วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

@บ้านภูนรินทร์ ปากช่อง

คราวนี้เด็กจิ๋วตามรอยน้าๆ ใน BP ไปบ้านภูนรินทร์แถวๆ เขาใหญ่มาค่ะ
สืบเนื่องจากเมื่อต้นธันวาปีที่แล้ว ปะป๊าอยากไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นของวังน้ำเขียว 
แม่ก็เลยมาหาข้อมูลใน BP มาเจอเข้ากับบ้านภูนรินทร์ เห็นวิวแล้วก็ไม่รอช้า รีบจองทันที

ก็ตามสูตร ถ้าไปปากช่อง หรือวังน้ำเขียว ก็ต้องแวะ Primo Posto หรือไม่ก็ Palio ก่อน
เด็กจิ๋วเคยไปมาทั้ง 2 ที่แล้ว คราวนี้เลือกแวะ Palio เพราะอยากมาตามรอยละครดวงใจอัคนี แล้วก็อยากมากินพายเจ้าอร่อยด้วย
เรามาถึงกันตั้งแต่แปดโมงกว่า ไม่มีคนเลย ร้านค้าก็ยังไม่เปิด

การที่เรามาเช้ามันก็ดีตรงที่ไม่ค่อยมีคน ถ่ายรูปมาก็ไม่ติดคนเยอะๆ
แต่ร้านค้ามันก็ยังไม่เปิดด้วย ซึ่งอันนี้ก็ไม่ค่อยดี เพราะจะถ่ายรูปสวยกว่าถ้าร้านค้าเปิด แล้วเอาของออกมาวางๆ

เดินถ่ายรูปกันจนเบื่อ ร้านก็ไม่เปิดกันซักที

เงียบๆ ไม่มีคนเลย 
เดินถ่ายรูปไปเรื่อย รอร้านเปิด อยากกินพาย อยากกิน Fries me to the moon

ดูรูปไปเรื่อยๆ รอร้านเปิดนะคะ



เด็กจิ๋วร่าเริง อากาศดี เย็นสบาย

เด็กจิ๋วเคยมาที่นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว

ร้านค้าเริ่มเปิดละ ทยอยเอาของออกมาตั้ง

สิบโมงกว่าแล้ว

ตั้งใจมากิน Pie ร้าน Delicious Pie เป็นอาหารเช้า
แต่น่าเสียดาย มีแต่พายเนื้อ พายไก่หมด ของยังไม่มาส่ง แม่เลยอดกินไปตามระเบียบ

โคมไฟสวยๆในร้าน

พายเนื้อ+หอมใหญ่ 
ปะป๊าคอนเฟิร์ม อร่อยมากๆ โดยเฉพาะน้ำเกรวี่

ร้านนี้ไง Delicious Pies

ปะป๊ากินพายเสร็จ เราก็เดินถ่ายรูปกันต่อ

นี่ขนาดมาครั้งที่สองก็ยังมีมุมให้ถ่ายรูปอีกมากมายที่ไม่ซ้ำกับคราวก่อน

ฟ้าเข้ม แดดแรง เริ่มร้อนแล้วอ่ะ
แต่ปะป๊าก็ยังไม่มีทีท่าจะกลับ ตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูปอยู่นั่น แม่กับลูกเหงื่อตกแล้ว

ขึ้นไปข้างบนอีก

มุมสูงบ้าง

หน้าต่างปลอมๆ

เที่ยงแล้วน้า ปะป๊ายังไม่หยุดเดินถ่ายรูปอีก

ปะป๊ามีใจรักในการถ่ายรูปมาก แม่ก็บ่นๆๆ ร้อนๆๆ จนปะป๊าจะงอนแล้ว 
หาว่าไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บภาพเด็กจิ๋วในสถานที่ต่างๆ ไว้เป็นประวัติศาสตร์ของเรา


ในที่สุดก็เดินจนครบ ถ่ายครบทุกมุมละ ดีใจจัง
บ้ายบาย Palio เจอกันใหม่พรุ่งนี้ (ต้องกลับมาซื้อพายไก่กลับบ้านไปกินให้ได้)

กว่าเราจะเข้ามาถึงบ้านภูนริทร์ก็บ่ายสองพอดี 
เราตั้งใจจะจองบ้านอมรเบิกฟ้า หลังที่พี่ๆ น้าๆ หลายคนเคยรีวิวไว้ แต่ว่ามันเต็มยาวเลย
เราเลยจองบ้านร่มไม้แทน วิวดีเหมือนกัน
ตรงนี้เป็นโถงกลางระหว่างห้องเรากับห้องอื่น
คือบ้านร่มไม้จะแบ่งเป็น 4 ห้อง ชั้นล่าง 2 ห้อง ชั้นบน 2 ห้อง เราอยู่ชั้นบน

หลังจากเก็บของเข้าห้อง นอนกลิ้งเล่น กินขนม กินนมเรียบร้อย ก็ออกมาเดินเล่นรอบๆ

ถ่ายจากร้านอาหารของรีสอร์ท วิวดีมาก

อาหารเย็นวันนี้รวมอยู่ในราคาห้องพักด้วย หมดแล้วเติมได้ อร่อยทุกอย่างค่ะ

ร้านอาหารน่าจะเป็นส่วนที่ทำใหม่ เพราะสไตล์จะแตกต่างจากบ้านพักมาก

ลองขึ้นไปดูวิวข้างบนหน่อย

ด้านบนเป็นแบบเปิด ไม่มีหลังคา

พระอาทิตย์ใกล้ตกละ

บรรยากาศในร้านอาหาร หลังฟ้ามืดแล้ว

พนักงานที่นี่ใจดีมาก เดินมาถามด้วยว่าเด็กจิ๋วจะกินอะไรมื้อเย็น จะทำให้
พอดีเราเตรียมอาหารแช่แข็งไปเอง เลยรบกวนแค่อุ่นอาหารก็พอค่ะ

ตอนไปกินข้าวมีแค่ 2 โต๊ะ คือเรากับอีกครอบครัวที่พักบ้านอมรเบิกฟ้า
เพราะวันที่เข้าพักเป็นวันก่อนวันหยุด 1 วัน เลยคนไม่เยอะ

ร้านอาหารอีกมุม

ที่นี่เป็นอีกที่ที่ไม่ได้คาดหวังมาก แต่ประทับใจในบริการ และอาหารมาก
เป็นมื้อเย็นที่อร่อยมากอีกมื้อ

ตอนเช้าอากาศหนาวมาก ก็ตามระเบียบคือ แม่ปลุกปะป๊าไปถ่ายรูป
ส่วนแม่ก็นอนต่อ ก็ต้องเฝ้าเด็กจิ๋วนี่นา เด็กจิ๋วยังไม่ตื่น

พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่นี่ก็สวยไม่เบา มีหมอกจางๆด้วย 
เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ลุกมาดูด้วยตาตัวเอง

รูปตอนเช้าเหมือนเป็น highlight ของทริปนี้เลย
ที่มาที่นี่ก็เพราะเห็นรูปตอนเช้าของเพื่อนๆที่รีวิวเอาไว้ แต่ไหงแม่กับเด็กจิ๋วไม่ตื่นมาดูก็ไม่รู้ อิอิ


ถ่ายจากบ้านอมรเบิกฟ้า ปะป๊าไปคุยกับคนที่พักบ้านหลังนี้มา
บอกว่าต้องจองยาวล่วงหน้านานมากๆเลยถึงจะได้พักหลังนี้

ทุ่งหญ้าสีทอง

พอสว่างหน่อยเลยเห็นว่ามันเป็นดอกหญ้าสีขาว

เจ็ดโมงแล้ว แดดเริ่มแข็ง เด็กจิ๋วยังไม่ตื่นเลย

ปะป๊าต้องบังคับให้ลุกขึ้นมาทั้งแม่และลูก ไม่งั้นเดี๋ยวอดถ่ายรูปแสงตอนเช้า

ตื่นมาก็สดชื่นเลย

คราวนี้ขนาดนอนในมุ้ง ยุงก็ยังแอบมากัดตอนไหนไม่รู้
แต่คราวนี้แม่มียาดี ทาปุ๊บยุบปั๊บ

เล่นใบไม้ ชอบมาก 
บางทีก็กินเข้าไป

ถ่ายรูปลูกเสร็จ ปะป๊าก็เรื่อยเปื่อยถ่ายดอกไม้โน่นนี่ ไม่รู้ชื่อดอกอะไร




ถึงเวลาอาหารเช้า เราก็ไปกินกันที่ร้านอาหารที่เดิมที่กินอาหารเย็นเมื่อวาน
ปะป๊าสั่งสเต๊กหมู (อร่อยเช่นเคย การันตีโดยปะป๊า กินไป 3)
ของแม่กับเด็กจิ๋วเป็นข้าวต้ม ก็อร่อยเหมือนกัน

ออกจากบ้านภูนรินทร์ด้วยความประทับใจ 
เราก็ไปเที่ยวไร่สายลม เอ้ย..ไม่ใช่ หุหุ ไร่วิลเลจฟาร์มแอนด์ไวเนอรี่ตะหาก
(อันนี้แม่อยากไปเป็นการส่วนตัว เพราะชื่นชอบละครวายุภัคมนตรามากๆ)

ไม่มีผลองุ่นให้ดู มีแต่ใบเขียวๆ

แวะไร่คุณลมแป๊บเดียว เราก็ไปต่อที่เขาแผงม้าออคิด

ต้นนี้มีกลิ่นหอมมาก

จุดหมายต่อมมาคือ A Cup of Love ซึ่งคนเยอะมากกกกก

นึกว่าจะต้องรอเครื่องดื่มนาน แต่ปรากฎว่าแว๊บเดียวได้ 
ทางร้านคงมีวิธีจัดการกับคนเยอะจนชำนาญแล้ว

ขากลับผ่านทุ่งดอกไม้ที่หน้า อบต อะไรซักอย่าง สวยดี ปะป๊าเลยวิ่งลงไปถ่ายรูป


เด็กจิ๋วต้องบ้ายบายไปก่อนนะคร้า
ยังมีอีกหลายทริปที่ดองเอาไว้ แต่แม่ขี้เกียจทำมากๆเลย 
แต่โดนปะป๊าบังคับให้ทำ เพราะดองมาจนเกินจะได้ที่แล้ว
แล้วเจอกันใหม่นะคะ :-)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น