วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

1 ขวบ 2 เดือน

วันที่ ๔๒๖ ... อังคาร ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ 

วันนี้เป็นวันเกิดเด็กจิ๋วครบ ๑ ขวบ ๒ เดือน ถึงจะไม่มี ๒๙ กุมภาก็ไม่เป็นไร ตอนสายๆ เด็กจิ๋วง่วงนอน อยู่ๆก็เรียก กก กก คือจะหาอี๊กบ คุณแม่ก็อุ้มพาไปหาอี๊กบ พอไปถึงก็ บอกอี๊กบว่าปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง คือให้อี๊กบกล่อมนอนให้หน่อย อี๊กบชอบร้องแพลงกล่อม เป็น เพลง ลูกสาวใครทำไมถูกใจจริงๆ ส่งสายตาให้กันปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง เด็กจิ๋วก็จำแต่ปิ๊งปิ๊งปิ๊ง นั่นแหล่ะ วันนี้คุณแม่โวยวายอีกแล้ว เจอบัตรเครดิตปะป๊าอยู่ในกองหนังสือ มันเสี่ยง ต่อการหายสาบสูญมากเลยรู้ไม๊เด็กจิ๋ว ปกติตอนเย็นๆปะป๊าจะชอบอุ้มเด็กจิ๋วไปเล่น กับจาน่า ไจโรที่บ้านอาม่า วันนี้ก็ไป สังเกตุว่าเวลาเด็กจิ๋วอยู่กับจาน่าไจโร เด็กจิ๋วจะ กลายเป็นเด็กนิ่งเงียบ ไม่กรี๊ดเหมือนเวลาอยู่กับพวกเรา นั่งนิ่งๆแล้วก็จ้องมองพี่ๆเล่น กัน แต่จาน่าไจโรไม่ได้นิ่งเงียบด้วยนะ จะออกแนวเอะอะโวยวาย 

วันที่ ๔๒๗ ... พุธ ๒ มีนาคม ๒๕๕๔ 

เช้านี้เด็กจิ๋วตื่นแต่แปดโมง เป็นเพราะว่าเมื่อคืนนอนตั้งแต่สองทุ่ม ตื่นมาวันนี้ไม่เรียก หาปะป๊าเลยทั้งๆที่ปะป๊านอนอยู่ข้างๆ แต่เรียกหาแม่ บอก แม่ หม่ำ หม่ำ คือหิวอ่ะ ถ้า หิวก็จะหาแม่ เช้านี้เสื้อผ้าล็อตใหม่ซักมาแล้ว วันก่อนไปซื้อกันที่ชาลอม มีลดประจำปี ได้เสื้อผ้ามาอีกเกือบสิบตัว ช่วงนี้เป็นช่วงอยู่ตัวของเด็กจิ๋ว เสื้อผ้าล็อตเก่าใส่มาหลาย เดือนแล้วยังไม่คับเลย ใส่ทุกวันทุกวันเริ่มซ้ำไปซ้ำมา เลยต้องไปซื้อมาเพิ่ม ส่วนใหญ่ ก็จะเลือกยี่ห้อ Le Petit นั่นแหล่ะ เป็นยี่ห้อโปรดประจำตัว ใส่เสื้อใหม่ ทำผมใหม่ คุณ แม่ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะมัดแกละสองข้างสำเร็จ พอลงมาข้างล่าง อี๊กบบอกว่ามัดผม แบบนี้แล้วหน้าเหมือนเด็กเกรียนในเรื่องนีโม่ แล้ววันนี้เด็กจิ๋วก็กรี๊ด กรี๊ด หนักมากด้วย ยิ่งเหมือนเข้าไปกันใหญ่ อี๊กบเลยจัดการแกะผมออกมัดใหม่ บอกว่าเผื่อจะได้หายกรี๊ด แต่...ไม่สำเร็จ ยังคงกรี๊ดหนักต่อเนื่องมาก คุณแม่บอกว่าทีหลังไม่พาไปเที่ยวแล้วนะ ไปเที่ยวทีไร กลับมาคึกทุกที 


วันที่ ๔๒๘ ... พฤหัส ๓ มีนาคม ๒๕๕๔ 

วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของปะป๊ากับคุณแม่นะ ๙ ปีแล้ว ถ้าเมื่อก่อนมีไปฮานิมูน รอบ ๒ รอบ ๓ หรือไปนั่งกินข้าวกัน แต่ครั้งนี้เปลี่ยนใหม่เป็นพาเด็กจิ๋วไปฉีดวัคซีนที่ โรงพยาบาลแทน สิ่งที่หวั่นใจก็เกิดขึ้นจริงๆ วันนี้เด็กจิ๋วกรี๊ดลั่นโรงพยาบาลเลย เด็ก คนอื่นๆไม่มีแบบนี้ ถามคุณหมอแล้วว่าทำยังไงดี คุณหมอก็รีบว่ากลับมาเลยว่า ดูหน้า คุณพ่อกับคุณแม่แล้ว เด็กจิ๋วต้องเป็นใหญ่ในบ้านใช่ไม๊ เวลากรี๊ดก็จะตามใจจริงไม๊ เด็กจิ๋วรีบตอบเลยว่า...จริง ก็ไม่เชิงนะคุณหมอ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ คุณหมอบอกว่าต้อง ใช้ไม้แข็ง โอเค เดี๋ยวปะป๊าจะปรับโหมดโหดแล้วนะต่อไปนี้ ถ้ากรี๊ดจะเอาของก็ต้อง ปล่อยให้กรี๊ดไปไม่ตามใจ อันที่จริงคุณแม่อ่านตามคู่มือมาก็ทำนองนี้แหล่ะ แต่มัน ทำยาก ปกติเด็กจิ๋วจะให้ความร่วมมือดีเวลามาตรวจกับคุณหมอ แต่วันนี้นอกจากจะ กรี๊ดแล้ว ยังไม่ยอมกินไอติม ไม่ยอมฟังเพลงของคุณหมอด้วย ตอนฉีดยาก็กรี๊ดลั่น ออกมาทีหนึ่ง ปะป๊าต้องรีบบอกว่าหมอทำนะ ไม่ใช่ปะป๊าทำ ตอนนี้ส่วนสูงของเด็กจิ๋ว พอได้ตามเกณฑ์แล้ว น้ำหนักยังเป็นปัญหาอยู่ คราวที่แล้วขาดไปนิดหน่อย แต่ครั้งนี้ ขาดไปเยอะเหมือนกัน วันนี้ชั่งได้ ๙.๒ คุณหมอบอกว่าต้อง ๑๐ กว่าแนะ เลยว่าเดี๋ยว ต้องไปซื้อนม Pedia Sure มาขุนทำน้ำหนักหน่อยแล้ว ตอนบ่ายปะป๊ากับคุณแม่ออก ไปกินข้าวข้างนอก อี๊ป้อมบอกว่าเด็กจิ๋วเดินเองปล่อยมือได้หลายก้าวเลย สงสัยเป็น เพราะตอนเช้าที่โรงพยาบาล ปะป๊าจับมือเดินไปเดินมาอยู่นาน ตอนเย็นไปซื้อ PDA sure มาให้เด็กจิ๋วแล้ว ลองป้อนดูยังไม่ค่อยเห็นผล เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เด็กจิ๋วไม่ ยอมกินนม พอเห็นขวดนมก็ส่ายหน้าแล้ว ลองเอาใส่แก้วให้ดูด ก็ดูดได้พอประมาณ ตอนดึกปะป๊าทำงานอยู่ที่ออฟฟิต ให้คุณแม่กับอี๊ป้อมจัดการเด็กจิ๋วไป คุณแม่บอกว่า เด็กจิ๋วเล่นๆอยู่ก็หันมาถามหาปะป๊า รู้ว่าปะป๊าหายไป ตอนมื้อนมก็ไม่ยอมกินนม จับ ขวดนมมาแล้วเขวี้ยงทิ้ง กินแต่น้ำ คุณแม่แกล้งเอานมใส่ขวดน้ำ เด็กจิ๋วก็รู้ทันอีกไม่ ยอมกิน จน ๔ ทุ่มเริ่มง่วงจัด มาขอนมคุณแม่ดูด คุณแม่ก็ไม่เชื่อแล้วคิดว่าจะเอาไป เขวี้ยงทิ้งอีก แต่ครั้งนี้เด็กจิ๋วแย่งนมไปได้ก็เอาไปดูดแล้วก็หลับไป 

วันที่ ๔๒๙ ... ศุกร์ ๔ มีนาคม ๒๕๕๔ 



มื้อนมตอนสาย เด็กจิ๋วก็ไม่ยอมกินนมอีกแล้ว พยายามจะป้อนก็ดิ้นไปดิ้นมา แต่พอ นมใหม่ Pedia Sure กระเด็นเข้าปากหยดหนึ่งเท่านั้นแหล่ะ ก็ยอมกินแต่โดยดี สงสัย นมใหม่อร่อยจริงๆ แต่โดยรวมทั้งวันก็ยังกินนมกับอาหารอยู่น้อยมาก เมื่อก่อนกินดี ทุกมื้อ เริ่มงอแงไม่กินตั้งแต่ไปเที่ยวศรีพันวานี่แหล่ะ วันนี้คุณแม่เจอแปรงสีฟันที่มัน หายสาบสูญไปนานแล้ว เจออยู่ในกล่องกิ๊บติดผม เด็กจิ๋วคงเอาไปหย่อนไว้อีกตาม เคย ตอนเย็นๆอากงอาม่าราชบุรีมาหา เอาของเล่นที่อี๊ใหญ่ซื้อมาฝากให้จิ๋วด้วย เป็น ตุ๊กตาเด็กอ่านหนังสือไปว่ายน้ำไปด้วย ช่วงนี้ปิดเทอม พี่จาน่ากับไจโร่ก็อยู่ที่บ้านทั้ง วัน แวะเวียนมาเล่นกับเด็กจิ๋วเรื่อยๆ มาเล่นบางทีก็ดี แต่บางทีมาตอนหลับแล้วมาปลุก เด็กจิ๋วก็มี บางทีก็อุ้มเด็กจิ๋วไปเล่นที่บ้านอาม่า ปะป๊าสังเกตว่าเวลาเด็กจิ๋วอยู่กับพี่ๆที่ บ้านอาม่า เด็กจิ๋วจะกลายเป็นเด็กเงียบ เรียบร้อย นั่งดูพี่ๆเล่นกัน ก็เลยคิดว่าเป็นตาม ที่คุณหมอบอกแน่ๆ ว่าเวลาเด็กจิ๋วอยู่บ้านนี้ก็จะเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน จะกรี๊ดสั่งคนนั้น คนนี้ได้ตามใจชอบ แต่เวลาอยู่บ้านอาม่า พี่จาน่ากับไจโรเป็นใหญ่สุด จะเล่นอะไรจะ กินจะนอน ดูการ์ตูน วิ่งเล่น กระโดดไปมา ก็อึกทึก เด็กจิ๋วนั่งดูหัวหดเลย 

 วันที่ ๔๓๐ ... เสาร์ ๕ มีนาคม ๒๕๕๔ 


 เช้านี้ปะป๊าตื่นมาทำอาหารให้เด็กจิ๋ว เป็นออมเล็ทซูเฟร่ ดูมาจากพี่พล คล้ายๆออมเล็ท ธรรมดาแต่แยกไข่ขาวมาตีให้ขึ้นฟอง กับใส่นมลงไปด้วย ออกมาแล้วมันก็เหมือนกับ ออมเล็ทธรรมดานั่นแหล่ะ ตั้งชื่อซะอลังการเชียว หรือเราทำอะไรผิดไปหรือเปล่า แล้ว ก็มีมันบด ใส่แครอทลงไปด้วย อันนี้นุ่มละมุนอร่อยมาก พอทำอาหารเสร็จก็จัดการยก เด็กจิ๋วให้อี๊ป้อมแล้วปะป๊ากับคุณแม่ก็ออกไปกินบุฟเฟ่กันที่ The World พักหลังๆ เวลา ไปกินบุฟเฟ่ก็ต้องพาเด็กจิ๋วไปด้วย เมื่อก่อนก็ให้นั่งรถเข็นหลอกเอาขนมให้กินพอได้ แต่เดี๋ยวนี้เลิกหวังได้เลย ไม่พอ ที่สำคัญจะไปกรี๊ดลั่นร้านเป็นแน่ เลยตัดสินใจทิ้งเด็ก จิ๋วไว้ที่บ้านดีกว่า กินเสร็จก็รีบกลับมาบ้าน ไม่ได้แวะที่ไหนเลย คิดถึงเด็กจิ๋ว แต่เดี๋ยวนี้ เด็กจิ๋วไม่งอนแล้วนะ ไม่ได้งอนมาหลายเดือนแล้ว พอกลับมาบ้าน ปะป๊ารีบทำผักโขม อบชีสให้เด็กจิ๋วเป็นมื้อเย็น แล้วก็ทำมักโรนีอบชีสให้จาน่าไจโร เด็กสองคนนี้สั่งเอาไว้ ทำเสร็จก็ต้องบริการเอาไปส่งที่บ้านลัดดารมย์ด้วย เพราะวันนี้จะไปว่ายน้ำกัน สระว่าย น้ำที่นี่ใหญ่โต เงียบ ไม่มีคน สงสัยคนในหมู่บ้านเลิกเห่อมาเล่นกันแล้ว ขนาดจาน่ากับ ไจโรก็ไม่ได้มาว่ายตั้งหลายเดือน น้ำก็อุ่นไม่เย็นเจี๊ยบแบบเวลาไปเที่ยวตามรีสอร์ท ที หลังเวลาไปเที่ยวรีสอร์ท ไม่ว่ายน้ำดีกว่า วุ่นวาย เสียเวลาด้วย เอาไว้มาว่ายที่นี่แหล่ะ วันนี้ปะป๊าพาเด็กจิ๋วเล่นน้ำนานเป็นครึ่งชั่วโมงได้ 

 วันที่ ๔๓๑ ... อาทิตย์ ๖ มีนาคม ๒๕๕๔


 เด็กจิ๋วนะ เวลาเราถามว่ามีอึ๊หรือเปล่า เด็กจิ๋วจะเอามือจับที่ก้นแล้วส่ายหัว ไม่มีไม่มี คือไม่ว่าจะมีหรือไม่มีก็ไม่เคยรับสารภาพเลย วันนี้ปะป๊าทำเต้าหู้ไข่ราดไช้เท้าขูดฝอย แล้วก็มีผัดฟักแม้วผัดไข่ให้เด็กจิ๋วกิน วันนี้เหมือนจะกินข้าวกินนมได้ดีหน่อย คือทั้ง อาทิตย์ที่ผ่านมามีปัญหามาก ลองเปลี่ยนนมเป็น Pedia Sure แล้วก็ไม่ได้กินเพิ่มขึ้น วันนี้กินนมแพะปกติก็กินได้ดี คือสรุปแล้วน่าจะเป็นเพราะฟันบนกำลังขึ้น เมื่อวานก็ เห็นอะไรขาวๆแว๊บๆไม่แน่ใจ วันนี้คุณแม่ล้วงดูแล้วบอกว่าใช่ เพิ่งจะโผล่มาได้หน่อย น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ไม่ยอมกินโน่นกินนี่ แล้วที่สำคัญอารมณ์หงุดหงิดมาก กรี๊ดๆ ตลอดเวลา แล้วสองวันมานี่ชอบเอานิ้วล้วงปากตัวเอง ก็คงจะสงสัยตัวเองว่าอะไรติด ปากเลยพยายามแคะดู ตอนบ่ายน้าเอ๋มาหาด้วย ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนสองเดือน เมื่อ ก่อนเจอก็จะชอบ หัวเราะ เล่นด้วย วันนี้ไม่เอาแล้ว ทำท่ากลัวๆ วันนี้เล่นกันอยู่ในห้อง โฮมทั้งวันเลย ขี้เกียจออกไปข้างนอก ขึ้นไปดาดฟ้ายังขี้เกียจเลย เด็กจิ๋วอยู่ในห้องนี้ จะมีเบาะปูพื้นไว้ให้เล่น เด็กจิ๋วก็เดินเล่นไปมาสนุกสนาน คือล้มยังไงก็ไม่เจ็บเพราะว่า อยู่บนเบาะ เวลาเดินก็มีหลายท่า ท่าแรกก็เดินแบบทำตัวสั่นดิ๊กๆตลกมาก ท่าที่สองนี่ เดินแบบปู คือเดินไปด้านข้างก็ตลกอีก ท่าสุดท้ายคือท่ากบ แบบนั่งอยู่แล้วพยายาม ลุกยืนพอลุกยังไม่ทันตั้งตัวได้ดีก็ก้าวเดินแล้ว เดินไปก้าวหนึ่งก็ล้มคว่ำ แต่ไม่ล้มเลิก ความพยายามนะ ก็จะลุกขึ้นมาใหม่เดินใหม่คว่ำใหม่ ไปเรื่อยๆเหมือนกบกระโดด คุณ แม่กับปะป๊าก็ไม่ได้สงสารลูกนะ หลอกให้เดินไปมาขำกันใหญ่ เอาฮา 

 วันที่ ๔๓๒ ... จันทร์ ๗ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อคืนเด็กจิ๋วไอหลายครั้ง ตอนเช้ามืดตัวร้อนจี๋ ตอนเช้าคุณแม่เอายาลดไข้ให้กิน สายๆก็ดีขึ้น แต่ก็ยังตัวอุ่นๆอยู่ เดาว่าเป็นไข้จากฟันขึ้น เพราะตามคู่มือก็มีบอกไว้ ไม่มีน้ำมูกไม่เหมือนเป็นหวัด วันนี้ไม่สบายแต่ไม่ออกแนวกรี๊ด คงไม่มีแรง แต่ว่า จะติดปะป๊ากับคุณแม่ ไม่ยอมให้คนอื่นอุ้ม แล้วก็ติดหมีหมีมาก ตั้งแต่ลุกจากเตียง ก็กอดไว้ทั้งวันไม่ยอมปล่อย พยายามจะไปซ่อนเพราะกลัวจะเลอะ แต่ก็ไม่สำเร็จ ตอนเย็นๆเริ่มคิดว่าไม่น่าจะเป็นไข้จากที่ฟันขึ้นแล้วล่ะ ก็น่าจะเป็นหวัดนี่แหล่ะ แต่ อยู่ดีๆเป็นได้ไง ไม่มีใครแถวนี้เป็นด้วย ตอนนี้ยังไม่มีน้ำมูกแต่ตัวก็ยังร้อน ไอเป็น ระยะๆคุณแม่ก็เอายาอะไรให้กินบ้างก็ไม่รู้ ถ้าคืนนี้ยังไม่ดีขึ้น พรุ่งนี้ต้องพาไปหา หมอแล้ว ตอนกินข้าวมื้อดึก ก็พยายามเอาหมีหมีไปซ่อน เพราะถ้าเด็กจิ๋วกินข้าว ไปด้วยกอดหมีหมีไปด้วย มันต้องเละแน่ๆ แล้วซักก็ไม่ได้ด้วย เดี๋ยวเด็กจิ๋วไม่พอ ใจอีก ปะป๊าก็หลอกล่อแอบเอาหมีหมียัดใส่เสื้อแล้วไปปล่อยไว้ที่ห้องนั่งเล่น เด็ก จิ๋วอยู่ในครัวก็กินข้าวไป กินไปกินมาก็ร้องหมีหมี หมีหมี เราก็อะไรอ่ะ เอาไปซ่อน แล้วยังหาหมีหมีอีก ปรากฎว่าเด็กจิ๋วมองทะลุกระจกสองชั้นจากห้องครัวไปเห็น หมีหมีที่วางอยู่ไกลๆตรงห้องนั่งเล่น โอโห ทำไมตาดีจังอ่ะ คือมันไม่น่าจะเห็นอ่ะ 

วันที่ ๔๓๓ ... อังคาร ๘ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อคืนเด็กจิ๋วตื่นทั้งคืนเลย เริ่มมีน้ำมูกแล้ว นอนไม่ค่อยได้ ตอนเช้าตัวยังร้อนจี๋อยู่ ปะป๊าไปหาลูกค้าข้างนอกกลับเข้ามาเที่ยงจะพาไปหาหมอ แต่ตอนเที่ยงก็อาการดี ขึ้นแล้วเลยไม่ได้ไป ตัวไม่ร้อนจี๋แล้ว น้ำมูกก็ไม่ค่อยมี สลบสไลทั้งวันเลย เมายา พี่จาน่ากับไจโรก็มาเล่นด้วย แต่ไม่อยากให้ใกล้กันเดี๋ยวติดหวัดเด็กจิ๋วไป เลยเล่น กันผ่านประตูกระจกออฟฟิต ตอนนี้มีปัญหาการป้อนยามาก คือเมื่อก่อนก็มีอยู่แล้ว เวลากินยาต้องจับล็อคคอฉีดยาเข้าปาก แต่ตอนนี้เด็กจิ๋วคิดค้นท่าแก้ใหม่ เวลาเรา ฉีดยาเข้าปากได้แล้ว เด็กจิ๋วจะอมไว้ปั๊บหนึ่งแล้วค่อยบ้วนพุ่งปี๊ดออกมา ตอนเย็นก็ เป็นบ้วนปี๊ดบ้วนปี๊ดไม่สำเร็จ เลยลองเอายาผสมน้ำให้ดูดหลอด พอเด็กจิ๋วดูดได้คำ หนึ่งก็บ้วนออกมาอีก เล่นซะจนยาหมดขวดแล้ว สุดท้ายต้องใช้ช้อนใส่น้ำแข็งเล็กๆ แล้วหยอดยาลงไปป้อนเด็กจิ๋ว คือเอาน้ำแข็งล่อเพราะเด็กจิ๋วชอบกินน้ำแข็งมาก ก็ พอได้นะ แต่หลังๆเด็กจิ๋วก็งับน้ำแข็งไปแล้วบ้วนเฉพาะยาออกมาอีก 

วันที่ ๔๓๔ ... พุธ ๙ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อวานเหมือนอาการจะดีขึ้น แต่เช้านี้เด็กจิ๋วก็ตัวร้อนจี๋อีกแล้ว เลยพาไปวิภาวดี พอไปถึง พยาบาลบอกว่าตัวร้อน ๓๘ กว่า ต้องรีบพาไปเช็ดตัวแล้วกินยา กันเด็ก ช็อค เราก็ลืมกันไปเลยนะว่าเด็กไข้สูงแล้วมีช็อค อยู่บ้านก็ไม่เคยเช็ดตัว นอกจาก ตอนเวลาอาบน้ำ ระหว่างพยาบาลกำลังเช็ดตัวให้อยู่ เด็กจิ๋วไม่ยอม กรี๊ด กรี๊ด จน อ้วกออกมา เสร็จแล้วก็ป้อนยาลดไข้ให้ นึกว่าพยาบาลจะมีวิธีอะไรเด็ดๆมาใช้ ก็ ใช้วิธีเดียวกันนั่นแหล่ะ ช่วยกันจับขึงไว้ แต่ว่าแย่หนักตรงที่พยาบาลค่อยๆบีบยา เข้าปากทีละนิด นิดมาก กว่าจะหมดหลอดก็เป็นนาที เด็กจิ๋วเลยต้องเสียน้ำตาไป เยอะหน่อย แต่เทียบไม่ได้กับตอนถูกจับตรวจน้ำมูกับตรวจเลือด ก็คุณหมอดันมา สงสัยว่าจะเป็นโน่นเป็นนี่ไม๊ เลยให้เอาไปตรวจแล็บ เราก็ไม่รู้ว่าเวลาเก็บน้ำมูกอ่ะ มันจะทารุนขนาดนี้ พยาบาลเค้าใช้ค้อตต้อนบัดแบบยาวๆแยงเข้าไปในจมูกลึกๆ ไม่รู้ว่ามันเจ็บหรือเปล่า แต่เด็กจิ๋วร้องจ๊ากๆ จ๊ากๆ ต่อด้วยตรวจเลือด ก็ไม่รู้อีกว่า เวลาเก็บเลือดเด็กมันจะโหดร้ายปานนี้ เค้าใช้เข็มเจาะปลายนิ้ว แล้วบีบนิ้วเค้นเอา เลือดออกมาจนเต็มหลอด เด็กจิ๋วร้องไห้ตั้งแต่เข้าไปในห้องแล้ว ยังไม่ทันจะโดน เจาะเลยก็ร้องจ๊ากจ๊ากๆ แล้วก็ร้องไปเรื่อยๆดังลั่นโรงพยาบาลอยู่นานกว่าจะเสร็จ แต่ผลปรากฎว่าเป็นหวัดธรรมดา คือที่ทรมานเด็กจิ๋วกันมาตั้งนานก็ทำเก้ออ่ะ พอ กลับมาบ้าน ทีนี้ได้ยามาเต็มสตรีม ๔ หลอด กว่าจะป้อนหมดที เด็กจิ๋วก็เสียน้ำตา ไปเยอะมาก 

วันที่ ๔๓๕ ... พฤหัส ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อคืนเด็กจิ๋วหลับแล้วแต่มีอาการไอแบบมีเสมหะต่อเนื่อง ไอแรงขึ้นๆเรื่่อยๆจน ปะป๊าคิดว่าคงไม่ไหวแล้วล่ะ พอไปอุ้มขึ้นมา เด็กจิ๋วก็อ้วกใส่หมอนหมีที่กอดไว้ หลังจากนั้นก็อ้วกพุ่งใหญ่ตามมาอีกหนึ่งระลอก ยาที่กว่าจะป้อนเข้าไปด้วยความ ยากลำบากคงออกมาหมดแน่ๆ แล้วที่สำคัญคือหมอนหมีสุดที่รักเละไปแล้ว คืน นี้จะทำยังไง เพราะถ้าขาดหมีเหมือนขาดใจ ต้องกอดถึงจะหลับ แล้วตอนดึกก็ มีชอบละเมอลุกขึ้นมาควานหาหมีหมี คุณแม่ต้องหยิบไปส่งให้ถึงจะยอมนอนต่อ เมื่อคืนคุณแม่เลยรีบคว้านไส้ในหมีหมีออก แล้วเอาไปซัก อบจนแห้งแล้วเอาไส้ มายัดใหม่ คราวนี้เปลี่ยนเป็นใช้ไยดูป๊อง ยัดเสร็จแล้วก็น่าตาดี แต่จับดูแล้วมันจะ เป็นเม็ดๆ แล้วที่สำคัญกลิ่นหมีหมีของเด็กจิ๋วเปลี่ยนไปแล้ว ต้องลุ้นว่าจะโวยวาย เหมือนคราวที่แล้วไม๊ ตอนเช้าตื่นมาเด็กจิ๋วก็ไม่โวยวายเรื่องหมีๆ ก็คงกอดติดไม่ ปล่อยทั้งวันเหมือนเดิม มีแบบร้องหาหมีหมี หมีหมี หันซ้ายหันขวาหาไม่เจอร้อง ไห้ แต่ปรากฎว่าหมีหมีก็อยู่ที่มือเด็กจิ๋วนั่นแหล่ะ กอดไว้แท้ๆแต่หาไม่เจอ 

วันที่ ๔๓๖ ... ศุกร์ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อคืนเด็กจิ๋วเล่นปะป๊ากับคุณแม่ซะแย่เลย เด็กจิ๋วมีอาการเหมือนเสมหะเยอะ ไอ ไอ จนตื่นขึ้นมาร้องจ๊ากๆปะป๊ากับคุณแม่ก็ต้องอุ้มขึ้นมากล่อม กล่อมสิบนาทีวาง นอนได้สินนาทีก็ร้องอีก บางทีกล่อมไปครึ่งชั่วโมงกว่าจะยอมหลับ แต่พอช่วงตี ๔ เริ่มนอนได้นานหน่อยประมาณชั่วโมงหนึ่งได้ วันนี้อาการยังเหมือนเดิม คือกิน ยาเข้าไปก็จะดี มีแรงเล่นโน่นนี่ แต่พอยาหมดฤทธิ์ก็อาการแย่อีก วันนี้ไม่กินข้าว ขนมก็ไม่กิน กินแต่นมอย่างเดียว ตอนเย็นที่ป้อนยาเด็กจิ๋ว คุณแม่เริ่มรู้ทันแล้วสั่ง ให้แก้ผ้ากันทั้งพ่อทั้งลูกเลย กลัวว่าอ้วกแล้วขี้เกียจซักเสื้อ พอเด็กจิ๋วกินยาครบ ทุกขนานเสร็จ ก็ได้เรื่องจริงๆ อ้วกออกมาอีกตามเคย คือจะอ้วกเฉพาะมื้อเย็นนะ เพราะตอนเย็นต้องกินยาครบทุกตัว ๔ หลอด แต่อาม่าบอกว่าอ้วกออกมาแล้วก็ ดีนะเพราะเสมหะจะหลุดออกมาด้วย ตอนกินนมมื้อก่อนนอน เด็กจิ๋วไม่ยอมกินอีก แล้ว เมื่อวานก็เป็น คือคิดว่าจะมาป้อนยาอีก กลัวจนลนลาน ไม่ยอมให้ป้อน แต่ก็ พยายามยัดเข้าไป พอได้ดูดแล้วรู้ว่าเป็นนมถึงจะยอม 

วันที่ ๔๓๗ ... เสาร์ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๔ 


วันนี้ปะป๊าทำอาหารทั้งวันอีกแล้ว ทำอาหาร ๗ อย่าง น้ำสต๊อก ๒ สูตร แล้วก็ซุป อีก ๓ ชนิด เดี๋ยวคุณแม่จะไปจัดมหกรรมการแช่แข็งครั้งยิ่งใหญ่ เด็กจิ๋วดูอาการ ดีขึ้น ร่าเริงเชียว แต่ก็ยังมีเสมหะอยู่ นี่เป็นการป่วยครั้งที่ ๔ ของเด็กจิ๋ว แต่ว่าเป็น ครั้งแรกที่มีเสมหะ ก็นึกถึงเวลาเราป่วยแล้วมีเสมหะมันทรมารจริงๆด้วย ไม่รู้เด็ก จะเป็นมากกว่าเราเพราะยังเด็กอยู่ หรือจะไม่ค่อยรู้สึกเพราะวันๆเล่นโน่นเล่นนี่ไป ตอนเที่ยงๆพี่ๆมากันเต็มบ้านเลย พี่โฮไอ เจ๊นิว กับเจ๊แนนมาเล่นด้วย เวลาเด็กมา กันเยอะๆแบบนี้ก็ดีไปอย่าง ตรงที่เด็กจิ๋วจะกลับเป็นฝ่ายนิ่งๆ ดูพี่ๆเล่นกัน ไม่ค่อย กรี๊ดกรี๊ด วันนี้เด็กจิ๋วดูรายการทำอาหารในทีวี ก็จะพูดว่าหม่ำหม่ำ แต่ไม่ได้อยาก จะหม่ำจริงหรอก แล้วเวลาเล่นในห้องโฮมแล้วคลานไปเจอตู้โชว์ที่มีของเล่นคุณ แม่เป็นตุ๊กตาจิ๋วกับชุดทำอาหาร เด็กจิ๋วก็จะพูดหม่ำหม่ำทุกครั้ง 

วันที่ ๔๓๘ ... อาทิตย์ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อวานก็เป็น วันนี้ก็เป็น เด็กจิ๋วได้แต่พูดแต่ ไป ไป โย โย พูดทั้งวันตลอดเวลา ไอ้ไป ไป นี่ก็พอเข้าใจว่าจะให้พาออกไปเที่ยว แต่โย โย นี่ไม่รู้หมายถึงอะไร ก็ ตามปกติแล้วน่าจะเป็น ไจโร เพราะเด็กจิ๋วเรียกไจโรว่า โย โย แต่ไม่น่าจะอยาก หาไจโรขนาดนี้นะ ถามว่าใช่ไจโรกับจาน่าไม๊ เด็กจิ๋วก็ตอบไม่รู้เรื่อง เวลาถามว่า ใช่ไม๊ ก็พยักหน้ามั่ว เวลาถามว่า จริงไม๊ ก็จะตอบว่าจริง มั่วอีกเหมือนกัน เด็กจิ๋ว ไม่ได้ออกไปเที่ยวนอกบ้านมาหลายวันแล้วตั้งแต่ป่วย น่าสงสารมาก ปกติจะได้ ออกไปเที่ยวเกือบทุกวัน ช่วงนี้เด็กจิ๋วมีอาการชอบหยิกคน คุณแม่เจอเยอะมาก ทะเลาะกับเด็กจิ๋วหลายรอบแล้ว ก็ไม่หาย อี๊ป้อมก็โด่น แต่เด็กจิ๋วไม่กล้าหยิกปะ ป๊า บางทีทำท่าเหมือนจะหยิกแล้วก็ชะงัก ไม่กล้าทำ แต่ก็มีเผลอๆบ้าง วันนี้โด่น หยิกที่หน้าอก จะไม่เชิงหยิกนะ เหมือนเอาเล็บมาขูดมากกว่า คุณแม่ชอบเจอที่ หน้า ตอนนี้เสียโฉมไปแล้ว จะว่าไม่ดุก็ไม่ใช่นะ เพราะคุณแม่ก็ดุโหดๆไปหลายที แต่เด็กจิ๋วก็ยังทำอีก 

วันที่ ๔๓๙ ... จันทร์ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ 


ตอนนี้อี๊กบติดหวัดเด็กจิ๋วไปแล้ว ไจโรก็เป็นหวัดแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นก่อนหรือ เป็นหลังเด็กจิ๋ว ติดกันมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้อากงอาม่าราชบุรีมาหา มาได้ ปั๊บเดียวเด็กจิ๋วก็หลับ ช่วงนี้กินยาก็จะหลับทั้งวันทั้งคืน วันนี้ลองลดยาจาก ๓ มื้อเหลือ ๒ มื้อพอ เพราะสงสารเด็กจิ๋ว อี๊กบเอาไซลิ้งยามาดูดน้ำฉีดใส่ปาก ให้เด็กจิ๋วกิน เด็กจิ๋วก็ชอบ กินใหญ่เลย แต่พอเปลี่ยนเป็นยาแล้วดันรู้อีก ไม่ ยอมกิน เวลาป่วยแบบนี้ไม่ค่อยยอมกินอาหาร กินแต่นม ปะป๊าทำอะไรมาก็ ไม่ยอมกิน ข้าวต้มหมูหยองก็เหมือนจะเบื่อแล้ว วันนี้เลยไปซื้อซาลาเปามา ให้ ซาลาเปานี่กินยังไงก็ไม่เบื่อ ซาลาเปาวราภรณ์ที่โลตัส เด็กจิ๋วชอบกินไส้ เผือกที่สุด วันนี้ยังเหลืออาการมีเสมหะกับมีน้ำมูกอยู่ การเช็ดน้ำมูกเด็กจิ๋วก็ เป็นเรื่องที่ใหญ่ไม่แพ้การกินยา เด็กจิ๋วจะหวงขี้มูกมาก เวลาใครมาแตะโด่น ก็จะกรี๊ดกรี๊ดกรี๊ด เวลาเด็กจิ๋วร้องไห้จะชอบบีบน้ำตากระเด็น ที่เค้าพูดกันว่า บีบน้ำตา ปะป๊าเพิ่งมาเข้าใจนี่เอง คือเด็กจิ๋วนี่เหมือนสั่งน้ำตาได้อย่างกับนาง เอกหนังไทย แค่กระพริบตาลงเบาๆ น้ำตาก็กระเด็นพุ่งปี๊ดออกมาเป็นเม็ดๆ เมื่อคืนเล่นกันอยู่ในห้องโฮม คุณแม่สงสัยว่าเด็กจิ๋วจะอึ๊หรือเปล่า ก็ยังไม่ได้ พูดอะไร แค่ก้มหัวลงไปดมก้น เด็กจิ๋วรีบเอามือจับก้น แล้วบอกว่าไม่มีไม่มี 

วันที่ ๔๔๐ ... อังคาร ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อวานเพิ่งบอกว่าหลอกเอาไซลิ้งดูดน้ำให้เด็กจิ๋วกิน พอเปลี่ยนเป็นยาแล้ว ไม่กิน วันนี้คุณแม่คิดวิธีแก้เกมส์มาใหม่ เอาไซลิ้งดูดน้ำให้กินเพลินๆไปก่อน เพลินไปเพลินมา เผลอๆ ก็เอาไซลิ้งค์ยาฉีดอัดเข้าไป เด็กจิ๋วก็งงๆงงๆไม่ทัน ตั้งตัว คุณแม่ก็ฉีดไซลิ้งค์น้ำเข้าไปอีก เด็กจิ๋วก็กินน้ำต่อ คงจะคิดว่าเมื่อกี้คิด ไปเอง กลับมากินน้ำเพลินๆต่อ เพลินแล้วคุณแม่ก็ฉีดยาใหม่ จนหมดหลอด ได้โดยไม่เสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว ไม่บ้วนออกมาเลอะเทอะด้วย แต่วิธีนี้ก็ คงจะใช้ได้ไม่บ่อยหรอก เด็กจิ๋วเค้าไหวตัวเร็ว ตอนเย็นลองดูอีกที ปกติมื้อนี้ ต้องป้อนยา ๓ ขนาน คุณแม่ก็ลองใช้วิธีเดิม ปรากฎว่าใช้การได้ดีแหะ มีบ้วน มาบ้างแต่ก็ยังน้อยกว่าแบบขืนใจ ใช้วิธีหลอกล่อสลับไปมาระหว่างน้ำเปล่า กับยา บางครั้งเด็กจิ๋วจะอมไว้ก่อนถ้าเป็นยาก็จะบ้วน ถ้าเป็นน้ำถึงจะกลืนแต่ ด้วยความที่เราหลอกล่อไปมาไปมาจนเด็กจิ๋วก็งงไปด้วยเลยกลืนผิดกลืนถูก ได้ยาไปก็เยอะ วันนี้เด็กจิ๋วเจริญอาหารกับเจริญนมดีมาก กินนมหมดจนหมด ขวดแล้วมีการขอเพิ่มอีก เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก 

วันที่ ๔๔๑ ... พุธ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อคืนอยู่ดีๆฝนก็ตกหนัก เช้านี้อากาศหนาว ออกมานอกห้องอากาศหนาว กว่าตอนอยู่ในห้องแอร์อีก ปะป๊ากับคุณแม่ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เด็กจิ๋วดิ่เพิ่ง จะอาการดีขึ้น เจออากาศเปลี่ยนแปลงก็เลยอาการกำเริบ ตัวร้อน มีไข้ ๓๗ กว่า ต้องกลับมากินยาแก้ไขอีก วันนี้ให้กินยาแบบหลอกล่อไปมาเหมือนที่ เมื่อวานทำไม่ได้แล้ว เด็กจิ๋วรู้ทัน ขนาดมีหลอดหนึ่งใส่น้ำเปล่า อีกหลอดก็ ใส่ยาสีใส เหมือนกันเปะแต่พอเอามาใกล้ๆเด็กจิ๋วได้กลิ่นก็รู้ทันทีไม่ยอมกิน ยา ก็เลยต้องกลับไปใช้วิธีบีบบังคับเหมือนเดิม 

 วันที่ ๔๔๒ ... พฤหัส ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๔


เมื่อคืนเด็กจิ๋วตัวร้อนจี๋ ตอนตีสามต้องลุกขึ้นมาเช็ดตัวกัน ตอนเช้าเลยพาไป หาหมออีกที คุณหมอตอนแรกเจอก็ตกใจ นึกว่าไข้ไม่ลดเลยมาเป็นอาทติย์ ถ้าอย่างงั้นก็อาการสาหัสแล้ว แต่หลังจากมาหาหมอวันนั้น ไข้ก็หายไปแล้ว เพิ่งมาขึ้นใหม่เมื่อวานเอง คุณหมอเลยคิดว่าอาจจะติดเชื้อตัวใหม่ แบบนี้ต้อง ตรวจแล็ปใหม่อีกครั้ง โห สาหัสพอกันเลย คุณหมอใจดีลดโทษให้กึ่งหนึ่งไม่ ต้องจิ้มน้ำมูกแค่เจาะตรวจเลือดอย่างเดียว เด็กจิ๋วเจอพยาบาลคนเดิม กรี๊ดก็ เหมือนเดิม ที่จริงพยาบาลคนนี้ก็เจาะคุณแม่มาพรุนแล้วเหมือนกัน โหดเหี้ยม มาก ผลเลือดบอกว่าเป็นเชื้อตัวใหม่จริงๆ ก็ต้องกินยากันใหม่อีกชุดหนึ่ง เด็ก จิ๋วความซวยมาเยือนจริงๆ ปะป๊าพยายามขอคุณหมอว่าไม่กินยาได้ไม๊ฉีดอัด เข้าไปเลย คุณหมอก็ว่าจะฉีดให้อยู่แล้วเพราะคอแดงมาก ตัวก็ร้อนจี๋ แต่ยาก็ ยังต้องกินอยู่ดีนะ เพราะมันมีตั้งหลายขนาน นี่โชคดีแล้วนะ เพราะเด็กอีกคน ที่อายุเท่าเด็กจิ๋ว มาหาหมอวันนี้พร้อมกัน ไปเช็ดตัว กรอกยา แข่งกันกรี๊ดลั่น โรงพยาบาลมาด้วยกัน ตอนนี้แอ็ดมิดไปแล้ว 

วันที่ ๔๔๓ ... ศุกร์ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔ 


คุณแม่บอกว่าเด็กจิ๋วเป็นโรคทำอะไรไม่มีพอดีแบบปะป๊า บางวันไม่กินข้าวพอ อีกวันก็กินกินไม่หยุด บางวันไม่กินนมแต่อยู่ดีๆอยากจะกินก็กินแบบหมดแล้ว ต้องขอเพิ่ม น้ำก็เหมือนกัน บางวันกินเยอะหลายขวด บางวันก็ไม่กินเลย เมื่อ วานนี้ไม่ยอมกินนมเลยครึ่งวัน สาเหตุหนึ่งก็น่าจะมาจากที่เด็กจิ๋วกลัวว่าจะป้อน ยาอีก คือถ้าจับนอนปั๊บก็กรี๊ดก่อนเลย กลัวว่าจะเป็นยาไว้ก่อน บางทีก็เหมือน จะหิว ตัวก็บอก นม นม คือจะกินนม แต่พอเอามาป้อนก็วิ่งหนี วันนี้อาการดีขึ้น นะ น้ำมูกเหลือน้อยแล้ว ตัวไม่ร้อน มีแรงอาละวาดได้ แต่อากาศวันนี้ยังหนาว เย็นอยู่ เป็นมาสามวันก็ไม่รู้ว่าทำให้เด็กจิ๋วป่วยรอบสองนี้หรือเปล่า หรือไปติด เชื้่อตัวใหม่มาจากใครก็งงๆอยู่ เด็กจิ๋วไม่ได้อาบน้ำมาสองวันแล้ว ใช้เช็ดตัวเอา อากาศหนาวเย็นราวกับว่าอยู่เมืองนอกกันเลยทีเดียว เมื่อคืนนอนแบบไม่เปิด แอร์ด้วย แต่วันนี้ต้องอาบแล้ว หัวเหม็นมาก วันนี้อาบเร็วหน่อย เพราะตอน ๒ ทุ่มพากันออกไปรับโซ่ยโกวที่สุวรรณภูมิ โซ่ยโกวคือน้องสาวอากงอยู่ฮ่องกง แต่มาอยู่เมืองไทยเป็นระยะๆมาทีหนึ่งก็หลายเดือน โซ่ยโกวก็เลี้ยงจาน่าไจโร มา แต่ยังไม่เคยเจอกับเด็กจิ๋วเลย จะได้เจอกันครั้งแรกวันนี้แหล่ะ ดูเหมือนว่า อาการป่วยของเด็กจิ๋วจะหายแล้วนะ ที่สนามบินอากาศหนาวเย็น ลมแรงด้วย ไม่ใช่ว่ากลับบ้านไป ป่วยอีกรอบนะ เด็กจิ๋วเจอโซ่ยโกวแล้วไม่ทักไม่ยิ้มได้แต่ ทำหน้างงๆ 

วันที่ ๔๔๔ ... เสาร์ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๔ 


วันนี้ทุกคนเค้าไปเชงเม้งกัน แต่ปะป๊าคุณแม่กับเด็กจิ๋วอยู่บ้าน เพราะเด็กจิ๋วเพิ่ง หายป่วยไม่อยากให้ไปตรากตรำ ไปเชงเม้งนี่ตรากตรำตรงที่ต้องไปนั่งกินของ ไหว้กลางแดดเปรี้ยงๆหน้าหลุมศพ ทั้งร้อน ควัน ฝุ่น ประทัด ของสิ่งเดียวที่ทุก คนเฝ้ารอคือรถเข็นขายไอติม เด็กจิ๋วยังไม่เคยไปเลย ปีหน้าคงไม่มีข้ออ้างแล้ว นะ เมื่อวานไปปะป๊ากับคุณแม่ไปงานรักลูกแฟร์มา ก็ได้ของใช้นิดหน่อย แล้วก็ ของเล่นนิดหน่อย แต่ชิ้นใหญ่มาก เป็นบ้านลมแบบที่เค้าเอาไปออกงานวัดให้ เด็กปีนขึ้นไปกระโดดๆ สไลด์ลื่นลงมา เช้านี้รีบเอาไปติดตั้ง เสียบปลั๊ก มอเตอร์ ทำงาน ปั๊บเดียวบ้านลมก็พองขึ้นใหญ่โตคับสนามเด็กเล่นอยู่เหมือนกัน ต้องจัด สถานที่กันใหม่วุ่นวาย แต่เด็กจิ๋วเล่นไม่เป็นอ่ะ จับเข้าไปนั่งก็ไม่ยอมกระโดดได้ แต่คลานออกมาจิ้มลายลูกโป่งหน้าบ้านแล้วบอก โปง โปง ตอนเย็นพี่ๆกลับมา จากเชงเม้งก็มาเล่นบ้านลมกัน แต่จาน่ากับไจโรไม่มาเพราะไปค้างที่ชลบุรี เจ๊ นิวกับเจ๊แนนเป็นเด็กหญิงเรียบร้อย ขึ้นไปกระโดด ๒ ๓ ทีก็ลงไปนั่งนิ่งๆ เดี๋ยว ต้องรอตัวจริงอย่างจาน่ากับไจโรมา รับรองได้กระโดดกันมันส์แน่ 

วันที่ ๔๔๕ ... อาทิตย์ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๔ 


วันนี้เด็กจิ๋วเป็นบ้าไปแล้ว เหมือนเก็บกดจากที่ป่วยมาสองอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เช้า ปะป๊าทำมักโรนีผัดไข่กับเสต็กปลาทอดให้เด็กจิ๋วกิน กะว่ากินมื้อละอย่าง แต่ว่า เด็กจิ๋วเล่นกินทั้งสองอย่างเลย ยังไม่พอ มาแย่งอาหารของปะป๊ากับคุณแม่กิน อีก เจริญอาหารแบบมากมายเหลือเกิน เรียกว่าให้ชดเชยกับตอนช่วงที่ป่วยไม่ ค่อยได้กินอะไร นมก็เหมือนกัน เรียกหากินนมตลอดทั้งวัน กินไปกินมาจนตาราง เวลาเลื่อนไปหมด บ่ายก็ไม่นอน มานอนตอนเย็น กลางคืนก็ไม่ง่วงกว่าจะหลับได้ ก็เที่ยงคืน นอกจากเรื่องกินแล้ว เด็กจิ๋วเป็นอะไรไม่รู้ หัวเราะตลอดทั้งวัน ใครทำ อะไรแปลกๆนิดหน่อยก็จะขำขำไม่หยุด ตอนเย็นพาโซ่ยโกวไปกินข้าวที่ร้านหัว ปลากช่องนนทรี ปะป๊าพาเด็กจิ๋วไปเล่นปาเป้าได้ของรางวัลเป็นนาฬิกาอาวุธยิง กระสุนได้ เอากลับมาบ้านเด็กจิ๋วชอบใหญ่เลย ยิงไม่เป็นนะ แต่ชอบเอากระสุน ใส่ลงไปในเครื่อง ใส่ไปก็หัวเราะไป เวลาเด็กจิ๋วตามเก็บกระสุนก็ขำ กระสุนมัน จะยิงไปแล้วตกหลายๆอัน บอกให้เด็กจิ๋วไปเก็บมา เด็กจิ๋วก็คลานไปเก็บมาให้ แต่พอหยิบมือซ้ายอัน มือขวาอัน ได้แค่สองอันมือก็ไม่ว่าง แต่ยังเหลือกระสุน อยู่ที่พื้น เด็กจิ๋วไม่รู้ทำไง ต้องวางไอ้ที่อยู่ในมือก่อนแล้วไปหยิบอันใหม่ หยิบ ยังไงมันก็ไม่ครบซะทีดิ่ เด็กจิ๋วยังไม่รู้จักถือหลายอันในมือเดียว วันนี้พี่จาน่ากับ ไจโรมาเล่นบ้านลมด้วย อันนี้ซิของจริง พี่น้องสองคนกระโดดกันแบบเต็มที่เลย เด็กจิ๋วก็พยายามจะเข้าไปเล่นด้วย แต่นอนเกาะอยู่ได้แค่ปากประตูบ้าน ตัวปลิว ลอยไปมาด้วยแรงกระเด้งที่พี่ๆทำ เมื่อวานก็เรียบร้อยไป ส่วนวันนี้ก็แรงเกิน ยัง ไม่ทันไร จาน่าก็ปล่อยโฮ เพราะโดดไปมา ปากไปกระแทกกับหัวไจโร มีเลือด ออกด้วย แต่ไม่น่าเป็นอะไร 

 วันที่ ๔๔๖ ... จันทร์ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เช้านี้เด็กจิ๋วไม่ยอมตื่น ทำเสียงดังแค่ไหนก็ไม่ตื่น อุ้มลงมาออฟฟิตก็ไม่ตื่น ต้องรอซักพักถึงจะยอมตื่น วันนี้เด็กจิ๋วกลับมาสดใสร่าเริงแล้ว และไม่กรี๊ด ด้วย อย่างที่เคยบอกว่าเด็กจิ๋วจะกรี๊ดเป็นช่วงๆ ถ้าช่วงไหนกรี๊ด ก็จะกรี๊ดทั้ง วันต่อเนื่องไปหลายวัน ช่วงไหนไม่กรี๊ดก็จะไม่กรี๊ดเลย เหมือนลืมหรืออะไร ซักอย่าง อีกสมมุติฐานหนึ่งก็คือช่วงกรี๊ดอาจเป็นช่วงที่ฟันขึ้น กับช่วงที่ป่วย ตอนนี้ผ่านช่วงวิกฤตการณ์เหล่านั้นมาหมดแล้ว วันนี้เด็กจิ๋วเดินได้เก่งขึ้นจน เห็นได้ชัด หลายคนก็บอก พาไปบ้านอาม่าก็เดินไปเดินมา ชอบไปหยิบของ เล่นสุดหวงของพี่จาน่ามาเล่น พี่เค้าก็ต้องมาโวยวายทุกที พาไปเล่นที่ดาด ฟ้าก็เดินโชว์คล่องแคล่ว เย็นนี้ขึ้นมาเล่นที่สนามเด็กเล่นกันหมดบ้านเลย มี พวกเด็กๆก็มาเล่นกันตามปกติ ส่วนพวกคนแก่ขึ้นมาดูดีวีดีงานแต่งานยู้ ลูก โซ่ยโกวที่อยู่ฮ่องกงที่เพิ่งแต่งงานไป ที่จริงถ้าไม่ติดว่าเด็กจิ๋วเพิ่งเกิดตอน นั้น ปะป๊ากับคุณแม่ก็อาจไปงานแต่งที่ฮ่องกงนี้ด้วย 

 วันที่ ๔๔๗ ... อังคาร ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๔ 


วันนี้เด็กจิ๋วยังคงร่าเริง กินข้าวเก่ง กินนมเก่งเหมือนเมื่อวาน เวลากินข้าวนี่ ป้อนไม่ทัน จะคอยพุ่งตัวเข้ามางับเรื่อย แล้วกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม จนคุณแม่ ต้องบอกว่าพอได้แล้ว กินเสร็จไม่พอ มาเห็นคุณแม่กำลังกินข้าว ก็รีบคลาน มาขอหม่ำหม่ำต่ออีก เรื่องเดินก็เหมือนกัน วันนี้เดินเก่งต่อเนื่องจากเมื่อวาน มีหลายคนทักว่าเดินได้คล่องแล้ว คือตอนนี้เรียกว่าเดินได้แล้วล่ะ แต่ขึ้นอยู่ กับเด็กจิ๋วว่าอยากจะเดินหรือเปล่า เหมือนเด็กจิ๋วยังอยากลงไปคลานมากว่า เวลาเดินนี่ส่วนใหญ่เดินเท้าเปล่า เวลาใส่รองเท้าให้ กลับเดินไม่ได้ เท้ามัน จะพลิกๆ คงยังทำไม่เป็น แล้วเมื่อก่อนต้องเดินบนแผ่นโฟม ถ้าออกมานอก เขตก็จะลงไปคลานทันที ตอนนี้เริ่มเดินออกนอกเขตได้แล้ว ตอนเย็นขึ้นไป เล่นกับพี่ๆที่สนามเด็กเล่น พี่จาน่ามาขนลูกบอลร้อยลูกขึ้นไปใส่บ้านลมแล้ว เล่นสงครามกันระหว่าเผ่าสายลม (จาน่ากับไจโร) และเผ่าพระอาทิตย์ (ปะป๊า กับเด็กจิ๋ว) ในที่สุดความจริงก็เปิดเผยเมื่อปะป๊าพบว่าเด็กจิ๋วคือเทพเจ้าแห่ง เผาพระอาทิตย์มาจุติ มีพลังทำลายล้างสูงมาก ส่วนไจโรก็ตั้งตัวเป็นเทพเจ้า แห่งเผาสายลมทำการต่อกรกับเทพแห่งเผาพระอาทิตย์ ต่อมาจาน่าได้เฉลย ว่าแท้จริงแล้ว เทพแห่งเผาสายลมเป็นตัวปลอม โฉมหน้าที่แท้จริงเป็นเพียง หมาชิสสุธรรมดาตัวหนึ่ง เทพแห่งเผาพระอาทิตย์ได้ยืนยันโดยการคว้างลูก บอลไปให้หมาชิสสุคาบกลับมา ทันใดนั้นจาน่าก็ค้นพบลูกแก้ววิเศษ ๗ สี ซึ่ง เมื่อรวมกันแล้วสามารถพิชิตเทพแห่งเผาพระอาทิตย์ได้ ในช่วงนาทีวิกฤตนั้น เอง คุณแม่ก็มาตามท่านเทพไปอาบน้ำก่อน ท่านเทพง่วงตาปิดแล้ว 

วันที่ ๔๔๘ ... พุธ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๔ 



ตอนกลางวันต้องไปส่งโซ่ยโกวที่มาบุญครอง เลยไปเลี้ยงข้าวโซ่ยโกวที่ร้าน MK ร้านนี้ปกติเหมาะที่จะเลี้ยงแขกต่างเมือง เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ ว่าเป็นครั้งแรกของเด็กจิ๋วเลยที่ได้เข้าร้านนี้ ปกติคุณแม่จะกลัวเด็กจิ๋วไปกรี๊ด ในร้านแล้วโต๊ะข้างๆเขวี้ยงหม้อสุกี้มาแบบตามข่าว แต่วันนี้สถานการณ์สงบดี เด็กจิ๋วก็อาละวาดแหล่ะ แต่เอาขนมยัดปากไปเรื่อยๆก็พอทน ตอนเย็นพาไป เดินเล่นที่โลตัส พาจาน่ากับไจโรไปด้วย ไปนั่งกิน KFC กัน ปะป๊า จาน่า กับ ไจโรซื้อไอติมกินกันคนละแท่ง เด็กจิ๋วก็อยากจะกินด้วย เอามือไล่คว้าไอติม ใหญ่ ปะป๊าก็หลบไปหลบมา เด็กจิ๋วเมื่อไม่ได้ก็เปลี่ยนแผน มาเลียปากปะป๊า แทน เพราะปากปะป๊าเลอะไอติมอยู่ จนไม่ได้แล้ว ต้องไปซื้อมาให้เด็กจิ๋วกิน หนึ่งอันแบ่งกับคุณแม่ วันนี้เด็กจิ๋วหลับตั้งแต่สองทุ่มเลย เพราะตอนกลางวัน นอนไปนิดเดียว ยังไม่ได้ได้เล่นสงครามเผ่าต่อเลย จาน่ากับไจโรมาอ้อนทั้ง วันเลยว่าตอนเย็นให้ขึ้นไปเล่นกันต่อ 

วันที่ ๔๔๙ ... พฤหัส ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เมื่อวานเด็กจิ๋วเจอพี่แจ็คเข้ามาที่ออฟฟิต ก็ตะโกนเรียกแจ๊คแจ๊ค หลายคน สงสัยใหญ่เลยว่าเด็กจิ๋วจำได้ยังไงเพราะพี่แจ๊คไม่ค่อยได้เข้าออฟฟิต เมื่อ วันก่อนเพิ่งบอกว่าเหมือนเด็กจิ๋วจะเลิกกรี๊ดแล้ว มาวันนี้กรี๊ดหนักมาก เป็น เพราะง่วงนอนด้วยแหล่ะ ตอนกลางวันนอนปั๊บเดียวก็ตื่น ตอนบ่ายๆเลยงอ แงมาก ตั้งนานกว่าจะปราบลงได้ พอปราบแล้วก็หลับยาว ทีนี้ไม่ยอมตื่นอีก นอนถึงห้าโมงเย็นต้องปลุก เพราะจะพาออกไปเดอะมอลงามวงศ์วาน ตอน ไปก็เฮฮาดีนะ แต่ตอนนั่งรถกลับนี่สิ กรี๊ดตลอดทาง ที่ Maxim ก็เอาไม่อยู่ ไม่ได้กรี๊ดเพราะง่วงด้วย กรี๊ดๆแล้วอยู่ดีๆก็หัวเราะ เหมือนจะกรี๊ดเล่นเอามัน ปะป๊ากับคุณแม่ตกลงกันว่าลองแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เดี๋ยวจะได้เลิกกรี๊ดไป เอง แต่ไม่สำเร็จกรี๊ดจนกลับถึงบ้านเลย 

 วันที่ ๔๕๐ ... ศุกร์ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๔ 


ช่วงนี้เด็กจิ๋วติดคำว่า จะไป จะไป มากที่สุด แปลว่าให้พาไปเที่ยว จะพูดอยู่ ตลอดเวลา นอนหลับอยู่แล้วตื่นขึ้นมางัวเงียงัวเงีย คำแรกที่พูดก็คือ จะไปๆ เวลาพาออกไปแล้ว อุ้มเดินๆอยู่ก็พูด จะไปจะไป ปะป๊าก็บอกว่านี่ไงไปอยู่นะ เด็กจิ๋วก็พยักหน้าแล้วพูดว่า จะไปจะไป พานั่งรถไปเที่ยวก็พูด จะไปจะไปใน รถตลอดทาง ไม่เข้าใจหรือไงว่าเวลาจะไปเที่ยวก็ต้องนั่งรถ วันนี้ยังมีปัญหา การนั่งรถเหมือนเมื่อวาน กรี๊ดๆตลอดเวลา จะไปจะไป กรี๊ดเล่นบ้าง กรี๊ดจริง บ้าง ปะป๊าก็ทำเสียงเข้มดุเสียงดัง เด็กจิ๋วทำจ๋อยแล้วก็หัวเราะ ก็ไม่รู้ว่ากลัว ไม๊ แต่เด็กจิ๋วเวลาโดนดุก็จะรู้ว่าถูกดุ ทำหน้าจ๋อยๆเงียบไป ๓ วินาทีแล้วเริ่ม กรี๊ดใหม่ ตอนเย็นพาไปคาราโอเกะที่ร้านคาราโอเกะซิตตี้ พาพี่ๆที่ออฟฟิต ไปเลี้ยง ไปกันหมดทั้งออฟฟิตเลย หลายคนงงว่าทำไมเด็กจิ๋วอยู่ในห้องมี เสียงดังแล้วไม่กลัวไม่ร้อง ชอบเต้นใหญ่ คว้าไมค์มาทำเป็นร้องเพลงด้วย จริงๆปะป๊ากับคุณแม่จะรู้อยู่แล้วล่ะว่าเด็กจิ๋วอ่ะชอบแบบนี้ ตั้งแต่อยู่ในท้อง ก็เปิดคอนเสิร์ตฟังกันดังๆอยู่บ่อยๆ เด็กจิ๋วยังเต้นตามตอนอยู่ในท้องเลย นี่ เต้นไปเต้นมาเพลินเลยแหล่ะ แต่ปะป๊ากับคุณแม่รู้สึกหูอื้อๆแล้วล่ะ เพราะพี่ พี่ที่นี่ไม่ได้ร้องเพลงพี่เบิร์ดอ่ะ ร้องเพลงอะไรไม่รู้เสียงดังแสบหูมาก เครื่อง เสียงที่นี่ก็ไม่ค่อยนิ่ง ออกแนวโวยวาย พาเด็กจิ๋วไปเดินเล่นนอกห้องอยู่สัก พัก จนในที่สุดก็ตัดสินใจรีบพาเด็กจิ๋วกลับบ้านดีกว่า ออกมาจากร้านเพิ่งทุ่ม กว่าเอง พี่พี่ๆที่เหลือก็ยังอยู่กันต่อ กลับมาบ้าน อาบน้ำกินนมพาเข้านอนแต่ ไม่นอน นี่ขนาดทำง่วงมาตั้งแต่อยู่ในรถแล้วนะ แต่กว่าจะหลับก็ห้าทุ่มกว่า ที่สำคัญเลย นอกจากไม่หลับแล้ว ยังมีอาการเหมือนคนบ้า คิดว่าต้องติดมา จากที่ร้านคาราโอเกะแน่ๆ เพราะเด็กจิ๋วทำเดินเซๆเมาๆหัวเราะๆ เดินๆอยู่ก็ ล้มตัวทิ้งดิ่งลงไปนอนกับพื้นแล้วก็หัวเราะ...ใช่เลย ติดพี่ต้อมาแน่ๆ ท่าทาง เมาเมา เดินเซเซ แล้วล้มตัวลงกับพื้นแบบนี้ 

วันที่ ๔๕๑ ... เสาร์ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เด็กจิ๋วโดยควักออกจากที่นอนตั้งแต่ ๖ โมง วันนี้เราจะพาโซ่ยโกวกับเพื่อน ไปเที่ยวตลาดน้ำกัน เริ่มแรกก็ไปตลาดน้ำดำเนินฯ นี่เป็นครั้งแรกของเด็กจิ๋ว เลย ปะป๊ากับคุณแม่เคยมาที่นี่บ่อย ปกติต้องลงเรือนั่งเที่ยว แต่คิดว่าไม่ควร ให้เด็กจิ๋วลงเด็ดขาด เลยได้แต่เดินไปมา เด็กจิ๋วได้กินขนมครกด้วย จากนั้น ก็พาเด็กจิ๋วไปหามาม่ากับอากงที่ราชบุรี ไปถึงก็ปล่อยเด็กจิ๋วไว้กับมาม่าแล้ว พวกผู้ใหญ่ก็ไปเที่ยวกันต่อ จะไปร้านกาแฟของเถ้าฮงไถ่ ได้ข่าวว่าทำร้าน แบบสวยงามเลย ตามคำบอกเล่าของมาม่าเราก็มาถึงที่หมาย มันคือศาลา กลางเก่า เอามาทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เสียตังเข้าไปคนละ ๒๐ บาท ภายในจัด เป็นนิทรรศการ ปุ่มไฟต่างๆกดไม่ได้เลยซะกะปุ่มเดียว เดินหามุมขายกาแฟ อยู่นาน ไม่เห็นเจอนะ กลับออกมาด้วยความงุนงง ในที่สุดก็ได้รู้ความจริงว่า มาผิดที่ ร้านกาแฟอยู่ถัดไป เป็นบ้านไม้เก่า ใช้เครื่อปั้นดินเผามาตกแต่งร้าน มีมุมถ่ายรูปเยอะ เสียดายไม่ได้พาเด็กจิ๋วมาด้วย เลยต้องถ่ายคุณแม่แทน นี่ ไม่ได้ถ่ายคุณแม่มาปีกว่าแล้วตั้งแต่เด็กจิ๋วเกิด ไปรับเด็กจิ๋วที่บ้านแล้วไปกิน ข้าวร้านแจ๊แดง ช่วงนี้เป็นช่วงสงบศึก เด็กจิ๋วหลับตลอดที่ร้าน เพราะก่อนนี้ ตอนนั่งในรถก็กรี๊ดกรี๊ดอยู่พอสมควร เอาของให้เล่นก็โยนทิ้ง วันนี้เป็นครั้ง แรกที่เด็กจิ๋วนั่งหน้าข้างปะป๊า เพราะเรานั่งรถไปกัน ๗ คน มีอากงอาม่าแล้ว โซ่ยโกวกันเพื่อนอีก เลยต้องจัดที่นั่งใหม่ ที่นั่งเด็กจิ๋วเปลืองที่มากเอามาไว้ เบาะหน้าคนเดียว ที่เหลือต้องไปเบียดกันข้างหลัง ส่วนอากงนี่ไปนอนอยู่ที่ หลังรถเลย เวลาเด็กจิ๋วอยู่ข้างหน้าแล้วคุณแม่อยู่ข้างหลัง คุณแม่แขนก็สั้น เลยบริการเด็กจิ๋วไม่ได้ดังใจ เวลาป้อนนมก็ลำบาก ปะป๊าขับรถอยู่ก็มีเอื้อม มือมาช่วยป้อนด้วย จากร้านเจ๊แดงก็ไปตลาดน้ำอัมพะวา คนเยอะมากมาก เดินดูของไม่ได้เลย เห็นแต่หัวคนเบียดกันไปมา อยู่ได้ปั๊บเดียวก็กลับบ้านดี กว่า 

วันที่ ๔๕๒ ... อาทิตย์ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔ 


เด็กจิ๋ววันนี้อยู่บ้านทั้งวัน หลังๆมานี่เริ่มเห็นเด็กจิ๋วสามารถนั่งเล่นคนเดียวได้ นานๆ นานๆนี่ก็สิบนาที คือตามคู่มือแล้วเด็กทั่วไปตอนขวบหนึ่งก็จะสามารถ นั่งเล่นคนเดียวได้แล้ว แต่เด็กจิ๋วไม่ได้ เพิ่งมาได้หลังๆนี่แหล่ะ อย่างวันนี้ก็ เล่นขายของ เอามะม่วงของคุณแม่มาเล่นจับใส่ถ้วยนั้นถ้วยนี้ อย่างวันก่อน ก็เล่นพวกบล็อกไม้หย่อนใส่รูก็เล่นได้นาน ที่ชอบเล่นๆช่วงนี้จะเป็นแนวจับ วางใส่ถอดเข้าออก ประมาณนี้ ตอนบ่ายเด็กจิ๋วนอนยาวมากสามชั่วโมงกว่า แล้วก็ไม่ตื่น ปลุกๆก็ไม่ตื่น อากาศกำลังสบายด้วยมั้ง คุณแม่ยังไปนอนอ่าน หนังสือในสวนเล่นเลย ตอนนี้เด็กจิ๋วไม่ชอบกินซุบแล้ว ไม่รู้ว่าเค้าเบื่อหรือ ไม่ชอบของเละๆแล้ว อาหารที่ชอบมากที่สุดก็จะเป็นข้าวผัด ซาลาเปาหรือ เวลาไม่มีอะไรกินก็ให้กินข้าวต้มกับหมูหยอง ก็ชอบเหมือนกัน กินไม่มีเบื่อ เมื่อก่อนเด็กจิ๋วจะติดปะป๊า แต่ช่วงนี้ติดคุณแม่มาก เวลาอยู่ด้วยกันแล้วคุณ แม่เดินออกไป เด็กจิ๋วจะไม่ยอม ร้องหาแม่แม่ 

 วันที่ ๔๕๓ ... จันทร์ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๔ 

 โซ่ยโกวมาเมืองไทยได้อาทิตย์กว่าแล้ว วันนี้โซ่ยโกวยังทักเลยว่าตอนมา ทีแรก เด็กจิ๋วยังไม่เดินเลย ตอนนี้เดินเอาเดินเอา เร็วมาก ปะป๊าก็รู้สึกเร็ว มากจริงๆ เมื่อก่อนก็ไม่ยอมเดิน พอจะเดินก็เดินเฉยเลย ยังคิดว่าปกติมัน จะต้องมีช่วงตั้งไข่ ที่เดินเริ่มหัดเดิน แบบยืนๆแล้วล้ม เดินๆแล้วล้ม สำหรับ เด็กจิ๋วแล้วเหมือนไม่มีช่วงเวลานั้นเลย วันนี้เดินไปเดินมาแบบอยากจะไป ไหนก็เดินเอา ไม่ต้องเกาะ แล้วก็เดินเร็ว แต่ชอบเดินแบบปู คือเดินไปด้าน ข้าง จะเป็นบางอารมณ์ วันนี้เด็กจิ๋วไม่ได้นอนกลางวันเลย เล่นโน่นนี่ทั้งวัน มาหลับอีกทีตอนสามทุ่มเลย หรือเด็กจิ๋วจะโตแล้ว ประมาณช่วงเดือนหนึ่ง ที่ผ่านมา ในซอยบ้านเราเปลี่ยนยามใหม่หรือยังไงก็ไม่รู้ ตอนตีสาม ตีสี่จะ ต้องหวังดีมาตีเก๊งเก๊งบอกเวลา แค่มาตีก็โอเคอยู่ แต่เข้ามาทีไร ไอ้เป้มัน เห่าไล่แบบอึกทึกมาก ดังลั่นแบบนี้ทุกวัน ไม่รู้ว่าจะไปรบกวนการนอนของ เด็กจิ๋วหรือเปล่า 

วันที่ ๔๕๔ ... อังคาร ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๔ 


ลืมไปอีกแล้วว่าวันนี้วันเกิดเด็กจิ๋ว ตอนเช้าเลยไม่ได้ Happy Birth Day กัน เลย มาแฮปกันตอนบ่าย วันนี้เด็กจิ๋วเพี้ยนหนัก ไม่ยอมกินนมอีกแล้ว วันก่อน ก็กินไม่หยุด พอวันนี้ไม่ยอมกิน กินแต่นมกับขนม เดี๋ยวนี้เด็กจิ๋วชอบพูดมะนม มะนม บางทีก็หมายถึงนม แต่บางทีก็หมายถึงขนม เราต้องเดากันเอาเอง แต่ นม หรือ หนม เฉยๆก็ไม่ได้ ทำไมต้องมี มะ นำหน้ามาด้วย เอามาจากไหนไม่ รู้ ตอนกลางวันก็ไม่นอนอีกแล้ว เหมือนเมื่อวาน คุณแม่บอกว่าเด็กจิ๋วไม่ยอม กินนมไง เวลานอนกลางวันเลยหิว นอนได้ปั๊บก็ตื่นขึ้นมา ปะป๊าว่าก็เป็นไปได้ วันนี้อี๊ป้อมสอนเด็กจิ๋วว่าเวลาไอต้องเอามือปิดปาก เด็กจิ๋วชอบใจใหญ่ ไอไอ แล้วเอามือปิดปากเล่น แต่ปิดก็ไม่เป็น ดูจะเหมือนเอามือยัดเข้าปากมากกว่า ตอนเย็นง่วงจัดมาก เพราะกลางวันนอนไปนิดเดียว วันนี้ปะป๊ามีประชุมเลิกดึก คุณแม่จับเด็กจิ๋วอาบน้ำ ยังไม่ทันเป่าผมใส่เสื้อเสร็จเลย เด็กจิ๋วก็ทำท่าง่วงสุด ขีด ต้องจับไปป้อนนมแล้วก็หลับไปทันที ถึงค่อยตามติดกระดุมเสื้อ 

วันที่ ๔๕๕ ... พุธ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๔


เมื่อคืนตื่นหลายรอบ มีไอไอทำท่าแบบว่าเป็นหวัดแน่ๆ แต่ตื่นเช้ามาก็ปกติ เป็น แบบนี้มาสองสามวันแล้ว น่าจะเป็นเรื่องอากาศนั้นแหล่ะ ก็ช่วงนี้อากาศกลับมา หนาวเย็นอีก อากาศเดี๋ยวนี้มั่วซั่วไปหมดแล้ว ที่จริงวันศุกร์นี้จะต้องไปกระบี่นะ แต่ภาคใต้ตอนนี้กำลังเละอยู่เลย ฝนตกหนัก น้ำท่วม เลยต้องขอเลื่อนออกไป ก่อน อาจจะต้องเปลี่ยนไปตอนตุลาคมเลย เพราะเดือนหน้าก็เข้าฤดูมรสุมแล้ว วันนี้ก็ยังไม่ยอมกินนมอยู่ดี หรือว่าเด็กจิ๋วจะเบื่อนมชงนี่แล้ว กินมาปีกว่าก็ต้อง มีเบื่อกันบ้างนะคนเรา ตอนบ่ายเลยไปซื้อนมกล่องมาให้ลองดู พอกลับถึงบ้าน เด็กจิ๋วบอก มนม มนม ก็ลองเอานมชงให้กินแบบเดิม ตอนนี้ดันกินขึ้นมาอีก ก็ งงเลย จะเอายังไงกันแน่นะเด็กจิ๋ว ปกติเด็กจิ๋วชอบพูดคำ จะไป จะไป เมื่อคืน กลางดึกก็ตื่นขึ้นมาละเมอว่า จะไป จะไป แล้วก็ล้มตัวลงนอนต่อ เป็นแบบนี้อยู่ หลายทีแล้ว แต่มาวันสองวันนี้ชอบพูดอีกคำหนึ่งเพิ่มมา คือ จะปอม จะปอม... ??? มันคืออะไรอ่ะ เด็กจิ๋ว 

วันที่ ๔๕๖ ... พฤหัส ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ 


ตอนตีห้าเด็กจิ๋วตื่นมากินนมเสร็จแล้วไม่ยอมนอนต่อ จะไป จะไป ต้องพากัน ออกไปเล่น ชั่วโมงกว่าแน่ะ แล้วก็ร้องมะนม มะนมอีก ก็ให้กินนมอีกขวดถึง จะยอมนอนต่อ ตื่นมาแปดโมงก็ร้องมะนม มะนม กินนมอีกขวด ปกติวันหนึ่ง จะกินประมาณ ๔-๕ ขวด นี่แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็กินไปแล้ว ๓ ขวด มิหน้าล่ะเวลา กลางวันถึงไม่ยอมกินนมเลย กินตุนไว้ บ้าบอมาก สงสัยเหมือนปะป๊าเวลาวัน ไหนไปกินบุฟเฟ่มื้อหนึ่งก็จะอยู่ได้ทั้งวันไม่ต้องกินอะไรเหมือนกัน เด็กจิ๋วยัง มีอาการไออยู่ จะไอเฉพาะตอนนอน แต่ยังไม่ได้ให้กินยา สงสาร ตอนกลาง วันปะป๊ากับคุณแม่หนีไปเซ็นทรัลนะ ไม่ได้เอาเด็กจิ๋วไปเพราะกลัวจะไม่สบาย ได้รองเท้าคู่ใหม่มา Oshkosh เป็นคู่ที่สามของเด็กจิ๋วแล้ว คู่แรกก็ยี่ห้อนี้ ตอน นั้นซื้อมาใส่เล่น เพราะยังเดินไม่ได้ ใส่ไว้สวยงาม คู่ที่สองเป็นของ Pigeon สี ชมพู เป็นรองเท้าหัดเดิน แต่เด็กจิ๋วใส่แล้วเดินไม่ได้ เท้ามันจะตะแคงๆยังไง ไม่รู้ เวลาใส่กลับไม่ยอมเดิน วันนี้เลยจะไปหารองเท้า Combi เค้าว่าเป็นรอง เท้าวิเศษ ใส่แล้วเดินเก่งทันที แต่หาที่เซ็นทรัลไม่มี เลยได้คู่ที่ว่านี้มา แต่ไม่ ได้เน้นใส่เดินเก่งนะคู่นี้ เน้นสวยงามมากกว่า เป็นแบบรองเท้าเดินป่า คุณแม่ ซื้อขนมใหม่มาให้เด็กจิ๋วด้วย GoldFish เป็นขนมปังรสชีสรูปปลาตัวเล็กๆ มา ถึงเด็กจิ๋วก็หยิบยัดปากแบบอร่อยมาก ยัดทีห้าเม็ดเลย เคี้ยวเต็มปาก ตลก