วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เด็กจิ๋ว@กระบี่

ครั้งนี้เรียกว่าเป็นทริปหนีน้ำท่วมก็ได้ เพราะคนกรุงเทพหลายคนหนีไปเที่ยวต่างจังหวัดช่วงวันหยุดยาวนี้เหมือนกัน แต่ที่จริงของเรานี่วางแผนกันมานานแล้ว เป็นครั้งแรกของเด็กจิ๋วเลยที่จะได้นั่งเครื่องบิน เรื่องที่หวั่นใจที่สุดก็คือกลัวว่าเด็กจิ๋วจะไปกรี๊ดบนเครื่องบินนั่นแหล่ะ เมื่อคืนให้เด็กจิ๋วนอนตั้งแต่สี่โมงเย็น เช้านี้ปลุกเด็กจิ๋วตีสี่ครึ่งเพื่อไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ คนเยอะมาก รอคิวเช็คอินนานมาก เด็กจิ๋วมีงอแงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ ตอนเข้าไปรอขึ้นเครื่อง เด็กจิ๋วก็ลั้นลาดี ตื่นเต้น เดินๆ วิ่งๆ แล้วก็กระโดดๆ ปีนขึ้นปีนลงเก้าอี้ มีเก้าอี้แปลกตาให้ปีนเล่นเยอะแยะมากมาย

ขาไปเราบิน Air Asia ปะป๊ากับคุณแม่ซื้อของที่ระลึกบนเครื่องบินให้เด็กจิ๋วด้วย เป็นเครื่องบินเป่าลมสำหรับเอาไปเล่นที่กระบี่ แต่ก็ใช้หลอกล่อตอนอยู่บนเครื่องได้เล็กน้อย เราเตรียมของเล่นมาเยอะแยะ เอาแบบที่เด็กจิ๋วไม่เคยเห็นมาก่อน ควักมาให้ดูสดๆบนเครื่องเลย เด็กจิ๋วจะได้สนใจเล่นของเล่น ไม่กรี๊ดกร๊าด ยังมีพวกขนมขบเคี้ยวแปลกใหม่ด้วย ของที่เตรียมมาก็เอาเด็กจิ๋วอยู่นะ เด็กจิ๋วเล่นไดโนเสาร์เพลิดเพลิน เล่นไปเล่นมา เหมือนใครไปเปิดสวิทช์เปลี่ยนโหมดเด็กจิ๋วก็ไม่รู้ จากลั้นลาอยู่ดีๆกลายเป็นโหมดบ้าครั่ง กรี๊ดลั่นเครื่อง กรี๊ดแบบไม่ลืมหูลืมตา กรี๊ดแบบนี้เอาไงก็ไม่อยู่ น่าจะเป็นเพราะง่วงด้วย แล้วอีกอย่างน่าจะเจ็บหูตอนเครื่องลดระดับเพดานบิน เด็กจิ๋วกรี๊ดดังอยู่ประมาณยี่สิบนาทีจนเครื่องลงจอดถึงได้หยุด กรี๊ดน่ากลัวมาก จนแบบเราคิดว่าจะช็อคหรือเปล่า คนบนเครื่องก็คงจะหงุดหงิดน่าดู หันมามองกันใหญ่ ตอนเครื่องจอดแล้ว เรายังนั่งอยู่ให้ผู้โดยสารคนอื่นลงไปก่อน ทุกคนเดินผ่านมาแล้วก็มองดูเรา เหมือนประมาณว่า อ๋อพวกนี้นี่เอง ต้นกำเนิดเสียง เข็ดจนตาย สงสัยเด็กจิ๋วจะไม่ได้บินไปอีกนานเลยนะ

ถึงที่กระบี่ประมาณแปด โมงกว่า อากงอาม่าขับรถมาจากราชบุรีตั้งแต่เมื่อวาน มานอนพักที่โรงแรมโง่ๆก่อนคืนหนึ่ง วันนี้ถึงมารับเด็กจิ๋วไปลงเรือ เพื่อจะไป Centara
ที่จริงแล้วพี่รีสอร์ทนี้ก็อยู่แผ่นดินใหญ่นะ สามารถเดินจากอ่าวนางไปได้เลย แต่ต้องเป็นตอนเย็นกับตอนเช้าที่น้ำลง แต่แขกส่วนใหญ่จะใช้วิธีนั่งเรือ ซึ่งต้องไปขึ้นที่หาดนพรัตน์ธารา นั่งเรือไปแค่สิบนาทีก็ถึง

เราไปถึงแต่เช้าเลย ประมาณสิบโมง ต้องรอห้องแป๊บหนึ่ง พยายามจะป้อนข้าวเด็กจิ๋วแต่ไม่ยอมกิน สงสัยตื่นเต้นกับการได้มาเที่ยวอยู่ ระหว่างรอห้อง เราพาเด็กจิ๋วไปเล่นที่ Kid Center ด้วย อากงบอกว่ามาทำไม ที่บ้านก็มีแบบนี้อยู่แล้ว เด็กจิ๋วได้กระดาษระเบายสีติดมือมาสองแผ่น แล้วก็เปลี่ยนมานั่งรอห้องที่ริมทะเล

ทะเลที่นี่ไม่ได้สวยอย่างที่คิด ทรายก็ไม่ขาว น้ำทะเลก็ธรรมดา ทีแรกนึกว่าทะเลที่กระบี่ น่าจะดีกว่านี้

ทริปนี้ดีหน่อย มีอากงอาม่ามาช่วยเลี้ยงเด็กจิ๋ว เวลามาเที่ยวแบบนี้เด็กจิ๋วจะรู้งาน จะติดอากงอาม่า ไม่เอาปะป๊ากับคุณแม่เลย

ได้เวลาเข้าห้องพัก ห้องของเราอยู่บนตึกชั้นสาม เดินจากล็อบบี้ไปไกลเหมือนกัน เป็นตึกรองสุดท้ายของรีสอร์ทเลย

ห้อง พักสวยงามดีมาก ระเบียงก็กว้างใหญ่ ห้องของอากงอาม่าได้รับการอัพเกรดฟรี เป็นแบบมีจากุซซี่ แล้วคุณแม่ให้จัดห้องเป็นแบบฮันนีมูนด้วย บอกว่าจะเซอร์ไพรสคุณพ่อคุณแม่ เรื่องเซอร์ไพรสก็จริงอยู่นะ แต่ปะป๊าก็จะได้ถ่ายรูปสวยๆด้วยไง เพราะโรงแรมพวกนี้เวลาบอกให้จัดเป็นฮันนีมูนจะมีการเตรียมดอกไม้มาประดับไว้ อย่างห้องที่นี่ก็มีกลีบกล้วยไม้ลอยน้ำในอ่างอาบน้ำให้ มีกลีบกุหลาบโรยบนเตียง ซึ่งเด็กจิ๋วจัดการละเลงซะผ้าปูสีขาวกลายเป็นผ้าหลากสีไปแล้ว ยังไม่กระถางดอกไม้หัวเตียงสองสามอัน แล้วก็ช่อกุหลาบเล็กๆวางที่หมอนให้ด้วย แบบนี้ฟรีนะ ทีหลังเวลาจะไปพักที่ไหนก็บอกว่าไปฮันนีมูนดีกว่า ที่สำคัญคือนอกจากดอกไม้แล้ว ทางรีสอร์ทยังจัดเค้กมาให้ก้อนหนึ่งด้วย สุดยอด รสชาติใช้ได้เป็นเค้กไส้ผลไม้

ตอนเจ้าหน้าพาเดินดูห้อง ได้บอกด้วยว่าที่นี่มีข้อควรระวังเป็นพิเศษ คือจะมีลิงเยอะ ห้ามเปิดประตูทิ้งไว้ หรือวางของกินทิ้งไว้ที่ระเบียง พูดยังไม่ทันขาดคำ เจอของจริงเข้าให้ มีลิงเข้ามาแกะ Welcome Fruit กินเรียบร้อย แป๊บเดียวเอง น้องเค้าบอกว่าลิงมันจะรู้ว่าพอมีแขกเข้ามาใหม่ก็จะจ้องรอผลไม้นี่แหล่ะ แขกเข้าใหม่ยังไม่ทันลิงด้วย ยังไม่รู้ว่าลิงฉลาดขนาดไหน ตอนที่เราหันไปเห็น ลิงก็เผ่นหนีไปแล้ว ทิ้งเปลือกกล้วยไว้ให้ดูต่างหน้า เราก็เพิ่งรู้ว่าลิงมันปลอกเปลือกกล้วยด้วย นึกว่าจะกินๆเข้าไปทั้งเปลือก แต่คอนเฟิร์มว่าลิงชอบกินกล้วยจริง เพราะหยิบกล้วยก่อนผลไม้อย่างอื่นเลย

จบ จากลิงกินกล้ว น้องก็ยกกระเป๋าเราขึ้นมาให้ที่ห้อง มีถุงขนมอยู่ด้วย เผลอแป๊บเดียว ยังไม่ทันได้เก็บของเลย ลิงก็ปีนเข้ามาที่ระเบียง คราวนี้ฉีกถุงขนมของเด็กจิ๋วกินไปสองถุง ห้องนี่เป็นแหล่งอาหารของลิงไปแล้ว คราวนี้มีลิงมาป้วนเปี้ยนอยู่สี่ห้าตัวตามระเบียงห้อง น่ากลัวมาก มีแยกเขี้ยวขู่ แล้วก็กระแทกโต๊ะไปมาด้วย เจ้าหน้าที่บอกให้ใช้ไม้ พอลิงเห็นไม้ก็วิ่งหนีไป แล้วก็ป้อนเปี้ยนไปมาอยู่นาน ต้องรอจนเย็นๆลิงถึงจะกลับบ้าน พอตอนเย็นกับตอนเช้าก็ไม่เจออีกเลย ทิ้งไว้แต่ขี้หลายจุด ถ้าออกไปที่ระเบียงก็จะได้กลิ่นเหม็น เรียกพนักงานมาทำความสะอาดแต่ก็ไม่ยอมมา คงเบื่อเช็ดขี้ลิงแล้ว เพราะนอกจากระเบียงเราแล้ว ตามบันไดทางเดินก็มีขี้ลิงเต็มไปหมด

เด็กจิ๋วพอเข้าห้องก็ให้อาม่าพาไปเล่นดอกไม้ที่ลอยน้ำอยู่ในอ่าง เล่นเพลินอยู่นานมาก สักพักก็หมดแรงสลบไป

ห้องเด็กจิ๋วกับห้องอากงอาม่าอยู่ติดกัน ระเบียงเชื่อมต่อกัน พอเปิดฉากกั้นออกก็จะเป็นระเบียงยาวต่อเนื่องกัน

ห้อง ของอาองอาม่ามีอ่างจากุซซี่อยู่ที่ระเบียงด้วย แต่เราไม่ได้ใช้บริการเลย ลิงอ่ะได้ใช้ มีลิงตัวหนึ่งมาควักน้ำในอ่างกินสำราญใจ เพราะห้องนี้ทั้งอาหารการกินและน้ำท่าอุดมสมบูรณ์สำหรับลิงมาก

ในห้องออกแบบดี
ตู้เสื้อผ้าใหญ่มาก
ห้องน้ำก็สวยนะ แต่ก๊อกน้ำไม่ดี น้ำก็ไหลเอื่อยมาก
ห้องพักที่นี่จุดเด่นคือเกือบทุกห้องจะมองเห็นวิวทะเล และทุกห้องก็มีระเบียงใหญ่ มีเตียงไว้ให้นอนชมวิว
ห้องของอากงอาม่าจะขนาดเท่าห้องเด็กจิ๋ว แต่จัดวางเตียงไม่เหมือนกัน

พอเด็กจิ๋วตื่นนอน ก็พากันไปว่ายน้ำ คราวนี้ให้อาม่าพาเด็กจิ๋วเล่นน้ำไป
ได้ใช้เครื่องบินที่เพิ่งซื้อมาด้วย
เด็กจิ๋วเจอเพื่อนคนหนึ่ง ชอบไปเลียนแบบเค้า เค้าทำอะไรก็ทำตาม
เด็กจิ๋วได้เล่นอยู่ตรงสระเด็กอย่างเดียว อาม่าไม่สามารถพาไปเล่นสระใหญ่ได้ เด็กจิ๋วก็ร้องจะไปตรงโน้น ไปตรงโน้น

อาบ น้ำเสร็จก็พากันไปเดินเล่นที่ทะเล เด็กจิ๋วได้ถอดรองเท้าเดินบนทรายสนุกสนาน กระโดดไปมา คุณแม่บอกว่าลองดูที่พื้นทราย เห็นรอยเท้าเด็กจิ๋วเป็น จุดสามจุด ? ... คือเด็กจิ๋วใช้วิธีกระโดดลงปลายเท้าแบบเต้นบัลเล่

พระ อาทิตย์ตกแล้วเราก็มากินข้าวที่ห้องอาหารริมทราย เป็นห้องอาหารไทย ที่รีสอร์ทนี้มีห้องอาหาร ๔ ที่เลย มีไทย ญี่ปุ่น นานาชาติ แล้วก็บาร์ริมทะเล

กินข้าวเสร็จ กลับขึ้นห้องไป เด็กจิ๋วยังมีแรงเล่นต่อเป็นชั่วโมงกว่าจะหลับได้
ตอน แรกอากงก็จะชิวที่ระเบียงห้องซะหน่อย แต่ก็ไม่สามารถ เพราะมีแมลงเยอะมาก ถ้าดูที่กระจก จะเห็นแมลงเกาะกันประมาณร้อยกว่าตัว ระเบียงอันใหญ่โตไม่ได้ใช้บริการเล้ย ตอนกลางวันก็มีลิง ตอนกลางคืนก็มีแมลง หรือที่ตอนเย็นลิงกลับบ้านไปเพราะกลัวแมลงนี่เอง

ตอนเช้าที่ห้องอาหาร เด็กจิ๋วนั่งเก้าอี้เด็ก กินโน่นนี่ได้พักหนึ่ง พอเริ่มอิ่มก็เริ่มลงเดิน คราวนี้อากงรับอาสาพาหลานเดินเล่น

กิน ข้าวเสร็จปะป๊าพาเด็กจิ๋วลงว่ายน้ำเลย คราวนี้เด็กจิ๋วได้ลงสระใหญ่แล้วนะ ลั้นลามาก แต่แดดจะร้อนไปไหนนี่ กำลังสนุกอยู่เชียว จากแดดร้อนๆ กลายเป็นฝนตกหนักกระหน่ำเชียว คือลมพัดเมฆฝนมาจากฝั่งอ่าวไทย เพราะช่วงนี้อ่าวไทยฝนตกหนักมาก

อากงรีบพาเด็กจิ๋วหนีไปก่อน เพราะอากงมีร่มอย่คันหนึ่ง พวกที่เหลือติดเกาะก็รอความช่วยเหลืออยู่ พอเจ้าหน้าที่เอาร่มมาให้ก็กลับห้องกัน แต่พอถึงห้อง ไม่เจอเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วหายไปไหน ปรากฎว่าอากงพาไปหลบฝนอยู่ที่ร้านอาหาร ร้านอาหารกับห้องเราก็อยู่กันไกลเหลือเกิน แล้วที่สำคัญเด็กจิ๋วอึ๊ราดชุดว่ายน้ำ โดยที่อากงอยู่กับหลานเพียงลำพัง อากงงานเข้าใหญ่เลยทีเดียว คุณแม่กับอาม่าต้องวิ่งไปมาวุ่นวายกว่าจะได้ตัวเด็กจิ๋วกลับมาห้อง อึ๊เด็กจิ๋วได้กระจายตัวไปตามที่ต่างๆ ที่ร้านอาหารก็คงมีหล่นอยู่หลายจุด ในชุดว่ายน้ำเด็กจิ๋วเองก็เละ ขนาดเสื้อคุณแม่เองยังมีติดอยู่ด้วย

ฝนตกมาประมาณชั่วโมงหนึ่ง เสียดายที่ได้เล่นน้ำนิดเดียวเอง แล้วตอนแรกปะป๊ากะจะมาเล่นจากุซซี่ที่ระเบียงสักหน่อยก็อด

เราออกจาก Centara ก็ขับรถต่อไปที่ทับแขกซันเซ็ทเลย ไม่ได้กินข้าวกลางวันเพราะขี้เกียจแวะกัน กะว่าไปกินเย็นเลยทีเดียว

ทับ แขก ซันเซ็ท ดูเหมือนจะเป็นรีสอร์ทที่โง่ที่สุดในบรรดารีสอร์ทแถวทับแขกนี้แล้วมั้ง เพราะรีสอร์ทอื่นๆไฮโซกัน แต่ที่นี่ป้ายทางเข้ายังหาไม่เจอเลย อันเล็กนิดเดียว เป็นป้ายไม้เก่าๆผุๆ

เราไม่ได้คาดหวังที่พักที่นี่อยู่แล้ว เพราะกะว่าจะเอาถูกๆนั่นแหล่ะ เน้นเอาวิวอย่างเดียว
บ้านที่เราจองเป็นแบบบังกะโลเล็กๆ ภายนอกก็เน่าๆ แต่ข้างในตกแต่งใหม่ ดีกว่าที่คิดไว้
อยู่ๆก็มีแมลงสาบตกลงมาชักกระแด๋วๆ ตกมาจากเพดานหรือจากแอร์ก็ไม่แนใจ ดีที่ไม่ตกใส่หัวเด็กจิ๋ว

เมื่อ วานไม่ได้ให้เล่นทรายเลย มาที่นี่มีเวลาเยอะ เลยให้เล่นหน่อย เด็กจิ๋วนั่งเล่นทรายแบบไม่สนใจอะไรทัังสิน เพลินมาก แบบปล่อยให้เล่นอยู่เป็นวันก็ได้ ปะป๊าหลอกให้เล่นตักทราบใส่ใบไม้ เด็กจิ๋วก็ทำตาม มีใส่ใบไม้บ้าง ใส่ขาตัวเองบ้าง ทราบที่นี่สวยกว่าที่ Centara แต่ก็มีเปลือกหอยเจ็บๆเยอะเหมือนกัน

ที่นี่เงียบมากๆ พนักงานบอกว่ามีแขกพักประมาณสิบห้อง แต่เท่าที่เห็น เหมือนจะมีพวกเราแค่สองห้อง พวกห้องอื่นยังไม่มาหรือไปไหนก็ไม่รู้

เด็กจิ๋วเล่นทรายเพลินเลย ปะป๊าเรียกให้ลงสระว่ายน้ำก็ไม่ยอม
เด็กจิ๋วเล่นน้ำไม่ว่าจะที่ไหนก็สนุกหมด จริงๆแล้วเล่นอยู่ในอ่างอาบน้ำก็สนุกแล้ว
ขึ้น จากสระ อาบน้ำเสร็จแล้วก็มารอดูพระอาทิตย์ตกกัน เหมือนจะเป็นไฮไลท์ของที่ทับแขกแล้ว แต่เสียดายวันนี้ฟ้าปิดสุดๆ ไม่เห็นพระอาทิตย์ตกเลย
เรานั่งกินข้าวกันที่ร้านอาหารริมทะเล ตั้งโต๊ะบนทรายเลย ได้บรรยากาศสุดๆ
ได้ ยุงแถมมาด้วย ยุงบินชุมจริงๆ ปะป๊าเดินออกไปถ่ายรูปที่ทะเลมึดๆ เจอยุงบินปะทะหน้าเหมือนฝูงบินนรก บินชนหน้าแปะๆแปะๆ ส่วนคุณแม่ก็เจอที่ขาไปสิบกว่าตุ่ม กลับบ้านมาหลายวันแล้วยังคันยิบอยู่เลย ยุงทะเลร้ายกาจจริง เด็กจิ๋วเคยเจอที่เกาะช้างมาแล้ว แต่คราวนี้โชคดีเด็กจิ๋วไม่เจอเลยซะกะตุ๋ม เพราะอาม่าเอาผ้าห่อตัวไว้มิดชิด


อาหารเช้าที่นี่ก็ตามราคา มีตามมาตรฐาน ไม่มีอะไรโดดเด่น

ที่ จริงวันนี้เราต้องกลับกันแล้ว แต่เราตัดสินใจอยู่ต่ออีกวันหนึ่ง เพราะวันนี้รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ เนื่องจากน้ำท่วม อากงอาม่าก็อยู่ต่อด้วย

ออกจากทับแขกแต่เช้าเลย ย้อนกลับไปที่หาดนพรัตน์ธารา เหมาเรือไปเที่ยวสี่เกาะ
ได้เรือของลุงดุลย์ เหมือนจะเป็นขาโจ๋แถวนี้ คุยกับอากงถูกคอเชียว
เรามาสายไปหน่อย ลงเรือก็เก้าโมงกว่า ที่จริงเค้าบอกว่าให้มาลงเรือตั้งแต่ ๗-๘ โมง
ที่แรกที่เราไปคือทะเลแหวก แต่เรามาสาย มันเลยกลายเป็นกลุ่มคนอพยพหนีน้ำท่วมแทน น้ำขึ้นมาถึงเอวแล้ว
เราปล่อยให้เด็กจิ๋วลงเล่นทรายเลย ทรายที่นี่ขาวนุ่มมาก ไม่รู้ว่าเด็กจิ๋วจะแยกแยะออกไม๊ ระหว่างทรายที่ต่างๆ
มีปลาเสือผู้ตะกระด้วย คนรู้ทันเอาหนมปังไปให้ ปลากเสือก็ว่ายมาโชว์ตัวกันเป็นฝูง เป็นปลาเกยตื้น

เกาะ ที่สองคือเกาะไก่ รูปร่างเกาะเหมือนไก่ ที่นี่ลุงดุลย์จอดเรือให้ดูปลา อากงแอบนัดแนะกับลุงไปซื้อหนมปังมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เอามาให้ปลา คุณแม่พยายามคัดค้านแต่ไม่สำเร็จ เด็กจิ๋วก็สมรู้ร่วมคิดด้วย เอาหนมปังโยนให้ปลาใหญ่เลย

เกาะที่สามคือเกาะปอดะ เป็นเกาะใหญ่ ทรายขาวมาก ให้เด็กจิ๋วลงเล่นทรายอีก แต่แดดร้อนมาก เล่นได้แป๊บเดียว

แดด ร้อนๆ เปลี่ยนเป็นฝนตกหนักอีกแล้ว เปลี่ยนเร็วมากต้องรีบหาที่หลบฝน แต่คลื่นก็ไม่แรงนะ แค่เปียกปอนกันนิดหน่อย แต่เด็กจิ๋วไม่เปียกนะเพราะพยายามกันกันสุดฤทธิ์
เกาะสุดท้ายก็เป็นแผนดินใหญ่นี่เอง ที่ถ้ำพระนาง อยู่แผนดินใหญ่แต่ต้องมาทางเรือเท่านั้น
เรา ต้องจอดเรือห่างออกมาแล้วเดินเข้าไปที่ถ้ำพระนาง อากงรับอาสาอุ้มเด็กจิ๋วเดินเลาะหาดทรายไป ตอนนี้เป็นเวลาน้ำขึ้น ทางเดินไปถ้ำเลยต้องเดินลุยน้ำระดับเข่าไป อาม่าเป็นห่วงหลานมาก บอกอากงระวังโน่น ระวังนี่ มีกิ่งไม้ยื่นมา อาม่าพูดจบ โครม! อากงกับหลานลงไปอยู่ในน้ำแล้ว เด็กจิ๋วกับอากงไม่เป็นไรแค่กินน้ำทะเลไปเอือกหนึ่ง แต่โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป แล้วก็กล้องส่องทางไกลของอากง เจ๊งไปแล้ว

หลังจากตกน้ำ ไป เด็กจิ๋วไม่เอาอากงเลย นี่อาจจะคิดว่าอากงแกล้งนะเนี่ยะ แล้วก็ไม่ได้เดินต่อไปถ้ำด้วย น้อยกลับมาเล่นทรายที่แถวเรือแทน

ที่ สุดท้ายคือไร่เรย์ ที่นี่ขึ้นชื่อว่าสวยนะ คุณแม่ก็อยากมานอนพักรีสอร์ทที่นี่ ติดอยู่ที่ว่ามันแพงเว่อร์มาก แต่เรามาวันนี้ไม่เห็นจะสวยอ่ะ ไม่ลงด้วย อยู่บนเรือ ดูๆแล้วก็กลับ

ขึ้นจากเรือก็เข้าที่พักที่คุณแม่เพิ่งหาจองเมื่อวานมา ได้ที่ Red Ginger
เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่มีดีไซน์ ตกแต่งแนวจีนโมเดิร์น เน้นสีแดง
ขึ้นห้องไปอาบน้ำกันเสร็จแล้วก็ออกไปกินข้าวร้านดัง ...
อาหารที่นี่อร่อยจริง ราคาก็ไม่แพง เทียบกับหลายมื้อที่กินในรีสอร์ทมา
กลับเข้าโรงแรม ก็พากันมาเล่นน้ำ สระที่นี่เล่นสนุกมาก เด็กจิ๋วชอบน้ำพุ แล้วก็เป็นสระน้ำเกลือด้วย
เด็ก จิ๋วเล่นน้ำเสร็จแล้วยังคึกไม่เลิก ขึ้นห้องไปวิ่งๆ กระโดดๆ ปีนเข้าไปอยู่ในตะกร้าผ้า มุดมุ้ง บังคับอากงกับอาม่าให้มุดด้วย ลูบหัวอาม่าแล้วพูดว่า "หลับนะลูก หลับนะลูก" แล้วที่หนักที่สุดคือพูดๆพูดๆ ไม่หยุดจริงๆ อากงอาม่าบอกว่าทำไมพูดเก่งแบบนี้

เช้าวันนี้ตั้งใจปลุกเด็กจิ๋วแต่เช้า เพราะตอนกลางวันจะได้สลบไปให้เต็มอิ่มก่อนขึ้นเครื่องบ่ายสาม
กิน ข้าวเช้าเสร็จก็ลงเล่นน้ำกันต่อ วันนี้พยายามปล่อยมือให้เด็กจิ๋วลอยตัวเอง คือมีที่สวมแขนใส่อยู่แล้วก็เหมือนจะลอยตัวได้นะ แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าพอลอยได้แล้ว เด็กจิ๋วจะดีใจหัวเราะ น้ำก็เข้าปากสำรัก บอกว่าไม่ให้หัวเราะ ให้เม้มปาก ก็ทำไม่ได้

ขึ้นจากสระ อาบน้ำ เก็บของ ก็กลับกัน ให้อากงมาส่งที่สนามบินตั้งแต่ตอนเที่ยง เพราะอากงต้องขับรถกลับราชบุรี กลัวจะดึกเกิน เด็กจิ๋วก็นอนหลับที่สนามบินนั่นแหล่ะ นอนไปสามชั่วโมงกว่า เป็นไปตามแผน
ถ้า ไม่ปลุกก็คงไม่ตื่น ก่อนขึ้นเครื่องประมาณสิบนาที เราก็ปลุกเด็กจิ๋วขึ้นมา คราวนี้นอนเต็มอิ่มจริงๆ ไม่มีงอแงเลย ขากลับเรานั่งการบินไทยด้วย เหมือนจะมีกิจกรรมเสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม เด็กจิ๋วก็กินโน่นกินนี่ แล้วยิ่งไม่ง่วงนอนอีก คราวนี้เลยแฮ้ปปี้กันทั้งลำ ไม่ต้องทนฟังเด็กจิ๋วกรี๊ด


























































































































































































































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น