วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

@Khao Kho, Petchaboon

หลังจากกลับจากเชียงใหม่ เด็กจิ๋วก็ไปเที่ยวต่อที่เขาค้อ เพชรบูรณ์ค่ะ
คราวนี้ไปกันหลายคน ไปกับครอบครัวปะป๊ารวมทั้งหมด 17 คนค่ะ
เราแวะภูทับเบิกกันก่อนค่ะ ที่นี่แม่กับปะป๊าเคยมานานมากแล้ว
มาครั้งนี้ก็งงเล็กน้อย เพราะมันเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนไม่มีร้านค้าเยอะอย่างนี้
มีแต่กะหล่ำทั้งเขาเลย ไม่เห็นเหมือนปัจจุบันนี้เลย
แดดแรงมากค่ะ แต่ก็มีลมเย็นๆ 
ปะป๊าให้เอาชุดเด็กแม้วจากดอยปุยมาใส่อีก กลัวไม่คุ้ม ซื้อมาแล้วต้องใส่ให้คุ้ม
ถ่ายรวมกันซะหน่อย
แต่กว่าจะได้รูปนี้มามันวุ่นวายมากเลยค่ะ
เด็กๆควบคุมอยากมาก พอคนนี้เดินมา คนโน้นเดินไป คนนี้หันมา คนโน้นหันไป เข้าใจคำว่าจับปูใส่กระด้งเลยค่ะ
ในที่สุดก็ได้มาแบบนี้ค่ะ
จากภูทับเบิก เราแวะทานกลางวันกันที่ครัวเขาค้อ ไม่มีรูปนะคะ อาหารอร่อยค่ะ 
แล้วก็ไปแวะร้าน Kho in Love พาเด็กๆไปดูแกะ
เด็กจิ๋วชอบพวกโมบายห้อยๆ กุ๊งกิ๊งๆมาก
พยายามจะถ่ายรูปกับแกะ แต่พื้นมันเทๆ ยืนยากมาก 
แม่ไม่เต็มใจ เหม็นแกะด้วย ปะป๊าก็จะให้ขยับเข้าไปติดรั้วให้ได้
แม่กลัวแกะกระโดดใส่ เด็กจิ๋วก็ดิ้นมาก จะกระโดดใส่แกะให้ได้
เราพักที่เขาค้อทะเลหมอก เพราะคราวที่แล้วแม่กับปะป๊าเคยมากางเต้นท์ที่นี่ แล้วชอบมาก
มาคราวนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะมาก ขยายกว้างขึ้น มีบ้านพักมากขึ้น มันดูแน่นๆไปหมด
แต่วิวก็ยังสวยเหมือนเดิม
ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วค่ะ
บ้านที่เราพักเรียกว่าบ้าน Top View 4 และ 5 
มันจะเป็นชั้นบนกับชั้นล่าง แต่ปรากฎว่าทางเดินเข้ามันคนละทางเลย 
เวลาจะเดินหากันต้องอ้อมไปไกลเลย ไม่สะดวกอย่างที่คิด รู้งี้เอาหลังข้างบนสองหลังติดกันดีกว่า
ตรงนี้เป็นระเบียงห้องพักชั้นบนค่ะ
เราทานอาหารเย็นกันที่นี่ค่ะ ไม่ได้ออกไปข้างนอก เพราะว่าไม่สามารถเอารถออกได้ค่ะ
ตอนเรามารถก็ยังไม่แน่นมาก แต่ตอนเย็นเดินไปดู โอ้โฮ..จอดกันแน่นสุดๆ รถเราอยู่ในสุด
นึกไม่ออกว่าจะออกได้ยังไง ถ้าจะออกคงต้องไปเรียกคนเกือบทั้งรีสอร์ทมาขยับรถให้อ่ะค่ะ
ตรงชั้นบนของร้านอาหารเป็นจุดชมวิวค่ะ ตรงนี้วิวดีสุดเลยค่ะ
กังหันนี้ก็เป็นบ้านพักค่ะ
เช้าแล้ว หมอกเต็มเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าอ่างเก็บน้ำเล็กๆข้างล่าง จะทำให้เกิดหมอกเยอะขนาดนี้
เนื่องจากปะป๊าชอบถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นมากกว่าทะเลหมอก ก็เลยหาทางข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น
ทีแรกเห็นเค้ากั้นรั้วไว้ (คราวที่แล้วเรามา ไม่มีรั้ว) นึกว่าไม่ให้เข้า แต่ปรากฎว่ามีคนมาเรียกให้เข้าไปได้ และคนที่พักฝั่งโน้นก็ข้ามมาดูหมอกฝั่งเรา เค้าบอกว่าเป็นโครงการแลกเปลี่ยนจะได้ดูวิวครบสองฝั่ง
วิวพระอาทิตย์ขึ้นฝั่งโน้นสวยจริงๆ เราประทับใจตั้งแต่มาครั้งที่แล้วละ
คราวที่แล้วปะป๊าก็ถ่ายต้นไม้ต้นนี้ ยังอยู่เหมือนเดิม
แม่ชอบรูปพระอาทิตย์ขึ้น set นี้มากๆ มันมีทั้งต้นไม้ทรงเก๋ๆ หญ้า หมอกนิดหน่อย เอาลงหลายรูปหน่อยนะคะ






ย้ายกลับมาถ่ายทะเลหมอกฝั่งที่เราพักบ้าง
มันแน่นๆไปหมด ทั้งบ้านทั้งเต้นท์ หามุมถ่ายยากกว่าคราวที่แล้วเยอะ
คราวนี้เด็กจิ๋วตื่นสายมาก ดีนะที่หมอกยังไม่หมด ก็เมื่อคืนเด็กจิ๋วนอนดึกมาก 
เป็นไรไม่รู้ไม่ยอมนอน ปะป๊ากับแม่สลบไปหมดแล้ว เด็กจิ๋วก็ไม่นอน
เรากลับออกมาจากรีสอร์ทแทบจะเป็นกลุ่มสุดท้ายเลยทีเดียว รถที่แน่นๆเมื่อคืน ก็หายไปหมดแล้ว
ทะเลหมอกหายก็หมดแล้วด้วย มองเห็นอ่างเก็บน้ำรัตนัยตัวผลิตหมอกอยู่ลิบๆ
จากนั้นเราก็คิดกันไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหนต่อดี ยังไม่อยากกลับบ้าน
แม่ก็เข้า Pantip และ Google ทันที เจอพระธาตุผาซ่อนแก้ว น่าสนใจ เลยมาแวะซะหน่อย
เดิมที่นี่มีชื่อว่า พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว แล้วตอนหลังจัดตั้งเป็นวัด ชื่อวัดพระธาตุผาแก้ว เราเลยงงๆกับป้ายทางเข้าเล็กน้อย วัดนี้มีสถานปฏิบัติธรรมอยู่ด้วย วิวสวย และตัวพระธาตุสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร
ที่นี่ไม่ให้ใส่ขาสั้นเข้านะคะ ถ้าใส่ขาสั้นไป จะต้องสวมกางเกงของเค้าทับค่ะ
ทางวัดมีให้บริการ แล้วเราก็บริจาคเท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่ศรัทธา
เห็นบันไดทางขึ้นแล้วท้อค่ะ เพราะแม่ต้องแบกเด็กจิ๋วน้ำหนัก 9 โลขึ้นไปด้วย 
ที่นี่แทบจะไม่มีรูปเด็กจิ๋วเลยค่ะ เพราะเด็กจิ๋วหลับตลอด
วันนี้ฟ้าใสมาก แดดแรงสุดๆ แต่อากาศบนนั้นเย็นสบายมากค่ะ
นี่คือแนวของพระธาตุที่นี่ ไม่รู้เรียกว่าแนวอะไรค่ะ
คือเค้าจะเอาพวกชามเบญจรงค์ ลูกแก้ว ลูกปัด มาประดับตามพื้นและผนัง
สวยแปลกตาดี และก็นับถือความพยายามของคนทำด้วยค่ะ
คือมันต้องมีความพยายามในการเอามาแปะมากๆเลย สถานที่ก็กว้างใหญ่มาก
ตรงลานนี้ก็สวยค่ะ พื้นเป็นกระเบื้องแตกเอามาต่อ mosaic มีความพยายามสุดๆอ่ะ

ส่วนที่เห็นเป็นบ้านพักของผู้มาปฏิบัติธรรมค่ะ
เนื่องจากที่นี่เป็นสถานปฏิบัติธรรม แต่มีสถานที่ที่สวยงามน่ามาเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาค่อนข้างเยอะ คงจะส่งเสียงดังรบกวน ทางวัดเลยมีป้ายติดไว้เยอะมากเรื่องห้ามส่งเสียงดัง
เราเดินขึ้นไปถึงข้างบน เจ้าหน้าที่บอกว่าข้างบนยังไม่เสร็จดี ยังไม่ได้อัญเชิญพระธาตุมา






 

ในที่สุดเด็กจิ๋วก็ตื่นแล้ว ชอบใหญ่เลย ผนังเป็นเม็ดๆ




ปิดท้ายด้วยรูปรวมรูปนี้นะคะ ก็เช่นเคยค่ะกว่าจะได้รูปมา เหมือนจับปูใส่กระด้ง
เด็กจิ๋วต้องบ้ายบายไปก่อนนะคะ เจอกันทริปหน้าที่ Scenery สวนผึ้ง ราชบุรี บ้านแม่เองค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น