วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

@The Scenery Resort, Suan Pueng

เด็กจิ๋วไปสวนผึ้งกันมาก็หลายครั้งหลายหน แม่เองไปเที่ยวตั้งแต่สวนผึ้งยังไม่มีรีสอร์ทอะไรเลย 
จนเดี๋ยวนี้มีรีสอร์ทสวยๆ เต็มไปหมด แต่พวกเราก็ไม่เคยไปนอนสวนผึ้งกันซักที คงเป็นเพราะมันใกล้บ้านแม่ที่ราชบุรีมั้ง
แต่เห็นใครๆก็ไปนอน บวกกับเพื่อนๆที่ไป The Scenery มาก็ชมกันหนักหนา ก็เลยต้องขอลองซักครั้ง
เราจองล่วงหน้ากันหลายเดือนทีเดียว จองตั้งแต่ตุลาปี 53 มีห้องว่างตอน กุมภา 54 
เพราะบ้านที่เราจะจอง ซึ่งเป็นบ้าน 2 ห้องนอนมีอยู่หลังเดียว เลยรอนานหน่อย
(ณ ปัจจุบันนี้ทราบมาว่าทาง The Scenery ไม่ทำเป็นรีสอร์ทให้เข้าพักแล้วนะคะ จะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบ One Day Trip แทนค่ะ)

คราวนี้เด็กจิ๋วมากับครอบครัวของแม่ คนไม่เยอะเหมือนครอบครัวปะป๊าคราวที่แล้ว
ตามเด็กจิ๋วมาเลยค่า...
เราขับรถมาถึงก่อนอากงอาม่าพักใหญ่ เลยนั่งเล่นรอกันอยู่ที่ล้อบบี้
เพราะอากงอาม่ามัวแต่ไปหาลูกค้าแถวๆนั้นอยู่ คืออากงอาม่า มาสวนผึ้งกันเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว มารับงานแถวๆนั้นประจำ อากงก็เลยออกจะงงๆว่าจะพยายามมานอนที่นี่ทำไม นอนบ้านดีกว่า ??
Welcome Drink เป็นน้ำแอปเปิ้ลเย็นชื่นใจ มาในขวดเก๋ๆ น่ารักมาก
เด็กจิ๋วชอบ ดูดไปหลายอึก
อันนี้เป็นโถดอกไม้แห้งให้เราดมเพื่อเลือกกลิ่นสำหรับที่จะเอาน้ำมันหอมระเหยไปจุดในห้อง
มี Rose Mary กับ Lavender เราเลือกกลิ่น Lavender ค่ะ
ประตูที่นี่ใช้ระบบโช้คหินท่วงค่ะ เก๋ดี ประตูในบ้านก็เป็นแบบนี้หมดนะคะ
เห็นแกะตาเขียวที่ยืนอยู่หน้าต้นคริสต์มาสมั้ยคะ
เด็กจิ๋วกลัวมาก กลัวจนตัวสั่น ร้องลั่น ไม่เคยเห็นเด็กจิ๋วกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน
เด็กจิ๋วชอบแกะหัวกระดึ๊กมาก ก่อนกลับแม่เลยซื้อกลับมาให้เล่นที่บ้านด้วย
เจ้าหน้าที่เอามาให้เด็กจิ๋วเล่นใหญ่ พอติดใจ แม่ก็ต้องเสียเงินซื้อ หุหุ
ล้อบบี้ของที่นี่จะประดับไปด้วยรูปของดาราและคนดังที่เคยมาที่ The Scenery เต็มไปหมด
มี iMac ให้เล่นด้วย
ของตกแต่งเก๋ๆ แถวๆ ล้อบบี้
ระหว่างรอห้อง เจ้าหน้าที่แนะนำให้เราไปนั่งเล่นที่ลำธาร จะได้ไม่เบื่อ
ตรงนี้จะมีห้องซาวน่า และสระจากูซี่ข้างลำธาร
อาม่าอาสาพาเด็กจิ๋วลงไปเล่นชิงช้าในลำธาร
เด็กจิ๋วคึกมาก อาม่าแทบจะจับไม่อยู่เลย
เรากินกลางวันกันที่ร้านอาหารของรีสอร์ท แต่ที่นั่งในร้านเต็ม
เจ้าหน้าที่เลยให้เรานั่งกินกันที่ส่วนทานอาหารเช้าภายในรีสอร์ท
อันนี้เป็นสปาเก็ตตี้แซลมอน
ซี่โครงหมูซอสแอปเปิ้ล กับผักโขมอบชีส 
(ผักโขมอร่อยมาก เป็นแรงบันดาลใจให้ปะป๊ากลับมาทำเองที่บ้าน ตอนนี้ปะป๊าบอกว่าตัวเองทำอร่อยกว่าที่ Scenery แล้ว)
ทานกลางวันเสร็จ ห้องก็เรียบร้อยพอดี เราเดินไปห้องใกล้นิดเดียว
ผ่านเก้าอี้แดงริมสนามหญ้า สีตัดกันสวยดี
บ้านที่เราพักชื่อบ้าน Ruzi เป็นแบบสองห้องนอน
ข้อเสียของบ้านนี้คือเป็นหลังเดียวที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ
เด็กจิ๋วนอนห้องนี้
อากงอาม่าอาอี้ นอนห้องนี้
เด็กจิ๋วชอบตุ๊กตามหมีที่ประดับในห้องมาก แต่แม่ดมๆแล้ว เหมือนจะมีฝุ่น ตอนหลังเลยต้องเอาไปซ่อน
ของประดับน่ารักมีอยู่ทั่วไป
มุมนั่งเล่นดูทีวีในห้องนอนอาม่า
ความจริงมีทีวีและโซฟาให้ทั้งสองห้อง แต่ของห้องที่เด็กจิ๋วนอนไม่ได้ถ่ายมาค่ะ
ห้องน้ำค่อนข้างแคบ ถ้าเป็นบ้านอื่นๆ จะกว้างและมีอ่างน้ำสวยๆ
เราเลือกหลังนี้เพราะอาม่าอากงอยากอยู่กับเด็กจิ๋ว ไม่อยากแยกบ้านกัน
มุมมินิบาร์
อ่างน้ำปลอมๆ
โต๊ะหัวเตียงเล็กไปนิด วางของไม่ได้
ผ้าม่านเก๋มาก ใช้ตัวหนีบขึงกับลวด
โทรศัพท์แบบหมุน ไม่ได้ใช้แบบนี้มานานแล้ว
กุญแจห้อง เป็นแบบต้องใช้แม่กุญแจล๊อค
ประตูเข้าบ้าน บานนี้ไม่ใช้โช้คหินถ่วง เหมือนบานอื่นๆ
ในห้องมีต้นคริสต์มาสตกแต่ง ไม่รู้ยังไม่ได้เก็บตั้งแต่คริสต์มาสที่ผ่านมา หรือวางไว้ถาวร
มี CD เพลงแจกด้วย (เดาว่าเป็น CD เพลงนะคะ เพราะยังไม่ได้เปิดดูเลย)
หน้าบ้าน Ruzi จะมีคลองเล็กๆล้อมรอบ
อาม่ามีความสุขมาก ได้อยู่กับเด็กจิ๋วจนหายอยาก
อาคารที่เห็นลิบๆด้านหลัง คือส่วนทานอาหารเช้า
เดินเล่นรอบๆรีสอร์ทดูบ้านหลังอื่นบ้าง
สวยๆ น่าอยู่ทุกหลังเลย
ของตกแต่งเก๋ๆ
หน้าบ้านทุกหลังจะมีกล่องจดหมายที่มีชื่อบ้านอยู่ค่ะ
มีเตา BBQ ให้ทุกหลัง สามารถสั่งทางรีสอร์ทให้เตรียมของมาปิ้งได้
เดินเที่ยวรอบๆรีสอร์ทไปด้วยกันนะคะ
เจ้าหน้าที่บอกว่าวันที่เราไปพัก แขกเข้าพักเต็มนะคะ
ขนาดเป็นคืนวันอาทิตย์ ที่พักที่นี่ขายดีมาก เต็มตลอด
น่าเสียดายที่เค้าไม่เปิดให้เข้าพักค้างคืนแล้ว
กลับมาที่เก้าอี้แดงอีกรอบ สีสดใสดีจริงๆ
เย็นแล้ว เด็กจิ๋วเตรียมไปว่ายน้ำ
ขอให้ได้ลงน้ำ มีความสุขมากๆ
ทริปนี้จะมีรูปเด็กจิ๋วเยอะหน่อย ไม่ว่ากันนะคะ
งวดนี้เด็กจิ๋วรักอาม่ามาก เพราะพาลงน้ำตลอด
 โกรธอากงเพราะอากงพาขึ้นจากน้ำ
พระอาทิตย์จะตกแล้ว

ช่วงนี้เด็กจิ๋วนอนหลับอยู่ ปะป๊าก็ไปเดินถ่ายรูปรอบๆ

เย็นมากแล้ว เด็กจิ๋วไม่ตื่นซะที ปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น คืนนี้ไม่นอน เดือดร้อนกันถ้วนหน้าแน่
เลยต้องอุ้มมาถ่ายรูปทั้งยังหลับๆ
กอดหมีเน่าตัวโปรดด้วย
ตัวนี้เด็กจิ๋วรักมากมาย
บนดาดฟ้าบ้าน Ruzi
บรรยากาศยามค่ำคืน
จองที่นั่งร้านอาหาร Honey Scene ของรีสอร์ทไว้ตั้งแต่บ่าย เพราะกลัวไม่มีที่นั่งอีก
มากินกันตอน 1 ทุ่ม มืดไปนิด มองอาหารไม่ค่อยเห็น
ร้านขายของที่ระลึก Sheepie Sheep อยู่ตรงข้ามกับร้านอาหาร
ทั้งสองส่วนอยู่นอกเขตบ้านพัก คือแขกที่ไม่มาพักที่นี่ก็เข้ามาใช้บริการได้ค่ะ
ร้านอาหาร Honey Scene
บาร์เครื่องดื่ม
ก๊อกน้ำในห้องน้ำร้านอาหาร
ทางเข้าห้องน้ำร้านอาหาร สวยเชียว
อาหารที่เราสั่งไปมีอะไรบ้างก็จำไม่ได้ค่ะ
ปะป๊าถ่ายมาอย่างเดียวคือซี่โครงหมูอบ
หลายอย่างที่อยากกินก็ไม่มีของ เช่นไส้กรอกรวม ของหมดเพราะวันเสาร์-อาทิตย์แขกเยอะมาก (เราไปพักวันอาทิตย์)
บรรยากาศในร้านอาหาร
ร้านจะอยู่ติดกับสนามหญ้าที่เลี้ยงแกะ
ถ้าเป็นตอนกลางวัน ก็ทานอาหารไป ดูแกะไปได้ค่ะ

เช้าแล้ว เด็กจิ๋วตื่นมาร่าเริง
อาม่าสอนทำท่าซารางแฮโย
แขนสั้น ทำได้แค่นี้
จ้องดอกหญ้าอยู่ สักพักก็เด็ดมากินอ่ะค่ะ
เก้าอี้แดงอีกแล้ว ปะป๊าชอบมุมนี้เป็นการส่วนตัว
เปลี่ยนชุดแล้ว เตรียมไปทานอาหารเช้า
อาหารเช้าที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์ มีไม่กี่อย่าง เพราะจำนวนแขกไม่มาก บ้านพักมีแค่ไม่กี่หลัง
แต่ที่ปะป๊าชอบคือมีสเต๊กเนื้อ สเต๊กหมูด้วย
ทานข้าวเช้าเสร็จ ก็ไปถ่ายรูปกับแกะและม้า
ถ่ายกับพี่ม้าหน่อย แต่ต้องห่างๆหน่อย กลัวพี่ม้าพ่นลมใส่
รถคันนี้จอดไว้เป็น prop ให้ถ่ายรูป
ฮาโหยๆ
แกะที่นี่หน้าตาเหมือนแพะมากๆ
แม่ไม่ชอบแกะ มันเหม็น
เค้าอาบน้ำให้มันด้วยโอโม่แล้ว ก็ยังเหม็นอยู่
อันนี้น่าจะเป็นม้ารึเปล่าไม่แน่ใจ ทำไมขนมันยาวๆ


ตอนที่ไปเด็กจิ๋วยังไม่สนใจม้า แกะ เท่าไหร่
ไม่เหมือนตอนนี้ชอบดูสัตว์ต่างๆ มาก เพราะดู mv เพลง Old McDonald ประจำ
กลัวรูปปั้นแกะ กลัวกลัว..
เตรียมตัวกลับบ้านแล้ว
จบแล้วค่ะ บ้ายบายนะคะ
ทริปหน้าเด็กจิ๋วจะพาไปเที่ยวศรีพันวา ภูเก็ตค่ะ เป็นทริปที่แม่เฝ้ารอคอยเลยทีเดียว รอติดตามนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น