วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

เด็กจิ๋ว@Hongkong

...ทริปนี้จัดขึ้นเพื่อพาอากงอาม่าเตาปูนไปเยี่ยมญาตที่เมืองจีน คือเราพาอากงอาม่าไป
หาโซ้ยโกวที่ฮ่องกง แล้วโซ้ยโกวจะรับหน้าที่พาอากงอาม่าไปเมืองจีนเอง ช่วงที่อากงกับ
อาม่าไปเมืองจีน 2 วัน เราก็เป็นอิสระไปช้อปปิ้งกับไปดีสนีย์แลนด์ คือสรุปเรียกว่าพอคน
แก่ 2 คน ไปส่งแค่นั้นแหล่ะ
...เช้าวันเสาร์ อาแปะขับรถไปส่งที่สุวรรณภูมิตั้งแต่ตีสี่ ควักเด็กจิ๋วขึ้นมาจากที่นอนแล้วก็
อุ้มไปเลย พอไปถึงสนามบินก็เพิ่งรู้ว่าลืมเอารองเท้าเด็กจิ๋วมาด้วย คราวที่แล้วก็ลืมตอนที่
ไปเกาะสมุยทีหนึ่งแล้ว เพราะปกติรองเท้าจะอยู่ในรถปะป๊า เวลาไปไหนก็ต้องนั่งรถปะป๊า
อยู่แล้ว เลยเกิดความเคยชินที่ไม่ต้องใส่รองเท้าตอนออกจากบ้าน นี่โชคดีว่าเราไปฮ่องกง
กันนะ คิดว่าคงหาซื้อรองเท้าที่โน่นได้ไม่ยาก
...เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในการพาคนแก่ขึ้นเครื่องบิน การบินไทยจัดรถเข็นมารับอาม่า
พาผ่าน ตม. ซึ่งได้เข้าช่องพิเศษช่องเดียวกับเฟริสท์คลาส ไม่ต้องรอนาน แล้วก็ไปส่งที่เกท
เลย เราให้เงินคนเข็นไป 100 ไม่แน่ใจว่าต้องให้กันเท่าไหร่
...พอขึ้นเครื่อง เด็กจิ๋วก็ได้กล่องขนม เป็นกล่องเหล็กลายมิ้กกี้เม้าส์ เปิดมาเจอนม กับหนม
หลายอย่าง ส่วนอาหารก็มีต่างหากนะ เด็กจิ๋วนั่งเครื่องบินลั้นลามาก กินหนม เล่นเกมส์ ดู
การ์ตูน แค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงฮ่องกง
...เรานัดโซ้ยโกวมารับ แต่หาโซ้ยโกวไม่เจอ เสียเวลาอยู่ชั่วโมงหนึ่งกว่าจะเจอตัวกัน เพราะ
โซ้ยโกวไปผิด Terminal เด็กจิ๋วเคยเจอโซ้ยโกวในช่วงตอนเริ่มเดินได้ น่าจะขวบกว่าๆ ตอน
นั้นโซ้ยโกวไปอยู่ที่บ้านเป็นเดือน แต่พอวันนี้เจอกัน เด็กจิ๋วจำโซ้ยโกวไม่ได้ซะแล้ว ถามว่า
รู้จักคนนี้ไม๊ เด็กจิ๋วก็ตอบว่า “ไม่รู้จัก”
...เราพากันนั่งรถเมล์สาย A21 เข้าเมือง การเดินทางในฮ่องกงค่อนข้างช่ำชองเพราะมากัน
เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ปกติพัก Guest House แบบโง่ๆ แต่คราวนี้เลือกพักที่ King Der Nathan
เป็นโรงแรมขนาดเล็กๆ ค่าห้องคืนละ 4,000 บาท อยู่ใกล้สถานี Yua Ma Tai เดินจาก MTR
Station แค่ 200 เมตร ใกล้กับ Bus Stop สาย A21 ด้วย ระหว่างทางเดินไปโรงแรมก็เจอ
ร้านขายรองเท้า เด็กจิ๋วได้ rebox สีขาวมาคู่หนึ่ง เอาแบบถูกๆเรียบๆ สีขาว เพราะบางทีจะ
ให้ใส่ไปโรงเรียนได้ คู่ละ 600 บาท เป็นไปตามคาดว่าหารองเท้าที่นี่ได้ง่ายมากๆ
...ยู้ เป็นลูกชายของโซ้ยโกว มารอรับที่โรงแรม พอเก็บของเข้าห้องเสร็จก็พากันไปกินข้าว
แถวๆโรงแรม เป็นร้านบะหมี กับข้าวสตูว์เนื้อ อร่อยมาก เด็กจิ๋วกินบะหมีไปพอสมควร กิน
ข้าวเสร็จก็ไปเที่ยววัดหวังต้าเซี่ยนต่อ พาอากงอาม่าไปไหว้เจ้า เด็กจิ๋วสนิทกับโซ้ยโกวเร็ว
มาก เล่นกับเค้า แหย่เค้าด้วย เด็กจิ๋วไม่สามารถออกเสียงคำว่า โซ้ยโกว ได้ มันจะออกมา
เป็น ไส้โกว ซะมากกว่า
...ไหว้พระเสร็จ เราพ่อแม่ลูก ก็วางแผนทิ้งอากงอาม่าทันที ปล่อยให้โซ้ยโกวพาไปเที่ยวต่อ
เสร็จแล้วก็ให้ไปนั่งเล่นอยู่ที่บ้านโซ้ยโกว พวกเราจะไปช้อปปิ้งกันก่อน เสร็จแล้วจะตามไป
...เนื่องจากวันนี้เหลือเวลาน้อย เราเลือกไปช้อปจุดสำคัญที่สุดก่อนเลย คือตึก Shino ขาย
พวกของเล่น โมเดลต่างๆ ตอนนี้เด็กจิ๋วหลับไปแล้ว ซึ่งเป็นการดีมาก เพราะในตึกนี้เบียด
เสียดกันมาก ถ้าเด็กจิ๋วตื่นจะควบคุมได้ยากกว่านี้ ที่ตึกนี้ได้โมเดลมาเยอะพอควร ซื้อของ
เสร็จแล้วก็ไปเก็บที่ห้องแล้วไปบ้านโซ้ยโกวกัน โซ้ยโกวเลี้ยงอาหารจีนแบบอลังการ ราคา
ประมาณ 4,000 บาท แต่รสชาติไม่ค่อยถูกปากเลย เด็กจิ๋วตื่นมาได้เจอกับน้องหยัด เข้าไป
เล่นกับน้องใหญ่ มุดไปใต้โต๊ะไปเล่นจ๊ะเอ๋ แล้วพอน้องนั่งรถเข็นก็คอยจับรถเข็นตามน้องไป
ด้วยราวกับว่าคอยดูแลน้องให้ เป็นพี่ที่ดีมาก
...กลับมาที่โรงแรมแล้ว เด็กจิ๋วยังคึกคักอยู่สักพักกว่าจะหลับ ปะป๊าสลบไปก่อนเด็กจิ๋วอีก
โรงแรมที่นี่ถือว่าห้องใหญ่แล้ว ห้องน้ำก็กว้างขวางดี มีอ่างอาบน้ำด้วย ถ้าเทียบกับ Guest
House โง่ๆที่ปะป๊ากับคุณแม่เคยมาพัก อันนั้นขนาดห้องนอนประมาณ 1.2 x 2 เมตร ห้อง
น้ำขนาด 1 x 1 เมตร รวมถุกอย่างไว้ในนั้น เวลานั่งชักโครกจะปิดประตูห้องน้ำไม่ได้เพราะ
หัวเข่ายื่นเลยออกมา คราวที่แล้วที่หนีเด็กจิ๋วมากันสองคน ไม่ได้อาบน้ำเลย เพราะห้องมัน
แคบมากๆ
...วันนี้มีโปรแกรมช้อปปิ้งล้วนๆ เริ่มด้วยไปกินติ่มซำชื่อดังที่สถานี Central ก่อน ไปถึงตอน
ร้านเปิดพอดี ถ้าไปช้ากว่านี้หน่อยต้องรอนาน ร้านเล็กแต่มีชื่อเสียง (ไม่รู้เฉพาะในเมืองไทย
หรือเปล่า) Chief ได้ Michalin 3 ดาว แต่บ้านเรากินกันแล้วไม่ผ่าน หนมจีบกินไม่ได้เลยจะ
อ้วก เพราะมีมันเยอะ หะเก่าไม่อร่อย ข้าวห่อใบบัวพอใช้ มีซาลาเปาไส้หมูแดงอบที่อร่อย
หน่อย สรุปแล้วไม่คุ้มที่จะดั้นด้นมาเลย งงกันอยู่ว่าได้ Michalin ได้ไง ควรได้ Bridgestone
มากกว่า ตั้งแต่ออกจากโรงแรมจนกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว เด็กจิ๋วยังไม่ตื่นอืก มาตื่นอีกทีตอน
ออกจากร้านมาได้สักพัก ตื่นมาก็ร้องหานม ก็พากันไป 7-11 ไปเลือกนมกัน เด็กจิ๋วบอกว่า
จะเอานมวัว เราก็บอกว่านมทั้งหมดในตู้นี่เป็นนมวัวหมดแหล่ะ เอายี่ห้อที่คุ้นเคยหน่อย แต่
เด็กจิ๋วไม่เอา ชี้ไปที่นมยี่ห้อประหลาด มีรูปวัวตัวสีแดงอยู่ที่กล่อง เอาก็เอา ลูบรักเลือกเราก็
ตามใจ ปรากฎว่าดูดไปได้คำเดียว เด็กจิ๋วบอกว่า ไม่อร่อย รสชาติแปลกๆ  เห็นไม๊ล่ะ เลือก
นมอะไรมาก็ไม่รู้ คุณแม่เอามาลองดูดดูบ้าง ดูดเข้าไปคำเดียว บ้วนออกมาแทบไม่ทัน นม
มันเสียแล้ว เหม็นบูดเปรี้ยวเลย จะอร่อยได้ไง วันที่ข้างกล่องก็ยังไม่ถึงอายุนะ จะกลับไปว่า
ที่ร้านก็ไม่รู้จะว่ายังไง เลยเปลี่ยนไปซื้อร้านอื่นแทน
...จุดหมายต่อไปคือ City Gate Outlet นั่งรถไปไกลมากๆ ที่นี่มาทีไรไม่ค่อยได้ของเลย แต่
ก็ต้องมาทุกที คราวนี้ได้กระเป๋าเดินทางของ American Tourist กลับไปใบหนึ่ง 4500 บาท
โชคดีที่ได้กระเป๋ามาเพราะหลังจากนี้ช้อปปิ้งต่อกันอีกเยอะมาก ถ้าไม่มีกระเป๋าใบนี้ก็ไม่รู้
จะหิ้วกันยังไง ต้องอุ้มเด็กจิ๋วตลอดเวลาทั้งวันด้วย ไม่ยอมเดินเองเลย
...จุดหมายที่สองคือ Wanchai มีร้านของเล่นใหญ่ๆอยู่ 2 ร้าน ได้ของจากที่นี่เยอะมาก การ
เดินทางทุรักทุเรพอควร เพราะต้องลากกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับอุ้มเด็กจิ๋วเดินผ่านตลาด
...จุดหมายที่สามคือ Toy R Us จากสถานี Tim sa Tui ต้องเดินต่อไปอีกไกลมาก คุณแม่ได้
เจอน้ำมะม่วงปั่นที่ติดใจจากทริปที่แล้ว อร่อยมาก เด็กจิ๋วก็ชอบ ดูดเข้าไปอมไว้ในปาก
คำใหญ่ มันเป็นมะม่วงปั่นใส่เยลลี่ด้วย ที่ Toy R Us ได้ของเล่นมาอีก lot หนึ่ง ของเด็ก
จิ๋วเองก็เยอะ ของฝากพี่ๆก็เยอะ แล้วได้เสื้อแจ็คเก็ต 2 ตัว
...กลับไปเก็บของที่โรงแรมแล้วออกมาช้อปปิ้งต่ออีก คราวนี้จุดหมายที่ 4 คือ CTMA ที่
หน้าตึกจะมีร้านปลาหมึกชุบแป้งทดแสนอร่อยอยู่ มาฮ่องกงกี่ทีต้องมากินร้านนี้ ที่ร้าน
อื่นๆก็มีนะ แต่ไม่อร่อยเท่าร้านนี้ เด็กจิ๋วเองเห็นเรากินเข้าไป 3 ถุงก็คงนึกอยากลองบ้าง
เราไม่คิดว่าจะกินได้หรอกเพราะมันเหนียว เลยแกล้งให้ลองชิมดู ปรากฎหว่ากินได้แหะ
คราวนี้ขอกินไม่หยุด หนวดปลาหมึกเหนียวจะตาย เด็กจิ๋วกินไปได้ไงเนี่ยะ พวกเรายืน
กินปลาหมึกสลับกับน้ำมะม่วงปั่นหน้าตึก CTMA อยู่นาน ถึงจะเข้าไปช้อปต่อได้ ตอน
นี้ต้องเดินเบียดคนแน่ๆ เด็กจิ๋วก็ไม่หลับเหมือนเมื่อวาน ยิ่งยุ่งวุ่นวายใหญ่ อุ้มๆอยู่ บาง
ทีก็อาละวาด ดิ้นลงไปกองกับพื้น บางทีก็แกล้งเรา บอกให้เราอุ้ม แต่แกล้งทิ้งตัวหมด
แรง ไม่ยอมให้เราอุ้มง่ายๆ ที่ CTMA รู้สึกว่าร้านหายไปเยอะเลย แถบจะซื้ออะไรไม่ได้
เลย
...จุดหมายที่ 5 คือย่านหมั่นก๊ก ออกจาก CTMA ก็เดินไปเรื่อยๆ จะเป็นร้านช้อปปิ้งไป
ตลอดถนน พยายามหารองเท้า Nike เพราะเมื่อเช้าไปติดใจอยู่คู่หนึ่งที่ Ocean Terminal
แต่ไม่มี Size พอมาเดินหาที่นี่ ไม่เจอแบบนั้นเลย รู้สึกว่าจะ New Arrival แต่ได้อีกคู่มา
แทน สวยไม่แพ้กัน คุณแม่ซื้อตามเด็กจิ๋วอีกคู่หนึ่ง แบบและสีเหมือนกันเปะ เด็กจิ๋วมา
ฮ่องกงได้รองเท้ากลับไป 3 คู่เลย ได้วันแรกคู่หนึ่ง แล้วเมื่อเช้าเดินผ่านร้าน Croc ได้รอง
เท้าแตะมาคู่หนึ่ง แล้วได้ Nike อีกคู่หนึ่ง
...กลับโรงแรมด้วยอาการหมดสภาพกันทั้งปะป๊ากับคุณแม่ แต่เด็กจิ๋วยังลั้นลาอยู่เหมือน
เดิม สบายนี่ ไม่ต้องเดินเอง ให้ปะป๊าอุ้มตลอดเลย เด็กจิ๋วฉลาดมาก มาฮ่องกงนี่ไม่ยอม
เดินเองเลย จะเดินเฉพาะตรงทางลาด คือสนุกอ่ะ เดินๆกระโดดๆ พยายามบอกว่า อย่า
ทำแบบนั้นเลย มันเป็นการใช้พลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ ช่วยแบ่งเบาปะป๊าโดยการ
เดินเองไม่ต้องให้อุ้มดีกว่า แต่พูดไปเด็กจิ๋วก็ไม่เข้าใจหลอก ปะป๊ารู้สึกว่าครั้งนี้อุ้มเด็กจิ๋ว
เดินช้อปปิ้งทั้งวัน เหนื่อยมาก ปวดแขน ปวดขา แต่ก็รู้สึกสนุกมาก ได้กอดทั้งวัน จุ๊บแก้ม
ทั้งวัน เหนื่อยก็ไม่เป็นไร
...วันที่ 3 ของฮ่องกง เราตื่นแต่เช้านั่งรถไฟไปดีสนีย์แลนด์กัน นัดหยัดบีเอาไว้ ยู้กับลิเลียน
จัดการเรื่องตั๋วเข้าดีสนีย์แลนด์ให้ แล้วระหว่างที่อยู่ข้างในก็คอยเทคแคร์ ตัวเองไม่ได้เล่น
เลยเพราะต้องดูแลหยัดบี เหมือนกับพาเรามาเที่ยวอย่างเดียวเลย ตั้งแต่เริ่มเข้าไปก็ไปต่อ
แถวถ่ายรูปกับมิกกี้เม้าส์ก่อน ต่อแถวนานมาก ครึ่งชั่วโมงได้ เมื่อคราวที่แล้วปะป๊ากับคุณ
แม่มาดีสนีย์แลนด์ที่นี่ ยังพูดกันอยู่เลยว่า ดูดิ่ ต่อแถวถ่ายรูปกับใครก็ไม่รู้ แค่คนคนหนึ่งใส่
หัวมิ้กกี้เม้าส์หลอกเด็ก เด็กก็ยอมต่อแถวนานมากเพื่อถ่ายรูปกัน เอาเข้ากับตัวเองเพิ่งเข้า
ใจ เด็กจิ๋วตื่นเต้นมากกับการได้ถ่ายรูปคู่กับมิ้กกี้เม้าส์ ใจจดใจจ่อ ถามตลอดว่าถึงคิวแล้ว
ยัง ที่ต่อแถวนานก็เพราะว่ามิ้กกี้ใช้เวลานานมากกับเด็กแต่ละคน พยายามมาทักทาย จุ๊บ
แก้ม แล้วแต่ละครอบครัวก็ถ่ายกันนานมาก มีถ่ายเดี่ยว ถ่ายรวม บ้านเราก็เหมือนกัน ยัง
มีถ่ายรวม 2 ครอบครัวอีก ต่อจากมิ้กกี้เม้าส์ก็เจอด่านสโนวไวท์อีก ถามเด็กจิ๋วว่าอยากจะ
ถ่ายรูปคู่ไม๊ เด็กจิ๋วก็บอกว่าอยาก ซึ่งแปลกว่าอยากจริงๆ ถ้าไม่อยากเด็กจิ๋วก็จะบอกว่าไม่
อย่างเช่น วู้ดดี้ ถามว่าอยากไม๊ ก็บอกว่าไม่อยาก เด็กจิ๋วดีใจมาก โดนสโนว์ไวท์ตัวจริงกอด
เข้าไปหนึ่งที สงสัยคิดว่าเป็นสโนวไวท์จริงๆหรือเปล่าเนี่ยะ
...เสียเวลากับการเข้าคิวถ่ายรูปไร้สาระอยู่นานมาก กว่าจะเดินมาถึง Toy Story Town เพิ่ง
เปิดใหม่ปีที่แล้ว เด็กจิ๋วเล่นสลิงกี้ด้อก เป็นนั่งตัวหมาแล้ววิ่งขึ้นๆลงๆ คล้ายๆรถไฟเหาะอ่ะ
ไม่มีความเสียวใดๆทั้งสิ้น ต่อด้วยเครื่องเล่นโดดร่ม อันนี้คนที่กลัวเป็นคุณแม่ไม่ใช่เด็กจิ๋วนะ
มีคุณแม่คนเดียวที่กรี๊ดๆตลอดเวลา เด็กจิ๋วเองพอตอนที่เก้าอี้เริ่มลอยขึ้นไป ก็ตกใจ รีบมา
เกาะแขนปะป๊าไว้ หลังจากนั้น เก้าอี้ก็จะเลื่อนขึ้นๆลงๆ ที่จริงมันก็เสียวเล็กๆนะ ไม่แน่ใจว่า
เด็กจิ๋วรู้สึกยังไง พอถามว่าสนุกไม๊ เด็กจิ๋วบอกว่า “ชอบ แต่ไม่สนุก มันรู้สึกยังไงไม่รู้”...เรา
เลยบอกว่า เนี่ยะเค้าเรียกว่า เสียว ตื่นเต้น
...คราวนี้ไม่ได้เน้นเล่นเครื่องเล่นทุกชิ้นให้ครบอยู่แล้ว เพราะหลายอย่างเด็กจิ๋วก็เล่นไม่เป็น
ที่จริงในโซนนี้จะมีเรือไวกิ้งอีก แต่ไม่ได้เล่น ออกจากเมือง Toy Story ก็ไปกินข้าวกัน เลือก
ร้านอาหารจีน อาหารอร่อยดี ค่าอาหารประมาณ 1,800 บาท
...หลังมื้อกลางวันก็ไปเล่น 4D ตอนแรกเด็กจิ๋วไม่ยอมใส่แว่น ปะป๊าต้องเอามือจับแว่นไว้
ให้ เด็กจิ๋วตลกมาก พยายามเอามือเอื้อมไปคว้าโน้นนี่ แสดงว่าดูเป็น เหมือนของลอยออก
มาจริงๆ เสร็จแล้วก็เล่น Small World, หมีพู, ช้างดัมโบ้ ที่จริงเด็กจิ๋วอยากจะเล่นม้าหมุน
มาก แต่เราแกล้งเนียนหลบหลีกบอกว่าเดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อน เพราะมันเป็นแบบธรรมดาอ่ะ
เล่นที่ไหนก็ได้ พอตอนบ่ายสามก็ไปนั่งรอชมขบวนพาเหรดกัน เด็กจิ๋วตั้งหน้าตั้งตารอเจ้า
หญิงราพันเซลมาก ตั้งแต่เข้ามาแล้ว ถามว่าจะเจอไม๊ เราก็บอกว่าไม่แน่ ต้องตามหาก่อน
น่าจะอยู่ในดีสนีย์แลนด์เนี่ยะแหล่ะ พอตอนขบวนพาเหรดมาก็มีเจ้าหญิงหลายคน แต่ไม่
มีราพันเซลเลย เสียใจด้วยนะเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วชอบใจขบวนพาเหรดมาก พยายามเอื้อมมือ
ขอไปจับมือกับตัวต่างๆ แต่ไม่มีใครมองเห็นเลย 
...ตั้งแต่มาที่ฮ่องกง เด็กจิ๋วเจออากาศหนาวคงจะสงสัย ถามโน่นนี่ เราก็เลยบอกว่า ที่นี่
เป็นประเทศฮ่องกง อากาศไม่เหมือนที่เมืองไทย มันจะหนาวๆแบบนี้แหล่ะ แต่วันนี้แดด
แรงมาก ท้องฟ้าโปร่งเชียว เด็กจิ๋วถามว่า “นี่เรายังอยู่ฮ่องกงหรือเปล่า ทำไมมันร้อนแล้ว
อ่ะ”
...ตอนนี้เด็กจิ๋วหิวมาก ต้องพาไปหาวัฟเฟิ้ลหน้ามิ้กกี้เม้าส์ให้กิน กินเสร็จก็หมดแรงสลบ
ไปทันที ที่จริงอยากจะเล่น Buz Lighyear อีกอย่างเพราะจำได้ว่าสนุก แต่ไม่สามารถละ
เวลาก็หมดเร็วมาก ตอนนี้มึดแล้ว เลยพากันกลับเลย ไม่รอดูพลุด้วย
...ออกจากดีสนีย์แลนด์ เรายังไปช้อปต่อที่ City Gate อีกแป๊บหนึ่ง แล้วถึงตามไปเจอกับ
อากงอาม่าที่บ้านโซ้ยโกว ราคาคอนโดที่นี่แพงมาก ห้อง 60 ตารางเมตรราคาประมาณ 24
ล้านบาท ถ้าจะเช่าก็เดือนละ 70,000 บาท เราร่ำลากันอยู่สักพักก็นั่งแท็กซี่กลับโรงแรม
ต้องมาจัดกระเป๋า มีของเล่นเยอะมากต้องแพ็กกันจนตีหนึ่ง ส่วนเด็กจิ๋วต้องให้เล่น iPad
ไปเรื่อยๆ กว่าจะหลับก็ตีหนึ่งเหมือนกัน เล่นจนตาแฉะเลย เล่นไป 2 ชั่วโมงได้
...วันสุดท้ายเราแวะกินติ่มซำแถวๆโรงแรม ซึ่งอร่อยมาก อร่อยกว่าร้าน michalin อีก แล้ว
ก็นั่งรถเมล์ A21 ไปสนามบิน ตอนนี้เด็กจิ๋วบอกว่า “ทำไมกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ”...นั่นไง
ไม่สบายแล้วไง เมื่อวานตอนเดินช้อปปิ้งก็บอกว่าให้ใส่แจ็คเก็ดเพราะอากาศมันหนาว แต่
เด็กจิ๋วดื้อมากไม่ยอมใส่ คุณแม่บอกว่าเหมือนปะป๊าเลย เพราะปะป๊าก็ไม่ยอมใส่ คือเวลา
ใส่แล้วตอนเดินที่ถนนก็โอเค แต่พอเข้าไปในร้านก็ร้อน ต้องถอด เดินเข้าๆออกๆก็เลยไม่ใส่
มันเลย ไม่สบายจริงๆด้วยเด็กจิ๋ว ปะป๊าเองก็เป็นเหมือนกัน คุณแม่สมน้ำหน้าใหญ่ ตอนนั่ง
เครื่องบินกลับ ระหว่างเครื่องกำลังลดระดับเพดานบินลง เด็กจิ๋วบอกว่า “ทำไมเสียงหนูเบา”
ตลกมาก มันเรียกว่าหูอื้อ ว่าแล้วเด็กจิ๋วก็ร้องโวยวาย “เจ็บหู เจ็บหู”...บอกว่าให้กลืนน้ำลาย
ก็ไม่ยอม ให้งับอากาศก็ไม่เอา คือกำลังเจ็บแล้วงอแงอาละวาดไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น ในที่สุด
ปะป๊าต้องเอาทาโร่มาเล่นเกมส์กินแบบต่างๆกับเด็กจิ๋ว ถึงได้ยอมกินแล้วอาการก็ดีขึ้น ตอน
เดินทางมาถึงกรุงเทพฯแล้ว เด็กจิ๋วถามคุณแม่ว่า “คุณแม่ พรุ่งนี้เราจะไปฮ่องกงกันอีกไม๊”
ฮ่องกงนะ ไม่ใช่ไปกันง่ายๆนะ ตลกแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น