วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เด็กจิ๋ว@Singapore

ก่อนขึ้นเครื่อง เด็กจิ๋วไปนั่งรอใน King power Louge ได้กินได้อึ๊เตรียมพร้อมขึ้นเครื่อง
แล้ว เราได้ up ไปนั่งแถว Hot seat รู้สึกจะกว้างหน่อย เค้าคงเห็นว่าเรามีเด็ก เด็กจิ๋วมี
ก่อกวนเล็กน้อย ปีนไปปีนมาระหว่างแถวปะป๊าคุณแม่ กับแถวอากงอาม่าอี๊ไก่ ยิ่งตอน
ที่เครื่องจะออก ยิ่งวิ่งวุ่น แอร์เดินมาเตือนก็ไม่ยอม สุดท้ายต้องจัดที่นั่งกันใหม่ ให้เด็กจิ๋ว
ไปนั่งระหว่างอี๊ไก่กับคุณแม่ ถึงจะยอม ครั้งนี้คุณแม่เตรียมความพร้อมมาอย่างดีทั้งขนม
ทั้ง Barney และเกมส์ใหม่ๆใน iPad แต่พอถึงเวลาจริง เด็กจิ๋วไม่ค่อยสนใจ iPad สนใจ
แต่เล่นกับอี๊ไก่เพลิดเพลินไป ๒ ชั่วโมงเครื่องก็ลงจอด ปะป๊านั่งเครียดมาก กลัวว่าเด็กจิ๋ว
จะกรี๊ด ครั้งนี้เรียกว่ารอดมาได้เพราะอี๊ไก่นะ คือเด็กจิ๋วนั่งเล่นนั่งคุยกับอี๊ไก่ตลอดเวลา
...ตอนอยู่บนเครื่อง จะได้ยินเสียงกัปตันประกาศข้อความอะไรสักอย่างที่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่
มีเด็กจิ๋วคนเหนึ่งที่รู้เรื่อง พอได้ยินกัปตันพูด ก็พูดตามกัปตัน พูดไปเรื่อยๆ แล้วเกิดสงสัย
ขึ้นมา ถามคุณแม่ว่า “คุณแม่ กัปตันอยู่ไหนอ่ะ”...เออ จริง ได้ยินแต่เสียง ตัวอยู่ไหน
...เครื่องลงเสร็จกว่าจะเรียกแท็กซี่ซึ่งเป็นรถตู้เบนซ์ 60 เหรียญจากสนามบินไป IBIS กว่า
จะ Checkin เข้าห้องนอน กว่าเด็กจิ๋วจะหลับก็ตีสองแล้ว ตอนที่เข้าห้องพักกัน ปกติต้อง
เอาการ์ดเสียบไว้เพื่อเปิดไฟห้อง แต่พอเราเสียบแล้วเข้าห้องไปกันสักพัก ปรากฎว่าไฟดับ
มืดสนิท ตกใจกันใหญ่ บางคนก็โวยวายหาว่าไม่ยอมเสียบบัตร บางคนบอกว่าเสียบแล้ว
หรือว่าไฟของตึกดับ วุ่นวายอยู่สักพักในที่สุดก็เจอตัวการ เด็กจิ๋วนั่งเอง เดาว่าตอนที่เข้า
ห้องพักมาแล้วอี๊ไก่เสียบการ์ดไว้ เด็กจิ๋วคงหาจังหวะทุกคนเผลอแล้วหยิบการ์ดออกจาก
ช่องเสียบ ยังไม่พอ เอาไปสอดเอาไว้ใต้ทีวีเพื่อไม่ให้ใครเห็น

...วันเสาร์ เราออกจากโรงแรมกัน ๗ โมงเลย นั่งรถเมล์ไปไชน่าทาวน์ มุ่งหน้าไปร้านติมซำ
ชื่อดัง ร้านนี้มาตามคู่มือ แล้วก็เป็นไปตามคาด มาตามคู่มือหรือหนังสือทีไร ไม่เห็นอร่อย
เลย ที่เมืองไทยอร่อยกว่า ตั้งแต่ออกจากโรงแรมจนกินอาหารเช้าเสร็จ เด็กจิ๋วหลับตลอด
เวลา กินข้าวเสร็จก็ไปวัดพระเขี้ยวแก้วกัน เดินกันอยู่นาน ในที่สุดเด็กจิ๋วก็ฟื้นตื่นขึ้นมาซะ
ที ตื่นมาแล้วอารมณ์ดีเดินเล่นกับอี๊ไก่ลั้นลา เดินไปหยุดดูพระสังกะจายกัน เด็กจิ๋วบอกว่า
พระกินนมตัวอ้วน นี่บาปนะเนี่ยะ ออกจากวัดพระเขี้ยวแก้ว อากงอาม่าขอไปเดินหาซื้อที่
พันเขา มีคนฝากซื้อมา อากงอาม่าหายกันไปสองคนเป็นชั่วโมงกว่าจะกลับมา อาม่าเริ่ม
เดี้ยงแล้ว นี่แค่ครึ่งวันแรกเองนะ
...เราเสียเวลาไปกับการซื้อของฝากเลยทำให้ผิดแผนที่วางไว้ ตอนแรกกะว่าจะไปเที่ยวดู
สวนดอกไม้ก่อนแล้วเย็นๆค่อยไปดูไฟ แต่เปลี่ยนแผนใหม่ ไปเดินช้อปปิ้งกันเล็กน้อยแล้ว
กลับไปตั้งหลัก เก็บของ อาบน้ำกันที่โรงแรมกันก่อน ตอนไปช้อปปิ้งกันที่ร้านรองเท้า รอ
อี๊ไก่เลือกซื้อรองเท้าไป เด็กจิ๋วก็ไม่อยู่นิ่ง ยืนเต้นตามเพลงอยู่ในร้าน คึกคักมาก ว่างจาก
เต้นก็มาช่วยจัดรองเท้า สลับรองเท้าที่ร้านเค้าเรียงไว้ สักพักเจ้าหน้าที่เดินมาเรียงกลับให้
เหมือนเดิม  เด็กจิ๋วทำท่าจะไปสลับอีก ปะป๊าต้องพาหนีออกจากที่เกิดเหตุ พาไปกินป๊อบ
คอร์นกับอาม่า เป็นป็อบคอร์นที่แพงเว่อร์ ถุงละ 500 บาท แต่อร่อยมาก รสแม็คคาดิเมีย
เห็นเค้าบอกว่ารสชีสอร่อยกว่าแต่ยังไม่ได้ลอง ตอนกลับบ้านแล้วถึงเพิ่งรู้ว่าเป็นป๊อบคอร์น
ร้านดัง มีคนซื้อมาเป็นของฝากกันเยอะมาก
...ตอนเย็นๆอาบน้ำเก็บของเสร็จก็พากันไปดูเมอร์ไรอ้อนกัน เด็กจิ๋วบอกว่า “จะไปดูเมอร์
ไลอ้อนพ่นไฟเหรอ”...ฮาเลย ที่สิงคโปร์เราใช้รถเมล์เป็นพาหนะหลักในการเดินทาง ไม่ได้
นั่งรถไฟหรือแท็กซี่เลย อยู่เมืองไทยไม่เคยนั่งรถเมล์เลย แต่รถเมล์ที่นี่ดีมาก ขึ้นทีไรได้นั่ง
ตลอด รถว่าง รอไม่นาน เด็กจิ๋วคึกอยู่ ให้นั่งไม่ยอมนั่ง ยืนเกาะราวรถเมล์ ยืนไปยืนมาดัน
หลับไปเฉยเลย ในที่สุดเด็กจิ๋วก็อดดูเมอร์ไรอ้อนพ่นไฟ อุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตาจะมาดู พวก
เราก็เดินดูเมอร์ไลอ้อน แล้วก็เดินเล่นแถวๆนั้น รอกลางคืนจะมีการแสดงยิงเลเซอร์ แล้วก็
มีเปิดไฟตามตึกต่างๆ เด็กจิ๋วตื่นมาทันได้ดูการยิงเลเซอร์ แต่รู้สึกว่าไม่ชอบ ดูๆอยู่ก็บอกว่า
“หนูเบื่อ หนูไม่ดูเลเซอร์แล้ว หนูจะกลับห้องของเรา”
...ดูไฟเสร็จ เด็กจิ๋วยังไม่ได้กลับห้องนะ เราไปช้อปปิ้งกันต่อที่ห้างมุสตาฟา เป็นห้างแขก
เหม็นมาก แต่ของถูก โดยเฉพาะพวกช็อกโกแล็ต กับเครื่องสำอาง ตอนออกจากห้างจะ
กลับโรงแรมกัน เป็นอะไรที่เลวร้ายที่สุดในทริปสิงคโปร์แล้ว เพราะแบกของหนัก เหนื่อย
มาทั้งวัน กะว่าจะนั่งแท็กซี่กลับสบายๆแต่หาแท็กซี่ไม่ได้เลย ส่วนใหญ่เต็ม บางคันว่างก็
ไม่ไป บอกว่าไกล หรือบางคันก็พุ่งตัวไปหาฝรั่งไม่ยอมรับเรา เหมือนเมืองไทยเลย รอรถ
แท็กซี่อยู่นานไม่สำเร็จ ในที่สุดก็ต้องเดินกันออกมาขึ้นรถเมล์อีก เหนื่อยกันมากเลย พอ
กลับมาถึงห้อง เด็กจิ๋วพุ่งตัวไปที่ตู้เย็น เปิดตู้ออกมา เจาะนม ยืนดูดอยู่หน้าตู้เย็น ดูดจน
หมดแล้วก็หยิบกล่องใหม่ออกมา เป็นภาพที่ฮามาก สงสัยทั้งเหนื่อยและทั้งหิว เด็กจิ๋วดูด
นมไป 5 กล่องรวด ยังมีขนมโน่นนี่อีก

...วันอาทิตย์ ออกจากโรงแรม 8 โมง ต้องนั่งรถเมล์ไป 29 ป้าย เพื่อไป Universal Studio
เราต้องไปที่ห้าง Vevo ก่อน ไปกินข้าวเช้ากันให้เสร็จเรียบร้อย แล้วนั่งรถไฟต่อไปอีกนิด
หนึ่ง วันนี้เด็กจิ๋วยังคงสลบแน่นิ่งเหมือนเดิม มาตื่นเอาตอนที่เข้าแถวรอเข้า Universal
เราวางแผนกันว่ามาที่นี่ทุกคนต้องเล่นเครื่องเล่นที่ชื่อ Transformer เป็นของเล่นที่พลาด
ไม่ได้ แต่เด็กจิ๋วล่ะจะทำยังไง เลยให้อากงอาม่าอี๊ไก่ไปเล่นกันก่อนเลย แล้วค่อยหาเวลา
พลัดกันให้ปะป๊ากับคุณแม่ไปเล่นบ้าง แต่ก็ยากเพราะเด็กจิ๋วไม่เอาคนอื่นเลย คือเล่นๆ
กันอ่ะได้ แต่ถ้าให้อุ้มแล้วปะป๊ากับคุณแม่ไม่อยู่ด้วยนี่ไม่ได้เลย ระหว่างที่อากงอาม่าไป
เล่น Transformer กันอยู่ ปะป๊ากับคุณแม่ก็พาเด็กจิ๋วไปเล่น Shrek 4 D เป็นโรงหนังให้
เข้าไปนั่งดู หนังสามมิติ มีพ่นน้ำพ่นลมประกอบเรื่องราวด้วย เด็กจิ๋วยังดูไม่ค่อยรู้เรื่องนะ
ได้รับรู้แค่ว่าเราเข้ามาในปราสาท แล้วมาดูหนัง มีพระราชาใจร้าย มียักษ์เขียว มีเจ้าหญิง
แล้วก็มีพ่นน้ำ ถามว่าใครพ่นน้ำก็ไม่ตอบไม่ได้ ที่จริงคือตัวลาเค้าฮัดเจ้ย
...ออกจาก Shrek มาจะเจอชิงช้าสวรรค์แบบโง่มาก อยู่ในร้านขายของที่ระลึก สูงประมาณ
ตึก 2 ชั้น มีลูกๆอยู่ 5 ลูก เราสามคนสามารถยัดเข้าไปอยู่ในลูกได้ เป็นชิงช้าสวรรค์ที่เตี้ยที่
สุดตั้งแต่เคยเห็นมาเลย แต่เนี่ยะแหล่ะ เด็กจิ๋วไปโม้ให้คนอื่นฟังว่า พริมไปเล่นอันนี้มา มัสูง
มากๆ น่ากลัวมากๆด้วย
...ตอนนี้เราออกมาร้านขายของที่ระลึกกัน เพราะนัดอากงอาม่าที่นี่ เด็กจิ๋วได้พี่เอโม่มาตัว
หนึ่ง ที่จริงพอเข้าไปในร้านก็ไปอุ้มตัวนั้นตัวนี้มาเต็มเลย แต่นโยบายบ้านนี้คือจะไม่ซื้อของ
ตามใจ เราเลยซื้อพี่เอโม่ให้ตัวหนึ่ง แล้วแอบซื้อบิ๊กเบิร์ดเอากลับมาให้อีกตัวหนึ่ง
...รวมตัวกันได้ก็พากันไปเล่นล่องเรือมาดากัสการ์ รอคิวนานเหมือนกัน นั่งเรือไปเรื่อยๆ ที่
สองข้างทางก็ทำเป็นตัวละครมาดากัสการ์ยืนอยู่ เด็กจิ๋วคงงงนะว่านั่งเรือมาทำอะไรกันอ่ะ
เพราะตอนกลับออกมา เด็กจิ๋วถามว่า “เรานั่งเรือไปไหนกันอ่ะ” ...คือเล่นเสร็จยังไม่หายงง
เลย
...เครื่องเล่นอันต่อไปคือ Donkey Sing along เป็นโรงหนัง เข้าไปนั่งดูลาร้องเพลง ไม่สนุก
อย่างแรง ดูๆไปอยากจะออกมาแย่แล้วแต่เกรงใจ เด็กจิ๋วก็เบื่อ อากงอาม่ายิ่งเบื่อใหญ่ คือ
ดูก็ไม่รู้เรื่องเพราะร้องพูดเป็นภาษาอังกฤษกัน
...กินข้าวกลางวันแบบง่ายๆกัน เป็นพวกไก่ทอด นัตเก็ต เฟรนฟราย มื้อนี้ 1,500 บาท คือ
อาหารที่สิงคโปร์แพงอยู่แล้ว แต่มื้อนี้แพงเว่อร์
...เสร็จแล้วไปดู Water world เป็นโชว์แอ็คชั่น มีสู้กัน ขับเรือ ยิง ระเบิด แปลกใจมากทำไม
เด็กจิ๋วไม่ตกใจกลัวเลย เวลามีระเบิดหรือยิงกันตูมตาม เด็กจิ๋วก็ดูนิ่งๆ
...กินข้าวเสร็จก็ไปโซนจูราสสิค เด็กจิ๋วจะเล่นขี่ไดโนเสาร์ อากงอาม่าเล่นไม่ได้เพราะมันดู
ปัญญาอ่อนไปหน่อย เลยให้นั่งรอกันไป ปะป๊ากับคุณแม่ก็อุ้มเด็กจิ๋วยืนเข้าแถวรอเล่น คือ
เข้าแถวเครื่องเล่นแบบนี้มันนานเป็นชั่วโมงอยู่แล้ว รับได้ ที่อเมริกาก็นานกว่านี้อีก แต่ที่นี่
ไม่ไหวแล้ว แดดร้อนมาก ยืนเข้าแถวอยู่แดดส่องเข้าเต็มหน้า มีหลังคาอยู่แต่กันไม่ได้เพราะ
แดดส่องเข้ามาด้านข้าง ปะป๊ากับคุณแม่อุ้มเด็กจิ๋วอยู่ทรมานมาก คืออุ้มก็หนักนะ แต่รับได้
ไอ้ที่ทนไม่ไหวคือร้อนเหนอะหนะ เหงื่อไหลเต็มตัว อุ้มเด็กจิ๋วไปด้วยตัวก็เหนียวติดกัน รออยู่
เป็นชั่วโมงเหมือนกันกับการได้ขี่ไดโนเสาร์บิน ที่จริงแล้วก็คือเหมือนกันเครื่องเล่นทั่วไปของ
สวนสนุกทุกที่ต้องมี เป็นเครื่องบินที่กดปุ่มหรือดึงคันโยกแล้วจะลอยขึ้น บินวนไปวนมาอยู่
แค่นั้นแหล่ะ คือรู้สึกว่าไม่คุ้มค่ากับการเข้าแถวรอเลย แต่เด็กจิ๋วชอบมากนะ ขึ้นไปนั่งแล้วชู
มือเย้ ดีใจ ตอนจะขึ้น ปะป๊าให้เลือกสีเองด้วยนะว่าจะนั่งไดโนเสาร์ตัวไหน เด็กจิ๋วเลือกตัวสี
ส้ม
...เครื่องเล่นที่เด็กจิ๋วชอบมากที่สุดคือม้าหมุนมาดากัสการ์ เป็นม้าหมุนเหมือนทั่วไป แต่ตัว
ที่ให้ขี่จะเป็นตัวละคนในเรื่องมาดากัสการ์ เด็กจิ๋วเล่นสองรอบเลย ครั้งแรกขี่นกเพนกวิน อีก
ทีหนึ่งขี่สิงโต ตอนแรกอยากขี่ฮิปโปแต่ไม่มีให้ขี่ เวลาเล่นม้าหมุนทีไรเด็กจิ๋วจะทำหน้านิ่งทุก
ทีเลย ตั้งแต่ไปเล่นกับพี่โนพี่โน่ที่หัวหินแล้ว ที่นี่ก็หน้านิ่ง เกาะแน่น กลัว แต่ชอบนะ เล่นเสร็จ
แล้วขอเล่นอีกรอบ
...เครื่องเล่นชิ้นสุดท้ายของเด็กจิ๋วคือ Treasure Hunter เป็นเครื่องเล่นที่จำฝั่งใจทุกคน
เพราะต่อแถวกันนานมากเป็นชั่วโมง จนในที่สุดถึงคิวจะได้เล่นแล้ว เด็กจิ๋ว หลับ ซวย
แล้ว ขอให้คุณแม่อุ้มเล่น เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอม จะจับเด็กจิ๋วนั่งเอง ก็ตื่นมาอาละวาดโวย
วาย ในที่สุด ทุกคนเลยพากันออกมา อดเล่น มาคิดได้อีกที อากงอาม่าอี๊ไก่ก็เล่นกันไป
ดิ่ มาเดินกันออกมาทำไม เสียดายรอเป็นชั่วโมง เด็กจิ๋วแสบมาก แต่ว่าก็ไม่ได้ ก็มันง่วง
นี่ ไม่ได้นอนมาทั้งวัน เพลียด้วย พอเห็นว่าเด็กจิ๋วหลับได้แล้ว ปะป๊ากับคุณแม่เลยฝาก
อี๊ไก่อุ้มเด็กจิ๋วหน่อย แล้วก็ทิ้งไปเล่น Transformaer กันสองคน เล่นกันตอนเค้าจะปิด
อยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องรอคิวเป็นชั่วโมงอยู่ดี ตอนเล่นเสร็จเดินออกมากัน เจ้าหน้าที่มาไล่
ให้กลับบ้านแล้ว

...วันจันทร์ ตามแผนการแรกที่วางไว้ วันนี้ต้องเก็บตกช้อปปิ้ง แต่ว่าไม่เหลือเวลาแล้ว
เลยต้องตัดเวลาช้อปปิ้งทิ้ง วันนี้เราไปเที่ยว Garden by the bay กัน ที่นี่เรียกว่าเป็นที่
เดียวที่คุ้มค่าในการมาเที่ยวสิงคโปร์เลย เค้าทำเป็นโดมขนาดใหญ่ แบ่งเป็นสองโดม
โดมแรกเป็นสวนไม้ดอก เหมือนไปรวบรวมไม้ดอกนาๆประเทศมาปลูกรวมกัน ประเทศ
นี้อากาศร้อนมาก แต่ติดแอร์ในโดมซะเย็นสบาย ปลูกไม้เมืองหนาวได้ อีกโดมหนึ่งเป็น
ไม้พวกเฟิร์น มีเฟิร์นหลายตัวคล้ายๆกับที่ปะป๊าซื้อมาปลูก แต่ที่นี่เค้าดูแลต้นไม้ทุกต้น
อย่างดี ดูสมบูรณ์มาก หรือไม่ก็เป็นเพราะว่ามันเพิ่งเปิดได้แค่สองเดือน ต้นไม้ยังสดอยู่
ไม่รู้ว่านานๆไปแล้วยังดูแลให้สวยแบบนี้ได้อยู่หรือเปล่า เด็กจิ๋วก็ชอบที่นี่นะ อากาศมัน
เย็นสบายด้วยแหล่ะ เดินชิวๆ เล่นกับอี๊ไก่ส่งเสียงดังเป็นระยะๆ
...เด็กจิ๋วทำท่าคนแก่ เดินย่องๆ ยื่นหัว ทำหน้าทำตาด้วย เราก็สงสัยกันว่าใครสอน นึก
ว่าอี๊ป้อมสอนหรือเปล่า ลองถามเด็กจิ๋วดูว่าใครสอน คำตอบที่ได้รับทำเอาทุกคนอึ้งกัน
ไปหมดเลย เด็กจิ๋วตอบว่า “ม้าหมุนสอน”...ม้าหมุน??? คิดไปคิดมา มันก็คือม้าหมุนที่
ไปเล่นมาเมื่อวาน เป็นม้าหมุนมาดากัสการ์ ตัวที่ให้เด็กขี่ก็จะเป็นสัตว์ต่างๆจากในเรื่อง
มีตัวหนึ่งเป็นคนแก่ เด็กจิ๋วเห็นแล้วไปจำมาเล่น เหลือเชื่อจริงๆ
...เวลานั่งรถเมล์ เด็กจิ๋วมักจะได้นั่งหน้ากับคุณแม่ เด็กจิ๋วสนุกกับการเรียกคนขึ้นรถเมล์
มาก เวลาคนขับเปิดประตูรถ เด็กจิ๋วจะยื่นมือไปกวักเรียกคนขึ้นมา เวลาคนเค้าเดินขึ้นมา
เด็กจิ๋วก็ดีใจ บอกว่า “ดูสิ เค้าเชื่อพริมด้วย”...เค้าไม่ได้ขึ้นเพราะเชื่อพริมหรอก เค้ามายืน
รอขึ้นรถกันอยู่แล้ว กับอีกอย่างที่ชอบก็คือการปิ๊ดบัตร เวลาขึ้นรถรถที่นี่จะใช้บัตรไปแตะ
ที่แป้น ตอนอุ้มลงจากรถต้องขอแปะทุกที มีทีหนึ่งคนเยอะเราก็แปะเองเพราะต้องรีบวิ่ง
ลง เด็กจิ๋วโมโหใหญ่เลย “พริมบอกว่าจะติ๊ดเอง ก็ไม่ยอมเชื่อพริมเลย”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น