@X2 Kuiburi

สวัสดีค่ะ ปลายปีที่แล้ว ครอบครัวเราได้มีโอกาสไปนอนเล่นที่โรงแรมสวยๆ อย่าง X2 Kuiburi กัน

ขออธิบายที่มาของ SR ในกระทู้นี้ก่อนนะคะ โรงแรมไม่ได้มาเชิญเราไปเพื่อทำรีวิวแต่อย่างใดนะคะ

ฉะนั้นข้อมูลที่เรารีวิวในกระทู้นี้ คำชมต่างๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะได้ SR นะคะ ข้อมูลที่ได้เป็นความจริงจากใจเรา 100% ค่ะ

ที่เราได้ voucher X2 Kuiburi มาเป็นเพราะเราเคยไปพักโรงแรมในเครือนี้แล้วมีปัญหาเล็กน้อย ทางโรงแรมเลยขอโทษด้วยการให้ voucher สำหรับมาพักที่นี่ฟรี

งานนี้เด็กจิ๋วชวนเพื่อนมาด้วยนะคะ เป็นครอบครัวของเพื่อนแม่เอง เคยไปเที่ยวด้วยกันหลายหนแล้ว

พี่ๆก็ชอบเล่นกับเด็กจิ๋วมาก แต่พอเด็กจิ๋วเริ่มโต เริ่มดื้อและซน พี่ก็ชักจะเปลี่ยนใจแล้วสิ...

เราออกจากกรุงเทพกันบ่ายๆ ไปแวะกินข้าวเย็นที่ร้านยกซด แถวเขาสามร้อยยอดกันก่อน

ร้านนี้ก็ได้ข้อมูลมาจากเพื่อนๆ ใน BP นี่แหละค่ะ ขอบคุณนะคะ

กุ้งอบเกลือตัวใหญ่ๆ

ปลาหมึกผัดกะปิ

ปลากะพงสามรส สูตรเฉพาะของที่นี่ เค้ามีใส่สับปะรดด้วย

นอกเหนือจากนี้ ก็มีปูนึ่งก้ามโตๆ แต่ไม่มีรูปนะคะ อยากรู้ว่าก้ามใหญ่แค่ไหนต้องไปลองค่ะ

กว่าจะออกจากร้านยกซด พระอาทิตย์ก็ใกล้ลับฟ้าแล้ว

ปะป๊ากับแม่เคยมาที่อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอดกันครั้งนึงแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีเด็กจิ๋ว

ที่นี่นับเป็นที่ที่พระอาทิตย์ตกสวยมากแห่งนึงเลยที่เดียว

ส่วนเด็กจิ๋วนั้น ขับรถออกมาได้ไม่เท่าไหร่ ก็หลับไปแล้ว

จอดข้างทางแวะถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก

นอกจากพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขาสวยๆแบบนี้แล้ว

อช.เขาสามร้อยยอดยังมีที่น่าชมอีกหลายจุดเลยค่ะ โดยเฉพาะบึงบัว

เป็นที่ๆไม่ไกลจากกรุงเทพที่สวยงามมากๆ แห่งนึงค่ะ

กว่าจะมาถึงที่พัก ก็มืดพอดี 

จอดรถแล้วเดินเข้ามาก็จะเจอ lobby

ดีไซน์เก๋ๆที่ lobby 

ดูเหมือนเอาใบไม้มาเรียงๆ เด็กจิ๋ววิ่งไปเหยียบด้วย ปรากฏว่าเปียกค่ะ เพราะใบไม้ที่เห็น ลอยน้ำอยู่

เดินเลยจาก lobby เข้ามา จะเจอสวนเก๋ก่อนเดินเข้าส่วนของห้องพัก

ห้องพักของเราเป็น Pool Villa อยู่ใกล้ๆ กับห้องเพื่อนแม่ที่มาเช็คอินตั้งแต่บ่ายแล้ว

ห้องเพื่อนแม่เป็น Villa ธรรมดา ไม่มี Pool เพราะกะว่าจะมาเล่น Pool ที่ห้องเด็กจิ๋ว

ภายในห้อง Pool Villa และ Villa ธรรมดาก็เหมือนกันเป๊ะ ยกเว้นไม่มีสระน้ำเท่านั้นเอง

มีทีวี และเครื่องเล่น DVD อยู่ปลายเตียง

เครื่องเล่น DVD ของห้องเพื่อนแม่เสีย โทรไปบอกเจ้าหน้าที่ เค้ามาเปลี่ยนให้ปุ๊บเลย

กำแพงทั้งด้านในและนอกของทุกๆวิลล่าที่นี่ จะเป็นการเอาหินมาเรียงๆ

ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปแล้ว เรามองดูแล้วว่ามันน่าจะเรียงยากอยู่

เลยคิดเล่นๆว่าที่ราคาห้องพักที่นี่ค่อนข้างสูง จะต้องเป็นค่าเรียงหินแน่ๆเลย

กำแพงด้านนึงเจาะช่องทำเป็นชั้นวางของโชว์

มองดูแล้วต้องใช้หินเยอะมากในการทำรีสอร์ทนี้เลยทีเดียว

และนับถือในความพยายามเรียงหินมาก นี่แค่ในห้อง ข้างนอกห้อง ดูอลังการกว่านี้มาก

อีกด้านเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ

เดินอ้อมมาหลังหัวเตียงจะเจอมินิบาร์และตู้เย็น

ความจริงมี welcome fruit เสียบไม้เก๋ไก๋ให้ด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายมาค่ะ

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบตู้เตี้ยๆ อยู่หลังหัวเตียง เด็กจิ๋วชอบมาก เข้าไปเล่นในนี้ตลอด

ส่วนห้องน้ำจะอยู่หลังหัวเตียง ห้องน้ำกว้างขวางดี มีม้ายาวให้นั่งด้วย

มีส่วนอาบน้ำแบบ rain shower ทั้งข้างนอกและข้างใน 

ไม่ค่อยเข้าใจการออกแบบนี้เหมือนกันค่ะ คือแบบ outdoor กับ indoor มันติดกันเลยและเหมือนกันเป๊ะ

เราจะอาบด้านในก็กลัวน้ำกระเด็นเพราะส่วนนี้ไม่มีประตูกระจก 

เลยต้องไปอาบส่วนด้านนอก แต่ก็มืดและมีแมลง

Amenities ในห้องน้ำ

ปะป๊าตื่นไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้า

คุณแม่กับเด็กจิ๋วยังนอนกลิ้งอยู่บนเตียง 

เด็กจิ๋วตื่นเป็นคนสุดท้ายของรีสอร์ทอีกแล้วมั้ง

ดูเหมือนปะป๊าจะมาช้าไปนิด เพราะพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้ามาหน่อยนึงแล้ว

บรรยากาศยามเช้า งาม และ เงียบสงบ

เดินมาที่ห้อง 4k ห้องอาหารแห่งเดียวของที่นี่

น้องๆพนักงานเริ่มจัดเตรียมโต๊ะรอแขกมาทานอาหารเช้ากันแล้ว

ห้อง 4k ของทั้งที่กุยบุรี และที่สมุย มี concept เหมือนกันอยู่อย่างคือ ใกล้ชิดทะเล และบรรยากาศสวยมากๆ

วันนี้แขกน้อยค่ะ คงเพราะเป็นคืนวันศุกร์ ทั้งรีสอร์ทไม่น่าจะเกินห้าห้อง

เช้าๆ แบบนี้ ไม่มีใครออกมาเดินเลย นอกจากปะป๊า และพนักงานรีสอร์ท

บรรยากาศที่นี่เงียบสงบดี เหมาะแก่การมา honeymoon เป็นอย่างยิ่ง

ตอนที่เราไป เป็นเดือนพฤศจิกายน เช้าๆ อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อน

แต่เดี๋ยวพอพระอาทิตย์ขึ้นสูงนี่ก็ร้อนใช้ได้เลย

กำแพงหินใหญ่โตทางด้านขวาเป็นผนังของวิลล่าแบบสองชั้น

ซึ่งน่าจะเป็นแบบที่เรียกว่า Luxury Pool Villa

กำแพงอันนี้ที่บอกว่ามันดูอลังการมาก เรียงหินได้เนี๊ยบและสวยมาก

คือเคยเห็นหลายที่ทำกำแพงหินมาเรียงๆคล้ายๆแบบนี้ แต่ที่นี่เรียงได้เนียนสุดเท่าที่เคยเห็นมาค่ะ

เดินเลยสระส่วนกลางไป จะมีบันไดทางลงทะเล

คลื่นลมค่อนข้างแรง

น้ำทะเลยขึ้นมาถึงเขื่อนเลย ปะป๊าเลยไม่ได้ลงไปถ่ายรูปตรงหาด

อันนี้คือ Luxury Pool Villa ซึ่งจะหันหน้าเข้าหาทะเล มี 2 ชั้น 2 ห้องนอน

Pool ของ Luxury pool villa ดูใหญ่โตดีจัง

หลังนี้เป็น Pool Villa แบบชั้นเดียว แต่เป็นแบบ Sea View

เรียกว่า Deluxe Ocean Front Pool Villa

แต่ข้อเสียของ Villa ที่ติดทะเล คือดูจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวนัก

ย้อนกลับมาดูบรรยากาศห้อง 4k ยามเช้า

ปกติปะป๊าจะรีบมาถ่ายรูปห้องอาหารตั้งแต่เช้าตรู่เพราะจะได้ไม่ไปรบกวนแขกคนอื่น

ที่ใส่ทิชชูแบบนี้ เอาหินทับแบบนี้ เหมือนที่ X2 Samui เป๊ะเลย

ข้างๆห้องอาหารจะมีบันได้เดินขึ้นไปดาดฟ้าได้

อันนี้เป็นห้องน้ำตรงห้องอาหาร 4k

ไลน์บุฟเฟต์จัดเสร็จแล้ว มาดูกันค่ะ

อาหารเช้าที่นี่จะมีเป็นมินิบุฟเฟต์ คือในไลน์จะมีแค่สลัด ขนมปัง และน้ำผลไม้

และจะมีเป็น A La Carte ตามสั่ง ซึ่งจะสั่งได้คนละ 1 อย่าง

เห็นอันนี้ทีแรก แม่กับปะป๊ามาถามกันใหญ่ว่าทำไมมีไวน์ให้กินแต่เช้าเลย

เอ่อ..เพิ่งมารู้ทีหลังว่ามันคือแชมเปญ ที่นี่เสิร์ฟแชมเปญเบรกฟาสต์ด้วย

แต่บ้านเราไม่กินแอลกอฮอล์ ไม่สามารถแยกขวดไวน์และแชมเปญได้ค่ะ

แต่ก็ยังงงอยู่ดีว่า ทำไมเสิร์ฟแชมเปญแต่เช้า แต่เราก็เห็นคนอื่นๆเค้าดื่มกันนะคะ

ดีไซน์เรียบๆ แต่ดูดี

ป้ายที่เห็นเป็นโปรโมชั่นของเย็นวันศุกร์

ของเย็นวันเสาร์ ไปถามมาแล้วได้ความว่าเป็น Seafood buffet ราคา 790++ ซึ่งปะป๊าหมายมั่นปั้นมือจะกินให้ได้

แล้วยังมี Cocktail buffet ด้วย อันนี้แม่เห็นก็ตาลุกวาว เพราะราคาแค่ 490++ กินสามแก้วก็คุ้มแล้ว

สระว่ายน้ำส่วนกลางของที่นี่ขนาดใหญ่โตพอสมควร

เป็นสระแนวเก๋ๆเรียบๆ ไม่มีส่วนตื้นสำหรับเด็กๆ
พื้นสระเป็นกระเบื้องโมเสกสีดำ เห็นทีแรกไม่ชอบเอาซะเลย มันเหมือนมองไม่เห็นพื้นสระ

ไม่รู้ว่าสกปรกหรือสะอาด แต่พอไปดูใกล้ๆ หรือได้ลงไป จะรู้ว่าน้ำสะอาดค่ะ

ทางเดินไม้รอบๆสระส่วนกลาง

ซึ่งทางเดินไม้แบบนี้จะมีทั่วรีสอร์ทเลยค่ะ ทางเดินเชื่อมระหว่างแต่ละห้องก็เป็นแบบนี้ค่ะ

ที่อาบน้ำข้างสระว่ายน้ำ

เพื่อนเด็กจิ๋วที่มาด้วยบอกว่าไม่ชอบที่นี่เพราะสระว่ายน้ำว่ายไม่สนุก
ความจริงเรานัดกันว่าจะนอนที่นี่สองคืน แต่เพื่อนเด็กจิ๋วเบี้ยวซะแล้ว 

คืนนี้ครอบครัวเพื่อนเราเค้าจะหนีเราไป Veranda ชะอำกัน

ปะป๊ากลับจากถ่ายรูปรอบเช้า ก็มาปลุกเด็กจิ๋ว 

ปะป๊าโวยว่าเด็กจิ๋วตื่นเป็นคนสุดท้ายของรีสอร์ททุกทีเลย

ไปกินข้าวเช้ากันละ ยังมึนๆ ไม่ตื่นดี

อาหารเช้าที่ให้สั่งได้คนละอย่าง อันนี้ของแม่ แต่ตั้งใจสั่งมาให้เด็กจิ๋ว

แอบถ่ายของครอบครัวเพื่อนเรามาด้วย

แก๊งเด็กเริ่มรวมตัว

เด็กจิ๋วคึกคักมาก วิ่งเล่นกับพี่ๆ เพิ่งกินข้าวเสร็จแท้ๆ

คึกได้ไม่นาน อ้วกเลย แต่ความจริงพอวิ่งไปดู เห็นเด็กจิ๋วเอานิ้วล้วงในปากตัวเองใหญ่
พอแม่จับอ้าปากเลยเห็นว่า แพนเค้กที่ถือติดมือมากินด้วย มันติดเพดานค่ะ
คงนึกออกนะคะ บางที่เรากินพวกขนมปังหรือแพนเค้ก แล้วมันจะไปติดเพดานปาก 
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็คงเอาลิ้นดุนๆได้ แต่เด็กจิ๋วทำไม่เป็น เลยล้วงๆแล้วอ้วกค่ะ 

ต้องขอโทษพนักงานรีสอร์ทด้วยค่ะ วิ่งมาช่วยแม่เช็ดกันใหญ่ น่ารักมากค่ะ

กลับห้องมาเพิ่งได้สำรวจบริเวณสระน้ำ เมื่อวานมาเข้าห้องก็มืดแล้ว เลยไม่ได้ออกไปเลยค่ะ

สระที่ห้องก็เป็นสีดำเหมือนกันค่ะ แม่เห็นแล้วไม่ชอบ มองไกลๆ เหมือนมันสกปรก

แต่พอได้ลงไปจริงๆ จะพบว่าสะอาดกิ๊กค่ะ น้ำใสแจ๋ว

สระจะเป็นแบบแคบๆ นะคะ แต่จะยาวหน่อย เหมาะกับว่ายกันไม่เกินสองคน

แต่เคยทราบมาว่าสระแต่ละห้องจะไม่เหมือนกัน ตำแหน่งของสระก็ต่างกันไปในแต่ละห้องด้วย

เด็กจิ๋วชวนพี่ๆมาเล่นน้ำด้วยกัน มีปะป๊ากับคุณลุงอีก ลงไปในสระ 5 คน เรียกว่าแน่นเลย

เล่นน้ำเสร็จก็ชวนกันออกมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์หว้ากอ

เที่ยวด้วยกันก่อนที่ครอบครัวเพื่อนเราจะบ้าย บายไปเล่นทรายที่ชะอำแล้ว

ข้างในพิพิธภัณไม่ได้ถ่ายรูปมานะค่ะ เพราะแค่ตามจับเด็กๆก็เหนื่อยแล้ว
และอีกอย่างคือ เด็กเยอะมากๆๆๆ มีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษากันแน่นไปหมด

ภายในก็ดีนะคะ เด็กๆชอบ มีปลาให้ดูเยอะ

กลับเข้ารีสอร์ทมาพาเด็กจิ๋วลงเล่นน้ำอีกรอบดีกว่า ไปข้างนอกมาร้อนมากๆ

ตอนเย็นๆเดินเล่นถ่ายรูปกันรอบๆรีสอร์ท ด้วยบรรยากาศเหงาๆ

เราเดินจูงมือกันสามคน เด็กจิ๋วถามหาเพื่อนตลอด ว่าหายไปไหนแล้ว

ขาตั้งกล้องของปะป๊าอันนี้เป็นของเล่นชิ้นโปรดของเด็กจิ๋ว

แม่ก็เสียวๆว่าวันนึงมันจะล้มทับขา หรือฟาดหน้าเอา เพราะมันหนักมากๆค่ะ

วันนี้เด็กจิ๋วนอนเร็วมาก เพราะกลางวันมัวแต่เล่นไม่ยอมนอน

แม่กับปะป๊าต้องผลัดกันเฝ้าเด็กจิ๋ว แล้วสลับกันเดินมาทานข้าวเย็น

บรรยากาศห้องอาหาร 4k ตอนกลางคืน
มีนักร้องมานั่งเล่นกีต้าร์ ร้องเพลงให้ฟังสดๆ ด้วยค่ะ
ข้าเย็นของแม่เป็นกินสปาเก๊ตตี้คาโบนาร่า กับ Mojito 1 แก้ว ไม่มีรูปค่ะ เพราะปะป๊าเฝ้าเด็กจิ๋วอยู่ที่ห้อง
แม่อยากนั่งกิน Cocktail Madness มาก เพราะชิม Mojito แล้วอร่อยดี อย่างอื่นต้องอร่อยแน่ๆ 

แต่ไม่สามารถค่ะ ต้องรีบกลับไปอยู่กับเด็กจิ๋ว

เริ่มมืด คนก็เริ่มทยอยมาทานอาหารเย็นกันค่ะ

อันนี้แหล่ะ บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดที่ปะป๊าจ้องไว้ตั้งแต่เช้า
ของย่างก็มี กุ้ง ปู ปลาหมึก แล้วก็ซี่โครงบาร์บีคิว ที่ปะป๊ากลับมาโม้ให้แม่ฟังว่าสดมาก อร่อยมาก
แม่ได้แต่เศร้า อยากกินด้วยยิ่งนัก 

ปะป๊าก็เลยปลอบใจว่า แม่ไม่กินดีแล้ว แม่กินไม่คุ้มหรอก จะได้ไม่เปลืองง่ะ

มีขนมหวานให้ด้วย แต่ปะป๊าไม่สามารถแล้ว เล่าว่ากินซี่โครง bbq ไปเยอะมาก
สภาพคือนั่งกินคนเดียว เหงื่อแตก กินเอา กินเอา แล้วรีบกลับห้องมาหาแม่กับเด็กจิ๋ว

คนอื่นเค้านั่งกินชิล ชิล กินของปิ้ง กับ cocktail เย็นใจ มีปะป๊าที่ดูไม่เข้าพวกอยู่คนเดียว

คืนนั้นปะป๊ากลับห้องมาด้วยสภาพเหมือนไปออกรบมา 

แต่ตอนเช้าก็ยังสามารถ วันนี้ตื่นก่อนพระอาทิตย์เลย

พระอาทิตย์ยังไม่มา ค่อยยังชั่ว 

วันไหนที่ปะป๊าตื่นสายกว่าพระอาทิตย์ จะถือเป็นความผิดของแม่ ที่ไม่สามารถปลุกให้ตื่นได้

เมื่อวานออกมาสายกว่านี้ น้ำขึ้นมาเยอะแล้ว เลยไม่ได้เดินลงมาที่ทะเลเลย

หาดที่นี่มีหินค่อนข้างเยอะ

ทางเดินลงหาดข้างๆห้องอาหาร 4k

เมื่อวานตั้งกล้องถ่ายแต่แถวๆสระว่ายน้ำ

วันนี้ปะป๊าย้ายมาถ่ายริมทะเลบ้าง

ทุกครั้งที่เห็นรูปแบบนี้ แม่ก็จะเสียดาย อยากลุกมาสูดอากาศเช้าๆแบบนี้บ้าง

แต่พอเอาเข้าจริงๆ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ พอปลุกปะป๊าเสร็จ แม่ก็นอนต่อทู๊กทีเลย

โผล่มาแล้ว กลมดิกเลย

ต้นสนหน้าห้องอาหาร 4k

บรรยากาศที่นี่ดีมากๆจริงๆ เงียบสงบ

การมาที่ X2 กุยบุรีของเราครั้งนี้ เราประทับใจกับที่นี่มาก เรียกว่าเกินคาดหมาย

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดมาที่นี่ เนื่องด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง และเราคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับเด็กๆ อย่างเด็กจิ๋ว

ลงมาที่หาดกันอีกรอบ น้ำทะเลยังไม่ขึ้นเท่าไหร่

หาดที่นี่ดูไม่ค่อยเหมาะจะพาเด็กจิ๋วมาเล่นทราย

อาจจะจริงอย่างที่เพื่อนแม่บอก ที่นี่เด็กๆไม่ค่อยสนุก ไม่ค่อยมีอะไรให้เล่น

แต่สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ชอบมาก ฉะนั้นถ้ามากันเป็นคู่ หรือมา honeymoon ที่นี่จะเหมาะมากค่ะ

คลื่นลมวันนี้ก็ยังแรงอยู่

ปะป๊าชอบบรรยากาศรีสอร์ทที่นี่มากๆ บอกว่าสวย มีดีไซน์

ถ้าเราไม่ได้มาก็คงเสียดายแย่

ที่ตักน้ำล้างเท้าเก๋ๆ

ตอนที่เราไปเป็นเดือนพฤศจิกายน พอเดือนธันวา เราก็จะมาที่แถวกุยบุรีอีก 

เพราะบริษัทปะป๊าจะจัดมาเที่ยวประจำปี ปะป๊าบ่นว่าอยากกลับมากิน Seafood buffet อีกจัง

พระอาทิตย์กลมๆ หน้าห้องอาหาร 4k

ตอนสายๆ ครอบครัวเรามานั่งเล่นกันที่ริมสระใหญ่ ร่มรื่นดีค่ะ มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา

สรุปว่าเรามาที่นี่ด้วยความไม่ตั้งใจ แต่กลับประทับใจที่นี่มาก ทั้งการบริการ การดีไซน์ และอาหารอร่อย
รอให้เด็กจิ๋วโตกว่านี้ และถ้ามีโอกาส จะกลับไปเยี่ยมที่นี่ใหม่นะคะ
เด็กจิ๋วต้องบ้าย บายไปก่อนนะคะ กะพริบตา
รีวิวหน้าเด็กจิ๋วจะพาไปสถานที่อินเทรนด์อย่าง Art in Paradise ที่พัทยา 

แล้วก็ไปนอนเล่นที่ The Zign ค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ