วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

@Hua Hin ตอน สนุกกับเพื่อนๆอนุบาลต้อนรับปิดเทอมที่สวนน้ำ Black Mountain by Sony Action Cam AS100V

เมื่อปิดเทอมที่ผ่านมา เด็กจิ๋วไปเที่ยวกับเพื่อนๆอนุบาล 2 ที่หัวหินค่ะ
ความตั้งใจแรกคือแค่จะไปเล่นสวนน้ำ Black Mountain ที่ซื้อ voucher มาจากงานท่องเที่ยว
เรากะกันว่าไปเช้าเย็นกลับก็น่าจะไหว แต่ไหนๆปิดเทอมแล้ว เด็กๆอยากเล่นทะเลด้วย เลยจัดนอนด้วยกันไปซะ 1 คืน
ที่พักคราวนี้เป็นรีสอร์ทเล็กๆ น่ารักๆ แถบๆหาดเขาตะเกียบ ชื่อว่า Hotel De Paskani ค่ะ
ทริปนี้เราถ่ายคลิปเด็กๆเล่นน้ำกันซะส่วนใหญ่ เพราะกำลังเห่อกล้อง Sony Action Cam AS100V ที่เพิ่งถอยมาได้ไม่นาน
เราเลยถือโอกาสรีวิวภาพจากกล้อง Sony Action Cam ด้วยนะคะ
พร้อมแล้วไปตะลุยหัวหินกันค่ะ

เราออกจากกรุงเทพแต่เช้าตรู่ แวะทานข้าวเช้ากันที่ปั๊มแถวๆ แยกวังมะนาว แล้วมุ่งหน้า Black Mountain กันเลยค่ะ
มาถึงสวนน้ำ Black Mountain กันตั้งแต่เค้าเปิดเลย (10 โมงเช้า) 
โชว์ Voucher ที่เราซื้อมาจากงานท่องเที่ยวแล้ว ก็เข้าไปกันเลยค่ะ
(ราคา Voucher ที่เราซื้อจากงานท่องเที่ยว ผู้ใหญ่คนละ 300 บาทส่วนเด็กๆ ฟรี เพราะยังไม่เกิน 5 ขวบกันทั้งนั้นค่ะ)
วันนี้มีแต่หนุ่มๆมาเล่นน้ำกับเด็กจิ๋ว  เพราะเพื่อนสาวๆ มัวแต่ไปแวะหาของอร่อยหม่ำในเมืองเพชรกันค่ะ


พอเข้ามาก็แลกเงินกันก่อนเลยค่ะ เพราะที่นี่ห้ามนำน้ำและอาหารภายนอกเข้ามา 
ด้านในมีขายอาหาร แต่ต้องใช้ card ค่ะ ไม่รับเงินสด บูธที่แลกเงินอยู่ตรงร้านขายของข้างๆทางเข้าเลยค่ะ


เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมลงน้ำกันเสร็จก็เอาของมาเก็บใน Locker ตรงหน้าห้องน้ำค่ะ
กุญแจ locker ที่นี่เป็นสายรัดข้อมือแล้วมีตุ่มแม่เหล็ก เวลาจะเปิดตู้ก็แค่เอาตุ่มแม่เหล็กไปทาบกับที่ตู้ก็เปิดได้ สะดวกมากๆ

ห้องน้ำที่นี่สะอาด ใหญ่ดีมีหลายห้องค่ะ พูดถึงแล้วสถานที่โดยรวมของที่นี่ก็ถือว่าสะอาดเลยค่ะ


เด็กๆไม่สนมุมนี้เลยค่ะ ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งลงน้ำกันอย่างเดียว 

เปลี่ยนเสื้อผ้าได้ ก็ลุยกันเลย



ก่อนให้ดูคลิปวีดีโอ เรามาทความรู้จักกล้อง Sony Action Cam กันคร่าวๆก่อนนะคะ
แม่เด็กจิ๋วไม่ได้มีความรู้เทคนิคทางด้านกล้องมากนักค่ะ 
ตอนจะซื้อ ก็อาศัยดูรีวิวของฝรั่ง เปรียบเทียบระหว่าง GoPro และ Sony Action Cam
ที่ตัดสินใจซื้อ Sony Action Cam ก็เพราะภาพบนบกให้สีสันถูกใจกว่า และมีกันสั่น 
ส่วนภาพใต้น้ำความจริง GoPro ชนะขาดลอยค่ะ
นี่ค่ะ Sony Action Cam AS100V ของเรา
ตัวกล้องเป็น Splashproof คือกันน้ำแบบแค่น้ำกระเด็นๆมาใส่ได้ค่ะ แต่เอาลงน้ำเลยไม่ได้นะคะ จะต้องใส่ case ก่อนค่ะ
เคสแบบนี้จะมีมาใน set ตอนซื้อเลยค่ะ 

*ขอบคุณภาพจาก www.sony.co.th ค่ะ

ซึ่งเคสนี้ใส่ถ่ายใต้น้ำได้สำหรับน้ำลึกไม่เกิน 5 เมตร ฉะนั้นถ่ายกิจกรรมเด็กเล่นน้ำ ทั้งในสระและสวนน้ำแบบนี้สบายๆ
กล้อง Sony Action Cam ใช้ Micro SD Card ค่ะ เซทที่เราซื้อมามีแถมมาให้อยู่แล้ว และมีแถมแบตสำรองมาอีก 1 ก้อนค่ะ
ราคาที่ซื้อมา 3 เดือนที่แล้ว 11,900 บาทผ่อน 0% 4 เดือน ได้มาเท่านี้ค่ะ 
(ยกเว้น Case กันน้ำอันขวาสุดนะคะ อันนั้นซื้อมาต่างหากอีกประมาณ 1 พันบาท ช่วยให้ภาพใต้น้ำสวยขึ้นเยอะมากๆค่ะ)

เนื่องจากตัวเครื่องไม่มีหน้าจอให้ดู แต่เราสามารถ Load App มาใส่ที่ iPhone แล้ว Sync กับเครื่องเพื่อสั่งงานจาก iPhone และเล่น VDO ที่บันทึกไว้ได้
แต่จุดนี้ก็ไม่ค่อย work สำหรับเราเท่าไหร่ เพราะตอนลงไปเล่นถ่ายในน้ำ ก็ไม่สามารถเอา iPhone ลงไปควบคุมได้อยู่แล้ว 
ตอนถ่ายก็ไม่แน่ใจว่าภาพจะออกมาแบบไหน เพราะไม่มีจอให้ดู ไม่คุ้นอ่ะค่ะ 

จุดแรกที่จะพาไปเล่นคือส่วนของทะเลเทียมค่ะ เค้าจะเปิดคลื่นแรงๆ เหมือนทะเลนาน 10 นาที หยุดพัก 20 นาที แล้วเปิดใหม่ค่ะ
มี board ให้เอามาโต้คลื่นได้ด้วย เด็กจิ๋วสนุกมาก ณ จุดนี้ แต่คลื่นก็ค่อนข้างแรงมากจนแม่กลัวจะซัดเด็กล้ม สำลักน้ำ แต่เด็กจิ๋วก็ไม่กลัวอะไรเลย วิ่งโต้คลื่นอย่างเดียว
ถ้าพาลูกเล็กๆไปเล่น คุณพ่อคุณแม่อาจต้องดูแลใกล้ชิดนิดนึงนะคะ น้ำตื้นก็จริง แต่กลัวน้องล้มลง แล้วสำลักน้ำค่ะ


Part นี้จะเห็นว่าถ่ายเบี้ยวไปเบี้ยวมา เพราะมองไม่เห็นภาพที่ถ่าย และยังไม่คุ้นกับการถือให้ดีค่ะ บางทีถือถ่ายวิ่งตามเด็ก ก็เบี้ยวไปมาแบบนี้ค่ะ
Part 1: ทะเลเทียม 

จุดถัดมา เราจะขึ้นไปบนนี้ค่ะ นั่งห่วงยางลง Slider กันค่ะ

อุโมงค์ Slider ตรงนี้เด็กระดับเด็กจิ๋ว (4 ขวบกว่า 105 cm) เล่นได้นะคะ *แต่ต้องลงกับผู้ใหญ่*  ไม่ควรลงมาคนเดียว
เพราะยังตัวเล็ก นั่งห่วงยางเองไม่ได้ ตัวจะหลุดช่องห่วงยางค่ะ และถ้าน้องเกิดปล่อยมือจากห่วงยาง น่าจะกลิ้งแล้วเจ็บแน่ๆค่ะ

Part 2 Slider นั่งห่วงยาง

ข้อดีของ Sony อีกอย่างคือ เวลาใส่ case กันน้ำแล้ว เสียงก็ยังชัดเจนดีมาก 
(สังเกตจากเสียงกรี๊ดของแม่ในอุโมงค์ดังชัดเจนดีมาก)
ถ้าเป็น GoPro เสียงจะไม่ชัดเลย เบามาก เข้าใจว่า case คงห่อหุ้มแน่นหนามากๆ 

ต่อมาเป็น Slider แบบลงมาตัวเปล่าๆ ไม่มีอุปกรณ์ค่ะ
มีหลายแบบที่เด็กเล่นได้ คือจากในวีดีโอ จะเห็นแบบที่อันใหญ่ๆ สีเหลืองขาว อันนั้นไม่ชัน ปลอดภัย เด็กเล็กก็เล่นได้ค่ะ
ส่วนอันสีชมพู กับอันอุโมงค์เขียว เด็กต้องโตหน่อย หรือใจกล้าแบบเด็กจิ๋วอ่ะค่ะ
คนกลัวความสูงแบบแม่ ขอรอรับเด็กจิ๋วในน้ำที่ข้างล่างละกันนะคะ
**สำหรับเด็กเล็กแบบเด็กจิ๋ว การเล่น Slider ทุกอย่าง ถ้าปล่อยลงมาคนเดียวแบบนี้ ควรมีผู้ใหญ่รอด้านล่างนะคะ**
เพราะบางทีเด็กลงมาแล้วก็ลอยตัวอยู่ตรงนั้นไม่ยอมหลบออกมา คนที่เล่นต่อมาลงมาก็อาจชนกันเจ็บได้ค่ะ

Part 3: Slider แบบตัวเปล่า


อันต่อไป เป็นส่วนของผู้ใหญ่เท่านั้นค่ะ เป็น Slider แบบสูงมาก จ้างให้แม่ก็ไม่เล่นเด็ดขาด
ปะป๊าอาสาไปเล่นเพื่อถ่ายวีดีโอมาให้ดูกันค่ะ แม่กับลูกรอด้านล่างนะจ๊ะ

Part 4: Slider แบบโหด

เล่น Slider กันหลายรอบจนเหนื่อย เด็กจิ๋วปีนขึ้นบันไดไปลง Slider เกือบสิบรอบได้
คราวนี้มาลอยน้ำวนกันชิลล์ๆค่ะ

Part นี้มีถ่ายใต้น้ำด้วย จะเห็นชัดเลยว่าพอลงน้ำภาพ drop ลงเยอะมากค่ะ อันนี้เป็นข้อเสียที่สำคัญของ Sony เลย

Part 5: ลอยสระน้ำวน

จุดสุดท้ายที่จะพาไปเล่นใน Black Mountain ก็คือเครื่องเล่นเด็กชุดนี้ค่ะ
เด็กเล็กๆก็น่าจะเล่นได้ ไม่ค่อยอันตราย เด็กๆชอบตรงจุดนี้มากเหมือนกันค่ะ
(ยกเว้นเด็กจิ๋วค่ะ ชอบเล่น Slider สูงๆมากกว่า)




Part 6: เครื่องเล่นเด็ก

**ยังไงก็ตามที่นี่คือสวนน้ำ ถึงแม้จะมี guard อยู่ประจำทุกจุด พ่อแม่ก็ควรดูลูกให้ดีค่ะ เพราะเด็กเยอะ เจ้าหน้าที่อาจดูไม่ทั่วถึง ทุกจุดมีน้ำ เราปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าค่ะ**

เราเล่นกันอยู่ที่ Black Mountain กัน 2-3 ชั่วโมง ก็ออกมาแวะทานข้าวกันก่อนเข้าที่พักค่ะ
เราแวะกันที่ร้านวิไลวรรณ ร้านยอดฮิต ที่ขนาดเราไปบ่ายมากๆ แล้ว คนยังเยอะอยู่เลยค่ะ
เมนูวันนี้ที่ก็มี พิซซ่า พายเนื้อ สปาเกตตี้ และเค้กค่ะ
ร้านสวยน่านั่ง อาหารอร่อย แต่ราคาค่อนข้างสูงค่ะ





ทานมื้อบ่ายเสร็จก็เข้าที่พักแถวๆเข้าตะเกียบค่ะ
เป็นรีสอร์ทเล็กๆ น่ารัก ตกแต่งสไตล์เมดิเตอเรเนียนสีขาวฟ้า ชื่อว่า Hotel De Paskani ค่ะ




ตัวรีสอร์ทไม่ติดทะเลซะทีเดียวนะคะ ต้องเดินไป น่าจะสัก 10 ก้าวก็ถึงทะเลค่ะ (ใกล้มากๆ)
รีสอร์ทมี 10 ห้อง ล่าง 5 บน 5
คณะเราจองมา 5 ห้องชั้นบนทั้งหมด เพราะสระว่ายน้ำอยู่ชั้นบน จะได้สะดวกกับเด็กๆในการเล่นน้ำ



มาดูในห้องนอนกันบ้างนะคะ 
5 ห้องชั้นบน จะมี 4 ห้องที่เป็นเตียงใหญ่ 1 เตียง และ 1 ห้องที่เป็นเตียวเดี่ยว 2 เตียงนะคะ
รูปที่ถ่ายมาเป็นห้อง 2 เตียง ซึ่งเป็นห้องของเด็กจิ๋วเองค่ะ


ห้องสีขาว สะอาดตา ดูน่านอนมาก ห้องเตียงใหญ่ก็จัดคล้ายๆกันค่ะ



มุมตู้เย็นและมินิบาร์

ห้องน้ำก็ขาว สว่าง สะอาดตาเช่นกัน


ต่อไปเป็นภารกิจหลักของเด็กๆ คือการลงเล่นน้ำค่ะ
ช่วงบ่ายที่ไปถึง น้ำทะเลขึ้นมาสูงมากๆ และขยะค่อนข้างเยอะ ลงไม่ได้แน่นอน
ส่วนสระว่ายน้ำของโรงแรม ก็มีปัญหา ลงไม่ได้อีก  
คราวนี้เฟลกันหมดค่ะ เซ็งมากมายเลย 
แต่ทางโรงแรมก็พยายามแก้ไขปัญหา จนให้เด็กๆสามารถลงเล่นน้ำที่สระได้ค่ะ 
แถมยังทอดเฟรนช์ฟรายมาให้เด็กๆ เป็นการขออภัยในความไม่สะดวกด้วยค่ะ 
ในที่สุดก็ได้เล่นสมใจ 



Part 7: เล่นน้ำกับเพื่อนๆที่ resort

ความจริงตอนเล่นน้ำมีหลายตอนนะคะ เอามาให้ดูตอนนี้ เพราะมีภาพใต้น้ำให้ดูกันด้วย
ภาพในน้ำทั้งหมดในทริปนี้ใช้เคสเดิมๆที่มีมาพร้อมกล้องนะคะ (ตอนนั้นยังไม่มได้ซื้อเคสแบบแก้ไขเรื่องความคมชัดในน้ำค่ะ)
ใครชอบดูเด็กๆเล่นน้ำ ก็ตามไปดูที่ช่อง youtube ของเด็กจิ๋วต่อได้ค่ะ 

เช้าวันต่อมา น้ำลงไปเยอะมาก เด็กๆสามารถลงไปเดินเล่นที่หาดทรายได้แล้ว แต่ก็มีแมงกะพรุนมาเกยตื้นเยอะมากๆเช่นกัน

Part 8: เดินเล่นชายหาดยามเช้า

นอกจากเล่นสนุกกันแล้ว เด็กๆก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้รู้จักสัตว์ต่างๆ หน้าตาแปลกๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยค่ะ

Part9: สำรวจสัตว์ริมทะเล

มาถึงบทสรุปค่ะ...ทริปนี้เด็กๆสนุกสนานกันมากมาย โดยเฉพาะเด็กจิ๋ว ได้เล่นสวนน้ำ สระว่ายน้ำ และเล่นทรายกับเพื่อนๆ ครบตามที่ตั้งใจค่ะ

สวนน้ำ Black Mountain: 
-    กับราคาผู้ใหญ่ 300 บาทที่ซื้อไปจากงานท่องเที่ยว ถือว่าคุ้มมากๆ (เด็กต่ำกว่า 5 ขวบฟรีด้วยค่ะ)
-    สถานที่สะอาด กว้างขวาง เจ้าหน้าที่เยอะดี แลดูปลอดภัย
-    ตั้งอยู่ลึกไปหน่อยค่ะ ไกลจากตัวเมืองหัวหินค่อนข้างเยอะ
-อาหารในนั้นราคาสูง เราแลกบัตรซื้ออาหาร แต่ไม่ได้ใช้เลย ออกมาทานข้างนอกกันค่ะ

 Hotel De Paskani:
-    ที่พักน่ารัก สวยงาม สะอาด
-    อยู่ใกล้ทะเลมากๆ เดินนิดเดียว
-    ไม่มีอาหารเช้าให้ ต้องปั่นจักรยานไปตลาดไปหาอาหารเช้ามาให้เด็กๆกัน

กล้อง Sony Action Cam AS100V:
-    ภาพบนบกชัดเจน สีสวยถูกใจเรา มีกันสั่น
-    บันทึกเสียงได้ชัดเจนดีมาก
-    ภาพในน้ำสู้ GoPro ไม่ได้เลย (ตอนหลังมีซื้อเคสแบบแก้ไขจุดนี้มา ก็พบว่าชัดมากๆค่ะ)
-    ไม่มีจอที่ตัวเครื่อง เวลาถ่ายเรามองไม่เห็นว่าเราถือเอียงหรือเบี้ยวมั้ย
(อันนี้เป็นปัญหาส่วนตัวของแม่เด็กจิ๋ว เพราะเอาไปถ่ายดำน้ำที่เกาะไม้ท่อนมา เบี้ยวบูดหมดเลย ตั้งใจถ่ายอะไร ก็ตกขอบหมด ถ้าเป็นปะป๊าถ่าย คงไม่เป็นปัญหานี้)

ตอนนี้บ้านเราได้ย้ายค่ายมาเป็น GoPro เรียบร้อยแล้วค่ะ เหตุผลเดียวเลยที่ย้ายคือ...
GoPro 4 มีจอที่ตัวเครื่องให้ดูภาพได้ ซึ่งเหมาะมากๆกับแม่เด็กจิ๋วค่ะ ตอนนี้ไม่สนคุณภาพของภาพ หรือสีของภาพ หรือใดๆ แล้ว ขอให้ถ่ายสิ่งที่จะถ่ายให้อยู่ในเฟรมแบบเหมาะสมได้เป็นพอค่ะ

จบแล้วค่ะ มินิรีวิวทริปหัวหินกับเพื่อนๆ อนุบาล 2 ของเด็กจิ๋ว
เด็กจิ๋วและเพื่อนๆ ต้องบ้าย บายไปก่อนนะคะ
เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ ขอบคุณที่ไปเที่ยวเป็นเพื่อนกันนะคะ



วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

@ภูคำหอม เขาใหญ่

รีวิวที่แล้วพาไปทะเลกันแล้ว คราวนี้ไปภูเขาบ้างนะคะ 
เด็กจิ๋วจะพาไปแถวๆเขาใหญ่กันอีกแล้วค่ะ คราวนี้พักรีสอร์ทที่ชื่อน่ารักๆ ว่า ภูคำหอม
ภูคำหอม เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ขนาดประมาณ 20 ห้อง ตั้งอยู่โลเคชั่นที่มีวิวงามๆ 
รีสอร์ทใกล้ๆ ภูคำหอม ที่เคยเห็นรีวิวกันมาบ้าง ก็จะมีบ้านภูนรินทร์ และศาลาเขาใหญ่ (การันตีได้ว่าแถวนี้วิวงามจริงๆ)
เด็กจิ๋วเคยไปมาแล้วทั้งศาลาเขาใหญ่ และบ้านภูนรินทร์ แต่ไม่เคยรู้จักภูคำหอมมาก่อน 
ฉะนั้นก่อนไปเราค่อนข้างไม่มีข้อมูลของที่นี่มากเท่าไหร่นัก แถมยังไม่เคยเห็นรีวิวของที่นี่มาก่อนด้วย
ข้อมูลที่มีก็แค่รูปจาก website ของรีสอร์ท และพี่ที่ office เคยไปพักมาแล้ว บอกว่าอาหารอร่อยมากๆ
ภูคำหอมจะเป็นแบบไหน อาหารอร่อยจริงมั้ย ตามเด็กจิ๋วไปกันเลยค่ะ 

เรามาถึงภูคำหอมหลังฝนหยุดตกพอดี เช็คอินกันที่ Lobby กันก่อนค่ะ

Welcome Drink เป็นน้ำมัลเบอรี่ปั่น (ลูกหม่อนปั่น นั่นเองค่ะ) ที่อร่อยมากๆ 

ห้องที่เราพักวันนี้ เป็นแบบ Executive Pool Spa ค่ะ
อาคารห้องพักจะเป็นตึกสีส้มๆอันนี้ค่ะ ตึกนึงมี 2 ห้อง 
ถ้าแขกที่พักสองห้องนี้มาด้วยกัน จะสามารถเปิดใช้ห้องนั่งเล่นส่วนกลางร่วมกันได้ด้วยค่ะ

ตรงบริเวณหน้าบ้านที่เราพัก มีถนนเล็กๆ แต่ไม่อนุญาตให้ขับรถเราเข้ามานะคะ
เราต้องจอดไว้ที่ลานจอดรถด้านหน้า แล้วนั่งรถกอล์ฟเข้ามา (ความจริงเดินมาก็ได้ค่ะ เพราะไม่ได้ไกลเลย)


แค่มาถึงตรงแถวๆหน้าบ้านพักเรา ก็เห็นแล้วว่าที่นี่ต้นไม้เยอะ ร่มรื่นมาก จัดสวนสวย ดูแลต้นไม้อย่างดี
ถ่ายรูปเล่นตรงหน้าบ้านกันหน่อยค่ะ




เข้ามาดูข้างในบ้านกันค่ะ 
บ้านที่เราพักจะเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ 
ห้องนอนขนาดกำลังดี ที่ชอบคือตรงระเบียง กว้างดี มีชิงช้าให้นั่งเล่นด้วยค่ะ




โคมไฟม้าหัวเตียงนี่เด็กจิ๋วชอบมากๆ พยายามจะให้แม่หาซื้อแบบนี้เอากลับมาบ้านให้ได้

ห้องน้ำจะมีห้อง shower แยกเป็นสัดส่วน แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำ 


 มี outdoor shower ด้วย ก่อนจะอาบก็ส่องๆ ดูตามร่องไม้ก่อนค่ะ ว่าจะมีใครเผอิญเดินผ่านมาเจอเรามั้ย

แต่สำรวจดูหมดแล้วค่ะ ปลอดภัย มิดชิดดี อาบได้ค่ะ
อุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำ จะเน้นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กบ ช้าง ปลา 
(แต่กบตัวนี้หันไปเจอ สะดุ้งทุกทีเลย)

ขึ้นมาดูชั้นบนกันบ้างค่ะ
บันไดทางขึ้นอยู่ด้านในห้องนะคะ อันนี้ชอบมาก (บางที่ต้องเดินออกนอกตัวบ้านเพื่อขึ้นชั้นบน)

เปิดประตูดาดฟ้าออกมา จะเจอวิวนี้ค่ะ

มาถึง Highlight ของห้องนี้แล้วค่ะ คือที่ชั้นบน (หรือชั้นดาดฟ้า) จะมีอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่อยู่ด้วย




คือมองดูจากรูปจะเหมือนว่าอ่างจากุซซี่ธรรมดา แต่เราว่าไม่ธรรมดา เพราะมันใหญ่มาก
ลองดูเทียบกับตัวเด็กจิ๋วดูนะคะ กว้างด้วยลึกด้วยค่ะ เด็กจิ๋วดำน้ำเล่นได้เลย


วิวจากบนดาดฟ้าของบ้านสวยดีค่ะ 
มาเที่ยวหน้าฝนแบบนี้จะดีตรงที่ว่า เราจะได้เห็นธรรมชาติเขียวๆดีค่ะ
แต่ก็ต้องเสี่ยงกับฝน ถ้ามาหน้าหนาว ฟ้าใส อากาศเย็น แต่ภูเขารอบๆ สีก็จะไม่ค่อยเขียวแบบนี้แล้ว




สำรวจบ้านพักเสร็จ เด็กจิ๋วก็ร้องลงน้ำ
โซนสระว่ายน้ำเพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน ยังใหม่กิ๊กๆอยู่เลยค่ะ




ตรงสระว่ายน้ำวิวดีมากๆ


ติดใจน้ำมัลเบอรรี่ปั่น เลยสั่งมาชิมอีกแก้ว ริมสระ

แม่นอนชิลริมสระ ส่วนเด็กจิ๋วเล่นน้ำสนุกสนานมาก ตามเคย





ที่สระภูคำหอมนี่แหละ ที่เด็กจิ๋วสามารถว่ายน้ำจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งได้สำเร็จ ด้วยท่าทีคิดเอง 

เล่นน้ำเสร็จก็ขึ้นมาเติมพลังด้วยข้าวโพดต้ม อร่อยและหวานมากๆ ข้าวโพดปากช่อง 

จบจากสระว่ายน้ำ ก็มาต่อจากุซซี่น้ำอุ่นๆ กันที่ห้องค่ะ
อ่างใหญ่ขนาดนี้ เรารู้งานว่ากว่าน้ำจะเต็มนานแน่นอน เลยวางแผนเปิดไว้ก่อนไปสระใหญ่ กลับมาน้ำเต็มพอดี

เล่นกันเย็นย่ำจนรอถ่ายพระอาทิตย์ตกกันบนนี้เลย น้ำอุ่นสบาย แช่ไป ชมวิวไป กินหนมไปด้วย



จากดาดฟ้ามองทางห้องพักไปฝั่งตรงข้าม เป็นทิศตะวันตก  
คือห้องฝั่งที่เราอยู่จะได้วิวพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนห้องฝั่งตรงข้ามนี้ก็จะได้วิวพระอาทิตย์ตกเต็มๆ วิวสวยทั้งสองฝั่งเลย
ถึงจะฝนตก ฟ้าครึ้ม เมฆเยอะ แต่ก็ยังมีแสงสวยๆให้เห็น


ค่ำนี้เรากินข้าวเย็นกันที่รีสอร์ทค่ะ ได้ยินมาว่าอาหารที่นี่อร่อย 
ได้ลองแล้ว ก็อร่อยจริงๆค่ะ ผักสดมากๆ เพราะปลูกเองที่นี่
เริ่มด้วยจานนี้เลยค่ะ เหมือนเป็น Signature ของที่นี่ น้ำตกขาเห็ด อร่อยเด็ดจริงค่ะ หนึบๆเหมือนเนื้อสัตว์เลย

น้ำพริกกุ้งเสียบ อร่อยไม่แพ้ทางใต้เลย กุ้งกรอบมากๆ ที่สำคัญผักสดมากๆ

จานนี้ก็เน้นผักต่างๆหลากหลาย แกงเลียงกุ้งสด 
ปกติบ้านเราไม่ชอบกินแกงเลียง แต่จานนี้อร่อยมาก ปะป๊าซดน้ำเรียบเลย  

กุ้งผัดพริกเกลือ อันนี้เป็นเมนูใหม่ของทางรีสอร์ท รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยดีค่ะ

จานนี้ของเด็กจิ๋ว ไข่ฟู กรอบมากๆ แม่แย่งเด็กกินไปเยอะเลย

ปิดท้ายด้วยของหวานเมนูโปรดของเด็กจิ๋ว กล้วยหอมทอดกับไอศครีม
แป้งที่ห่อกล้วยหอมอร่อยมากจริงๆ บางกรอบฉ่า ราดด้วย homemade caramel 
พยายามขอแบ่งเด็กจิ๋วมาชิมได้สองชิ้น เด็กหวงมาก 

วันที่เราไป รีสอร์ทมีแขกเกือบเต็ม และแขกส่วนใหญ่ สั่ง room service กันหมดเลย 
ทำให้ที่ร้านอาหารไม่มีคน มีเรามานั่งทานที่นี่กันแค่โต๊ะเดียว

อิ่มอาหารแล้ว ปะป๊าเดินย่อย เก็บรูปรอบๆรีสอร์ทกันค่ะ
เริ่มด้วยอาคาร lobby อยู่ด้านหน้า ตรงลานจอดรถเลยค่ะ




เดินถัดมาหน่อยจะเป็นห้องประชุมสัมมนา


ตรงนี้มีจักรยานให้ขี่เล่นได้ด้วยค่ะ 

อันนี้ห้องน้ำตรงทางเข้าร้านอาหารค่ะ

เดินวนกลับมาที่ตรงหน้าห้องเรา เปิดไฟสวยงาม







กลับเข้าห้องมา มีเครื่องดื่มร้อนมาเสิร์ฟด้วย 
อันนี้เลือกไว้ว่าอยากดื่มอะไร ตั้งแต่ตอนเช็คอินค่ะ
ของแม่เป็นชาร้อน ปะป๊าเลือกเก๊กฮวยร้อน ส่วนของเด็กเป็นนมอุ่น

ตอนเช้าปะป๊าตื่นมารอพระอาทิตย์แต่เช้า
แต่ก็แห้วเพราะว่าฝนตก เสียดายมากๆ
เพราะจากตรงดาดฟ้าบ้านเรา ถ้าฟ้าใสๆ จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นงามๆเลย



พอแสงเริ่มมา ก็เห็นสายหมอกอยู่ไกลๆ ความจริงเราคาดหวังจะเห็นหมอกมากกว่านี้ แต่วันนี้มีแค่นี้เอง





บรรยากาศตอนเช้าสดชื่นมาก อากาศเย็นนิดๆ กำลังสบาย


เด็กจิ๋วตื่นแล้วเดินเล่นถ่ายรูปกันก่อน ค่อยไปหม่ำข้าวเช้ากันค่ะ





อาหารเช้าที่นี่เป็นเซ็ทค่ะ เราเลือกเอาไว้ก่อน ตั้งแต่ตอนเช็คอิน
ของแม่กับปะป๊าเป็นไข่กระทะ

เด็กจิ๋วหม่ำโจ๊ก

ปะป๊าเห็นโต๊ะข้างๆสั่งข้าวต้มกับมา หน้าตาน่าอร่อยมาก เลยขอจัดมาอีกเซ็ทค่ะ


สำหรับตรงไลน์ buffet ก็จะมีสลัดผัก ซุปเยื่อไผ่ ขนมปังหน้าหมู และผลไม้ค่ะ



อาหารเช้าอร่อยทุกอย่างเลยจริงๆ 
สลัดผักก็อร่อยมาก เพราะผักสดมากๆ และน้ำสลัดสีเขียวๆ ก็เป็นแบบ homemade อร่อยไม่เหมือนใคร 


เรามาเดินชมสวนผักกันแป๊บนึงก่อนไปทำกิจกรรมต่างๆที่ทางรีสอร์ทมีให้ค่ะ
ตรงนี้เป็นซุ้มฟักพันธุ์ต่างๆ 


ฟักข้าว (ใส่ในแกงเลียงเมื่อวาน อร่อยมาก)

ผักสดจริงๆ น่าหม่ำมาก ที่นี่เค้ามีขายผักเอากลับบ้านด้วยนะคะ




ชมสวนผักเสร็จ เราก็นั่งรถกอล์ฟไปเล่นกิจกรรมกันค่ะ
ที่บอกว่าต้องนั่งรถกอล์ฟไป เพราะบริเวณเล่นกิจกรรมจะอยู่คนละฝั่งถนนตรงขามกับตัวรีสอร์ทค่ะ
เป็นที่ดินของภูคำหอมเหมือนกัน ตรงนี้มีแอ่งน้ำใหญ่มาก เอาไว้ถีบเรือ และพายแคนูเล่นกัน


พายเรือออกไปให้อาหารปลา ปลาเยอะมากๆ

มีม้าแคระให้ขี่เล่นด้วย แต่เด็กพอขึ้นไปนั่งก็เกิดกลัวอะไรขึ้นมาไม่รู้ ร้องลั่น ไม่ยอมขี่ซะงั้น

สุดท้ายเรามายิงธนูเล่นกันค่ะ เด็กจิ๋วพยายามมาก ลองอยู่หลายครั้ง แต่ยิงได้ไกลสุดประมาณ 1 เมตร

จบจากกิจกรรมต่างๆ เด็กจิ๋วก็เล่นน้ำต่ออีกรอบ แล้วไปทัวร์ดูห้องแบบต่างๆในรีสอร์ทกันค่ะ
ห้องแบบที่อยู่ตรงข้ามห้องเรา เรียกว่า Deluxe Balcony แบบคล้ายห้องเรามาก เพียงแต่บนดาดฟ้าจะไม่มีอ่างจากุซซี่
แต่วิวบนดาดฟ้าบ้านฝั่งนี้ ก็งามมากๆ เช่นกันเห็นภูเขาเขียวๆ สบายตาจริงๆ




บันไดขึ้นดาดฟ้าของห้องนี้อยู่ด้านนอกนะคะ ขึ้นจากตรงระเบียง



ห้องอีกแบบที่เราไปสำรวจกัน เป็นห้องโซนใหม่ล่าสุด ชื่อว่า Deluxe Bathtub



โซนนี้จะค่อนข้างสงบ เป็นส่วนตัวมากๆ 


จุดเด่นคืออ่างอาบน้ำชมวิวค่ะ เปิดเผยมากๆเลย

แต่ถ้ามากันหลายคน ไม่ได้มาเป็นครอบครัว หรือคู่รัก แนะนำใส่ชุดว่ายน้ำลงแช่ดีกว่านะคะ 
เพราะมองจากบนบันไดขึ้นดาดฟ้าตรงนี้ ก็จะมองเห็นอ่างเลยค่ะ

ทัวร์รีสอร์ทเสร็จ ก็ได้เวลาเช็คเอาท์พอดี

สรุปจบทริปนี้ด้วยความประทับใจจริงๆ 
ทุกอย่างเกินความคาดหวัง ทั้งวิว ที่พัก และอาหาร 
ขอขอบคุณภูคำหอมที่ชวนเราไปเที่ยว เปิดโอกาสให้เราได้มีความสุขในวันสุดสัปดาห์เพิ่มขึ้น
(วิวงามๆ ข้างทางช่วงออกมาจากภูคำหอม ก่อนถึงเขาใหญ่)


เด็กจิ๋วต้องบ้าย บายไปก่อนนะคะ
เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ ขอบคุณที่ไปเที่ยวเป็นเพื่อนกันนะคะ