าง เดินมาอีกหน่อย ก็ถึงจุดหมายปลายทางของเด็กจิ๋ว จิ้งโจ้ หรือ ลู ในเรื่อง
หมีพูนั่นเอง ในเรื่องนี้เด็กจิ๋วชอบลูที่สุดแล้ว แต่พอมาเห็นลูของจริง เด็กจิ๋วถามว่า “ทำไมลู
เป็นแบบนี้อ่ะ ทำไมสีนี้อ่ะ”...เรารู้เลยว่าเด็กจิ๋วผิดหวังอย่างแรง ลู ในเรื่องหมีพูมันน่ารักมาก
แล้วมาเจอจิงโจ้ตัวจริง น่าเกลียดมาก แล้วยิ่งเป็นจิงโจ้เขาดินด้วย ยิ่งน่าเกลียดใหญ่ ตัวมัน
จะถลอกๆ สีเน่าๆ เหมือนไม่ค่อยสมบูรณ์ แล้วเด็กจิ๋วก็ยังร้องไห้จากที่ช้างแกล้งอยู่เลย ในที่
สุดก็เลยดูจิงโจ้แป๊บเดียวแล้วก็กลับ
...แวะกินข้าวกลางวันกันที่ร้านพูลสิน ร้านนี้เราเกลียดกันมาก แต่อาม่าชอบ ยิ่งมาวันพิเศษ
แบบนี้ทีไร คนยิ่งเยอะแล้วจะหงุดหงิด วันนี้ก็เป็นเหมือนเดิม หงุดหงิดเล็กน้อย

 
๓ ขวบ + ๒ วัน...จันทร์ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕

...วันนี้ไปราชบุรีกัน มีบ้านเรา อากงอาม่า อี๊ป้อม แล้วก็บ้านพี่โฮไอ ไปกันทั้งหมด 9 ชีวิต
อัดแน่นกันไปรถปะป๊าคันเดียว อัดแน่นจริงๆ อาแปะกับเด็กสองคนนั่งหลังสุด สนุกเลย
ล่ะ ได้นั่งหลังสมใจ อยากจะนั่งแบบนี้มานานแล้วแต่เราไม่อนุญาต วันนี้มีพี่โฮไอไปนั่ง
ด้วยกันอีก
...มื้อกลางวัน เราไปกินกันที่รื่นรส อากงเลี้ยง อาหารอร่อยมาก เด็กจิ๋วยังรู้เลย กินเป็ด
ยัดไส้แล้วบอกว่า “เป็ดวันนี้อร่อย เป็ดเมื่อวานไม่อร่อย”...เป็ดเมื่อวานหมายถึงเป็ดย่าง
พูลสิน กินข้าวเสร็จก็กลับมาเลือกผ้าม่านกับวอลเปเปอร์กัน ให้อี๊ป้อมพาเด็กจิ๋วกับพี่โฮ
ไอขึ้นไปเล่นข้างบน หายไปสองชั่วโมงเงียบกริป ลองขึ้นไปดู ปรากฎว่าเด็กจิ๋วกำลังเล่น
หนุกหนานกับพี่โฮไอ ช่วงนี้พี่โฮไอร่าเริงมาก ไม่เหมือนปีที่แล้ว ตอนนั้นจะดูเครียดๆเล่น
ไม่หนุก เหมือนจะไม่ยอมเล่นกับเด็กจิ๋วด้วยแหล่ะ ชอบเล่นอยู่คนเดียว แต่ช่วงนี้เปลี่ยน
ไปเยอะมาก เด็กจิ๋วก็เล่นกับพี่โฮไอเหมือนที่เล่นกับพี่โนพี่โน่เลย
...ตอนนั่งรถกลับบ้าน พี่โฮไอสลบไปแล้วอยู่หลังรถ ตอนแรกเด็กจิ๋วก็สลบด้วย แต่สักพัก
ก็ตื่นขึ้นมา ปีนมานั่งตรงกลางกับคุณแม่ ซึ่งอัดกันอยู่สี่คน มีเด็กจิ๋วมาอีก 1 ถ้ามานั่งตัก
ก็ยังพอว่า แต่ไม่ยอม จะนั่งเบาะเหมือนคนอื่นๆ ก็เลยต้องไล่อากงไปนั่งหลังกับอี๊ป้อม
จนกลับมาถึงบ้านแล้วแรงยังไม่หมดอีก ต้องเปิดการ์ตูนเรื่องอาลาดินให้ดูรอบหนึ่ง