วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

3 ขวบ 4 เดือน



๓ ขวบ + ๑๒๓ วัน...พุธ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เมื่อวานตอนเย็นๆ พอได้รู้ว่าวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดแรงงาน ก็วิ่งไปตะโกนบอกพี่ๆว่า “พี่ๆ พรุ่งนี้เป็นวันหยุด น้องพริมจะได้บาร์บี้กับปะป๊า”...เช้านี้ก็ไม่มีพลาดรีบตื่นมาปลุกให้ปะป๊าพาไป แต่วันนี้ขอพ่วงคุณแม่ไปด้วย ให้ไปดูกันหมดเลย
...หลังจากดูการ์ตูนจบ เราก็ออกไปล้างรถกันที่เซนลาด ไปถึงก็ไปกินข้าวเช้ากันก่อนที่ the Terrace ลองให้เด็กจิ๋วกินไข่ทอดชะอมเป็นครั้งแรก ตอนแรกเด็กจิ๋วก็กินอร่อย แต่พอเจอชะอมก้านแข็งๆก็คายออกมา แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เอาอีก หันไปกินชุดข้าวผัดอเมริกันคุณหนูของตัวเองต่อ หลังจากไปโรงเรียน เด็กจิ๋วสามารถใช้ส้อมเป็นแล้ว มือขวาจับช้อน มือซ้ายจับส้อม สองมือช่วยกันกินอย่างคล่องแคล่ว ทำไมก่อนหน้านี้เราไม่คิดจะสอนใช้ส้อมนะ เวลาตักข้าวให้กินก็ให้ใช้ช้อนอย่างเดียว เสร็จแล้วปะป๊าไปซื้อช็อกโก้มุกกิน เด็กจิ๋วขอกินไข่มุกด้วย เราเลยซื้อเฉพาะไข่มุกให้เด็กจิ๋ว มาเป็นถ้วย มีช้อนคันเล็กมาให้ด้วย เด็กจิ๋วตักกินอร่อยไปเลย
...ตอนบ่ายๆเฮียโรมาหา เพิ่งกลับจากสวนผักกาด เอ้พาไปสัมผัสสวนเกษตรอินทรีย์ รดน้ำผักจากท้องร่อง กลับมาตัวเลอะเทอะเลย หลังจากอาบน้ำเสร็จก็มาเล่นบ่อบอลกับเด็กจิ๋ว เล่นเป็นสระว่ายน้ำ เล่นฝังตัว ฝังตัวเด็กจิ๋วอ่ะได้ แต่ฝังเฮียโรไม่ไหว เพราะบอลน้อยไปหน่อย เฮียโรก็ตัวอ้วนซะ
...ปกติตอนนอน ปะป๊าจะจับโพลิป้อนนมก่อนนอน แต่ตอนนี้ปะป๊าตกกระป๋องไปแล้ว เพราะวันก่อนที่ปะป๊าไม่อยู่ คุณแม่ปฏิบัติหน้าที่แทน แล้วตัวเองขี้เกียจถือโพลิ เลยปล่อยโพลิลงพื้น เด็กจิ๋วเห็นก็ถามว่า “เอ้า ทำไมโพลิไม่ป้อนนมน้องพริมแล้วล่ะ”...คุณแม่เลยบอกว่า อ๋อโพลิง่วงนอนเลยหลับไป แล้วก็แกล้งปลุกโพลิขึ้นมาทำงานต่อ ตื่น ตื่น โพลิ ตื่น ตื่น...เด็กจิ๋วขำก๊ากๆ ตอนนี้เลยกลายเป็นมุกที่ชื่นชอบ คุณแม่ต้องทำเรื่อยๆไม่หยุด จนกว่านมจะหมด
...หลังจากกินนมเสร็จ เราก็นึกขึ้นมาได้ว่าหมอสั่งให้แปรงฟันหลังกินนมนี่หน่า เลยบอกว่าเดี๋ยวไปหยิบแปรงมาแปรงในห้องนอน ไม่ต้องใส่ยาก็ได้ เด็กจิ๋วรีบบอกว่า “คุณหมอบอกว่าต้องใส่ยาด้วย ไม่งั้นแมลงจะไม่ตาย เดี๋ยวมากินฟันเรา”...อ้าว เป็นงั้นไป ว่าแล้วเราก็ไปหยิบแปรงบีบยาแล้วแปรงให้ เด็กจิ๋วก็ยอมแต่โดยดี ตลกแล้ว ทีเมื่อก่อนล่ะ ใส่ยานิดเดียวก็ร้องโวยวาย อาละวาด พอหมอบอกก็เชื่อเค้าซะงั้น

๓ ขวบ + ๑๒๓ วัน...พฤหัส ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...พี่ๆที่ออฟฟิตแกล้งถามเด็กจิ๋วว่าทำไมวันนี้ไม่ไปโรงเรียน เด็กจิ๋วตอบว่า “ปิดเทอมอยู่ เปิดเทอมวันที่ 16 เดี๋ยวเปิดเทอมหนูจะมีเพื่อนเพิ่มอีก 10 คนนะ”...ตอบพี่ๆเป็นเรื่องเป็นราวเลย จำได้ด้วยว่าเปิดเทอมวันไหน
...ของเล่นไม้ล็อตใหม่ดูดีมีสาระทุกอัน มีอันหนึ่งเป็นบล็อกไม้ต่อตามภาพมีแบบภาพ 2 มิติกับแบบ 3 มิติ สำหรับเรามองภาพ 3 มิติแล้วจะเห็นชัดเจนกว่า 2 มิติ แต่เฮียโรมาบอกว่า 3 มิติยากมาก ต้องขั้นเทพ เราเลยพยายามฝึกเด็กจิ๋วให้เป็นเทพอยู่ ให้ดูตามแบบ 3 มิติเท่านั้น ครั้งแรกๆก็เห็นว่าเด็กจิ๋วงงจริง มันจะหมุนงงว่าหันด้านไหนกันแน่ แต่สักพักก็เริ่มเก่งขึ้น
...ปกติเด็กจิ๋วชอบเล่นบทบาทสมมุติอยู่แล้ว เล่นเป็นเจ้าหญิง เป็นโพลิ ตอนนี้เปลี่ยนมาเล่นเป็นเพื่อนๆ กับครูๆ ส่วนใหญ่ชอบเป็นอั่งอั๊งกับเป็น teacher Alex
...ตอนเย็นปะป๊ากับคุณแม่ไปตีเทนนิสกัน กลับมาบ้านเกือบๆ 2 ทุ่ม เด็กจิ๋วเพิ่งหลับไปเอง อี๊ป้อมบอกว่าอาละวาดบ้านแตกก่อนจะหมดแรงหลับไป

๓ ขวบ + ๑๒๔ วัน...ศุกร์ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...ตอนเช้าเด็กจิ๋วเห็นปะป๊าใส่เสื้อแขนยาวก็ถามเหมือนตามเคยว่า “วันนี้ปะป๊าไปประชุมเหรอ”...ปะป๊าบอกว่าใช่ ปกติแล้วเด็กจิ๋วจะงอแงไม่ยอมให้ปะป๊าไปประชุม แต่วันนี้บอกว่า “อ๋อ เราจากกันแป๊บหนึ่งนะ แล้วเดี๋ยวปะป๊าก็กลับมาเจอกัน”...ปะป๊าก็ออกไปประชุมทั้งวันเลย กลับบ้านมาตอนเย็น กะว่าจะพาเด็กจิ๋วออกไปโลตัส แต่เด็กจิ๋วดันไม่ตามปะป๊า บอกว่าคิดถึงอี๊ป้อม อ้าว ไมเป็นงั้นอ่ะ ปะป๊ากับคุณแม่เลยไปกัน 2 คน สักพักเด็กจิ๋วโทรมาตาม ร้องไห้ คิดถึงคุณแม่ เราก็ถามว่าแล้วทำไมตอนชวนให้มาด้วยกันถึงไม่ยอมมาล่ะ เด็กจิ๋วบอกว่า “ก็ตอนแรกน้องพริมคิดถึงอี๊ป้อม แต่พอคุณแม่ไป น้องพริมก็คิดถึงคุณแม่”
...วันนี้อาการป่วยดูจะหายเป็นปกติแล้ว ตอนเช้าปะป๊าทำช็อกโกแล็ตปั่นให้กินด้วย สงสัยจัง ทุกทีเวลาป่วยแล้วไปหาหมอ จะหายป่วยเร็วมาก ประมาณ 3 วัน แต่ถ้าให้ยากินเองเป็นอาทิตย์ก็ยังไม่หาย น่าจะเป็นที่ยาฆ่าเชื้อ วันนี้ดูร่าเริงเป็นพิเศษ เล่นโน่นนี่เสียงดังทั้งวัน เล่นไขน็อตต่อกับคุณแม่ด้วย คุณแม่จะต่อตามคู่มือ เด็กจิ๋วก็ไม่ยอม บอกว่า “คุณแม่ต้องต่อตามจินตนาการ”...ตามที่ปะป๊าสอนไว้ ว่าแล้วก็เอาน็อตมาต่อเป็นเครื่องมือแพทย์กัน มีที่ตรวจหู กล้องส่อง ที่วัดอ๊อกซิเจน

๓ ขวบ + ๑๒๕ วัน...เสาร์ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้พากันไปเซนปิ่น ปะป๊ากับคุณแม่ผมยาวรำคราญมากๆ รีบไปตั้งแต่ห้างเปิด ระหว่างที่ปะป๊าหลอกล่อเด็กจิ๋วเดินเล่นของเล่นฟรีแผนกเด็ก ก็ให้คุณแม่รีบไปตัดผมก่อน พอคุณแม่ใกล้เสร็จถึงค่อยให้ปะป๊าไปเปลี่ยนบ้าง ถ้าตัดพร้อมกันนี่ไม่มีสิทธิ์ ตอนที่เด็กจิ๋วเข้าไปในร้านตัดผม เห็นช่างภุชงค์กำลังตัดผมจิ๊กๆจิ๊กๆ ก็ถามว่า “ตัดผมเจ็บไม๊อ่ะ”...เราเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าตัดผมไม่เจ็บ แสดงว่ายังไม่เชื่ออีกนะเนี่ยะ
...ตัดผมเสร็จ ไปกินข้าวที่ร้านหนมจีนบางกอก สั่งก๋วยเตี๋ยวหมูนุ่มให้เด็กจิ๋วกิน ไม่ยอมกินหมูนุ่ม บอกให้ลองก็ไม่ลอง ที่จริงแล้วเราคิดว่าถ้าลองก็น่าจะชอบ แต่นี่คงเห็นน่าตาแล้วไม่อยากกิน แต่ว่าเส้นใหญ่กินเกือบหมดชามเลย กินเข้าไปเยอะมาก แคปหมูด้วย กินคนเดียวไม่เหลือให้พ่อแม่กินเลย



๓ ขวบ + ๑๒๖ วัน...อาทิตย์ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เพิ่งชมว่ายาหมอดี กินแล้วหายป่วยเร็ว แต่ว่าวันเดียวก็กลับมาเป็นอีก เมื่อคืนอาการหนัก ไอๆจนอ้วกออกมา มีเสมหะเยอะหรือเพราะกินแคปหมู หรือเพราะกินน้ำเย็น คือเราก็คิดว่าหายก็เลยจัดเต็ม นี่ดีนะ ตอนแรกกะจะพาไปว่ายน้ำที่บลัดารมย์ด้วย แต่พอดีเจ๊น่าเฮียโรไม่อยู่บ้าน เช้านี้ตั้งใจจะพาไปหาหมอซะหน่อย แต่หมอดารารัตน์ไม่อยู่ แล้วตอนเช้าฝนก็ตกหนักเลยลมเลิกไป เปลี่ยนไปเป็นพรุ่งนี้แล้วกัน
...วันนี้พี่โฮไอมาหาหลังจากไม่ได้เจอกันนานเลย ตั้งแต่พี่โฮไอเปิดเทอมซัมเมอร์ก็ไปนอนที่คอนโด ไม่ได้เจอกันเลย พากันมาเล่นขายของในห้องครัว กินหนม แล้วไปดูการ์ตูนในห้องโฮม เรื่อง Despikable สนุกดีแต่ออกแนวเด็กโตไปนิด ไม่แน่ใจว่าเด็กจิ๋วจะเข้าใจไม๊ แต่ดูๆก็ตั้งใจดูตั้งแต่ต้นจนจบ
...เด็กจิ๋วไปแกล้งอาแปะด้วย ตอนเล่นกันอยู่ในห้องโฮม อยู่ดีๆก็ไปคว้าเปียโนออกมา บอกว่า “น้องพริมจะเล่นเปียโนให้ทุกคนฟัง แต่ทุกคนต้อง Standup ก่อน”...ปะป๊า อาแปะ ก็ให้ความร่วมมือช่วยกันยืนดี แต่พี่โฮไอกระโดดๆไปมาไม่เชื่อเด็กจิ๋ว จนเด็กจิ๋วหงุดหงิดมาก ตะโกนโวยวายสั่งให้พี่ยืน สุดท้ายไม่ได้ผล พี่โอไอกระโดดๆเล่นต่อสู้ไปมาอยู่คนเดียว

๓ ขวบ + ๑๒๗ วัน...จันทร์ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนฝันเรื่องอะไรนะ เห็นแต่ว่าชูมือขึ้นมาจับๆอะไรกลางอากาศ แล้วพูดว่า “อันนี้ปลาหมึก ไม่เอา เผ็ด...”...ที่แน่ๆฝันว่ากำลังกินอะไรอยู่แน่ๆ
...วันนี้เป็นวันหยุดชดเชย ตอนเช้าเด็กจิ๋วตื่นมาถามว่าวันนี้เป็นวันอะไร พอรู้ว่าวันหยุดก็มาเนียนขอให้ปะป๊าพาไปดูหนัง ลืมไปแล้วเหรอว่าปะป๊ายังไม่หายโกรธ หรือกะมั่วนิ่ม ปะป๊าเลยบอกว่าไม่ให้ดู ต้องลงโทษที่เมื่อวานดื้อ เด็กจิ๋วยอมรับผิด ไม่ดูก็ไม่เป็นไร เปลี่ยนไปเป็นกินหนมในห้องครัวแทน ให้คุณแม่พาไป กินเสร็จก็พากันไปโรงพยาบาล รีบไปแต่เช้าได้คิวที่ 2 เพราะกลัวสายแล้วรอนาน คราวนี้เด็กจิ๋วยังคงลั้นลาระหว่างหมอตรวจ ยอมทุกอย่าง พอตรวจเสร็จก็ทำไปเสนอหน้า เกาะขอบโต๊ะมองคุณหมอด้วยสายตาแสดงความต้องการอะไรสักอย่าง คุณหมอรู้ทันเลยรีบหยิบวิตามินมิ้นซีให้ 2 ห่อ เด็กจิ๋วได้รับแล้วก็ทำหน้าแบบว่า ยังขาดอะไรหรือเปล่านะ คุณหมอเลยรีบบอกว่า สติ๊กเกอร์ซื้อไม่ทันนะ เอาไว้วันหลังนะ
...ระหว่างที่รอตรวจกับคุณหมอ นอกจากจะลั้นลาใส่คุณหมอแล้ว ยังมาลั้นลาใส่ปะป๊าด้วย ระหว่างที่คุณหมอตกลงเรื่องยากับคุณแม่ว่าจะกินตัวไหนดี ปะป๊ากับเด็กจิ๋วเลยคืนดีกัน กอดกันกลมในห้องคุณหมอ ปะป๊ายกโทษให้เพราะเด็กจิ๋วเป็นเด็กดี ที่คุณหมอคุยกับคุณแม่เรื่องยาก็คือถามว่า ทำไมคราวที่แล้วกินยาฆ่าเชื้อไปแล้วไม่หาย มีแบบว่าดื้อยาตัวนี้ไม๊ คุณหมอบอกว่าก็เป็นไปได้ แต่จะมาให้ยาซ้ำเดิมทุกครั้งเพราะเห็นว่าคราวที่แล้วได้ผลก็ไม่ควร เพราะมันจะทำให้ดื้อเหมือนกัน ว่าแล้วก็เปลี่ยนยาฆ่าเชื้อตัวใหม่อีก รู้สึกว่าจะมีหลายตัวหลายกลุ่มมาก
...น้ำหนักเด็กจิ๋ววันนี้ชั่งได้ 14.3 กลับขึ้นมาเป็นปกติเหมือนตอนก่อนไปโรงเรียนแล้ว ช่วงที่ไปโรงเรียนน้ำหนักลดลงจริงๆด้วย พอหยุดได้อาทิตย์หนึ่งก็กลับมาเหมือนเดิม คือเราดูจากกล้องวงจรปิดเห็นอาหารเด็กจิ๋วที่กินที่โรงเรียนมันน้อยมากๆ เด็กจิ๋วกินแบบ 10 คำก็หมดแล้ว มื้อกลางวันเติมได้ แต่มื้อเช้าไม่เห็นมีเติมให้
...วันนี้อาแปะมาหา เด็กจิ๋วไปเล่นกับอาแปะใหญ่เลย เอาโมเดลมาให้ดู แล้วก็เล่นเปียโนให้ดู แต่ทุกคนที่จะฟังต้องยืนขึ้นก่อนนะ เหมือนเมื่อวานเลย ตอนเล่นเปียโนให้พี่โฮไอกับอาแปะใหญ่ฟังก็สั่งให้ทุกคนยืนเหมือนกัน รู้สึกว่าจะเลียนแบบมาจากที่โรงเรียน เดาว่าครูเอ็มเล่นเปียโนเวลาสอนร้องเพลง คงให้เด็กทุกคนยืนเต้นตามไปด้วย
...ตอนที่เล่นกับอาแปะอยู่ในห้องโอม รู้สึกว่าคึกจัดมาก เล่นจนหัวแฉะ คนอื่นนั่งหนาวเย็นกัน พอตอนเที่ยงๆก็หลับไป ไม่ได้นอนกลางวันมานานมากๆแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยาชุดนี้มีตัวไหนทำให้ง่วงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปล่อยพลังเยอะเกินไป

๓ ขวบ + ๑๒๘ วัน...อังคาร ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เมื่อวานตอนแช่อ่างอาบน้ำกัน เด็กจิ๋วเล่นจำลองเหตุการณ์ที่โรงเรียนอีกแล้ว ชอบมาก เล่นทุกวัน แต่ว่าวันนี้คงเบื่อจะเล่นเป็นเพื่อนๆแล้ว หันมาเล่นเป็นแม่เพื่อนเลย ให้ปะป๊าเป็นเมจิ แล้วเด็กจิ๋วเป็นแม่ของเมจิ แม่เมจิเอาหลอดยาจุ่มน้ำแล้วมาแตะแก้มซ้ายขวา เราถามว่าทำอะไร แม่เมจิบอกว่า “แต่งหน้า เพราะแม่เมจิชอบแต่งหน้า”...อ้าว แล้วหนูไปรู้เค้าได้ไง ไม่ได้คำตอบ เราถามต่อว่า แล้วหนูเคยเห็นพ่อของเมจิไม๊ เด็กจิ๋วตอบว่า “พ่อเค้าตายไปแล้ว”...เฮ้ย ทำไมอ่ะ “ก็ หนูไม่เห็นพ่อเมจิมารับเลย”...โห ไม่ได้มารับ ไม่ใช่แปลว่าจะตายไปแล้วนะ 
...เมื่อคืนอ้วกอีกแล้ว เป็น 2 วันต่อเนื่องแล้ว นอนหลับไปได้สักพักก็จะไอๆไอๆจนอ้วกออกมา เสมหะออกมาเต็มเลย
...ปกติปะป๊าจะทำกาแฟเย็นให้คุณแม่กินประจำ วันนี้ทำให้กินแล้วคุณแม่ก็บ่นว่า ทำไมวันนี้ไม่ค่อยอร่อย เด็กจิ๋วรีบออกมาปกป้องปะป๊าทันที “อย่ามาว่าปะป๊าของหนูนะ ปะป๊าหนูทำอร่อย”
...เด็กจิ๋วตามเฮียโรไปบ้านอาม่า เฮียโรจะไปดูละคร เราบอกว่าเด็กจิ๋วเป็นเด็ก ดูละครไม่ได้ เด็กจิ๋วบอกว่า “ไม่เป็นไร หนูไม่ดูละคร”...เด็กจิ๋วทำตามที่พูดจริงๆ ไปนั่งข้างเฮียโรแต่ไม่ยอมดูทีวี หันหน้าออกไปทางอื่น นั่งเพลินๆอยู่ดีๆ อาม่าเข้ามาหอมแก้มทีเดียว เด็กจิ๋วทำอี๋ เอามือปัดแก้ม แล้ววิ่งหนีกลับบ้านมาเลย ไม่ชอบให้อาม่าหอมแก้ม

๓ ขวบ + ๑๒๙ วัน...พุธ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เจ๊น่าอยู่บ้าน เมื่อวานเฮียโรอยู่คนเดียว เจ๊น่าไปเล่นบ้านเจ๊นิวเจ๊แนน พอเด็กจิ๋วเจอเจ๊น่าก็เกาะติดแจ รักเจ๊น่ามากๆ เล่นตามพี่ทุกอย่าง บอกรักพี่ตลอดเวลา
...เด็กจิ๋ววิ่งมาหาเจ๊น่าแล้วถามว่า “เจ๊น่าทำไมผิวดำอ่ะ”...ปากเสียจริงๆ เจ๊น่าบอกว่าดำเพราะตากแดด อี๊ป้อมดำกว่าเจ๊น่าอีก เพราะตากแดดเยอะ เดี๋ยวน้องพริมตากแดดเยอะๆก็ดำเหมือนเจ๊น่าเองแหล่ะ
...วันนี้บอลที่สั่งเพิ่มมาส่งแล้ว มาอีก 500 ลูก ของเดิมมีประมาณ 700 ไม่พอ ตอนนี้มีพันกว่าลูก เด็กจิ๋วบอกว่า “ตอนนี้ปะกบน้องพริมมิดแล้ว”...ปะกอบ คงหมายถึงกลบแหล่ะ เพราะตอนบ่ายขึ้นไปเล่นกับเฮียโรกัน

๓ ขวบ + ๑๓๐ วัน...พฤหัส ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้ปะป๊ากับคุณแม่ต้องไปหาลูกค้าพร้อมกัน คุณแม่ไม่ได้ออกไปหาลูกค้านานหลายปีแล้ว คราวนี้เป็นโปรเจกต์ใหญ่ 15 ล้าน ต้องเกณฑ์คนทั้งออฟฟิตไปโชว์ตัวให้ดูอลังการหน่อย ปะป๊ากับคุณแม่ค่อยๆย่องออกจากบ้านก่อนที่เด็กจิ๋วจะตื่น ให้อี๊ป้อมมาดูแลแทน อี๊ป้อมเล่าว่าเด็กจิ๋วตื่นมาก็ร้องไห้หาปะป๊ากับคุณแม่ ไม่รู้ว่าร้องเยอะไม๊ แต่อี๊ป้อมก็สามารถเอาอยู่ จัดการอาบน้ำ แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า กินยาเรียบร้อย ปกติปะป๊ากับคุณแม่ยังไม่ได้พาอาบน้ำแปรงฟันตอนเช้าเลย
...ปะป๊ากับคุณแม่คิดถึงเด็กจิ๋วมาก ตอนกลางวันรีบกลับบ้านมาพาเด็กจิ๋วไปกินข้าวด้วย แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเด็กจิ๋วบอกว่า “ไม่เป็นไร น้องพริมกินข้าวแล้ว”...เอ่อ แล้วไม่คิดถึงปะป๊ากับคุณแม่เหรอ ในที่สุดก็เลยทิ้งเด็กจิ๋วอยู่บ้านอีก หนีไปกินข้าวกลางวันกัน ส่วนตอนเย็นต้องไปตีเทนนิส ก็ต้องทิ้งเด็กจิ๋วอีกรอบ สรุปแล้ววันนี้ทิ้งเด็กจิ๋วเกือบทั้งวันนั้นแหล่ะ แต่เด็กจิ๋วไม่เห็นว่าอะไรนี่ พอเรากลับมาเจอหน้าก็ดีใจนิดหน่อย แล้วก็ลั้นลาเล่นโน่นนี่ต่อไป
...พอตอนดึกเท่านั้นแหล่ะ เกิดเรื่องเลย เด็กจิ๋วหลับไปแล้ว เหมือนฝันหรือละเมอหรืออะไรก็ไม่แน่ใจ อยู่ดีๆก็ร้องไห้อาละวาด “ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา”...อาละวาดหนักมาก ไม่ลืมหูลืมตาเลย สักพักก็ร้องเรียกหาคุณแม่ “หนูจะหาคุณแม่” สักพักก็เรียกหาปะป๊า พอปะป๊าเข้าไปหาก็ถีบๆ “หนูไม่เอาปะป๊า ไม่เอาปะป๊า” แต่พอปะป๊าอุ้มขึ้นมา ก็กอดคอปะป๊าแน่นมาก ปะป๊าเกือบตาย ให้ปะป๊าอุ้มพาเต้น กล่อมให้หลับ คือรู้เลยว่าเด็กจิ๋วคงคิดถึงปะป๊ากับคุณแม่มาก ตอนกลางวันทำแกร่ง พอตอนดึกเท่านั้นแหล่ะ ทำอ่อดอ้อนซะ พอหลับสนิทก็วางนอน ให้นอนตรงกลางระหว่างปะป๊ากับคุณแม่เลย นอนกอดกันเลย หลับไปได้สักพักก็เอาอีก ร้องไห้อาละวาดหนักอีก เป็นแบบนี้ 3 รอบ

๓ ขวบ + ๑๓๑ วัน...ศุกร์ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...ตอนเช้าถามเด็กจิ๋วว่าเมื่อคืนเป็นอะไร คิดถึงปะป๊ากับคุณแม่เหรอ เด็กจิ๋วก็ตอบว่า “เอ่อ”...สรุปแล้วคิดอะไรอยู่ก็ไม่แน่ใจ
...อาการป่วยเมื่อวันพุธเหมือนจะหายแล้ว แต่วันต่อมาก็กลับค่อยๆเป็นใหม่ เหมือนรอบที่แล้วเลย จนวันนี้ก็ยังไม่หาย ยิ่งเป็นหนัก มีไอๆตลอดทั้งวัน มีเสมหะด้วย เมื่อคืนก็นอนทรมานไอทั้งคืน ตอนแรกกะว่าวันเสาร์จะไป Kidzoona กันอีก ชวนพี่โนพี่โน่ไว้แล้วด้วย แต่เปลี่ยนแผนแล้ว เพราะกลัวไปรับเชื้อมาอีก
...ตอนกลางวันวางแผนทิ้งเด็กจิ๋วไว้บ้านกับอี๊ป้อม แล้วจะหนีไปกินข้าวข้างนอกกัน ไม่อยากให้เด็กจิ๋วไปด้วยเพราะยังป่วยอยู่ แต่เหมือนเด็กจิ๋วจะรู้ทัน ปะป๊าอุตส่าห์ย่องๆหยิบกุญแจรถเบาๆ เด็กจิ๋วยังรู้อีก ถามว่าปะป๊าจะไปไหน แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ยอมปล่อยอีกเลย ในที่สุดก็ต้องพาไปด้วย เฮียโรก็ไปด้วย ตอนแรกจะไปกินร้านฟู้ดดี้ แต่ไม่สำเร็จเพราะคนแน่นร้าน รอคิวนาน เลยเปลี่ยนไปกินร้านชิลี ชิลี่ ที่ home pro ประชาชื่น เป็นอาหารจานเดียวแต่รสชาติอร่อยดี เด็กจิ๋วกินข้าวไข่ข้นกระเพราหมู เสร็จแล้วก็พากันขึ้นไปซื้อก๊อกน้ำข้างบน พอขึ้นไปถึง เด็กจิ๋วก็บอกว่า “อุ้ย ห้างนี้เราเคยมานี่หน่า ที่ปะป๊าโกรธหนูที่หนูเข็นรถอ่ะ”...ปะป๊าต้องระลึกตั้งนาน จริงๆด้วย ความจำดีเลิศ เป็นไปตามที่เด็กจิ๋วบอกจริงๆแหล่ะ ปะป๊ายังจำไม่ได้เลย
...เด็กจิ๋วงอแงอาละวาดมาก ตอนกลางวันปะป๊าเลยโกรธหน้าบึ้ง เด็กจิ๋วมาขอโทษแล้วก็ยังไม่ยอมหาย จนเด็กจิ๋วไปกินข้าวแล้วกลับเข้าห้องปะป๊ามา ปะป๊าก็ด้วยอาการอัตโนมัติ รีบมุดไปหลบใต้โต๊ะ ซุกหน้ากับเบาะทันที เด็กจิ๋วเดินเข้ามาจ๊ะเอ๋ด้วยหน้าตางงมาก แล้วถามว่า “อ้าว ปะป๊าหายโกรธแล้วเหรอ”...ปะป๊าก็ เอ่อ เอ่อ ปะป๊าลืมอ่ะ หายโกรธก็ได้

๓ ขวบ + ๑๓๒ วัน...เสาร์ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนอ้วกหนักมาก 4 รอบได้ มีรอบหนึ่งพ่นไข่มุก ที่กินไปตอนกลางวันออกมาด้วยเม็ดหนึ่ง สงสัยกันมากว่าทำไมมันเป็นเม็ดกลมสวยงามเหมือนไม่ผ่านการย่อยสลาย กินไปตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว คือไม่เคี้ยวก็เข้าใจได้เพราะเด็กจิ๋วกินทีเดียว 6-7 เม็ด เคี้ยวๆปั๊บเดียวแล้วกลืน มันไม่มีทางเคี้ยวละเอียดอยู่แล้ว แต่กินไปตั้งนานมันน่าจะย่อยไปแล้ว เป็นแป้งด้วยน่าจะย่อยเร็ว คุณแม่เครียดมาก บอกว่าลูกอาการหนักมาก จะพาไป admit ตอนดึกเลยดีไม๊
...พอตอนเช้ารีบพาไปหาหมอตอน 8 โมง วันนี้คุณหมอดารารัตน์ไม่อยู่ เลยหาหมอสุกัลยาแทน ที่จริงหมอคนนี้เป็นคนที่โรงพยบาล assign ให้ตั้งแต่ทีแรก เคยมาหาทีหนึ่งแต่ไม่ค่อยถูกใจเลยเปลี่ยนเป็นหมอดารารัตน์ ซึ่งวันนี้ก็รู้สึกแบบเดิม คือหมอจะพูดเร็วๆไม่ยิ้ม แล้วที่สำคัญพาหาเสร็จก็ไม่ให้วิตามิ้นมินซีด้วย เด็กจิ๋วเอ่ยปากขอแต่ผิดหวัง มีแต่สติกเกอร์แทน
...คราวนี้คุณหมอให้เด็กจิ๋วครอบกุ๊กไก่ด้วย เคยได้ยินคุณหมอดารารัตน์พูดตั้งแต่คราวที่แล้วว่าถ้ายังไม่หาย คราวหน้าต้องมาครอบกุ๊กไก่นะ เราก็งงๆ วันนี้ถึงรู้ กุ๊กไก่คือที่ครอบจมูกและปากเพื่อพ่นยาเข้า ต่อสายจากที่ครอบไปที่เครื่องพ่นอ๊อกซิเจน มันจะพ่นอากาศพาตัวยาเข้าจมูกเรา ดูจากภายนอกแล้วก็น่ากลัวนิดหน่อย เพราะมันมีควันขาวๆอัดเข้ามาใหญ่เลย เหมือนร่มยาพิษประมาณนั้น คุณหมอบอกตั้งแต่ก่อนทำแล้วว่าไม่เจ็บนะ ไม่ต้องกลัว พยาบาลก็ถามว่าเคยทำไม๊ ไม่ต้องกลัว ฟังดูแล้วเหมือนเด็กส่วนใหญ่จะกลัวกัน ถึงแม้หน้ากากจะทำเป็นรูปหน้าไก่เพื่อให้ดูน่ารักแล้วก็ตาม คราวนี้เด็กจิ๋วเป็นเด็กดีมาก นั่งนิ่งให้พี่พยาบาลทำ แล้วต้องใช้เวลา 10 นาทีนั่งเฉยๆ เด็กจิ๋วก็นั่งนิ่ง เราไม่ค่อยแน่ใจว่านั่งนิ่งได้ไง อารมณ์ไหน กลัวก็ไม่น่าใช่ แต่เวลาปะป๊าถามว่าจะเล่นเกมส์ไม๊ ก็ไม่เล่น ปะป๊ากับคุณแม่เข้าไปกอดก็ผลักออกมา
...หาหมอเสร็จก็ไปราชบุรีกัน ที่จริงอยากให้เด็กจิ๋วพักผ่อนอยู่บ้านนะ แต่ว่าวันนี้ที่บ้านถูกตัดไฟทั้งวัน ไม่สามารถอยู่ได้จริงๆ ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนหนักมาก ถ้าไม่ได้แอร์ต้องตายแน่ๆ วันนี้รถติดมาก คงเป็นเพราะหยุดยาว วันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ แต่เอกชนไม่หยุด เราไปทางนครปฐมไม่ได้ท้ายแถวยาวมาถึงบางบัวทอง เลยเปลี่ยนไปทางแม่กลองแทน แวะซื้ออาหารที่ร้านเจ๊แดงกลับไปกินที่บ้านด้วย ตอนขับรถใกล้จะถึงบ้าน เด็กจิ๋วก็บอกว่า “อุ้ย ใกล้จะถึงแล้วนี่”...ใช่จริงๆ จำได้ไง เก่งมาก
...หลังจากได้ครอบกุ๊กไก่ไป เด็กจิ๋วคึกคักมาก คุณหมอบอกว่าพ่นยาเพื่อให้จมูกโล่งนะ ไม่ใช่ให้คึกแบบนี้ พอไปถึงบ้านก็เล่นโน่นนี่ไม่หยุด แบบว่าเหมือนกินยาบ้ามา วิ่งเข้าห้องอาม่าให้อาม่าทำผม แล้วก็รื้อข้าวของออกมาเล่น ปะป๊าแอบหลับอยู่ที่ห้องนั่งเล่น หลับๆอยู่ก็ได้ยินเสียง ตึบ ตึ่บ ตึบ ตึ่บ แล้วอั่ก เด็กจิ๋วกระโดดเข่าลอยใส่ตัวปะป๊า ทำจุกเลย แล้วก็ไม่รับผิดชอบ วิ่งกลับไปเล่นกับอาม่าต่อ สักพักก็กลับมาเข่าลอยใหม่ อี๊ไก่ก็เจอ หลังๆทุกคนจะระแวงหมด เวลาเด็กจิ๋ววิ่งมาใกล้ๆ จะตัวกระตุก สะดุ้งด้วยความระแวง มีแต่คนสงสัยว่านี่เด็กป่วยเหรอเนี่ยะ คุณแม่ก็งงว่าทำไมกลางวันกับกลางคืนมันแตกต่างกันเหลือเกิน
...ก่อนกลับบ้านเราต้องอาบน้ำให้เด็กจิ๋วให้เรียบร้อย เพราะรู้อยู่แล้วว่าตอนนั่งรถกลับบ้านต้องหลับแน่ๆ วันนี้อาบน้ำด้วยขันตัก เด็กจิ๋วสนุกมาก แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจขันเท่าไหร่ เอามาเขวี้งลงพื้น ลงไปยืนในขัน แบบนี้ขันมันก็เลอะหมดดิ่ ตอนนั่งรถกลับบ้านก็สลบหลับไปตามคาด หลับได้สักพักก็ไอๆแล้วก็อ้วกออกมาอีก ตอนแรกพยาบาลบอกว่าตอนนอนที่ไอเยอะเป็นเพราะนอนราบ ให้จับนอนตัวตั้งๆ แต่นี่นั่งในรถ ตัวตั้งจะตายอยู่แล้ว ก็ยังไอเหมือนเดิมนี่

๓ ขวบ + ๑๓๓ วัน...อาทิตย์ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เช้านี้ตื่นมาปลุกปะป๊าให้พาไปดูบาร์บี้ตั้งแต่ 6 โมงกว่าเหมือนเคย ยังมีอาการไอๆอยู่บ้าง แต่ก็ลั้นลาคึกคักไม่เหมือนคนป่วย วันนี้ปะป๊ากับคุณแม่ลงมาทำงานกันที่ออฟฟิต เด็กจิ๋วอารมณ์ดีมากร้องเพลงแต่งเองไม่ยอมหยุด ตอนกลางวันปะป๊าออกไปซื้อกับข้าวที่อตก.มากินกัน ให้เด็กจิ๋วกินปลาทูต้มเค็มเหมือนเดิม
...คุณแม่สั่งซื้อหนมมาจากในเว็ป มีถั่วพิตาชิโอ้แบบเคลือบ เด็กจิ๋วชอบกินมาก แต่ไม่กินถั่วนะ ใช้วิธีอมๆเอาผงชูรสออกไปแล้วคายถั่วให้เรากิน ปะป๊ากับคุณแม่ก็ต้องรับกินต่อ แหว่ะๆเล็กน้อยอ่ะ  
...ที่ไปหาหมอสุกัลยาคราวนี้ ได้ยาตัวใหม่มา เป็นแบบผงสีส้ม ก่อนกินให้ละลายน้ำ ละลายแล้วต้องกินเลยไม่งั้นจะเสีย คุณหมอบอกว่าอร่อย แต่เด็กจิ๋วไม่เห็นชอบเลย กว่าจะกินได้ต้องเกลี่ยกล่อมกันอยู่ตั้งนาน แล้วตัวนี้ต้องกินวันละ 3 ครั้ง กินแต่ละครั้งก็ยาก


๓ ขวบ + ๑๓๕ วัน...อังคาร ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนอาการก็ยังไม่ดีขึ้น นอนไอๆทั้งคืน แต่ก็ไม่มีอ้วก แล้วที่สำคัญคือมีน้ำมูกมาด้วย ก่อนหน้านี้ไม่มีน้ำมูก นี่ดูแล้วอาการจะหนักลงไม๊เนี่ยะ คุณหมอสั่งว่าถ้า 2 วันแล้วยังไอๆอยู่ให้รีบพามาหาหมอ แต่เรารอดูอาการพรุ่งนี้อีกวันก่อนดีกว่า
...วันนี้เปิดเทอมแล้ว แต่เค้าให้ไปเฉพาะเด็กใหม่ที่ไม่ได้เรียนซัมเมอร์ พวกเด็กเก่าให้ไปวันที่ 16 เลย แต่เห็นแม่นิตาลงใน facebook ว่าจะพานิตาไปวันนี้เลย ก็ยังงงๆอยู่ หรือว่าไปก็ได้ ไม่ไปก็ได้
...วันนี้แม่นิตาไปถ่ายรูปที่บอร์ดในโรงเรียนแล้วส่งมาให้ดูทาง facebook มีรูปเด็กจิ๋วกำลังทำกิจกรรมโน่นนี่อยู่ มีรูปกำลังเล่นของเล่นในห้องเรียน รูปที่สยามโอเชี่ยนเวิลด์
...ปะป๊าออกไปหาลูกค้าทั้งวัน ตอนเย็นกลับเข้ามาเจอเด็กจิ๋วกำลังสลบสไลอยู่ หลับไปตอนบ่ายๆ จนห้าโมงแล้วยังไม่ยอมตื่น  อี๊ป้อมอุ้มพาลงมาที่ออฟฟิตก็มานั่งหลับต่อ สักพักตื่นขึ้นมาแล้วอาละวาด งอแง อี๊ป้อมทำเกี๊ยวมาให้ก็ไม่ยอมกิน อาละวาดจะกินสปาร์เก็ตตี้คาโบนาร่า ปะป๊าเลยขึ้นไปทำให้กิน เด็กจิ๋วยังคงงอแงให้ปะป๊าอุ้มไปด้วยทำอาหารไปด้วย เราถามว่าจะทำได้ไง เด็กจิ๋วก็บอกว่า “ก็ทำมือเดียวไง”...ปะป๊าเลยต้องทำตามคำสั่ง สักพักมีพี่โฮไอมาช่วยชีวิตไว้ แต่ตอนทำกับข้าว เด็กจิ๋วไม่ยอมให้ออกไปทำที่ครัวไทย ให้ทำอยู่ข้างใน พอได้กินสปาร์เก็ตตี้อิ่มเท่านั้นแหล่ะ ก็คึกคักขึ้นมาทันที
...เด็กจิ๋วยังมีอาการไอๆอยู่เล็กน้อย ตอนดึกปะป๊าก็กลัวว่าเด็กจิ๋วจะไอจนอ้วกเลอะหมีหมีอีก เลยสั่งเด็กจิ๋วว่าถ้าจะไอให้โยนหมีหมีออกไปก่อน จะได้ไม่อ้วกเลอะหมีหมี เด็กจิ๋วเชื่อฟังมาก พอไอทีหนึ่งก็เขวี้งหมีหมีอย่างสุดแรง กระเด็นไปติดประตูเลย ไม่ได้ทำทีเดียวด้วย พอเราเก็บหมีหมีมาให้ก็เอาอีก คุณแม่เข้ามาเจอก็ตกใจ อยู่ดีๆทำไมเขวี้ยงหมีหมีทิ้ง

๓ ขวบ + ๑๓๖ วัน...พุธ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เด็กจิ๋วคว้าโทรศัพท์คุณแม่ไปเล่นกับพี่ต่อง ถามว่าเล่นอะไร เด็กจิ๋วบอกว่า “เมลเส็จ” ตะโกนลั่นออฟฟิตเลย “เล่นเมลเส็จ เล่นเมลเส็จ”...มันคือ message
...ระหว่างที่ปะป๊าไม่อยู่บ้าน เฮียโรจดพฤติกรรมไม่ดีของเด็กจิ๋วลงกระดาษ ได้ 4-5 ข้อ เอามาฟ้องกู๋เล็กใหญ่ แต่สืบไปมา ปรากฎว่าเฮียโรเองก็ไม่แพ้กัน แกล้งน้องเหมือนกัน เรื่องที่เฮียโรจด ก็มีแลบลิ้น พูดคำว่าไอ้กับขี้ เอาดินสอมาแทงเฮียโร เป็นต้น
...เด็กจิ๋วชอบเล่น “ทั้งหมดตรง” ติดมาจากพี่ๆที่ไปทำงานที่กองบัญชาการกองทัพไทยกัน วันนี้ก็เล่นไปเรื่อย จนถึงขึ้น Advance เปลี่ยนเป็น “ทั้งหมดเอียง ทั้งหมดคว่ำ ทั้งหมดห่วงยาง” ...ไอ้ ทั้งหมดห่วงยางที่ฮามาก พอพูดเสร็จก็ทำว่ายน้ำจ่อมแจ๋มจ่อมแจ๋ม
...ปะป๊าพยายามสอนภาษาอังกฤษคำศัพท์ของสัตว์ตัวต่างๆ เด็กจิ๋วความจำใช้การได้ดีมาก ตัวแปลกๆที่นอกเหนือจากพวกวัว ช้าง ม้า แมว หมา วันนี้ได้ตัว อูฐ หมาใน แล้วตัวอื่นๆอีกนิดหน่อย สอนเสร็จก็มาทดสอบซะหน่อย ปะป๊าพูดชื่อสัตว์ภาษาไทย เด็กจิ๋วตอบมาเป็นภาษาอังกฤษ ถามไป เด็กจิ๋วก็ตอบมาได้เรื่อยๆ จนถึงตัว เป็ด เด็กจิ๋วเบื่อหรืองงไม่รู้ ตอบว่า “ก้าบ ก้าบ”

๓ ขวบ + ๑๓๗ วัน...พฤหัส ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก เมื่อคืนคิดอยู่นานว่าจะให้ไปดีไม๊ คืออาการก็ใกล้หายมากๆแล้ว แต่ยังไม่หายขาด ถามเด็กจิ๋วว่าอยากไปไม๊ ก็บอกว่าอยากไป อยากไปเจอเพื่อนๆ แต่เราตัดสินใจแล้วไม่ไปดีกว่า เอาให้หายสนิทก่อน ไม่งั้นก็ไปรับเชื้อใหม่มาอีก ตอนสายๆคุณแม่โทรไปบอกครูแหวว ครูแหววบอกว่ายังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมวันนี้น้องพริมไม่มา คุณแม่ของเพื่อนๆมาลงใน facebook ว่าลูกๆส่วนใหญ่ไม่ร้องไห้กันเลย ทั้งเด็ก summer และเด็กใหม่ สงสัยเป็นวันแรกอ่ะดิ่ ต้องรอดูวันที่ 2 เพราะวันแรกยังตื่นเต้นอยู่
...เด็กจิ๋วชอบนิทานเรื่องเจ้าหมาป่ากับลูกแพะ 7 ตัวมาก ช่วงนี้เปิดเรื่องนี้ให้ปะป๊าเล่าทุกวันเลย วันนี้ก็มาเล่นละครกัน ให้คุณแม่เป็นเจ้าหมาป่า เด็กจิ๋วเป็นลูกแพะ
...ยาหมดชุดแล้วอาการยังไม่หายเลย มีไอเสมหะนิดหน่อย กับน้ำมูกเล็กน้อย อาการไม่หนัก แต่ก็ยังไม่หายขาด วันนี้ตอนบ่ายๆเลยพาไปหาหมอหน่อย หมอก็บอกว่าคอ หู ปรกติดีมาก ใกล้หายแล้ว แต่ไหนๆมาแล้วก็เลยให้ครอบกุ๊กไก่ซะหน่อย เด็กจิ๋วบอกว่าไม่อยาก แต่ถึงเวลาก็ยินยอมแต่โดยดี นั่งนิ่งๆ วันนี้ไม่ได้ยากลับบ้านเลย คุณหมอให้กิน fuitfoid อย่างเดียว

๓ ขวบ + ๑๓๘ วัน...ศุกร์ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...ทุกเช้าเด็กจิ๋วยังคงตื่นมาถามว่า “คุณแม่ วันนี้วันธรรมดาหรือว่าวันหยุด”...พอบอกว่าวันธรรมดา ก็ไม่งอแงอะไร ยอมรับชะตากรรม แต่บางทีก็อิดอ่อดนิดหน่อย ว่า “น้องพริมอยากดูการ์ตูน”...บางทีเราใจอ่อนก็ให้ดูพวกการ์ตูนตอนสั้นๆใน UBC หรือไม่ก็ใน Youtube บ้าง ช่วงนี้ UBC มีการ Update ระบบใหม่ อยู่ดีๆเครื่องที่บ้านเราก็มีช่อง Disney Chanel เพิ่มขึ้นมา ซึ่งปกติช่องนี้จะอยู่ในแพ็กเก็จแพง ของเราเป็นแบบถูกสุด เด็กจิ๋วเลยได้ดูไปด้วย ไม่แน่ใจว่าเค้าใจดีหรือว่ามันเป็นบัค
...เด็กจิ๋วเดินไปคุยกับพี่ยู้ฮู “เอ๊ะ เรามีเรื่องอะไรกันไม๊อ่ะ “... แล้วก็ เธอยังงั้นเธอยังงี้ พูดยังกับเป็นเพื่อนกันอ่ะ
...คุณแม่กำลังยุ่งอยู่ อากงราชบุรีโทรเข้ามา คุณแม่เลยสั่งให้เด็กจิ๋วรับสายให้หน่อย เด็กจิ๋วก็รับสาย บอกว่า “ฮาโหล นี่น้องพริมเองนะ คุณแม่ไม่ว่างรับสาย มีอะไร”...พูดเป็นเรื่องเป็นราวได้เก่งมาก แต่พูดจบ อากงก็ตัดสายทิ้งไป คุณแม่โทรกลับไปถามอากงว่าทำไมวางสาย อากงบอกว่าได้ยินใครพูดอะไรไม่รู้เรื่อง นึกว่าประชุมอยู่ เด็กจิ๋วออกจะพูดชัดเจนนะ แต่อากงหูไม่ค่อยดีเอง
...เด็กจิ๋วเอาที่ปัดเล็กๆมาปัดโต๊ะทุกคน ถามว่า “เอ่อ โต๊ะคุณเลอะไม๊ค่ะ”...แล้วก็ปัดๆ พอมาถึงปะป๊า ปะป๊าบอกว่าไม่เลอะ เด็กจิ๋วบอกว่า “เห็นไม๊ค่ะ ชัดแจ๋วเลยว่าเลอะ”...แล้วก็ชะงัก คิดอะไรสักอย่าง แล้วบอกว่า “โอ๊ย คำว่า ชัดแจ๋วไม่เพราะ ต้องตบปาก”...แล้วก็ตบปากตัวเอง ... เอ่อ คำว่าชัดแจ๋ว มันไม่เพราะตรงไหนเนี่ยะ
...ปะป๊าเล่นถามอะไรตรงข้าม อย่างขาว ตรงข้ามดำ ร้อน ตรงข้ามหนาว ตอนแรกๆที่เล่น เด็กจิ๋วยังงงอยู่เลย อย่างถามว่าอะไรตรงข้ามกันร้อน เด็กจิ๋วตอบว่า แดด คือไปนึกถึงอะไรที่ใกล้เคียงกัน แต่เล่นหลายๆทีตอนนี้เก่งขึ้นมากแล้ว เราเลยพยายามให้มันยากขึ้นเรื่อยๆ อะไรตรงข้ามกับยีราฟ เด็กจิ๋วตอบ “ฮิปโป”...เก่งอ่ะ อะไรตรงข้ามกับคุณแม่ เด็กจิ๋วตอบ “ปะป๊า” ถามไปจนถึงคำถามที่ว่า อะไรตรงข้ามกับพี่ตั๊ก เด็กจิ๋วตอบอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิด “พี่โอ”...โห แบบนี้เรียกว่าขั้นเทพแล้วอ่ะ

๓ ขวบ + ๑๓๙ วัน...เสาร์ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เช้านี้เด็กจิ๋วได้ตื่นมาดูการ์ตูนจอใหญ่เรื่องบาร์บี้สมใจ เหมือนปะป๊าเลย ชอบดูหนังจอใหญ่ ดูเด็กจิ๋วมีความสุขมาก หลังจากที่ถามมาทุกวัน หลังจากดูจบก็รีบแต่งตัวไปเซนลาดกัน วันนี้ที่รอคอย เด็กจิ๋วจะได้ไปลองเรียนเปีนโน ปะป๊าอยากให้เด็กจิ๋วเรียนมากๆ ไปถึงสยามกลการ ชั้น 8 เซนลาด ตอน 10 โมง แจ้งว่าจะพาน้องมาทอลองเรียนเพราะว่าที่จริงแล้วต้องเรียนตอนอายุครบ 4 ขวบ ครูเค้าบอกว่าถ้าอายุไม่ถึงก็ลองมาดูๆก่อนก็ได้ว่าไหวไม๊ เจ้าหน้าที่พาเข้าไปรอในห้องเรียน มีเด็กจิ๋วกับพี่อีกคน รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง พี่คนนั้นเริ่มสงสัยเลยออกไปดูลาดเลา ปรากฎว่าน้องพามานั่งรอผิดห้อง พอไปถึงห้องเรียนจริงๆ ก็เจอเพื่อนๆเรียนอยู่ประมาณ 10 คน เจ้าหน้าที่เสร่อมาก
...พอเข้าไปนั่ง คุณครูก็แจกอุปกรณ์การเรียน มีสมุดเพลง DVD หนังสือเรียน กล่องแปะโน๊ตแม่เหล็ก อุปกรณ์ทั้งหมดราคา 2 พันกว่าบาท ค่าเรียน 5 พันกว่าบาท 3 เดือน ตอนแรกเราก็งงๆว่าแค่มาลองเรียน ยังไม่ได้ลงทะเบียนนะ มาแจกอุปกรณ์ทำไม พอเริ่มเรียน คุณครูก็ให้ฉีกสติ๊กเกอร์จากหนังสือเรียนมาฝากไว้ที่คุณครู แล้วครูจะแกะทีละดวงแจกสติ๊กเด็กเป็นระยะๆตลอดชั่วโมงที่เรียน เราก็ เอาไงล่ะ ก็ต้องเลยตามเลย ฉีกสติ๊กเกอร์ให้คุณครู เพราะไม่งั้นเด็กจิ๋วต้องโวยแน่เลย เพื่อนๆได้สติ๊กเกอร์กันหมด แล้วตัวเองไม่ได้คนเดียว สรุปแล้วก็เหมือนถูกมัดมือชกให้ลงเรียนไปในตัว แต่ก็ไม่ผิดหวังเพราะดูแล้วเด็กจิ๋วชอบมาก ให้ความสนใจมาก ครูให้ร้องเพลงก็ยอมร้องตาม ให้ออกไปเอาสติกเกอร์ก็วิ่งออกไปคนแรกเลย แต่ว่ากว่าจะได้แจกก็เป็นคนสุดท้ายเพราะโดนแซงคิวหมด เด็กจิ๋วเป็นเด็กดีมาก ยอมแต่โดยดีไม่โวยวายอะไร วันแรกยังไม่ได้กดคีย์แม้แต่ทีเดียว ได้แต่ร้องเพลง แล้วออกไปดูคุณครูเล่นเปียโน ครูเค้าบอกว่าต้องให้เด็กฟัง ร้องก่อนถึงจะเริ่มให้กดคีย์เอง
...เรียน 1 ชั่วโมงเสร็จออกมาก็ไปกินข้าวที่แหลมเจริญซีฟู้ด ที่จริงนัดพี่โนพี่โน่มากินข้าวด้วยกัน แต่พี่ๆมาสาย กว่าจะมาถึงเราก็กินข้าวเสร็จแล้ว เลยเปลี่ยนไปนัดเจอกันที่แผนกของเด็กเล่น เดินเล่นซื้อของด้วยกันไม่นานก็พากันกลับมาที่บ้านเด็กจิ๋ว พี่โน่อยากมาเล่นขายไอติม มาถึงก็พักเหนื่อยที่ห้องโฮมปั๊บเดียว แล้วก็ไปลุยที่ดาดฟ้าต่อยาวเลย คราวนี้มีบ่อบอลมาเพิ่ม เด็กๆเล่นกันสนุกสนานมาก ทั้งบ่อบอล บ้านลม บ้านน้อยสองชั้น บ้านอุโมงดอร่า
...ตอนนี้เริ่มเล่นถามคำถามที่ซับซ้อนขึ้น อะไรหนักกว่ากัน เด็กจิ๋วตอบได้เก่งเกินคาด รถเมล์กับรถแท็กซี่ก็ตอบถูก รถมอเตอร์ไซกับจักรยานก็ตอบถูก แต่ระหว่างหมอนกับก้อนหิน เด็กจิ๋วตอบว่าหมอน แต่เราก็ถามไม่เคลียร์ ไม่ได้บอกขนาดก้อนหินว่าเล็กใหญ่แค่ไหน จะว่าผิดก็ไม่เชิง

๓ ขวบ + ๑๔๐ วัน...อาทิตย์ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้ปะป๊านัดอาแปะอ๊อดไปช่วยออกแบบ built-in คอนโดให้พี่ลาบ ตอนแรกบอกว่าไปคนเดียวก็ได้ แต่คุณแม่ไม่เอา พากันไปหมดเลย และแล้วก็เป็นไปตามคาด คือห้องคอนโดใหม่เหม็นสี เด็กจิ๋วอยู่ไม่ได้ ต้องลงมาอยู่ที่ห้องสำนักงานขาย นั่งรอปะป๊าไป 2 ชั่วโมงเลย เพราะกว่าจะออกแบบ กว่าจะคุยกับช่างแหลม โชคดีที่เด็กจิ๋วมีเจ๊นิวกับเจ๊แนนนั่งรอเป็นเพื่อน เล่นขายของกัน ตอนแรกผลัดกันซื้อผลัดกันขาย เล่นไปเล่นมาไม่มีใครยอมขาย จะเป็นคนซื้อกันหมด เลยต้องให้คุณแม่อากิมมาขายแทน เจ๊แนนงอแงพอสมควร ร้องไห้หลายรอบ
...เสร็จแล้วก็พากันไปกินข้าวที่ร้าน ริมน้ำบางพึ่ง อาหารอร่อยใช้ได้ เป็นร้านริมแม่น้ำอยู่ใต้สะพานอุตสาหกรรม ทางเข้ายากมาก ต้องจอดรถที่วัดแล้วเดินเข้าชุมชนไป ที่ร้านอาหารเด็กจิ๋วก็ลั้นลาดีไม่อาละวาด อาม่ากระต่ายชมใหญ่เลยว่าน่ารัก
...เจ๊แนนสอนเล่นเปาบุ้นจิ้นด้วย เป้ายิงฉุบกัน ใครฉนะก็บอกว่า เปาบุ้นไม่เป็นไร ใครแพ้ก็บอกว่า เปาบุ้นขออภัย ส่วนถ้าเสมอกันต้องบอกว่า เปาบุ้นเปิดฉาก...???


๓ ขวบ + ๑๔๑ วัน...จันทร์ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เช้านี้ไปโรงเรียนวันแรกของเทอม ที่จริงเปิดเทอมตั้งแต่วันที่ 16 แต่เด็กจิ๋วไม่สบายเลยเพิ่งไปวันนี้เป็นวันแรก ตื่นมาก็สดชื่นอารมณ์ดี อยากไปโรงเรียน ลั้นลามาก นั่งรถไปพร้อมกับเจ๊น่าเฮียโรก็ลั้นลาดี เล่นถามอะไรเอ่ยไปตลอดทาง
...ตอนบ่ายปะป๊าไม่อยู่ คุณแม่เลยพาอี๊ป้อมไปรับ ไปถึงห้องเรียนตอนบ่าย 2 ปรากฎว่าวันนี้เด็กจิ๋วหลับ ยังไม่ยอมตื่น คุณครูถามว่าจะให้ปลุกเลยไม๊ คุณแม่บอกว่ารออีกปั๊บก็ได้ เพื่อนๆคนอื่นตื่นกันหมดแล้ว มาทำผม กินหนมกัน ในห้องก็เปิดไฟสว่าง เด็กจิ๋วกับเพื่อนอีกคนยังนอนอยู่ได้ไม่ยอมตื่น คุณครูบอกว่านอนช้า มัวแต่เล่นอยู่ ปะป๊าถามว่าวันนี้นอนข้างใคร เห็นบอกว่านีโอ กับนิตา
...คุณแม่รออยู่สักพักก็ให้คุณครูปลุก เด็กจิ๋วตื่นขึ้นมางัวเงียมาก หน้ามึนเลย คุณแม่พามาซื้อนมร้านป้าหน้าโรงเรียนให้กินกล่องหนึ่ง พอขึ้นรถก็งอแงอาละวาด จะให้อี๊ป้อมไปขับรถ อี๊ป้อมขับเป็นแต่มอเตอร์ไซด์อ่ะ สุดท้ายต้องให้มานั่งหน้ากับคุณแม่ถึงจะยอม
...เทอมใหญ่นี่มีหนังสือเยอะกว่าซัมเมอร์หลายเล่มเลย มีเกือบ 10 เล่มได้ ใส่กระเป๋านักเรียนมาหนักมาก เด็กจิ๋วกลับมาบ้านก็รีบทำการบ้านด้วยอาการกระตือรือร้นเหมือนเดิม ดูการบ้านจะมีน้อยเกินไป เด็กจิ๋วยังทำไม่หายมันส์เลย ต้องให้คุณแม่พิมพ์รูปโรอิกับเฮลิ มาให้ระบายสีเล่น เด็กจิ๋วมีปัญหาเรื่องการจับดินสออ่ะ จับไม่ถูกต้อง เราพยายามดัดให้ถูกมันก็ดูเหมือนไม่ถนัดซะ เลยไม่แน่ใจว่าควรปล่อยให้จับตามใจชอบหรือต้องพยายามบังคับดี
...ปะป๊าพยายามถามชื่อเพื่อนใหม่ รู้มาว่ามีเพื่อนใหม่ที่ไม่ได้เรียนซัมเมอร์อีกประมาณ 10 คน เด็กจิ๋วก็บอกนะ แต่บอกไปบอกมา มันออกจะมั่วซะมากกว่า คือเห็นเราอยากรู้ก็แกล้งเราไปเรื่อย ส่วน teacher คนใหม่ชื่อ Benz เด็กจิ๋วบอกว่าชื่อเหมือนรถเบ๊นซ์เลย แล้วปะป๊าก็ถามเรื่องเชิดหุ่นว่าเป็นยังไง เพราะในตารางเค้าเขียนว่ามีเชิดหุ่น เด็กจิ๋วเล่าว่าเชิดเรื่องหมู ใช่ลูกหมูสามตัวเป่าก็ไม่ได้ความ แต่เห็นบอกว่าครูแหวว ครูขวัญ เป็นคนเชิด

๓ ขวบ + ๑๔๒ วัน...อังคาร ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เช้านี้ตื่นมางอแงมาก บอกไม่อยากไปโรงเรียน เอาแล้วไง ที่งอแงอาจเป็นเพราะเมื่อคืนฝันร้ายด้วยมั้ง เห็นละเมอบอกว่า “เอามานี่ เอามานี่ ไม่เอาแล้ว”...พร้อมกับเอามือไขว้ขว้าอะไรบางอย่างในอากาศ แล้วก็ “ไม่รักปะป๊าแล้ว”...อยากรู้จังว่าฝันเรื่องอะไร วันนี้เห็นท่าไม่ดี เราเลยหลอกล่อโดยการพาไปกินหนมห้องครัวก่อน ให้อารมณ์ดีๆ แล้วพาลงมาข้างล่าง อาการก็ดีขึ้น ยอมแต่งตัว ตอนนั่งอยู่ในรถก็เล่นกับเจ๊น่าเฮียโร แต่ดูหงุดหงิดมาก มีอาละวาดทุบเฮียโรอั๊กๆด้วย พอเข้าไปโรงเรียนก็ดูซึมๆไม่ค่อยร่าเริง วันนี้ที่โรงเรียนจะเป็นไงนะ
...ระหว่างนั่งรถ ปะป๊าเริ่มถามคำถามเปรียบเทียบน้ำหนักที่ยากขึ้นเรื่อยๆ เด็กจิ๋วตอบถูกได้หมดอย่างเหลือเชื่อ มันจะฟลุ๊คก็ไม่น่าจะฟลุ๊คถูกทุกข้อ มีว่า หมอนกับทีวี แก้วที่ใส่น้ำกับแก้วที่ใส่ทราย แก้วที่ใส่น้ำกับแก้วที่ใส่คอตต้อนบัด เป็นต้น
...วันนี้ไปรับเด็กจิ๋วเร็วหน่อย ตั้งใจจะไปดูกล้องวงจรปิด แต่คุณครูบอกว่าตอนนี้กำลังทำระบบใหม่อยู่ มันยังไม่เรียบร้อย ตอนนี้ดูได้แต่ห้อง 1/10 เท่านั้น อ้าว ระหว่างที่รอเรื่องกล้องกันอยู่ ก็ได้เจอกับคุณแม่ของน้องต้นไม้ กับน้องเจ้นท์ เพื่อนใหม่ของเด็กจิ๋ว ตอนไปรับเด็กจิ๋วที่ห้อง รู้สึกมันวุ่นวายยังไงไม่รู้ มีเด็กใหม่มาเพิ่มแค่ 10 คน แต่มันดูวุ่นวาย มีเด็กใหม่คนนั้นคนนี้
...รับเด็กจิ๋วจากโรงเรียนเสร็จก็ไปโรงพยาบาลวิภาวดีกัน วันนี้ไม่ได้พาเด็กจิ๋วไปหาหมอแล้ว แต่เป็นปะป๊านี่แหล่ะ มีแผลคันที่หน้าอกและหลัง คุณหมอบอกว่าเป็นพวกงูสวัสหรือเริม กินยาก็หาย แต่ที่สำคัญคือติดต่อได้เพราะเป็นเชื้อไวรัส ซวยแล้ว ให้เด็กจิ๋วเกาหลังให้ทุกคืนเลย ปานนี้มีเชื้อเข้าร่างกายไปแล้วแน่ๆเลย แต่เชื้อพวกนี้ถ้าร่างกายแข็งแรงก็ไม่เป็นไร จะออกฤทธิ์เฉพาะคนที่กำลังอ่อนแอ ไม่แข็งแรง สงสัยช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาปะป๊าเคร่งเครียดกับโปรเจกต์ใหม่ของกองบัญชาการกองทัพไทย นอนดึกด้วย เลยทำให้ร่างกายอ่อนแอ
...เด็กจิ๋วกลับบ้านมาพร้อมกับเพลงใหม่ “แบบๆเค้าเรียกสะโพก เอาไว้โยก แซมบ้า แซมบ้า”...ดูจะชอบมาก คงจะมีท่าเต้นประกอบด้วย พยายามถามว่าใช่ครูเอ็มสอนหรือเปล่า ก็ไม่ได้คำตอบ แต่วันนี้มีวิชาดนตรีโคไดด้วย

๓ ขวบ + ๑๔๓ วัน...พุธ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...คุณแม่น้องอินอินมาถามในเว็ปเรื่อง teacher ว่าชื่ออะไร แล้วเริ่มเรียนกันยัง คุณแม่ๆแต่ละคนก็มาช่วยกันตอบ แต่ว่าเรื่องราวของแต่ละคนขัดแย้งกันมาก คุณแม่เราก็ไปช่วยตอบด้วย บอกว่า teacher ชื่อ เบ๊นซ์ ตามที่เด็กจิ๋วเล่า แล้วเริ่มเรียนไปแล้ว เด็กจิ๋วยังบอกว่า teacher สอนร้องเพลงกบ Frog Frog … แต่แม่คนอื่นๆบอกว่าชื่อ J แล้วยังไม่ได้เรียนนะ เริ่มเรียนวันที่ 27 เอาแล้วไง เราลองถามเด็กจิ๋วดูอีกทีว่า Teacher ชื่อ J หรือ Benz กันแน่ เด็กจิ๋วตอบว่าชื่อ J ด้วย Benz ด้วย มี 2 คน ยิ่งงงไปกันใหญ่ Teacher จะมี 2 คนได้ไง วันนี้เลยไปถามครูแหวว ได้ความว่า Teacher ชื่อ J แล้วยังไม่ได้เรียนภาคอังกฤษ แต่ teacher J เคยเข้ามาสอนที่ห้อง 1 ครั้ง สอนร้องเพลงกบจริง ส่วน Teacher ที่ชื่อ Benz ไม่มีตัวตน เด็กจิ๋วทำคุณแม่หน้าแตกแล้ว
...วันนี้ไปรับเด็กจิ๋วช้าหน่อย 3 โมงนิดๆ เพราะปะป๊ากับคุณแม่แอบไปกินเนื้อย่างกัน ระหว่างเดินไปที่ห้องก็เจอกับอั่งอั๊ง คุณแม่อั่งอั๊งบอกว่าทั้งอั่งอั๊งและน้องพริมไม่ได้นอนกลางวันนะ เพราะนอนคุยเล่นกันอยู่ พอเราเดินไปถึงห้อง ครูขวัญก็มาฟ้องเหมือนกันว่ามัวแต่คุยเล่นกันเลยไม่ได้นอน วันหลังต้องจับแยกห่างๆกัน ปะป๊าถามว่าเวลานอนนี่ปกตินอนตำแหน่งเดิมทุกวันหรือเปล่า คุณครูขวัญบอกว่าไม่ แล้วแต่ว่าหยิบเตียงไหนวางก่อนหลัง และถ้ามีเด็กป่วยก็จะแยกไปหลบใต้แอร์ ครูขวัญยังชมเด็กจิ๋วใหญ่เลยว่าชอบช่วยงานคุณครู วันนี้มีเพื่อนไม่ยอมกินข้าว น้องพริมก็ไปคอยเชียร์ยืนปรบมือเชียร์เพื่อนจนกินข้าวเสร็จ เราถามเด็กจิ๋วว่าเพื่อนคนนั้นคือใคร เด็กจิ๋วบอกว่า เป็นเพื่อนใหม่ชื่อ สิตรัง
...ตอนอุ้มเด็กจิ๋วเดินออกมาก็เจอกับครูบุ๋ม ครูบุ๋มก็มาชมเด็กจิ๋วให้เราฟังอีกบอกว่ากินเก่งมากๆๆ กินหมดจานแล้วเติมอีกจานใหญ่ ก็ยังกินหมดอีก กินเก่งมาก กินเองด้วย ... เอ่อ กินเก่งนี่จะชมหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนะ แต่อีกเรื่องที่ชมแน่ๆก็คือตั้งใจเรียนมาก เวลาแย่งที่นั่งเพื่อนๆไม่ได้ ต้องนั่งหลังแล้วมองครูแหววสอนไม่เห็น ก็ยืนดูเลย เวลาครูถามก็ตะโกนตอบใหญ่
...วันนี้ถามอั่งอั๊งอีกทีเรื่องเรียนพิเศษ ตกลงเค้าเรียนบัลเล่ต์ ภาษาอังกฤษ ว่ายน้ำ คุณแม่เลยคิดว่าหรือว่าจะให้เด็กจิ๋วเรียนว่ายน้ำที่นี่ ยังไม่ต้องไปเกษตรเพราะยังเล็กเกิน

๓ ขวบ + ๑๔๔ วัน...พฤหัส ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนนอน 3 ทุ่มกว่า เช้านี้เลยมีอาการงอแงเล็กน้อย ไม่ยอมแต่งตัว ต้องไปแต่งในรถ แต่ก็ไม่อาละวาดอะไร ตอนไปส่งที่ห้อง เจอน้องเคลี่ เด็กใหม่ คุณครูจับมือเด็กจิ๋วกับเคลี่ให้เดินไปเล่นที่สนามเด็กเล่น เราก็งงว่าทำไมไม่ให้กินข้าว เพราะตอนที่ไปส่งก็ 7.45 แล้ว ที่โรงเรียนนี้จะเคารถธงชาติกันตอน 7.40 แปลกดี
...วันนี้ต้องเรียนว่ายน้ำ แต่เราไม่ให้เด็กจิ๋วลงเพราะยังไม่ค่อยหายป่วยดี ครูอู๊ดถ่ายรูปเด็กๆห้อง 9 ตอนเรียนว่ายน้ำ ลง facebook ดูแล้วน่าเป็นห่วงมาก ในรูปเห็นเด็กๆขึ้นจากสระว่ายน้ำใส่เสื้อคลุมอาบน้ำนั่งรอที่พื้นข้างสระ ดูแล้วมันอิจฉปรกไงไม่รู้ แล้วเด็กๆต้องหนาวกันแน่ๆ เพราะกว่าจะอาบน้ำเรียงให้เด็กแต่ละคน เด็กจิ๋วเคยลงทีหนึ่ง กลับมาบอกว่าหนาว คงจะหมายถึงตอนรออาบน้ำเนี่ยะแหล่ะ แล้วกลับมาก็มีกลิ่นคลอรีนหึ่งเลย สงสัยจะอาบไม่เกลี้ยง หรือติดมากับเสื้อผ้าก็ไม่รู้ ปะป๊าเพิ่งรู้จากอาโกวว่า ไจโร ไม่เคยลงสระว่ายน้ำที่โรงเรียนเลย นี่เรียนตั้งแต่อนุบาลถึงประถมแล้วนะ อาโกวบอกว่าเคยลงทีหนึ่งแล้วสำลักน้ำเลยกลัว หลังจากนั้นก็ไม่ยอมลงอีกเลย
...เด็กจิ๋วกลับมาบ้านก็พูดถึงน้องสิตางค์ไม่หยุดเลย บอกว่าน้องสิตางค์น่ารักที่สุดในห้อง ชอบน้องสิตางค์มาก น่ารักกว่าน้องพริมอีก ปะป๊ากับคุณแม่ก็อยากจะเจอมากๆเลย น้องสิตางค์เนี่ยะ
...เนื่องจากว่าตอนนี้ปะป๊าเป็นงูสวัสหรือเริม คุณหมอบอกว่าติดต่อได้เพราะเป็นเชื้อไวรัส ปะป๊าเลยไม่ได้อาบน้ำให้เด็กจิ๋วมาเป็นอาทิตย์แล้ว ให้คุณแม่อาบให้ บางวันอี๊ป้อมก็อาบให้

๓ ขวบ + ๑๔๕ วัน...ศุกร์ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันหยุดวิสาขบูชา พี่ๆที่ออฟฟิตไปเที่ยวระยองกันสิบกว่าคนรวมทั้งอี๊ป้อมด้วย ช่วงนี้เด็กจิ๋วคงไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดอีกนานเพราะเปิดเทอมแล้ว วันเสาร์มีเรียนเปียโน ถ้าไปเที่ยวก็ต้องโดดเรียน ดูแล้วมันจะปลูกฝังนิสัยไม่ดีให้เด็กหรือเปล่า วันนี้เด็กจิ๋วนัดพี่โนพี่โน่ไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เด็กจิ๋วโทรไปคุยกับน้าหญิงเองเลย พูดว่า “จะไปพิพิธ@#!@#@ศาสตร์ “...พยายามให้พูดอีกหลายทีก็พูดไม่ได้ซะที ไม่แน่ใจว่าพูดไม่ได้จริงหรือว่าแกล้งเรา ให้พูดแยกกัน พิพิธภัณฑ์ พูดได้ ให้พูด วิทยาศาสตร์ พูดได้ แต่มารวมกันพูดไม่ได้
...พิพิทธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อยู่รังสิตคลอง 5 ทางเข้าลึกลับมาก ไม่ได้ติดถนนใหญ่ คือสงสัยจะเน้นให้เด็กมาทัศนศึกษาแน่ๆเลย เพราะถ้าคนปกติจะมาเองนี่ยากมากๆ ก่อนจะเข้าไป เราแวะกินนิตยาไก่ย่างกันก่อนตอน 10 โมง เพราะคิดว่าเข้าไปแล้วจะอยู่ยาว คงไม่ค่อยมีอะไรกินข้างใน แต่น้าหญิงไม่ได้แวะกิน เลยไปถึงก่อน น้าหญิงพาพี่โนพี่โน่ไปเดินพิพิทธภัณฑ์ชีววิทยาก่อน เป็นอีกตึกหนึ่งแยกออกจาก พิพิทธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ แต่อยู่ใกล้ๆกัน เดินกันได้
...ที่พิพิทธภัณฑ์ชีววิทยาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ พอเราไปถึงก็รีบตามพี่โนพี่โน่เข้าไป เด็กจิ๋วได้ดูพวกเขาสัตว์ต่างๆ ได้รู้ว่าคนสมัยโบราณหน้าเหมือนลิง ระหว่างเดินไปมาอยู่ในนั้นก็มีพวกรูปหนูหรือหนูสต๊าฟจริงๆหลายจุด เด็กจิ๋วเห็นก็รีบเรียกคุณแม่มาดูทันที แกล้งคุณแม่ตามเคย แกล้งเสร็จก็ใจดี เอามือปิดตาคุณแม่พาคุณแม่เดินหนีไป เด็กจิ๋วในเด็ดมาก ไปยืนเกาะตู้กระจกดูหนูสต๊าฟ ปะป๊าเองยังไม่กล้าเลย แต่พี่โนพี่โน่ก็ดูกันใหญ่ สงสัยเด็กยังไม่รู้จักกลัวอะไรแบบนี้
...อยู่ที่ตึกชีววิทยาไม่นานก็เดินข้ามฝากลานจอดรถมาที่ตึกพิพิทธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ รูปทรงตึกเป็นรูปลูกเต๋า 2 ลูก เริ่มเข้าไปที่ชั้นล่างก่อน เข้าไปถึงก็เจอสถานีเครื่องร่อน มีกระดาษให้พับเครื่องล่อนแบบต่างๆ บนกระดาษจะมีเส้นประให้ด้วย พับง่าย แต่ก็ดูเหมือนจะยากเกินไปสำหรับเด็กจิ๋ว เราต้องพับให้ พับเสร็จ เด็กจิ๋วถือเป็นภาระตลอดทั้งวันเลย ถัดมาเป็นห้องจัดโชว์เกี่ยวกับไฟฟ้า แต่ละจุดก็จะมีของให้เด็กเล่น เช่นปั่นจักรยาน กดปุ่มนั่นนี่ เล่นมาเรื่อยๆมาถึงเครื่องกำเนิดไฟ ให้เด็กกดปุ่มแล้วเครื่องจะหมุนทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า พี่โน่เล่นอยู่ เด็กจิ๋วเข้าไปแย่งกด เห็นจะๆมีหลักฐานเป็นวีดีโอด้วย พอพี่โน่ไม่ให้กด เด็กจิ๋วก็เอาตัวไถเข้าไปแย่ง ในที่สุดพี่โน่ระเบิดอารมณ์ ร้องไห้ แล้วก็เริ่มเข้าลูบแบบเดิม คือยึกปุ่มนี้ไว้เป็นเจ้าของ ไม่ให้เด็กจิ๋วหรือคนอื่นๆเข้ามาแย่งเป็นอันขาด เหมือนตอนที่ไป Kidzoona เลย ลุงนอกับน้าหญิงพยายามเกลี่ยกล่อมอยู่ครึ่งชั่วโมงได้ ในที่สุดก็ยอมแพ้ ต้องไปหยิบขวดนมมาให้ดูด คือสาเหตุที่แท้จริงก็คืออยากนมนั่นเอง แต่เด็กจิ๋วก็เป็นตัวไปก่อชนวน ระหว่างที่ยึดครองปุ่มที่ว่านั้น ก็ร้องไห้แล้วตะโกนมาเป็นระยะๆว่าไม่ให้เด็กจิ๋วกด ไม่ให้เด็กจิ๋วกด
...ระหว่างที่ลุงนอกับน้าหญิงกำลังจัดการพี่โน่อยู่ พวกที่เหลือก็ไปห้องถัดไป เป็นการโชว์เกี่ยวกับน้ำและลม มีของเล่นเยอะแยะ เด็กๆเล่นสนุกมาก มีบ้านแผ่นดินไหว มีเครื่องทำพายุทอนาโด กังหันแบบต่างๆ เขื่อนและประตูระบายน้ำ เด็กจิ๋วชอบอันนี้เป็นพิเศษ เพราะมีน้ำให้เล่น คือไม่ได้สนใจตัวประตูหรือกลไกอะไรหรอก เล่นลากดอกบัวไปตามทางน้ำ
...ถัดไปชั้นที่สองเป็นของเล่นเกี่ยวกับเสียง อันนี้ก็สนุก มีพวกที่เคาะต่างๆ จานส่งเสียงกระซิบ เด็กจิ๋วไปกระซิบว่า “น้องพริมรักปะป๊าที่สุดในโลก”...ตรงส่วนนี้มีมุมเครื่องครัวและซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย ไม่รู้ทำไมมาอยู่ในนี้ได้ อันนี้ถูกใจพี่โน่มาก เล่นทำอาหารกับเด็กจิ๋วใหญ่
...ชั้น 3 4 5 6 ก็จะจัดโชว์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ต่างๆ ชั้นละอย่าง เด็กๆก็ชอบหมดทุกชั้น มีชั้นเกี่ยวกับเครื่องบิน มีเครื่องบินปลอมแบบมีเก้าอี้ให้ลองนั่ง เด็กจิ๋วชอบมาก ไปเล่นเป็นแอร์โฮสเตจ บอกว่า “นี่นกแอร์นะคะ จะทานอะไรดีคะ”...แล้วก็ไปเอาอาหารมาเสิร์ปทุกคน มีชั้นที่เกี่ยวกับก่อสร้าง มีอิฐโฟมให้เล่น เด็กจิ๋วกับพี่ๆช่วยกันรื้ออิฐที่เค้าสร้างเป็นกำแพงไว้ เอามาปูเรียงที่พื้น
...ตอนกลางวันมากินข้าวที่ห้องอาหาร น้าหญิงทำก๋วยเตี๋ยวหกเลอะตัว เด็กจิ๋วเห็นเหตุการณ์ พอคุณแม่ยกชามก๋วยเตี๋ยวมาให้เด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วรีบบอกว่า “เดี๋ยวน้องพริมกินเองนะ น้องพริมจะระวังไม่ให้หก”...พร้อมกับมองไปทางน้าหญิง ด้วยแววตาเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง
...ตรงบริเวณทางออก เจอร้านของเล่นที่เจ๊น่ากับเฮียโรโปรดปรานมาก คือเจ๊น่ากับเฮียโรมาทัศนศึกษาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่ละครั้งก็จะซื้อของเล่นวิทยาศาสตร์กลับไปเต็มเลย ยังเคยซื้อมาให้เด็กจิ๋วอันหนึ่งเป็นแท่งกระดาษพันๆ เล่นโดยการสะบัดเหวี่ยงออกไปแล้วมันจะหดกลับ เด็กจิ๋วเล่นไม่กี่ที่ก็เจ๊งแล้ว วันนี้เราซื้อนกวิทยาศาสตร์ กับขดสปริงพลาสติก

๓ ขวบ + ๑๔๖ วัน...เสาร์ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เป็นวันเสาร์ต้องไปเรียนเปียโน หลังจากตื่นมาปลุกปะป๊าให้พาไปดูบาร์บี้เสร็จก็ออกไปเซนลาดกัน เด็กจิ๋วลั้นลาอยากเรียนเปียโนมาก นอกจากนั้นยังพูดอยู่หลายครั้งแล้วว่าจะเรียนศิลปะด้วย เราลองไปถามดูแล้วต้องเรียนเป็นคอส แต่ครั้งแรกจะลองเรียนครั้งหนึ่งก่อนก็ได้ ครั้งละ 450 บาท 2 ชั่วโมง ผู้ปกครองเข้าไม่ได้ ทำไมเด็กจิ๋วอยากเรียนก็ไม่รู้ ตัวเองไม่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะเลยแม้แต่น้อย ถึงขั้นย่ำแย่เลยแหล่ะ ก็เหมือนปะป๊ากับคุณแม่นั่นเอง เราก็ไม่ค่อยสนับสนุนด้วย เพราะบ้านนี้ไม่มีใครมาทางด้านนี้เลย แล้วเด็กจิ๋วจะไปนั่งระบายสี 2 ชั่วโมงเป็นไปได้เหรอ คิดไปคิดมาไม่ให้ไปเรียนดีกว่า
...วันนี้ปะป๊าเข้าไปกับเด็กจิ๋ว ให้คุณแม่ไปเดินเล่นรอข้างนอก เด็กจิ๋วตั้งใจเรียนมากๆ มากกว่าพี่ๆหลายคน คือเป็นน้องเล็กของห้องยังไม่ถึง 4 ขวบ แต่ดูแล้วก็ไปได้ เวลาครูถามอะไรก็ตอบเสียงดัง ปะป๊าดีใจมากที่ได้มาเรียนหนังสือกับเด็กจิ๋ว ที่จริงอยากจะเข้าไปห้องเรียนที่แสงโสมด้วย อยากรู้ว่าตั้งใจเรียนไม๊ กล้าแสดงออกไม๊ จากที่เข้าไปเรียนเปียโนด้วยกันก็รู้สึกว่าจะออกมาในทางที่ดี กล้าแสดงออก เวลาครูให้ออกไปก็ออกคนแรก เวลาถามก็ตอบเสียงดัง แต่ก็มีบ้างที่ให้ทำท่าช้างแล้วไม่ยอมทำ ไม่รู้ว่าอายหรือยังไง วันนี้คุณครูได้ลองให้เล่นคีย์บอร์ดของจริงแล้ว เด็กจิ๋วสามารถเล่นเพลงรถไฟเหาะได้แล้ว เพราะทั้งเพลงมีโน๊ตตัว โด ตัวเดียว โด โด โด แค่นี้แหล่ะ เดี๋ยวเพลงต่อไปก็จะมี 2 โน๊ต แล้วเพิ่มเป็น 3 4 ไปเรื่อยๆ คุณครูมาดูมือแล้วบอกว่ามือเล็กนิดเดียว ฟังน้ำเสียงแล้วเหมือนว่ามือเด็กจิ๋วยังไม่พร้อม คือเราดูก็รู้เลย ไม่สามารถบังคับนิ้วให้แผ่ออกแล้วใช้นิ้วโป้งกดตัวโดได้ ต้องกำมือแล้วโผล่นิ้วโป้งมากด แบบนี้มันจะเล่นหลายๆโน๊ตไม่ได้นะเด็กจิ๋ว แล้ววันนี้เด็กจิ๋วก็ได้รู้ว่าปุ่มไหนบนคีย์บอร์ดเป็นตัวโด คุณครูให้ดูตัว sharp ที่มี 2 ดำติดกัน แล้วสอนว่า ดำ ดำ โด เด็กจิ๋วก็สามารถทำตามได้ถูกต้อง
...เรียนเปียโนเสร็จก็ไปกินข้าวที่ S&P ระหว่างนั่งกิน เด็กจิ๋วก็บอกคุณแม่ว่าปวดอึ๊ หลอกให้คุณแม่พาไปห้องน้ำ 3 รอบ พอพาไปนั่งก็บอกว่าไม่ปวดแล้ว คือที่จริงอะปวดอยู่ แต่ไม่ยอมนั่งเบ่ง อึ๊ก็ไม่ค่อยจะออก 2 วันอึ๊ที ไม่ยอมกินน้ำ

๓ ขวบ + ๑๔๗ วัน...อาทิตย์ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้เข้าเมืองแต่เช้า ไปเซนทรัลชิดลม เห็น Pum มาลงใน Facebook ว่ามี sale ที่นั่น ไปถึงก็เจออยู่เยอะเหมือนกัน ลดมากหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ มันลดเยอะบ้างน้อยบ้าง แล้วส่วนใหญ่ตัวที่ถูกใจ เด็กจิ๋วก็มีแล้วทั้งนั้น เลยได้มาแค่ 3 ตัว แต่คุณแม่ได้ของตัวเองมาเยอะหน่อย เพราะไปช้อปคนเดียวเพลิน ระหว่างที่ปะป๊าพาเด็กจิ๋วไปเล่นของเล่น คือเดินๆไปเจอลานของเล่น มันเป็นแบบคล้ายๆ Kidzoona แต่เล็กกว่าเยอะมาก แต่ก็ดูดีกว่าพวกของโลตัส เสียตังเข้าไป 40 บาท มีบ่อบอลหน่อยหนึ่ง แล้วก็เน้นๆพวกของเล่นปีนป่าย เด็กจิ๋วปีนป่ายเข้าไป ปะป๊าก็ตามไปส่องดูด้วย ปีนๆไปก็ไปติดอยู่ตรงหนึ่ง ร้องว่าน้องพริมปีนไม่ไหว ปะป๊าคิดในใจ ซวยแล้วดิ่ ไปติดอยู่ข้างในแล้วใครจะช่วยออกมา ในที่สุดต้องเชียร์ให้ออกแรกปีน คือต้องใช้แรงเยอะมากในการถีบตัวปีนข้ามไป ดูๆแล้วมัน Hard Core เกินไปหรือเปล่าเนี่ยะ ปีนเสร็จรอบหนึ่ง เด็กจิ๋วออกมาบอกว่า น้องพริมเล่นไม่ไหวแล้ว เรามองไปมองมา เห็นที่เครื่องเล่นมีติดป้ายว่า เครื่องเล่นเด็กโต สำหรับเด็กที่มีความสูง 100 CM ขึ้นไป เด็กจิ๋วยังไม่ถึงเลย มิน่าล่ะ มันยากมากๆ ปีนขึ้นไปสูงมากด้วย นี่เด็กจิ๋วยังปีนไปไม่ถึงด่านที่ต้องสไลเดอร์ลงมาสูงๆเลยนะ
...อี๊ป้อมกลับจากเที่ยวระยองมาถึง เด็กจิ๋วก็โผเข้าหากอด แล้วพออี๊ป้อมไปล้างจานข้างนอก เด็กจิ๋วก็เปิดประตูออกแล้วตะโกนว่า “อี๊ป้อม น้องพริมรักอี๊ป้อมนะ”...พออี๊ป้อมกลับเข้ามา ก็ไปเอามือมาจุ๊บๆ แล้วบอกว่าให้อี๊ป้อมพาไปอาบน้ำ ป้อนนมด้วย อ้อนสุดฤทธิ์อ่ะ แต่พอปะป๊าเข้ามาห้องนอน เด็กจิ๋วก็ไล่อี๊ป้อมไป บอกว่า “ไป ไป ไป อี๊ป้อมไปได้แล้ว”...อี๊ป้อมก็งงเลย

๓ ขวบ + ๑๔๘ วัน...จันทร์ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้ออกจากบ้านเร็วหน่อย ตั้งใจจะออก 6.45 แต่ออกจริงก็เกือบ 7 โมง ไปถึงโรงเรียน 7.30 คิดว่าเช้าแล้ว แต่ก็เจอเพื่อนๆเด็กจิ๋วมาก่อนแล้ว 4-5 คน วันนี้ไปเช้าหน่อยเพราะปะป๊าต้องรีบไปหาลูกค้าต่อ ให้คุณแม่นั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง
...วันนี้เด็กจิ๋วเรียนพิเศษเป็นวันแรก เป็นวิชาภาษาอังกฤษ เรียน 1.30 ถึง 2.30 เรียน 2 วันต่อสัปดาห์ จันทร์กับพฤหัส วันนี้เราไปรับตอน 2.30 เห็นเด็กๆที่เรียนพิเศษยังอยู่ในห้องเรียนภาษาอังกฤษเต็มเลย น่าจะ 30-40 คน ไม่รู้ว่าครูสอนทั่วถึงหรือเปล่า ตอนระหว่างรอเด็กจิ๋วเลิกเรียน ได้คุยกับพ่อน้องนีโอนานหน่อย คุณพ่อชื่อส้มโอ เราฟ้องพ่อนีโอด้วยว่าเด็กจิ๋วบอกว่านีโอชอบ แปร่ๆ คุณพ่องง บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยเห็น อ้าว ตกลงเป็นจริงหรือเปล่าเนี่ยะ หรือว่าเด็กจิ๋วแต่งเรื่องเองอีกแล้ว
...ตอนรับเด็กจิ๋วออกมาแล้ว ก็เดินออกมากับแม่น้องนิตา ได้คุยกันเยอะหน่อย เน้นๆเรื่องเรียนศิลปะที่บองมาเช่ น้องเบียบอกว่าดี ไปเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ เรียนครั้งละกี่ชั่วโมงก็ได้ ฟังดูแล้วก็น่าจะดี เปิดทุกวันถึง 5 โมงเย็น กะว่าพรุ่งนี้จะพาเด็กจิ๋วไปลองซะหน่อย เด็กจิ๋วชวนนิตาซื้อไอติมกินกันด้วย นั่งกินกันตรงม้าหินแถวๆหน้าตู้ไอติม
...วันนี้กลับมาบ้าน หากระเป๋านักเรียนไม่เจอ คิดไปคิดมา สงสัยไปลืมลางทิ้งไว้ตอนที่ไปนั่งคุยกับแม่น้องนิตา แน่ๆเลย คุณแม่ถามน้องเบียร์ว่าเห็นไม๊ น้องเบียร์ก็บอกว่าเห็นกระเป๋าแดงๆวางอยู่แต่ไม่รู้ว่าของเด็กจิ๋ว คุณแม่โทรไปบอกครูขวัญบอกว่าให้ช่วยเก็บมาให้หน่อย ครูขวัญยังไม่โทรมาแจ้งว่าเจอหรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะเจอ ใครจะมาเอากระเป๋านักเรียนเด็กไป

๓ ขวบ + ๑๔๙ วัน...อังคาร ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เช้านี้ตื่นขึ้นมางอแงเล็กน้อย บอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน ปะป๊าต้องต่อรองโดยบอกว่าจะพาไปแวะ 7-11 ถึงจะยอม ระหว่างนั่งรถก็ดูไม่ร่าเริงเลย หงุดหงิดๆ พอไปส่งที่ห้องเรียนเท่านั้นแหล่ะ ทำหน้าเบะ วิ่งเข้าไปกอดคุณแม่ ไม่ยอมเข้าห้องเรียน แล้วก็ร้องไห้น้ำตาไหลออกมา ไม่ได้ร้องโวยวาย แต่น้ำตาไหลแบบเสียใจ คุณนิวบอกว่าเมื่อวานก็เป็น มีสะอื้นเล็กน้อยบอกว่าคิดถึงคุณแม่ จริงๆด้วยเมื่อวานตอนที่ไปส่งหน้าห้องเรียน ตอนแรกก็ยังดีๆอยู่ พอคุณครูบอกว่าให้น้องพริมเข้าห้อง เหมือนเด็กจิ๋วชะงัก หน้าเสีย แล้ววิ่งเข้ามากอดปะป๊า เจอแม่นิตาเล่าว่าวันนี้นิตาก็ร้องไห้เหมือนกัน คิดถึงแม่ สงสัยเป็นเพราะหยุดยาว 3 วันมั้ง
...วันนี้เราไปนั่งดูกล้องวงจรปิดกัน เห็นเด็กจิ๋วดูซึมๆ นั่งนิ่งๆ ไม่ยอมไปเล่นกับเพื่อน วันนี้เพิ่งเห็นว่าน้องอิ๊กลั้นลามาก ตอนที่เด็กจิ๋วไปถึงห้อง น้องอิ๊กก็ออกมารับ เรียกให้เข้าไปในห้อง แต่เด็กจิ๋วไม่สนใจ ดูจากกล้องวงจรปิดก็เห็นน้องอิ๊กกระโดดๆเล่นกับคนนั้นคนนี้ใหญ่ ระหว่างนั่งดูกล้องวงจรปิด ได้เจอกับแม่ของเมมิ ได้คุยกันนานหน่อย เมมิไม่ได้เรียนพิเศษอะไรเลย
...ตอนบ่ายรีบไปรับเด็กจิ๋วตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง กลัวเด็กจิ๋วจะรอนาน ไปนั่งดูกล้องวงจรปิดก่อน มีแม่ๆมารวมตัวดูกันเยอะมาก ร่วม 10 คนได้ ได้คุยกับแม่ของน้องปาร์ตี้นานหน่อย แล้วก็เจอพ่อแม่ของน้องปุญย์แต่ไม่ได้คุยกันมาก เพราะดูเค้าเข้มๆหน่อย แล้วช่วงนี้เจอแม่ของน้องต้นไม้กับน้องเจ้นท์บ่อยหน่อย เจอเช้าเย็นมา 2 วันแล้ว
...ที่แรกนัดนิตาว่าหลังเลิกเรียนจะไปเรียนศิลปที่บองมาเข่กัน แต่ปะป๊าติดงานด่วนเลยต้องเบี้ยวไปก่อน กะว่าพรุ่งนี้จะไปใหม่ ส่วนนิตาจะไปทั้งวันนี้พรุ่งนี้เลย สงสัยนิตาจะไปบ่อย
...ที่เมื่อวานลืมกระเป๋านักเรียนไว้ วันนี้คุณครูแหววเก็บมาให้เรียบร้อย วันนี้เลยต้องทำการบ้านเยอะหน่อย ของ 2 วันรวมกัน แต่ระดับเด็กจิ๋วแล้วสบายมาก ทำปั๊บเดียวเสร็จ เป็นเด็กที่ชอบทำการบ้านมาก กลับมาถึงปั๊บต้องรีบทำทันที เพราะเป็นกฎของเด็กดีที่ปะป๊าสอนไว้ ปัญหาคือชอบทำเกิน อย่างครูพับหน้ามาให้ทำหน้าเดียว ก็จะขอทำหน้าอื่นด้วย เราต้องห้ามไว้ แล้วอย่างให้ระบายสีรูป เวลาระบายเสร็จแล้วชอบเติม วันก่อนก็เติมสายรุ้งลงไป วันนี้ให้ระบายเฉพาะรูปทรงในตัวหมี แต่ดันระบายตัวหมีทั้งตัว อะไรประมาณนี้
...กฎของการเป็นเด็กดี
                ข้อที่ 1 ห้ามแกล้งเพื่อนๆ ถ้าเพื่อนๆมาแกล้งเรา เราก็ยกอภัยให้เค้า
                ข้อที่ 2 ต้องแบ่งของเล่นและขนมให้เพื่อนๆ ถ้าเพื่อนๆไม่ยอมแบ่งให้เรา เราก็ยกอภัยให้เค้า
                ข้อที่ 3 เวลาเล่น ต้องชวนเพื่อนๆมาเล่นด้วยกัน
                ข้อที่ 4 เวลาเรียนหนังสือ ต้องตั้งใจเรียน
                ข้อที่ 5 เวลากลับมาบ้าน ต้องรีบทำการบ้าน
...เด็กจิ๋วกลับมาออฟฟิต ถามพี่ๆว่า “What’s your name?” แล้วก็ถามคุณแม่ต่อด้วยว่า “How are you?” แม่นิตาก็เล่าเหมือนกันว่า นิตากลับบ้านไปก็ชอบพูดภาษาอังกฤษ แสดงว่าเรียนแล้วได้ผลจริงๆ ไม่เหมือนตอนไปเรียน Baby Genious ตอนนั้นเหมือนไม่ได้อะไรเลย
...อี๊ป้อมบอกว่าชอบพาเด็กจิ๋วไปอาบน้ำที่กะละมังหลังห้องอี๊ป้อม วันนี้เพิ่งไปเห็นกับตา เด็กจิ๋วลั้นลามาก อยู่ในกะละมังเล็กๆ เล่นฟอกสบู่ ขำก๊ากๆ สงสัยแช่จากุซซี่ทุกวันจนเบื่อ เปลี่ยนบรรยากาศมาแช่กะละมังเลยตื่นเต้น
...พยายามหลอกถามเด็กจิ๋วว่าชอบเล่นกับเพื่อนคนไหนมากที่สุด เด็กจิ๋วไม่ยอมตอบ ต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ ใช้กระซิบถามว่าระหว่างคนที่ 1 กับคนที่ 2 ชอบเล่นกับใครมากกว่ากัน ปะป๊าสรุปคร่าวๆ เรียงลำดับจากมากไปน้อยก็คือ สิตางค์ ปูจ๋า อิ๊ก แพรวา อั่งอั๊ง นิตา แต่อันนี้ก็เชื่อถือไม่ค่อยได้หรอก
...เด็กจิ๋วบอกว่ามี teacher คนใหม่ชื่อ จีน่า มีท่าประจำตัวด้วย เวลาแนะนำตัวเองต้องทำท่าประกอบ จริงเหรอ?
...เด็กจิ๋วชวนปะป๊ากับคุณแม่เล่นปลาหมึก บอกว่า teacher สอนมา ให้จับมือไขว้กัน 3 คนแล้วเดินไปมา

๓ ขวบ + ๑๕๐ วัน...พุธ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เมื่อวานตอนไปรับเด็กจิ๋วที่โรงเรียน เห็นมีแผลรอยกดทับที่หน้า วงใหญ่มาก พอดีคุณครูยุ่งๆกันอยู่เลยไม่ได้ถามว่าไปโดนอะไรมา เราถามเด็กจิ๋วว่าไปโดนอะไร เด็กจิ๋วบอกว่า “น้องปาร์คหยิก”...พร้อมกับมาหยิกปะป๊ากับคุณแม่ที่แก้ม ทำให้ดู โห เจ็บมากอ่ะ บีบแก้มแรงๆ เราก็สงสารเด็กจิ๋วกันมากเลย น้องปาร์คนี่อาม่าก็หมายตาไว้แล้ว ตั้งแต่รู้ว่ามาแกล้งเด็กจิ๋วคราวที่แล้ว ก็ถามอยู่เรื่อยๆเลยว่า วันนี้โดนน้องปาร์คแกล้งหรือเปล่า ตอนเช้าวันนี้คุณแม่พยายามเน้นย้ำกับเด็กจิ๋วว่าน้องปาร์คหยิกจริงๆใช่ไม๊ แล้วมีใครโดนอีก เด็กจิ๋วบอกว่าอั่งอั๊ง พอดีตอนไปส่งเด็กจิ๋ว เจอคุณแม่อั่งอั๊ง เลยถามซะหน่อยว่าอั่งอั๊งโดนแกล้งบ้างไม๊ คุณแม่อั่งอั๊งบอกว่าไม่มีเลยนะ เราก็คิดว่าสงสัยอั่งอั๊งไม่ได้เล่าให้คุณแม่ฟัง พอเดินไปถึงห้องก็ไปถามครูนิวกับครูแหววว่าเมื่อวานน้องปาร์คมาหยิกแก้มเด็กจิ๋วหรือเปล่า คุณครูบอกว่าไม่มีนะคุณแม่ รอยที่หน้าเกิดจากว่านอนดิ้น ผ้าหลุด แก้มเลยไปแนบกับเตียงซึ่งเป็นตาข่าย เอาแล้วไงเด็กจิ๋ว คุณแม่ลองถามเด็กจิ๋วใหม่ น้องพริม ตกลงเมื่อวานน้องปาร์คหยิกหนูหรือเปล่า เด็กจิ๋วส่ายหน้า แบบไม่รู้ไม่ชี้ น่าโมโหจริงๆอ่ะ ทำคุณแม่หน้าแตก แบบนี้คุณครูจะคิดไงล่ะ ต้องคิดว่าพ่อแม่โวยวายเกินกว่าเหตุ สรุปแล้วเราคิดว่าเด็กจิ๋วอาจจะเอาเรื่องในอดีตที่ห้องปาร์คเคยแกล้งมาปนกับเหตุการณ์เมื่อวาน เพราะจริงๆแล้ว ตอนที่เราเห็นแผลที่หน้าก็ถามเด็กจิ๋วว่าหน้าไปโดนอะไรมา ตอนแรกเด็กจิ๋วยังไม่รู้ตัวเลย ไม่รู้ว่าโดนอะไร ขอให้คุณแม่ถ่ายรูปมาให้ดู พอดูแล้วถึงเล่าว่าน้องปาร์คทำ
...เมื่อวานเบี้ยวนิตาไปครั้งหนึ่งแล้วเรื่องจะไปเรียนศิลป วันนี้ก็ต้องเบี้ยวอีกแล้ว ตั้งแต่เช้าปะป๊าบอกว่าเดี๋ยววันนี้จะพาไปเรียนศิลปกับนิตาด้วยนะ เด็กจิ๋วก็บอกว่าไม่อยากเรียน พอตอนคุณแม่ไปรับกลับจากโรงเรีน ก็พยายามชักชวนให้ไป เด็กจิ๋วไม่ยอมไปเลย ทีเมื่อตอนวันเสาร์ที่ไปเรียนเปียโน บอกว่าอยากเรียนศิลปะ ทำไมวันนี้ไม่อยากซะแล้ว เราก็อยากให้เด็กจิ๋วมีทักษะด้านนี้หน่อย ทุกวันนี้เวลาทำการบ้าน พอถึงตอนระบายสี จะต้องช้าทุกที กว่าจะเลือกสี ระบายมั่ว วันนี้ไม่ยอมใช้สีระบาย เอาดินสอขีดมั่วๆ ต้องมานั่งลบ นั่งระบายใหม่ ระบายก็ไม่ได้ดีเล้ย ออกนอกเส้นเละเทะ ไม่มีความตั้งใจเลยอ่ะ

๓ ขวบ + ๑๕๑ วัน...พฤหัส ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...วันนี้มีไหว้ครู อี๊ป้อมเตรียมทั้งดอกเข็มและดอกกุหลาบให้เด็กจิ๋วเลย โรงเรียนเค้าให้เด็กๆเตรียมดอกไม้ไปกันเอง ตอนจะออกจากบ้าน เจ๊น่ากับเฮียโรมาบอกว่าไม่มีดอกไม้ อาโกวไม่ได้เตรียมไว้ให้ โชคดีของอี๊ป้อมมีเหลือเลยได้กุหลาบสีชมพูไปคนละดอก ปะป๊าอุ้มเดินเข้าไปส่งที่โรงเรียน พอใกล้ๆถึงตึก เด็กจิ๋วก็ดีดตัวอย่างแรงลงมา ปะป๊าเกือบจับไม่ทันนะ เราก็สงสัยว่าอยู่ดีๆดิ้นลงมาเดินเองทำไม ปรากฎว่ามองไปเห็นครูบุ๋มกำลังชี้นิ้วมาที่เด็กจิ๋ว ประมาณว่า นั่นแน่ ให้อุ้มอีกแล้วเหรอ วันก่อนตอนกลับบ้าน ครูบุ่มทักว่าทำไมไม่เดินเอง เด็กจิ๋วก็ยอมเดินเองแต่โดยดีถึงหน้าประตูโรงเรียนเลย เชื่อฟังคุณครูดีมาก ส่งเด็กจิ๋วเสร็จ ก็มานั่งดูกล้องวงจรปิด จะดูว่าไหว้ครูกันยังไง แต่ดูอยู่นานก็ไม่ไหว้ซะที เลยกลับกันออกมาก่อน
...ปะป๊ามาคิดทบทวนเรื่องเรียนศิลปะของเด็กจิ๋ว ทำไมเมื่อเสาร์ที่แล้วร้องอยากจะเรียนมาก แต่เมื่อวานกลับไม่ยอมเรียน คิดไปคิดมา หรือว่าเราถามผิด คือเมื่อวานเราถามว่าจะพาไปเรียนศิลปะ วันนี้เปลี่ยนใหม่ ถามแต่เช้าเลยว่าจะพาไปเรียนระบายสี เอาไม๊ เด็กจิ๋วรีบตอบว่า ไป อยากเรียน...อ้าว ศิลปะก็คือระบายสีนั่นแหล่ะ เด็กจิ๋ว ...ตอนไปรับจากห้องเรียน ครูขวัญยังบอกเลยว่า เด็กจิ๋วมาโม้ว่าวันนี้จะไปเรียนระบายสี พอรับเสร็จเราก็ขับรถข้ามฝากไปบองมาเช่ ขึ้นไปอาคารชั้น 3 ตามที่แม่นิตาบอก เดินไปสุดทาง ชั้นนี้จะมีพวกโรงเรียนพิเศษเยอะแยะเลย โรงเรียนนี้ดูสภาพย่ำแย่ที่สุดในบรรดาโรงเรียนทั้งหมด โชคดีที่แม่นิตาบอกมาแล้วว่าจะเป็นอย่างนี้ สภาพห้องเรียนเก่าๆเลอะๆ ไปถึงก็เจอคุณครูแก้วนั่งอยู่คนเดียว เราก็ขอให้เด็กจิ๋วทดลองเรียนดูก่อน ปรากฎว่าไปได้สวยเลย ตั้งใจเรียนมาก ทำไมเวลาอยู่กับครูแล้วเป็นเด็กดีขนาดนี้เนี่ยะ ครูถามอะไรก็ตอบ ให้ระบายสีก็ตั้งใจทำไม่ออกนอกเส้นเลย เด็กจิ๋วไปถึงก็บอกครูเลยว่าขอระบายรูปราพันเซล ครูแก้วก็วาดสดๆใส่กระดาษ A3 ให้เด็กจิ๋วระบายสี ออกมาสายงามมากๆ เหลือเชื่อว่านี่คือฝีมือลูกเรา เลือกสีเองได้อย่างถูกต้องด้วย เสื้อสีม่วง ผมสีเหลือง ใช้สีช็อคกับสีน้ำผสมกัน พอเห็นชิ้นงานของลูกสาว ปะป๊าต้องรีบซื้อแฟ้มมาใส่เลย เจ๋งมากๆ ระหว่างที่เด็กจิ๋วเริ่มเรียนไปไม่นาน นิตาก็ตามมา น้องเบียร์บอกว่า ปกติเลิกเรียนก็จะพานิตามาแบบนี้แหล่ะ อาทิตย์ละวันสองวันแล้วแต่ แล้ววันนี้ยังเจอพี่อ.2แสงโสมมาเรียนอีกคนหนึ่ง
...หลังจากระบายสีเสร็จก็มีร้อยลูกปัดต่อ ใช้เอ็นลอยจริงๆจังมาก เด็กจิ๋วตั้งใจสุดๆ เอ็นเส้นเล็กนิดเดียว ลูกปัดก็รูเล็ก ถ้าเป็นที่บ้านก็ละเลงลูกปัดทิ้งหมดแล้ว อันนี้ร้อยออกมาจนได้สร้อยคอ 1 เส้นเลย เอากลับมาบ้านได้ ว่าจะให้ทดลองเรียนว่าจะไปไหวไม๊ จะชอบหรือเปล่า อันนี้คุณแม่ต้องรีบลงทะเบียนแทบไม่ทัน ราคา 3500 บาท 30 ชั่วโมง แถมให้อีก 5 ชั่วโมงคงเพราะน้องเบียร์แนะนำมา เรียนเมื่อไหร่ก็ได้ เรียนครั้งละกี่ชั่วโมงก็ได้ ซึ่งเราคิดว่ามันถูกมากๆๆๆ เรียนไปหลายเดือนยังไม่รู้จะหมดไม๊
...เรียนไปประมาณชั่วโมงหนึ่ง กลับออกมาแล้วยังอารมณ์ค้าง ร้องจะขอเรียนอย่างอื่นอีก เราเลยลองพาไปดู Cray work ตอนแรกจะมาดูๆเฉยๆ แต่ไปๆมาๆก็ทดลองเรียนดู คุณครูมาสอนให้กลึงดิน กลิ้งเป็นเส้น เราเผลอแป๊บเดียว ได้ออกมาเป็นหอกทากแล้ว ตกใจเลย ครูบอกว่ามือยังไม่ค่อยมีแรง ต้องฝึกเยอะๆ ให้กลึงดินกลมๆยังทำไม่ค่อยได้ เราถามว่าอยากเรียนไม๊ ชอบไม๊ เด็กจิ๋วก็ชอบอีก อยากเรียนมาก เลยต้องลงทะเบียนไปอีก 3500 บาท อันนี้เป็นแบบ 10 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง เป็นหลักสูตร แต่ละครั้งจะฝึกพัฒนาไปเรื่อยๆ ปั้นดินร้านนี้รู้สึกว่าเจ๊น่ากับเฮียโรก็ไปเรียนเหมือนกันที่เซนทรัลรัตนาธิเบศก์
...ออกจาก Craywork แล้วยังไม่พออีก ร้องจะเรียนต่ออีก บังคับให้ปะป๊าพาดูว่ามีอะไรเรียนอีกบ้าง ปรากฎว่ามีเรียนเลข เรียนภาษาอังกฤษ อย่างอื่นก็ไม่ใช่โรงเรียนแล้ว เหลืออีกอันคือ Global Art อันนี้เป็นของลุงแต้เพื่อนปะป๊ากับคุณแม่เอง เค้าเป็น GM ของโรงเรียนนี้ ซึ่งมีหลายสาขาในประเทศ อันนี้เรารู้อยู่แล้วว่ายังไม่เหมาะกับเด็กจิ๋ว ต้องโตกว่านี้หน่อย เพราะจะเรียนศิลปะแบบฮาร์ดคอร์ แต่เด็กจิ๋วรบเร้าเหลือเกิน เลยพาเข้าไปเล่นๆ เจ้าหน้าที่ก็ชวนให้ทดลองเรียนดู เด็กจิ๋วก็อยากอีก เลยเข้าไปทดลองระบายสีรูปแอ๊ปเปิ้ล ตอนแรกใช้สีไม้ แต่เหมือนกับว่าไม่ค่อยเวิร์ค เลยเปลี่ยนเป็นสีช็อค ถามว่าชอบไม๊ เด็กจิ๋วดันชอบอีก แต่ไม่ไหวแล้วนะเด็กจิ๋ว อันนี้เลยยังไม่เรียน

๓ ขวบ + ๑๕๒ วัน...ศุกร์ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
...เมื่อคืนเด็กจิ๋วปีนขึ้นมานอนบนเตียงกับปะป๊าคุณแม่ เรารู้สึกถึงพลังงานอันร้อนพ่าว ตัวร้อนมาก ตอนเช้าเลยตัดสินใจไม่พาไปโรงเรียน แต่พอ 8 โมง ตัวดันหายร้อนซะนี่ ให้กินยาแก้ไข้สักหน่อย ยิ่งตัวเย็นใหญ่ เลยรีบพากันไปโรงเรียน ไม่อยากให้พลาดบัลเล่ย์ครั้งแรกในชีวิต
...วันนี้รถติดมากๆ เค้าว่าวันศุกร์สิ้นเดือนรถจะติดแบบนี้แหล่ะ เพราะไปกินเลี้ยงกัน แต่กรณีนั้นก็น่าจะเป็นตอนเย็น อันนี้ยังเช้าอยู่เลยนะ ออกจากบ้านสายแล้วรถยังติดอีก ไปถึงโรงเรียน 8 โมงครึ่ง เดินไปที่ห้อง 1/8 เห็นห้องว่างเปล่า ปิดไฟมึดตึ๊บ งงเลย ไปถามครูเชอรี่ห้อง 9 เค้าบอกว่าวันนี้ 1/8 ไปเล่นห้องหนูน้อยพาเพลิน ดีเลย อยากจะไปดูนานแล้ว ขึ้นบันไดไปชั้น 2 เดินผ่าน 2/8 ไปจนสุดทาง เป็นห้องประมาณว่าเอาห้องเรียน 2 ห้องทะลุกัน แล้วมีพวกเครื่องเล่นต่างๆ ตอนจะจากกัน เด็กจิ๋ววิ่งเข้ามากอดปะป๊ากับคุณแม่แล้วน้ำตาซึมอีกแล้ว แต่คิดว่าได้เข้าห้องหนูน้อยพาเพลินแล้วคงลืมปะป๊ากับคุณแม่แล้วล่ะ วันนี้นอกจากเด็กจิ๋วจะไปสายแล้ว เห็นหลายๆคนก็สายเหมือนกันเพราะรถติดมาก ส่วนเมมิยิ่งหนักใหญ่ มาถึงโรงเรียนแล้วเพิ่งรู้ว่าตัวเองใส่ชุดนักเรียนมาคนเดียว วันนี้วันศุกร์ต้องใส่ชุดสวย เมมิไม่ยอม ร้องไห้ใหญ่ จนแม่มุกต้องกลับบ้านไปเอาชุดสวยมาใส่ให้ กว่าจะได้เข้าห้องก็ 9 โมงกว่า นอกจากนั้นก็เจอน้องลูกปืนที่ลานจอดรถ ใส่ชุดนักเรียนมาเหมือนกัน แต่อันนี้เตรียมชุดมาในรถเลยเปลี่ยนกันสดๆข้างรถได้เลย เราก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าให้ใส่ชุดธรรมดาทุกวันศุกร์นี่เพื่ออะไร คงมีสักวันเหมือนกันที่เด็กจิ๋วลืม ใส่ชุดผิดไป ที่จริงตอนปะป๊าก็เคยนะ อย่างวันที่ต้องใส่ชุดลูกเสือกันแต่เราดันลืมใส่ไปคนเดียว มันก็น่าละอายหนักอยู่เหมือนกัน
...เด็กจิ๋วพูดมาหลายครั้งแล้วว่าปะป๊ากับคุณแม่ส่งน้องพริมแล้วไปวนรถแล้วรีบมารับนะ พูดหลายครั้งมาก จนตอนนี้มั่นใจแล้วว่า ทุกๆวันที่ผ่านมา พอเราไปส่งเด็กจิ๋วเสร็จ เด็กจิ๋วคงเข้าใจว่าปะป๊ากับคุณแม่ไปขับรถวนแถวๆนั้น ขับวนได้ 6 ชั่วโมงถึงมารับน้องพริมกลับบ้าน
...วันนี้คุณแม่ไปรับคนเดียวเพราะปะป๊าประชุม ช่วงนี้ปะป๊าติดงานที่กองทัพไทยบ่อยหน่อย คุณแม่ต้องไปรับเอง 3-4 ครั้งแล้ว เด็กจิ๋วออกมาพร้อมกับทรงผมมู่หลาน มีดอกกุหลาบสีแดงเสียบอยู่ที่ผม 2 ดอก เดาว่าคงเป็นควันหลงจากงานเมื่อวาน ของนิตาก็มีดอกไม้ติดหัวเหมือนกัน ได้ดอกกล้วยไม้ พอรับเสร็จ คุณแม่ก็รีบพาไปบองมาเช่ วันนี้จะพาไป Craywork แต่พอไปถึง เด็กจิ๋วก็วิ่งพุ่งตัวไปที่โรงเรียนระบายสีทันที บอกว่าอยากเรียนอันนี้ ไปถึงก็ไปบอกครูแก้วว่า “น้องพริมอยากระบายรูปบาร์บี้”...ครูแก้วขั้นเทพก็หารูปบาร์บี้ต้นแบบมาแล้วสเก็ตลงกระดาษอย่างรวดเร็วให้เด็กจิ๋วระบาย วันนี้ยังคงสนุกสนานตั้งใจเรียนมาก ระหว่างทำงานศิลปะไปก็พูดคุยกับครูแก้วไปเรื่อย ได้ยินอะไรประมาณว่าปะป๊าไปทำงาน คุณแม่ขับรถพาน้องพริมมา วันนี้เราให้ทำแค่ชิ้นงานเดียว ประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะรู้ทันเด็กจิ๋ว พอออกมาแล้วต้องขอเรียนห้องอื่นต่ออีกแน่ๆ ว่าแล้วก็เป็นไปตามแผน รีบวิ่งไปห้องเรียน Craywork โดยด่วน อุตส่าห์ซื้อนมข้าวโพดของโปรดมาให้ก็ไม่กิน ระหว่างเรียนปั้นดินก็ยังคงเป็นเด็กดีอย่างต่อเนื่อง ตั้งใจทำมาก วันนี้ยังไม่ได้ปั้นอะไรมาก ครั้งแรกจะเน้นเรื่องการผสมสีก่อน ถึงแม้ว่ามือยังไม่ค่อยมีแรง แต่ก็สมาธิดีมาก ครูชมว่าสมาธิดี ยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเพื่อนที่นั่งเรียนติดกัน คนนี้มาจากแสงโสม 1/6 เป็นเด็กผู้ชาย พอเริ่มเรียนไปได้หน่อยก็ร้องไห้หาแม่ ให้แม่ไปนั่งด้วย แล้วก็มองดูเด็กจิ๋วปั้นไปเรื่อย ตัวเองไม่ยอมทำ แล้วก็เลิกเรียนไปในที่สุด เด็กจิ๋วเก่งกว่าเยอะมากๆอ่ะ
...กลับมาถึงบ้านก็ 4 โมงกว่าแล้ว เจอพี่สารออยู่ที่บ้าน พี่สามาเยี่ยมเด็กจิ๋ว บอกว่าคิดถึง เด็กจิ๋วมีดอกกุหลาบ 2 ดอก บอกว่าจะเอาไปให้พี่สากับอี๊ป้อม มีเหี่ยวๆดอกหนึ่ง อีกดอกยังสวยอยู่ เราถามว่าจะเอาดอกไหนให้ใคร เด็กจิ๋วตอบว่า “เอาดอกเหี่ยวให้อี๊ป้อมเพราะน้องพริมรักอี๊ป้อม”...?
...วันนี้เด็กจิ๋วมีหนังสือนิทานจากโรงเรียนกลับมาเล่มหนึ่ง เป็นโครงการยืมหนังสือมาอ่านที่บ้าน อาทิตย์ละเล่ม หนังสือหน้าตาเยินมากๆอ่ะ เดี๋ยวอ่านกันคืนนี้ ช่วงนี้อ่านนิทานก่อนนอนเยอะมาก วันๆหนึ่งอ่านเป็น 10 เรื่อง อาทิตย์ก่อนไปซื้อมาหนังสือนิทานมาเต็มเลย มีทั้งแบบรวมนิทานอีสบ รวมนิทานกริม รวมนั้นรวมนี่ ปะป๊าชอบแบบรวมเพราะมันคุ้มกว่ามาก เล่มละ 200 มีเป็น 100 เรื่องเลย แต่คุณแม่ซื้อแบบแยกเล่มมา เล่มบางๆ เล่มละ 1 เรื่อง 70 บาท แต่เหมือนเด็กจิ๋วจะชอบเล่มเดี๋ยวนะ คงเพราะมันสวยงาม มีรูปเยอะดี
...ในกระเป๋านักเรียนยังมีแผ่นกระดาษเล็กๆ เป็นสรุปดาวประจำสัปดาห์ เหมือนครูจะติดดาวกลับมาให้ทุกวันศุกร์ ของเด็กจิ๋วเห็นมีดาวที่ช่องหัวหน้าห้อง 2 ดวง อันนี้งงมากๆ แปลว่าอะไร พยายามถามเด็กจิ๋วว่าหนูเป็นหัวหน้าห้องเหรอ ถึงได้ดาวนี้มา เด็กจิ๋วบอกว่า “ได้ดาวเพราะน้องพริมยืนตรง”...ว่าแล้วก็เด้งตัวขึ้นมายืนตัวตรงให้ดู อ้าว แล้วเพื่อนๆยืนไม่ตรงเหรอ เด็กจิ๋วบอกใช่ นิตายืนเอียง แล้วก็ทำท่ายืนเอียงๆให้ดู...ไม่ใช่และ มั่วและ ตกลงมันคืออะไรยังกังขาอยู่ ในกระดาษแผ่นที่ว่านั่นก็จะมีช่องอื่นๆด้วย เช่น ตั้งใจเรียน ช่วยเหลือครู ... แต่เด็กจิ๋วยังไม่ได้ดาวช่องอื่นๆมา