วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

เด็กจิ๋ว@เกาะมันกลาง

...ทริปนี้คุณแม่งอแงมาก บ่นมาหลายวันก่อนเดินทางว่าไม่อยากไปไม่อยากไป เพราะ
ทรมาน อากาศร้อน รีสอร์ทไม่ไฮโซ ที่สำคัญคือแอร์เปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็ฯ ถึง 8 โมงเช้า
แต่ยังไงก็ต้องไปเพราะจองไป 5,000 บาทแล้ว ที่จริงราคาของที่นี่ไม่ค่อยแพงนะ คืนละ
3,800 บาท รวมเรือรับส่งและอาหาร 4 มื้อ แต่เด็กจิ๋วต้องเสียด้วย คิดตั้ง 2,200 บาท
รวมราคาแล้วเลยรู้สึกว่าแพงมาก ไม่ค่อยคุ้นกับการต้องเสียค่าใช้จ่ายให้เด็กจิ๋วอ่ะ
...ที่รีสอร์ทขู่ว่าวันนี้รถจะติดมากๆเพราะตรงกับเชงเม้ง เส้นทางที่เราขับรถไปต้องผ่าน
ย่านที่มีสุสานเยอะๆด้วย เลยออกกันตั้งแต่ 6.30 น. ไปถึงท่าเรือประมาณ 10 โมงกว่า
ไม่ได้แวะกินข้าวเพราะกินโน้นนี่กันมาในรถ บริเวณท่าเรือจะใช้ท่าเดียวกันกับตอนไป
เกาะมันนอกเมื่อปีที่แล้ว ตัวอออฟฟิตกับลานจอดรถก็อยู่ใกล้ๆกัน ระหว่างรอเรืออยู่ที่
ออฟฟิต เด็กจิ๋วเจอพี่คนหนึ่ง อายุ 6 ขวบ ชื่อพี่ซิดนีย์ เวลาเด็กจิ๋วเจอพี่แบบนี้ก็จะเข้า
หาทันที ไปเนียนตีซี้ชวนเค้าเล่น ตอนแรกๆพี่ซิดนีย์ก็เฉยๆ แต่พอไปอยู่กันบนเกาะแล้ว
สนิทกันเลย
...วันนี้เห็นมีแขกที่ร่วมเดินทางกับเราประมาณ 40 คน ลงเรือประมงดัดแปลงเหมือน
ของเกาะมันนอก แต่ของที่นี่ลำเล็กกว่ามากๆลงกันไปครบทุกคนนี่แทบจะไม่มีที่นั่งอ่ะ
ต้องนั่งอัดกันมาก โชคดีที่นั่งแค่ 45 นาที จากที่ฝั่งจะมองเห็นเกาะมันใน มันกลาง มัน
นอกเรียงรายกันอยู่ มันนอกจะอยู่ไกลออกไปที่สุด เรานั่งเรือมาแวะที่มันในก่อน ก็งงๆ
เพราะตามหมายกำหนดการต้องเข้าห้องพักที่มันกลางก่อนแล้วค่อยออกมาดูเต่ากัน
พอเรือจอดเสร็จก็มีคนเรือคนหนึ่งเดินนำขึ้นไปดูเต่า คนเรือคนนี้ตัวดำๆน่าเอ๋อๆหน่อย
แต่ยิ้มแฉ่งตลอดเวลา ถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบ เดินดูเต่าในบ่อๆอยู่พักหนึ่ง เด็กจิ๋วตื่น
ตาตื่นใจเหมือนกัน เพราะเพิ่งดูการ์ตูนเรื่องแซมมี่มา เป็นเรื่องราวของเต่าทะเลเหมือน
กัน เด็กจิ๋วก็ตื่นเต้นตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้ว จะได้ดูแซมมี่ตัวจริง ในบ่อเต่าจะมีหลายๆ
บ่อ แยกตามอายุเต่า บางบ่อตัวเล็ก บางบ่อตัวใหญ่ มีอยู่ประมาณ 10 บ่อ เด็กจิ๋วคง
ชอบ แต่ปะป๊ากับคุณแม่ร้อนมาก จากท่าเรือเดินมาบ่อเต่านี่ประมาณครึ่งกิโลได้ ต้อง
เดินกลางแดดเปี้ยงๆเดือนมีนา หมวกก็ไม่มีเพราะอยู่ในกระเป๋าเดินทาง แต่โชคดีที่มี
ของเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วก็ไม่ยอมเดินเองเลย ให้ปะป๊าอุ้มตลอดเวลา
...นั่งเรือต่อมาอีกนิดเดียวก็ถึงเกาะมันกลาง จะผ่านทะเลแวกของเกาะมันกลางก่อน
ซึ่งจะเดินมาเที่ยวอีกทีวันพรุ่งนี้ เรือแล่นไปจอดอยู่หน้ารีสอร์ท แต่เข้าไปที่หาดไม่ได้
ต้องนั่งเรือเล็กต่อเข้าไป ก็เหมือนกับที่มันนอก แต่อันนั้นเป็นเรือเหล็กแบบยืน ทีแรก
ก็นึกว่ามันรันทด แต่ต้องมาเจอที่นี่ก่อน รันทดหนักกว่าอีก เป็นเรือหน้าตาประหลาด
เค้าเรียกว่าเรือแตงโม เป็นเรือที่โคลงมาก ลงไปแล้วแทบจะอ้วก เพราะมันโยกซ้าย
โยกขวา หรือว่ามันกลมเหมือนแตงโม เลยกลิ้งไปกลิ้งมาในน้ำ
...ขึ้นฝั่งได้ก็เจอกับ welcome drink เป็นน้ำตะไคร้ บอกว่าเด็กจิ๋วกินไม่ได้มันเผ็ด แต่
เด็กจิ๋วดื้ออยากกิน เลยเอาให้ลองหน่อย ดันบอกว่าอร่อยอีก ไม่เห็นเผ็ดเลย จากหาด
เดินผ่านบ้านพักฝั่ง Sea View เข้าไปที่ห้องอาหาร เจอกับอาหารเป็นชุด จัดให้ตาม
โต๊ะซึ่งมีป้ายชื่อแขกแต่ละห้องวางอยู่ อาหารดี อร่อย มีกุ้งซอสมะขาม ต้มยำปลา ผัด
ผัก ไข่เจียว ที่สำคัญมีน้ำแข็งฝอย แล้วมีให้โต๊ะละกระติกเลย กินไม่อั้น อันนี้สุดยอด
...กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก ของเราอยู่ฝั่งหลังเกาะ เรียกว่าฝั่ง Beach
Front จะมีข้อดีคือลมเย็น แต่ทะเลตรงนั้นเล่นไม่ได้ มีหินเยอะแล้วก็สกปรก ส่วนอีก
ฝั่งคือด้านหน้าเรียกว่า Sea View วิวดี หาดเล่นได้ แต่ร้อนมาก ซึ่งร้อนจริงๆ ไม่มีลม
เข้าเลย แต่ละฝั่งมีข้อดีข้อเสีย ซึ่งถ้าจะให้ไปใหม่ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะอยู่
ฝั่งไหนดี แต่ที่แน่ๆ ปะป๊าเจอหนูวิ่งไปมาตอนกลางคืนที่ฝั่ง Sea View
...พอมาถึงห้องพัก ก็เจอกระเป๋าวางอยู่เรียบร้อย เปิดห้องเข้าไป รู้สึกดีมาก ห้องน้ำดี
น้ำไหลแรง (มารู้ทีหลังว่าน้ำที่ใช้บนเกาะนี่ซื้อใส่เรือมาจากฝั่ง มาถึงก็จะปั้มขึ้นไปบน
เขา แล้วปล่อยลงมาตามห้อง น้ำแรงเปิดได้ไม่อั้น ก็นับว่าใจถึงดี) สภาพห้องโอเค คือ
ว่าเพิ่งรีโนเวทใหม่ไม่นานมานี่เอง ถึงแม่ว่าตอนนี้จะยังไม่มีไฟไม่มีแอร์ แต่หน้าห้องเป็น
ระเบียงไม้ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง มีเก้าอี้นั่งเล่นได้ ลมเย็นจริงๆ  เราพากันมานั่งเล่นที่หน้า
ห้อง ให้เด็กจิ๋วเล่นเกมส์ดูการ์ตูนไป ส่วนปะป๊าก็ออกไปถ่ายรูป
...ก่อนมานี่พยายามหารีวิวหรือหารูปของที่นี่ดู แต่หายากมาก ไม่ค่อยมีคนมาหรือไง
แต่เวลาจองมาเค้าก็บอกว่าเต็มยาวนะ อย่างวันนี้ที่เรามาก็บอกว่าแขกเต็ม พอปะป๊า
ออกไปถ่ายรูปรอบๆเกาะก็รู้สึกว่าสวยมากเหมือนกัน ถ้าเทียบกันมันนอกก็ยังเป็นรอง
อยู่นิดหน่อย แต่เรื่องห้องพักกับอาหารแล้ว รวมคะแนนกันก็น่าจะสูสีกับที่มันนอก ได้
มีโอกาสคุยกับเจ้าของ เค้าบอกว่าเมื่อก่อนที่นี่เน้นกลุ่มลูกค้าโรงงาน เค้าใช้คำนี้แต่ก็
เดาว่าคงเน้นตลอดล่างนั่นแหล่ะ เมื่อก่อนชื่อระย้ารีสอร์ท แต่ตอนนี้กำลังปรับเปลี่ยน
โดยเอามันนอกเป็นต้นแบบ คือจะทำให้แข่งกับมันนอกได้ up ระดับตัวเองขึ้นมา ทำ
ห้องเพิ่ม ตกแต่งห้องเดิมใหม่หมด อย่างเรื่องน้ำ เค้าก็บอกว่าจะมาปล่อยน้ำเอื่อยๆนี่
ไม่ได้เลย จะทำให้ดีๆ
...ตอน 3 โมง เราพาเด็กจิ๋วลงเล่นน้ำกัน ที่จริงแดดยังร้อนอยู่มาก แต่ว่าบริเวณหน้า
เกาะมีร่มไม้ใหญ่มาก สามารถเล่นน้ำตอนบ่ายได้อย่างสบายเลย เด็กจิ๋วก็อยากจะ
มาเล่นจะแย่อยู่แล้ว เพราะเริ่มติดพี่ซิดนีย์แล้ว อยากจะเล่นกับพี่ ตอนแรกเด็กจิ๋วก็
กลัวปลา ไม่ยอมลงน้ำ เล่นแต่ทรายอยู่บนหาด แต่พอเห็นพี่ซิดนีย์ลงก็จะลงตามบ้าง
ที่จริงแล้วที่นี่ไม่มีปลาแบบเกาะนางยวนหรอก ทรายที่นี่ไม่ค่อยขาว ไม่นุ่ม น้ำไม่ค่อย
สะอาดไม่ใส แต่ก็พอเล่นได้ ตอนนี้เด็กจิ๋วเริ่มสนิทกับพี่ซิดนีย์แล้ว เล่นด้วยกัน เข้ากัน
ได้ดี พี่ก็นิสัยดี มากับพ่อแม่ ลุงป้า น้าอา อากงอาม่า เค้าบอกว่าเรียนอยู่สาธิตเกษตร
สอบเข้าได้เองเลย เก่งมากๆ เราเลยไปสอบถามมาหลายเรื่อง ได้ความว่าเค้าไปติว
ที่บ้านครอบครัวสาธิต เดี๋ยวเราพาจิ๋วไปบ้างดีกว่า
...ตอนเย็นพาเด็กจิ๋วไปอาบน้ำเสร็จ แอร์เปิด สวรรค์เลย แต่ตากแอร์ได้ปั๊บก็ต้องออก
ไปกินข้าวเย็นแล้ว อาหารเย็นก็ดี มีกุ้งเผา ปูเผา ปลาหมึกเผา ผัดผัก แกงส้มชะอมกุ้ง
รสชาดอร่อย พี่ซิดนีย์มานั่งเล่นไอแพ็ดกับเด็กจิ๋ว มีแย่งกันเล็กน้อย แต่โดยรวมก็เล่น
กันได้ดี เด็กจิ๋วก็ใจดี แบ่งให้พี่เล่น แบ่งหนมให้ คนอื่นๆที่ไปเที่ยวด้วยกันชมกันใหญ่
เลยว่าเด็กจิ๋วเป็นเด็กฉลาด พูดเก่ง อย่างคุณป้าเค้าแหย่เล่นเรื่องเด็กจิ๋วยังไม่โต ยัง
ใส่เป้อร์อยู่เลย เด็กจิ๋วตอบเค้าว่า “งั้นเดี๋ยวหนูไปถอดเป้อร์ออกก่อน”...ป้าเค้าชอบใจ
กันใหญ่
...ก่อนมื้ออาหารเย็น มีเจ้าหน้าที่มาตามให้ขึ้นเขาไปดูพระอาทิตย์ตก คือโปรแกรมที่
นี่มันมั่วซั่วไงไม่รู้ ไม่เห็นบอกมาก่อน อยู่ดีๆก็มาตาม ก็มีบ้านเรากับอีก 2 คน ตามกัน
ไป บางคนเค้าก็ไม่รู้ว่ามีพาไปเลยไม่ได้ไป เดินขึ้นเขาไม่โหดมาก แต่อุ้มเด็กจิ๋วเหนื่อย
เหมือนกัน วันนี้พระอาทิตย์ตกสวยมาก เห็นดวงกลมโตค่อยๆจมน้ำทะเลไปเลย เด็ก
จิ๋วไม่สนใจเล่นเกมส์ตลอดเวลา พอจะมาดูก็ไม่เห็นแล้ว พระอาทิตย์ตกไปแล้ว
...ที่เกาะนี่มีหมาเยอะมาก ประมาณ 13 ตัว เจอตลอดเวลา เพราะกระจายตัวไปตาม
จุดต่างๆของเกาะ แต่เวลากินข้าวจะมารวมตัวกัน เด็กจิ๋วก็กลัวมาก กระโดดขึ้นโต๊ะ
ไม่ยอมลง พี่ซิดนีย์ก็มาคอยไล่มาให้
...เด็กจิ๋วสนิทกับพี่ซิดนีย์มากรักกันมาก ตอนแรกๆพี่ซิดนีย์ก็วางตัว แต่พอคลุกคลีกัน
ทั้งวันก็ตามเด็กจิ๋วเหมือนกัน เวลากลับมาห้องพักก็มาเล่นที่ห้องเรา มาดูการ์ตูน เล่น
เกมส์กับเด็กจิ๋ว พอเด็กจิ๋วนอนหลับตื่นมาอีกวัน มาถามแม่ว่า “แม่ แม่ พี่... อะไรอ่ะ
ที่เล่นกับหนูเมื่อวานอ่ะ”...โห จำชื่อพี่เค้าไม่ได้ ไหนคุณครูบอกว่าความจำดีไง
...ตอนเช้าฟ้าปิด มีเมฆมาก กินอาหารเช้าตอน 8 โมงเป็นข้าวต้มปลาอย่างเดียว กับ
พวกกาแฟชงเองแล้วก็ขนมปังไส้สัปรด กินเสร็จก็เตรียมตัวขึ้นเขาอีกรอบ เมื่อวานขึ้น
ไปดูพระอาทิตย์ตก วันนี้ขึ้นไปจุดเดิมแต่ไปดูพระอาทิตย์ตอนยังไม่ตก วิวก็สวยดี คน
ละแบบกับเมื่อวาน เสร็จแล้วก็เดินต่อไปอีกไกลพอควร ไปถึงทะเลแวก จุดนี้แดดร้อน
สุดขีด คุณแม่ต้องพาเด็กจิ๋วไปนั่งแอบใต้ร่ม ที่จริงมีไปกัน 10 กว่าคน ไปแอบแดดกัน
สักครึ่ง เหลืออีกครึ่งไปเดินถ่ายรูปกัน จุดนี้สวยมากๆ เรียกว่าสวยที่สุดของเกาะมัน
กลางเลยก็ว่าได้ เสียดายที่รีสอร์ทบริหารจัดการไม่ดี น่าจะเอาจุดนี้มาเป็นจุดเด่น มี
หลายคนที่ไม่ได้เดินมากับเรา เพราะมันต้องขึ้นเขาเดินไกล เจ้าหน้าที่เตรียมอุปกรณ์
มาเจาะหอยนางรมสดๆให้พวกเรากินกันด้วย แต่บ้านเราไม่มีใครกิน
...กลับมาถึงรีสอร์ทก็รีบกลับห้องไปอาบน้ำแล้วเก็บกระเป๋า เด็กจิ๋วกับซิดนีย์ร้องจะ
เล่นน้ำอีก แต่ไม่ไหวจริงๆ อาบน้ำเสร็จก็มากินข้าวกลางวัน วันนี้ไม่ได้จัดเป็นชุดแบบ
เมื่อวาน เป็นบุฟเฟ่ต์ มีข้าวผัดปู ราดหน้าทะเล แกงจืด แล้วก็สละลอยแก้วอร่อยมาก
ปะป๊าเพิ่งเคยกินสละลอยแก้วเป็นครั้งแรก เด็กจิ๋วก็ชอบ แต่กินได้แต่น้ำ
...พอกินข้าวเสร็จ ต้องนั่งรอเรือประมาณเกือบชั่วโมง เด็กจิ๋วเริ่มอาละวาดหนัก รักษา
ภาพพจน์มาดีเยี่ยม มาเสียตอนนี้แหล่ะ สงสัยเพราะง่วงด้วย กินยากล่อมประสาทไป
ด้วย แล้วก็อากาศร้อนมาก ต้องดับร้อนด้วยการเอาน้ำแข็งให้กิน จะไม่หายก็เพราะ
ยังงี้ยแหล่ะ
...ตอนกลับบ้าน ลงเรือกันมาได้หน่อย เด็กจิ๋วก็หมดแรงหลับไปอย่างรวดเร็ว ซิดนีย์ก็
เหมือนกัน เด็กๆเลยไม่ได้บ๊ายบายกัน ได้แต่หวังว่าเด็กจิ๋วจะได้ไปเป็นรุ่นน้องพี่ซิดนีย์
ที่สาธิตเกษตร
...ตอนนั่งเรือกลับ คุณแม่ได้คุยกับน้อง 2 คน เข้าบอกว่าจะรอดูรีวิวในพันทิพนะ เรา
ก็อ้าว รู้จักเด็กจิ๋วเหรอ มิน่า ตอนอยู่บนเกาะก็แอบถ่ายรูปเด็กจิ๋วหลายที มีแอบดูแล้ว
เหมือนไปเม้าส์ๆกันด้วย แบบนี้ก็เห็นภาพอาละวาดของเด็กจิ๋วไปแล้วดิ่ จะเอาไปแฉ
ไม๊อ่ะ ต่อไปเด็กจิ๋วต้องแอ็บมากกว่านี้นะ เป็นคนของสังคมแล้วนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น