วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

@เศรษฐปุระ อุบลราชธานี

คราวนี้เด็กจิ๋วไป Chill Out ไกลถึงริมฝั่งโขง เป็นการเดินทางที่ไกลที่สุดในชีวิตของเด็กจิ๋วเลยที่เดียว
ก็โครงการ Thailand Boutique Hotel 2010 ชวนแม่ไปเที่ยวเพื่อช่วยรีวิวโรงแรมที่เข้ารอบ โรงแรมใกล้ๆ ก็ถูกเลือกไปหมดแล้ว มีแต่ไกลๆ แม่ก็หวั่นๆว่าเด็กจิ๋วจะนั่งรถไกลไหวมั้ย แต่ปะป๊ามั่นใจว่าลูกเราต้องชอบเที่ยวเหมือนเรา แม่เลยเลือกไปเศรษฐปุระซะเลย ชายแดนเลยนะลูก และด้วยความที่แม่เคยเห็นรีวิวจากเพื่อนๆใน BP รูปมันดึงดูดมากๆ เลยอ่ะ แม่เลยยิ่งมั่นใจว่าเราตัดสินใจไม่ผิดอ่ะ

เราออกเดินทางกันตอนเย็นวันศุกร์ ขับไปแวะไป กลัวเด็กจิ๋วนั่งรถนานจะเมื่อย 
ก็เลยต้องแวะเรื่อยๆ กินนมบ้าง เปลี่ยนผ้าอ้อมบ้าง เดินเล่นใน minimart บ้าง
ไปถึงเมืองอุบลฯ ก็ 23:30 พอดี เราแวะนอนที่โรงแรมทอแสง ซิตี้ ในเมืองอุบลฯ กันก่อนที่จะไปโขงเจียมในวันรุ่งขึ้น
เด็กจิ๋วไปถึงโรงแรมก็ตื่นทันที ทำท่าตื่นเต้นดีใจไรไม่รู้ กว่าจะนอนก็ตี 1 แม่กับปะป๊าแย่เลยอ่ะ 
ตอนเช้าก็เลยตื่นสายกันทั้งบ้านเลย


กว่าจะลงมากินอาหารเช้าได้ก็สายมากแล้ว 
อาหารเช้าที่นี่อร่อยใช้ได้ โดยเฉพาะไข่กระทะ จะเสิร์ฟมากับขนมปังไส้หมูสับผัดซอสมะเขือเทศ
ปะป๊ากินคนเดียว 4 กระทะเลย

ส่วนแม่ก็กินก๋วยจั๊บญวน 
ก็ใครๆก็บอกว่ามาอุบลต้องกิน ก็อร่อยจริงๆ
อร่อยกว่าร้านเวียดนามหลายร้านในกรุงเทพ

วันนี้คุณแม่ใจดีลองป้อนแตงโมเด็กจิ๋ว เด็กจิ๋วยังไม่มีฟัน แม่ก็ป้อนชิ้นโตหน่อย 
กะว่าอมๆ ดูดๆน้ำแล้วคายออกมาเหมือนทุกทีที่เด็กจิ๋วจะทำ เพราะถ้าป้อนชิ้นเล็กเดี๋ยวไหลลงคอ
แต่เด็กจิ๋วอ่ะ ดันพยายามกลืนลงไป แม่ตกใจหมดเลย แล้วก็เลยเป็นสภาพนี้
ปะป๊าขำหน้าเด็กจิ๋วใหญ่เลย แทนที่จะตกใจดันยกกล้องมาถ่ายรูปลูกซะงั้น

ภาพต่อไปนี้ เป็นภาพที่ไม่ควรเปิดเผยต่อสาธารณะชน ใครใจไม่แข็งพอไม่ควรดูนะคะ ข้ามๆไปเลย
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
แล้วนมที่กินเมื่อกี้ก็ออกมาหมด
ความจริงแม่ไม่อยากเอารูปนี้มาลง กลัวบางคนรับไม่ได้อ่ะค่ะ
แต่ปะป๊าบอกว่าเด็กจิ๋วอ๊อกน่ารักดี (ตรงไหนอ่ะ?) บังคับให้แม่ลงรูปนี้ให้ได้

คราวนี้เลยงานใหญ่เลย เลอะเทอะไปหมด ต้องล้างตัวใหม่ รถเข็นก็เลอะหมด
กว่าจะจัดการเด็กจิ๋วเสร็จ กว่าจะได้ออกเดินทางไปโขงเจียมก็จะเที่ยงแล้วอ่ะ
เราแวะน้ำตกสร้อยสวรรค์กันก่อน กะว่าจะพาเด็กจิ๋วมาเที่ยวน้ำตกครั้งแรกในชีวิต
เสียค่าเข้าอุทยานฯคนละ 40 บาท (น้ำตกสร้อยสวรรค์อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม)
เดินเท้ากันเข้าไปอีก 500 เมตรกว่าจะถึงทางลงน้ำตก

เตรียมพร้อมกันอย่างดี ปะป๊าลืมเอารองเท้าแตะมา ก็แวะซื้อตรงร้านค้าทางเข้าน้ำตก
แต่พอถึงทางลง แม่ก็ถอยซะงั้น ก็มันชันอ่ะ แถมคนที่เดินกลับขึ้นมา บอกว่าไม่ไกลหรอก เดินครึ่งชั่วโมงเอง
หา...ไม่ไหวอ่ะ ทางแบบนี้ แล้วแบกเด็กจิ๋วด้วย ครึ่งชั่วโมง แม่ต้องทำเด็กจิ๋วหล่นแน่เลย
แม่กับเด็กจิ๋วก็เลยไม่ไป แต่ปะป๊าไป เพราะเสียดายค่ารองเท้าแตะที่เพิ่งซื้อมา

ปะป๊าลงไปก็รีบๆถ่าย รีบกลับขึ้นมา เพราะเด็กจิ๋วนั่งรออยู่ข้างบน
ความจริงแม่กับปะป๊าเคยมาน้ำตกสร้อยสวรรค์นี่ 2 ครั้งแล้ว 
มาดูทุ่งดอกไม้จิ๋วใกล้ๆน้ำตก แต่ตอนนี้เดือนกันยายน ดอกไม้ยังไม่ออกดอก

ปะป๊าไม่ได้เดินไปตรงที่น้ำเยอะๆอ่ะ บอกว่าเดินลำบาก แล้วก็รีบกลับด้วย
เลยได้มาแค่นี้ รูปน้ำตกสร้อยสวรรค์

กว่าจะออกจากน้ำตกมาถึงเศรษฐปุระก็บ่ายสองโมงกว่าแล้ว เราเสียเวลามากตอนขาไปน้ำตก
ก็ GPS อัจฉริยะของปะป๊า ที่ชื่นชมมันหนักหนาว่าเก่ง ไปไหนมันจะพาไปได้หมด มันทำพิษอ่ะ
พาไปทางลัด ที่ไม่ใช่ถนนใหญ่ มันคงหวังดีว่าเป็นทางที่ใกล้กว่าถนนใหญ่ แต่ขอโทษ....
ทางที่ GPS มันพาไป แทบจะให้ปะป๊าขับบนคันนาอยู่แล้ว ทำความเร็วได้ 20 km/hr
ทางก็เละสุดๆ เด็กจิ๋วนั่งพยักหน้าไปตลอดทางเลย

โรงแรมเศรษฐปุระ บาย ทอแสง เป็นเจ้าของเดียวกับโรงแรมทอแสง โขงเจียมที่อยู่รั้วติดกัน
ทั้งสองโรงแรมอยู่ติดแม่น้ำโขง วิวก็แทบจะเป็นวิวเดียวกันเลย 
ตอนขับรถเข้ามาจะเจอโรงแรมทอแสงก่อน เลยเข้ามาหน่อยก็จะเห็นทางเข้าเศรษฐปุระ
เราจอดรถด้านหน้าในโรงแรม มีเจ้าหน้าที่มาคอยต้อนรับอยู่แล้ว ทุกคนยิ้มแย้มน่ารักมาก

พอเข้าประตูมา ก็จะเจอห้องโถงที่จัดแต่งไว้สวยงาม
  

ตรงนี้เป็นส่วนที่ถึงก่อน lobby นะคะ
รู้สึกว่าจะจัดแต่งแบบอินโดจีนโดยแท้ (ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม ไทย เขมร ลาว เวียดนาม)
สวยดีนะคะ สังเกตว่าจะใช้ไม้ในการตกแต่งซะส่วนใหญ่
  
เข้ามาใน lobby พนักงานก็มารอต้อนรับ พร้อมให้กรอกประวัติลงทะเบียน
แล้วก็ยกน้ำมะพร้าวมาให้ เป็น Welcome Drink ที่อร่อยมาก หวานหอมเย็นชื่นใจ
เด็กจิ๋วได้ลองชิมด้วย ชอบใจใหญ่เลย

บริเวณ lobby ก็จะตกแต่งด้วยไม้ซะส่วนใหญ่
โคมไฟรูปใบบัวที่เห็น ทำมาจากโลหะ เก๋มากๆค่ะ

ของตกแต่งใน lobby

มีมุมบาร์เล็กๆอยู่ด้วย

ตรงระเบียงของ lobby มีเก้าอี้น่านอนเอาไว้ให้นอนดูวิวแม่น้ำโขง 
แล้วก็มีหนังสือน่าอ่าน จัดวางเอาไว้ให้เยอะแยะค่ะ

ห้องที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ เป็นห้องแบบ Duplex Pool Villa
คือเป็นบ้านแบบ 2 ชั้นซึ่งจะมีเพียง 1 หลัง อีก 3 หลังเป็นห้องแบบ Pool Villa (ชั้นเดียว)
ทั้งรีสอร์ทจะมีห้องพักเพียง 4 หลังเท่านั้นค่ะ 
วันที่เราเข้าพัก มีเราแค่หลังเดียว เลยเหมือนทั้งรีสอร์ทเป็นของเราเลยค่ะ อิอิ
  
ห้อง 3008 ค่ะ Duplex Pool Villa

พวงกุญแจเป็นกระดึงกุ๊งกิ๊ง เด็กจิ๋วชอบมากค่ะ เอาไว้สั่นหลอกล่อ เวลาจะให้มองกล้องถ่ายรูป

เข้ามาในบ้านก็จะเจอกับ Welcome Fruit ที่หน้าตาดี (บางที่จะมีเงาะขนดำ กับกล้วย อันนี้มีลูกแพร แอปเปิ้ล)
Welcome Drink ที่กินไม่หมด พนักงานก็ยกมาให้ที่ห้องด้วย มีน้ำแข็งใส่กระติกวางไว้ให้เรียบร้อย
พนักงานที่คอยดูแลเราชื่อคุณช้าง ยิ้มแย้มแจ่มใส ยินดีบริการน่ารักมากค่ะ

ตรงใต้เคาท์เตอร์ทีวี จะมีตู้เย็นที่ใส่น้ำอัดลมและเบียร์เย็นฉ่ำเอาไว้ สามารถดื่มได้โดยไม่เสียเงินเพิ่มนะคะ
มีชากาแฟ แก้วน้ำ แก้วไวน์ ถ้วยกาแฟ มีด ซ้อม จัดเรียงไว้ให้พร้อม 
ที่สำคัญคือ มีน้ำดื่มให้เยอะมาก จัดเรียงไว้หลายจุดของบ้าน

มุมนั่งเล่นแบบนี้จะมีทั้งสองด้านของตัวบ้าน

  
มีหนังสือจัดเรียงไว้ให้อ่านด้วยค่ะ 
แต่ม่ะได้อ่านเลย

อาหารเช้าที่นี่จะเป็นแบบให้สั่งจากเมนู จะมีใบรายการมาให้เลือก เลือกกี่อย่างก็ได้ค่ะ
แล้วอยากทานกี่โมงก็เขียนบอกไป ตอนเช้าเค้าจะจัดโต๊ะเอาไว้ที่ระเบียงของ lobby ค่ะ
ใบสีขาวๆอ่ะค่ะ คือใบสั่งอาหารเช้า

ชามะนาวของแม่กับปะป๊า 
ของเด็กจิ๋วก็น้ำเปล่านะลูก

ออกมาดูหน้าบ้านบ้าง 
มีโซฟากลมอันใหญ่ตั้งไว้ริมสระน้ำหน้าบ้าน แม่ชอบมาก ใหญ่ดี

มีผ้าเช็ดตัวพร้อมน้ำดื่มวางเตรียมไว้ริมสระน้ำ
  
สระน้ำหน้าบ้าน สามารถเปิดจากุซซี่ได้ด้วยนะคะ

มาดูในบ้านกันต่อนะคะ 
ห้องน้ำที่นี่ใหญ่มากค่ะ ใหญ่กว่าห้องนอนที่บ้านอีก

อ่างล้างหน้าใหญ่ซะใจดีค่ะ
  
ในกล่องจะมีทิชชู สำลี ค้อตต้อนบัด หมวกอาบน้ำ แปรง+ยาสีฟันให้ค่ะ

สบู่มังคุดรูปหัวใจน่ารัก ไม่ได้ลองใช้ค่ะ
สบู่ แชมพูในขวด หอมดีค่ะ
  
มีรองเท้าฟองน้ำให้ใส่

อ่างน้ำใหญ่ดี แต่เสียเรื่องน้ำมันเบา และการปรับน้ำอุ่น มันควบคุมอุณหภูมิอยากมากๆอ่ะค่ะ
ห้องน้ำจะเป็นแบบล้อมรอบด้วยกระจกนะคะ มองเห็นส่วน shower outdoor ด้วย
ไม่มีส่วน shower indoor นะคะ ถ้าจะอาบข้างใน ต้องอาบในอ่าง

ส่วน shower outdoor

มีแชมพู สบู่ เตรียมไว้ให้อีกชุด 
ตรงนี้น้ำแรงดี อาบสบายค่ะ

ห้องน้ำชั้นบน
จะมีแต่ชักโครก และอ่างล้างหน้านะคะ ไม่มี shower

เตียงนอนอยู่ชั้นบน
  
น่านอน

ข้างบนจะมีทีวีและเครื่องเล่น DVD ให้อีกชุด 
ทั้งข้างบนและข้างล่างจะมี DVD หนังวางไว้ให้ และ CD เพลงให้เปิดฟังได้

ตรงกลางเจาะทะลุ สามารถมองเห็นด้านล่างได้ค่ะ
  
ของประดับเก๋ๆ ริมหน้าต่าง
  
กล่องใส่ของที่หัวนอน
  
หลังจากถ่ายรูปทั่วบ้านแล้ว ก็เย็นพอดี ได้เวลาอาหาร
คุณช้างจัดโต๊ะรอเราไว้ที่ระเบียงริมแม่น้ำ สวยเชียว

เด็กจิ๋วยังไม่ตื่น
  
ตื่นมาแล้วงงๆ
คุณช้างจัดเก้าอี้ไว้ให้นอนเล่นด้วย เด็กจิ๋วนั่งกินอาหารเสริมตรงนี้ 
โรแมนติกมากๆอ่ะ กินอาหารเสริมริมโขง

ปกติตรงนี้จะสามารถดูวิวพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามนะคะ
แต่วันนี้ฟ้าปิด เลยไม่ได้เห็นค่ะ

เมฆดำเต็มฟ้า
  
พอพระอาทิตย์เริ่มลับฟ้า ก็จะมียุงเยอะตามไปด้วย
เด็กจิ๋วแพ้ยุงมาก ตุ่มที่โดนกัดเมื่อหลายเดือนก่อนยังเป็นรอยไม่หายเลย
เราเลยขอย้ายเข้าไปกินในห้อง
คุณช้างก็น่ารักมาก จัดให้
  
ทางเดินกลับไปห้อง แม่บ้านมาจุดเทียนวางทั่วเลย
  
วิวแม่น้ำโขง น้ำเต็มเปี่ยมเลยค่ะ คุณช้างบอกว่าหน้าแล้งตรงกลางน้ำจะมีเกาะอยู่ด้วย
แต่ตอนนี้ไม่เห็นเลยค่ะ




   
ถ้ามาหน้าหนาว ฟ้าใส นอนชมดาวตรงนี้น่าจะดีค่ะ
  
เดินกลับมาบ้าน เจอแม่บ้านมา turndown ให้ค่ะ
เปิดไฟสระน้ำ สวยเชียว

สักพักคุณช้างก็เอาอาหารเย็นมาเสิร์ฟ
อันนี้หลนบักนัด (หลนเค็มสับปะรด) เป็นหมูสับกับสับปะรดหลนนั่นเอง อร่อยอย่างมาก..อยากกินอีกอ่า
  
สามเสี่ยว เป็นไส้กรอกอีสาน กับไก่ย่าง แล้วก็ไรไม่แน่ใจ จานนี้ไม่ชอบ
ยกให้ปะป๊าจัดการคนเดียว เรียบ..
มีอีกอย่างคือ ต้มย้ปลาจวก เป็นปลาแม่น้ำโขง รสชาติดีมาก

ของหวานเป็นกล้วยหอมทอด กับไอติมวานิลลา อร่อยอย่างมากเช่นกัน
  
กินเสร็จปะป๊าไม่มีไรทำ ไปเดินถ่ายรูปอีก 
เอาผลไม้มาลอยน้ำถ่ายรูป แทนกลีบดอกไม้ 
เอ่อ...ครีเอทมาก ปะป๊า

วันที่ไป AF Concert รอบสุดท้ายพอดี
ป๊ากับแม่นั่งดู con ส่วนเด็กจิ๋วหลับไปละ

นอนกันสบายมาก ทั้งพ่อ แม่ ลูก ตื่นสายอีกแล้ว
  
เด็กจิ๋วลั้นลา

โต๊ะอาหารเช้าวันนี้จัดเข้ามาในร่มหน่อย คุณช้างบอกว่ากลัวฝนตก
  
ดูจากขนาดโต๊ะแล้ว ไม่น่าพอวางปริมาณอาหารที่เราสั่งไปอย่างแน่นอน
  
โกโก้ปั่นของปะป๊า รสอ่อนไปหน่อย ปะป๊าไม่ชอบ ยกให้แม่ แม่ชอบเลย อร่อย
  
น้ำส้มคั้น 100% เด็กจิ๋วชิมแล้ว อร่อย...

  
สลัดกุ้งทอด

ทอแสงคลับแซนด์วิช

ก๋วยจั๊บญวนจานนี้อร่อยมากกกกเลย ว่าที่ทอแสงซิตี้เมื่อวานนี้อร่อยแล้ว อันนี้เทพกว่ามาก
แม่ติดใจขนาดกลับมากรุงเทพ ยังไปหาร้านเวียดนามกินอีก แต่ไม่ได้เลย เทียบไม่ได้อ่ะ

The B.E.C.H. (Bread Egg Cheese Ham)
  
ของหวาน ของแม่เป็นเครปเชอรี่ ของปะป๊าเป็นชอกโกแลตพุดดิ้ง
แต่แม่ชอบกล้วยหอมทอดเมื่อวานมากกว่าอ่ะ
  
เด็กจิ๋วอารมณ์ดีตลอด ได้มาเที่ยวแบบนี้

กินเสร็จแล้ว ไปนั่งเล่นริมน้ำกัน

รูปนี้อาม่ามาเห็น รีบไปซื้อ 14 กับ 41

ต้นไม้ริมน้ำที่นี่จะเยอะมาก คุณช้างบอกว่าต้นไม้บางส่วนเป็นต้นเก่าที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ จะไม่ตัดทิ้งค่ะ

ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้ว
กว่าเราจะ check out กันก็บ่ายสอง ยังไม่ค่อยอยากกลับเลย 
บ๊าย บายนะคะ คราวหน้าเด็กจิ๋วจะไปเที่ยวไกลถึงชุมพรแหนะค่ะ แล้วจะเอารูปมาฝากอีกนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น