วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เด็กจิ๋ว@X2, Samui

วันพฤหัสตอนหัวค่ำ พาเด็กจิ๋วมาอาบน้ำ แล้วคุณแม่ก็เก็บของ จัดกระเป๋า เด็กจิ๋วรู้นะว่าจะได้ไปเที่ยว ดูรู้เลยว่าตื่นเต้นมาก เพราะจะวิ่งพล่านลั้นลา ดีใจ แล้วก็กระโดดเกาะปะป๊ากับคุณแม่ตลอดเวลา กลัวว่าจะถูกทิ้ง

เราออกจากบ้านสามทุ่มกว่า เด็กจิ๋วนั่งไปได้หน่อยเดียวก็หลับไปแต่โดยดี เจอฝนบ้างเป็นระยะๆ พอขับไปถึงระนองประมาณตี ๔ เด็กจิ๋วตื่นมางอแงเล็กน้อย เพราะปะป๊าแวะเติมน้ำมัน เจอไฟปั๊มแทงตา เด็กจิ๋วบอกว่าเจ็บเจ็บ คว้ามือคุณแม่ไปปิดตาตัวเองไว้ทั้งสองข้าง แล้วก็บอกว่าอยากกลับบ้าน อยากกลับบ้าน เราถามว่าไม่ไปเที่ยวแล้วเหรอ เด็กจิ๋วบอกว่า ไม่ไป ไม่ไป

ถึง ท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่เกือบ ๖ โมง แต่เรือรอบ ๖ โมงเต็มแล้ว ต้องจอดรถนอนรอเรือรอบ ๗ โมง ค่าเรือแพงมา สองคนบวกรถอักคัน ๖๒๐ บาท เด็กจิ๋วฟรีไม่คิดตัง ตอนปะป๊าขับรถลงเรือ คุณแม่ต้องพาเด็กจิ๋วลงเดินไปต่างหาก ก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรถึงไม่ยอมให้นั่งรถไปด้วย ตอนที่เดินขึ้นเรือ เด็กจิ๋วตื่นเต้นสุดขีด ชี้มือชี้ไม้ บอกคุณแม่ว่า น้ำน้ำ เลเล ไม้ไม้ นกนก สวยสวย

ครั้งนี้คุณแม่ลืมสัมภาระเด็กจิ๋วหลายอย่างเลย แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือรองเท้า ตอนอยู่ในเรือเฟอร์รี่ เป็นอะไรที่ลำบากมาก เพราะเด็กจิ๋วไม่ยอมให้อุ้ม จะดิ้นลง ลงก็ไม่ได้เพราะไม่มีรองเท้าใส่ ปะป๊ากับคุณแม่ก็ต้องสลับกันไปควงเด็กจิ๋วตลอดเวลา อยู่ในห้องแอร์เย็นๆก็ไม่เอาด้วย จะให้พาออกไปที่ระเบียง จะไปดูน้ำ ที่สำคัญจะลงน้ำให้ได้ ปะป๊าก็พยายามบอกว่าลงไปไม่ได้ ถ้าลงไปหนูจะจมน้ำแล้วเจ็บมาก ก็ไม่รู้ว่าเข้าใจไม๊ แต่ก็ร้องจะลงน้ำตลอดชั่วโมงครึ่งที่อยู่บนเรือเลย

พอไปถึงเกาะสมุย สิ่งแรกที่ต้องทำเป็นการด่วน คือรีบไปซื้อรองเท้าให้เด็กจิ๋ว ปรากฎว่าที่นี่ มีทั้ง BigC Lotus Macro รองเท้าเด็กตอนแรกคิดว่าคงหายาก แต่ก็มีให้เลือกได้พอสมควร ถึงจะไม่มีแบบ Combi Pegion แต่ก็ได้ Bata มา น่าตาโอเค ที่สำคัญเลยคือเป็นแบบมีเสียงปี๊บๆ เราก็ได้แต่เคยเห็นเด็กคนอื่นใช้ ยังเคยคุยกันเลยว่าพวกเด็กปี๊บๆนี่ช่างน่ารำคาญจัง ก็ไม่คิดว่าเด็กจิ๋วต้องมาถึงจุดนี้จนได้ ขำเด็กจิ๋วมา ตอนที่ใส่ครั้งแรก เด็กจิ๋วไม่กล้าเดิน ยืนตัวแข็ง คงแปลกใจว่าทำไมเวลาเดินแล้วดังปี๊บปี๊บ แต่พอก้าวไปมาสักพัก เริ่มเข้าใจระบบการทำงานมันแล้ว ทีนี้ หนักกว่าเก่าอีก วิ่งย่ำเท้าแรงๆ ปี๊บปี๊บปี๊บปี๊บ ลั่นห้าง BigC เลย คือไม่เดินปกติด้วย ตั้งใจกระทืบเท้าลงแรงๆ จะได้เสียงดังๆ พอเด็กจิ๋วได้รองเท้า ก็เหมือนนกติดปีก คราวนี้วิ่งเล่นจับกันไม่อยู่แล้ว

ครั้งล่าสุดที่ปะป๊ากับคุณแม่มาสมุยกัน ก็ยังไม่เจริญเท่านี้ ตอนนั้นถนนหนทางมันไม่ค่อยดีแบบนี้
มื้อ กลางวันวันนี้ เราลองร้านเสบียงเล อยู่ใกล้ๆหินตาหินยาย คุณแม่หาข้อมูลในเว็ปมา มีหลายคนเชียร์ แต่ปะป๊ากับคุณแม่ไม่ชอบนะ อาหารไม่ถูกปาก ส่วนเด็กจิ๋วไม่สนใจข้าวผัดปูเท่าไหร่ ห่วงเล่นอย่างเดียว จะให้พาลงทะเลตลอดเวลา

ไม่ได้พาเด็กจิ๋วไปดูหินตาหินยายนะ เด็กจิ๋วคงจะยังดูไม่รู้เรื่อง เรากินข้าวเสร็จก็ขับรถต่อไปอีกนิดเดียวก็ถึง X2 เที่ยงๆพอดี ความรู้สึกแรกเลยสำหรับ X2 คือปกติเวลาไปรีสอร์ททุกที่ จะมีพนักงานต้อนรับมาขนของ ดูแลอย่างดี แต่ที่นี่พอเราขับรถเข้าไป ก็มีพนักงานยืนอยู่นะ แต่ยืนคุยกัน ไม่สนใจเรา เหมือนจะต้องสบตาเขาแบบวิงวอนหน่อยๆว่าช่วยมาขนของที มารู้ทีหลังว่าพนักงานคนที่ว่านี้ก็เป็นผู้จัดการรีสอร์ทเลย ขนาดผู้จัดการยังเป็นอย่างนี้ แล้วพนักงานคนอื่นจะเหลือเหรอ อีกความรู้สึกหนึ่งก็คือ ทำไมรีสอร์ทมันดูโทรมๆ เก่าๆ พวกไม้ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ ที่ปูพื้น หรือที่ประดับตกแต่ง ก็จะดูผุพังยังไงไม่รู้

ห้องพักของเราเป็นแบบ Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวก็ใหญ่ดี การออกแบบห้องพักที่นี่ถูกใจมาก ชอบๆ แต่มันดูเก่าๆโทรมๆอย่างที่บอก เหมือนไม่ได้รับการดูแลรักษา สระว่ายน้ำก็เกือบจะดี แต่ว่ามีเศษใบไม้เยอะมาก แบบว่าลงไปว่ายไม่ได้ ต้องโทรเรียกพนักงานมาช้อนออก

ข้างในห้องออกแบบดี ห้องน้ำใหญ่มาก อ่างอาบน้ำเป็นหินขัดใหญ่โต ห้องชาวเวอร์ก็กว้างขวาง แต่ห้องส้วมไม่มีประตู และที่แย่หนักเลยคืออุปกรณ์ต่างๆ มันก็พังๆไม่ได้รับการดูแล สายฉีดชำระ เป็นอะไรที่รันทดมาก คือใหญ่ หนัก ทำจากเหล็กกล้า เวลาใช้เสร็จ จะมีกลิ่นเหล็กเหม็นติดมือมา ที่สำคัญคือฉีดน้ำได้แย่มาก ปล่อยมือแล้วน้ำก็ไม่หยุด ต้องพยายามง้างที่บีบออกมาเอง พยายามจะบอกพนักงานรีสอร์ทว่ามันไม่ปกติ แต่พนักงานยืนยันว่ารุ่นนี้เป็นแบบนี้เอง บ้าไปแล้ว แต่ทั้งหมดยังไม่เลวร้ายเท่ากับว่า ชักโครกกดแล้วน้ำไม่ลง น้ำกลับดันเอ่อขึ้นมา เรียกพนักงานมาซ่อม พนักงานบอกว่าส้วมไม่ตันนะ แค่น้ำไม่ลงเท่านั้นเอง ??? ไม่เข้าใจอ่ะ แต่ช่างมันก็ได้ เพราะเค้าบอกว่าซ่อมแล้ว ไม่เป็นอีกแล้ว ที่โมโหสุดขีดเลยก็คือ มันหายแค่วันเดียว พออีกวันก็ตันอีก แต่ขี้เกียจโทรตามแล้ว ต้องวิ่งไปใช้ส้วมที่ล็อบบี้แทน

เด็กจิ๋วเข้าห้องพักได้ ก็เป็นเวลานอนพอดี หลับไปสองชั่วโมง ตื่นมาก็พาลงเล่นน้ำเลย ตั้งแต่เด็กจิ๋วเข้าห้องมาแล้วเห็นสระว่ายน้ำ ก็ร้องจะแจ๋มมะแจ๋มมะตั้งนานแล้ว ที่ตอนเช้าไป BigC ได้เต่าเป่าลม กับลูกบอลโดเรม่อนมาให้เด็กจิ๋วเล่นด้วย เด็กจิ๋วเล่นน้ำไปตามเรื่องตามราว แต่ดูเหมือนไม่ค่อยลั้นลามาก ชอบแต่มายืนตรงบันได ตักน้ำออกจากสระ สระออกจะใหญ่โต เล่นแบบนี้ เล่นในอ่างอาบน้ำที่บ้านก็ได้นะเด็กจิ๋ว เหมือนเด็กจิ๋วยังแยกไม่ออกว่าการว่ายน้ำ กับการแจ๋มมะ มันแตกต่างกันยังไง

มื้อ เย็น เราใช้บริการของรีสอร์ท ปกติมาเที่ยวแบบนี้ เราจะพยายามหลีกเลี่ยงการกินข้างในรีสอร์ท เพราะมันจะแพง แต่คุณแม่อ่านรีวิวมา เค้าบอกว่าอาหารที่นี่อร่อยมาก เลยลองซะหน่อย กินเสร็จ ปะป๊ากับคุณแม่ก็นั่งงงกันว่า มันอร่อยตรงไหน กินอาหารจานเดียวไปสองจาน เจ็ดร้อยกว่าบาท โชคดีไม่ได้สั่งให้เด็กจิ๋วต่างหาก ให้เด็กจิ๋วกินเฟร้นชฟลายที่แถมมาก็พอ

กิน ข้าวเย็นเสร็จ ปะป๊าก็ทิ้งเด็กจิ๋วกับคุณแม่ไปถ่ายรูปภายในรีสอร์ท นานเลย คุณแม่กับเด็กจิ๋วกลับไปนอนดูนีโม่กันในห้อง ดูตั้งแต่ต้นจนจบ เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เด็กจิ๋วได้ดูการ์ตูนจริงจังแบบนี้ ปกติให้ดูใน iPad จะดูไปได้หน่อยก็ปิด หรือย้อนกลับไปดูตอนต้น วนไปวนมาไม่เกินสิบนาทีซะที

ตอนเช้า ปะป๊าตื่นออกไปถ่ายรูปตั้งแต่ตีห้ากว่า แต่ไม่ได้ถ่ายเลย ไปเผลอหลับเอาตรงเตียงผ้าใบริมทะเล ที่จริงหน้ารีสอร์ทจะเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้น แต่วันนี้แค่ลุ้นว่าฝนจะตกตอนไหนก็พอ ปะป๊าตื่นเพราะคุณแม่โทรตาม ตอนแปดโมง กลับไปที่ห้องก็เจอเด็กจิ๋วตื่นแล้ว

อาหารเช้าที่นี่ถูกใจปะป๊าที่ สุด มีเสต็กเนื้ออร่อยมาก เค้าไม่ได้จัดอาหารเป็นบุฟเฟ่ต์ ให้สั่งเอา แต่สั่งเท่าไหร่ก็ได้ ที่จริงแบบนี้จะดีกว่าบุฟเฟ่ต์นะ นอกจากเสต็กก็มีเมนูพวกไข่ต่างๆ ข้าวต้ม ผัดซีอิ้ว ผัดไทย ช็อกโกแล็ตปั่นก็สั่งได้ ส่วนพวกเบค่อน ไส้กรอก หนมปัง จะเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ ไม่ต้องสั่ง

เรามากินอาหารเช้าเป็นโต๊ะแรก แต่กินเสร็จเป็นโต๊ะสุดท้ายเลย ที่ใช้เวลามาก เพราะต้องผลัดกันกิน ผลัดกันวิ่งตามเด็กจิ๋ว แค่นี้ก็ต้องใช้เวลาเป็นสองเท่าของคนอื่นแล้ว ยังมีต้องถ่ายรูปลงรีวิวอีก ที่สำคัญปะป๊ากินเยอะด้วย แค่เสต็กก็สั่งไปสามจานแล้ว ยังมีอย่างอื่นอีก

ที่ห้องอาหารเช้า เจอฝรั่งคนหนึ่งห้อยเบบี๋ ๖ เดือนมาคุยกับเด็กจิ๋วด้วย เป็นแบบปลดเกษียณแล้วมาตั้งรกรากอยู่ที่สมุยเลย กลับกลายเป็นว่าเราคนไทยต้องให้ฝรั่งแนะนำที่เที่ยวในเกาะ ได้ข้อมูลมาเยอะเลย กินข้าวเสร็จเลยออกไปเที่ยวข้างนอกตามที่พี่ฝรั่งแนะนำดู

ที่แรกที่ ฝรั่งแนะนำมาก็คืออควอเรี่ยม อยู่ไม่ไกลจาก X2 สงสัยเหมือนกันว่ามีจริงเหรอ ไม่เห็นเคยได้ยิน พอไปถึงก็อ๋อ มันน่าตาไม่เหมือนอควอเรี่ยมอ่ะ เหมือนจัดแสดงตู้ปลามากกว่า อันนี้ดูจากภายนอกนะ ไม่ได้เข้าไปดูข้างใน เพราะต้องซื้อบัตรคนละ ๒๐๐ แน่ะ ตอนแรกคิดว่าจะพาเด็กจิ๋วมาตากแอร์ดูปลาไปชิวๆ แต่เปลี่ยนใจ ไม่เข้าดีกว่า

ไป ต่อที่สวนผีเสื้อ ที่นี่ปะป๊ากับคุณแม่เคยมาเมื่อสิบกว่าปีแล้ว ตอนนั้นน้ามิ้นมาด้วย ไม่ได้จะมาดูผีเสื้อหรอก ตั้งใจมาจับผีเสื้อกลับไปทำการบ้านส่งครูโดยเฉพาะ น้ามิ้นเตรียมขวดใส่ยาสลบมาอย่างดี จับผีเสื้อไปได้หลายตัว เลวกันมากเด็กพวกนี้ ตอนนี้ที่สวนผีเสื้อถูก Centara ซื้อไปแล้ว นึกว่าต้องพัฒนาไปมาก แต่ที่ไหนได้ เข้าไปข้างใน เจอผีเสื้ออยู่แค่ ๓ แบบ ขาวๆดำๆ แบบเจอข้างถนน ยังจะสวยกว่า ผีเสื้อมีน้อยมาก ไม่เหลือให้ดูเลย สงสัยมีคนมาแอบจับไปกันหมด คุณแม่บอกว่าเป็นอะไรที่เลวร้ายที่สุดแล้ว ร้อน แบกเด็กจิ๋ว แบกกระเป๋า เดินขึ้นเนิน ผีเสื้อก็ไม่มีให้ดู ที่นั่งหลบแดดเย็นๆก็ไม่มี ตอนนี้เริ่มเคืองพี่ฝรั่งคนนั้นแล้ว ไม่น่าเชื่อพี่เลย

ออกจากสวนผีเสื้อ ขอแวะไปตากแอร์เย็นๆที่โลตัสหน่อย ร้อนมาก ไม่ไหวแล้ว ที่จริงก็จะมาหาข้าวให้เด็กจิ๋วกินนั่นแหล่ะ มื้อนี้เด็กจิ๋วได้วัฟเฟิลประทังชีวิตไป

ตอนนี้ฝนตกหนักมาก มิน่าละ เมื่อกี้อากาศร้อนแทบจะเป็นลม ตอนแรกกะว่าจะไปจุดชมวิว ก็เลยต้องล้มเลิก เปลี่ยนไปนั่งหลบฝนที่ร้านอาหารดีกว่า ขับรถหาร้านไปตามทาง เจอร้าน... น่าตาดี เลยลองดู ปรากฎว่าอาหารอร่อยกว่าร้านเสบียงเลที่หลายคนแนะนำมา วิวก็สวย ตอนนี้เด็กจิ๋วหมดแรงสลบไปแล้ว หรือว่านี่เป็นเหตุผลที่ทำให้อาหารอร่อย !!! รู้สึกว่ามื้อนี้ได้กินอาหารชิวๆแบบคนปกติซะที ไม่ต้องกินไปวิ่งตามจับเด็กจิ๋วไป

ที่หมายสุดท้าย ตามคำแนะนำของฝรั่ง (เราก็ยังไม่เข็ดนะ) คือดูลิงเก็บมะพร้าว อันนี้เป็นสวนมะพร้าวอยู่ใกล้ X2 มากๆ พี่ฝรั่งบอกว่าเข้าไปเสียตังคนละ ๕๐ บาทแล้วให้เค้าจัดโชว์เล็กๆให้ดู เป็นแบบบ้านๆ ก็แค่ให้ลิงขึ้นไปปั่นมะพร้าวตกลงมาสองลูก จบ แค่นี้ลิงก็เบื่อจะแย่แล้ว ไม่รู้วันหนึ่งต้องโชว์กี่รอบ ดูเหมือนลิงจะทำแบบไม่เต็มใจนะ ที่นี่ถูกใจเด็กจิ๋วที่สุด เด็กจิ๋วจ้องดูลิงนิ่งเลย คุณลุงบอกว่าให้มาถ่ายรูปคู่ลิงก็ได้ ถ้าเป็นเด็กฝรั่งนี่ ให้ลิงเกาะหัวเลย โห! ใครจะกล้า เวลาจับลิงมาถ่ายรูปด้วย คุณลุงจะเอาของให้ลิงกินไปด้วย บอกว่า ไม่งั้นมันจะไม่อยู่สุข ปีนปายไปเรื่อย ถ้าได้ของกินแล้วก็ยังไงก็ได้ คุณแม่บอกว่า เหมือนเด็กจิ๋วเลย ถ้าจะให้อยู่นิ่งก็ต้องเอาหนมล่อ

กลับมาห้องพัก เด็กจิ๋วได้ลงสระว่ายน้ำอีก ครั้งนี้เล่นแค่ปั๊บเดียว ก็พามาเล่นต่อในอ่างอาบน้ำ อย่างที่บอก ไม่รู้จะลงสระว่ายน้ำทำไม แค่อ่างอาบน้ำเล็กๆ เด็กจิ๋วก็สนุกแล้ว น้ำอุ่นสบายดีด้วย

วันสุด ท้ายที่รีสอร์ท พอกินข้าวเสร็จ ก็รีบเก็บของกลับบ้านเลย ไม่รอเที่ยงด้วย คุณแม่อยากจะรีบกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว เพราะอยู่แล้วทรมาน คิดถึงบ้าน


























































































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น