วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

@The Blue Sky Resort, Koh Payam

เคยไปเที่ยวระนองกันมั้ยคะ บ้านเราแทบจะไม่เคยไประนองเลย
ที่ไปก็แค่ทางผ่านๆ เท่านั้น ไม่เคยตั้งใจไปจริงจังเลย
เราไม่ค่อยรู้จักระนองซักเท่าไหร่ รู้แค่ว่ามี คอคอดกระ ซาลาเปาทับหลี แล้วก็กาหยู (มะม่วงหิมพานต์) แค่นั้น
จนน้องที่ทำงานไปเที่ยวที่นี่มา แล้วแปะรูปใน Facebook บอกว่าที่นี่คือเกาะพยาม จังหวัดระนอง ประหลาดใจ
รอช้าไม่ได้ งานท่องเที่ยวครั้งถัดมา รีบพุ่งตัวไปซื้อ Voucher The Blue Sky Resort เกาะพยามทันที
ดูวันน้ำขึ้นเต็มที่ แล้วจองเลย จองล่วงหน้านานมาก...หลายเดือนเลย 
ต่อมาก็รอโปรน้องนก เผอิญมีโปรน้องนกไประนองออกมาหลังจากนั้นไม่นาน ดีใจมากๆ 
เพราะถ้าไม่มีราคาโปร ตั๋วน้องนกไประนองแพงมากๆ มีหวังปะป๊าตัดสินใจขับรถไปแน่นอน
ที่พักพร้อม ตั๋วเครื่องบินพร้อม ไปกันเลยค่ะ....

เราออกเดินทางไประนองกันแต่เช้ามืด ด้วยเครื่องลำเล็กของนกแอร์
เราไม่เคยนั่งเครื่องบินเล็กแบบนี้มาก่อน ที่นั่งมีสองแถวคู่ เหมือนจะเล็กกว่ารถทัวร์เลย
นั่งตรงกลางๆ ใกล้ใบพัด หันมองนอกหน้าต่าง เห็นใบพัดหมุนติ้วเร็วมาก แอบเสียวๆอยู่เหมือนกันค่ะ
แต่ก็นิ่ง นั่งสบาย เสียงดังหน่อยแต่ไม่โคลงอย่างที่คิด และพาเรามาถึงระนองอย่างปลอดภัย 

มาถึงสนามบินระนอง ก็มีรถจากทาง The Blue Sky มารอรับแล้ว 
รับเรามาส่งที่ร้าน Blue Monkey ที่ท่าเรือ เข้าใจว่าร้านนี้เป็นร้านของทางรีสอร์ทนะคะ
เราทานอาหารเช้ากันที่นี่ (เริ่มมื้อแรกใน package) 
ในร้านมีที่นั่งที่นอนให้พักกันสบายๆ รอเวลาเรือออกค่ะ


นั่งเล่น นอนเล่นกันพักใหญ่ ก็ได้เวลาเรือออก
ช่วงเวลาที่เราไปเป็นฤดูท่องเที่ยว ฉะนั้นจะมี Speed Boat บริการ
นั่งเรือเพียงแค่ 40 นาทีก็มาถึงเกาะพยามแล้วค่ะ
พอขึ้นจากเรือก็เดินตัวปลิวบนท่าเรือยาวๆนี้ จะเจอรถกอล์ฟของทางรีสอร์ทมารอรับอยู่แล้วค่ะ
มาถึงรับน้ำปั่นหวานเย็นชื่นใจแล้ว เด็กจิ๋วก็เล่นทรายตรงนี้เลย 
แดดจะร้อนยังไงก็ไม่หวั่น

เช็คอินเสร็จก็ทานกลางวันกันเลย
มื้อแรกบนเกาะเป็น Steak หมูย่าง ส้มตำ ข้าวเหนียว อร่อยมากๆ แถมน้ำปั่นเย็นชื่นใจ และขนมหวานแสนอร่อย
เราทานกลางวันกันมองวิวกันไป วิวนี้จากร้านอาหารของรีสอร์ทเลย ทะเลสวย ฟ้าใสมากๆ
มองไปอีกทางก็เจอสระว่ายน้ำใหม่กิ๊กๆ สีสวยน่าเล่น อยู่ข้างๆร้านอาหารเลย เด็กจิ๋วอยากลงสุดๆ
เลยสระว่ายน้ำไป เป็นบ้านโซนใหม่แบบใหม่ของที่นี่ อยู่หน้าหาดเลย ใกล้ชิดทะเลสุดๆ 
เราไปแอบส่องๆดู น่าพักมาก ชั้นบนน่านอนเล่นมากมาย
(ตอนเราไปเสร็จแค่ไม่กี่หลัง กำลังก่อสร้างเพิ่มอีกหลายหลังเลยค่ะ)
อันนี้เป็นร้านอาหารและ Lobby ของโรงแรม เดินข้ามถนนเล็กๆนี้มา ก็จะเป็นโซนบ้านพักของเราค่ะ
ตอนที่เรามาถึง The Blue Sky ราวๆ 11 โมง น้ำยังขึ้นสวยๆอยู่เลย 
พอทานข้าวเสร็จ เดินมาห้อง น้ำลงไปแล้วค่ะ ต้องรอน้ำขึ้นใหม่อีกรอบคืนนี้
บ้านโซนนี้จะมีสองฝั่งคือ R กับ L 
ทุกหลังสร้างแบบเดียวกัน ถ้าน้ำขึ้นมากๆ ทุกหลังก็เหมือนอยู่บนน้ำหมดค่ะ 
แต่โซน L จะอยู่ข้างใน และโซน R อยู่ริมคลองเลย ฉะนั้น R จะได้วิวแจ่มกว่า และราคาแพงกว่าค่ะ
มุมนั่งเล่นน่ารักๆ กลางคืนออกมานั่งชมดาวกันตรงนี้ได้ค่ะ
มาดูในห้องนอนบ้างนะคะ 
ห้องของเราคือ R1 ซึ่งที่แรกก็ลังเลว่าจะเอา R1 หรือ R6 ดี
คือมาหาข้อมูลในรีวิวใน BP ก็มีคนเชียร์ทั้ง 2 ห้องเลย
เราก็เลยไปถามข้อมูลจากน้องเจ้าหน้าที่ที่บูธ ได้ความว่า 
R1 ดีตรงที่ติดหาดทราย เดินลงบันไดมาก็เล่นทรายได้เลย เหมือนมีหาดทรายส่วนตัวหน้าบ้านเลย
ส่วน R6 อยู่ตรงโค้งน้ำพอดี วิวสวย 
เราก็เลือก R1 เลย เพราะมั่นใจว่าจะถูกใจเด็กจิ๋วมากกว่าแน่ๆ
เปิดประตูห้องมาเจอแบบนี้เลย จากห้องมองไปเห็นสะพานที่ข้ามมารีสอร์ท 
นอนดูตรง daybed ยาวๆริมหน้าต่าง ใครไปใครมาเห็นหมด
มองออกมาจาหน้าต่างห้องเรา ยามน้ำลด วิวนี้เลย
ห้องเป็นทรงกลมๆ แต่งเรียบง่าย เก๋ๆ แนวธรรมชาติ
เตียงนี้นอนสบ๊าย สบาย นอนกันสามคนพ่อแม่ลูกสบาย
หัวเตียงมีหนังสือธรรมะกับ pocket book ให้อ่านเล่นด้วย
ห้องน้ำหน้าตาแบบนี้ค่ะ
เดินอ้อมหลังอ่างล้างหน้าเข้าไป จะเป็นห้อง shower ค่ะ

เข้าห้องพักเรียบร้อย เด็กจิ๋วไม่รอช้า เปลี่ยนเสื้อผ้าลงเล่นทราย เล่นน้ำทันที แดดร้อนก็ไม่สน ทนไม่ไหวแล้ว ขอเล่นเดี๋ยวนี้เลย 
เล่นทรายเล่นน้ำตรงหน้าบ้านเสร็จ ก็ต่อด้วยสระว่ายน้ำเลย ไม่มีปลอกแขน ใช้ชูชีพแทน ก็พอได้

เด็กจิ๋วเล่นสระน้ำ สนุกมากๆ โดดน้ำไม่รู้กี่สิบรอบ เล่นกันจนเย็นย่ำเลย

สระน้ำอยู่หน้าหาดเลย อยู่ถัดจากร้านอาหาร และอยู่ติดกับห้องแบบ beachfront โซนใหม่ 
เราอยู่โซนบ้านบนน้ำ ต้องเดินมานิดนึง แต่ก็ไม่ได้ไกลอะไรมาก



เล่นน้ำกันจนเย็นย่ำ หิวแล้วด้วย รีบไปอาบน้ำ เตรียมทานอาหารเย็นกันดีกว่า
บรรยากาศที่หน้าหาดยามเย็นดีมากๆเลย แสงสีสวย พระจันทร์ขึ้นแล้ว พระจันทร์
เราทานอาหารกันที่เดิม คราวนี้เลือกนั่งโซฟาริมๆทะเล ลมเย็นสบายมาก 
เด็กจิ๋วกินข้าวยังไม่ทันเสร็จก็หลับไปเลย นอนที่เบาะนี้สบายๆยาวๆเลย ยุงก็ไม่มี เพราะลมแรง บรรยากาศดีมากๆ

อาหารค่ำวันนี้ อร่อยมากทุกอย่าง
โดยเฉพาะแกงจืดหมูสับใส่ใบโหระพา น้ำซุปอร่อยและหอมมากๆ อร่อยสุดๆ
เรากินข้าวเสร็จแล้ว ก็ยังนั่งเล่น นอนเล่นกันอยู่ตรงนี้ จนดึกเลย
ตรงนี้เป็นล้อบบี้ ที่เรามาเช็คอินกันเมื่อกลางวัน มีมุมขายของที่ระลึกเล็กๆด้วย
บ้านแบบใหม่ มีชั้นบนให้นั่งเล่นนอนเล่นรับลม สบาย 
ส่วนร้านอาหารและล้อบบี้
เราเลือกมาวันพระจันทร์เต็มดวง เพราะอยากให้ตอนน้ำขึ้น มันจะขึ้นมาเยอะๆหน่อย
รอเวลาน้ำขึ้นตอน 5 ทุ่ม มาดูก็ขึ้นไม่มากอย่างที่หวังไว้ 
ตอนหลังมาคิดเอาว่าน่าจะเป็นที่ฤดูด้วย ตอนเราไป ถึงแม้น้ำขึ้นสูงสุด ก็ยังไม่สูงมากอยู่ดี (แอบเฟลนิดๆ)

นั่งเล่นดูดาวก่อนนอน ดาว
ตอนเช้า ถึงจะมีเมฆมาก แต่แสงเช้าก็สวยมากๆ 


น้ำทะเลลงไปไกลมากๆ หาดทรายกว้างใหญ่จริงๆ 




พระอาทิตย์โผล่มาทักทายแล้ว 


ก่อนจะมาที่นี่ เราไม่ได้คาดหวังกับทะเล หรืออะไร นอกจากตรงบ้านพักที่มีน้ำเขียวๆแค่นั้น
แต่ปรากฎว่าวิวหน้าหาดที่นี่สวยมากจริงๆ ทั้งตอนเช้าตรู่ และตอนเย็น
เราไปช่วงเดือนกุมภา อากาศก็ดีมากๆ มีลมพัดเย็นสบายตลอด
เด็กจิ๋วตื่นมาก็เติมพลังกันก่อน วันนี้มีแผนจะไปพายเรือเล่นกันด้วย

ตื่นเต้น อยากไปพายเรือแล้ว
รอเวลาน้ำขึ้นกันแป๊บ แล้วปะป๊าจะพาไปพายเรือเล่น
ช่วงที่เราไป ตอนกลางวันน้ำจะขึ้นราวๆ 10 โมง
เอาเรือมาเตรียมพร้อมตรงท่าน้ำหน้าบ้านเลย 
พร้อมแล้วค่า...ไปพายเรือกันเลย

เนื่องจากช่วงน้ำขึ้น น้ำจะไหลจากปากคลอง คือตรงบ้าน R1 เข้าไปด้านในคลอง 
เวลาเราพายจากบ้านเราล่องเข้ามาในคลอง จะง่ายดาย ฉิวๆ มาก 
แต่ตอนพายกลับนี่สิ...ปะป๊างัดแทบตาย


ขึ้นจากเรือก็มาเล่นน้ำตรงหน้าบ้าน น้ำขึ้นมาเยอะ ผู้ใหญ่ว่ายเล่นหนุกหนาน เด็กก็ตักน้ำเล่นหนุกหนาน

ช่วงน้ำขึ้น เสมือนเป็นช่วงเวลาทองของที่นี่เลย เราจะต้องรีบถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆ ยามน้ำขึ้น
มาเดินดูรอบๆรีสอร์ทยามน้ำขึ้นกันค่ะ





เราเคยเห็นภาพมุมนี้ตอนน้ำขึ้นเต็มที่ น้ำจะท่วมมิดเนินทรายตรงนี้หมดเลย
แต่ตอนเราไปก็ขึ้นมาประมาณนี้เอง ขนาดว่าเราไปวันพระจันทร์เต็มดวงแล้ว
ก็เลยมาคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวกับเดือนด้วยว่ามาเดือนไหน น้ำขึ้นสูงๆ (เฟลอีกแล้ว...อยากให้น้ำขึ้นสูงๆ)
ช่วงเวลาน้ำสูงๆ สั้นๆเอง ตอนนี้น้ำเริ่มลงแล้ว 
ไปอาบน้ำ หม่ำข้าวกลางวันกันดีกว่า... 

กลางวันนี้เป็นสปาเก๊ตตี้ ของโปรดเด็กจิ๋ว ซุป และสลัด พร้อมน้ำปั่นหวานเย็นชื่นใจ อร่อยอีกตามเคย
หลังอาหารกลางวัน ปะป๊าตั้งใจว่าจะไปเดินถ่ายรูปรอบๆรีสอร์ท เพราะแดดแรง ฟ้าใส
ส่วนแม่กับเด็กจิ๋ว ขอนอนหลบแดดดูการ์ตูนในห้องดีกว่า




ปะป๊าเดินข้ามสะพานอันนี้ไปที่ชุมชนชาวบ้านด้วย 
โอว...ช่างกล้า แดดแผดเผาขนาดนี้

ต้นนี้ชื่อต้นอะไรไม่รู้ แต่เราก็เรียกต้นโกงกางไว้ก่อน
เป็นต้นไม้ที่ปะป๊าเด็กจิ๋วชอบมากๆ เคยซื้อมาปลูกที่บ้านด้วย แต่ก็เลี้ยงไม่สำเร็จ 
พอแดดล่มลมตก เด็กจิ๋วก็เตรียมออกมาเล่นทรายเล่นน้ำอีกแล้ว
ขี่หลังปะป๊าสำรวจธรรมชาติ เจอปูเสฉวนหลายตัว อยู่ในเปลือกหอยแบบต่างๆ เด็กตื่นเต้นมาก
เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ เย็นของวันที่สองแล้ว พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านละ
ปะป๊าสั่งให้โพสต์ท่า 10 action ได้ออกมาแบบนี้ 


มื้อเย็นวันนี้เป็นสเต๊ก ตอนเช้าพนักงานมาถามไว้ก่อนแล้วว่าใครจะทานเนื้ออะไร มีปลา หมู เนื้อ ส่วนหอยแมลงภู่กับขนมปังได้ทุกคนค่ะ
นั่งทานอาหารไปชมวิวไป เรานั่งโต๊ะเดิม ได้วิวแบบนี้
คืนที่สองนี่หวังว่าน้ำจะขึ้นสูงกว่าวันแรก เพราะตรงกับวันพระจันทร์เต็มดวงเป๊ะๆเลย แต่ก็ได้เท่านี้ ไม่ขึ้นมาท่วมใต้บ้านเราด้วยซ้ำ

ทุกบ้านมีทางเดินไม้เชื่อมต่อกันหมดค่ะ 
ดึกๆแบบนี้ คนที่มาพักส่วนใหญ่ก็ยังไม่นอน ออกมาถ่ายรูปพระจันทร์ ถ่ายรูปน้ำขึ้นกันเยอะเลยค่ะ




เช้าวันสุดท้ายที่เกาะพยาม ฟ้าสีสวยมาก พระอาทิตย์ขึ้นสวยมากๆ พระอาทิตย์เยี่ยมยิ้ม





ชอบบรรยากาศตรงร้านอาหารนี้สุดๆ แสงสวยๆ น่านั่งชิลล์มากๆ


ความจริงที่เกาะพยามมีหาดสวยๆ หลายหาด
แต่เราไม่ได้ไปไหนเลย อยู่แต่ในรีสอร์ทก็ฟินมากๆแล้ว




อาหารเช้ามุมเดิม โต๊ะเดิมๆ อร่อยเหมือนเดิม


เสร็จจากอาหารเช้า เรารีบกลับมาเก็บของที่ห้อง เพื่อเตรียมลงเรือกลับฝั่ง
ปะป๊าไม่พลาดที่จะเก็บรูปน้ำขึ้นอีกรอบก่อนจะกลับ
ส่วนเด็กจิ๋ว ขอเล่นทรายอีกรอบ เล่นเท่าไหร่ก็ไม่พอ กว่าจะเรียกให้ขึ้นมาอาบน้ำได้
วันนี้มีคนมาพายเรือกันเยอะเลย ส่วนใหญ่ก็มาเริ่มพายกันตรงเนินทรายข้างๆบ้านเรา 
วันก่อนปะป๊าต้องไปพายเรือมาจากหน้าหาดเข้ามาในคลอง (เพราะเรือจะจอดอยู่ที่ด้านหน้าหาด)
แต่วันนี้เจ้าหน้าที่ยกเรือมาวางเรียงให้ตรงนี้เลยอ่า... 







ทำหน้าที่เป็นนางแบบที่ดี ปะป๊าสั่งทำท่าไหนก็ทำตาม แต่เริ่มงอแงหลังจากโดนให้โดดๆ ไปมากกว่าสิบรอบ


บ้านหลังในๆ วิวสวยเลยค่ะ ถ้าไม่เอาเนินทรายเหมือนเด็กจิ๋ว อยู่หลังในๆ แถวๆนี้ สวย สงบ เงียบ เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ


พอพายเรือเสร็จ จอดไว้ที่เดิม เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ก็มาแบกกลับไปวางเรียงหน้าหาด

เราออกจากเกาะพยามกันตอนสายๆ ยังเหลืออาหารกลางวันที่ยังอยู่ในแพ็คเกจอีก 1 มื้อ ซึ่งทาง The Blue Sky จะพาเราไปทานกันที่ The Blue Sky Sorrento ที่อยู่บนฝั่งระนอง
ขากลับคลื่นแรง กระแทกมากมาย โชคดีที่ยังไม่ได้กินกลางวันกัน ไม่งั้นมีหวัง...

ขึ้นจากเรือ ก็มีรถตู้มารับไปที่ The Blue Sky Sorrento 
ว้าว..วิวสวยกว่าที่คิดไว้เยอะมาก
ข้าวผัดไก่ หน้าตาธรรมดา แต่อร่อยมากๆ ตบท้ายด้วยน้ำปั่นและเจลลี่อร่อยๆ 
เรียกได้ว่าทริปนี้ อาหารอิ่มอร่อยทุกมื้อเลยทีเดียว
สระน้ำที่นี่ก็น่าเล่นมาก 
น้องเจ้าหน้าที่เหมือนรู้ใจเด็กจิ๋ว เดินมาบอกว่าเล่นน้ำก่อนได้นะคะ
เพราะว่า flight เราเย็นมาก ต้องรอที่นี่หลายชั่วโมงอยู่ กลัวจะเบื่อกัน เลยให้เล่นน้ำได้ตามสบาย
เสร็จเด็กจิ๋วเลย...


แดดที่นี่เปรี้ยงมากๆ ได้ดำกันวันนี้เลย เด็กจิ๋ว



ด้านล่างสระว่ายน้ำมีห้องอาบน้ำให้ด้วย เล่นน้ำเสร็จ อาบน้ำแต่งตัวตรงนี้ สะดวกสบายมาก
พอได้เวลา น้องเจ้าหน้าที่มาเรียกขึ้นรถ พาไปแวะร้านของฝาก แล้วก็มาส่งที่สนามบิน
น้องๆที่ The Blue Sky ทั้งที่เกาะ และที่นี่ น่ารักกันทุกคน ยินดีบริการกันทุกคน น่ารักมากๆเลยค่ะ

ใกล้ค่ำแล้ว เรากลับกรุงเทพด้วยนกน้อยสีม่วงที่เดาว่าน่าจะเป็นลำเดิมกับที่นั่งมา
ทริปนี้สนุก และสวยเกินคาดจริงๆ เราชอบและประทับใจมากๆเลยทีเดียว 
(เริ่มรู้สึกว่าที่จ่ายไปแพงๆนี่คุ้มละ 555)
เด็กจิ๋วต้องบ้ายบายไปก่อนนะคะ 
รีวิวหน้ายังไม่รู้ว่าจะเป็นที่ไหนค่ะ อาจจะต้องเว้นยาวๆ อีกแล้ว 
เพราะตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้เป็นต้นไป เด็กจิ๋วไปเที่ยวทุก ส-อา เลยค่ะ เริ่มจากสวนผึ้ง กระบี่ พัทยา 
แล้วเด็กจิ๋วจะมารีวิว จะมาชวนไปเที่ยวกันอีกนะคะ