วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

ครบ 1 ขวบ

วันที่ ๓๖๔ ... พุธ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๓
๒๙ ธันวา ปีที่แล้ว ตอนเช้าๆ เด็กจิ๋วยังอยู่ในท้องแม่อยู่เลย ปะป๊ายืนรอเด็กจิ๋วอยู่หน้าห้องผ่าตัด มองผ่านกระจกเข้าไป เห็นหลังหมอธีฯทำอะไรก๊อกๆแก๊กๆปั๊บเดียวเอง ก็หยิบเด็กจิ๋วออกมา ตอนนั้นหน้าตาน่าเกลียดมาก เหมือนเอเลี่ยน ตัวแดงๆแล้วก็มีไขขาวๆ ตอนแรกๆหลับตลอด ถ้าย้อนไปดูรูปแล้วจะรู้สึกว่าเป็นเด็กเรียบร้อย ใสซื่อ ไม่มีพิษสง แต่ดูตอนนี้ซิ...ซนมาก ยังไม่เคยเห็นใครซนเท่านี้มาก่อน ทั้งตระกูลคุณแม่ก็ไปสืบดูว่ามีเชื้อใครทางไหนซนแบบนี้ไม๊ ก็ไม่เจอ ก็สรุปว่าน่าจะติดเชื้อมาจากปะป๊าเอง แต่ถามอาม่าปะป๊าแล้วว่าตอนเด็กปะป๊าซนไม๊ ก็ไม่ได้คำตอบเพราะอาม่าไม่ได้เลี้ยง ให้อาเหล่าม่าเลี้ยง ตอนนี้กลุ้มใจอยู่ ขนาดไจโรที่ว่าซนขั้นเทพแล้ว ตอนอายุเท่าเด็กจิ๋ว ยังไม่ซนเท่านี้เลย ที่จริงเด็กจิ๋วเริ่มส่อแววซนตั้งแต่เกิดแล้ว ตอนห่อตัวอยู่ในห้องกระจกที่โรงพยาบาล ปะป๊าต้องเรียกพยาบาลมาถามว่าหน้าเด็กจิ๋วไปโดนอะไร คำตอบก็คือ เด็กจิ๋วชอบดิ้นหลุดจากผ้าห่อตัวแล้วเอามือมาข่วนหน้าตัวเอง มีหลายแผลเลย เรียกว่าหน้าเยินที่สุดในบรรดาเพื่อนกล่องข้างๆ แล้วถ้าย้อนไปตั้งแต่ตอนอยู่ในท้องคุณแม่ ก็ไม่ใช่ย่อยเลย ชอบกระโดดถีบคุณแม่ เวลาคุณแม่นอนแล้วท่าไม่ถูกใจก็จะถีบๆถีบๆจนคุณแม่ต้องพลิกตัวให้ ตอนนี้เด็กจิ๋วเริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้นทุกวัน ตอนเล็กๆจะฮามาก เวลาที่บิดขี้เกียจด้วยการชูแขนเหยียดตรงขึ้นข้างบน แล้วแขนสั้นกุดไม่พ้นหัว ตอนนี้พ้นแล้ว ดีใจด้วย ส่วนสูงวัดด้วยตลับเมตรได้ ๗๑ เซน น้ำหนักประมาณเอาน่าจะ ๙ โล ยิ่งโตยิ่งผอมลง จริงๆปะป๊าชอบแบบอ้วนๆมากกว่านะ
ปะป๊ากับคุณแม่ตกลงกันแล้วว่าวันเกิด เด็กจิ๋วจะไม่ซื้อของขวัญให้ เพราะเด็กจิ๋วได้ของโน่นนี่ตลอดเวลาเยอะแยะอยู่แล้ว วันเกิดต้องเป็นผู้ให้ เลยให้เด็กจิ๋วทำบุญเลี้ยงอาหารเด็ก ๓ มื้อ เป็นแบบที่คุณแม่ชอบทำประจำ ปะป๊าบอกกับเด็กจิ๋วแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ทุกปีนะ เด็กจิ๋วก็ไม่ว่าอะไร
วันนี้ เด็กจิ๋วไปซื้อเค้กไอติมสเวนเซ่นมาเลี้ยงพี่ๆที่ออฟฟิตด้วย แล้วก็ได้ของขวัญจากพี่ๆเป็นของเล่นกดแล้วมีเสียงต่างๆ กับกีต้าร์สำหรับเด็ก ๓ ขวบ 

วันที่ ๓๖๕ ... พฤหัส ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๓
วันนี้ ตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะเด็กจิ๋วจะต้องไปงานแต่งงานน้าโอมกับน้าเจี๊ยบ คุณแม่ต้องควักเด็กจิ๋วขึ้นมาจากที่นอนทั้งๆยังหลับ งานสนุกดี เพราะเป็นงานพิธีทางศาสนาอิสลาม เด็กจิ๋วไม่เคยเห็น ปะป๊ากับคุณแม่ยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ตอนแรกนึกว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะออกมาเต้นรำกันเหมือนอย่างอินเดีย แต่ก็ไม่มี งานจัดที่มัสยิด มีตั้งขบวนขันหมากมาสู่ขอ มีกั้นประตู มีให้สินสอด สวมแหวน ดูจะเหมือนอย่างงานทั่วๆไป แต่แตกต่างกันที่พิธีสวดต่างๆจะเป็นภาษาอิสลาม แล้วก็สวดเยอะ หลายรอบ ตอนขบวนแห่เจ้าบ่าวก็มีวงดนตรีเล่นเพลงอิสลาม เด็กจิ๋วชอบ ยกมือโยกไปมาตามเพลงด้วย  เสร็จ จากงานก็ไปกินข้าวกันที่ร้านนารันฌา เด็กจิ๋วได้นั่งเครื่องเล่นสนามเหล็กเป็นครั้งแรก เป็นแบบนั่งแล้วไกวไปมา ชอบใจยิ้มใหญ่เลย ตอนเย็นวันนี้มีจัดปาร์ตี้วันเกิดเด็กจิ๋ว เป็นงานวันเกิดครั้งแรกของเด็กจิ๋วเลย ปีก่อนๆยังไม่เคยจัด แล้วก็จัดรวบไปกับวันเกิดเจ๊นิวเลยด้วย วันนี้พี่ๆของเด็กจิ๋วมากันพร้อมหน้า รวมแล้วมีเด็ก ๖ ผู้ใหญ่ ๑๑ ผู้ใหญ่น่ะไม่เท่าไหร่ แต่เด็กๆ เวลารวมตัวกัน แล้ววิ่งเล่นกัน...โอ้โห กันเลยทีเดียว สนามเด็กเล่นเกือบพัง ปะป๊าอุ้มเด็กจิ๋ววิ่งเล่นกับเค้าด้วย วันนี้เด็กจิ๋วได้ของขวัญจากพี่ๆหลายชิ้นเลย มีของเล่นต่างๆ แล้วก็ชุดว่ายน้ำสวยงาม
วันที่ ๓๖๖ ... ศุกร์ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓
ตอน นี้เด็กจิ๋วมีอาหารแบบว่ากินได้เกือบเดือนเลยมั้ง อาม่าราชบุรีทำมาหม้อใหญ่เลย จ๊ะเอ๋กับปะป๊าก็ทำอีกหม้อใหญ่ สูตรอาหารครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใส่โครงไก่แล้ว เพราะเวลาตุ๋น เศษเนื้อเศษกระดูกจะปนออกมาเยอะ แล้วก็ลองเปลี่ยนจากปลาแซลมอนเป็นปลาโดรี่ เพื่อนของพ่อนีโม น่าจะดีนะ เพราะเหมือนเนื้อปลาโดรีจะนุ่มกว่า ตุ๋นแล้วเปื่อยๆไม่เหมือนแซลมอน สำคัญสุดเลยของอาหารสูตรนี้คือไม่ใส่ผักสีเหลืองแล้ว พวกแครอท ฝักทอง เพราะที่ผ่านมาสังเกตว่าเด็กจิ๋วตัวเหลืองๆ เดาว่าน่าจะเป็นเพราะแคโรทีนเยอะเกิน ครั้งนี้เลยเลือกแต่ผักใบเขียวกับใบขาว
ตอนกลางวัน พาอากง อาม่าไปกินข้าวร้านบางอ้อทะเลเผา ขับรถออกไปได้หน่อย อาแปะก็โทรมาบอกว่าโฮไออยากไปกับเด็กจิ๋ว แล้วก็ต้องนั่งรถไปคันเดียวกันกับเด็กจิ๋วด้วย แต่มานั่งด้วยกันแล้วก็ไม่เห็นจะคุยกันเลย กลับมาบ้านก็พาเด็กจิ๋วขึ้นไปสนามเด็กเล่นดาดฟ้า ซากอารยธรรมจากงานปาร์ตี้ยังเก็บไม่หมดเลย ตอนนี้เด็กจิ๋วสามารถปีนไม้ลื่นได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว สามารถปีนขึ้นไปได้จนสุด บางครั้งปีนขึ้นไปได้สุดแล้วก็ปล่อยมือลงมา บางครั้งขึ้นไปได้แล้วก็คลานปรู๊ดๆไปลงอีกฝั่ง ปะป๊าตกใจรีบวิ่งไปรับแทบไม่ทัน จับคนเดียวไม่อยู่แล้ว แต่ที่น่าตกใจคือบางทีขึ้นไปแล้ว กลับตัวเอาหัวพุ่งลงไม้ลื่นมา ถ้าจับไม่ทันก็สมองไหล มีแต่คนบอกว่าใจกล้ามาก ที่กล้าก็เพราะยังไม่รู้อ่ะดิ่ว่าถ้าหัวโม่งพื้นแล้วจะเจ็บ มีบางคนบอกว่าต้องให้ตกโน่นตกนี่บ้าง เด็กถึงจะรู้จักป้องกันตัวเอง แต่ก็ไม่รู้จะไปลองให้ตกที่ไหนดี นี่ก็ยังไม่เคยตกเตียงเหมือนพี่ๆเลยเพราะมีอุปกรณ์ป้องกันแน่นหนา ๒ ชั้น อุปกรณ์ป้องกันชั้น ๒ ยังไม่เคยได้ใช้งาน 

วันที่ ๓๖๗ ... เสาร์ ๑ มกราคม ๒๕๕๔
เมื่อ คืนมีจุดพลุมากมาย มองจากสวนลอยฟ้าของปะป๊าจะเห็นวิวพานอราม่ายาวตลอดแม่น้ำเจ้าพระยา มีจุดพลุรอบทิศทาง คุณแม่กับเด็กจิ๋วหลับไปแล้ว ปลุกก็ไม่ยอมลุก ไม่มาร่วมฉลองปีใหม่กันเลยนะ
เช้านี้มีนัดกันกับโฮไอ อาแปะ อาอึ้ม อากง อาม่า อี๊ป้อม จะพาไปเที่ยวสวนผึ้ง ไปกันทั้งหมด ๙ คน ขับรถไป ๒ คัน เมื่อคืนตัดสินใจว่าไม่ไปแล้ว เพราะปีใหม่ปีที่แล้ว ช่างตู่บอกว่ากลับบ้านที่สวนผึ้งมา รถติดมาก แต่อาม่าอยากไปเที่ยวก็เลยตัดสินใจลองดู ออกจากบ้านแปดโมง ไปแวะกินข้าวกลางวันตอนสิบโมงกว่าที่ร้านปั๋งหงาย คราวที่แล้วที่เด็กจิ๋วมาสวนผึ้งก็แวะร้านนี้ เป็นร้านดัง อาหารอร่อย แต่วันนี้ไม่อร่อยแล้ว สงสัยคนเยอะแล้วเจ้าของร้านเกณฑ์ลูกๆมาช่วยแต่ลูกๆไม่อยากช่วย เลยยิ่งวุ่นวายกันทั้งร้าน อากงอุ้มเด็กจิ๋วไปเล่นกระจกรถ เด็กจิ๋วส่องหน้าตัวเองแล้วงง ชะโงกไปดูหลังกระจก ทำไปทำมาแบบนี้หลายที อากงชอบใจใหญ่บอกว่าฉลาด ถ้าฉลาดจริงก็ต้องไม่ชะโงกดิ่ 
ขับ รถต่อจากร้านปั๋งหงายไปเดอะซีนเนอร์รี่ ระยะทางแค่ ๔๐ โล แต่ใช้เวลา ๒ ชั่วโมง รถติดสมคำร่ำลือจริงๆ แต่ปะป๊าทำใจมาแล้วเลยเฉยๆ แต่คุณแม่ไม่ได้ทำ เลยไม่เฉย บ่นตลอดทาง สู้เด็กจิ๋วไม่ได้ นั่งรถก็หลับ ลงรถก็ลั้นลา ไม่มีเหน็ดเหนื่อยใดๆทั้งสิ้น ที่รถติดยาวๆ รถทุกคันก็มุ่งหน้าปลายทางที่เดียวกันหมดคือ เดอะซีนเนอร์รี่ รถติดยาวเป็นสิบโล แต่ไปถึงก็มีที่จอดรถ โฮไอลงไปให้อาหารแกะด้วย ถามว่าเอาอะไรให้แกะกิน โฮไอบอกว่าข้าว...?...เด็กจิ๋วไม่ได้ลง เพราะแดดร้อน คนเยอะ แล้วก็เดือนหน้าจะมาพักที่นี่อยู่แล้ว ไว้ค่อยมาเล่นกับแกะตอนนั้นแล้วกัน เสร็จแล้วก็ไปต่อที่สวนผึ้งรีสอร์ท ที่นี่เค้าทำบ้านพักเป็นมนุษย์หินฟลินท์สโตน เด็กจิ๋วไปเล่นนั่งรถมนุษย์หินถ่ายรูปด้วย บริเวณสวนของรีสอร์ททำเป็นสนามเด็กเล่น แล้วก็มีบ้านน้อย ๒ ชั้น หน้าตาเหมือนของเด็กจิ๋วเปะเลย เด็กจิ๋วเห็นงงเลย ชี้นิ้วแล้วพูดกับคุณแม่ว่า แอ แอ ออกจากที่นี่ก็แวะบ้านเทียนหอม มาครั้งนี้ตกใจเลย ร้านขยายไปใหญ่โตมาก แต่แบบเดิมดีกว่า อันนี้เหมือนตลาดนัดยังไงไม่รู้ เสร็จแล้วกลับมาบ้านราชรี ไปกินอาหารจีนกันที่รื่นรส ร้านนี้กินกันมาเป็นสิบครั้งแล้ว แต่เด็กจิ๋วเพิ่งเคยมาครั้งแรก แต่อยู่ได้ปั๊บเดียว อาม่าราชบุรีก็ขโมยหลานหนีกลับไปเล่นที่บ้าน ปล่อยให้ปะป๊ากับคุณแม่นั่งกินข้าวกันไป 
วันที่ ๓๖๘ ... อาทิตย์ ๒ มกราคม ๒๕๕๔
ตอนกลางคืน เด็กจิ๋วตื่นทุกชั่วโมงเลย ตื่นเช้ามาถึงอ๋อ เด็กจิ๋วเป็นหวัด! มีน้ำมูกไหล แต่ยังไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน คาดว่าจะติดมาจากเฮียโฮไอแน่ๆ เพราะเห็นโฮไอมีน้ำมูกอยู่ แล้วเมื่อวานก็ไปเที่ยวด้วยกันทั้งวันเลย สอง สามวันมานี่อากาศเริ่มกลับมาเย็นอีกแล้ว ตอนเช้าปะป๊าพาเด็กจิ๋วไปนั่งเล่นบนสวนดาดฟ้า อากาศดีมาก เด็กจิ๋วก็นอนตักปะป๊าเล่นหัวเราะคิ๊กคั๊ก ชอบเพลงเด็กจิ๋วอยู่ไหนมาก สักพักก็ชวนคุณแม่มาป้อนข้าวด้วย แล้วก็เอาตุ๊กตาเป่าฟองสบู่มาเล่น ดีมาก อันนี้ซื้อจากแยกประชานุกูล พี่จาน่ากับไจโรก็มีคนละตัว ตอนกินยาหลังอาหาร คุณแม่ก็ลักไก่เดินถือไซลิ้งค์เข้ามาดื้อๆ มาถึงก็ฉีดเข้าปากเด็กจิ๋วรวดเดียวเลย เด็กจิ๋วก็งงนิดหน่อยแต่ก็ไม่ว่าอะไร ฮามาก สงสัยไม่ได้กินยามานานแล้วลืม ปกติต้องกรี๊ดๆดิ้นหนี ตอนกลางวันปั่นน้ำแคนตาลูปให้เด็กจิ๋วกิน เป็นครั้งแรกที่ได้กินน้ำปั่น เมื่อก่อนไม่กล้าให้กินน้ำเชื่อมเพราะกลัวติดหวาน ตามด้วยคุกกี้สิงคโปร์ อันนี้ให้กินครั้งแรกสองวันก่อน เป็นคุกกี้ที่อี๊ไก่ทำเอง เด็กจิ๋วชอบกินดี แต่กินแล้วเลอะเทอะเพราะมันเป็นผงๆ  วันนี้ เด็กจิ๋วมีอาการง่วงนอนทั้งวัน คุณแม่บอกว่าเป็นเพราะยาลดน้ำมูก แต่ถึงง่วงแค่ไหนเด็กจิ๋วก็ไม่ยอมนอน ฝืนเล่นไปมาไม่หยุด คือยังคึกอยู่แต่หน้าตามึนๆเท่านั้นเอง ตอนเย็นๆพาขึ้นไปขับรถเล่น ขำจริงๆ เด็กจิ๋วนั่งขับไปเคลิ้มหลับไป คอตก แขนห้อยออกมานอกรถ แต่ก็ยังฝืนขับเล่นไปเรื่อย นอกจากง่วงนอนแล้ว อีกอาการหนึ่งที่เป็นเวลาป่วยคือจะงอแง แล้วก็อ้อนเกินเหตุ ปะป๊าอุ้มอยู่แล้วปวดฉี่มากส่งให้คุณแม่อุ้มต่อแล้วออกไปฉี่ กลับมาเจอเด็กจิ๋วร้องไห้ แล้วก็งอนใส่ ไม่ยอมให้อุ้ม
แล้วเวลาทำอะไร ไม่ถูกใจ เด็กจิ๋วก็จะคลานไปสามสีเก้าแล้วก็นอนคว่ำร้องไห้แบบเสียใจสุดๆ ที่เป็นบ่อยๆอีกอย่างก็คือปะป๊าอุ้มอยู่ก็จะโผหาคุณแม่ พอคุณแม่เอาไปอุ้มก็จะโผกลับมาหาปะป๊า ไปๆมาๆไม่รู้จบ คือจะให้อุ้มสองคนพร้อมกัน ก็ได้นะ แต่วันนี้กำลังเต้นกล่อมนอน แล้วเด็กจิ๋วมามุกนี้ ก็เลยต้องกอดคอกันเต้นสามคน 
วันนี้อี๊ป้อมซื้อ โทรศัพท์ของเล่นมาให้เด็กจิ๋ว เป็นแบบ BB ที่เด็กจิ๋วชอบ ปกติจะชอบเอาของอี๊ไก่ กับพี่ต่องมาเล่น ในที่สุดก็ได้เป็นเจ้าของเองกับเค้าแล้ว แต่...เด็กจิ๋วไม่เอาอันนี้ รู้อ่ะว่าของปลอม ไม่ยอมเล่นเลย 

วันที่ ๓๖๙ ... จันทร์ ๓ มกราคม ๒๕๕๔
เมื่อ คืนเด็กจิ๋วหลับได้ดี ไม่มีตื่นกลางดึก ทั้งๆที่ยังมีน้ำมูกอยู่ ตื่นมาตอนเช้าน้ำมูกแห้งแล้ว ดีใจ แต่พอสายๆก็มีอีก เริ่มไอ แล้วก็ตัวอุ่น ลังเลว่าจะพาไปหาหมอดีไม๊เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องไปหาหมอฉีดวัคซีนอยู่แล้ว ลังเลไปมา พาไปช็อปปิ้งแทนดีกว่า คุณแม่อยากได้ผลไม้ดีๆมาให้เด็กจิ๋วกิน แต่ที่เดอะมอลล์วันนี้ผิดหวัง ไม่ได้อะไรเลย เจอแต่แคนตาลูปลูกละ ๓๘๐ ไม่ได้ซื้อ  เด็ก จิ๋ววันนี้เดินห้างไม่ลั้นลาเหมือนทุกที เพราะป่วยอยู่ งอแงมาก แต่สักพักก็หมดแรง หลับในรถเข็นได้ไม่กระดุกกระดิก กลับมาบ้าน มาหม่ำหนมกันในห้องครัว มีเด็กจิ๋ว ปะป๊า คุณแม่ และอี๊ป้อม เด็กจิ๋วไม่ยอมให้ใครออกไปจากห้องครัว ใครจะออกก็จะร้องแล้วทำหน้าอ้อนสุดขีด
 
วันที่ ๓๗๐ ... อังคาร ๔ มกราคม ๒๕๕๔
วันนี้ พาเด็กจิ๋วไปฉีดวัคซีน ระหว่างนั่งรอหน้าห้องหมอ รู้สึกเหมือนสายตาเด็กและพ่อแม่ทุกคู่จับจ้องมาที่เด็กจิ๋ว เพราเด็กจิ๋วซนมาก ปีนป่าย หมุนตัวไปมา ห้อยหัว ถีบๆ จะลงไปคลานกับพื้น ถ้ามองภาพไกลๆคงเหมือนปะป๊าเล่นควงเด็กอยู่ ไม่ใช่แค่ภาพ ด้านเสียงก็ไม่แพ้กัน ส่งเสียงตะโกนเรียกคนโน้นคนนี้ พยาบาลเดินผ่านมาก็ตะโกนเรียกมาเล่นด้วย แตกต่างจากเด็กคนอื่นที่นั่งรอหมออยู่โดยสิ้นเชิง เด็กส่วนใหญ่จะอยู่นิ่งๆ พอเข้าไปห้องตรวจ คุณหมอยังบอกเลยว่าทำไมลูกพ่อซนอย่างนี้ เด็กผู้หญิงต้องนั่งนิ่งๆนะ เด็กจิ๋วเจอฉีดยาเข็มแรกไปไม่ร้องเลย แต่เข็มที่สองมีร้องนิดหน่อยแล้วก็หยุด น้ำหนัก ๘.๕ ต่ำกว่าเกณฑ์ไปสองขีด ปะป๊าว่าแล้วเด็กจิ๋วดูตัวเล็กๆ ถอดเสื้อออกนี่เห็นซี่โครงเลย คนบ้านนี้มีแบบนี้ที่ไหน คุณหมอแนะนำนมพีดีชัวร์ แต่คุณแม่ลองหาข้อมูลดูแล้วไม่ค่อยน่าสนใจ เลยไม่เอา จะลองเพิ่มอาหารจากวันละสอง เป็นวันละสามมื้อดู แล้วก็เปลี่ยนนมจาก DG2 เป็น DG3 ส่วนสูงวัดได้ ๗๓ เซ็น คุณหมอก็ว่าขาดไปเซ็นสองเซ็นนะ วันนี้เลยให้คุณหมอจ่ายยาแก้หวัดด้วย และแล้วความจริงก็ได้เปิดเผย ที่เด็กจิ๋วงอแงมากเลย เป็นเพราะยาลดน้ำมูกสีเขียว คุณหมอบอกว่ายาตัวนี้กินแล้วจะงอแง เด็กจะรู้สึกหงุดหงิด คุณแม่ไปหาหมอวีรยุทธ์เรื่องอาการปวดหลังด้วย มาหาทีหนึ่งแล้วยังไม่หาย วันนี้คุณหมอให้ทำกายภาพบำบัด สาเหตุที่ปวดก็มาจากการอุ้มเด็กจิ๋วนั้นแหล่ะ หมอบอกว่าปกติเวลาอุ้มเด็กจิ๋วจะอุ้มแขนซ้ายใช่ไม๊ เพราะอาการปวดมันอยู่เฉพาะซีกซ้าย คุณแม่ก็ เออ จริงๆด้วย เพิ่งได้สังเกตตัวเอง
ออกจากโรงพยาบาลก็ไปวิลล่า รัชโยธิน ไปกักตุนของมาทำอาหารให้เด็กจิ๋ว จะลองทำน้ำสต็อกไว้แล้วทำอาหารสดให้กินทุกวัน เพราะถ้ากินแต่อาหารแช่แข็ง กลัวจะเบื่อเกิน
 
วันที่ ๓๗๑ ... พุธ ๕ มกราคม ๒๕๕๔
เมื่อ คืนตอนเที่ยงคืน ตีหนึ่ง เด็กจิ๋วตื่นทุกสิบนาทีเลย คงเป็นเพราะมีไข้ วัดไข้ได้ ๓๘ เป็นไข้เพราะฉีดวัคซีน ตื่นเช้ามาตัวยังร้อนอยู่ น้ำมูกก็ยังมีอยู่ นี่เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปเชียงใหม่แล้ว จะหายทันหรือเปล่า ตอนกลางวันปะป๊าพาคุณแม่ไปทำกายภาพบำบัดต่อ ทิ้งเด็กจิ๋วไว้ที่บ้านเพราะอาการยังไม่หายดี กลางวันให้อี๊ป้อมซื้อแกงจืดมาให้เด็กจิ๋วกิน เพราะตอนนี้เปลี่ยนแผนว่าเช้ากินอาหารแช่แข็ง ตอนกลางวันซื้อเอา แล้วตอนเย็นปะป๊าจะทำให้กิน แต่วันนี้ยังไม่ทันได้ทำ ปะป๊าป่วยซะก่อน อาหารเป็นพิษ อาเจียน ท้องเสีย มีไข้ ต้องนอนสลบไปตั้งแต่หัวค่ำ คุณแม่เลยต้องเลี้ยงเด็กจิ๋วด้วย เลี้ยงปะป๊าด้วย 
วันที่ ๓๗๒ ... พฤหัส ๖ มกราคม ๒๕๕๔
ตอน เช้าปะป๊ากับเด็กจิ๋วพาคุณแม่ไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลอีก ไปส่งเฉยๆแล้วให้อี๊ตุ๋มไปรับกลับ เด็กจิ๋วอาการหวัดดีขึ้นเยอะแล้ว ตื่นเช้ามาจะไม่มีน้ำมูกแต่พอบ่ายๆก็จะเริ่มมีมาอีก ครั้งนี้ที่ป่วย ป้อนยาแล้วไม่มีอ้วกเลย ไม่แน่ใจว่าคุณแม่เก่งขึ้นหรือเด็กจิ๋วเก่งขึ้น อาหารมื้อบ่ายของเด็กจิ๋ววันนี้เป็นแกงจืดเต้าหู้หมูสับที่ซื้อมาจากตลาด เด็กจิ๋วก็ชอบนะกินได้ดีเลย คุณแม่บอกว่าเด็กจิ๋วสามารถทำส่งจูบได้แล้ว แต่ปะป๊ายังไม่เคยเห็นเลย
ตอนเย็นๆก็อาบน้ำเก็บข้าวของจะเดินทางไปเชียงใหม่กัน ออกจากบ้าน ๑๗.๓๐

วันที่ ๓๗๓-๓๗๕ ... ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๗,๘,๙ มกราคม ๒๕๕๔
ไปเที่ยวเชียงใหม่ --> N'Prim@Chiang Mai
วันที่ ๓๗๖ ... จันทร์ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๔
 
วันนี้ อาการหวัดหายดีแล้ว ไม่มีน้ำมูก ตอนบ่ายคุณแม่ซื้อขนมมากินแล้วมีดิปชีสเหลือ เลยเอามาให้เด็กจิ๋วกิน ตอนแรกก็ลองเอานิ้วจิ้มแล้วให้เด็กจิ๋วดูด เด็กจิ๋วทำท่าชอบมาก ก็เลยเอาขนมเม็ดๆของเด็กจิ๋วมาจิ้มแล้วให้กิน กินจนหมดเลย
กลับจากเที่ยว ทีไร เด็กจิ๋วจะคึกจัดทุกที เป็นที่รู้กันเลยสำหรับเด็กจิ๋ว แต่ช่วงนี้เด็กจิ๋วเที่ยวบ่อยมาก อาทิตย์เว้นอาทิตย์ มันก็เลยเหมือนจะคึกต่อเนื่องไม่หยุด กลายเป็นเด็กคึกจัดตลอดเวลาแล้วตอนนี้ 
ตอน ที่ไปเชียงใหม่ เด็กจิ๋วจะติดอี๊นกมาก ปะป๊ากับคุณแม่นี่เด็กจิ๋วไม่เอาเลย ให้อี๊นกอุ้มทั้งวัน ก็เป็นธรรมดาของเด็กจิ๋วอีก เวลาไปเที่ยวนอกบ้านก็จะเป็นแบบนี้ แต่ที่ฮามากเลยคือ เช้าวันนี้อี๊นกมาถึงออฟฟิต ก็รีบมาอุ้มเด็กจิ๋ว เพราะเพิ่งกลับจากเที่ยวกันเมื่อคืนเอง เด็กจิ๋วคงยังติดอี๊นกอยู่ พออี๊นกยื่นมือไปขออุ้ม เด็กจิ๋วก็ค่อยๆพลักมืออี๊นกกลับ ไม่ยอมให้อุ้ม แล้วก็ไม่เล่น ไม่สนอี๊นกอีกเลย ต่างจากที่เชียงใหม่เหมือนคะละคนเลย
ตั้งแต่ วันนี้จะเปลี่ยนวิธีอาบน้ำเด็กจิ๋วหน่อยแล้ว ปกติปะป๊าจะใส่ชุดว่ายน้ำลงไปเล่นกับเด็กจิ๋วในอ่างด้วย ผลก็คือ เด็กจิ๋วคึกมาก จะกระโดดไปมา ข่วนพุงปะป๊าเป็นสิบสิบแผลแล้ว พุงเนียนๆยับเยินหมด ตอนนี้ไม่ลงไปเล่นด้วยแล้ว ปะป๊าจะนั่งอยู่ข้างๆอ่างแล้วอาบให้ ก็รู้สึกว่าดีขึ้นนะ ไม่โดนข่วนพุงแล้ว พออาบน้ำเสร็จคุณแม่ก็จะแปรงฟันให้ เด็กจิ๋วชอบมาก จะรีบคว้าแย่งแปรงไปแปรงเองทุกวัน นอกจากแปรงฟันทุกวันแล้ว ก็มีให้กินฟลูออไรด้วย วันละเม็ด ละลายกับน้ำที่กิน

วันที่ ๓๗๗ ... อังคาร ๑๑ มกราคม ๒๕๕๔
ตอน เย็นทำอาหารให้เด็กจิ๋ว เป็นแบบใหม่ คือจะทำน้ำสต็อกโครงไก่กับกระดูกหมูไว้ แล้วแบ่งเป็นถ้วยๆแช่แข็ง เวลาจะทำอาหารก็เอาน้ำสต็อกมาต้มกับข้าว แล้วใส่ผักสดกับเนื้อสัตว์ลงไป เด็กจิ๋วจะได้กินของสดๆ แล้วก็ได้เคี้ยวๆบ้าง ไม่ต้องกินแต่อาหารนักบินอวกาศเละๆอย่างเดียว วันนี้ปะป๊าใส่ปลานกแก้วกับผัก
บล็อกโครี่ รสชาติหน้าตาก็โอเค แต่กว่าจะทำเสร็จมันดึกไปหน่อย เด็กจิ๋วก็ไม่ยอมกิน งอแง ง่วงนอนมาก เลยรีบพาไปอาบน้ำแล้วกินนมนอน ช่วงนี้กำลังรีบทำน้ำหนักเพิ่มให้เด็กจิ๋วอยู่ เพราะคุณหมอบอกว่าต่ำกว่ามาตรฐานไป ๒ ขีด แต่อาม่าบอกว่าที่เด็กจิ๋วไม่อ้วนเพราะซนมาก ไม่อยู่นิ่งทั้งวัน เลยเผาผลาญหมด
วันนี้ปะป๊าปั่นน้ำสตรอเบอร์รี่ เลยเอาให้เด็กจิ๋วลองกินดู กินคำแรก ทำหน้าเหยๆ แบบเปรี้ยวสุดขีด แต่ก็ชอบ กินต่อไม่หยุด
วันนี้ เด็กจิ๋วเล่นส้มจิ๋วอยู่ เล่นไปเล่นมาก็ยัดใส่ปากไปทั้งลูก สงสัยพี่เก่งสอนมา วิธีกินส้มทั้งลูก แล้วก็มีอีก เมื่อวานพี่ๆที่ออฟฟิตกินสตรอเบอร์รี่กัน เด็กจิ๋วก็แอบคว้าเข้าปากไปทั้งลูกเหมือนกัน ต้องรีบล้วงออกมากันใหญ่ ที่จริงคงกลืนลงคอไม่ได้หรอก แต่ตกใจ พวกเนี้ยะเด็กจิ๋วจะเร็วมาก เผลอไม่ได้ วันก่อนเด็กจิ๋วไปคว้าเอาสายคล้องกล้องของปะป๊ามาเล่น พอหยิบขึ้นมาได้ก็เอามาคล้องคอตัวเอง ก็เห็นปะป๊าทำบ่อยๆเลยทำตาม


วันที่ ๓๗๘ ... พุธ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๔
วันนี้ เด็กจิ๋วไปเล่นที่โต๊ะอี๊ตุ๋มทำแก้วน้ำหกใส่โน๊ตบุ๊คกับเมาส์ ทุกคนโวยวายกัน ส่วนเด็กจิ๋วก็ทำหน้าจ๋อยสุดขีด ตอนบ่ายๆพาไปสวัสดีปีใหม่ลุงโก้และสหายที่เอเทรียม บริษัทเก่าปะป๊าเอง เจออาแจ๊ด ลุงโก้ น้าอ้อ ลุงเก๊า และบรรดาพี่ ๆ ที่เอเทรียม เด็กจิ๋วไปเล่นกับพี่ธัญญ่าลูกของลุงโก้กับน้าอ้อด้วย ในที่สุดเด็กจิ๋ว
ก็ เจอเพื่อนที่มาจากดาวดวงเดียวกัน ชอบเล่นคีย์บอร์ดเหมือนกัน ทั้งสองคนไปนั่งเล่นจิ้มคีย์บอร์ดด้วยกันอย่างสนุกสนาน เด็กจิ๋วชอบลุงเอกมาก ลุงเอกนั่งทำงานเคร่งเครียดอยู่ เด็กจิ๋วก็คลานไปแฮ่ แฮ่ใส่ แต่พอเค้าหันมาหา ก็คลานหนี
ตอนเย็นทำอาหารให้เด็กจิ๋วอีก รู้สึกว่าน้ำสต็อกที่ทำไว้จะมันไปหน่อย ต้องหาเปลี่ยนวิธีใหม่
  
วันที่ ๓๗๙ ... พฤหัส ๑๓ มกราคม ๒๕๕๔
เนื่อง จากว่าทุกวันนี้เด็กจิ๋วไม่สามารถนั่งอยู่นิ่งๆได้แม้แต่วินาทีเดียว เวลาที่อยู่ในห้องทำงานปะป๊า เด็กจิ๋วจะชอบการปีนขึ้นมารื้อของบนโต๊ะมากที่สุด ถ้าไม่ให้รื้อก็ต้องอุ้มไปเล่นโน่นเล่นนี่ ช่วงนี้ที่ชอบมากอีกอย่างคือเปิดปิดตู้ แล้วปิดแต่ละทีก็ดังสนั่นกันเลย อีกอย่างก็คือชอบไปจิ้มสวิทไฟ เปิด ปิด เปิด ปิด ไปมา ถ้าเราเหนื่อยแล้ว คือจับเด็กจิ๋วไม่ไหวก็จะปล่อยให้คลานเล่นที่พื้น เด็กจิ๋วก็จะคลานหาของเล่นตามพื้นไปเรื่อย ของทุกอย่างสามารถเป็นของเล่นได้หมด ยกเว้นอยู่อย่างเดียว คือของเล่น วันนี้ปะป๊าก็ปล่อยให้คลานเล่นแถวประตูเลื่อน เด็กจิ๋วก็เลื่อนประตูกระจกไปมา สักพักร้องจ๊ากๆ ปะป๊าก็คิดว่าคงปิดประตูมาชนเท้าตัวเอง เวลาเด็กจิ๋วร้องจ๊ากๆ ก็แค่เบี่ยงเบนความสนใจ พาไปดูอะไรแปลกๆ ก็หยุดร้องได้ง่ายๆ แต่ตอนเย็นเพิ่งเห็นว่ามีรอยที่เท้าเด็กจิ๋ว ไม่ได้ประตูชนเฉย ๆ แต่เหมือนหนีบเท้าไปด้วย มีแผลถลอก แล้วก็ช้ำเป็นจ้ำๆ ขอโทษนะเด็กจิ๋ว
ตอนเย็นปะป๊าทำไข่ตุ๋นให้เด็กจิ๋วกิน เด็กจิ๋วบอกว่าอร่อย ชอบมาก ใช้น้ำสต็อกปลาโอตากแห้งทำด้วย เป็นสูตรไข่ตุ๋นญี่ปุ่น

วันที่ ๓๘๐ ... ศุกร์ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๔
หลัง จากปรับมากินข้าววันละ ๓ มื้อ เหมือนกับว่าเด็กจิ๋วจะพยายามลดนมลงเอง เดี๋ยวนี้ชอบกินไม่หมด ๖ ออนซ์ เหลือไว้ประมาณออนซ์หนึ่ง แล้วเดี๋ยวนี้ก็ลองให้กินอาหารมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่เจออะไรที่เด็กจิ๋วไม่กินเลย กลางวันพาไปร้านเจ๊ง้อ ก็ให้กินเส้นหมี่กรอบราดหน้า กับแฮกึ้น ก็กินได้ดี เอร็ดอร่อยเชียว แต่กินเสร็จแล้วเอานิ้วล้วงคอตัวเองเล่น จนอ้วกกลางร้านเจ๊ง้อเลย นี่ไม่ได้อ้วกมานานแล้วนะเนี่ยะ คุณแม่บอกว่าอาหารมันมันไปด้วย ตอนเย็นๆอี๊กบก็ให้กินทองม้วน อี๊ตุ้ยเข้าออฟฟิตมาก็มากินทองม้วนด้วย แต่เด็กจิ๋วโวย ว่าอี๊ตุ้ยใหญ่เลย ประมาณว่ามากินของเค้าทำไม  ตอน หัวค่ำพาเด็กจิ๋วขึ้นไปเล่นที่สนามเด็กเล่น วันนี้แปลก เด็กจิ๋วชี้จะเอาตุ๊กตาของคุณแม่ที่เก็บไว้ในตู้ พอหยิบส่งให้ก็เอามากอดซบไปซบมาเหมือนพี่หมีเค้า หรือเค้าคิดว่าตุ๊กตาทุกตัวคือพี่หมี นี่เป็นวันแรกที่เริ่มอยากเล่นตุ๊กตามั้ง คืนนี้เป็นอีกคืนที่เด็กจิ๋วไม่ยอมหลับตอนหัวค่ำ ก็ต้องให้นอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนหมดแรง แต่คืนนี้ฮา กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ดีๆก็ไปคว้าผ้ายางมาคลุมหน้าตัวเองแล้วก็เปิดออกเร็วๆ จะเอ๊ เป็นครั้งแรกที่เล่นจ๊ะเอ๋เองได้
วันที่ ๓๘๑ ... เสาร์ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๔
วันนี้ พาเด็กจิ๋วไปหาอากงอาม่าราชบุรี พรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดอาม่าด้วย คุณแม่ซื้อของขวัญวันเกิดให้อาม่าปีนี้เป็น iPod Touch เอาไว้ให้คุย Facetime กับเด็กจิ๋วได้ทุกวัน แต่ของยังมาไม่ถึง เลยให้ปากเปล่าไปก่อน วันนี้อาม่าเอาโรลม้วนผมมาให้เด็กจิ๋วเล่น ชอบมาก เล่นได้เป็นชั่วโมง ตอนเย็นไปกินข้าวร้านรื่นรสกัน อาม่ารับอาสาเลี้ยงเด็กจิ๋วระหว่างที่พวกเรากำลังกินอาหารกัน อาม่ากับหลานไปเดินเล่น กลับมาพร้อมกับของเล่นเต็มมือ เดี๋ยวนี้เด็กจิ๋วเห็นของเล่นแล้วก็เริ่มจะร้องเอาแล้ว อาม่าก็ตามใจหลาน ตอนจะกลับกรุงเทพฯ จับเด็กจิ๋วขึ้นรถก็ไม่ยอม กระโดดเกาะอาม่าแล้วก็ซบแบบว่ารักอาม่ามาก ไม่อยากจากอาม่าไป แต่ที่จริงก็คือติดใจที่อาม่าตามใจซื้อของเล่นให้  ตอน ดึกระหว่างแต่งตัวเด็กจิ๋วอยู่ เด็กจิ๋วก็สังเกตเห็นไฝที่คอปะป๊า เลยมาจิ้มเล่น สนใจเป็นพิเศษ เวลาปะป๊าหันหน้ามาเด็กจิ๋วก็ผลักหน้าปะป๊าอย่างแรงออกไป แบบอย่าบัง ขอเล่นไฝก่อน สักพักก็ยื่นหน้ามาจะเลีย คือเด็กเวลาเจออะไรแปลกๆก็อยากจะชิมดูว่ารสชาติเป็นยังไง
วันที่ ๓๘๒ ... อาทิตย์ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๔
วันนี้ อากาศเย็นดีจังเลย ตอนเช้าพากันไปเล่นสวนดาดฟ้า เด็กจิ๋วนอนตักปะป๊าได้นาน เหมือนสมัยตอนเป็นเบบี๋เลย เดี่ยวนี้จะหาโมเม้นต์แบบนี้ไม่ค่อยได้แล้ว เด็กจิ๋วไม่ยอมอยู่นิ่งๆ เวลาไปนั่งเล่นที่สวนแบบนี้ เด็กจิ๋วจะชอบใบไม้ดอกไม้มากเลย ชอบเอามาถือแล้วเด็ดเล่นไปมา วันนี้คุณแม่บอกว่ายางดอกไม้มีพิษนะบางคนแพ้ถึงตายเลย รีบพาไปล้างมือแทบไม่ทัน  ตอนกลาง วันพากันไปเดินตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่นี่คุณแม่อยากไปตั้งแต่ ๕ ปีที่แล้ว เพิ่งได้ไปจริงๆ เพราะต้องทำใจเวลาเดินตลาดน้ำแบบนี้ มันเหนื่อยมาก นี่ยิ่งมีเด็กจิ๋วด้วย แต่เห็นว่าอากาศเย็นก็เลยลองดู
ตั้งแต่เมื่อวาน ที่ไปราชบุรีแล้วเด็กจิ๋วงอแงไม่ยอมนั่ง Car Seat วันนี้ก็เป็นอีกทั้งวันเลย เมื่อก่อนมีอยู่พักหนึ่งที่เป็นอาการนี้ พอจับวางปั๊บก็จะทำสะพานโค้งแอ่นตัว แต่ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นคว่ำตัว คือพอจับวางปั๊บก็จะคว่ำตัวทันที เราก็รัดเข็มขัดไม่ได้ ยากมากกว่าจะสำเร็จ ที่ตลาดน้ำเด็กจิ๋วก็อยู่ในเป้อุ้มลั้นลาดี แต่ตอนที่ไปนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้าน เด็กจิ๋วไปตะโกนเรียกพี่ผู้ชายคนหนึ่ง เรียกให้เค้าหันมาเล่น พอเค้าหันมาก็ยิ้มหัวเราะ เวลาเค้าไม่หันก็ตะโกนไปเรื่อยจนเค้าหัน เป็นแบบนี้หลายครั้งแล้วนะเด็กจิ๋ว แล้วอีกอย่างก็คือชอบไปจิ้มคนอื่น จิ้มๆให้เค้าหันมาเล่นด้วยอ่ะ
กลับมา บ้านตอนเย็นก็พากันไปเล่นที่สนามเด็กเล่นอีก วันนี้จัดสนามเด็กเล่นใหม่ ปะป๊าอยากให้มันเหมือนพวก Kids Club ตอนนี้ของมันระเนระนาดยังไงไม่รู้ ตอนเล่นกันอยู่ในห้องโฮมฯ ของเล่นที่เด็กจิ๋วชอบมากที่สุดก็คือเมาส์กับคีย์บอร์ดของปะป๊า เคยลองหาอีกชุดหนึ่งมาให้เล่นก็ไม่เอา จะมาเล่นอันที่เราใช้อยู่ บางทีก็ต้องปิดเมาส์กับคีย์บอร์ดแล้วเอาให้เล่น วันนี้ก็ทำเหมือนเดิม ปิดเมาส์แล้วส่งให้เด็กจิ๋วเล่น แต่เด็กจิ๋วขยับไปมาแล้วก็หันมาทำหน้าย่นร้องอึ๋งๆแล้วก็ยื่นเมาส์มาที่เรา รู้นะว่าปิด คือเด็กจิ๋วเริ่มรู้แล้วว่าเวลาขยับเมาส์กับคีย์บอร์ด หน้าจอทีวีมันต้องมีอะไรเคลื่อนไหวด้วย

วันที่ ๓๘๓ ... จันทร์ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔
เมื่อ วันก่อนที่ไปราชบุรี ลองเอาเต้าหู้นมสดให้เด็กจิ๋วกิน ปรากฎว่าชอบมาก ซื้อกลับมากินที่บ้านด้วย อี๊ป้อมบอกว่าที่ 7-11 ก็มี เดี๋ยวซื้อให้กิน เต้าหู้นมสด เนื้อมันคล้ายๆ กับพวกแกงจืดเต้าหู้ไข่หรือไข่ตุ๋นที่เด็กจิ๋วชอบกินอยู่แล้ว กลางวันพาออกไปกินเป็ดปักกิ่งกันแถวทองหล่อ เด็กจิ๋วนอนหลับได้นานในรถเข็น ไม่มีตื่นมาก่อเหตุ แต่ตอนจับนั่ง Car Seat ก็ยังคงมีปัญหาอยู่ ต้องใช้วิธีป้อนหนมไปด้วยระหว่างจับนั่ง อย่างที่บอกว่าช่วงนี้เด็กจิ๋วเริ่มชอบตุ๊กตา ในห้องโฮมฯจะมีตุ๊กตาตัวเล็กๆอยู่ ๒ ตัว อยู่มาตั้งแต่ก่อนเด็กจิ๋วเกิดหลายปี แต่เด็กจิ๋วเพิ่งมาอยากเล่นตอนนี้ เจอเป็นไม่ได้ จะต้องร้องขอ ไม่ให้ก็อาละวาด ที่สำคัญคือมันเป็นตุ๊กตาเอามาวางบังขาทีวีที่โผล่ยื่นออกมา ไม่ได้มีไว้เล่น ฝุ่นก็เยอะไม่เคยเอาไปซัก เด็กจิ๋วก็ชอบนักหนา หยิบให้ก็เอามากอดซบไปซบมาบอกหมีหมี หมีหมี คือตุ๊กตาทุกตัวทุกชนิดในโลกนี้จะชื่อว่า หมีหมี หมด เหมือนอย่างหมาก็เหมือนกัน หมาทุกตัว รวมถึงพวกแมวด้วย ก็จะชื่อ เป้
พอ ใกล้หวยออกทีไร พี่ๆที่ออฟฟิตชอบเห็นเด็กจิ๋วเป็นกุมารทอง มาขอเลขอยู่เรื่อย ล่าสุดมีให้หยิบไพ่ใบ้เลขหวย หวยออกก็ถูกกินเรียบอีกแล้วตามเคย

วันที่ ๓๘๔ ... อังคาร ๑๘
มกราคม ๒๕๕๔
วันนี้ พาเด็กจิ๋วไปเดินเล่นที่งาน Megaฯ เมืองทองฯ ซื้อตุ็กตาหมอนข้างหนอนให้ตัวหนึ่ง หนอนตัวนี้ เด็กจิ๋วก็เรียกว่า หมีหมี เหมือนกัน ซื้อเสร็จต้องรีบฉีกถุงแล้วเอาให้เด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วก็เอามากอดซบแล้วถือไว้ตลอดทั้งงาน ช่วงนี้เด็กจิ๋วชอบตบคน เวลาไม่พอใจใครก็ตบเอาตบเอา ปะป๊ากับคุณแม่ก็พยายามดุอยู่ แต่ที่ออฟฟิตนี่เลี้ยงกันหลายมือมาก คิดว่าคนอื่นๆก็คงยอมให้ตบไป วันนี้พอตบคุณแม่ปั๊บ ปะป๊าก็ดุซะดังแล้วจับวางกับพื้นพร้อมกับทำหน้าดุๆ แบบว่าให้พิจารณาตัวเองว่าทำผิด จงนั่งสำนึกผิดไปซะ แต่ไม่เห็นเป็นอย่างที่คิดไว้เลย จับวางปั๊บ เด็กจิ๋วก็รีบคลานไปแอบเล่นจ๊ะเอ๋ลั้นลาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนี้จะสอนไหวไม๊เนี่ยะ อีกอย่างคือพฤติกรรมชอบเลียนแบบ ช่วงนี้จะเลียนแบบได้ไวมาก ตอนนี้เวลาจะทำอะไรต้องคิดดีๆ กลัวเด็กจิ๋วทำตาม ตอนบ่ายนั่งเล่นที่ห้องทำงานปะป๊า เด็กจิ๋วก็ไปเอาผ้าอ้อมมาถูๆเช็ดกำแพงห้อง เช็ดจริงเช็ดจังไม่รู้อันนี้เลียนแบบใครมา
ของเล่นที่มาจากเมืองจีนมัก จะมีเพลงเสียงดังแบบแดนซ์มันส์กระจาย เมื่อก่อนก็คิดว่าของเล่นเด็กอะไรกันนี่ คนจีนคงชอบเอะอะโวยวาย แต่ปรากฎว่าเด็กจิ๋วชอบมาก เวลาเสียงเพลงพวกนี้ดังออกมา เด็กจิ๋วก็จะโยกหัวตามทุกครั้ง เมื่อกี้ก็เล่นลูกข่างกัน ลูกข่างหมุนๆไปพร้อมกับเสียงเพลงแดนซ์อย่างที่ว่า เด็กจิ๋วก็โยกหัวตามเหมือนเคย เพิ่งรู้ว่าการเล่นลูกข่างมันมันส์ขนาดนี้


วันที่ ๓๘๕ ... พุธ ๑๙
มกราคม ๒๕๕๔
เด็ก จิ๋วนอนดึกเลยเที่ยงคืนทุกวัน เป็นเพราะว่าตอนกลางวันไม่ได้นอนเลย ติดเล่น พอตอนเย็นถึงหมดแรงสลบไป ตื่นมาอีกทีสองทุ่ม มากินข้าวอาบน้ำแล้วก็เล่นต่อยาว อุ้มเต้นกล่อมก็ไม่ยอม จะถีบตัวออก ต้องปล่อยให้กลิ้งเล่นไปมาเอง เฉลี่ยใช้เวลาในการกลิ้งไปมาสองชั่วโมงกว่าจะหลับ เทคนิคที่ปะป๊ากับคุณแม่ใช้กันทุกวันก็คือแกล้งตาย มักจะได้ผล แล้วช่วงนี้ค้นพบเทคนิคใหม่ คือเอามือมาถูผ้ายาง จะ
ต้อง ล่อเค้าก่อนด้วยการถูนำไปก่อน พอเด็กจิ๋วเห็นก็จะมาถูตาม มันเพลินดีเหมือนกัน เพราะผ้ายางมันเป็นปุ่มๆ ถูแล้วจั๊กจี๊มือ เด็กจิ๋วก็สามารถถูไปมาจนหลับได้เอง
เช้า นี้เด็กจิ๋วยังไม่ตื่นซะที ปะป๊าก็ขึ้นไปจัดของที่สนามเด็กเล่น พอลงมาเจอเด็กจิ๋วตื่นแล้ว ไม่ได้ Good Morning กันแบบทุกวัน ปรากฎว่าเด็กจิ๋วงอนอีกแล้วไม่ยอมให้อุ้ม สงสัยงอนที่ตื่นมาไม่เจอปะป๊า เรื่องที่เด็กจิ๋วชอบตบคน คุณแม่บอกว่าตามคู่มือบอกไว้ว่าเด็กวัยนี้ยังตบตีไม่เป็น อี๊ป้อมรีบแย้งเสียงปรี๊ดขึ้นมาว่า ไม่จริง โดนตบจนหน้าชาไปหมดแล้ว วันนี้ เด็กจิ๋วยอมนอนกลางวันแต่โดยดี ปะป๊ากับคุณแม่ดีใจมาก เพราะเดี๋ยวกินนมเสร็จตอนสามทุ่มครึ่งก็จะหลับได้ ไม่ต้องกล่อมกันเลยเที่ยงคืนอีก ช่วงนี้เด็กจิ๋วมักจะเรียกปะป๊าว่า...ปา ป่ะ ป๊ะ...ทำไมเรียกไปเรียกมา มันเกินมาพยางค์หนึ่งละลูก แล้วชอบตะโกนเรียกด้วยความมั่นใจมากเลยนะ ปา ป่ะ ป๊ะ  วันนี้ เอายางลบให้เด็กจิ๋วเล่น มันจะเป็นหลอดแล้วถอดไส้ยางลบเป็นท่อนๆใส่เข้าใส่ออกได้ ยางลบอันนี้เคยเป็นของเล่นสุดฮิตตั้งแต่ตอนเจ๊จาน่ากับเฮียโรยังเป็นเด็ก ชอบมาเล่นที่โต๊ะทำงานปะป๊ามาก พอวันนี้เอามาให้เด็กจิ๋วเล่น เด็กจิ๋วก็ชอบเล่นเหมือนกัน เลยได้เห็นว่าเด็กจิ๋วสามารถถอดประกอบของได้แล้วนี่ ตอน ค่ำเลยพาไปเล่นที่สนามเด็กเล่น เอาตัวต่อที่เป็นท่อนๆแบบถอดได้ต่อได้เป็นหลายๆสีมาให้เล่น อันนี้ซื้อมาตอนเพิ่งเกิด ปกติก็เอามาให้เขวี้ยงไปมาเล่น แล้วก็ไม่ได้เล่นมาสักอาทิตย์สองอาทิตย์ แต่พอวันนี้ส่งให้เล่น เด็กจิ๋วเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นไปแล้ว เอามาดึงออกแล้วเสียบกลับได้ คือรู้ด้วยว่าด้านไหนหัวด้านไหนก้น เก่งจริงๆ เห็นแล้วน้ำตาจะไหล
วันที่ ๓๘๖ ... พฤหัส ๒๐ มกราคม ๒๕๕๔
เมื่อ คืนเด็กจิ๋วนอนเร็ว แต่เช้านี้ก็ตื่นสายเหมือนเดิม ๙ โมงกว่า เมื่อคืนนอนไป ๑๒ ชั่วโมง สงสัยวันนี้แย่แน่ๆ เพราะเด็กจิ๋วชาร์ตพลังไฟเต็มที่ ตอนนี้เด็กจิ๋วยกเมือไหว้เป็นแล้ว บอกว่าสวัสดีก็จะยกมือสองข้างมาแปะไว้ที่ปาก ก็ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ ถ้าเหมือนก็ไม่น่ารัก แต่เด็กจิ๋วทำบางอารมณ์ ส่วนใหญ่จะหวัดดีอาม่าเท่านั้น ไม่รู้ว่าทำไม ตอนกลางวันปะป๊ากับอี๊ตุ๋มพาพี่ๆ ที่ออฟฟิตไปเลี้ยงปีใหม่กันที่โรงแรมตวันนา เด็กจิ๋วได้กินของหลายอย่างเลย มีพุดดิ้ง คัสตาด แตงโมปั่น สตรอเบอร์รี่ ถ้าปะป๊าไม่ห้ามพวกอี๊ๆพี่ๆไว้ เด็กจิ๋วก็คงได้กินอะไรประหลาดๆอีกหลายอย่าง สตรอเบอร์รี่ที่เด็กจิ๋วกินมันเปรี้ยวมาก พวกผู้ใหญ่ยังกินไม่ค่อยได้ เด็กจิ๋วกินเข้าไปแล้วทำหน้าหยี ตาปิดเลย แบบเปรี้ยวมาก แต่ก็กินไม่หยุด ถ้าหยุดป้อน ก็จะร้องแล้วยื่นหน้าไปงับเอง
วันที่ ๓๘๗ ... ศุกร์ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๔
ช่วง นี้เด็กจิ๋วมีของเล่นชิ้นโปรดอีกอันเป็นลิปสติกของคุณแม่ ลิปสติกอันนี้เล่นมาตั้งแต่เล็กๆแล้ว แต่ช่วงนี้เก่งขึ้น สามารถเปิดออก แล้วก็ปิดเองได้ รู้ด้วยว่าเวลาจะปิดต้องหันด้านไหนมาชนกัน แต่ที่ยังไม่รู้ คือเวลาดึงฝาออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าอันไหนเป็นตัวลิปสติก อันไหนเป็นฝา เพราะเวลาบอกว่าทาปากให้หน่อย เด็กจิ๋วชอบเอาส่วนฝามาถูปากเรา ส่วนของกินเมนูใหม่ที่ชอบมากตอนนี้คือหมูหยอง ตอนแรกก็งงๆว่าจะกินได้ไม๊ แต่ปรากฎว่ากินแล้วติดใจชอบมาก  ตอน ดึกๆ พวกเจ๊นิวเจ๊แนน กับอาแปะ มานอนกันที่บ้าน เพราะพรุ่งนี้จะไปเที่ยวเขาค้อกันแต่เช้า อาแปะเห็นเด็กจิ๋วงอนใส่ปะป๊าแล้วตกใจใหญ่เลยว่าทำไมเป็นเด็กขี้งอนจัง ก็คือนั่งเล่นๆกันอยู่ดีๆแล้วคุณแม่มาตามปะป๊าออกไปหยิบของ กลับมาเด็กจิ๋วก็งอนใส่เลย หาว่าทิ้งเขาไป  
วันที่ ๓๘๘-๓๘๙ ... เสาร์ ๒๒, อาทิตย์ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๔ไปเที่ยวเขาค้อกันกับที่บ้านปะป๊า วันนี้ เด็กจิ๋วได้ไปเที่ยวเขาค้อ ไปกับที่บ้านปะป๊ารวมอี๊ป้อมด้วยก็ ๑๗ คน คิดถึงสมัยก่อนที่บ้านนี้ยังไม่มีเด็กเลย เราชอบไปเที่ยวกันทั้งบ้านรวม ๑๐ คนพอดี ตอนนั้นปะป๊าใช้รถแวนอีซูซุอยู่ คันเดียวก็ตลุยทั่วไทย ไปกันทั้งบ้าน ส่วนใหญ่ก็นอนเต็นท์ หุงหากินเอง ตั้งแต่เริ่มมีหลานๆ ก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวแบบครบถ้วนแบบนี้นานแล้ว ถ้าจะมีไปก็ไปพวกรีสอร์ท แต่หาโอกาสยากที่จะครบทุกคน เพราะแต่ละคนก็ติดนั่นติดนี่ ครั้งนี้ไป ๑๗ คน มีเด็กอยู่ ๖ คน ต้องขับรถไปกัน ๓ คันเลย

ออกจากบ้านเตาปูนกันตีห้า นิดๆ ขับไปแวะปั๊มไปเรื่อย ตามธรรมดาของการพาเด็กเล็กมาเที่ยว เดี๋ยวคนนั้นหิว เดี๋ยวคนนี้อึ๊ คุณแม่เป็นคนจัดทริปก็เริ่มเห็นแววว่าที่วางแผนการท่องเที่ยวไว้ ก็คงไม่สามารถ

เราแวะกินข้าวเช้ากัน ๙ โมงที่วิเชียรบุรี กินไก่ย่าง ส้มตำกันแต่เช้าเลย ร้านตาแป๊ะ เป็นร้านโปรดของปะป๊า คือก็งงตัวเองเหมือนกันว่าเมื่อก่อนเราไปเที่ยวไหนกันถึงได้ผ่านมากินไก่ ย่างวิเชียรบุรีบ่อยมาก ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่ ๕ ได้มั้ง เค้าว่าร้านดังคือ บัวตอง แต่ปะป๊าชอบร้านนี้มากกว่า ที่จริงไก่ย่างแถวนี้ก็ไม่อร่อยเท่าไหร่หรอก สู้ร้านนิตยาไม่ได้ มากินเอาบรรยากาศมากกว่า

พอกินข้าวเสร็จ แก๊งส์เด็กก็เริ่มจับตัวกันวิ่งเล่น น่าสงสารเด็กจิ๋วได้แต่ดู ทำหน้างงๆ แล้วก็ชี้ไม้ชี้มือ คงอยากไปวิ่งเล่นด้วย

ไป ถึงจุดหมายแรกคือภูทับเบิกตอนเกือบเที่ยง สายกว่าที่คุณแม่วางแผนไว้ไม่กี่ชั่วโมงเอง มาภูทับเบิกครั้งนี้ ก็งงเล็กน้อย ต่างจากเมื่อ ๘ ปีที่แล้วมาก ตอนนั้นดีกว่าเยอะ เป็นธรรมชาติ ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้าง เราสามารเดินไปตามแปลงกะหล่ำเล่นได้ แต่วันนี้มีร้านค้าเยอะแยะ จุดชมวิวก็ทำเป็นสิ่งปลูกสร้างแบบปูน ไม่เห็นมีทางเดินลงแปลงกะหล่ำอีกด้วย แต่เด็กๆก็ไม่ได้สนใจกะหล่ำแหล่ะ วิ่งเล่นมีความสุขกันดี เวลาแก๊งส์เด็กบ้านนี้รวมตัวกัน ส่วนใหญ่ก็จะเล่นวิ่งหนีโฮไอ เพราะโฮไอจะชอบเป็นผู้ร้าย แกล้งคนโน่นคนนี้ พวกพี่ๆก็จะวิ่งหนี โฮไอก็วิ่งตาม อาโกวซื้อดอกไม้กระดาษแจกเด็กคนละช่อ แต่เด็กจิ๋วไม่ได้เหมือนพี่ๆ

จากภูทับเบิกก็มากินข้างกลางวันตอน บ่ายๆที่ร้านครัวเขาค้อ เป็นร้านดังที่คุณแม่หาข้อมูลมาจากเน็ต อาหารก็อร่อยบางอย่าง โดยรวมก็โอเค คุณแม่สั่งแกงจืดให้เด็กจิ๋วกิน ในแกงจืดมีโรยพริกไทยมาด้วย แต่เด็กจิ๋วก็ไม่หวั่น ร้านนี้มีน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นอร่อย กินกันไปกลายแก้ว เด็กจิ๋วก็กินด้วย

ที่จริงจะต้องแวะเที่ยวอีกหลายที่ แต่เวลาหมดแล้ว เลยตัดสินใจเลือกไปที่เดียวคือ ค้ออินเลิฟ เป็น
ร้าน กาแฟที่แต่งสวยงาม เมื่อก่อนปะป๊ากับคุณแม่ก็มากันอยู่หลายครั้ง แต่ตอนนั้นร้านอยู่ข้างทาง เพิ่งมาโดนไล่ที่ เลยย้ายมาทำร้านใหม่ใหญ่โต แล้วก็มีให้เลี้ยงแกะด้วย จาน่ากับไจโรก็ไปซื้อนมมาเลี้ยงลูกแกะ เด็กจิ๋วเห็นแล้วก็อยากไปเล่นบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถ

อีก ๒๐ โล ก็ถึงที่พัก เขาค้อทะเลหมอก เค้าว่าที่นี่จะเห็นทะเลหมอกตอนเช้าทุกวัน เพราะหุบเขาข้างล่างเป็นอ่างเก็บน้ำ ที่รีสอร์ทนี้ ปะป๊ากับคุณแม่ก็เคยมากางเต้นท์เมื่อสามปีที่แล้ว มาครั้งนี้รีสอร์ทขยายใหญ่โต มีสร้างบ้านพักขึ้นมาหลายหลัง บ้านที่เราจองไว้ก็เพิ่งสร้างใหม่ จองไว้หลังเดียวชั้นบนกับชั้นล่าง แต่ชั้นบนกับชั้นล่างดันไม่สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ ต้องเดินขึ้นเขาลงเขาเข้ากันคนละทาง เลยเซ็งเล็กน้อย แล้วก็ห้องนอนมีชั้นละห้อง เลยต้องนอนเรียงกันเป็นปลาทู แบบนี้ผู้ใหญ่ไม่ชอบ แต่เข้าทางหลานๆเลย วิ่งเล่นกันทั่วห้องอึกทึกมาก ปะป๊าก็จับเด็กจิ๋ววิ่งเล่นตามพี่ๆด้วย วิ่งไปวิ่งมา โฮไอดันมาชกเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วร้องไห้โฮเลย

ตอนนอน เด็กจิ๋วต้องนอนห้องเดียวกับพี่โฮไอ ทีนี่ปัญหาก็เกิด เพราะปกติบ้านโฮไอเป็นแบบนอนหัวค่ำตื่นตีห้า แต่บ้านเด็กจิ๋วนอนเที่ยวคืนตื่นเก้าโมง ยังไม่ทันไรบ้านพี่โฮไอก็หลับไปแล้ว เหลือแต่บ้านเรา ซึ่งปกติกว่าจะกล่อมเด็กจิ๋วได้ ก็ใช่ว่าจะง่ายๆ ครั้งนี้ต้องกล่อมแบบเงียบๆกลัวพี่โฮไอตื่นยิ่งยากใหญ่ แล้วคืนนี้ไม่รู้เป็นอะไร เด็กจิ๋วคึกมากเป็นพิเศษ คงเพราะได้มาเที่ยวลั้นลานั่นแหล่ะ นอนพูด พูด ๆๆ ไม่หยุดเลย ไม่รู้คุยกับใคร วันนี้ออกแนวภาษาเขมร แล้วมานอนนอกสถานที่แบบนี้ มันน่ากลัวนะเด็กจิ๋ว 

บ้านโฮไอตื่นมาอาบน้ำกันตั้งแต่ตีห้า บ้าไปแล้ว บ้านเด็กจิ๋วไม่มีทาง ปกติตื่นสายเก้าโมง แล้วก็ไม่เคยอาบน้ำกันอีกต่างหาก ปะป๊าก็ตื่นตามไปถ่ายรูป ส่วนคุณแม่กับเด็กจิ๋วก็หลับต่อเหมือนเคย

ที่รีสอร์ทตอนเช้าตรู่นี่ คึกคักเหมือนกัน เพราะเมื่อคืนมีแขกพักเต็ม มีเต้นท์อีกก็หลายหลัง ส่วนใหญ่ก็ตื่นมาดูทะเลหมอกกัน ที่จริงจากระเบียงห้องพักเราก็มองเห็นทะเลหมอกได้เลย เค้าว่าเป็นห้องที่วิวดีที่สุด แต่ปะป๊าส่วนกระแส ไม่ดูทะเลหมอก แต่ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม หามุมถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น เพราะจากบ้านพักจะเห็นแต่พระอาทิตย์ตก

เมื่อครั้งที่แล้วที่มาพัก ที่นี่ ก็เดินข้ามถนนมาถ่ายรูปกับคุณแม่ มันเป็นสหกรณ์เกษตร แต่ครั้งนี้มีรั้วลวดหนามมากั้น คงกลัวคนเข้ามาถ่ายรูปมั้ง แต่โชคดีเจอคนที่นี่เลยขออนุญาตเข้ามาถ่ายได้ วันนี้วิวก็ยังคงเหมือนๆกับครั้งที่แล้ว

กว่าเด็กจิ๋วจะตื่น ก็เก้าโมง ตื่นเป็นคนสุดท้ายของรีสอร์ทอีกแล้ว เพราะสังเกตจากตอนไปกินอาหารเช้า คือพนักงานก็รอเรากินเสร็จเมื่อไหร่จะเก็บร้านทันที

เก็บข้าวของออก จากรีสอร์ท ตกใจมาก เมื่อคืนรถจอดกันแน่นมาก ตอนนี้เหลือรถเราแค่ ๓ คัน ก็สงสัยเหมือนกันว่าจะรีบกลับกันไปไหน สงสัยเป็นเพราะเด็กจิ๋วตื่นสาย

ออก มาก็แวะร้าน...ปั๊บหนึ่ง แต่ไม่เวิร์ค ไม่มีของที่เรากินได้ มีตู้ไอติมเหมือนกันแต่เป็นแบบเพื่อสุขภาพ ไม่หวาน บ้านเราเลยกินกันไม่ได้ เลยไปไร่บี เอ็น แทน ทีแรกกะว่าจะไม่แวะเพราะแวะจนเบื่อแล้ว แต่ก็แวะไปกินไอติมซะหน่อย ก็ไม่ผิดหวัง ไอติมที่นี่ถูกปากเด็กๆบ้านนี้มาก กินกันใหญ่ เด็กจิ๋วก็ชอบได้กินรสส้ม กับลิ้นจี่

ที่เที่ยวสุดท้าย ของทริปนี้คือวัดผาแก้ว บางคนก็เรียกผาซ่อนแก้ว จริงๆไม่ได้ตั้งความหวังเลย ก็ไปงั้นๆ แต่ไปถึงแล้วผิดคลาดแหะ ทุกคนชอบมาก สวยกว่าที่คิด เป็นสถานปฏิบัติธรรม แต่สร้างแบบอลังการมาก ในวัดจะตกแต่งตามกำแพงและทางเดินด้วยของแปลกๆ เช่น ลูกแก้วที่เด็กเล่น ถ้วย ชามเบญจรงค์ แล้วก็เครื่องประดับเพชรพลอย ก็งงอยู่ว่าทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้แล้วคนจะมาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิได้ไง ตอนก่อนจะกลับ ปะป๊าบอกว่าให้ถ่ายรูปรวม หน่อย เป็นความคิดที่ผิดจริงๆ เพราะเคยพยายามจะรวมมาทีแล้วก็ไม่สำเร็จ เด็กแต่ละคนนี่ไม่ให้ความร่วมมือเลย แต่ครั้งนี้ก็พยายามจนสำเร็จได้ในที่สุด

ขากลับแวะกินหนมจีนร้านคุณ ตาในเมือง เป็นร้านดัง ก็โอเคนะ แต่จำได้ว่าเคยกินที่หล่มเก่าแล้วประทับใจกว่านี้ วันนี้อี๊ป้อมลองป้อนข้าวไข่เจียวให้เด็กจิ๋วกิน ปรากฎว่ากินได้เฉยเลย
  
วันที่ ๓๙๐ ... จันทร์ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๔
เมื่อ คืนกลับกันมาอาบน้ำเสร็จ ปะป๊าพาเด็กจิ๋วมาเล่นในคอก ปั๊บเดียวก็หมดแรงสลบไป ไม่แน่ใจว่าพ่อลูกใครหลับก่อน แต่ตอนตีหนึ่ง อยู่ๆ คุณแม่ก็ตื่นขึ้นมาโวยวายปะป๊าใหญ่ว่าลูกอี๊ตั้งแต่เมื่อไหร่ ดูเหมือนนานมากแล้ว เพราะโดนทับซะแบนแต๊ดแต๋ ที่สำคัญก้นแดงเถือกมาก มาวันนี้ก้นยังไม่หายแดง คุณแม่บอกว่าเวลาเช็ดก้นแล้วเด็กจิ๋วสะดุ้งเลย ร้องจ๊ากๆด้วย สงสัยคงแสบ
วันนี้หลายคนบอกว่าทำไมเด็กจิ๋วคึกจัดอีกแล้ว ก็เป็นเพราะกลับจากไปเที่ยวแหล่ะ คุณแม่ก็บอกว่าซนมากวันนี้ จับไม่อยู่เลย ช่วงนี้มีพฤติกรรมอีกอย่างที่น่าสนใจคือ เด็กจิ๋วเป็นคนมีระเบียบวินัยมาก เวลาหยิบตุ๊กตามาเล่นแล้วก็จะชอบวางกลับที่เดิม แต่เหตุการณ์มันจะเกิดเร็วแล้วก็ย้ำคิดย้ำทำมาก คือ อย่างตุ๊กตาที่วางอยู่บนทีวี เด็กจิ๋วเห็นเมื่อไหร่ก็จะร้องขอ เวลาเราหยิบให้ก็จะเอามาซบแล้ววางกลับที่เดิม พอวางปั๊บก็จะร้องขอเอาใหม่ พอได้มาก็ซบเหมือนเดิมแล้วก็รีบวางกลับที่เดิมอีก ทำวนไปวนมาแบบนี้เรื่อยๆ จนเราต้องเบี่ยงเบนไปเล่นอย่างอื่น ไม่งั้นก็เล่นได้เรื่อยๆไม่เลิก หรืออย่างเวลาเราป้อนนมกินจนหมดขวดแล้ว เด็กจิ๋วจะต้องควานหาฝามาปิดทันที บางครั้งเราก็จะวางไว้ก่อนแล้วค่อยปิด แต่เด็กจิ๋วไม่ได้ กินเสร็จปั๊บต้องรีบปิดปุ๊บทันที 

วันที่ ๓๙๑ ... อังคาร ๒๕ มกราคม ๒๕๕๔
วันนี้ พาเด็กจิ๋วไปกินข้าวกลางวันที่ร้านพะนะคอน ที่ร้านกำลังตกแต่งสถานที่ต้อนรับตรุษจีนพอดี เด็กจิ๋วเลยมีของให้เล่นเพียบ ทั้งโคมแดงรูปแบบต่างๆ มีหัวสิงโตเชิด แล้วก็มีหัวแปะยิ้มด้วย พนักงานร้านใส่หัวแปะยิ้มมาหลอกเล่นกับเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วก็กรี๊ดกร๊าดเล่นกับเค้าด้วย  ช่วง วันสองวันมานี่ไม่รู้เป็นอะไร เด็กจิ๋วกรี๊ดหนักมาก เวลาพาไปเที่ยวเล่นข้างนอกก็จะกรี๊ดเสียงดังลั่น บางทีมากรี๊ดข้างหูเรา หูจะดับ วิ้งๆไปสองสามวินาที ส่วนใหญ่จะกรี๊ดเล่น แต่ก็มีที่กรี๊ดแบบไม่พอใจ อยากจะลงไปคลานเล่นไม่อยากโดนอุ้มแล้ว จะคลานได้ไง ไม่ใช่บ้านเรานะเด็กจิ๋ว นี่ถ้าเดินได้ สงสัยต้องหาโซ่ล่ามจูงแล้ว เมื่อวานอี๊ตุ๋มกับปะป๊าซื้อขนมมา เด็กจิ๋วก็มาร่วมกินทุกขนาน ทั้งทองม้วน ทองเอก
วุ้น แล้วก็ได้กินส้มแบบทั้งกลีบเป็นครั้งแรก ปกติเคยกินแต่คั้นน้ำ แต่ส้มนี่อันตรายเหมือนกัน กัดๆแล้วหลุดหายไปทั้งกลีบเลย ตอนแรกตกใจว่าจะติดคอไม๊ แต่เหมือนมันไหลลื่นลงคอไปได้
ตอนกลางคืนปะป๊า กับเด็กจิ๋วเล่นกันในคอก วันนี้เห็นพฤติกรรมแปลกๆของเด็กจิ๋วหลายอย่าง อย่างแรกคือวันนี้เด็กจิ๋วเกิดกลัวพี่เอลโม่ หุ่นมือ ก็เล่นมาเกือบทุกวัน พี่เอลโม่มาสอนเด็กจิ๋วร้องเพลง ABC อยู่ๆวันนี้เด็กจิ๋วเกิดกลัวขึ้นมาเฉยๆ พี่เอลโม่มาขอจับมือเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วก็ทำท่ากลัวแล้วถอยหนี ไม่รู้ว่าเล่นอะไรผิดไปหรือเปล่า ปะป๊าเห็นเด็กจิ๋วกลัวก็รีบถอดออก  แต่พอถอดแล้ว เด็กจิ๋วก็ไปหยิบแล้วส่งให้ปะป๊าแบบว่าให้เล่นใหม่ เล่นอีกก็กลัวอีก ก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่ พฤติกรรมอีกอย่างก็คือ เด็กจิ๋วไปหยิบของเล่นเป่าลมที่มัน
แฟ่บแล้วมาแทงปากปะป๊า ตอนแรกก็งงว่าเล่นอะไร สักพักก็อ๋อ ให้เราเป่าลมให้ เพราะเด็กจิ๋วส่งด้านจุกเป่ามาจิ้มปากเราพอดี เริ่มรู้เยอะแล้วนะ อย่างสุดท้ายก็คือเปียโนที่ซื้อมาให้เล่นตั้งนานแล้ว ปกติชอบเล่นหน้า B คือพลิกด้านหลังมาเล่น หรือถ้าเล่นหน้า A ก็จะเล่นแบบ Heavy คือเอามือทุบป๊าบๆ แต่วันนี้รู้จักกดคีย์เป็นตัวๆแล้วก็ยิ้ม เหมือนรู้ว่ากดแล้วมีเสียงออกมาตามที่กด ไม่พอนะ ยังจับมือปะป๊าไปกดด้วย แล้วก็ยิ้ม เหมือนจะบอกเราว่า...ปาปะป๊ากดดูดิ่ มีเสียงด้วย...เด็กจิ๋ว ปะป๊ารู้มานานแล้ว

วันที่ ๓๙๒ ... พุธ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๔
ตอน นี้เด็กจิ๋วเริ่มไม่ยอมกินอาหารนักบินอวกาศแล้ว เพราะอันนั้นมันตุ๋น ปั่นเละๆ ก็ตรงตามคู่มือบอกว่าเด็กวัยนี้อยากเคี้ยวเอง ก็เลยทำอาหารสดให้กินทุกวัน บางทีก็ซื้อ บางทีอี๊ป้อมก็ทำ เป็นพวกแกงจืดเต้าหู้ไข่ ผักต่างๆ ใส่หมู แต่วันสองวันนี้ ปะป๊าบอกว่าต้องเปลี่ยนมาใส่ปลาแทนหมูบ้าง เด็กจิ๋วจะได้ฉลาดๆ คู่มือยังบอกอีกว่าให้เด็กจับช้อนป้อนตัวเอง อันนี้เราก็เครียดดิ่ ให้จับเองเนี่ยะนะ เละทั้งบ้านแน่ๆ อย่าเพิ่งดีกว่า แต่โชคดีที่เด็กจิ๋วไม่ได้เป็นแบบกินข้าวมื้อหนึ่งเป็นชั่วโมงอย่างเด็กบาง คน อันนี้กินต่อเนื่องปั๊บเดียวก็หมด สงสัยกินเร็วเหมือนคุณแม่  ตอน เย็นๆเด็กจิ๋วมีน้ำมูก อาการเหมือนเป็นหวัด ไม่รู้ว่าติดใครมาครั้งนี้ พี่ๆก็หายกันแล้ว คุณแม่รีบเอายาเขียวให้กิน พอป่วยก็จะมีอาการไม่ยอมกินข้าว แล้วก็งอแงมาก 
วันที่ ๓๙๓ ... พฤหัส ๒๗ มกราคม ๒๕๕๔
อาการ หวัดของเด็กจิ๋วเหมือนหายแล้ว แต่ก็ยังให้กินยาต่ออีกวันหนึ่ง ครั้งนี้ทำไมหายเร็วนะ เป็นแค่วันเดียว แต่แบบนี้ไม่รู้เรียกว่าเป็นหวัดหรือเปล่า มีน้ำมูกอย่างเดียว สองวันนี้เด็กจิ๋วงอแงมาก กรี๊ดๆกรี๊ดๆตลอดเวลา คิดไปคิดมาก็ อ๋อ เป็นเพราะยาเขียวเป็นยาที่กินแล้วจะงอแงตามที่คุณหมอเคยบอกไว้ มิน่าล่ะ ตอนเย็นปะป๊ากับคุณแม่ไปงาน Baby Best Buy กัน ทิ้งเด็กจิ๋วไว้กับอี๊ป้อมที่บ้าน ไม่ควรพาไปอย่างยิ่ง เพราะที่งาน คนเยอะ แล้วเด็กจิ๋วก็ยังไม่หายดี งานนี้เคยเดินมาสาม สี่ครั้งแล้ว เหมือนเดิมทุกครั้ง ร้านต่างๆ ก็ขายของเหมือนเดิม ตำแหน่งร้านก็อยู่ที่เดิม วันนี้ไม่ค่อยได้อะไรมาก ได้พวกของใช้นิดหน่อย เสื้อผ้าก็ดูๆ หลายร้านแต่ก็ไม่มีถูกใจ ตอนนี้ติดใจของ Le Petit Pumm อย่างเดียวเลย ยี่ห้ออื่นไม่เอา ของเล่นก็ดูหลายร้านแต่ส่วนใหญ่เด็กจิ๋วมีหมดแล้ว ได้มาแค่ ๒ อย่าง เป็นกังหันลายมินนี่อันหนึ่ง กับของเล่น
ห่วงโยน คล้องกรวยจราจร อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวของปะป๊า คืออยากมีกรวยจราจรเป็นของตัวเองมานานแล้ว นอกจากของเล่น ก็มีขนมแปลกๆของนอก ราคาแพงมาก กระป๋องละ ๒๐๐ กว่า คุณแม่ซื้อมา ๒ กลับมาบ้านเอาให้เด็กจิ๋วกิน กินไปได้ ๒ ชิ้น ก็ไม่กินต่อแล้ว เหมือนจะเป็นของอย่างแรกที่เด็กจิ๋วไม่กิน อย่างอื่นกินเรียบ อันนี้แพงด้วยนะเด็กจิ๋ว

วันที่ ๓๙๔ ... ศุกร์ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๔

วันนี้ ไม่ให้กินยาเขียวแล้ว แต่ทำไมเด็กจิ๋วยังดื้ออยู่ ยังกรี๊ดๆเสียงดังๆอยู่ หรือจะไม่เกี่ยวกับยา ? เด็กจิ๋วรู้เรื่องมากแล้วเดี๋ยวนี้ เมื่อวานเด็กจิ๋วโดนยุงกัดที่หัว วันนี้ถามเค้าว่า เด็กจิ๋ว โด่นยุงกัดที่ไหน เด็กจิ๋วจะยกนิ้วมาชี้ที่หัวทันที เก่งมากอ่ะ แต่ชี้ยังไม่ตรงแผล บางทีก็ชี้เลยไปข้างหลัง บางทีก็ชี้ไปที่หู แต่ที่จริงแล้ว
โดนที่หน้าผาก เป็นแผลฉกรรจ์เม็ดเบ่อเร่อ เห็นช้าไปทายาไม่ทัน จริงๆ เดี๋ยวนี้ถ้าโดนกัดแล้วรีบทายามุฮิทันที แผลจะยุบเร็วมาก แล้วก็อีกเรื่อง คือปะป๊าเล่นโทรศัพท์กับเด็กจิ๋วอยู่ แล้วปะป๊าแกล้งทำเป็นพูดโทรศัพท์...โหล ขอสายใคร เด็กจิ๋ว เหรอ ที่ดื้อๆ ซนๆ เหรอ...เด็กจิ๋วได้ยินปั๊บก็ทำหน้าตูดแล้วก็เบ่ะๆร้องไห้ คุณแม่ก็บอกว่าจริงนะ เดี๋ยวนี้เค้ารู้เรื่องมาก ว่าอะไรไม่ได้แล้ว 
มี อีกก็คือตอนที่เล่นกันอยู่ในห้องทำงานปะป๊า เด็กจิ๋วก็คลานเล่นไปเรื่อย สักพักก็คลานเลี้ยวหายไป ไปดึงลิ้นชักโต๊ะทำงานปะป๊าเล่น แต่ดึงออกมาได้ครึ่งหนึ่งก็นึกขึ้นมาได้ว่าปะป๊าเคยสั่งห้ามไว้ ก็เลยคลานกลับมาเรียกปะป๊าให้ไปดู ว่าดึงเล่นได้ไม๊ ปะป๊าก็บอกว่า เด็กจิ๋วห้ามเล่น ปิดกลับไปเลย เด็กจิ๋วก็ทำหน้าตูด แล้วจ๋อยๆ
วันนี้อี๊ กบซื้อซุปข้าวโพดมาให้เป็นอาหารกลางวัน พอดีเลย เพราะเหมือนวันนี้เด็กจิ๋วเริ่มเบื่อแกงจืดเต้าหู้ไข่แล้ว ส่วนขนมนอกที่ซื้อมาเมื่อวานแล้วบอกว่าเด็กจิ๋วไม่ชอบกิน วันนี้ลองให้กินใหม่ ก็ชอบดีอ่ะ สงสัยเมื่อวานง่วงนอนหรืออะไรซักอย่าง สรุปแล้วก็ยังไม่มีอะไรที่เด็กจิ๋วไม่กิน ขนาดกะหล่ำปลีดิบยังกินเลย วันนี้กินไส้กรอกอีสานกัน แล้วเด็กจิ๋วมาอ้อนอยากกินด้วย เราก็เลยแกล้งเอาก้านกะหล่ำส่งให้กิน กะว่าเป็นไงล่ะ ไม่อร่อยใช่ไม๊ ปรากฎว่าชอบกินแฮะ เอาไปแทะดังกล็อบๆ ขนาดเจอเศษกะหล่ำตกอยู่กับพื้น ยังไปหยิบขึ้นมากินต่อเลย 
ตอน เย็นนั่งกินข้าวกันอยู่ในห้องครัว ปะป๊าจับเด็กจิ๋วให้คุณแม่ป้อนข้าว ก็เป็นปกติของเด็กจิ๋วที่ไม่ยอมนั่งอยู่นิ่งๆ ระหว่างที่เด็กจิ๋วยืนอยู่บนเก้าอี้ กำลังปีนโต๊ะเล่น ตาก็จ้องทีวีดูละครน้ำเน่าของคุณแม่ไปด้วย ปะป๊าเลยแกล้งเอามือมาบังตาเค้าไม่ให้ดู พอยกมือขึ้นมาปั๊บ เด็กจิ๋วก็ล่วงแพร่บลงไปกับพื้น คุณแม่เห็นก็ร้องกรี๊ดตกใจสุดขีด ทำอะไรไม่ถูก ว่าแล้วก็ตบปะป๊าไปผัวะหนึ่ง คือเวลาคุณแม่ตกใจแล้วต้องระบายออกด้วยการตบปะป๊า ปะป๊าว่าก็ไม่ค่อยเจ็บมากนะ เพราะเป็นแบบไหลลงไปมากกว่า แต่ที่หลังก็มีรอยช้ำใหญ่เหมือนกัน คุณแม่บอกว่าจะเอาแซมบัคมาทาให้ ทีแรกนึกว่ามุก มี่ที่ไหน ตกเก้าอี้แล้วทาแซมบัค แต่คุณแม่เอาสรรพคุณข้างกล่องให้ดู เค้าก็ว่าทาแก้ฟกช้ำได้จริงๆด้วย