วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

3 ขวบ 7 เดือน



๓ ขวบ + ๒๑๔ วัน...พฤหัส ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนเด็กจิ๋วหลับไปแล้ว ละเมอตื่นขึ้นมากลางดึก หันมาทางปะป๊า หาปะป๊าไม่เจอ เพราะปะป๊าดูหนังอยู่ห้องโฮม คุณแม่หลอกว่าปะป๊าไปเข้าห้องน้ำ เด็กจิ๋วก็เข้าไปกอดคุณแม่บอกว่า “น้องพริมตัวเล็กลง น้องพริมตัวเล็กลง”...แล้วก็ทำท่ากลัวใหญ่เลย ไม่ยอมนอนต่อด้วย รอปะป๊ามากอด คุณแม่เลยมาตามปะป๊าเข้าไปกอดเด็กจิ๋ว แป๊บเดียวก็หลับต่อได้ พอตอนเช้ามาถามว่าเมื่อคืนฝันว่าอะไร เด็กจิ๋วบอกว่า “มีเงา น้องพริมมีเงา แต่ไม่มีตัว น้องพริมกลัวมันมีตัวประหลาดออกมา”...งง ว่าหมายถึงอะไร เงาใคร ไม่รู้เรื่อง
...วันนี้ไปรับเด็กจิ๋ว เห็นเด็กจิ๋วกำลังนั่งทำอะไรกับครูแหววอยู่ พอเจอเราก็รีบวิ่งเอากระดาษที่กำลังทำอยู่มาให้ดู เป็นรูปอะไรสักอย่าง 2 รูป ถามเด็กจิ๋วว่ามันคืออะไร เด็กจิ๋วบอกว่า “แมงกะพรุน กับพระอาทิตย์”...บอกมาแล้วดูตาม มันก็ใช่อะ เรียกว่าวาดได้เก่งจริงๆนะ พยายามถามว่าวาดเองจริงเป่าหรือครูช่วย คือจากรูปก็เบี้ยวๆคงจะวาดเองนั่นแหล่ะ แต่งงว่าวาดรูปเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ล่าสุดยังวาดไม่รู้เรื่องอยู่เลย แต่เราก็ไม่ได้ให้วาดรูปมานานมากแล้ว พอกลับมาบ้านให้ลองวาดรูปบ้านให้ดูหน่อย ก็ไม่ยอมวาด วาดมั่วๆ เราก็เลยงง กั๊กไม่ยอมโชว์หรือว่าที่โรงเรียนครูช่วยกันแน่
...วันนี้ตอนไปรับกลับจากโรงเรียน เด็กจิ๋วลั้นลามาก วิ่งออกจากห้องเรียนแล้วเอาผลงานที่วาดรูปโชว์ครูคนโน้นคนนี้ใหญ่ เดินผ่านใครก็เรียกแล้วหวัดดีสวยงาม เจอแม่น้องเบ๊บก็ตะโกนเรียก “แม่ แม่ บ๊าย บาย”

๓ ขวบ + ๒๑๕ วัน...ศุกร์ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เด็กจิ๋วตลกมากเลย เมื่อคืนนี้ปะป๊านึกสนุก แกล้งทำสัญญากับเด็กจิ๋วว่า ต่อไปนี้ เราจะไม่โกรธกัน ไม่ทะเลาะกัน ไม่ดื้อ ไม่งอแง จะยิ้มให้กัน กอดกัน คุณแม่จะได้ไม่ต้องดุ แล้วให้รีบนอน พรุ่งนี้ตื่นมาจะได้ไม่งอแง เด็กจิ๋วก็เห็นด้วย บอกว่า “งั้นน้องพริมต้องรีบนอน พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาไม่งอแงอาละวาด”...พูดเสร็จก็กอดปะป๊านอนหลับไปภายในไม่กี่วินาที เป็นเด็กดีมาก พอมาเช้าวันนี้ยิ่งเป็นเด็กดีหนักเข้าไปอีก ตอนเช้าปกติเราไปปลุกจะต้องอาละวาดแล้ว แต่วันนี้พอเราไปเรียก ก็บอกว่า “ปะป๊าจะพาน้องพริมไปไหน บอกมาก่อน”...เราก็บอกว่าต้องไปโรงเรียนไง ไปเรียนบัลเล่ต์แล้วตอนเย็นไปเรียนเปียโน เด็กจิ๋วไม่ยอมลุกนั่นแหล่ะ แต่เราก็ไปควักขึ้นมา หน้าตามึนง่วง แต่ไม่อาละวาดเลย อุ้มลงมาข้างล่าง จับแต่งตัวก็อิดอ่อดนิดหน่อย แต่ไม่อาละวาดอยู่ดี เรียกว่าเป็นเด็กดีมากๆแล้วล่ะ พอไปถึงโรงเรียนก็อารมณ์ดีเลย บอกว่าไม่ต้องอุ้ม จะเดินเองเพราะใส่รองเท้าสวยต้องเดินเอง ว่าแล้วก็เดินจูงมือเจ๊น่ากับเฮียโรเข้าโรงเรียนไป เจอแม่น้องครับ แม่เค้ายังทักเลยว่าวันนี้อารมณ์ดี พอไปส่งหน้าห้องเรียนก็เดินเข้าห้องไปเรียบร้อย ไม่มากระโดดเกาะขาปะป๊าแบบเมื่อวานแล้ว สรุปแล้วก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะนึกสนุกทำตามที่ตกลงกันไว้เมื่อวานว่าต่อไปนี้จะเป็นเด็กดี หรืออารมณ์ดีเพราะวันนี้ได้เรียนบัลเล่ต์กับเปียโนก็ไม่รู้
...เมื่อวันก่อนไปดูเฮียโรแสดง Reading Show วันนี้เป็นคิวของเจ๊น่า รู้สึกว่าของ ป.4 ดีกว่า ป.6 อีก วันนี้กำกับไม่ดี ผิดพลาดทางเทคนิคเยอะ เนื้อเรื่องแย่ เด็กๆไม่มีอินเนอร์
...ตอนไปรับเด็กจิ๋ว ได้ถามครูแหววเรื่องรูปที่เด็กจิ๋ววาดกับครูแหววเมื่อวาน ถามว่าเด็กจิ๋วเค้าวาดเองเลยเหรอ ครูแหววคอนเฟิร์มบอกว่าวาดเอง มีแบบให้ไม๊ ก็ไม่มี วาดเองจากจินตนาการเลย บอกด้วยว่าเป็นรูปปลาหมึกกับดวงอาทิตย์ แล้วครูสั่งไปกลับไประบายสีแล้วเอามาให้ดูวันนี้จะมีดาวให้ แต่คุณแม่ไม่ได้เอาไป โห แบบนี้เด็กจิ๋วก็เทพมากเลยนะ วาดได้ไง แต่คิดไปคิดมาเรามาตื่นเต้นกันใหญ่ ไม่เห็นครูแหววจะตื่นเต้นอะไรเลย แสดงว่าเด็กคนอื่นๆเค้าก็คงวาดกันได้เหมือนกันแหล่ะ
...ทุกวันศุกร์ตอน 4 โมงเย็น จะต้องพาไปเรียนเปียโนที่ KPN เซนลาด เริ่มตั้งแต่วันนี้ ออกจากโรงเรียนตอน 2 โมงกว่า ไปถึงห้างตั้งแต่ 3 โมง ที่จริงถ้าได้เรียนตอน 3 โมงจะพอดี แต่ว่าครูไม่ว่างเวลานี้ เราเลยต้องเดินเล่นรอเวลาอยู่นานเลย พอได้เวลาก็ไปรอที่ KPN สักพักครูหวานซึ่งเป็นครูของเด็กจิ๋วก็มาถึง เป็นเด็กๆอยู่เลย เหมือนเพิ่งจบ หรือไม่ก็ยังเป็นนักศึกษามาหางาน part time ทำซะด้วยมั้ง ครูหวานพาเด็กจิ๋วเข้าห้องเรียนไป เป็นการเรียนตัวต่อตัว ปะป๊าก็เข้าไปไม่ได้ ได้แต่ยืนสังเกตุการณ์อยู่หน้าห้อง มองผ่านช่องกระจกเล็กๆเข้าไป เห็นครูเริ่มสอนมือขวาปกติก่อน สอนให้กดตามหนังสือผ่านไป 2 หน้า แล้วก็มาหน้าที่ 3 ให้เล่นมือซ้ายบ้าง เรื่องมือซ้ายรู้สึกว่าไม่มีปัญหาสำหรับเด็กจิ๋วเลย กดครั้งแรกก็กดได้ตามที่ครูบอก แต่มีปัญหาเรื่องจังหวะ เพราะที่เก่าไม่เคยสอนจังหวะจริงจัง คือมีแต่เปิดเพลงให้เล่นตาม ก็จะได้จังหวะไปในตัว แต่ที่นี่คือ Hard core กว่า คือให้ดูตามหนังสือเลยว่าจังหวะแค่ไหน กดตัวหนึ่งแช่นานแค่ไหน เรียนแค่ครึ่งชั่วโมง รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วๆมากเลย
...ปะป๊าถามเด็กจิ๋วว่าชอบครูนุ่นหรือครูหวานมากกว่ากัน ครูนุ่นคือคนที่ไป Test เด็กจิ๋วเมื่อเสาร์ที่แล้ว เด็กจิ๋วทำหน้าแปลกๆแล้วบอกว่า "ชอบครูนุ่นมากกว่า เพราะครูนุ่นฟันเค้าไม่มี...เอ่อ ไม่มีตรงนี้อ่ะ"...เด็กจิ๋วชี้ที่ฟันแล้วทำหน้าแปลกๆ หมายถึงอะไรลูก "ครูหวานเค้ามีแม่เหล็กติดอยู่ที่ฟัน น้องพริมเลยเขิน"...แม่เหล็กที่ไหน เค้าเรียกเหล็กดัดฟัน ไม่เคยเห็นใครใส่แบบนี้ใช่ไม๊ล่ะ คนใกล้ตัวไม่มีใครใส่เลย เดี๋ยวสักพักคงจะชินนะ

๓ ขวบ + ๒๑๖-๒๑๗ วัน...เสาร์ ๓ – อาทิตย์ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ไปเที่ยวทริปบริษัทà N’Prim@อัมพวา


N’Prim@อัมพวา
...วันนี้ไปเที่ยวกับพี่ๆทริปวันเกิดบริษัท ไปอัมพวานี่เอง แปลกดีเหมือนกัน ไม่เคยคิดจะไปพักแถวนี้เลย อี๊ตุ๋มอี๊นกหารีสอร์ทนี้มาให้ ชื่อบ้านแม่น้ำ เราก็ตั้ง GPS ขับไป ปรากฎว่าขับลัดเลาะเข้าสวนไปถึงที่หมาย บ้านแม่น้ำโฮมสเตย์ อยู่แบบท้องร่องเลย ใช่เหรอ รีบโทรเช็คดู ปรากฎว่ามาผิดที่ ชื่อเหมือนกัน ที่ที่เราจะไปถึงจะไม่หรูแต่ก็เป็นรีสอร์ท หน้าตาประมาณ 3 ดาว ปิดรีสอร์ทสำหรับบริษัทเราเท่านั้น 30 กว่าคน เวลามาเที่ยวกับคนเยอะๆแบบนี้ปะป๊ากับคุณแม่จะสบายหน่อย เพราะจะมีคนช่วยเลี้ยงเด็กจิ๋วเยอะแยะ ตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว เด็กจิ๋วก็ร้องจะไปนั่งรถตู้กับอี๊ตุ๋ม กว่าจะจับยัดขึ้นรถปะป๊าได้ มีร้องไห้กันยกใหญ่ แต่พอไปถึงที่พักแล้วก็สบาย เพราะเด็กจิ๋วก็ไปอยู่กับอี๊ตุ๋มบ้าง อี๊กบอี๊ตุ้ยบ้าง ไม่สนใจพ่อแม่แล้ว โชคดีระหว่างทางที่แวะ 7-11 คุณแม่เจอแผ่น robocar poli ฉบับภาษาไทย ตามหาตามห้างหลายวันไม่เจอ มาเจอที่ 7-11 ต่างจังหวัดนี่เอง ขนาดหาที่ 7-11 กรุงเทพก็ไม่เจอนะ พอไปถึงที่พักก็ได้ robocar poli ช่วยหลอกล่อเด็กจิ๋วไว้ได้นานเลย
...ตอนที่ขับรถใกล้จะถึงที่พัก ปะป๊าขับรถอยู่ด้านหน้า ได้ยินเสียงเด็กจิ๋วแว่วๆอะไรสักอย่าง หันไปดูอีกที ฮามาก เอาถุงก๊อบแก๊ปมาคลุมหัวตัวเองไว้ ถามว่าทำไม เด็กจิ๋วบอกว่า “ก็ฝนตกไง น้องพริมเอาถุงมาใส่กันฝน”...งงมากว่าเอาไอเดียนี้มาจากไหน สืบไปมา ได้ความว่าเลียนแบบอี๊นุ้ยแน่ๆเลย ชอบเอาถุงก๊อบแก๊บคลุมหัวกันฝน
...จุดเด่นของรีสอร์ทนี้คือบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง มีศาลาขนาดใหญ่นั่งรับลม ก็ไม่ค่อยเย็นนะ แต่พอทนได้ เราก็นั่งสัมนากันที่ศาลาแบบโล่งโจ่งกันนี่เลย คุยกันไปก็มีเสียงเรือวิ่งผ่านไป
...เด็กจิ๋วชอบชิงชามาก ไปเล่นหลายรอบ มีตอนหนึ่งไปนั่งแล้วให้ปะป๊าแกว่ง บอกว่าเอาสูงๆสูงๆ ปะป๊าก็แกว่งแรงขึ้น ก็ยังไม่พอ เอาสูงอีก ปะป๊าก็เอาซะแรงเลยทีนี้ เด็กจิ๋วทำหน้าตื่นตกใจ ว่าแล้วก็กระโดดลงมาจากชิงช้า แบบนี้อันตรายมากนะ เพราะชิงช้ามันจะแกว่งกลับมาตีก้นเจ็บ
...ตอนเย็นๆเรานั่งเรือไปตลาดน้ำอัมพวากัน บ้านเรามากันหลายรอบแล้ว ก็เดินๆกินหนมบ้างนิดหน่อย ระหว่างเดินอยู่เด็กจิ๋วก็หลับไป อากาศร้อนมาก เลยรีบเดินแล้วรีบกลับออกมานั่งรอพี่ๆกัน พอถึงเวลา 6.50 ก็นั่งเรือต่อไปดูหิงห้อยกัน พอไปถึงจุดดูหิงห้อย เด็กจิ๋วก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันพอดี โชคดีมาก หิงห้อยเยอะมากกกกก ไม่คิดว่าจะเยอะได้ขนาดนี้ เป็นแสงระยิบระยับเต็มต้นลำพูเลยอ่ะ เด็กจิ๋วก็ดูๆด้วยความสนใจดี ไม่เหมือนตอนไปดูที่เกาะช้าง อันนั้นมีอยู่ 2 ดวงเอง อันนี้เป็นล้านเลย เค้าบอกว่าเป็นเพราะฝนเพิ่งตกแล้วหยุดไปด้วย ทำให้มีหิงห้อยเยอะ
...กลับมาถึงรีสอร์ทกินข้าวเย็นกัน ตอนนี้เด็กจิ๋วไปเกาะอี๊ป้อมบ้าง โชคดีของเราแท้ๆเพราะว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น คือที่รีสอร์ทนี้จะมีแมวเดินป้วนเปี้ยนอยู่ตัวหนึ่ง เด็กจิ๋วกลัวมาก ตั้งแต่มาแล้ว เวลาแมวเดินมาก็จะปีนป่ายหนี บางทีเราอยากให้เด็กจิ๋วมาหา ก็แกล้งหลอกว่า แมวมาแล้ว เด็กจิ๋วจะวิ่งหน้าตื่นอย่างเร็วจี๋ ให้อารมณ์หางจุกตูดมากๆ พอตอนกินข้าวเย็นกับอี๊ป้อม แมวตัวที่ว่าเดินมา เด็กจิ๋วเห็นก็ตกใจ กระโดดขึ้นไปอยู่บนตัวอี๊ป้อม อี๊ป้อมก็ตกใจดีดขาเตะแมวไปโดยสัญชาติญาณ แมวโมโหเลยข่วนๆอี๊ป้อมใหญ่ โชคดีมีกางเกงกันไว้ไม่บาดเจ็บ น่ากลัวมาก
...กลับมาบ้าน นั่งกินหนมกันอยู่ในห้องครัว อยู่ดีๆเด็กจิ๋วก็วิ่งมากอดปะป๊าแน่น แล้วพูดว่า "ปะป๊าอย่าตายนะ น้องพริมไม่อยากให้ปะป๊าตาย"...แล้วก็ผละออก จ้องหน้าปะป๊า ทำหน้าตาจริงจังแล้วสอนปะป๊าว่า "ปะป๊าอย่าปีนขึ้นที่สูงนะ เดี๋ยวตาย...ปะป๊าอย่ากินแอ๊ปเปิ้ลนะ ถ้าจะกินแอ๊ปเปิ้ล ต้องให้คนที่อยากตายมากิน"...ประมาณว่าแอ็ปเปิ้ลพิษอ่ะ
ตอนนี้เด็กจิ๋วล้างมือเองได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว เอาเก้าอี้มาปีน เปิดก๊อกล้าง บีบน้ำยาล้างมือ ฟอก ล้างฟองออก ไม่ลืมควักน้ำราดก๊อกให้สะอาดด้วย เสร็จแล้วก็เช็ดมือให้แห้ง แบบนี้ทำมาได้สักเดือนสองเดือนที่ผ่านมาแล้ว ส่วนวันนี้อยู่ดีๆก็บอกว่าขอถอดเป้อออกแล้ววิ่งเข้าห้องนอนไปหยิบกางเกงในมาใส่ เปิดลิ้นชักเอง เลือกกางเกงในเอง สั่งไม่ให้ปะป๊าเข้ามาดูด้วย เงียบไปสักพักก็วิ่งออกมาถามปะป๊าว่า "ปะป๊า เอายี่ห้อไว้ข้างหน้าหรือข้างหลัง"...เป็นคนละเอียดมาก ปะป๊าบอกว่าข้างหลัง เด็กจิ๋วก็วิ่งกลับไปใส่ต่อมาเรียบร้อย

๓ ขวบ + ๒๑๘ วัน...จันทร์ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ตอนเช้าไปส่งเด็กจิ๋วเสร็จแล้วเจอกลุ่มแม่ๆเลยยืนเม้าท์กันนานหน่อย มีแม่อั่งอั๊ง แม่นิตา แม่ฟ้าใส ได้รู้เรื่องราวเพื่อนๆเด็กจิ๋วเยอะแยะดี ปะป๊าชอบ เรื่องของฟ้าใสที่ว่าไม่ค่อยพูด ฟังๆดูก็เหมือนว่ายังไม่ค่อยดีขึ้น ไม่กล้าพูดกับเพื่อนๆ บางทีเครียดจนร้องไห้ออกมา จะไม่ร้องโหเสียงดังด้วย จะนั่งนิ่งๆแล้วน้ำตาไหล ฟังดูแล้วน่าตกใจมากนะเนี่ยะ แล้วก็พูดถึงน้องครับอีกแล้ว น้องครับนี่เป็นโจทย์หลายคดีมาก แม่ๆเพื่อนต่างพากันพูดถึง แม่ฟ้าใสบอกว่ามีวันหนึ่งน้องครับวางของบนโต๊ะอย่างแรง เสียงดังทำฟ้าใสตกใจก็เลยร้องไห้
...เรื่องอั่งอั๊งเรียนเปียโน เพิ่งไปเรียนได้ครั้งเดียว เรียนกับคนรู้จักแถวบ้าน ไม่ได้เรียนที่โรงเรียน แต่เห็นบอกว่าครูคนนี้เค้าจะสอนผสมกันระหว่าง JMC และ KPN ไม่รู้ว่าไปเรียนเลียนแบบเด็กจิ๋วหรือเปล่านะ แล้วก็แผนการเรียนของอั่งอั๊งคืออยากให้เข้าสาธิตประสานมิตรหรือไม่ก็สาธิตจุฬา เราถามว่าทำไมไม่เอาสาธิตเกษตร แม่อั๊งบอกว่า โห ยากมากๆๆๆ เราก็เพิ่งรู้นะว่ามันยากกว่าสาธิตจุฬาอีก ตอนแรกนึกว่าพอๆกัน มิน่าละ ลูกพี่ชายตี่บ้านอยู่ในเมือง ยังดั้นด้นมาเรียนสาธิตเกษตร แทนที่จะไปสาธิตจุฬา แสดงว่ามันคงดีมากจริงๆแหล่ะ
...ส่วนนิตา แผนก็ยังเหมือนเดิมคือปีหน้าจะย้ายไปราชินี แต่น้องเบียร์ก็ถามๆเรื่องติวสาธิตอยู่นะ คือจะไม่ให้สอบสาธิตแต่จะให้ไปติว เพราะน้องเบียร์บอกว่าจะให้เรียนพิเศษบัลเล่ เปียโน ว่ายน้ำ ไม่เอาซะอย่าง ชอบวิชาการอย่างเดียว เลยจะลองให้เรียนติวดู ฟังๆดูแล้ว น้องเบียร์เน้นวิชาการมากๆเลย มีการ print แบบทดสอบมาเยอะแยะให้นั่งทำด้วย อย่างเด็กจิ๋วไม่เคยเลย มีอย่างมากสุดก็คัดเส้นประคิตตี้ นี่ขนาดบอกว่าไม่อยากอัดมากนะ เพราะลูกพี่สะใภ้เค้าอัดลูกหนักกว่านี้มาก แต่ลูกเค้าก็เข้าสาธิตเกษตรได้นะ
...เด็กจิ๋วกลับมาถึงบ้าน นั่งกินหมี่กรอบกับคุณแม่อยู่ ตักกินเอง กินไปคำก็ซบคุณแม่ที กินคำซบที จนหลับคาหมี่กรอบไปเลย สงสัยง่วงนอนมาก วันนี้ไม่ได้นอนที่โรงเรียน

๓ ขวบ + ๒๑๙ วัน...อังคาร ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖
...วันนี้วันเกิดคุณแม่นะ ตอนเช้าคุณแม่ไม่อยู่ในห้องนอน ปะป๊าปลุกเด็กจิ๋วขึ้นมาซ้อมบทกันเล่น Happy birthday คุณแม่ แกล้งให้เด็กจิ๋วหลับไม่ยอมตื่น ปะป๊าก็แกล้งปลุกโวยวายทำไมไม่ตื่นสักที สักพักก็ให้กระเด้งตัวขึ้นมาแล้วร้อง Happy birthday พอถึงคิว เด็กจิ๋วก็ตั้งใจทำตามแผนดี แต่มันไม่สมบทบาทเท่าไหร่ ต้องไปเรียน Acting หน่อยนะ เด็กจิ๋ว
...เมื่อวานนี้คุณแม่กับเด็กจิ๋วทะเลาะกัน เด็กจิ๋วโวยวายใส่คุณแม่ว่า “คุณแม่สำนึกผิดยัง คุณแม่สำนึกผิดยัง”...อ่ะ เอ่อ สำนึกผิดอะไรลูก เด็กจิ๋วบอกว่า “ก็เมื่อกี้น้องพริมไปชกคุณแม่ แล้วคุณแม่โกรธน้องพริม คุณแม่สำนึกผิดยังที่โกรธน้องพริม”...อ๋อ ก็หนูมาชกคุณแม่ คุณแม่ก็โกรธไง ก็ถูกแล้วนิ “ถ้างั้นก็สำนึกผิดแล้วใช่ไม๊”
...วันนี้ตอนไปรับเด็กจิ๋วกลับ เด็กจิ๋วดูซึมมาก งอแงด้วย บอกให้หวัดดีใครก็ไม่ยอมเลย พอไปเรียนกับครูเมย์ ก็นิ่งๆเงียบๆ ปกติจะชวนครูเมย์คุยเล่นโน่นนี่ ครูเมย์ยังทักเลยว่าเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า วันนี้ดูเงียบผิดปกติ เรียนปั้นดินเสร็จ ออกมาเจอนิตาด้วย เพิ่งมาถึงกำลังจะไปเรียนกับครูแก้ว ก็เลยชวนเด็กจิ๋วไปเรียนด้วยกัน แต่เด็กจิ๋วไม่ยอมเลย บอกว่า “ไม่เอา ไม่อยากไป ไม่อยากร้อยลูกปัด”...อ้าว ก็บอกครูไปดิ่ว่าไม่อยากร้อย ระบายสีเฉยๆ สรุปก็ไม่ยอมเรียนในที่สุด

๓ ขวบ + ๒๒๐ วัน...พุธ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ตอนไปรับกลับจากโรงเรียน เจอครูบุ๋มฟ้องว่า ตอนกล่อมให้นอนกลางวัน เด็กจิ๋วแกล้งหลับ หลับตาไปแล้วทำเสียงกรนด้วย พอครูบุ๋มคิดว่าหลับแล้ว เดินออกมา เด็กจิ๋วก็ แหว่ะ ฟังดูแล้วก็นึกภาพออกเหมือนที่เล่นกับปะป๊าคุณแม่ทุกวันนั้นแหล่ะ แต่ไม่นึกว่าจะไปทำกับครูบุ๋มที่โรงเรียน ตอนที่เด็กจิ๋วเดินออกมา เจอแม่ฟ้าใส เด็กจิ๋ววิ่งไปหวัดดีโดยไม่ต้องบอกเลย แล้วแต่อารมณ์จริงๆบางวันอารมณ์ไม่ดี บอกให้หวัดดีแทบตายก็ไม่ยอมทำ
...คิดว่าช่วงนี้เด็กจิ๋วติดชอบตบตีปะป๊ากับคุณแม่ก็มาจากเจ๊น่ากับเฮียโรแน่ๆเลย เพราะตีกันทุกวัน โดยเฉพาะตอนเช้า ไปตีกันที่ปั้มน้ำมันตอนแวะ 7-11 ทุกครั้ง วันนี้ก็ไปยืนเตะกันกลางลานจอดรถ

๓ ขวบ + ๒๒๑ วัน...พฤหัส ๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ตอนเย็นพาไปเรียนระบายสีกับครูแก้ว ต้องเจรจาตั้งนานถึงจะยอม บอกว่าไม่ชอบร้อยลูกปัดก็บอกครูแก้วดิ่ ระบายสีอย่างเดียว หรือจะเอารูปต้นแบบไปให้ครูแก้ววาดให้เอาไม๊ เด็กจิ๋วบอกว่า “ไม่เอา ปะป๊าวาดเก่งกว่า”...อันนี้เว่อร์ชะมัดเลย ปะป๊าเนี่ยะนะ ตกศิลปะเลยแหล่ะ สรุปสุดท้ายก็เอาหน้าปก robocar poli ไปวาด นอกจากวาด poli แล้ว วันนี้ครูแก้วให้ทำช่อดอกไม้วันแม่ด้วย ทำเสร็จก็ให้เอามามอบให้คุณแม่
...กลับจากโรงเรียนทำการบ้านเรียบร้อย เด็กจิ๋วร้องหิว บอกว่าอยากกินหนมปังไส้กรอก เลยให้อี๊ป้อมพาไปซื้อที่ 7-11 คุณแม่ให้เอาบัตร smart purse ไปใช้ด้วย พอกำลังจะจ่ายเงิน อี๊ป้อมก็ทำงงๆว่าไอ้บัตรนี้มันใช้ยังไง เด็กจิ๋วเห็นก็เลยบอกว่า “เอามานี่ เดี๋ยวน้องพริมทำให้”...แล้วก็หยิบไปแตะที่แป้นเรียบร้อย อี๊ป้อมงงเลย กลับมาบ้านยังมาถามคุณแม่อยู่เลยว่าไอ้บัตรนั้นมันคืออะไร ใช้ยังไง

๓ ขวบ + ๒๒๒ วัน...ศุกร์ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เห็นครูห้อง 9 มาลงว่าให้เด็กๆทำการ์ดวันแม่กัน ตอนเย็นไปรับเด็กจิ๋ว รีบกระซิบถามครูแหววว่าในกระเป๋ามีการ์ดมาไม๊ ครูแหววเปิดดูแล้วบอกว่าไม่ลืมไม่ลืม พอกลับมาถึงบ้าน เด็กจิ๋วก็หยิบพวงมาลัยมะลิกับการ์ดวันแม่มาโชว์คนนั้นคนนี้ ทำเอง อย่างพวงมาลัยนี่ครูบอกว่าทำเองเลยไม่ได้ช่วยนะ เป็นดอกไม้กระดาษใช้ลวดร้อย ส่วนการ์ก็เป็นกระดาษระบายสีมั่วๆแล้วมีดอกไม้ติดอยู่ หลังจากโชว์คนนั้นคนนี้ได้สักพัก ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ จูงมือคุณแม่ไปนั่งที่โซฟา แล้วเอาการ์ดกับพวงมาลัยที่ทำมา วางบนเท้าแม่ ! แล้วก็ก้มกราบที่เท้า แล้วก็ตามด้วยจุ๊บแก้มอีก 2 ที บอกว่าครูสั่งให้มาทำแบบนี้ เห็นแม่เพื่อนๆเด็กจิ๋วก็มาลงกันเหมือนกันว่าลูกๆกลับมาบ้านก็มาทำแบบนี้กัน น้ำตาซึม แต่ของเด็กจิ๋วมันไม่มีอารมณ์น้ำตาซึมหรอกนะ มันออกแนวฮามากกว่า แล้วที่สำคัญ ดันเอาการ์ดกับพวงมาลัยมาวางบนเท้าแม่ เพื่อนๆเค้าเอามาให้เฉยๆแล้วกราบเท้า ครูก็คงสอนมาแบบนี้แหล่ะ เด็กจิ๋วเล่นซะฮาเลย
...ตอนเย็นหลังจากไปรับที่โรงเรียนก็พาไปเรียนเปียโนที่เซนทรัลต่อ ครูหวานบอกว่าไปได้ดีนะ บอกให้ทำก็ทำได้ นี่ขนาดไม่ได้ฝึกนะ เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาเด็กจิ๋วไม่ยอมฝึกเลย ไม่เหมือนตอนเรียนที่เดิม อันนั้นจำโน๊ตแล้วมาเล่นเป็นเพลงมันสนุก แต่อันนี้ต้องอ่านโน๊ตแล้วเล่นตาม ไม่ได้เป็นเพลงด้วย เน้นอ่านโน๊ต นับจังหวะ ตัวหยุด คือน้อยมากที่จะยอมซ้อม พอให้มาเล่นก็บอกว่าเหนื่อย แล้วก็กดมั่วๆไป

๓ ขวบ + ๒๒๓ วัน...เสาร์ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนตกลงกันแล้วว่าวันนี้ต้องเป็นเด็กดีนะ เพราะได้ตื่นมาดูทีวี ไปช้อปปิ้ง กินไอติม แล้วไปว่ายน้ำบรัดารมย์ด้วย เด็กจิ๋วก็เชื่อฟังดี ตอนเช้าตื่นมาสดใสจริงๆ บอกว่า “วันนี้เป็นวันที่สดใส”...อารมณ์ดี ไม่เหมือนวันที่ต้องตื่นไปโรงเรียนเลย
...วันนี้ปะป๊าให้เด็กจิ๋วพาไปตัดผมที่เซนปิ่นหน่อย ระหว่างรอปะป๊าตัดผมอยู่ เด็กจิ๋วเดินผ่านร้านฮองมิน ก็บอกคุณแม่ว่าอยากกิน แล้วก็ลากคุณแม่เข้าไปนั่งกินลูกชิ้นกุ้ง ซาลาเปา เลือกเองกินอิ่มเรียบร้อย เสร็จแล้วก็มายืนดูทีวี 3 มิติเล่น ใส่แว่นดูแล้วเอามือไขว่คว้าใหญ่ ชอบมาก บอกว่า “ขอเอาแว่นนี้กลับบ้านได้ไม๊”...มันไม่ได้เป็นที่แว่นอย่างเดียวนะลูก ต้องซื้อทีวีเค้าด้วย
...พอได้เวลาเที่ยงๆ เด็กจิ๋วเกิดอารมณ์ง่วงขึ้นมา ก็กรี๊ดลั่นกลางห้าง ต้องจับกันหนีออกมาที่ลานจอดรถ จากเด็กดีๆวันนี้กลายเป็นเด็กอาละวาดอีกแล้ว เพราะอาการง่วงแท้ๆเลย คุมสติตัวเองไม่ได้ ขำจริงๆ เมื่อเช้ายังบอกว่าวันนี้เป็นวันที่สดใส แล้วก็อารมณ์ดีมาทั้งวัน พอปราบได้สักพักก็หลับไปโดยเร็ว
...ไปถึงบ้านลัดดารมย์แล้ว เด็กจิ๋วยังไม่ยอมตื่น หลับเมามันส์มาก นอนต่ออีกหนึ่งชั่วโมงถึงจะยอมลุก ตื่นแล้วก็ไปเล่นน้ำกันเลย วันนี้เด็กจิ๋วเตรียมชุดว่ายน้ำใหม่มาพร้อมกับแว่น ลงน้ำก็ใส่แว่นดำน้ำเล่นใหญ่เลย คือเหมือนคิดว่าถ้าใส่แว่นแล้วจะดำน้ำได้ ที่จริงมันไม่เกี่ยวกันนะลูก ใส่แว่นแล้วดำน้ำลงไปทีหนึ่ง พอโผล่ขึ้นมาก็รีบถอดแว่นเช็ดหน้าเช็ดตา แล้วก็ให้ใส่แว่นใหม่ ดำทีใส่ทีลำบากมากอะเด็กจิ๋ว
...กลับมาบ้านแล้วเด็กจิ๋วยังอารมณ์ค้าง เอาแว่นว่ายน้ำมาใส่นอน ไม่รู้ว่าค้างจากที่ไปว่ายน้ำ หรือคิดว่าเป็นแว่น 3 มิติใส่ดีทีวีก็ไม่รู้

๓ ขวบ + ๒๒๔ วัน...อาทิตย์ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนเรานัดกันว่าถ้าเด็กจิ๋วตื่นแล้วปะป๊ายังไม่ตื่น ให้มาจุ๊บแก้มปะป๊า แล้วปะป๊าจะรีบพาไปดูหนัง เด็กจิ๋วตื่นมางัวเงียๆ ปีนมาจุ๊บแก้มปะป๊า ปะป๊านอนตี 2 แต่ด้วยอารมณ์ต้องทำตามสัญญา ก็รีบเด้งตัวขึ้นมาทำลั้นลา เราไปดูหนังกันเย้! แล้วก็หลับตาพากันเดินไปห้องโฮม ที่จริงแล้ว งัวเงียทั้งพ่อทั้งลูกแหล่ะ เด็กจิ๋วเองหลังๆมานี่รู้เลยว่าเริ่มเบื่อดูการ์ตูนจอใหญ่ตอนเช้าแล้ว อย่างวันนี้ดูไปยังไม่จบก็บอกให้หยุดก่อน ไปหาอะไรกินในห้องครัวก่อน คือร่างกายไม่พร้อม ตื่นเช้าตรู่ ง่วงนอน แต่ด้วยการดูหนังเหมือนเป็นกิจกรรมที่ต้องทำทุกวันหยุด เลยต้องฝืนทนมานั่งดูกัน ระหว่างดูการ์ตูนจอใหญ่ ก็ไม่ลืมให้ปะป๊าไปหาแว่นว่ายน้ำมาใส่ดูด้วย ฮามาก ใส่จริงจัง ยังกะว่าภาพในจอมันจะโผล่ออกมาแบบ 3 มิติ สักพักก็หันมาหาปะป๊าแล้วบอกว่า “น้องพริมขอถอดออกได้ไม๊ มันรำคาญ”...เพิ่งรู้เหรอ
...วันนี้ไปราชบุรีกัน ออกจากบ้านสายๆระหว่างนั่งรถไป เด็กจิ๋วดูซึมๆผิดปกติ ถามอะไรก็ไม่ตอบ เรียกให้คุณแม่ไปนั่งข้างๆแล้วก็กอดไว้แน่น พอขับไปได้แถวพุทธมณฑล ก็หลับไป ในรถมีอี๊ไก่กับอี๊ป้อมนั่งไปด้วย คุณแม่เริ่มสังเกต์เห็นสิ่งผิดปกติในตัวเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วดูผิดปกติมาก ทำไมวันนี้ไม่ลั้นล่าพูดจ้อๆๆๆไม่หยุด ตะโกน อาละวาด แต่นั่งนิ่งๆซึมๆจนหลับไป ตอนนี้บรรยากาศเริ่มมาคุแล้ว อี๊ป้อมเริ่มมาจับตัวเด็กจิ๋วแล้วบอกว่าตัวร้อน คุณแม่ก็บอกว่าไม่ร้อนนี่ คุณแม่เริ่มเล่าเรื่องข่าวที่เคยได้ยินมา มีเด็กถูกลูกงูจงอางในรองเท้ากัด พิษงูทำให้เด็กหลับไป ตัวเริ่มเขียว แล้วก็ถึงตายเลยในที่สุด หลังจากเล่าจบ ความเครียดก็ได้ขยายไปยังทุกคนในรถ ในรถเงียบกริบ เริ่มอุปทานหมู่ว่าเด็กจิ๋วโดนสัตว์อะไรต่อยหรือเปล่า งูอะไม่น่าจะใช่เพราะหากันทั่วรถก็ไม่มี หรือเป็นพวกตะขาบ ก่อนหน้านี้เด็กจิ๋วมีแผลหนังถลอกที่นิ้วซึ่งคาดว่าเกิดจากกระดาษบาดนิ้ว ตอนนี้แปะพลาสเตอร์อยู่ คุณแม่ก็แกะพลาสเตอร์ออกมาดูว่าแผลเป็นยังไง ใช่แผลจากสัตว์ทำร้ายหรือไม่
...เหตุการณ์ยังคงมาคุต่อเนื่อง ตกลงกันว่าปลุกขึ้นมาเลยแล้วกัน ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วอาละวาดก็แสดงว่าปกติ คุณแม่จัดการปลุกเด็กจิ๋วขึ้นมา ไม่อาละวาด! แต่ว่าอารมณ์ดี มองเห็นว่าพลาสเตอร์ที่นิ้วหายไป เพราะคุณแม่แกะออก เลยขออี๊ไก่ให้ติดให้ใหม่ แล้วก็ร่าเริงปกติ สรุปแล้วไม่ได้โดนงูกัดหรือสัตว์ต่อยอะไรเลย แค่ง่วงนอนเท่านั้นแหล่ะ คุณแม่อ่านข่าวมากก็จินตนาการมาก เด็กจิ๋วคงงง หลับไปแล้วปลุกหนูขึ้นมาทำไมเนี่ยะ
...อากงตั้งหน้าตั้งตารอเด็กจิ๋วมาตั้งแต่เช้า คิดถึงหลานสุดที่รักมาก พอเราไปถึงบ้านกันก็รีบเดินมาหาเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วรีบพูดกับอากงทันที “น้องพริมไม่รักอากง น้องพริมเบื่อหน้าอากง”...โห ทำร้ายความรู้สึกคนแก่ได้รุนแรงมากๆ อากงงอนไปเลย หลังจากนั้นเด็กจิ๋วไปคุยด้วย อากงก็เดินหนีด้วยอารมณ์งอนหลานจริงๆ ต้องให้ง้ออยู่พักหนึ่งถึงหาย ที่จริงแล้วอากงแก่แล้วก็น่าจะเข้าใจนะว่าหลานไม่ได้คิดอย่างที่พูดแน่ๆ มันพูดเล่นชัดๆ แค่แหย่อากงเล่น อากงก็งอนซะ
 

๓ ขวบ + ๒๒๕ วัน...จันทร์ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันหยุดวันแม่แห่งชาติ ตอนเย็นไปบรัดดารมย์กัน มีการรวมตัวทุกคน ทั้งเจ๊น่า เฮียโร เจ๊นิว เจ๊แนน โฮไอ พอไปถึงเย็นๆ พี่โฮไอก็ชวนลงสระว่ายน้ำ แต่เราไม่อยากให้เด็กจิ๋วลงเพราะเพิ่งลงไปวันก่อนเอง แล้ววันนี้ก็มีน้ำมูกด้วย กลัวจะป่วยหนักอีก เลยต้องจ้างไจโรด้วยมักโรนีอบชีส ให้บอกน้องว่าไม่ต้องว่ายหรอก สรุปแล้ววันนี้มีไจโรกับโฮไอว่ายกัน 2 คน ส่วนพวกสาวๆเล่น UNO กันที่บ้าน เด็กจิ๋วพยายามเข้าไปมีส่วนร่วม แต่พี่ๆไม่มีใครสนใจ บอกว่าน้องพริมยังเล่นไม่เป็น แล้วก็เล่นกัน 3 คนไม่สนใจเด็กจิ๋วเลย
...เด็กจิ๋วโดยส่วนใหญ่แล้วจะอาละวาดแค่ตอนเวลาง่วงนอนเท่านั้น ถ้าตอนปกติจะเชื่อฟังเราดี อย่างเวลาไปเดินห้างแล้วอยากได้ของ เด็กจิ๋วจะอ้อนแค่ 3-4 ครั้ง ส่วนใหญ่เราจะบอกว่าแพง ไม่มีตังซื้อ เด็กจิ๋วก็จะเชื่อ ชอบพูดว่า “แหม่ ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้”...ทำน้ำเสียงสื่ออารมณ์แบบแหม่ไม่เอาก็ได้

๓ ขวบ + ๒๒๖ วัน...อังคาร ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖
...วันนี้คุณแม่ไปรับเด็กจิ๋วคนเดียว พอกลับมาบ้านก็มาฟ้องปะป๊าว่าวันนี้เด็กจิ๋วก่อเรื่อง ครูขวัญฟ้องว่าเด็กจิ๋วไปหยิกเจอร์นีย์ ส่วนเจอร์นีย์ก็พูดคำหยาบใส่เด็กจิ๋ว คือพูดว่า มันหยิกหนู มันหยิกหนู ครูขวัญเลยบอกว่าผิดทั้งคู่ให้ขอโทษกัน เราก็ตกใจใหญ่ พยายามสืบหาความจริงจากเด็กจิ๋ว ว่าอยู่ดีๆไปหยิกเจอร์นีย์ทำไม เค้าทำอะไรให้ก่อน อย่างครั้งก่อนที่ไปผลักน้องอุ้มเพราะน้องอุ้มมาแย่งเก้าอี้ แต่ครั้งนี้เรื่องเป็นยังไงกันแน่ เด็กจิ๋วเล่าว่า “เจอร์นีย์ระบายสีช้า น้องพริมเลยหยิกเจอร์นีย์”...บอกวนไปวนมาอยู่แค่นี้แหล่ะ ก็พยายามถามว่าเค้าระบายช้าแล้วทำไม หนูไปเกี่ยวอะไรด้วย ก็ไม่ได้คำตอบ แต่ที่เล่ามาก็ตรงกับที่ครูขวัญบอก แต่เด็กจิ๋วมีแต่งเติมเพิ่มอีกนิดหนึ่ง บอกว่า “น้องพริมหยิกเจอร์นีย์แล้ว เจอร์นีย์มาตีหน้าน้องพริม”...เฮ้ย จริงเหรอ ครูไม่เห็นบอกเลย แล้วหนูฟ้องครูหรือเปล่า พูดจริงหรือเปล่า ถามไปถามมาก็เฉลยว่าไม่จริง พูดเอง โห คุณแม่โมโหมากๆ ทำไมถึงโกหก เรื่องสำคัญกว่าการโกหกก็คือจุดประสงค์ที่โกหกคืออะไรนะ เพื่อให้ตัวเองดูดี เพื่อโยนความผิดให้เพื่อน หรือแค่พูดแต่งเติมสนุกไป อันนี้คาใจเรากันมากแต่ไม่มีใครรู้ความจริงข้อนี้ได้ สรุปตอนนี้เครียดเลย ทำไมลูกเราไปแกล้งเพื่อนได้นะ มี 2 คดีแล้วเนี่ยะ คุณแม่พยายามถามปะป๊าใหญ่เลยว่าติดมาจากปะป๊าหรือเปล่า ตอนเด็กๆเคยแกล้งเพื่อนหรือเปล่า ปะป๊าก็บอกว่าเปล่า จะบ้าไปแล้ว เรื่องแบบนี้ติดทางพันธุกรรมที่ไหนล่ะ
...เมื่อวันศุกร์มีใบแจ้งมาจากโรงเรียนว่าเทอมหน้าจะเรียนพิเศษอะไรบ้าง เรารู้สึกว่าดนตรีโคไดไม่ค่อยได้ประโยชน์ เด็กจิ๋วไม่เคยมาเล่าเลยว่าเรียนอะไรบ้าง คนที่เรียนด้วยก็มีแค่นิตากับนีโอแค่นั้น เลยตัดสินใจว่าเทอมหน้าจะไม่เรียนแล้ว เหลือแค่บัลเล่ต์กับอังกฤษ คุณแม่อยากให้เรียนเทควันโด้ แต่ปะป๊าไม่ยอม วันนี้เจอแม่นิตากับพ่อนีโอ เลยบอกไปแล้วว่าเทอมหน้าน้องพริมไม่ได้เรียนโคไดแล้วนะ กลัวหาว่าหนีไปไม่บอก แม่นิตาก็บอกว่าอาจจะให้เลิกเหมือนกัน ส่วนพ่อนีโอยังไม่รู้ 

๓ ขวบ + ๒๒๗ วัน...พุธ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ตอนนี้พยายามสะกดจิตเด็กจิ๋ว ทั้งก่อนนอน ทั้งตอนตื่นนอนมา ปะป๊าจะพูดกรอกหูว่า วันนี้ช่างเป็นวันที่สดใสเหลือเกิน วันนี้เราเป็นเด็กดี วันนี้เราอารมณ์ดี พูดสะกดจิตซ้ำๆไปเรื่อย แล้วก็ทำพูดเล่นตลกเฮฮาไป อย่างตอนปลุกให้ตื่นก็บอกว่า คุณแม่ดูนะ เดี๋ยวไปจุ๊บแก้มเด็กจิ๋วแล้วเค้าจะตื่นขึ้นมายิ้มแย้มทันที เพราะวันนี้เป็นวันที่สดชื่นจริงๆ ปะป๊าจุ๊บไปครั้งแรก ทำหน้าแตก ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากซ้ำไป 3 – 4 รอบ เด็กจิ๋วก็ตื่นขึ้นมายิ้มจริงๆด้วย แล้วก็ไม่งอแงเลยตั้งแต่ลุกขึ้นจากที่นอน ลงมาแต่งตัวที่ข้างล่าง แวะ 7-11 จนไปส่งที่หน้าห้อง วิธีสะกดจิตได้ผลดีมากกกกๆๆ โดยเฉพาะกับเด็กจิ๋ว เพราะเด็กจิ๋วมีจินตนาการและเป็นเด็กขี้เล่น การทำตัวให้ร่าเริงไม่หงุดหงิดดูเหมือนเป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของเด็กจิ๋ว
...ช่วงประมาณ 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมานี่ ตอนไปส่งหน้าห้อง เด็กจิ๋วไม่ยอมเข้าห้อง กอดปะป๊ากับคุณแม่ไม่เลิก บางวันเป็นมากบางวันเป็นน้อย วันนี้ก็เหมือนกัน เป็นหนักเลย กอดปะป๊าแน่นจนครูแหววต้องมาแงะตัวออกไป แต่พอเข้าห้องไปแล้วก็ปกติทุกที ครูก็บอก หรือดูในกล้องวงจรปิดก็เห็น
...ประมาณอาทิตย์หนึ่งที่ผ่านมา เด็กจิ๋วชอบแกล้งจุ๊บแก้มแบบเปียก หรือบางทีก็แฉะ หรือหนักๆก็โชกเลย ก่อนจะจุ๊บก็จะเลียริมฝีปากให้ชุ่มๆก่อน แล้วก็จุ๊บแก้มเรา บางทีก็แลบลิ้นออกมาเลียหน้าเลย บอกก็ไม่ยอมเชื่อ โดนหมดทั้งปะป๊า คุณแม่ เจ๊น่า อี๊ป้อม

๓ ขวบ + ๒๒๘ วัน...พฤหัส ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เช้านี้ใช้วิธีสะกดจิตเด็กจิ๋วอีก ตั้งแต่ตื่นนอน วันนี้ช่างเป็นวันที่สดใส ก็ยังคงใช้ผลได้ดี แต่พอตอนจับแต่งตัวก่อนออกจากบ้าน อันนี้เริ่มไม่สดใสแล้ว ไม่ยอมเปลี่ยน ถ้างั้นก็ได้ ให้คุณแม่ไปขับรถ แล้วปะป๊านั่งหลังกับเด็กจิ๋ว แต่ต้องยอมแต่งตัวดีๆนะ สัญญากันไว้แบบนี้ พอถึงตอนทำจริงเท่านั้นแหล่ะ อาละวาดรถแทบแตก เพียงแค่เจ๊น่ามาช่วยถอดถุงเท้าออกให้ ก็ไปอาละวาดใส่เค้า ถีบๆเจ๊น่าไปหลายอึก เจ๊น่าก็เป็นพี่ที่ดีมาก โดนถีบไปหลายทีแต่ก็เข้าใจน้อง รู้ว่ากำลังอาละวาดง่วงนอนอยู่ เลยไม่โกรธ สรุปแล้วแผนสะกดจิตใช้ได้ผลบ้าง แต่ไม่สามารถทนแรงง่วงของเด็กจิ๋วได้
...ตอนเย็นพาไปเรียนกับครูแก้ว ครั้งนี้ ครูแก้วให้เด็กจิ๋ววาดรูปเองเลย เป็นรูป Angry Bird อยู่ท่ามกลางวิวธรรมชาติ ครูจะถามว่าบนท้องฟ้ามีอะไร เด็กจิ๋วตอบว่าเมฆ ครูก็จิ้มจุดให้วาดเมฆตรงนี้ แล้วมีอะไรอีก ดวงอาทิตย์ ครูก็วาดกลมๆให้แล้วให้เด็กจิ๋วใส่ขีดๆของรัศมีดวงอาทิตย์เอง ต้นไม้ก็วาดเอง ตัว Angry Bird ตอนวาดกันอยู่ ปะป๊าไม่เห็น แต่ครูกับเด็กจิ๋วยืนยันว่าวาดเอง แต่เราก็งงว่าวาดได้ยังไง ไม่น่าจะวาดได้ ครูคงมีเทคนิคกจิ้มแล้วให้วาดมั้ง เดาว่าคงจิ้มว่า วาดตาตรงนี้ วาดปากตรงนี้ วันนี้นอกจากวาดรูประบายสีแล้ว ยังทำงานศิลปะให้ระบายสีแก้วคิดตี้ด้วย เป็นแก้วแบบแก้วกาแฟใหญ่ๆหน้าคิตตี้ ทำจากปูนหล่อ คุ้มจริงๆโรงเรียนนี้
...วันก่อนระหว่างเดินทางไปราชบุรีกัน อี๊ป้อมเอา ipad ให้เด็กจิ๋วเล่น อยู่ดีๆเด็กจิ๋วก็เปิดแอ็พวาดรูป แล้ววาดรูปหมีหมีอย่างรวดเร็ว เหมือนมากๆ มีหน้ามีหูมีตามีจมูกครบถ้วน สวยงาม เสียดายที่ไม่ได้ save ไว้ เพราะเด็กจิ๋วไม่ยอม เอาไปลบแล้ววาดเละๆต่อ วันนี้คุณแม่เลยให้ลองวาดในกระดาษดู เหมือนจริงๆด้วย วาดเก่งมากๆ ไม่ได้ฟลุ๊ค วาดแบบมีรายละเอียด และวาดจากความทรงจำด้วย ไม่ได้ดูแบบแล้ววาด
...เด็กจิ๋วเล่าให้ฟังว่าวันนี้เรียกน้องเบ๊บว่าพ่อ เรียกนิตาว่าแม่ ฟังๆดูแล้วเหมือนเล่นพ่อแม่ลูกกัน เล่นกันตอนไปเรียนดนตรีโคได วันก่อนถามเด็กจิ๋วว่าชอบเรียนโคไดไม๊ เด็กจิ๋วบอกว่าไม่ชอบ เราเลยไปบอกน้องเบียร์แล้วว่าเทอมหน้าจะยกเลิก มาวันนี้ถามใหม่ว่าชอบไม๊ เด็กจิ๋วบอกว่าชอบ อ้าว เดี๋ยวไปแก้ข่าวกับน้องเบียร์ใหม่ว่าจะเรียนต่อเหมือนเดิม

๓ ขวบ + ๒๒๙ วัน...ศุกร์ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ตอนเช้าปะป๊าก็ใช้แผนเดิม วันนี้ช่างเป็นวันที่สดชื่นจริงๆ คุณแม่ดูนะ เดี๋ยวปะป๊าไปจุ๊บแก้มลูบรัก แล้วลูกรักจะกระเด้งตัวขึ้นมายิ้มทันที ...ว่าแล้วเด็กจิ๋วก็ทำเสียแผนอีก จุ๊บไปสิบทีก็ไม่กระดิกตัว ปะป๊าเลยจับแต่งตัวทั้งๆหลับอยู่ พอแต่งไปได้หน่อย เด็กจิ๋วก็กระเด้งตัวขึ้นมา เหมือนคิดอะไรได้ แล้วพูดว่า “วันนี้ได้ใส่ชุดธรรมดานี่ น้องพริมขอเลือกชุดเอง”...ได้เลย ลูบรัก ว่าแล้วปะป๊าก็รีบแอบไปหยิบเสื้อแมนๆของเด็กจิ๋ว เอาตัวบัง แล้วซุกไปซ่อนไว้ ตั้งใจทำอย่างแนบเนียนเต็มที พอหันกลับมา เด็กจิ๋วทำหน้างง แล้วถามว่า “ปะป๊าเอาเสื้อหล่อๆไปไว้ตรงนั้นทำไมอ่ะ”...อ้าว เห็นด้วยเหรอ อุตส่าห์ทำอย่างแนบเนียนแล้วนะ แต่วันนี้ไม่เป็นอย่างที่คิด เด็กจิ๋วไม่อยากแต่งหล่อ พุ่งตัวไปเลือกชุดกระโปรงสีน้ำตาลสวยงามมาทันที ค่อยโล่งอกหน่อย บอกคุณแม่ตั้งหลายทีแล้วว่าให้เอาชุดหล่อๆไปซ่อนให้หมด เด็กจิ๋วก็ชอบใส่เหลือเกิน เพราะอยากจะเหมือนพี่โน
...วันนี้ได้คุยกับสมาคมแม่ๆ มีแม่นิตา อั่งอั๊ง เมมิ ได้แนวคิดเรื่องซัมเมอร์ดีมากเลย ตอนแรกปะป๊ากับคุณแม่กำลังลังเลว่าจะให้เรียนซัมเมอร์ดีไม๊ ถ้าเรียนก็ไม่ได้อะไร เพราะเรียนซ้ำๆเดิม แต่ถ้าอยู่บ้านก็จะไปกวนพี่ๆเค้า วันนี้ถามแม่ๆดู ทุกคนคิดเหมือนกันหมดเลย ว่าอยากให้เรียนซัมเมอร์แต่ไม่อยากให้เรียนที่นี่ แม่เมมิเลยบอกว่าหาข้อมูลมาแล้ว จะให้ไปเรียนที่โรงเรียนรัศมี เป็นอินเตอร์ ไม่ได้เป็นซัมเมอร์ของเค้า เพราโรงเรียนอินเตอร์จะเปิดเทอมไม่เหมือนปกติ คือต้องไปแทรกเรียนกับที่เค้าเรียนปกติกันอยู่ แต่เราสามารถจ่ายเงินเป็นสัปดาห์ได้ สัปดาห์ละ 5,000 บาท น่าสนใจมาก แต่เมมิเค้าจะได้ภาษาอังกฤษอยู่แล้วเพราะเคยแอบเห็นแม่เมมิคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ แต่เด็กจิ๋วไปเรียนอินเตอร์แบบนี้จะรอดไม๊อ่ะ แต่แม่อั๊งก็บอกว่าเด็กๆ น่าจะได้แหล่ะ ตอนนี้เดี๋ยวคุณแม่ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูก่อนดีกว่า
...ระหว่างกำลังคุยกับสมาคมแม่ๆอยู่ น้องบีก็จูงมือน้องเบ๊พเดินกลับออกมาจากโรงเรียน อ้าว เป็นอะไรอ่ะ ครูตรวจเจอตุ่มในปาก 2 ตุ่ม ไม่แน่ใจว่าเป็นโรคมือเท้าปากหรือเปล่า ต้องไปหาหมอตรวจอีกที อุ๊ย ถ้าเป็นจริงนี่เด็กจิ๋วก็มีความเสี่ยงสูงเลยนะ เมื่อวานเพิ่งเล่นพ่อแม่ลูกกันอยู่
...ตอนดึกเจ๊น่าอยู่เล่นกับเด็กจิ๋วจนอาบน้ำเสร็จ แต่งตัว แล้วก็ใจดีอ่านนิทานให้น้องฟังด้วย อ่านจบเรื่องแรกไป ต่อด้วยเรื่อง 2 พออ่านเรื่องที่ 3 ไปได้หน่อย เด็กจิ๋วบอกเจ๊น่าว่า “เจ๊น่าหยุดอ่านก่อน น้องพริมต้องรีบนอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปเที่ยวกับพี่โนพี่โน่ เจ๊น่าลงไปก่อนนะ”...ห๊า แล้วก็ให้เจ๊น่าลงไป น่าสงสารเจ๊น่ามาก อุตส่าห์รักน้องมาอ่านนิทานให้ฟัง เจอน้องไล่ซะนี่

๓ ขวบ + ๒๓๐ วัน...เสาร์-อาทิตย์ ๑๗-๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ไปเที่ยวระยอง à N’Prim@Siri on Sea, Rayong

N’Prim@Siri on Sea, Rayong
...ตอนดึกวันศุกร์ เด็กจิ๋วเกิดตัวร้อนขึ้นมาเฉยๆ ก่อนหน้านี้ไม่มีอาการใดๆเลย วันนี้นัดกับพี่โนพี่โน่จะไปเที่ยวกันแท้ๆ แบบนี้จะไปได้หรือเปล่า กินยาแก้ไขไปแล้วไข้ลดนิดหน่อย แต่พอตอนเช้าก็ยังร้อนอยู่ ตัดสินใจไปเที่ยวแล้วกันเพราะเสียดายเงินค่าที่พัก แต่แวะไปหาหมอก่อนดีกว่าเพื่อความสบายใจ วันนี้เป็นวันเสาร์รู้อยู่แล้วว่าที่โรงพยาบาลคิวยาวมาก แต่มาถึงแล้วช็อค ไม่คิดว่าจะเยอะอย่างนี้ ได้คิว 38 ตอนนี้เพิ่งสิบกว่าเอง ทั้งชั้น 2 ของตึกใหม่ เต็มไปด้วยเด็ก มีการจัดกิจกรรมแจกลูกโป่ง มีเด็กป่วย ไม่ป่วยมาเยอะแยะ ยังกับเทศกาลวันเด็กแห่งชาติ ตัดสินใจหนีออกไปกินข้าวข้างนอกดีกว่า พยายามหาร้านอาหารใจมหาลัยเกษตร แต่ไม่สำเร็จ อันที่จริงมีร้านอาหารเยอะแยะนะ แต่เด็กจิ๋วเกิดงอแงบอกว่าไม่กิน จะกินก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียว เราเลยต้องยอมกลับมากินก๋วยเตี๋ยวที่โรงอาหารโรงพยาบาล พอซื้อก๋วยเตี๋ยวให้กิน ดันไม่กินอีก อันนี้ไม่ว่ากันเพราะรู้ว่ากำลังงอแงไม่สบายอยู่ แต่พอเห็นคุณแม่กินข้าวกับไก่ทอดก็มาแย่งกิน พอกินได้หน่อยก็เหมือนมีกำลังวังชา เริ่มวิ่งได้ จนถึงคิวหมอตรวจ ตอนนี้ตัวก็ไม่ร้อน อาการไม่มีอะไรทั้งสิ้น ลั้นลากว่าเด็กปกติคนอื่นอีก หมอบอกว่าก็ให้สังเกตุอาการดูแล้วกัน อาจเป็นไข้เลือดออก ถ้าวันจันทร์ยังมีไข้อีกก็ให้มาตรวจอีกที ไปเที่ยวได้แต่ห้ามลงน้ำ
...เราต้องรีบเจรจากับเด็กจิ๋วล่วงหน้าไว้เลย ว่าพาไปเที่ยวหาโนโน่ได้ แต่ห้ามลงน้ำนะ พี่ๆเค้าลงกัน เราก็ห้ามลงนะ เด็กจิ๋วรับปากมั่นเหมาะ แค่อยากไปหาพี่ๆก็พอ
...กว่าจะหาหมอเสร็จ ออกจากโรงพยาบาลก็บ่ายโมงแล้ว ไปถึงรีสอร์ทตอน 4 โมงกว่า ปกติบ้านเราไม่เคยทำอย่างนี้นะ เวลาไปรีสอร์ทต้องไปก่อนเวลา เพราะต้องใช้เวลาให้คุ้ม พอไปถึงก็เจอพี่โนพี่โน่นั่งเล่นอยู่ในบ้านแล้ว
...รีสอร์ทชื่อ ศิริ ออน ซี อี๊ตุ๋มเชียร์มาก น้าหญิงก็เคยมาบอกว่าดีเหมือนกัน แต่ว่าบ้านเราไม่เห็นว่าดีเลย ขัดใจหลายเรื่องมาก รีสอร์ทดูเป็นรูปแบบเก่าๆ สระว่ายน้ำก็สี่เหลี่ยมเรียบๆ บ้านเป็นหลังๆเหมือนบังกะโลแต่ดูดีกว่า ทะลเล่นน้ำได้ แต่น้ำมีฟองฟ่อดเลย ไม่สะอาด หาดทรายละเอียดใช้ได้แต่ดำไปหน่อย ตัวห้องที่เราพักเป็นแบบ Pool Villa ทางเดินเข้าบ้านนี่รันทดนิหหน่อย เหมือนเดินเข้าหลังครัวร้านอาหาร ก่อนเข้าบ้าน จะเจอประตูใหญ่หน้าบ้าน เป็นบานประตูห้องน้ำพลาสติก หน้าตาโง่มาก เดินเข้าไป จะมี 2 ห้องนอน แต่ละห้องไม่เหมือนกัน ห้องของพี่โนพี่โน่ใหญ่กว่าแต่อยู่ด้านหลัง ไม่เห็นวิวใดๆทั้งสิ้นมึดๆ ส่วนห้องของเด็กจิ๋วแคบมาก แต่เห็นวิวสระว่ายน้ำกับทะเล ทั้ง 2 ห้องตกแต่งไม่เหมือนกัน กระเบื้องก็ไม่เหมือน ห้องน้ำก็ไม่เหมือน ไม่มีอะไรเหมือน ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำเล็กมากๆ ขนาดประมาณ 1 x 4 เมตร ถัดจากสระก็เดินลงทะเลได้เลย โดยรวมๆสภาพบ้านดูเหมือนเป็นบ้านรูปแบบเก่าแต่เอามารีโนเวทใหม่ แต่รีโนเวทไปนานแล้ว สมควรีโนเวทใหม่อีกรอบ ความสะอาดก็ใช้ได้ แต่พวกก๊อกน้ำนี่สภาพเปื่อยมาก เปิดได้บ้างไม่ได้บ้าง ประตูแต่ละบานก็จะไม่ค่อยสมประกอบ เปิดปิดยากมาก ประตูหน้าหน้าที่เปิดรับลมหรือเปิดเพื่อเดินลงสระว่ายน้ำ เด็กและสตรีไม่สามารถเปิดได้ ขนาดปะป๊ายังต้องโหมทั้งตัว
...ตอนเราไปถึงกัน พี่โนกับพี่โน่เล่นปืนกันอยู่ ตอนแรกเด็กจิ๋วทำเขินอายไม่ยอมไปเล่นด้วย สักพักพอเครื่องติดก็วิ่งไล่กับพี่ๆทั่วห้อง พอแดดเริ่มหมดก็พากันออกไปเล่นทราย เก็บเปลือกหอยมาใส่ขวดน้ำกัน วันนี้อากาศดี คือครึ้มๆ มีเมฆใหญ่ แต่ไม่มีฝน เล่นทรายกันได้หนุกหนานมาก แต่ไม่ลงทะเล เพราะวันนี้ปักธงแดง คลื่นแรงมาก เล่นทรายเสร็จ พี่ๆก็ลงสระว่ายน้ำที่หน้าห้องกันเลย มีความสุขมาก อย่ากระนั้นเลย เอาเด็กจิ๋วลงเล่นด้วยดีกว่า อันนี้เด็กจิ๋วไม่ผิด ปะป๊าเองบอกว่าลงได้ เพราะตั้งแต่ก่อนไปเจอหมอ จนตอนนี้ก็ยังไม่มีไข้ ไม่มีอาการป่วยใดๆทั้งสิ้น หมอสั่งห้ามไม่ให้ลงเล่นน้ำ เราก็ไม่เชื่อ เอาเด็กจิ๋วใส่ปลอกแขนลงเล่นกับพี่ๆเลย ให้เล่นแค่ปั๊บเดียวพอก็รีบพาขึ้นไปอาบน้ำ เพิ่งสังเกตุว่าตอนนี้อาการเด็กจิ๋วไม่ปกติแล้ว มือเย็นเจี๊ยบ ซีดมาก ปากเริ่มม่วงแล้ว หนาวสั่น นั่งกอดกับปะป๊าแน่นในอ่างอาบน้ำ น้ำก็ไม่ค่อยร้อน ไหลเอื่อยอีกต่างหาก คิดว่าเด็กจิ๋วไม่รอดแน่ๆ พาเด็กจิ๋วขึ้นเป่าผมแต่งตัวเรียบร้อย ปากหายม่วงแล้ว แต่มือยังซีดอยู่เลย เย็นเจี๊ยบด้วย แต่ตอนนี้ก็ยังปกติ ไม่มีไข้แต่อย่างใด กินหนมโน่นนี่ใหญ่ ดูท่าทางแล้วไม่ห่าห่วงแล้วล่ะ
...อาหารเย็นเป็นบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด โดยรวมก็โอเคนะ แต่บาร์บีคิวนี่ชั่วร้ายมาก ไม่รู้ใช้เนื้ออะไรมาทำ แบบเหนียวแข็งมาก ซึ่งก็สมราคา เพราะหัวละ 500 บาทเอง เด็กจิ๋วฟรีด้วย ระหว่างกินข้าว ปะป๊าก็นำเด็กๆเล่นเกมส์ เช่นเกมส์ทำท่าสัตว์ เกมส์ทำตรงข้าม พี่โนพี่โน่ไม่เคยเล่น ชอบใจใหญ่เลย ชอบเด็กจิ๋วตรงที่บอกให้ทำก็ทำเลย ไม่ลีลาไม่โอดครวญ อย่างพี่โนให้เล่นเกมส์ถามคำถามก็ไม่ยอม บอกว่าไม่เอา นึกคำถามไม่ออก
...ตอนกลางคืนเด็กจิ๋วเริ่มมีไข้เล็กน้อย เป็นไปตามที่หมอบอกไว้ว่าจะมีไข้ตอนกลางคืน พอตอนเช้ามาไข้ก็ลด เด็กจิ๋วตื่นมาปลุกปะป๊ากับคุณแม่ตอน 7 โมง บอกให้พาไปเล่นกับพี่โนพี่โน่หน่อย ปรากฎว่าออกจากห้องมาเจอพี่โนโวย บอกว่าตื่นนานแล้ว รอเด็กจิ๋วตั้งนาน ว่าแล้วก็วิ่งลงไปเล่นทรายกันเหมือนเดิม เสร็จแล้วต่อที่สระว่ายน้ำเหมือนเดิม เช้านี้น้ำในสระเย็นมาก เด็กจิ๋วอ่ะไม่หวั่นอยู่แล้ว แต่ปะป๊าเองยังลงไม่ไหวเลย ได้แต่นั่งเตะขาอยู่ขอบบ่อ ให้เด็กจิ๋วเล่นแค่ 5 นาทีเท่านั้นแหล่ะ ต้องรีบไปอาบน้ำเพราะไม่งั้นคราวนี้จะป่วยของจริง
...ระหว่างกินข้าวเช้ากันอยู่ น้าหญิงชมเด็กจิ๋วว่าน่ารัก พี่โนพูดว่า เด็กจิ๋วปากเล็ก ไม่แน่ใจว่าชม หรือตำหนิ หรือพูดเฉยๆ แต่เด็กจิ๋วเสียใจงอนพี่โนไปเลย แล้วพี่โนที่แมนมากๆ บอกให้ง้อน้องก็ไม่ยอมด้วย
...ออกจากรีสอร์ทก็มาแวะดูปลากันที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง เสียค่าเข้าถูกมาก เด็กจิ๋วฟรี ผู้ใหญ่คนละ 30 ข้างในก็มีอะไรให้ดูพอสมควร อุโมงปลาก็มีแต่ไม่มีฉลาม มีแต่พวกปลาเก๋าน่ากินตัวใหญ่ๆ เด็กจิ๋วสนใจปลาไหลมอร์เล่มากๆ หลังจากดูปลาไหลมอร์เล่เสร็จก็ไม่สนใจปลาเท่าอื่นๆแล้ว เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนวนมาที่ทางออก แล้วเดินเข้าไปใหม่ เดินไปตามทาง เดินลงบันได ผ่านอุโมง ขึ้นเนินกลับออกมา แล้วก็เข้าไปใหม่ เข้าออก 5 รอบ นี่คือความสนุกของเด็กจิ๋ว
...แวะกินข้าวกลางวันกันที่ร้านอหารแถวๆนั้น ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เด็กจิ๋วกินข้าวผัดปูไปได้นิดเดียวก็หมดแรงหลับไป แต่พอขึ้นรถไปได้หน่อย ดันตื่นขึ้นมา คาดว่าเป็นเพราะปวดอึ้ เพราะหลังจากนั้นก็ต้องพากันแวะห้องน้ำที่จุดพักรถมอเตอร์เวย์ บอกว่าปวดอึ้ แต่พอเข้าไปนั่งก็ไม่ยอมอึ๊ บอกว่าห้องน้ำเหม็น คุณแม่บอกว่าไม่ได้เหม็น มันเป็นกลิ่นน้ำหอมนะ เด็กจิ๋วทำหน้างง แล้วบอกว่า “แต่มันเหม็นนี่”...เข้าๆออกๆ พยายามอยู่ 3 รอบก็ไม่สำเร็จ เสียเวลาพากันอึ๊นานมาก ถ้าไม่แวะก็กลับถึงบ้านนานแล้วเนี่ยะ สุดท้ายก็อึ๊ไม่สำเร็จ พาขึ้นรถก็หลับไปเลย แล้วก็หลับยาวไปถึงเช้าอีกวัน

๓ ขวบ + ๒๓๑ วัน...จันทร์ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนเด็กจิ๋วมีไข้อีกแล้ว ตอนห้าทุ่มปลุกขึ้นมากินยา ตอนแรกก็คิดกันว่าจะเป็นไปได้เหรอ ปลุกเด็กจิ๋วขึ้นมากินยาเนี่ยะนะ ตอนแรกเราไปเรียกๆ เด็กจิ๋วก็ไม่ยอมลุกนั่นแหล่ะ แต่ไม่อาละวาดนะ แค่แบบหงุดหงิด ประมาณว่าหลับอยู่ จะมาปลุกทำไม ทำตัวอ่อนแรก ฉุดขึ้นมาก็ล้มแผละลงไป แต่หลอกล่อไปมาจนถึงบอกว่าถ้ากินยาแล้วไม่ต้องเจาะเลือด เด็กจิ๋วก็ถึงยอมให้ป้อนยาแต่โดยดี ป้อนเสร็จหลับต่อได้ด้วย เป็นเด็กดีมากๆอ่ะ
...เมื่อคืนนอนเต็มอิ่มมากๆ ตั้งแต่ 6 โมงเย็นยันเกือบ 7 โมงเช้า หลับไป 12 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาแล้วสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด ยิ้มแล้วก็ถามว่าวันนี้เป็นวันอะไร วันจันทร์แปลว่าไม่ต้องไปโรงเรียนเหรอ แล้วก็ยอมให้พาไปล้างก้น แปรงฟัน แต่งตัวเรียบร้อย หลับเยอะแล้วเป็นเด็กดีขนาดนี้ วันหลังให้นอน 6 โมงเย็นทุกวันได้ไม๊อ่ะ
...ตอนไปรับเด็กจิ๋ว แอบไปดูกล้องวงจรปิด กำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ เห็นเด็กจิ๋วกระโดดขี่หลังครูขวัญ ครูขวัญก็เล่นด้วย หงายหลังมานอนทับเด็กจิ๋ว เล่นกันอยู่นานประมาณ 10 นาทีได้ อั่งอั๊งกับเบ๊พก็มาเล่นด้วย เพิ่งรู้ว่าเล่นกับครูรุนแรงขนาดนี้ ปกติเล่นกับปะป๊าประจำแหล่ะท่าเนี้ยะ คือเรานั่งอยู่แล้วกระโดดขึ้นขี่หลังแล้วก็พุ่งเอาหัวปักลงมาด้านหน้า
...ตอนไปรับตัวออกมา จับหน้าผากดู เอ๊ะทำไมตัวร้อนจัง ลองวัดไข้ดูก็มีไข้จริงๆ 38.x คุณหมอสั่งไว้ว่าถ้าไข้ยังไม่ลดในวันจันทร์ให้มาเจาะเลือดตรวจ เอาแล้วไง ได้เจ็บตัวอีกแล้วสิเด็กจิ๋ว คุณแม่โทรกลับไปหาครูแหวว ถามว่าวันนี้มีอาการตัวร้อนบ้างไม๊ ครูก็บอกว่าปกติทุกอย่าง คือสงสัยว่าตอนที่เราไปรับก็ตัวร้อนแล้วนี่ แล้วที่เราเห็นเล่นขี่หลังกับครูขวัญอยู่ ครูขวัญก็ต้องรู้ดิ่ว่าตัวร้อนแต่ไม่เห็นบอก ตอนที่เด็กจิ๋วไปเจาะเลือด ก็รู้ชะตากรรมตัวเองนะ ปากก็พูดว่าไม่เจาะๆ แต่พอถึงเวลา ก็ยอมให้เจาะแต่โดยดี ครั้งนี้ร้องนิดหน่อยตอนระหว่างเจาะ เหมือนจะเริ่มชินแล้ว เจาะเสร็จก็ไม่ร้องไห้ต่อ ลั้นลาไปซื้อหนม ซื้อสมุดสติ๊กเกอร์อีกตามเคย ผลตรวจเลือดสรุปแล้วเป็นไข้จากเชื้อไวรัสตัวหนึ่ง ไม่มีอาการหวัด ไม่ได้เป็นไข้หวัดใหญ่ อาการไข้จะหายไปเองใน 5 วัน ซึ่งน่าจะเป็นวันพุธ ไม่ต้องกินยาอะไร ให้ระวังไข้สูงแล้วอาจช็อคแค่นั้น ถามหมอว่าแบบนี้ติดต่อไม๊ คุณหมอบอกว่าก็ติดต่อได้ ถึงแม้ไม่ไอไม่มีน้ำมูก แต่บางทีก็ติดต่อทางน้ำลายได้

๓ ขวบ + ๒๓๒ วัน...อังคาร ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนระหว่างที่ปะป๊ากำลังกอดเด็กจิ๋วนอนอยู่ อยู่ดีๆเด็กจิ๋วก็พูดออกมาว่า “ปะป๊า น้องพริมอยากให้ปะป๊าไปเปลี่ยนหน้าเป็นคุณชายรณพีร์มาอ่ะ น้องพริมอยากให้คุณชายรณพีร์กอด”...โห รักคุณชายมากกว่าปะป๊าอีกเหรอ
...เช้านี้ตื่นมา 7.30 น. ร่าเริงสดใสเชียว รู้เหรอว่าวันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียน คุณหมอบอกว่าให้หยุด 2 วัน ว่าแล้วก็บอกว่า “ปะป๊าจ๋า น้องพริมอยากกินข้าวผัดไข่เจียว ปะป๊าไปทำให้หน่อย”...ลูกรักอยากกินข้าวผัดไข่เจียวตอน 7.30 น. ปะป๊ายินดีจ๊ะ รีบลุกไปทำให้อย่างรวดเร็ว วัตถุดิบก็ไม่มี มีแต่กุ้งแห้ง เลยทำข้าวผัดกุ้งแห้งให้กิน ทำเสร็จแล้วเรียกเด็กจิ๋วมากิน กินไปคำเดียวก็ไม่กินและ ไม่รู้หรือไงว่าปะป๊าอุตส่าห์ลุกขึ้นมาทำด้วยความยากลำบาก
...เด็กจิ๋วบอกให้ปะป๊าลองถอดแว่นตาออกหน่อยดิ๊ ปะป๊าก็ทำตาม เด็กจิ๋วมองหน้าปะป๊าแล้วบอกว่า “ปะป๊าไม่หล่อแล้วอ่ะ”...แล้วก็ร้องไห้ บีบน้ำตาไหลกระเด็นเป็นเม็ดๆ ฮาแล้วเด็กจิ๋ว
...วันนี้คุณแม่เปิด MV เพลงคุณชายรณพีร์ให้ดู เด็กจิ๋วชอบมาก ดูวนไปวนมาประมาณ 20 รอบได้ ร้องตามไปด้วย ดูแล้วก็อมยิ้ม ชอบใจ สักพักก็มากระแนะกระแหนปะป๊า “น้องพริมว่ารณพีร์หล่อกว่าปะป๊าอีก”

๓ ขวบ + ๒๓๓ วัน...พุธ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนไม่มีอาการตัวร้อนหรือป่วยใดๆทั้งสิ้น เช้านี้ตื่นมาก็สดใสก่อกวนอาละวาดทั่วออฟฟิต แบบนี้มันน่าจับไปโรงเรียนซะนี่
...ตอนกลางวันพาเด็กจิ๋วไปเซนลาด ไปหาโรงเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ที่แรก Helen Dalon ครูเป็นผู้หญิงชาวอิตาลี่ ถ้าจะเรียนตอนเย็นวันธรรมดาต้องลงชื่อไว้ก่อน ไม่รู้จะมีคนลงครบ 4 คนไม๊ถึงจะเปิด class ให้ อีกที่ชื่อ Phonix First เน้นการอ่านคำภาษาอังกฤษแบบใหม่ ที่จริงไม่รู้ว่าแบบใหม่หรือเป็นแบบเก่าแต่เป็นวิธีที่ถูกต้องซึ่งไม่เหมือนกับที่บ้านเราเคยสอนกันมา อย่างเช่น บ้านเราจะสอง  C A T แคท แมว ส่วนวิธีอ่านออกเสียงที่ถูกต้องควรจะสอบเป็น เคอะ แอะ เทอะ แคท แมว ราคาของทั้ง 2 ที่แพงมากๆเลย ครั้งละเกือบพันบาท ครั้งละ 1 ชั่วโมง รู้สึกยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะ work ไม๊ เดี๋ยวต้องทดลองเรียนดูก่อน
...วันนี้กินยาไปด้วยเลยทำให้ง่วงนอนตอนกลางวัน กินข้าวเสร็จแล้วอาละวาดลั่นห้าง เราต้องหลอกล่อจนยิ้มออก อุ้มๆเดินไปสักพักก็ร้องไห้อีก เป็นเหมือนคนบ้า เดี๋ยวอารมณ์ดีลั้นลา เดี๋ยวก็อาละวาดหลับหูหลับตา ต้องลากกันขึ้นรถ อับอายคนละแวกนั้นมากๆ หลังๆมานี้รู้สึกว่าไปอาละวาดกลางห้างบ่อยครั้งมาก แต่ละครั้งก็กรี๊ดดัง ทุบตีเตะปะป๊ากับคุณแม่ด้วย

๓ ขวบ + ๒๓๔ วัน...พฤหัส ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ตอนเย็นไปเรียนศิลปะกับครูแก้ว เจออั่งอั๊งมาเรียนด้วย เราเพิ่งชวนอั๊งมาเรียนตั้งเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เด็ก 2 คนตั้งหน้าตั้งตาทำงานศิลปของตัวเอง ไม่คุยกันไม่เล่นกันเลย แต่พอทำงานเสร็จแล้วถึงมาวิ่งเล่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันนิดหน่อย รู้สึกว่าอั่งอั๊งจะระบายสวยกว่าเด็กจิ๋วเยอะเลยนะ เพิ่งมาแท้ๆ แต่อันที่จริง งานชิ้นแรกๆของเด็กจิ๋วจะดีกว่านี้ หลังๆเริ่มเบื่อหรือไงก็ไม่แน่ใจ คือของแบบนี้ขึ้นอยู่กับสมาธิและความตั้งใจอย่างเดียวเลย ถ้าตั้งใจก็ออกมาสวยงาม
...วันนี้ได้คุยกับน้าเบียร์และน้าปอยเรื่องจะพาเด็กจิ๋วไปเรียน Helen Dalon ที่เซนลาด เลยชวนนิตากับอั่งอั๊งไปทดลองเรียนด้วยกัน วันจันทร์หน้า ทดลองดูก่อน จะเรียนหรือไม่เรียนค่อยว่ากัน ตอนนี้ค่อยข้างเชื่อมั่นว่าโรงเรียนนี้ดี ตามที่อ่านจากรีวิว แต่ประเด็นคือรู้สึกแพงจัง ปีละ 32,000 บาท 40 ครั้ง มีค่าอุปกรณ์ต่างๆอีก เฉลี่ยแล้วครั้งละ 900 กว่าบาท แล้วอีกอย่างหนึ่งคือเราจะเรียนเย็นวันจันทร์ ซึ่งยังไม่มีคอร์สเปิดเวลานี้ พนักงานก็บอกว่ายากที่เด็กจะมาเวลานี้ สวนใหญ่มาวันเสาร์อาทิตย์ ตอนนี้เลยต้องหลอกเพื่อนๆเด็กจิ๋วนี่แหล่ะไปเรียนด้วยกัน ถ้า 3 คน เค้าก็เปิดคอร์สให้
...ตอนเย็นๆเด็กจิ๋วอาละวาดหลายรอบมากที่ออฟฟิต คาดว่าจะง่วง หลังๆมานี่ไม่ได้ถามครูแล้วว่านอนกลางวันหรือเปล่า เพราะเกรงใจ ถามทุกวันเลย ถามจากเด็กจิ๋วก็ไม่ได้คำตอบ ก็เลยปล่อยเลยตามเลย จะนอนกลางวันหรือไม่ ตอนค่ำเราก็ให้นอนเวลาเดียวกันทุกวันคือประมาณ 3 ทุ่ม เรื่องที่เด็กจิ๋วอาละวาดวันนี้ก็มีหลายเรื่องเป็นเรื่องไร้สาระซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะโดนขัดใจหรือใครทำอะไรไม่พอใจหน่อยก็จะอาละวาด ทั้งพูดไม่ดีเช่น "ปะป๊าไม่รักน้องพริม คุณแม่ไม่รักน้องพริม" หรือบางทีก็เตะ ตบ ข่วนหน้าปะป๊ากับคุณแม่ บางทีก็ทำท่ากระทืบเท้าใส่ บางทีก็ทำหน้าบรื้นๆใส่ ไม่น่ารักเลย เป็นหนักมากขึ้นเรื่อยๆจน 2 อาทิตย์หลังนี้รู้สึกว่าเยอะมากเกินไปแล้ว วันนี้ปะป๊าใช้แผนทำโกรธ เด็กจิ๋วเห็นเราโกรธก็มาขอโทษ กอดกัน แต่อีกไม่ถึง 10 นาทีก็ก่อเรื่องอีกแล้ว พอเราโกรธก็มาขอโทษ พอเราคืนดี ก็เอาอีกแล้ว วันนี้เป็น 3 รอบ ปะป๊าเลยเพิ่มดีกรีโกรธขึ้นเรื่อยๆ จนทนไม่ไหวเพราะเสียงดังรบกวนพี่ๆทำงานมาก ปะป๊าเลยอุ้มขึ้นห้อง ระหว่างอุ้ม เด็กจิ๋วก็ร้องโวยวายอาละวาด หยิกข่วนปะป๊าทั้งแขนทั้งหน้า พอขึ้นไปถึงห้อง ทั้งปะป๊าและคุณแม่ก็ระเบิดพลังโมโหออกมา ครั้งนี้โมโหจริงทั้งปะป๊าและคุณแม่เลย คือส่วนใหญ่ปะป๊าจะ Acting แกล้งโกรธ แต่ครั้งนี้โกรธจริง น่าจะเป็นครั้งที่โมโหมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากเรื่องอาละวาดวันนี้หลายรอบแล้ว มันยังมีคดีเก่าที่ไปหยิกน้องเจอร์นีด้วย ปะป๊าเอามาโยงกันกลายเป็นประเด็นว่าทำไมเด็กจิ๋วถึงทำร้ายร่างกายคนอื่น ทำร้ายเพื่อนด้วย เตะ ตบ ตี ข่วนปะป๊า คุณแม่ แล้วก็อี๊ป้อมด้วย บางทีเจ๊น่ากับเฮียโรก็โดนด้วยเหมือนกัน ยิ่งหลังๆยิ่งเพิ่มความถี่มากขึ้น เราเลยคิดว่าต้องจัดการอะไรสักอย่าง ต้องมีจุดเปลี่ยน ระหว่างที่ปะป๊ากับคุณแม่กำลังระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรงใส่เด็กจิ๋ว อี๊ป้อมเป็นห่วงหลาน เลยเข้ามาหวังว่าจะมาช่วยยับยั้ง แต่ที่ไหนได้ ยิ่งทำให้ปะป๊าโมโหหนัก เพราะก่อนหน้านี้อี๊ป้อมเป็นคนสอนหลานว่า ถ้าใครมาทำอะไรเรา เราก็ต้องทำเค้าตอบ ปะป๊าคิดว่านี่แหล่ะเป็นแนวคิดที่เด็กจิ๋วเชื่ออี๊ป้อมแล้วนำไปทำตาม จนเกิดผลอย่างนี้ ปะป๊าเลยระเบิดอารมณ์ใส่อี๊ป้อมพ่วงไปด้วย
...เด็กจิ๋วคงงงมากว่าเกิดอะไรขึ้น ปะป๊าไม่เคยโมโหขนาดนี้ ได้แต่ทำหน้าจ๋อยกอดคุณแม่ แต่ไม่ถึงชั่วโมง ทุกอย่างก็คลี่คลาย ปะป๊าขอโทษอี๊ป้อม เด็กจิ๋วขอโทษปะป๊ากับคุณแม่ แล้วเราก็สอนๆสอนๆ ได้แต่หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แล้วก็กอดรักกันเหมือนเดิม

๓ ขวบ + ๒๓๕ วัน...ศุกร์ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนนี้ หลังจากศึกสงบลง ปะป๊ากับลูปรักก็นอนกอดกลิ้งกันอยู่บนเตียง เด็กจิ๋วเล่าให้ปะป๊าฟังเรื่องครูเชอรี่ บอกว่า "เมื่อก่อนครูเชอรี่สวย ผมยาวสีทองเหมือนราพันเซลเลย แต่ตอนนี้ไม่สวยแล้ว เพราะเค้าไปทำผมสีดำ ตัดสั้น แล้วก็มีตุ่มๆที่หน้าด้วย แต่ปะป๊าอย่าไปบอกใครนะ ห้ามไปเล่าให้ครูฟังนะ เล่าให้คุณแม่ฟังได้คนเดียว"...ฮาอ่ะ เดี๋ยวนี้รู้จักเม้าส์ครูให้เราฟังแล้ว รู้ด้วยนะว่าไม่ดี ถึงสั่งว่าไม่ให้ไปบอกคนอื่น พอคุณแม่เข้ามา ปะป๊าก็รีบเล่าทันที ตอนแรกเด็กจิ๋วตกใจ รีบเอามือมาปิดปากปะป๊า แต่พอปะป๊าบอกว่า ก็หนูบอกว่าเล่าให้คุณแม่ฟังได้คนเดียวไง เด็กจิ๋วถึงยอมให้เล่า
...เช้านี้เด็กจิ๋วตื่นมาสดชื่น ตื่นมาก็ยิ้มเลย เราก็แอบหวังว่าเป็นผลของการระเบิดอารมณ์เมื่อคืนนี้แน่ๆ เด็กจิ๋วอาจจะเห็นจุดเปลี่ยนแล้วเชื่อฟังเราจริงๆ วันนี้ราบรื่นทุกอย่าง ยอมแต่งตัว ไปโรงเรียน ระหว่างทางก็ลั้นลาไม่มีง่วงซึมหงุดหงิดเหมือนทุกที ร้องเพลงคุณชายรณพีร์กับพี่ๆไปในรถด้วย
...ตอนไปรับกลับจากโรงเรียนก็ยังลั้นลาอยู่ดี แต่ตอนไปเรียนเปียโนที่เซนลาด มีเผลอพูดไม่ดีไปนิด คือนิดหน่อยจริงๆ พูดว่า "ปะป๊าไม่รักน้องพริม"...ปกติก็จะดุนิดหน่อยห้ามพูดคำนี้ แต่เนื่องจากปะป๊าต้องการขยายผลจากการระเบิดอารมณ์เมื่อคืนนี้ เลยแกล้งทำโกรธอีก เด็กจิ๋วก็เงียบนิ่ง ไม่เถียง ไม่อาละวาด นิ่งมากผิดปกติ ระหว่างรอคุณแม่ทำธุรกรรมที่ธนาคารสิบกว่านาที ก็นั่งนิ่งไม่ขยับตัวไม่พูดซะแอะ ที่สำคัญคือนั่งไขว้ห้างด้วย ตลกมาก ปะป๊าเกือบหลุดขำออกมาแหน่ะ ไม่นานก็คืนดีกัน เรียนเปียโนอย่างมีความสุข
...สรุปแล้วเหตุการณ์เมื่อวานนี้ได้ผลจริงๆ วันนี้เด็กจิ๋วดีจนน่าใจหาย อารมณ์ดีร่างเริงมากๆ เวลาเผลอทำอะไรผิด อย่างเช่นเผลอพูดไม่ดี หรือมีอีกทีเผลอจะตีคุณแม่ด้วยความเคยชิน แต่ก็จะรู้สึกตัว ยั้งๆไว้ได้ทัน ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนอนก็ยังร่าเริงผิดปกติ ตอนพาเข้านอนก็ขำๆแบบไม่มีเหตุผล ขำจนหลับไปเองเลย


๓ ขวบ + ๒๓๖ วัน...เสาร์ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันที่แสนสดชื่นมาก ตื่นเช้ามาปลุกปะป๊าให้พาไปดูการ์ตูนเหมือนทุกที เสร็จแล้วก็กินอาหารที่ปะป๊าทำ ตอนบ่ายขึ้นไปเล่นกันที่ดาดฟ้า สนุกสนานมาก ลงมาดูหนัง ดูโน๊ตอุดมกันต่อ รู้สึกว่าเด็กจิ๋วมีความสุขลั้นลามาก ตั้งแต่ตื่นนอนจนหลับ สนุกเฮฮา กระโดดโลดเต้นทั้งวัน ก็ยังคิดว่าเป็นผลมาจากระเบิดลงเมื่อวันก่อน เลยทำให้เด็กจิ๋วเป็นเด็กดี ไม่ทุบตีปะป๊ากับคุณแม่เลย วันนี้
...เด็กจิ๋วมีปี่พลาสติกโง่ๆอันหนึ่ง ซื้อมาตั้งแต่ตอนเล็กมากๆ เป่าแล้วกดเป็น โด เร มี ได้ ตอนที่ซื้อมายังเป่าไม่เป็นเลย อยู่ดีๆวันนี้ก็ไปรื้อออกมาเล่น เห็นนั่งเป่าอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็เป่าออกมาเป็นเพลงต่างๆ ตั้งแต่เพลงกบ พระราชา หนมปังกรอบ ไปปิคนิค ช่างทำรองเท้า นางฟ้า หนูมาลี จิงเกอร์เบล คือทุกเพลงที่เคยเรียนมาตั้งแต่ JMC จำโน๊ตได้หมดอย่างแม่นยำ ขนาดปะป๊ายังลืมๆไปบ้าง แต่เด็กจิ๋วนี่แค่บอกชื่อเพลงก็โซโล่ได้เลย ที่ตกใจมากเลยคือรู้จักเอาปี่มาเป่าแล้วกดโน๊ตเอง โดยเราไม่เคยสอนมาก่อนเลย แบบนี้อัจฉริยะด้านดนตรีจริงๆอ่ะ ความจำดีเป็นเลิศอีกต่างหาก
...เด็กจิ๋วชอบจำคำพูดเราไปพูดตาม มีคำหนึ่งที่ฟังทีไรแล้วขำทุกทีคือ เวลาเราขัดใจเด็กจิ๋ว เค้าจะพูดว่า "นี่ปะป๊ากับคุณแม่อย่ามาทำกิริยาแบบนี้ใส่น้องพริมนะ"...เอากันอย่างงี้เลยเหรอลูบรัก

๓ ขวบ + ๒๓๗ วัน...อาทิตย์ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
...วันนี้พาเด็กจิ๋วไปกินข้าวกุ้งทอดที่วิลล่า ร้านคินิกุ ถามว่าชอบของที่ร้านนี้หรือของฟูจิมากกว่ากัน เด็กจิ๋วบอกว่าฟูจิ เสร็จแล้วก็ไปช้อปปิ้งกัน เดินผ่านเค้าท์เตอร์ขายถั่ว ก็ร้องจะกินบลูเบอรี่ของโปรด เราก็ซื้อให้ พอได้มาก็แกะกินทันที ยังไม่ได้จ่ายตัง พอเดินผ่านตู้แช่ก็พุ่งตัวไปหยิบโยเกิร์ตมากินอีก นี่เข้าใจว่าของในนี้หยิบกันได้หมดหรือไงเนี่ยะ ปกติเค้าต้องไปจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์ก่อนนะ รู้ไม๊ แล้วเดินผ่านหนมห่อๆก็จะเอานั่นจะเอานี่ เจริญขนมมากๆ เดินผ่านไส้กรอก ก็เอามาชิมชิ้นหนึ่ง กินแล้วหนังเหนียว คายออกมา ปะป๊าหาถังขยะไม่ได้ ก็ต้องเอาเข้าปากไปกินต่อ แล้วเดินผ่านหนมปังกระเทียม รีบหยิบให้ปะป๊าเลย บอกว่าปะป๊าชอบ ที่จริงแล้วตัวเองนั่นแหล่ะชอบ มาทำเป็นรู้ใจปะป๊า เหนื่อยมากกับการพาเด็กจิ๋วมาช้อปปิ้งด้วย เอานั่งรถก็ไม่ยอม บอกว่าเจ็บก้น ให้อุ้มบ้าง ช่วยเข็นรถบ้าง มีทีหนึ่งให้เข็นรถ เราสั่งว่าเข็นดีๆอย่าไปชนอะไรนะ เราก็เลือกของอยู่ เผลอแป๊บเดียว ได้ยินเสียงปั่ง! พุ่งตัวไปดู เห็นเด็กจิ๋วยืนทำหน้าจ๋อยอยู่ เข็นรถไปชนชั้นวางของ โชคดีไม่มีอะไรเสียหาย แล้วก็เต้นรำกันกลางซุปเปอร์ ให้ปะป๊าจับเหวี่ยงไปรอบๆ เสียวว่าจะไปชนโน่นนี่แตกมากๆ
...พี่โฮไอโทรมาตาม บอกว่าอยากเล่นกับเด็กจิ๋ว เราเลยรีบกลับมาบ้าน ไม่เจอโฮไอ แต่เจอแบทแมน แบบเต็มยศมากๆ มีทั้งชุดทั้งหน้ากาก เด็กจิ๋วเห็นแบทแมนแล้ววิ่งหนี บอกว่า ผี...เสียเลย ฮีโร่กลายเป็นผีไปแล้ว
...ตอนบ่ายๆ อี๊ไก่มาหา อี๊ไก่หิวกระเป๋ามาวางไว้ที่โต๊ะ เด็กจิ๋วเห็นก็ไม่ทักทาย วิ่งเข้าไปรื้อกระเป๋าอี๊ไก่ดู แล้วถามอี๊ไก่ด้วยหน้าตาจริงจัง "แล้วหนมชั้นน้องพริมอยู่ไหนอ่ะ"...โห เสียมารยาทนะ ไปรื้อกระเป๋าเค้า แล้วไปทวงหนมเค้าอีก หนมชั้นของหนู อากงเป็นคนเอามา ยังมาไม่ถึง
...ระหว่างที่เด็กจิ๋วเล่นกับอากงอาม่าอี๊ไก่ที่ดาดฟ้า ปะป๊าก็หยิบกระดิ่งมาให้เด็กจิ๋วเล่น เป็นของเล่นที่ซื้อตั้งแต่ยังเด็กเล็กมากๆ เด็กจิ๋วไม่ได้เล่นมานานแล้ว มันเป็นกระดิ่ง 5 ตัว ไล่เสียง โด เร มี ฟา ซอล ปะป๊าหยิบมาวางเรียง แล้วบอกเด็กจิ๋วว่า อันนี้สามารถเล่นเป็นเพลงได้นะ รู้ไม๊ ซึ่งเด็กจิ๋วไม่รู้หรอก ปรกติเคยแต่กดมั่วๆ แล้วก็ไม่ได้กดมานานเป็นปีแล้วด้วย พอปะป๊าพูดเสร็จ เด็กจิ๋วก็ทำหน้าแบบ Professional ถามว่า "ตัวไหนเป็นตัวโด"...ปะป๊าก็ชี้ไปตัวแรกซ้ายมือ หลังจากนั้น เด็กจิ๋วก็บรรเลงเพลงต่างๆได้อย่างถูกต้องแม่นยำ นี่ตอกย้ำความเป็นอัจฉริยะทางดนตรีอย่างแท้จริง อากงอาม่าทำหน้าอึ้งใหญ่เลยว่าทำได้ไง ปะป๊าเองก็อึ้งนะ เมื่อวานเป่าปี่ครั้งแรก วันนี้กดกระดิ่งครั้งแรก ทำไมมันเล่นเป็นเพลงได้อย่างคล่องแคล่วเลยอ่ะ ยังไม่พอนะ ปะป๊าทดสอบความเป็นอัจฉริยะของเด็กจิ๋วต่อ สั่งให้เด็กจิ๋วปิดตาแล้วกดกระดิ่งทีละตัว ให้ทายว่าโน๊ตตัวไหน เหลือเชื่อ เด็กจิ๋วตอบได้อย่างถูกต้อง คุณแม่ยังไม่สามารถเลย ลองกดแบบ 3 โน๊ตต่อเนื่อง ก็บอกได้ถูกต้องหมด อันนี้ช๊อคมากๆ ขอบอก
...วันนี้เด็กจิ๋วก็ยังคงเป็นเด็กดีอยู่ มีเผลอๆทำท่าจะเตะ จะตีคุณแม่ 2-3 ที แต่ก็ยั้นเอาไว้ได้ เป็นคนที่มีสติมาก คือจะตีด้วยความเคยชินนั่นแหล่ะ แต่พอมีสติ ก็ยั้งไว้ได้เพราะกลัวปะป๊าจะโกรธอีก มีวันนี้ที่เล่นกับอากงอาม่า เอาลูกบอลปาใส่หน้าอากงอาม่า คุณแม่ห้ามก็ไม่ฟัง แต่พอบอกว่า เดี๋ยวบอกปะป๊านะ เด็กจิ๋วหยุดทันทีแล้วรีบมาขอโทษทุกคน พอปะป๊าเข้ามาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กจิ๋วก็เล่าความจริงทั้งหมด แล้วบอกว่า "น้องพริมขอโทษแล้วนะ"...คือกลัวปะป๊าโกรธ แต่แบบนี้ปะป๊าไม่โกรธหรอก

๓ ขวบ + ๒๓๘ วัน...จันทร์ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ทุกเช้าวันจันทร์เด็กๆอนุบาลจะไปเข้าแถวที่สนาม แล้วมีกิจกรรมเต้นตามเพลง เราก็รู้แต่ไม่เคยคิดจะไปดู เห็นน้องเบียร์มาเล่าว่าจันทร์ที่แล้วไปดูเห็นเด็กจิ๋วยืนนิ่งไม่ยอมเต้น ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดี วันนี้เราเลยลองไปสังเกตุการณ์ดูหน่อย ปรากฎว่าวันนี้อารมณ์ดี คึกคัก เต้นลั้นลามาก โดยเฉพาะเวลาที่ครูขวัญมาเต้นด้วย
...น้าเบียร์บอกว่ากำลังจะไปซื้อผ้ามาทำกระโปรงสีส้มสำหรับงานกีฬาสี น้าปอยก็ร่วมด้วย เราก็เลยขอเอาด้วย แต่เราไม่ได้ช่วยทำนะ น้าเบียร์บอกว่าจะทำมาให้เผื่อ เป็นผ้าซีฟองมาซ้อนๆทำฟูๆ ปะป๊าเองก็ยังนึกไม่ออก 
...ตอนเย็นนัดนิตากับอั่งอั๊งไปทดลองเรียนภาษาอังกฤษกันที่ Helen Doron ตอนแรกนัดน้องเบ๊พไว้ด้วย แต่วันนี้ป่วยเลยมาไม่ได้ เด็กทั้ง 3 มารวมตัวกันก่อนที่ชั้น 2 แค่เริ่มรวมตัวก็วิ่งเล่นกันกลางห้างเสียงดังแล้ว คนเดินผ่านไปผ่านมาก็มองแล้วซุปซิบกันใหญ่ แต่รู้สึกว่าจะไปในทางบวก เห็นมีคนบอกว่าน่ารัก ก็น่ารักจริงๆ เพราะเด็กๆแต่งชุดนักเรียนเกาหลีเหมือนกัน 3 คน วิ่งเล่นกันแบบไม่แคร์สื่อ
...พอได้เวลาก็ขึ้นกันไปชั้น 9 เจอ Teacher ชื่อ Isabella เป็นชาวอิตาลี ตอนแรกนิตาไม่ยอมเข้าห้องเรียน ห้องไห้โฮอยู่หน้าห้อง บ้าเบียร์ปลอบอยู่สักพักถึงยอมเข้าไปกัน วันนี้ทดลองเรียน ก็เลยเข้าไปสังกตุการณ์กันหมด แต่ถ้าได้เรียนจริงๆแม่ๆจะไม่เข้ากันนะ ปล่อยลูกๆเข้าไปกันเอง เพราะอย่างวันนี้เรียนๆอยู่ก็ผลัดกันวิ่งมาหาแม่ ทำเสียสมาธิ วันนี้ทดลองเรียนแค่ครึ่งชั่วโมง แต่ปรกติจะเรียนหนึ่งชั่วโมงเต็ม อั่งอั๊งพูดเก่งที่สุดอย่างเห็นได้ชัด ทั้งพูดถูกและพูดเสียงดังด้วย เด็กจิ๋วกับนิตาดูยังไม่ค่อยมั่น ไม่กล้าพูด เจ้าหน้าที่บอกว่าแบบนี้แหล่ะ ต้องชินๆแล้วจะพูด โดยรวมก็เป็นในทางบวก แม่ๆก็ชอบกัน แต่เดี๋ยวเอาไปปรึกษากันก่อน
...หลังจาก class Isabella จบ ปะป๊าจัด class ให้เด็กๆต่อ เล่นเกมส์แปลงร่าง เด็กๆทุกคนทำกันได้ดีมาก จินตนาการดี และกล้าแสดงออกทุกคน ต่อด้วยเกมส์ผลัดกันพูด แล้วก็เล่นไล่จับ ซ่อนแอบ เด็กๆทั้ง 3 คนดูๆแล้วนิสัยคล้ายๆกับเด็กจิ๋ว เล่นกันได้โอเค เพราะปะป๊าทดสอบแบบนี้ก็จะรู้ได้ ไม่เหมือนเด็กบางคนที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่เล่น ไม่มีจินตนาการ
...เรียนเสร็จ นิตาแยกตัวกลับบ้านก่อน น้ำตาซึมเลยแหล่ะ อยากอยู่เล่นกับเพื่อนๆต่อ ส่วนเด็กจิ๋วกับอั่งอั๊งไปต่อกันที่ฟูจิ รู้สึกว่าเด็กจิ๋วกับอั่งอั๊งเข้ากันได้ดี ชวนกันเล่นตลอดเวลา เด็กจิ๋วมั่วนิ่มไปนั่งกับน้าปอย ให้น้าปอยป้อนข้าวกุ้งทอดด้วย แบบนี้ทุกทีแหล่ะ ชอบเนียนไปเป็นลูกบ้านอื่น

๓ ขวบ + ๒๓๙ วัน...อังคาร ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อวานที่ไป Helen เด็กจิ๋วปีนเก้าอี้ขึ้นไปดูรูปที่บอร์ดของโรงเรีน แล้วชี้ไปที่รูปน้องคนหนึ่ง หันมาบอกว่าเราว่า “นี่น้องก้องนี่”...เราก็ไหน ใช่เหรอ ปรากฎว่าเป็นรูปน้องก้องเพื่อนเด็กจิ๋วที่เรียนด้วยกันแป๊บเดียวแล้ว Pass ไปอยู่อ.2 เป็นรูปที่แต่งเติมแว่นตาแฟนซีเข้าไปด้วย เก่งมากๆ คุณแม่มาดูแล้วบอกว่าใช่จริงๆ แล้วก็มีรูปน้องเคลลี่อีกคน วันนี้ตอนเช้าพอดีเจอแม่น้องก้อง เลยคุยกันเรื่อง Helen ว่าเป็นไง ก็ได้ข้อมูลมาพอสมควร พี่เมย์ แม่ของน้องก้อง แนะนำครู Tony ซึ่งคุยกันไปกันมา ปรากฎว่าเป็นพี่น้องกับครู Andrea ที่แม่เมิมิแนะนำเหมือนกัน สรุปแล้วเราเลยคิดว่าจะไปลองทดลองเรียนกับ Teacher Andrea หรือ Tony ดูใหม่ แต่คงต้องเป็นวันเสาร์อาทิตย์ เพราะรู้สึกว่า 2 คนนี้จะไม่สอนวันธรรมดา แล้วเช้านี้คุยกับน้าเบียร์แล้วเหมือนจะไม่ได้ให้นิตาเรียนด้วย เหลือแต่อั่งอั๊งซึ่งคุณพ่ออยากจะมาทดลองเรียนด้วยตัวเองดูก่อนตัดสินใจ
...เด็กจิ๋วกลับจากโรงเรียน เข้าบ้านมาก็สั่งอี๊ป้อมว่า “อี๊ป้อมหยิบยาคูล์ให้หน่อย เอา 2 ขวดเลยนะ”...อี๊ป้อมถามว่าจะกิน 2 ขวดเลยเหรอ เด็กจิ๋วตอบว่า “เปล่า เอามาให้ปะป๊าขวดหนึ่ง”...พออี๊ป้อมหยิบมาให้ ก็เอามาให้ปะป๊าขวดหนึ่จริงๆ
...ตอนหลังเลิกเรียนก็จะไปบองมาเช่เหมือนปกติ แต่วันนี้นัดอั่งอั๊งกับนิตาไว้ด้วย อั่งอั๊งจะไปวันอังคารกับพฤหัส ส่วนนิตาไม่แน่นอน แล้วแต่ว่าน้าเบียร์ว่างวันไหน สำหรับเด็กจิ๋วไปวัน อังคาร พุธ พฤหัส ตอนเย็นน้าปอยมารับอั่งอั๊งก่อน อั่งอั๊งไม่ยอมไปก่อน บอกว่ารอจะไปพร้อมน้องพริม แบบนี้แสดงว่าเริ่มสนิทกันแล้ว เมื่อตอนเช้าที่ไปส่งก็เจอกัน เดินจูงมือกันเข้าห้องเรียนไปอย่างลั้นลา
...เด็กจิ๋วบอกว่าวันนี้ไม่ได้วิตามิ้นมินซีในชั่วโมงภาษาอังกฤษ แสดงว่าต้องดื้อแน่ๆ เพราะเคยคุยกับครูอ๊อด ครูอ๊อดบอกว่าถ้าเด็กดื้อก็จะไม่ให้จริงๆ มีมาตรการเด็ดขาดมาก เราเลยถามว่าทำไมถึงดื้อล่ะ เด็กจิ๋วบอกว่า “ก็น้องพริมเล่นกับอั่งอั๊ง เล่นตบแปะ”...อ้าว อุตส่าห์ชวนอั้งไปเรียนพิเศษไปเที่ยวด้วยกันเพื่อจะให้สนิทกัน จะได้ไม่ไปคลุกอยู่กับครู แต่ไหงกลายเป็นว่าเล่นกันเพลินจนทำเสียการเรียนซะเนี่ยะ
...ตอนกลางคือปะป๊าเปลี่ยนหลอดไฟเพดาน บิดผิดจังหวะไปหน่อย หลอดแตกคามือ เศษหลอดไฟตกลงมาบนที่นอน ช่วยกันกอบกู้อยู่ตั้งนาน พอเสร็จแล้วเด็กจิ๋วก็หันมาบอกปะป๊าด้วยสีหน้าซีเรียสมาก “ปะป๊าอย่านอนตรงนั้นนะ”...พร้อมกับชี้มือไปที่นอนของปะป๊าซึ่งเศษหลอดไฟตกลงมา ปะป๊ากับคุณแม่มองหน้ากัน ลูบรักเป็นห่วงปะป๊ามากเลยนะ ยังไม่ทันได้ซาบซึ้งเท่าไหร่ เด็กจิ๋วก็พูดต่อว่า “เพราะเดี๋ยวน้องพริมตามไปนอนกับปะป๊าแล้วน้องพริมโดนตำ”...อ้าว ที่แท้ก็เป็นห่วงตัวเอง

๓ ขวบ + ๒๔๐ วัน...พุธ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อเช้าไปส่งเด็กจิ๋ว 8 โมง เห็นเด็กทุกคนในโรงเรียนไปรวมตัวกันที่สนามหน้าตึกเรียน วันนี้เค้ามีการประกาศชื่อเด็กเก่งได้รางวัลอะไรซักอย่าง
...ออกจากโรงเรียนตอนเช้า ไปตลาดหลังการบินไทยตอน 9 โมง ตั้งใจจะไปหาเสื้อส้มกีฬาสีให้เด็กจิ๋ว ก่อนไปก็ถามน้าปอยผู้เชี่ยวชาญตลาดหลังการบินไทยว่า 9 โมงเปิดยัง ปรากฎว่าไปถึง ก็เปิดแล้วจริง แต่เปิดแค่ 2-3 ร้าน พวกร้านเสื้อผ้ายังไม่เปิดเลย แต่ก็ยังโอเคเพราะร้านที่เปิดเป็นร้านของเล่นที่ซื้อประจำ ได้ของเล่นปะป๊าเป็นโมเดลมิกกี้เม้าส์คลับเฮ้าส์ แล้วก็ได้งูบังคับวิทยุของเฮียโรมา เราเดินกันถึง 9.30 ก็ไม่ไหวแล้ว เค้าบอกว่าร้านจะเปิดเต็มหมดก็ 11 โมง ตอนแรกน้าปอยจะตามมาช่วยกันเลือกเสื้อส้มด้วย แต่รอ 11 โมงไม่ไหว เลยกลับบ้านก่อน ยังไม่ได้เสื้อส้มเลย
...ตกลงวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เด็กจิ๋วชวนเพื่อนๆมาเล่นที่บ้าน มีนิตา อั่งอั๊ง เมมิ พวกแม่ๆก็จะมาเย็บกระโปรงกีฬาสีกัน ปะป๊าจะทำอาหารเลี้ยงทุกคนด้วย
...ตอนเย็นเด็กจิ๋วมีอาการหวัดซะแล้ว ไอด้วย ตอนกลางคืนก็ไอหนักแต่ยังไม่อ้วก แบบนี้วันเสาร์จะหายทันต้อนรับเพื่อนๆไม๊เนี่ยะ ส่วนปะป๊าก็อาการหนักเหมือนกัน อยู่ดีๆก็ปวดหัว มีไข้ แต่ไม่มีอาการหวัดอย่างอื่น แบบนี้เป็นเชื้อคนละตัวกับเด็กจิ๋วหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนเย็นๆปะป๊าสลบไป ขึ้นไปนอนบนห้อง แต่นอนไปได้หน่อย เด็กจิ๋วก็คิดถึง เข้ามาหา ไม่คิดถึงเปล่า ลากออกไปเต้นรำด้วยกัน ปะป๊าแทบลุกไม่ไหว แต่ลูบรักขอก็ต้องจัดให้ พากันออกไปเต้นรำกันที่ตรงเปียโน

๓ ขวบ + ๒๔๑ วัน...พฤหัส ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖
...ตอนเช้าพาเด็กจิ๋วไปหาหมอ วันนี้หมอดารารัตน์ไม่อยู่ ไปต่างประเทศ เลยให้ตรวจกับหมดสุกัลยา หมอแต่ละคนมีวิธีรักษาแตกต่างกันมาก ปกติถ้าหมอดารารัตน์ต้องให้ยาแก้อักเสบแน่ๆ แต่หมอสุกัลยาบอกว่ายังไม่ต้องกิน ให้พวกยาแก้ไอ ลดน้ำมูก บอกว่ารักษาตามอาการไปก่อน ถ้า 2 วันยังไม่ดีขึ้นให้ไปซื้อยาแก้อักเสบมากิน บอกชื่อยามาเรียบร้อย
...ตอนเช้ายังไออยู่มาก แต่พอช่วงบ่ายขึ้นไปเล่นดาดฟ้า ไม่เห็นไอเลย คึกมากอีกแล้ว ไม่เหมือนเด็กป่วยแม้แต่น้อย แบบนี้พรุ่งนี้อาจจะไปโรงเรียนได้ แต่ยังไงก็ไม่ได้ไปเรียนเปียโนตอนเย็น เพราะครูหวานลา
...น้าเบียร์กับน้าปอยไปทำกระโปรงกันมาแล้วที่บ้านน้าเบียร์ รู้สึกว่าจะเสร็จไปตัวหนึ่ง เดี๋ยวมาทำต่อวันเสาร์ที่บ้านเรา สีของผ้าดูแล้วคล้ายผ้าสีผูกศาลพระภูมิ เอามาใส่เต้นเชียร์รีดเดอร์ก็โอเค แต่ใส่เดินตลาดนี่มีเฮแน่ๆ ตอนแรกปะป๊าคิดว่าจะทำพู่เชียร์ปอมปอมด้วย แต่เจ๊น่าบอกว่าที่โรงเรียนมีให้ วันนี้เลยถามครูบุ๋มใน Facebook ดู ครูบุ๋มบอกว่ามีให้จริงๆด้วย แล้วตอนนี้ครูๆกำลังทำที่ผ้าคาดหัวอยู่

๓ ขวบ + ๒๔๒ วัน...ศุกร์ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖
...เมื่อวานก็เหมือนจะหายป่วยแล้วนะ ตอนเช้าปะป๊าเชียร์ให้ไปโรงเรียน อยากให้ไปเรียนเต้นบัลเล่ต์ แต่คุณแม่ไม่ยอม บอกว่ายังไม่หายดี เถียงกันไปมาจน 8 โมง ตัดสินใจไปก็ได้ เลยขับรถออกไป แต่ไปได้หน่อย เด็กจิ๋วก็ทำซื้ดน้ำมูก พอเราถามว่า ยังไม่หายป่วยเหรอ ก็ยิ่งทำซื้ดน้ำมูกไม่หยุด จนต้องกลับรถกลับบ้านเปลี่ยนใจนาทีสุดท้าย ไม่ไปเรียนก็ได้ แต่ลึกๆแล้วก็รู้แหล่ะว่าอยู่บ้านก็ต้องบ้าคลั่งอีก ไม่ได้ป่วยอะไรหรอก แล้วก็จริงๆด้วย ยิ่งช่วงบ่ายยิ่งไม่มีอาการใดๆเลย
...ตอนเย็นฝนกำลังจะตก เด็กจิ๋วตะโกนบอกท้องฟ้าว่า “ฝนนนน อย่าเพิ่งตกกก สงสารคนที่เค้าล้างรถมา เดี๋ยวรถเลอะ”
...เด็กจิ๋วถือโบว์ที่ติดถุงขนมมาให้ปะป๊าผูกมือให้หน่อย ระหว่างที่ปะป๊าผูกอยู่ เด็กจิ๋วก็พรรณาว่า “เนี่ยะ เหมือนที่น้องพริมแต่งงานเลยนะ ผูกโบว์แบบเนี่ยะ”...หา หนูเคยแต่งงานแล้วเหร ปะป๊าถาม เด็กจิ๋วก็ตอบว่า “เคยยยย ก็ตอนที่ปะป๊าแต่งนั่นแหล่ะ”...?

๓ ขวบ + ๒๔๓ วัน...เสาร์ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เด็กจิ๋วนัดเพื่อนๆมาเล่นกันที่บ้าน แม่ๆจะมาทำกระโปรงกีฬาสีกัน ส่วนลูกๆจะมาเล่นสนามเด็กเล่นของเด็กจิ๋ว เห็นเด็กๆทุกคนบอกว่าตื่นเต้นที่จะได้มาเล่นกัน เด็กจิ๋วก็ตื่นเต้นเหมือนกัน มีเตรียมตุ๊กตาคิตตี้เปลี่ยนหน้าไว้จะแจกเพื่อนๆคนละตัวด้วย แล้วก็นัดแนะปะป๊าเรียบร้อยว่าจะเปิดการ์ตูนให้เพื่อนดูด้วย แต่ขอน้องพริมเป็นคนเลือกเองนะ เด็กจิ๋วเค้าสั่งเอาไว้ ปะป๊าเองหวั่นใจเรื่องเด็กจิ๋วจะหวงของเล่น จะแกล้งเพื่อน ต้องสั่งกำชับไว้หลายครั้งว่าห้ามแกล้งเพื่อนเด็ดขาด ห้ามหวงของเล่นด้วย
...พอได้เวลา 11 โมง ทุกคนก็ทยอยกันมาตามนัด สักพักก็มากินอาหารมื้อเที่ยงกัน ปะป๊าเตรียมอาหารไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ทำต่อตั้งแต่ 9 โมงยันเที่ยง เป็นอาหารฝรั่งมีเสต็กหมู ผักย่าง สปาร์เก็ตตี้ปลาสลิท ผักโขมอบชีส ซีซาร์สลัด แล้วก็มีมักโรนีกับไก่ทอดสำหรับเด็กๆ มีแค่เด็กจิ๋วกับอั่งอั๊งที่กินมักโรนี นิตากับเมมิกินข้าวเหนียวหมูฝอยที่น้าเบียร์เตรียมมา พอกินข้าวกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปปฏิบัติภาระกิจ แม่ๆทั้ง 4 คนจับกลุ่มเม้าส์ แล้วก็ทำกระโปรงกีฬาสีไปด้วย ส่วนเด็กๆพากันไปเล่นสนามเด็กเล่นดาดฟ้า เพื่อนเด็กจิ๋วที่มาวันนี้มี นิตา อั่งอั๊ง เมมิ รวมเด็กจิ๋วเป็น 4 คน แต่ละคนไม่เบาทั้งนั้น วิ่งๆกระโดดๆ สไลด์ลงบ่อบอลเอาตัวทับกระแทกกันไปมา บางทีก็แยกย้ายกันไปเล่นคนละที่ ผู้ใหญ่ก็ต้องช่วยวิ่งตามไปดู แต่บางทีดันมาแย่งของเล่นชิ้นเดียวกัน มีปะป๊า พ่อเมมิ(โอห์ม) แล้วก็อี๊ป้อมช่วยกันดูเด็กๆ เหนื่อยมาก ไม่เหมือนเล่นกับพวกเจ๊น่าเฮียโร หรือพี่โนพี่โน่ อันนั้นอาจจะเป็นเพราะพี่โตด้วยมั้ง อันนี้ควบคุมยากมาก เห็นได้ชัดว่าเด็กแต่ละคนมีบุคลิกต่างกันมากๆ รู้สึกว่าเด็กจิ๋วจะอารมณ์พลุ่งพล่านมาก กระทบกระแทกกันก็ทำหน้าทำตา งอนบ้าง ขึ้นเสียงบ้าง เพื่อนๆไม่เป็นกันนะ ดูเด็กจิ๋วจะเกเรที่สุดอ่ะ คือแสดงอารมณ์สุด จะสนุกก็สนุกสุดๆเสียงดังไปเลย จะโมโหก็ทำหน้าตาทำท่าทาง ส่วนเพื่อนๆบางคนนิ่งๆแต่ดื้อเงียบ เราพูดอะไรไปก็ไม่สนใจ บางคนมีโลกส่วนตัว วิ่งหนีหายไปเล่นคนเดียวไม่สนใจเพื่อน บอกไม่ได้ว่าแบบไหนดีไม่ดี มันเป็นนิสัยของเด็กแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน คือพยายามเทียบเคียงกับครูที่โรงเรียน ที่ต้องรับมือกับเด็กสามสิบกว่าคนก็ไม่เบาเหมือนกัน ถึงว่าครูต้องดุๆหน่อย เป่านกหวีดเวลาต้องการดึงเด็กมาสนใจ ถ้ามาเล่นลั้นลาอย่างเราก็ตายเลย ปะป๊าเผลอไปเล่นจับเด็กลอยข้ามบ้านลม พอเด็กคนอื่นเห็นก็วิ่งมาเข้าแถวกันให้อุ้มบ้าง อุ้มกันไปหลายสิบรอบ อยากได้นกหวีดครูแหววขึ้นมาทันทีในนาทีนั้น
...เล่นจนเหนื่อยแล้ว คือปะป๊านั่นแหล่ะที่เหนื่อย เด็กๆไม่มีใครเหนื่อยหรอก ปะป๊าเลยหรอกให้ลงมาดูการ์ตูนกันที่ห้องโฮม ปรากฎว่าได้ผลแหะ เด็กๆนั่งดูหนังกันนิ่ง นั่งเรียงกัน 4 คน อุ้มตุ๊กตาคนละตัว ดูอย่างตั้งใจ ปะป๊าเลยมีเวลาได้พักเหนื่อย แต่การ์ตูนเล่นไปได้ครึ่งเรื่อง เด็กๆก็เริ่มหมดความอดทนกันแล้ว ลุกขึ้นมาวิ่งเล่นแทน พอคนหนึ่งวิ่ง คนอื่นก็วิ่งบ้าง คราวนี้กลายมาเป็นละเลงห้องโฮมเล่นแทน อั่งอั๊งชอบโมเดลต่างๆในตู้โชว์มาก รื้อออกมาเล่นเกลื่อนพื้นเลย สักพักขอกลับขึ้นไปต่อดาดฟ้าอีก กว่าจะยอมกลับบ้านกันก็เย็นๆเลย ดูเด็กๆทุกคนสนุกกันมาก ร้องไห้ไม่อยากกลับบ้าน เดี๋ยวคราวหน้าจัดใหม่แล้วกันนะ