วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557

@Silavadee Pool Spa Resort, Koh Samui

สี่ปีกว่าๆ ที่ผ่านมานับตั้งแต่เด็กจิ๋วเกิด เรามาเที่ยวเกาะสมุยกัน 4 ครั้งแล้ว คือเฉลี่ยปีละครั้งเลย ประหลาดใจ
และ 3 ใน 4 ครั้ง เราก็มารีสอร์ทเดิมๆ ที่เราหลงรัก จุ๊บๆและเป็นสาเหตุที่ทำให้มาสมุยได้บ่อยขนาดนี้
บ้านเด็กจิ๋วได้มีโอกาสรู้จักกับ ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท เพราะเราเข้าร่วมโครงการ KTC Boutique Award 2011 แล้วได้รับมอบหมายมารีวิวที่นี่ 

ครั้งแรกที่มาก็ทำให้เราประทับใจที่นี่มาก เป็นครั้งแรกที่ทำให้รู้ว่าทะเลสมุย ก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย

ครั้งที่สอง เรามาเที่ยวเอง เพราะ Bangkok Airways มีโปร 45 ปี ที่บินไปสมุยถูกมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน และแน่นอนเราเลือกมาพักที่ศิลาวดีอีกแล้ว เพราะได้ทราบว่าเค้ามีห้องโซนใหม่ และขยายรีสอร์ทออกไปกว้างขวางกว่าเดิม

ครั้งที่สาม ผู้บริหารที่น่ารักของศิลาวดีที่เราได้มีโอกาสรู้จักกันจากการไปเที่ยวสองครั้งที่ผ่านมา ชวนเด็กจิ๋วไปเยี่ยมรีสอร์ทอีกครั้ง เพราะคราวก่อนที่ไป หลายส่วนของรีสอร์ทยังก่อสร้างอยู่ แต่ครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์หมดแล้ว

รีวิวนี้ของเด็กจิ๋วขอรวมการไปศิลาวดีของสองครั้งหลังเอาไว้ด้วยกันเลยนะคะ 

พร้อมแล้วบิน Bangkok Airways ไปลงทะเลเกาะสมุย พักรีสอร์ทสวยๆอย่าง ศิลาวดี กับเด็กจิ๋วเลยค่ะ
การเดินทางไปสมุยสองครั้งนี้ของเด็กจิ๋ว บินไปกับ Bangkok Airways ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้บินกับ Boutique Airlines เจ้านี้
เราตื่นเต้นกับ Lounge มากๆ เพราะปกติบินในประเทศด้วย Low Cost ตลอดๆ 
คราวนี้ได้เข้าไปชิมข้าวต้มมัดแล้ว แถมยังเป็น Blue Ribbon Lounge เพราะเราเป็นสมาชิก AIS Serenade ด้วย 
ชอบมากค่ะ ของกินเยอะมาก สั่งอาหารกันอิ่มเลยทีเดียว

พอมาถึงสนามบินสมุย เราก็ตื่นเต้นกับสนามบินอีก เพราะไม่เคยเห็นสนามบินไหนเป็นแบบนี้ มิน่าถึงได้ติดอันดับสนามบินที่สวยที่สุดในโลก
เดินออกมาเจอเจ้าหน้าที่ของศิลาวดีมารับ ขึ้นรถมาก็เสิร์ฟน้ำแอปเปิ้ลแช่เย็นพร้อมผ้าหอมเย็นชื่นใจ

ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากสนามบินสมุยมาถึงศิลาวดี 
เด็กจิ๋วยังใส่ชุดนอนอยู่เลย (รูปจากสองทริปเอามารวมๆกันนะคะ อย่าเพิ่งงงว่าทำไมเด็กจิ๋วเปลี่ยนชุดไปมา)
ดื่ม Welcome Drink กันก่อนค่ะ

มาถึงรีสอร์ทใกล้ๆเที่ยงพอดี เราไปทานอาหารกลางวันกันก่อนนะคะ
มุมนี้เป็นภาพจากห้อง The Height ซึ่งเมื่อก่อนจะเป็นห้องอาหารเดียวของที่นี่
แต่ตอนนี้เนื่องจากรีสอร์ทขยายออกไป และมีห้องอาหารเพิ่มขึ้นมา ห้อง The Height จึงเปลี่ยนไปเป็นห้องอาหารไทย เสิร์ฟอาหารไทยอย่างเดียว เฉพาะช่วง Dinner ค่ะ

ห้องอาหารในโซนใหม่ชื่อว่า Moon เปิดทั้งวัน เสิร์ฟ International Food ค่ะ

เนื่องจากห้อง Moon ตั้งอยู่ตรงสระว่ายน้ำส่วนกลางเลย ระหว่างรออาหารเด็กจิ๋วอดใจไม่ไหว ขอลงไปสัมผัสใกล้ชิดน้ำหน่อย 
อยากว่ายน้ำมากๆ สระน่าเล่นสุดๆ 


อาหารกลางวันที่เราทานระหว่างอยู่ที่รีสอร์ทก็จะซ้ำเดิมไปมา สั่งอะไรอร่อย ก็สั่งวนๆ อยู่ยังงั้น ไม่กี่อย่าง 


iPad ระหว่างรออาหาร

เบอร์เกอร์เนื้อ

จานนี้ของเด็กจิ๋วชัวร์ เมนูสุดโปรด สปาเก๊ตตี้คาร์โบนาร่า

ยำเนื้อย่าง ปะป๊ากินคนเดียวหมดเบย บอกว่าอร่อยสุดๆ

ข้าวกระเพราหมูสับไข่เจียว เมนูสิ้นคิดของแม่ แต่ว่า...มันอร่อยมากๆเลยนะ บอกเลย

พิซซ่าถาดนี้อร่อยมากมาย ไม่รู้จะบรรยายยังไง หอม นุ่ม ชีสยืด ต้องลอง...

พร้อมแล้ว หม่ำเลยค่ะ

เนื่องจากเราไปถึงเร็วเกิน ห้องที่เราจะเข้าพักยังไม่พร้อม ทางรีสอร์ทจึงจัดให้มาพักผ่อนที่ห้องนี้ก่อน
ห้อง type นี้ชื่อว่า Panoramic Ocean View Pool Villa แรกเห็นห้องนี้ก็ ว้าว แล้ว
น้องเจ้าหน้าที่บอกว่าห้อง Ocean Front Pool Villa วิวงามกว่านี้อีก ตื่นเต้นๆ

หม่ำข้าวอิ่มแล้ว เข้าห้องมายังหม่ำกล้วยหอมอีก ตุนเอาไว้สำหรับเป็นพลังในการเล่นน้ำ

อย่างที่บอกว่ารีวิวนี้เป็นการรวมสองทริปเข้าด้วยกัน การเขียนเล่าเป็นแบบเรื่องราวตามลำดับเวลา ที่แม่ถนัดคงไม่ค่อย work
เลยขอเปลี่ยนเป็นเล่าเป็นส่วนๆ โดยที่อาจจะไม่ได้เรียงตามลำดับเวลานะคะ
ส่วนแรกทีเด็กจิ๋วจะพาไปชมคือ Ocean Front Pool Villa #25 ที่เราไปพักค่ะ



ห้องนี้ครอบครัวเราถูกใจและชอบมากมาย เด็กจิ๋วชอบห้องนี้มากๆ ได้มานอนห้องนี้ 2 รอบแล้ว
ถึงแม้จะเคยมาแล้ว เคยเห็นวิวนี้แล้ว แต่พอเปิดประตูมาเห็นวิวแบบนี้ ก็ยังรู้สึกประทับใจ และว้าว...มากๆ



ห้องนี้จะเป็นห้องแบบใหม่ ตั้งอยู่ในโซนใหม่ที่ขยายออกมา ห้องในโซนใหม่ยังคง concept คล้ายๆเดิม 
คือมองจากภายนอกยังคงเป็นแนวธรรมชาติ หลังคามุงจากวัสดุธรรมชาติเหมือนเดิม ซึ่งหลังคาแบบนี้ดูจะเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ไปแล้ว



ห้อง type นี้จะอยู่แถวหน้าสุดติดกับทะเล เห็นวิวทะเลเต็มๆ ไม่มีอะไรบัง


ห้อง Ocean Front Pool Villa นี้จะแตกต่างกับห้อง Ocean Front Pool Villa Suite ในโซนเดิมค่อนข้างเยอะ คือ
สระน้ำจะเป็นทรงเหลี่ยมไม่ใช่ free form เหมือนเดิม และเป็นแบบห้องนอนเดียว ห้องน้ำอยู่ด้านข้างห้องนอน ซึ่งสามารถขึ้นจากสระแล้วเข้าห้องน้ำได้เลย




เข้ามาดูในห้องกันบ้างนะคะ
พอเปิดประตู villa เข้ามา ก็จะเจอ Sofa นั่งเล่นทางด้านซ้าย เลยไปมีโต๊ะเขียนหนังสือ และเตียงนุ่มน่านอนตามลำดับ



กระจกรอบด้าน เห็นวิวงามๆ รอบทิศ นอนมองทะเล สบาย สบาย



ห้องน้ำจะเป็นแนวยาวขนานกับห้องนอน สามารถอาบน้ำ แช่น้ำไป ชมวิวไป เพลินๆ




เด็กจิ๋วชอบอ่างน้ำหินทรงกลมนี่มากๆ บอกว่าชอบแช่ชามมาม่า น้ำอุ่นสบาย





ตื่นมาปุ๊บลงแช่น้ำปั๊บ แล้วต่อด้วยโดดสระว่ายน้ำทันที ข้าวปลายังไม่กินก็ไม่สน ขอเล่นน้ำก่อน






ข้าวเช้าเสร็จกลับมาที่ห้องไม่นาน ลงน้ำอีกและ
วันๆ ไม่ไปไหนค่ะ วนเวียนอยู่ในรีสอร์ท เล่นน้ำสระในห้อง ชามมาม่า สระรวม ทะเล แค่นี้ก็หมดเวลาแล้ว สนุกสนานมากมาย





กลางวัน สั่งพิซซ่ากับผัดไทยมาทานที่ห้อง เล่นน้ำไป ทานไป มีอะไรจะสุขไปกว่านี้อีกมั้ย เด็กจิ๋ว
 


เล่นน้ำทุกวัน เกือบทั้งวัน สนุกมากจริงๆ ตอนที่แม่ทำรีวิวนี้อยู่ เด็กจิ๋วเดินมาดู แล้วบอกว่าหนูอยากไปที่นี่อีก
เอ่อ...พึ่งกลับมาสองเดือนเองลูก





ขึ้นจากสระก็ลงอ่าง แช่อ่างเสร็จโดลงสระอีก ตัวเปื่อยกันไปข้าง



วิลล่าตรงนี้จะสร้างยื่นลงมา เรียงรายตามแนวโขดหิน แบบนี้ ฉะนั้นทุกหลังจะไม่ได้อยู่ระนาบเดียวกัน
บางหลังยื่นออกมามาก บางหลังจะลึกเข้าไปหน่อย ตามแนวโขดหินธรรมชาติเลย
ห้อง 25 นี้ยื่นออกมามากสุด ทำให้เห็นวิวรอบๆ เต็มๆ



โขดหินเหล่านี้ ช่วยประดับให้ทะเลตรงนี้สวยงามมากมาย
เล่นน้ำไป มองทะเล มองคลื่นกระทบหิน ฟิน ฟิน


แค่อยู่แต่ในห้อง ก็สัมผัสบรรยากาศดีๆได้จากหลายๆมุมในห้องเลย 




มืดแล้ว เด็กจิ๋วหลับสบายในห้อง แม่กับปะป๊าออกมานั่งดูดาว ดูทะเล เห็นแสงจากเรือไดหมึกลิบๆ 




เนื่องจากทะเลฝั่งนี้เป็นทิศตะวันออก ฉะนั้นตอนเช้าสามารถนอนดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นจากในห้องได้เลย 
แม่ก็สบายไป ต้องเฝ้าเด็กจิ๋วที่ยังไม่ตื่น และได้ดูวิวสวยๆด้วย







อีกห้องที่เราได้ไปพักตั้งอยู่แนวเดียวกันกับห้อง Ocean Front Pool Villa แต่ว่าตัวอาคารจะเป็น 2 ชั้น ห้องนอนอยู่ชั้นบน ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้อง type นี้มีชื่อว่า Duplex Ocean Front Pool Villa 





รูปนี้เป็นทางเข้าห้อง 

เข้าประตูมาแล้ว เราเลี้ยวขึ้นชั้นบนกันก่อน
ว้าว..วิวงามมาก ไม่แพ้ห้อง 25 เหมือนกันนะเนี่ย





มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องกัน หลักๆ ก็จะเหมือนกันกับ Ocean Front Pool Villa ต่างกันที่ห้องน้ำไม่ได้เป็นแบบ Seaview 



ห้องน้ำจะอยู่ด้านหลัง มีอ่างมาม่าเหมือนกัน แต่แช่ไป ชมวิวไปไม่ได้ 
(อันนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เรา love ห้อง 25 มากกว่า)




อย่างที่บอกว่าห้องนอนและห้องน้ำหลักจะอยู่ที่ชั้นบน ชั้นล่างเป็นสระน้ำ และมีห้องนั่งเล่นด้วย
ถ้ามากันหลายๆคน ห้องนั่งเล่นนี้สามารถเปลี่ยนเป็นห้องนอนอีกห้องได้สบายๆ เพราะในห้องชั้นล่างก็มีทุกๆอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ตู้เย็น มินิบาร์ เรามากันแค่ 3 คนใช้แต่ห้องข้างบน ไม่ได้ใช่ห้องข้างล่างเลย เสียดายจัง 





สิ่งที่ห้องนี้ชนะเลิศนอกจากเรื่องของวิวงามๆแล้ว ก็คงเป็นสระว่ายน้ำ 
สระห้องนี้ใหญ่กว่าห้อง Ocean Front Pool Villa และมีร่มไม้บังแดดให้ด้วย ทำให้สระดูร่มรื่น น่าเล่นมากมาย

ตาปิดไปข้าง โดนยุงกัด




มุมนั่งเล่น นอนเล่นห้องนี้ก็จะมีมากมายหลายมุมกว่าห้องชั้นเดียว 
จะนั่งระเบียงชั้นบนชมวิว ลมพัดเย็นๆ หรือนอนอาบแดดที่เตียงชั้นล่าง ก็มีความสุขจุง



คืนที่สองเราย้ายจากห้องนี้ไปอยู่ห้อง 25 เหมือนคราวก่อนที่เราเคยพัก ไม่ได้แปลว่าห้องนี้ไม่ดี
เพียงแต่ว่าไม่ค่อยเหมาะกับครอบครัวเล็กๆอย่างเรา ถ้ามากันหลายๆคน ห้องนี้จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
เราเห็นห้องข้างๆ เป็นฝรั่งมากัน 2 คู่ 4 คน แช่น้ำ อาบแดด กันทั้งวันเลย ดูมีความสุขมากๆ




และเช่นเคย นอนห้องนี้ก็ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นงามๆ แสงเช้าสวยๆ เหมือนกัน
เสียดายทั้งสามครั้งที่เราไป ฟ้ามีเมฆมากทุกครั้ง ยังไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแบบท้องฟ้าใสๆกิ๊กซักทีเลย



เรามาดูอาหารเช้าของที่นี่กันบ้าง

เมื่อก่อนอาหารเช้าจะเสิร์ฟที่ห้อง The Height ในโซนเดิม 



แต่ล่าสุด เปลี่ยนมาเสิร์ฟที่ห้อง Moon โซนใหม่แล้ว
วิวของห้อง Moon ไม่แพ้วิวของห้อง The Height เลย สวยงามกันคนละแบบ



อาหารเช้าจะเป็นแบบมีไลน์บุฟเฟต์ให้ตักเอง 
เป็นพวก Toast ต่างๆ สลัด ผัก ผลไม้ พวก cold cut ขนมจีบซาลาเปา น้ำผลไม้ นม ซีเรียล ฯลฯ 
ล่าสุดมีเครื่องแยกกากทำน้ำผักผลไม้สดให้เล่นด้วย





นอกจากอาหารในไลน์ ก็จะมีเมนูให้สั่งได้ จะเป็นแบบตะวันตก หรือเอเชียอย่างข้าวต้ม ข้าวผัด มีครบหมด 
ที่สำคัญคืออร่อยทุกอย่าง 






เด็กจิ๋ว Enjoy eating มากมาย (ทุกมื้อเลย)


ช่วงบ่ายๆ แม่มีนัดไปทำสปาที่ Silavadee Wellness Spa 

มาคราวนี้ปะป๊าไม่ได้ตามไปเก็บภาพห้องสปานะคะ เด็กจิ๋วกับปะป๊ามาส่งมาที่สปา แล้วก็กลับไปเล่นน้ำกันต่อที่ห้อง
ภาพในห้องสปาเป็นภาพจากครั้งแรกที่มาค่ะ


น้องๆ ที่ห้องสปาน่ารัก และดูแลดีมากๆค่ะ นวดสบายสุดๆ ผ่อนคลายจริงๆ

พาเดินออกนอกห้องมาดูรอบๆ รีสอร์ทกันบ้างนะคะ

ภายในรีสอร์ทร่มรื่นมากทีเดียว ต้นไม้เยอะ




เห็นแค่หลังคาก็เดาได้ว่าเป็นศิลาวดี 

รอบๆรีสอร์ทมีบริเวณชิลๆ ให้พักผ่อนมากมายหลายแห่ง เดี๋ยวเด็กจิ๋วจะพาเที่ยวให้ทั่วๆเลยค่ะ




สระว่ายน้ำส่วนกลางของที่นี่จะมี 2 สระ มีทั้งในโซนเดิม และโซนใหม่ ซึ่งน่าว่ายทั้งสองสระ มีดีต่างกันไป
สระโซนเดิม เป็นปูนเปลือยๆ เงียบๆ สงบๆ ร่มรื่นมากๆ 






สระโซนใหม่กว้างมากๆ ดู modern กว่า มีบาร์น้ำข้างๆสระเลย 
ว่ายน้ำเหนื่อย สามารถมานั่งพักที่บาร์ สั่งน้ำดื่มได้เลย 








มาเกาะตั้งนานแล้ว ยังไม่ได้สัมผัสน้ำทะเลเลย ไปชายหาดกันนะคะ

ส่วนของชายหาด จะอยู่ในโซนเดิมของรีสอร์ท ความจริงจากห้องที่เราพัก เดินเรื่อยๆ ก็สามารถเดินได้ 
แต่ทางรีสอร์ทก็มีรถคอยรับส่ง ไม่อยากเดินก็เรียกรถได้ตลอดค่ะ
วันที่เราไปชายหาดและน้ำทะเลสวยมาก 


มีคนมาจัดงานแต่งงานกันที่นี่บ่อยๆ โรแมนติกน่าดู 



ทางรีสอร์ททำทางเดินไม้ลงไปหาดอย่างสะดวกสบาย 
ที่หาดจะมีเก้าอี้ผ้าใบ ผ้าเช็ดตัว และบาร์น้ำบริการด้วย





หาดที่นี่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มากๆ คงเพราะอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว คนไม่พลุกพล่าน มีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่อยู่เรื่อยๆ ดีจัง
ล่าสุดเห็นจาก fanpage ของศิลาวดี เต่าน้อยเพิ่งขึ้นมาวางไข่ร้อยกว่าฟองเลย


วันที่ไปคลื่นค่อนข้างแรง เด็กจิ๋วลงไปเดินๆ จุ่มๆน้ำนิดหน่อย ก็ย้ายกลับไปว่ายน้ำสระเหมือนเดิม 


ก่อนมื้อค่ำ เราไปชิลกันที่ห้อง Star กันก่อนนะคะ 

Star เป็นส่วนของ Bar ที่อยู่บนดาดฟ้าของอาคารเดียวกับห้องอาหาร Moon
ช่วงเย็นๆวันที่เราไปมี Happy Hour 1 ฟรี 1 ด้วย เด็กจิ๋วนั่งหม่ำน้ำ ชมวิว ชิลสุดๆไปเลย




บนนี้วิวงามมาก โซฟานั่งสบายจริงๆ 





ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เดี๋ยวเราย้ายจากห้อง Star มาที่ Moon กัน



Moon เป็นห้องอาหารในร่ม ติดแอร์เย็นสบาย วิวสวยงาม เห็นทั้งทะเล และสระว่ายน้ำ
ครั้งก่อนที่เรามา เราทานชุด Candle Light Dinner กัน ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ที่ห้อง The Height โซนเดิม
วันนี้ย้ายมาห้อง Moon ก็ยังติดใจ สั่งชุด Candle Light Dinner เหมือนเดิม อาหารสวย ดูดี และอร่อยมากๆ
Candle Light Dinner มีให้เลือกทั้งแบบ Thai และ Western เราเลือกเป็นแบบ Western ทั้งคู่ 


สลัดจานนี้ หอยเชลล์ตัวโดเต็มคำ อร่อยสุดๆ

White Tomato Soup ไม่เคยทานมาก่อน อร่อยอีกแล้ว ซุปรสชาติอมเปรี้ยว กลมกล่อมกำลังดี อันนี้แม่ปลื้มมาก

ส่วนเด็กจิ๋ว เมนูเหมือนเดิมเกือบทุกมื้อ สปาเก๊ตตี้คาร์โบนาร่า เด็กเค้าอร่อยจริงจังกับเมนูนี้มากๆ

มื้อค่ำอีกวัน เราลองสั่งอย่างอื่นดูบ้าง อร่อยมากมายเช่นกัน 

แต่ละจานดูเหมือนไม่เยอะ แต่เจอกุ้งตัวโตเข้าไป อิ่มแปร้เหมือนกัน


จานนี้หน้าตาดี ดูอุดมไปด้วยชีส มันคือลาซานญ่าเนื้อของปะป๊า

รักจานนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มา ฉะนั้นทุกครั้งที่มาที่นี่ ก็ไม่พลาดที่จะสั่ง Caesar Salad

เค้กชอคโกแลตลาวา ทานคู่ไอติมวานิลลา ปิดท้ายอย่างอิ่มแปร้

อิ่มแล้วเดินย่อยกันหน่อยนะคะ ไปเดินดูรอบๆรีสอร์ทยามค่ำคืน


ริมสระว่ายน้ำใหญ่โซนใหม่ ยามนี้เงียบสงบมากๆ 




ชั้นล่างใต้ห้องอาหาร Moon มีโต๊ะ Pool ให้แขกเล่นด้วย

ถัดจากสระน้ำมาอีกนิดจะเป็นลานกว้าง ซึ่งตรงนี้เคยเห็นภาพจากใน facebook ของศิลาวดีว่าบางทีก็มีจัดงานแต่งงานที่นี่
บรรยากาศดีจริงๆ


เดินเรื่อยๆ เลยมาถึงโซนเดิม ห้อง The Height

สระน้ำโซนเดิม ตรงนี้ยิ่งเงียบสงบมากๆเข้าไปใหญ่


กลับมานอนดูดาวที่ห้องดีกว่า อันนี้วิวยามค่ำคืนของห้อง 25



อันนี้วิวจากห้อง Duplex Ocean Front

แต่ก่อนที่ทางศิลาวดีจะขยายรีสอร์ทออกมา เราจะได้เห็นเฉพาะวิวพระอาทิตย์ขึ้นอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ตอนนี้พอขยายออกมาด้านนี้แล้ว เราเลยสามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ได้ทั้งขึ้นและตกเลย


ไปดูพระอาทิตย์ตกดินจากจุดต่างๆของรีสอร์ทกันค่ะ





มาดูพระอาทิตย์ขึ้นบ้าง มีมุมสวยๆให้ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว 
เริ่มจากในห้องนอน









จากสระว่ายน้ำ





จาก Rooftop Bar



นอกจากพระอาทิตย์แล้ว ยังมีพระจันทร์ขึ้นสวยๆ ด้วย





ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่รู้สึกว่าเวลามันช่างผ่านไปเร็วๆจริงๆ แป๊บเดียวสองคืนแล้ว แป๊บเดียวต้องเก็บของกลับบ้านแล้ว 
ก่อนกลับ เราออกไปยืนอาลัยอาวรณ์กับวิวทะเลนี้กันอยู่นาน ปะป๊าก็ถ่ายรูปไม่พอซะที อยากจะเก็บความทรงจำดีๆที่นี่กลับมาให้ได้มากที่สุด


ต้องกลับบ้านแล้วจริงๆ รถของศิลาวดีมาส่งที่สนามบินสมุย เรากลับบ้านด้วยสายการบิน Bangkok Airways เจ้าเดิม 
(ใช้บริการ Blue Ribbon Lounge ที่สนามบินสมุยด้วย ได้นั่งในห้องแอร์เย็นฉ่ำดีจุง)
พอเครื่องแตะรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ เด็กจิ๋วหันมาบอกแม่ว่า พรุ่งนี้เราไปสมุยกันอีกนะแม่ น้องพริมจะไปเล่นน้ำ..

เอ่อ...สมุยนะลูก ไม่ใช่โลตัสหน้าบ้าน

เด็กจิ๋วต้องบ้ายบายไปก่อนนะคะ ประทับใจกับการได้ไปพักผ่อนที่นี่จริงๆ 
เขียนรีวิวไป คิดถึงความรู้สึกตอนได้ไปพักผ่อนที่นี่ก็มีความสุขมากมาย


เด็กจิ๋วมีทริปที่ดองๆ เอาไว้ยังไม่ได้รีวิวเป็นสิบๆ ค่ะ ปะป๊ากับแม่จะขยันๆ มารีวิวบ่อยๆ นะคะ